ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sasiriya, 22 พฤษภาคม 2008.

  1. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ขอเป็นสมาชิกด้วยคนนะคะ
     
  2. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,601
    ค่าพลัง:
    +21,774
    ยินดีต้อนรับคุณ peerakul ครับ
    พวกเราส่วนมากคุยกันอยู่อีกเรือนครับ รองแวะเข้าไปดูซิครับ คุณศศิคุณน้องอภิญญาเละพี่ๆ(ยายดีๆอุ้ยขอโทษครับพี่ดีดี)น้องๆทุกคนในเรือนเล็กใจดีและน่ารักกันทุกคนเลยครับ
    ทางเข้าหน้าเรือน ปาฏิหาริย์ แรงบุญ-แรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง :: ศศิริยะ
    ทางเข้าหลังเรือน....ศศิริยะดอทคอม

     
  3. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    ธรรมะ อันเป็นเครื่องออกจากทุกข์

    [​IMG]


    ความหมายของขันธ์แต่ละอย่าง

    ปัญหา คำว่า รูป... เวทนา... สัญญา... สังขาร... วิญญาณ แต่ละอย่างมีความหมายอย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอะไรจึงเรียกว่ารูป เพราะกระทบกระทั่ง (คำบาลีว่า รุปฺปติ อรรถกถาแปลไว้หลายอย่าง เช่น เบียดเบียน กระทบ กดขี่ ทำลาย หรือแตกสลาย ใน ตท. แปลไว้ว่า สลายไป) จึงเรียกว่ารูป กระทบกระทั่งกับอะไร กระทบกระทั่งกับหนาวบ้าง ร้อนบ้าง หิวบ้าง กระหายบ้าง เพราะสัมผัสแหงเหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลานบ้าง
    “เพราะอะไรจึงเรียกว่า เวทนา เพราะรู้สึกอะไร รู้สึกเป็นสุขบ้าง รู้สึกเป็นทุกข์บ้าง รู้สึกกลาง ๆ ไม่ทุกข์ไม่สุขบ้าง
    “เพราะอะไรจึงเรียกว่า สัญญา เพราะจำได้หมายรู้ จึงเรียกว่าสัญญา จำได้หมายรู้อะไร จำได้หมายรู้สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง
    “เพราะอะไรจึงเรียกว่า สังขาร เพราะปรุงแต่ง สังขตธรรม จึงเรียกว่าสังขาร ปรุงแต่งสังขตธรรมคืออะไร ปรุงแต่งสังขตธรรมคือ รูป... เวทนา... สัญญา... สังขาร... วิญญาณ
    “เพราะอะไรจึงเรียกว่า วิญญาณ เพราะรับรู้ (ตท. แปลว่า รู้แจ้ง) จึงเรียกว่าวิญญาณ รับรู้อะไร รับรู้รสเปรี้ยวบ้าง รสขมบ้าง รสเผ็ดบ้าง รสหวานบ้าง รสขื่นบ้าง รสไม่ขื่นบ้าง รสเค็มบ้าง รสไม่เค็มบ้าง”


    เหตุให้ขันธ์ ๕ เป็นไตรลักษณ์

    ปัญหา ทำไมขันธ์ ๕เป็นไตรลักษณ์

    พุทธดำรัสตอบ "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูป... เวทนา... สัญญา... สังขาร... วิญญาณ ไม่เที่ยง... เป็นทุกข์...เป็นอนัตตา
    แม้เหตุปัจจัยที่ให้รูป (เป็นต้นนั้น) เกิดขึ้นก็ไม่เที่ยง... เป็นทุกข์...เป็นอนัตตา รูป(เป็นต้น) ที่เกิดจากสิ่งที่ไม่เที่ยง...เป็นทุกข์...เป็นอนัตตา ที่ไหนจักเที่ยง...เป็นสุข...เป็นอัตตาเล่า ?"


    คนที่เหมาะสมต่อการสิ้นทุกข์

    ปัญหา บุคคลควรปฏิบัติต่อขันธ์ ๕ อย่างไร จึงจะสิ้นทุกข์ได้ ?

    พุทธดำรัสตอบ "ดูก่อนภิกษุทั้งหลายบุคคลที่ไม่รู้จริง ไม่รู้ทั่วถึง ไม่เบื่อหน่าย ไม่สละเสียซึ่ง รูป... เวทนา... สัญญา... สังขาร... วิญญาณ จัดเป็นคนอาภัพต่อการสิ้นทุกข์
    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลที่รู้จริง รู้ทั่วถึงเบื่อหน่ายและสละเสียซึ่ง รูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร...วิญญาณจึงเป็นผู้เหมาะสมต่อความสิ้นทุกข์"


    วิธีดับขันธ์ ๕

    ปัญหา บุคคลจะดับขันธ์ ๕ ได้อย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละความใคร่ ความพอใจ ในรูป... ในเวทนา... ในสัญญา... ในสังขาร... ในวิญญาณเสีย เมื่อเป็นเช่นนี้รูป (เป็นต้นนั้น) ก็จะเป็นอันถูกละ ถูกตัดราก เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ถูกทำให้เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ไม่มีการเกิดขึ้นอีกเป็นธรรมดา..."<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    ขันธ์ตนกับขันธ์คนอื่น

    ปัญหา บุคคลควรพิจารณาเปรียบเทียบขันธ์ ๕ ของตนกับขันธ์๕ ของคนอื่นหรือไม่ ?

    พุทธดำรัสตอบ "ดูก่อนโสณะก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ย่อมพิจารณาเห็นว่า เราประเสริฐกว่าเขา...เราเท่าเทียมกับเขา...เราเลวกว่าเขา โดยรูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร...วิญญาณ อันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดาที่เป็นดังนี้มิใช่อื่นไกล นอกจากการไม่เห็นธรรมตามความเป็นจริง
    "ดูก่อนโสณะ ก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ย่อมไม่พิจารณาเห็นว่า เราประเสริฐกว่าเขา...เราเท่าเทียมกับเขา...เราเลวกว่าเขา โดยรูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร...วิญญาณ อันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ที่เป็นดังนี้มิใช่อื่นไกล นอกจากการเห็นธรรมตามความเป็นจริง..."


    ความหมายของอนัตตา

    ปัญหา คำว่า 'อนัตตา' มีความหมายว่าอย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร...วิญญาณ เป็นอนัตตา (ไม่ใช่ตัวตนอันเป็นอมตภาพตามทัศนะของฮินดู) ถ้าหากว่า...จักเป็นอัตตาไซร้ รูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร...วิญญาณ นี้คงไม่เป็นไปเพื่ออาพาธทั้งยังจะได้ตามความปรารถนาในรูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร...วิญญาณ ว่า ขอรูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร วิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ก็เพราะเหตุที่ รูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร...วิญญาณเป็นอนัตตา ฉะนั้น...จึงเป็นเพื่ออาพาธ และไม่ได้ตามความปรารถนา..."


    คิดถึงอะไร เป็นสิ่งนั้น

    ปัญหา ภิกษุรูปหนึ่งไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ขอให้พระองค์ทรงแสดงธรรมโปรดโดยย่อ เพื่อจักได้นำไปปฏิบัติต่อไป พระโอวาทย่อว่าอย่างไร

    พุทธดำรัสตอบ "ดูก่อนภิกษุบุคคลย่อมครุ่นคิดในสิ่งใด
    ย่อมเข้าไปมีส่วนเป็นสิ่งนั้น บุคคลย่อมไม่ครุ่นคิดถึงสิ่งใด ย่อมไม่เข้าไปมีส่วนในสิ่งนั้น...
    ถ้าบุคคลครุ่นคิดถึงรูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร...วิญญาณ ย่อมเข้าไปมีส่วน เป็นรูป...เวทนา...สัญญา...สังขาร...วิญญาณนั้น ถ้าไม่ครุ่นคิดถึงรูป (เป็นต้น) นั้น ก็ไม่เข้าไปมีส่วนเป็นรูป (เป็นต้นนั้น)"

    เกิดมีตน ก็เกิดมีทุกข์

    ปัญหา ความเห็นว่าขันธ์ ๕ เป็นตัวตน เกิดขึ้นได้อย่างไร ? และจะดับได้อย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้มิได้เรียนรู้แล้ว ในโลกนี้ ย่อมเข้าในรูป.... เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ ว่าเป็นต้น ย่อมเห็นตนว่ามีรูป (เป็นต้น) ย่อมเห็นรูป (เป็นต้น) ในตน ย่อมเห็นตนในรูป (เป็นต้น).... นี้เรียกว่าทางดำเนินอันจะให้เกิดความเห็นว่ามีตัวตน... อันจะยังสัตว์ให้ถึงความเกิดขึ้นแห่งทุกข์
    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในโลกนี้ ได้เรียนรู้แล้ว ย่อมไม่เข้าใจ
    รูป.... เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ ว่าเป็นตน ย่อมไม่เข้าใจว่าตนมีรูป (เป็นต้น) ย่อมไม่เข้าใจว่ารูป (เป็นต้น) มีในตน ย่อมไม่เข้าใจว่าตนในรูป (เป็นต้น).....นี้เรียกว่าทางดำเนินอันจะยังสัตว์ให้เกิดความดับตัวตน... เรียกว่าการพิจารณาเห็นอันจะยังสัตว์ให้ถึงความดับทุกข์<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    ขันธ์ ๕ เหมือนใบไม้นอกตัวเรา

    ปัญหา การถือขันธ์ ๕ ว่าเป็นของตน เป็นการถูกต้องหรือไม่ ?

    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่ใช่ของท่านทั้งหลายจงละสิ่งนั้นเสีย เพื่อละได้แล้วจักเป็นเพื่อประโยชน์เกื้อกูล และความสุข.... ก็อะไรเล่าไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย ? รูปไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ ไม่ใช่ของท่านทั้งหลาย
    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนชนพึงเก็บเอาไป หรือเผาไฟ หรือกระทำตามที่เห็นเหมาะสมซึ่งหญ้า ไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ในพระเชตวันนั้น ท่านควรคิดว่า ฝูงชนเอาไปหรือเผา หรือกระทำตามที่เห็นเหมาะสม ซึ่งเราทั้งหลายกระนั้นหรือ ?
    “ภิกษุทั้งหลายทูลตอบว่า หามิได้พระเจ้าข้า
    “พระพุทธองค์ตรัสถามว่า ข้อนั้นเพราะเหตุไร
    “ภิกษุทั้งหลายทูลตอบว่า เพราะสิ่งนั้นไม่ใช่เราหรือ นับเนื่องด้วยเรา
    “อย่างนี้แล ภิกษุทั้งหลาย รูป.... เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ ไม่ใช่ของท่าน จงละเสีย เมื่อละได้แล้วจักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุข”


    เหตุเกิดและดับแห่งขันธ์ ๕

    ปัญหา พระพุทธพจน์ที่ว่า ภิกษุมีจิตเป็นสมาธิแล้วย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริง หมายความว่ารู้อะไร ?

    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมรู้ชัดซึ่งความเกิดและความดับแห่งรูป...เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ
    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเป็นความจริงแห่งรูป...เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ ?
    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลในโลกนี้ย่อมเพลิดเพลินหลงใหล ดื่มด่ำอยู่ในรูป...เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ เมื่อเพลิดเพลินหลงใหล ดื่มด่ำอยู่ในรูป (เป็นต้น) ความยินดีพอใจก็เกิดขึ้น ความยินดีพอใจในรูป (เป็นต้นนั้น) เป็นอุปาทาน เพราะอุปาทานของบุคคลนั้นเป็นปัจจัย จึงมีภพ เพระภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ เพราะชาติเป็นปัจจัยจึงมีความแก่ ความตาย ความโศก ความคร่ำครวญ ความทุกข์ ความขัดเคือง ความตรอมตรมใจ ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวล ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้
    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเป็นความดับแห่งรูป...เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ ?
    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมไม่เพลิดเพลิน ไม่หลงใหล ไม่ดื่มด่ำใน รูป(เป็นต้น) เมื่อเธอไม่เพลิดเพลิน ไม่หลงใหล....... ความยินดีในรูป(เป็นต้นนั้น) ย่อมดับไป เพราะความยินดีของภิกษุนั้นดับไป อุปาทานจึงดับ เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ เพราะภพดับ ชาติจึงดับ เพราะชาติดับ ความแก่ ความตาย ความโศก ความคร่ำครวญ... จึงดับไป ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวล ย่อมมีด้วยประการฉะนี้”


    ทุกข์เกิดจากยึดถือขันธ์ ๕ เป็นต้น

    ปัญหา ความยึดถือขันธ์ ๕ เป็นอัตตา ก่อให้เกิดทุกข์อย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้มิได้เรียนรู้ในโลกนี้มิได้เห็นพระอริยเจ้า ไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยะ ย่อมเห็นรูป...เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ ว่าเป็นตน ย่อมเห็นตนมีรูป...เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ ย่อมเห็นรูป (เป็นต้น) ในตน ย่อมเห็นตนในรูป (เป็นต้น) รูป...เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณของเขานั้นย่อมแปรปรวนไป ย่อมเป็นอย่างอื่นไป เพราะเหตุที่รูป (เป็นต้น) ของเขาแปรปรวนและเป็นอย่างอื่นไป วิญญาณ(จิต) ของเขาจึงพลอยผันแปรไปตามความผันแปรแห่งรูป (เป็นต้นนั้น) ความสะดุ้งและความทุกข์อันเกิดแต่ความหมุนเวียนเปลี่ยนแปรแห่งรูป (เป็นต้น) ย่อมเข้าครอบงำจิตของปุถุชนนั้น เพราะจิตถูกครอบงำ ปุถุชนนั้นย่อมมีความหวาดเสียว มีความลำบากใจ มีความห่วงใย และความสะดุ้งอยู่ เพราะความถือมั่น... ความสะดุ้งและความถือมั่นย่อมมีอย่างนี้แล....”


    วิญญาณอาศัยขันธ์ ๕

    ปัญหา วิญญาณจะมีอยู่โดยไม่ต้องอาศัยขันธ์ ๕ ได้หรือไม่ ?

    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วิญญาณที่เข้ายึดรูป พึงดำรงอยู่ได้ วิญญาณที่มีรูปเป็นอารมณ์ มีรูปเป็นที่ตั้ง เข้าไปซ่องเสพด้วยความยินดี พึงถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์... วิญญาณที่เข้ายึดเวทนา... สัญญา.... สังขาร...พึงดำรงคงอยู่ได้ วิญญาณที่มี รูป.... เวทนา...สัญญา... สังขาร...เป็นอารมณ์ มี รูป.... เวทนา...สัญญา... สังขาร... เป็นที่ตั้ง เข้าไปซ่องเสพ (รูป เวทนา สัญญา สังขาร ) ด้วยความยินดี พึงถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์
    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่าเราจักบัญญัติการมา การไป การจุติ การอุปบัติ หรือความเจริญงอกงามไพบูลย์แห่งวิญญาณ โดยไม่ต้องอาศัยรูป เวทนา สัญญา สังขารดังนี้ ข้อนี้ไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นไปได้

    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุละราคะในรูปธาตุ เวทนาธาตุ สัญญาธาตุ สังขารธาตุ วิญาณธาตุได้แล้ว อารมณ์ (แห่งวิญญาณ) ก็เป็นอันตัดขาดเพราะละราคะนั้นได้ ที่ตั้งแห่งวิญญาณย่อมไม่มี วิญญาณที่ไม่มีที่ตั้งย่อมไม่งอกงาม ไม่สร้างต่อ (อนภิสงฺขจฺจ) ย่อมหลุดพ้น เพราะหลุดพ้นจึงตั้งมั่นเพราะตั้งมั่นจึงอิ่มเอิบ (สนฺตุสิตํ) เพราะอิ่มเอิบจึงไม่สะดุ้ง เมื่อไม่สะดุ้งจึงดับเย็นสนิทเฉพาะตน ภิกษุนั้นย่อมทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ครบถ้วนแล้ว กิจที่ควรทำได้เสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อให้เกิดผลเช่นนี้ไม่มีอีกแล้ว” ​

    ที่มา สารบัญ พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ 84000.org

    <!-- google_ad_section_end -->​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2010
  6. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    ไม่ได้เข้ามาทักทายทุกท่านที่นี่เสียนาน
    มัวแต่ตอบสนทนากับกัลญาณมิตรที่เรือนเล็กทุกวัน ไม่มีเวลาแว๊ปมาที่นี่เลย
    ว่างก้เชิญไปที่นั่นได้นะคะแฟนคลับและกัลยาณมิตรทุกท่าน
    ตามลิ้งค์ด้านล่างค่ะ ศิจะอยู่ที่หลังเรือนนะคะทุกวันค่ะ



    ทางเข้าหน้าเรือน ปาฏิหาริย์ แรงบุญ-แรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง :: ศศิริยะ
    ทางเข้าหลังเรือน....ศศิริยะดอทคอม

     
  7. jaack

    jaack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +551
    เข้าหลังเรือนไม่ได้ครับ ลองหลายครั้งแล้ว
    สงสัยบุญยังไม่จัดสรร
     
  8. chantima

    chantima เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    747
    ค่าพลัง:
    +407
    คุณjaackลองคลิ๊กเข้าไปตามลิ้งค์ที่คุณศิแปะไว้ให้สิคะหรือไม่ก็เข้าไปที่www.sasiriya.comนะคะ
     
  9. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    ต้องเข้าได้สิครับคุณแจ็ค ลองดูใหม่นะครับ

    หลังเรือน www.sasiriya.com/forum

    ท่านใดก็ตามที่สมัครสมาชิกเว็บพลังจิต ใช้นามแฝงอะไร
    ถ้าจะเข้าไปสมัครสมาชิกที่นั่น (www.sasiriya.com/forum )
    ก็ให้ใช้นามแฝงอันเดียวกับที่ใช้ในเว็บพลังจิตนี้นะครับ

    ถ้าสมัครเป็นสมาชิกแล้ว แต่ไม่ได้เข้าไปพูดคุยอะไร
    ก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร เท่าไหร่นะครับ

    อยากจะบอกว่า ใครที่ชอบกระทู้นี้ ติดตามกระทู้นี้
    จะเป็นสมาชิก หรือบุคคลทั่วไปก็ตาม
    อยากให้ได้เข้าไปสมัครสมาชิก และเข้าไปพูดคุยกันที่นั้นนะครับ (www.sasiriya.com/forum )

    ถ้าไม่อย่างนั้นน่าเสียดายมากเลยนะครับ


    พูดจริงๆ ไม่ได้โม้ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2010
  10. S983

    S983 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    45
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +121
    ตอนนี้แม่เรือนออนไลน์ คุยธรรมะ และสนทนากับพี่น้องในเรือนได้ที่หลังเล็กนะครับ
     
  11. jaack

    jaack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +551
    เย้ สมัครผ่านแล้วครับ ที่แล้วมาติดจุดเดียวคือ

    You did not answer the verification questions correctly.

    คือใส่ืชื่อคุุณศศิริยะเป็นภาษาอักกฤษ เจ้าโปรแกรมมันไม่อธิบายให้เข้าใจ
    (โง่เอง)ก็เลยเข้าไม่ได้ซักที หลักจากแก้ชื่อเป็นภาษาไทยแล้วก็แก้อีกเกือบสิบครั้งได้
    เฮ้อ
     
  12. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,601
    ค่าพลัง:
    +21,774
    มาต้อนรับเข้าเรือนและขอแสดงความยินดีด้วยครับ
    ส่วนมากกัลยาณมิตรคุยกันอยู่หลังเล็กครับ
    http://www.sasiriya.com/forum/index.php
     
  13. pazta

    pazta Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +41
    ซื้อหนังสือของคุณศศิริยะมาอ่านนานแล้วค่ะ ชอบมากๆเลยบางเรื่องอ่านไปก็มาเอะใจว่าเราเคยเจอมาก่อนรึเปล่าเป็นหนังสือเล่มที่สองที่ทำให้เราอยากจะมาลองปฏิบัติธรรมดูต่อจากหนังสือของหลวงปู่เณรคำ เป็นหนังสืออีกเล่มที่เป็นแรงบันดาลใจค่ะ
     
  14. S983

    S983 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    45
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +121
  15. อ้างว้าง

    อ้างว้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +577
    เรือนน่าอยู่ครับ..
     
  16. S983

    S983 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    45
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +121
    สวัสดีครับคุณ pazta
    สมัครสมาชิกเรือนเล็กหรือยังครับ
    :cool::cool::cool:
     
  17. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    นานๆมาบ้านนี้
    เงียบไปนะ
     
  18. โต๊ะมุก

    โต๊ะมุก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +4
    สวัสดีค่ะคุณศศิริยา ได้อ่านหนังสือ"ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง" ทำให้อยากทราบว่าตัวเองและลูกมีกรรมมากแค่ไหน ไม่ทราบว่าพอจะมีโอกาศได้พบคุณและลูกสาวบางมั๊ยค่ะ อยากขอความกรุณาให็พบด้วยนะคะ กรุณาตอบผ่านเมล์ที่แจ้งมาก็ได้นะคะ ขอบพระคุณอย่างยิ่งคะ k.took@hotmail.com
     
  19. chantima

    chantima เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    747
    ค่าพลัง:
    +407
    คุณโต๊ะมุกคะ ตอนนี้คุณศิกับคุณน้องอภิญญายังไม่สามารถดูกรรมเป็นรายบุคคลให้กับใครได้
    ด้วยเหตุผลอะไรนั้น ขอเชิญเข้ามาสนทนากันที่เรือนหลังเล็กนะคะ พวกเราเรียกว่าเรือนพญานาค ณ เรือนพญานาค คุณศิจะเข้ามาสนทนาทุกวันในส่วนที่เรียกว่าชานเรือนพญานาค
    ห้องกลับเรือน คุณโต๊ะมุกเข้าไปที่ www.sasiriya.comนะคะ สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกในเรือนสิค่ะ ความทุกข์ใจในเบื้องต้นอาจจะบรรเทาลง หลังจากที่คุณได้สนทนากับแม่เรือน
     
  20. S983

    S983 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    45
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +121
    นำเพลงเพราะๆมาฝากครับ

    เพราะมากๆครับของคุณโจโฉ ฟังแล้วปิติสุขมากๆเลยครับ


    อนุโมทนากับคุณโจโฉด้วยนะครับ
    ที่มา:
    www.jozho.net
    CD เสียงอ่านหนังสือหลวงตาวัดป่าบ้านตาด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...