ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

จีน-น้ำท่วม ยอดตายพุ่ง 130 คน​

​

สถานการณ์น้ำท่วมที่ประเทศจีนยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเกิน 130 คน

อุทกภัยครั้งร้ายแรงในพื้นที่ 9 มณฑลทางภาคใต้ของจีน คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 132 คน สูญหาย 86 คน อีก 860,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ในที่ปลอดภัย ขณะที่จำนวนมากที่ต้องหลบภัยอยู่ตามต้นไม้และหลังคาบ้านเพื่อรอความช่วยเหลือจากทางการ

นับจากที่ฝนกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน เป็นต้นมา ทำให้เกิดน้ำท่วมและแผ่นดินถล่ม มีประชาชนได้รับผลกระทบจากอุกภัยไปแล้ว 10 ล้านคน ทั้งที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ถนนหนทางเสียหายหนักจากกระแสน้ำและต้องสูญเสียทรัพย์สินโดยเฉพาะอาคารบ้านเรือนที่ถูกทำลายหลายพันหลัง ขณะที่ตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจพุ่งสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำสายสำคัญรวมทั้งแม่น้ำไข่มุกที่ไหลผ่านพื้นที่อุตสาหกรรมในมณฑลกวางตุ้งได้เพิ่มสูงเกินระดับความปลอดภัยแล้ว

อุทกภัยครั้งร้ายแรงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่หลายจังหวัดในภาคใต้ของจีนต้องเผชิญกับภาวะแห้งแล้งครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบศตวรรษ ที่ทำให้ประชาชนหลายล้านคนไม่มีน้ำดื่ม พื้นที่การเกษตรถูกทำลายไป 30 ล้านไร่

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

ขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมกันนำเรื่องควรรู้มาให้ศึกษากัน
ขออนุโมทนาครับ

 

อืม...... เดือนมิย.53 เดือนเดียวไหวในไทยไปสิบครั้งหรือยังเนี่ย ตะหงิด ๆ ว่า แถวลาว ไหงแอคทีฟ ได้หว่า... ฮ่วย.. เป็นงงแท้....

 

ระบบพยากรณ์สึนามิใหม่ คาดหมายได้แม่นยำและเตือนผิดให้น้อยลง
​

​

องค์การอวกาศสหรัฐฯแจ้งว่า คณะวิจัยกำลังทดสอบระบบพยากรณ์สึนามิ ซึ่งถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น

โฆษกองค์การกล่าวว่า ทีมนักวิจัยของแผนกขับเคลื่อนไอพ่น สามารถพยากรณ์ขนาดของสึนามิ ซึ่งเกิดจากแผ่นดินไหวที่ชิลี ขนาดความแรง 8.8 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่แล้วได้ถูกต้อง

ระบบพยากรณ์ใช้ขอบข่ายการหาพิกัดบนพื้นโลกขององค์การ ได้พยากรณ์ไว้ว่า เป็นการเกิดสึนามิขนาดปานกลาง และไม่น่าจะก่อความเสียหายในอาณาบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกขึ้นรุนแรงเป็นพิเศษ

หัวหน้าทีม นายวาย โทนี ซุง กล่าวว่า ระบบจะช่วยให้หน่วยงานฉุกเฉินต่างๆ ออกคำเตือนได้แม่นยำขึ้น และลดการแจ้งเตือนผิดๆให้น้อยลง

เครือข่ายหาพิกัดบนพื้นโลกของระบบ จะรวบรวมข้อมูลจากหน่วยหาพิกัดแห่งต่างๆ ที่มีอยู่เรือนร้อยและของท้องถิ่น เพื่อหาพิกัดอยู่ทุกนาที และคอยตรวจสอบความเคลื่อนไหวของพื้นดิน แม้จะมีขนาดเล็กเพียงแค่สองสามเซนติเมตรเท่านั้น.

ที่่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

หวั่นผลกระทบการสร้างเขื่อนไซยะบุรีกั้นโขง

หลังจากเกิดวิกฤตแม่น้ำโขงแห้งผิดปกติมากกว่าทุกปี ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นผลมาจากการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในประเทศจีน และปัจจุบันมีโครงการสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำโขงอีก 12 แห่งในเขตชายแดนไทย-ลาว ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และกัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในแต่ละประเทศอย่างเชื่อมโยงและเป็นลูกโซ่นั้น

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวจากประเทศไทยร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนได้สำรวจแม่น้ำโขงใน สปป.ลาว ล่องเรือตั้งแต่แขวงหลวงพระบางไปจนถึงแขวงไซยะบุรี ซึ่งเป็นบริเวณที่จะมีการสร้างเขื่อนหลวงพระบางและเขื่อนไซยะบุรี พบว่าการสร้างเขื่อนหลวงพระบางมีความคืบหน้าระดับหนึ่ง ส่วนการสร้างเขื่อนไซยะบุรีคืบหน้ามากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับแห่งอื่นๆ หากสร้างเสร็จแล้วจะถือเป็นเขื่อนกั้นแม่โขงแห่งแรกของลุ่มน้ำตอนล่าง คาดว่าเขื่อนไซยะบุรีจะผลิตไฟฟ้าได้ประมาณปี 2559 อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ริมฝั่งโขงส่วนใหญ่ยังไม่ทราบข้อมูลของโครงการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงสายหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงต้องเข้าสู่กระบวนการแจ้งให้ประเทศสมาชิกของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (เอ็มอาร์ซี) ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม รับทราบ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลลาวจะเริ่มกระบวนการนำเอกสารโครงการเขื่อนไซยะบุรีเสนอให้ประเทศสมาชิกพิจารณาเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ รายงานการศึกษาผลกระทบจากการสร้างเขื่อนำไซยะบุรีซึ่งจัดทำโดยเอ็มอาร์ซี ระบุว่าอ่างเก็บน้ำยาวตามลำน้ำ 95 กิโลเมตร จะส่งผลกระทบต่อประชาชน 202,198 คน ในพื้นที่ 4 เมืองใน สปป.ลาว และต้องอพยพประชาชนอย่างน้อย 10 หมู่บ้าน และถ้าสร้างเขื่อนทั้งสิ้น 12 เขื่อนบนแม่น้ำโขงตอนล่าง ในลาว ไทย และกัมพูชา จะสร้างผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนสูงถึง 2 ล้านคน ในพื้นที่ 13 จังหวัด 47 อำเภอ ทั้งนี้ สถาบันทางการเงินในไทยอย่างน้อย 4 แห่ง คือธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ได้แสดงความจำนงที่จะให้บริษัท ช.การช่าง กู้เงินเพื่อมาดำเนินการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรีรวม 7.5 หมื่นล้านบาท

นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานมูลนิธิเพื่อบริหารการจัดการน้ำแบบบูรณาการ (ประเทศไทย) กล่าวว่า โครงการสร้างเขื่อนในลำน้ำโขงจำนวน 12 แห่ง ตั้งแต่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปจนถึงปากแม่น้ำโขงในประเทศเวียดนาม ไม่ว่าจะสร้างแห่งหนึ่งแห่งใดก็มีผลกระทบพอๆ กัน โดยเฉพาะโครงการเขื่อนไซยะบุรี ที่อยู่เหนือ จ.เลย ถ้าสร้างจริงจะเกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศในแม่น้ำโขง เช่น เส้นทางอพยพของปลาโดยเฉพาะปลาบึก ที่จะอพยพจากแม่น้ำโขงตอนล่างขึ้นไปวางไข่บริเวณใกล้สามเหลี่ยมทองคำ

ที่มา http://www.matichon.co.th

 

มะกันเปิดตัว “วีโวส” บังเกอร์สุดหรูใต้ดินมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ที่มีความแข็งแกร่งทนทานสามารถต้านทานภัย พิบัติร้ายแรงทั้งที่เกิดจากธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์ แต่ละบังเกอร์รองรับประชาชนได้มากสุดถึง 200 คน ภายในมีอาหาร ยา ข้าวของเครื่องใช้ สิ่งอำนวยความสะดวก และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตอย่างครบครัน จึงช่วยให้ผู้ที่อยู่ภายในสามารถใช้ชีวิตแบบสบายๆ ได้นานถึง 1 ปีโดยไม่ต้องออกจากบังเกอร์
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=7T9heta_qLI&feature=player_embedded]YouTube - Vivos Underground Shelter Network[/ame]#!

 

คนละ 1.5 ล้านเอง เมืองไทยคงต้องหาถ้ำอยู่แทนครับ ถูกหน่อยไม่ต้องหรูแบบนี้ก็คงได้

 

*** เงินไร้ค่า ****

เงินไม่มี มีแต่สัจจะ
ทางรอดพ้นทุกข์ อยากได้ต้องมาทำเอง
มีเงินกองถมมหาสมุทรถมทวีป ก็ซื้อไม่ได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

กรมศิลป์ชี้ 32 จังหวัดโบราณสถาน เสี่ยงแผ่นดินไหว​

​

กรมศิลป์เร่งตรวจสอบโบราณสถาน 32 จังหวัด โดยเฉพาะที่ตั้งอยู่ในรัศมีรอยเลื่อน 9 แห่ง พบเสี่ยงภัยแผ่นดินไหวในไทย ไม่ว่าจะเป็น พระธาตุไชยา-จอมกิตติ-ช่อแฮ-เชียงแสน ระบุ "พระธาตุดอยสุเทพ" น่าห่วงสุด...

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นสำรวจจำนวนและตรวจสอบความมั่นคงของโบราณสถานที่ ตั้งอยู่ในรัศมีรอยเลื่อน 9 แห่งที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวในไทย ได้แก่ 1.รอยเลื่อนเชียงแสน ระยะห่าง 130 กม. 2.รอยเลื่อนแม่หา 55 กม. 3.รอยเลื่อนแพร่ 115 กม .4.รอยเลื่อนเถิน 90 กม .5.รอยเลื่อนเมย – อุทัยธานี 250 กม.6.รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ 500 กม. 7.รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ 250 กม. 8.รอยเลื่อนระนอง 270 กม. และ 9.รอยเลื่อนคลองมะรุย 150 กม. อ่าวพังงา โดยได้เก็บข้อมูลอย่างละเอียดทั้งอายุสมัย วัสดุการก่อสร้าง และองค์ประกอบรวมของโบราณสถาน ตลอดจนสภาพของโบราณสถานว่าทรุดโทรมมากน้อยเพียงใด จากนั้นประเมินความเสี่ยงของโบราณสถานแต่ละแห่ง

ผอ.สำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กล่าวต่อว่า การตรวจสอบพบโบราณสถานที่อยู่ห่างรอยเลื่อนเปลือกโลก แบ่งเป็น 3 กรณี ได้แก่ 1.รัศมี 5 กม. มี 8 จังหวัด 44 แห่ง อาทิ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร (วัดพระมหาธาตุ) จ.สุราษฎร์ธานี, วัดพระธาตุจอมกิติ จ.เชียงราย, เมืองโบราณเมืองเชียงแสน จ.เชียงราย, เมืองโบราณบ้านวัดพระธาตุจอมพริก จ.น่าน, พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่, พระเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี 2.ในรัศมี 10 กม.10 จังหวัด 75 แห่ง อาทิ พระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่, กำแพงเมือง จ.กาญจนบุรี, ถ้ำพระ จ.เชียงราย และ 3.ในรัศมี 20 กม.14 จังหวัด 178 แห่ง เช่น ปราสาทเมืองสิงห์ จ.กาญจนบุรี, กำ แพงเมืองและคูเมืองลำพูน จ.ลำพูน, เจดีย์เชียงยันวัดพระธาตุหริภุญไชย จ.ลำพูน, พระธาตุศรีดอนคำ จ.แพร่, เมืองโบ ราณเวียงกาหลง จ.เชียงราย, เมืองโบราณเชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมืองโบราณเวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

นายธราพงศ์ กล่าวด้วยว่า โบราณสถานที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวมีทั้งหมด 297 แห่ง ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดถ้าเกิดแผ่นดินไหวคือพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ โดยขณะนี้กำลังเร่งบูรณะและสร้างแนวกั้นดินสไลด์เพื่อป้องกันแผ่นดินไหว อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ความเสี่ยงของโบราณสถานตามแนวแผ่นดินไหวมาจาก ปัจจัยเสี่ยง 3 กรณี 1.อายุ วัสดุ และเทคนิคการก่อสร้าง 2.แรงสั่นสะเทือน 3.ระยะห่างศูนย์กลางแผ่นดินไหว

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2553

เปิ้ล-นาครแฉหลานถูกลวงโอนเงินผ่าน ATM สูญ 3 แสนบาท​

​

ระบาดหนักแก๊งโทรมาให้โอนเงินทางเอทีเอ็ม ล่าสุดหลานเปิ้ลนาครหลงเชื่อสูญกว่า 3 แสน ตำรวจเร่งล่า

ผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้รับแจ้งจากนาคร ศิลาชัยดาราพิธีกรจอมทะเล้นว่าหลานชายของตนชื่อ สรสิทธิ์ กลสุข (บอส) ที่อยู่ 20/30 ม.2 ต.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง โดนแก๊งทรชนลวงให้โอนเงินผ่านบัตรเอทีเอ็ม อ้างว่าถูกแอบอ้างชื่อไปทำบัตรเครดิตจึงขอให้ดำเนินการระงับ แต่กลับสูญเงินในบัญชีะนาคารกรุงเทพมากกว่า 3 แสนบาท โดยได้แจ้งความไว้ที่สภอ.เมือง จ.ระยอง เมื่อ 17 มิย 2553 ทั้งนี้เปิ้ลบอกว่าสงสารหลานมากๆ เพราะตอนนี้หลานรู้สึกเสียขวัญจนทำอะไรไม่ถูก และอยากยกให้เป็นอุทาหรณ์เตือนประชาชนพร้อมวอนเจ้าหน้าที่ เร่งตามจับผู้ร้ายให้ได้

" เรื่องนี้เกิดขึ้นสองสามวันก่อน พอดีมีญาติโทรมาจากระยองว่า น้องบอส ซึ่งก็รักใคร่กันมาก เสียรู้พวกมิจฉาชีพ หลอกให้กดเอทีเอ็ม คือน้องเขาไม่มีบัตรเครดิต แต่คนที่โทรมาอ้างว่าน้องบอสถูกแอบอ้างเอาไปทำบัตรเครดิต ให้รีบระงับบัตรด่วน เด็กก็ไม่รู้เรื่อง ก็ยอมทำตามที่เขาโทรมาบอกว่า ให้ไปกดรหัสที่ตู้เอทีเอ็ม ก็กลายเป็นว่าเสียเงินไป 3 แสน ตอนนี้แจ้งความแล้วครับ อยากให้ช่วยติดตามด้วย สงสารน้อง"

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2553

เหยื่ออุทกภัยจีน พุ่ง 175 ศพ เหมืองจีนระเบิดดับอื้อ​

​

เหตุระเบิดในอุโมงค์ขุดเจาะถ่านหิน ทางภาคกลางของจีน ทำให้ดินถล่มทับคนงาน 46 คนเสียชีวิต ประธานด้านความปลอดภัยในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เร่งพัฒนามาตรฐาน แต่คงกินเวลานาน 10 ปี ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากฝนตกหนักและน้ำท่วมทางภาคใต้พุ่ง 175 ราย...

เกิดเหตุระเบิดในอุโมงค์ขุดเจาะถ่านหินที่เหมืองแร่ชิงตุ้ง เมืองปิงติงชาน มณฑลเหอหนาน ภาคกลางของจีน เมื่อเช้าวันที่ 21 มิ.ย. ทำให้ดินถล่มทับคนงาน 46 คนเสียชีวิต แต่อีก 26 คนหลบหนีขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ถือเป็นเหตุร้ายแรงที่สุดในรอบ 2 ปี หลังเหมืองระเบิดเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ครั้งนั้นคนงาน 115 คนจากจำนวนทั้งหมด 156 คน ได้รับการช่วยชีวิตทันเวลา

นายจ้าว เตียฉุย ประธานคณะกรรมาธิการด้านความปลอดภัยในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของจีนระบุว่าจีน อาจต้องใช้เวลานานกว่า 10 ปี เพื่อพัฒนาระบบและมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยในเหมืองแร่หรือเหมืองถ่านหิน ต่างๆ ให้เทียบเท่าประเทศพัฒนาแล้ว การให้เจ้าของบริษัทเหมืองแร่จ่ายค่าปรับ และค่าชดเชยเมื่อมีอุบัติเหตุร้าย แรงไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เพราะส่งผลให้เจ้าของเหมืองหลีกเลี่ยงการรายงานอุบัติเหตุหรือสถิติผู้เสีย ชีวิตตามความเป็นจริง ซึ่งรัฐบาลต้องออกมาตรการป้องกันที่เข้มงวด และสั่งปิดเหมืองแร่ที่ไม่ได้ มาตรฐานอย่างจริงจัง รวมถึงหลีกเลี่ยงการรับเงินสินบนเพื่อแลกกับการอนุญาติให้เหมืองแร่ดำเนินกิจการต่อไปทั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม สถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในเหมืองจีนเมื่อปี 2552 มีเพียง 2,631 ราย ลดลงจากสถิติปี 2551 ที่ 3,215 ราย

ทางกรจีนเผยด้วยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากฝนตกหนักและน้ำท่วมทางภาคใต้พุ่งถึง 175 ราย สูญหาย 107 ราย ประชาชนอพยพกว่า 1 ล้านคน แม่น้ำเอ่อล้นฝั่ง ถนนและรางรถไฟถูกตัดขาดเพราะดินถล่ม ส่วนที่อินโดนีเซีย ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว 7.1 ริคเตอร์ที่จ.ปาปัวเมื่อ 16 มิ.ย. พุ่งถึง 17 ราย และ 9 หมู่บ้านบนเกาะยาเพนเสียหายอย่างหนัก

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2553

สภาคองเกรสเปิดโปง น้ำมันรั่ว 1 แสนบาเรล/วัน​

​

สภาคองเกรสเผยข้อมูลในเอกสารภายในของบีพี ระบุ น้ำมันรั่วสู่อ่าวเม็กซิโก 100,000 บาเรล/วัน ขณะที่โฆษกบีพีแจง เป็นเพียงการประเมินขั้นเลวร้ายเท่านั้น...

สำนักข่าวบีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ว่า เอ็ด มาร์คีย์ หนึ่งในสมาชิกสภาคองเกรส เปิดเผยข้อความที่ระบุในเอกสารภายในของบริษัทน้ำมัน 'บีพี' สัญชาติอังกฤษ ซึ่งระบุในตอนแรกว่า น้ำมันอาจรั่วไหลสู่อ่าวเม็กซิโก 1,000 บาเรล/ วัน และเพิ่มเป็น 5,000 บาเรล/ วัน ส่วนปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น 100,000 บาเรล/วัน นับเป็นตัวเลขที่น่าหวาดวิตกมาก รวมถึงตำหนิบีพีว่า โกหกและปกปิดความเสียหายครั้งมหาศาล อย่างไรก็ตาม โฆษกบีพี แจงว่า ตัวเลขดังกล่าวในเอกสาร เป็นเพียงการประเมินขั้นเลวร้ายที่สุดเท่านั้น

ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ( 20 มิ.ย. ) ผู้บริหารระดับสูงของบีพี โทนี เฮย์เวิร์ด ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก หลังมีรายงานว่า ปลีกเวลาพาลูกชายไปร่วมการแข่งขันแล่นเรือใบ ทั้งที่ยังแก้ปัญหาวิกฤติน้ำมันรั่วไม่ได้ แต่เฮย์เวิร์ด ปฏิเสธว่า แม้จะลาพักร้อนใช้เวลากับลูกชาย แต่ยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเสมอ

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หวัดสุกรซุ่มระบาดฮ่องกง เตือนเฝ้าระวังก่อนกลายพันธุ์ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 มิถุนายน 2553 11:46 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

รอยเตอร์ – พบเชื้อไข้หวัดสุกร เอ็ช1เอ็น1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 กำลังแพร่ระบาดอย่างเงียบ ๆ ในสุกรบนเกาะฮ่องกง และกำลังแลกเปลี่ยนหน่วยพันธุกรรมกับไวรัสชนิดอื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ คุกคามมนุษย์

ผลการศึกษา ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Science เมื่อวันศุกร์ (18 มิ.ย.) นับว่ามีความสำคัญ เนื่องจากสนับสนุนทฤษฎีที่ว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ที่ติดเชื้อในหมูสามารถแลกเปลี่ยนยีนกับไวรัสชนิดอื่นที่อยู่ในตัวหมูได้ เช่น ไวรัสไข้หวัดนกเอช5เอ็น1 หรือเอช9เอ็น2

นายมาลิก เพริส ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาของมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไข้หวัดใหญ่ และผู้ทำวิจัย ระบุว่า การค้นพบครั้งนี้ตอกย้ำว่า การเฝ้าระวังโรคในหมูเป็นเรื่องที่สำคัญ การค้นพบแสดงว่า ไวรัสเอ็ช1เอ็น1สามารถย้อนกลับมาระบาดในหมูได้อย่างง่ายดาย การแลกเปลี่ยนยีนกับไวรัสชนิดอื่น อาจก่อผลตามมาอย่างไม่คาดคิด

นาย เพริส และคณะพบไวรัสเอ็ช1เอ็น1ที่จมูกของหมูหลายตัว ซึ่งดูภายนอกมีสุขภาพดีในโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งของฮ่องกงระหว่างการตรวจตามปกติเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว โดยไวรัสที่พบกำลังมีการแลกยีนที่จมูกของหมู จากการวิเคราะห์พบว่า ไวรัสเหล่านั้นล้วนมาจากมนุษย์ และเนื่องจากไวรัสเอช1เอ็น1 เกิดมาจากหมูก่อน แล้วแพร่สู่มนุษย์ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่มันจะกลับเข้าสู่ตัวหมูอีกครั้ง

นอกจากนั้น ตัวอย่างที่ได้จากสุกรในฮ่องกงเมื่อเดือนม.ค.ปีนี้แสดงว่า ในตัวหมูอาจเป็นที่ ซึ่งไวรัสเกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลง โดยพบว่ามียีนของไวรัส 3 ชนิด ได้แก่ไข้หวัดสุกรเอ็ช1เอ็น1 ,เชื้อเอช1เอ็น1 ซึ่ง พบที่ยุโรปและ“คล้ายไข้หวัดนก” และไวรัสรวม ซึ่ง มีการแลกเปลี่ยนยีน 3 ชนิดระหว่างไวรัสไข้หวัดนก,ไวรัสไข้หวัดสุกร และไวรัสไข้หวัด ในมนุษย์ โดยไวรัสรวมนี้พบครั้งแรกในอเมริกาเหนือเมื่อปี 2541

ทั้งนี้ จากผลการวิจัยทางพันธุกรรมพบว่า ไวรัสเอ็ช1เอ็น1 ซึ่งพบครั้งแรกในมนุษย์เมื่อเดือนเม.ย.ปีก่อนนั้น แท้จริงแล้ว มีการแพร่มาไม่ต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งอาจอยู่ในตัวหมู เพียงแต่ทั่วโลกไม่มีการตรวจสอบการปนเปื้อนของเชื้อในอาหารประเภทสัตว์กันเท่าใดนัก โดยองค์การอนามัยโลกระบุเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ยังคงมีการระบาดของไวรัสเอ็ช1เอ็น1อยู่ อย่างไรก็ตาม ได้ผ่านพ้นความรุนแรงไปแล้วในหลายภูมิภาคของโลก

ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000084767

 

ประกาศบุญให้น้ำให้ชีวิตพระเณรกำลังขาดน้ำอย่างหนัก

<table id="post3434796" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> 17-06-2010, 08:38 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พระสุพิน<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3434796", true); </script>
นักบวช



วันที่สมัคร: Feb 2008
สถานที่: วัดเทียบศิลาราม
ข้อความ: 1,015
Groans: 15
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 4,478
ได้รับอนุโมทนา 7,980 ครั้ง ใน 926 โพส
พลังการให้คะแนน: 220


</td> <td class="alt1" id="td_post_3434796" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->ประกาศ บุญให้น้ำให้ชีวิตพระเณรกำลังขาดน้ำอย่างหนักเชิญร่วมเป็นเจ้าขุดเจาะน้ำ บาดาล<!-- google_ad_section_end -->

</center>
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->เชิญร่วมสร้างมหากุศลให้น้ำให้ชีวิตแก่พระเณรชีรวม 23 ชีวิต

ขอชี้แจงบอกบุญลัดคิวเพราะตอนนี้ทางวัดขาดน้ำอย่างปัจจุบันทันด่วนทำให้ที่ วัดเทียบศิลาราม ม.18 บ.หลักหินใหม่ ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
ตอนนี้น้ำบาดาลที่เคยใช้ปรากฎว่าแห้งดูดน้ำไม่ขึ้นแล้วทำให้พระเณรแม่ชีใน วัด
จำนวนทั้งหมด 23 ชีวิต ไม่มีน้ำใช้น้ำฉัน ต้องทำการขุดเจาะใหม่เร็วไว แต่ติดที่ทางวัดไม่มีปัจจัยจึงขอลัดคิวจากการสร้างพระถวายตามวัดต่างๆเอาไว้ ก่อน
ขอนำพาผู้มีจิตศรัทธาและมีกำลังทรัพย์มาร่วมกันให้น้ำให้ชีวิตแก่พระเณรชี ทั้ง 23 ชีวิต ได้มีน้ำใช้น้ำฉันอีกครั้งการขุดเจาะต้องใช้งบจำนวนมากทีเดียวเพราะวางแผน ให้ดีถึงการใช้ให้ไปถึงอนาคตอันยาวไกลเชิญท่านทั้งหลายได้พิจารณา
ถึงความจำเป็นอีกครั้ง

ค่าขุดเจาะ 8,500 บาท
ทำแท้งเก็บน้ำให้เป็นมาตรฐานดีที่สุดใช้งานให้ยาวนาน 70,000 บาท
ชื้อท่อพีวีซี 10,000 บาท
ค่าแรงช่างทำแท้งน้ำ 25,000 บาท


ทุกท่านสามารถร่วมทำบุญลัดคิวให้น้ำให้ชีวิตพระเณรชีได้ที่

ธนาคารกรุงไทยสาขาขุนหาญ
ชื่อบัญชีพระสุพิน อัตตสันโต
หมายเลขบัญชี 326-0-16077-9
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 085.657.8676

ขออ้างอิงคุณพระศรีรัตนตรัยอำนวยอวยพรให้ทุกท่านจงประสบแต่ความรมเย็นแห่ง จิตใจเหมือนดั่งที่ท่านให้น้ำให้ชีวิตแก่พระเณรชีขอความมั่งมีอุดมสมบูรณ์จง บังเกิดแก่ทุกท่านเทอญ


ที่มา:ประกาศบุญให้น้ำให้ชีวิตพระเณรกำลังขาดน้ำอย่างหนักเชิญ ร่วมเป็นเจ้าขุดเจาะน้ำบาดาล - PaLungJ


ปีนี้ภัยเเล้งอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเเม่น ้ำโขงเหือดเเห้งหรือภัยเเล้งตามเขื่อนต่างๆ

ภัยเเล้งๆหนักมากจริงๆสำหรับคนที่อยู่เเถบลุ่มเเม่น้ำโขง ครอบครัวกว่าล้านครอบครัวเเถบจะไม่มีน้ำใช้ดื่มกิน

ยังจำได้เลยว่าฟังข่าวเมื่อต้นเดือนเเล้วกังวลใจมากเรื่องภัยเเล้ง

คือ ถ้าฝนไม่ตกทั้งประเทศจะเหลือน้ำใช้อีกเพียงเเค่ 46 วัน

ดังนั้นเมื่อมีโอกาสสันโดษจะทำบุญใส่บาตรด้วยน้ำเสมอ

เพราะน้ำเป็นปัจจัยหลักเเละปัจจัยสำคัญที่สุด รองจากอากาศธาตุ

ถ้าไม่มีปัจจัยในการทำบุญช่วย Forward Mail บอกต่อด้วยก็ยังดีนะคะ

ประกาศทำบุญด้วยน้ำเเบบนี้หายาก
</td></tr></tbody></table>

 

วิญญาณผู้อดตายชาวเอธิโอเปีย​

​

วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2535 ณ พุทธสถานซั่นเต๋อ ไต้หวัน

ในระหว่างการประชุมอบรมญาติธรรม วิญญาณได้อาศัยร่างของเด็กหญิงพรหมจารีมาแสดงตน สร้างกุศลและขอส่วนบุญ โดยได้รับการนำพาอนุญาตจากพระอาจารย์จี้กงของเรา

พอเข้าทรงมาถึง เธอก็พูดรัวลิ้นเป็นภาษาอัฟริกันยืดยาว สักครู่พอนึกขึ้นได้ว่านักธรรมในที่นั้นฟังภาษาของเธอไม่เข้าใจ เธอจึงได้เปลี่ยนไปพูดภาษาแมนดาริน

ฉันชื่อซัดบามูริค เป็นชาวเอธิโอเปียผู้ยากแค้น ขณะนี้กำลังได้รับโทษอยู่ในนรก ต่อไปยังจะต้องไปเกิดในอัฟริกา ทนทุกข์กับความยากจนต่อไป...

เมื่อก่อนฉันตกไปเกิดในวิถีเปรตและเคยเกิดเป็นเดรัจฉาน เกิดเป็นคนขอทานอยู่หลายชาติ ชาติที่แสดงให้เห็นนี้ต้องเกิดมาเป็นคนอดอยากชาวเอธิโอเปีย

เอธิโอเปียใช้ภาษาต่างกันมากมาย ภาษาหลักเจ็ดสิบกว่าภาษา ภาษาพื้นเมืองอีกร้อยกว่าภาษาเมื่อสักครู่ที่ฉันพูดนั้นเป็นภาษาทางพื้นบ้านของฉัน ท่านทั้งหลายฟังไม่เข้าใจ เบื้องบนจึงได้โปรดเมตตาประทานอนุญาตให้ฉันดื่มน้ำบูชาพระ เพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวดลง ฉันจึงได้อาศัยสังขารและกล่องเสียงของเด็กหญิงพรหมจารีร่างทรงพูดจาได้

เบื้องบนโปรดประทานให้ฉันใช้ภาษาจีนกลาง ฉันขอน้อมกราบพระมหากรุณาธิคุณที่โปรดช่วยให้ฉันต่อสารความอย่างชัดเจนได้ พระพุทธจี้กงนำฉันเข้ามาในพุทธสถาน

ฉันได้กราบกรานพระแม่องค์ธรรมแล้ว กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และขอกราบท่านรองธรรมอธิการหลินเฉียนเหยิน อีกทั้งอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมและเหล่าเมธีทุกท่านในที่นี้ด้วย

ขอบพระคุณเบื้องบนที่ได้โปรดประทานโอกาสให้ฉันได้เล่าเหตุและผลแห่งกรรมของตนเองเฮ้อ ! เรื่องมันยาว ถ้าจะเล่าไป...

ในสมัยราชวงศ์ซ้องฉันเกิดเป็นหญิงชื่อเหลียงฮุ่ยจวิน ชาตินั้นฉันเกิดมาขัดสนยากจนแต่มักใหญ่ใฝ่สูงมาก หน้าตาก็ขี้ริ้วขี้เหร่แต่ทะเยอทะยานอยากสวย เมื่อมีใครให้ทานเสื้อผ้ามา ฉันจะต้องเลือกเอาตัวที่สวยที่สุดใส่ทันที ที่ไม่ดีเหลือให้พ่อแม่และน้อง ๆ ฉันเรียกร้องเอาเงินจากแม่ไปซื้อแป้งแต่งหน้า ทาให้เอี่ยมอ่องเหมือนหญิงสาวทั้งหลาย เพื่ออำพรางหน้าตาที่ไม่น่าดูของฉัน

พ่อแม่เป็นคนมีศรัทธาชอบไหว้พระ ขณะที่ชีวิตของเราต้องผจญกับความยากแค้นก็ยังอุตส่าห์ไหว้พระทำบุญ ให้ทาน ฉันขัดใจมาก ลำพังค่าใช้จ่ายในบ้านก็ไม่พอที่จะกินดีแต่งตัวดีได้แล้ว ทำไมยังต้องกระเบียดกระเสียดเอาเงินไปให้วัด ฉันเหยียดหยามว่า พระสงฆ์นักบวชล้วนเป็นพยาธิขี้เกียจ ไม่รู้จักทำมาหากิน ได้แต่อาศัยเกาะลำไส้ผู้คนให้เลี้ยงดูอยู่ไปวัน ๆ แล้วยังจะมาบอกเราอีกว่า จนก็บำเพ็ญตามประสาจน จนก็ควรจะอดทน

ฉันบอกพ่อแม่ว่าอย่าโง่อีกเลย ดีแต่เอาเงินไปให้คนอื่นใช้ไม่รู้จักเก็บเงินไว้ให้ลูกหลานก็เพราะบรรพบุรุษของเราไม่รู้จักเก็บเงินทองไว้ให้เราใช่ไหมล่ะ เราจึงต้องยากจนอย่างนี้ใจของฉันเป็นอกุศล แสดงสีหน้าวาจาสามานย์กีดกันไม่ให้พ่อแม่เลี้ยงพระให้ทาน

รูปพระและที่บูชาบรรพบุรุษในบ้านฉันก็ไม่เช็ดทำความสะอาด เพราะถือว่าเป็นปูน เป็นไม้ไม่มีความรู้สึกนึกคิดอะไร พ่อแม่ไหว้พระอยู่ทุกวัน ทางบ้านก็ไม่เห็นจะรวยขึ้นมาแล้วเรื่องอะไรฉันจะต้องไปเช็ดโต๊ะเช็ดรูปบูชาเหล่านั้นเปลืองน้ำเปล่า ๆ ถ้าจะไหว้ก็น่าจะไหว้เทพเจ้าผู้ประสาทเงินทองดีกว่าเผื่อว่าจะให้เงินทองแก่เราได้บ้างไหม

ฉันคิดอยู่แต่ว่า ทำยังไงจะได้เงินมาซื้อเครื่องแต่งตัวให้สวย พ่อแม่และน้อง ๆ จะขาดเก่าคร่ำครึยังไงไม่สนใจ บางครั้งฉันใช้เวลานานมาก แต่งตัวให้สวยแล้วก็ออกไปเดินฉุยฉายเพื่อจะอวดโฉมแก่ใคร ๆ แต่ไม่เคยใส่ใจช่วยเก็บซักเสื้อผ้า จึงเป็นภาระเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวสำหรับน้องสาวที่จะต้องทำงานบ้าน

ในครั้งนั้นมีลูกชายของนักเลงเจ้าถิ่นคนหนึ่ง ใคร ๆเรียกเขาหม่าต้าเส้า เป็นคนมีอิทธิพล ขูดรีดเอาเปรียบชาวบ้านจนร่ำรวย

หม่าต้าเส้า ไม่มีปัญญาความรู้ ชื่อเสียงไม่ดี ไม่มีใครอยากแต่งงานด้วย ส่วนฉันนั้นเบื่อสภาพยากจนทางบ้าน คิดแต่จะเกาะคนมีเงิน แม้ชาติตระกูลของหม่าต้าเส้าจะไม่ดี เขาเองก็มีนิสัยความประพฤติไม่ดีแต่เพราะฉันอยากเสพสุขหรูหรา จึงแต่งหน้าให้ฉูดฉาดบาดตาไปยั่วยวนเขา จนในที่สุดก็ได้เป็นสะใภ้บ้านตระกูลหม่า

หม่าต้าเส้าช่วยฉันปิดบังฐานะทางบ้านพอฉันได้เป็นภรรยาเสี่ยก็ยิ่งฟุ้งเฟ้อทะเยอทะยานมาก ขึ้น ฉันจับจ่ายเงินทองของบ้านสามีที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรมอย่างหน้าตาเฉย ทั้งยังภาวนาให้คนอื่นเสียรู้เสียเงินทองให้บ้านเราไว้ใช้อีกด้วย

ฉะนั้น ทรัพย์สิ่งของเงินทองที่สามีและพ่อของเขากดขี่หลอกลวงชาวบ้านมา ฉันจึงหลับหูหลับตาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเลย และไม่ทัดทานห้ามปราม ฉันขยาดกับสภาพชีวิตขัดสนที่ผ่านมามาก เมื่อมีโอกาสเสพสุขจับจ่ายอย่างนี้แล้วฉันจะไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ หรอก

ฉันคิดว่าเมื่อก่อนพ่อแม่ไม่อาจให้ฉันกินดีอยู่ดีได้ จึงอยากให้ลูก ๆ ของฉันสมบูรณ์พูนสุขลูกก็เอาอย่างผู้ใหญ่ สุรุ่ยสุร่ายทุกอย่าง ฉันปรนเปรอเอาใจลูกมาก อะไรที่ลูกไม่ถูกปากฉันก็ไม่ให้กิน ฉันจะให้บ่าวไพร่เก็บไปกิน ฉันยังคิดว่าวิเศษแล้วสำหรับบ่าวไพร่ได้กินของดีๆ อย่างนี้ ในใจของฉันมีแต่ความผยอง ดูถูกเหยียดหยามคนชั้นต่ำ บ่าวไพร่ทำอะไรไม่ถูกใจ ฉันก็ลงโทษให้อดข้าวเสียหลายมื้อ

โอ ! การกระทำของเราทุกอย่างมีผีสางเทวดาจับตาดูอยู่หนอ..

ฉันเสพสุขสมบูรณ์ แต่ปล่อยให้พ่อแม่ขาดแคลนอยู่อย่างนั้น ให้ท่านกินอยู่ฝืดเคืองเหมือนเดิม โอ ! ฉันอกตัญญูหนอ... ฉันโทษว่าพ่อแม่ไม่ได้ให้ความเป็นอยู่ที่ดีแก่ฉัน บัดนี้ฉันได้ดิบได้ดี มันเป็นวาสนาชะตาชีวิตของฉันเอง

พ่อแม่ชอบทำบุญให้ทาน อยากทำตัวให้อัตคัดอยากสมถะเอง ก็ปล่อยให้อยู่ไปง่าย ๆ อย่างนั้นเถอะฉันไม่ได้เอาใจใส่คนทางบ้านของตัวเองให้มากเลย ฉันเห็นแก่ตัวหนอ...

ยังมีอีกเรื่องหนึ่งฉันละอายที่จะบอกเล่า...

ฉันตระหนี่เรื่องทำบุญให้ทาน แต่ฉันกลับแอบให้เงินเลี้ยงดูชู้รักนอกบ้าน เรื่องนี้น้องชายของสามีจับได้ ฉันจึงปิดปากด้วยการให้เงินทองเข้าไปเที่ยวเตร่เสเพล เขาจึงช่วยปิดเงียบไว้ โอ ! ฉันละอายใจเหลือเกิน ฉันไม่รู้จักรักบุญวาสนาไม่รู้จักสร้างเสริมเพิ่มพูนบุญวาสนาได้แต่กินวาสนาจนหมด จับจ่ายสวมใส่วาสนาเก่าสิ้นเปลืองจนหมด สุดท้ายฉันมักจะทำของหายหาไม่เจอ แม้ฉันจะมีเสื้อผ้าได้ตกแต่ง มีอาหารได้กิน แต่กายสังขารของฉันกลับยิ่งผอมลงทุกวัน ฉันกลัวว่ายิ่งผ่ายผอมแล้วน่าเกลียด จึงเร่งกินอาหารบำรุงเป็นการใหญ่ แต่ร่างกายก็รับไม่ได้ ปวดท้องเหมือนถูกบิดไส้บ่อยๆ

ต่อมาก็คอหอยเจ็บ หลอดอาหารบวม กลืนอาหารไม่ลง หน้าตาก็ค่อย ๆ ปรากฏลักษณะของผีเปรตออกมา นี่เป็นผลกรรมชัดเจนทันตาเห็น ที่ฉันสุรุ่ยสุร่าย ไม่รักษาวาสนา ไม่เพียงเท่านั้น ฉันยังต้องไปรับทุกข์เวทนาแสนสาหัสหลังจากตายไปแล้วอีกเหตุเพราะฉันเคยให้ร้ายเหยียดหยามสงฆ์ผู้บำเพ็ญอีกทั้งเคยไล่ตะเพิดขอทานฉันจึงมีกลิ่นปากเหม็นเป็นประจำ แม้ฉันจะทุ่มเทมากมายให้แก่ลูก ๆ ตามใจสารพัดแต่ลูก ๆ กลับอกตัญญูต่อฉัน

ฉันเจ็บป่วยอยู่ ลูก ๆ ไม่เคยเอาใจใส่ฉันเลย พ่อแม่สามีคือปู่ย่าของลูก ๆ ก็ห้ามไม่ให้ลูก ๆ เข้าใกล้ฉัน มีแต่บ่าวไพร่เท่านั้นที่ดูแลฉัน ฉันรู้สึกอ้างว้าง และได้รู้ว่าถ้าไม่มีวาสนาจะไม่ได้ลูกหลานที่ดีได้ ฉันเกิดมายากจนในชาตินี้ แต่ทะเยอทะยานไม่สำรวม เจียมตัว แม้ในดวงชะตากำหนดว่า ตั้งแต่วัยกลางคนเรื่อยไปจนกระทั่งสูงอายุฉันจะได้รับวาสนา

แต่สุดท้าย วาสนาก็ถูกฉันใช้อีลุ่ยฉุยแฉกเสียหมดจนตกไปสู่สภาพน่าเวทนาเหตุเพราะทิ้งขว้างทำลายข้าวของต่าง ๆ ไปมาก จึงเป็นผลให้อายุถูกตัดทอนลง ในปีที่บ้านเมืองเกิดภาวะวิกฤตแห้งแล้งกันดาร ฉันต้องจบชีวิตลงด้วยกาฬโรคที่ระบาดอยู่ ขณะนั้นฉันมีอายุได้สามสิบเก้าปีเท่านั้น อนิจจา

คนเราแม้ไม่พิจารณาเพื่อวันยาวไกลข้างหน้า ก็ต้องใคร่ครวญเพื่อวันอันใกล้นี้บ้าง เมื่อมีชีวิตอยู่ ฉันคิดแต่จะหาความสุขใส่ตัว เริงเล่นเลิศเลอไปตลอดชีวิต การกระทำไม่ดีงามมากมายหนีไม่พ้นสมุดบันทึกบาปเวรเลย...

เมื่อยมทูตมากระชากวิญญาณฉันไปลงนรก ตอนนั้นมืดไปหมด เหมือนมึนงงไม่มีสติ ต้องตามเขาไปอย่างเลื่อนลอย เมื่อฉันไม่ยอมรับผิดในการพิพากษาโทษจากนรก ฉันยิ่งถูกทรมานหนัก ถูกไฟจี้ดวงตา ถูกลงทอดในกระทะน้ำมัน ถูกผ่าอก ถูกแช่น้ำแข็ง ให้อดอยาก เข้าเครื่องทรมาน

ต้องแบกหามแก้วแหวนเงินทองของลวงตา หนักแทบตายแต่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ อาหารและกระดาษเงินกระดาษทองที่ใครเผาส่งมาให้ก็รับไม่ได้ ฉันตกลงไปสู่วิถีเปรตเสียแล้ว เปรตมีรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดมาก ผมทุกเส้นแข็ง ทิ่มแทงตัวเองเจ็บไปหมด เมื่อมีชีวิตอยู่ ถ้าหวงน้ำ ปล่อยให้เขาคอแห้ง หรือกระหายน้ำตาย จะต้องไปเกิดเป็นเปรตจะต้องคอแห้งผาก แม้ฝนตกลงมาถูกต้องตัวก็กลายเป็นเม็ดไฟไปสิ้น แม้ไปถึงแม่น้ำลำธาร น้ำก็จะเหือดแห้งไปหมด จะต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในนรกร้อนระอุคอแห้งผากอยู่ตลอดเวลา

เมื่อมีชีวิตใช้จ่ายส่วนตัวฟุ่มเฟือย แต่ตระหนี่ถี่เหนียวไม่ยอมให้ทาน จะต้องไปเกิดเป็นเปรตทนทุกข์กับความหิวกระหาย ต้องเที่ยวได้ไปหาอุจจาระปัสสาวะกิน เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแต่ก็หาอาหารกินไม่ได้แม้ได้อาหารมาพอเข้าปากก็กลายเป็นเถ้าถ่านเสียสิ้น เมื่อมีชีวิตเสพสุขดื่มกินโดยไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ใคร ไม่แบ่งปันอาหารให้ใครหวงไว้กินให้อร่อยเฉพาะตน ไม่สนองคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมาตายแล้วจะต้องไปเกิดเป็นเปรตที่กินได้แต่กลิ่นอาหารที่จะถวายพระบูชา ถวายพระสงฆ์ ระวังอย่าชิมก่อนถวาย อย่าแอบหยิบจากที่ถวายมากินก่อนเสร็จพิธีบูชา ผู้ทำผิดจะต้องเกิดเป็นเปรตหลายชาติท่านทั้งหลายเข้าใจไหม ?

(ผู้ปฏิบัติธรรมในที่นั้นตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "เข้าใจ")

ฉันต้องเวียนว่ายในชาติกำเนิดสี่ต่อไป ตกต่ำต่อไป คนตระหนี่ถี่เหนียวบางคนต้องตายตั้งแต่อยู่ในท้องแม่หรือเกิดมาอายุสั้น ไม่มีโอกาสได้อิ่มเอมกับอาหารในโลกนี้ สำหรับฉันต้องเกิดเป็นขอทานอยู่หลายชาติ เกิดเป็นคนพเนจรไม่มีที่อยู่อาศัย เกิดเป็นคนยากจนเข็ญใจและเกิดมาในถิ่นทุรกันดารขาดอาหาร

ที่แล้วมาฉันมีจิตใจรังเกียจเหยียดหยามเขา ไม่คิดว่าตัวเองก็เป็นคนยากจนมาก่อน ยังจะชิงชังขอทานคนยากไร้ เมื่อเกิดเป็นคนจึงขี้ริ้วขี้เหร่ ฉันยังได้จับจ่ายเงินทองที่ได้มาอย่างผิดทำนองคลองธรรมอย่างฟุ่มเฟือย ความหรูหราที่ฉาบหน้าของฉัน มีเสียงโอดครวญสาปแช่งตามหลังมา

ฉะนั้นเมื่อฉันกลับชาติมาเกิดเป็นคนอีก จึงต้องเกิดในชาติตระกูลต่ำทราม เกิดในครอบครัวของศัตรูคู่อาฆาตกัน เกิดมาหลังค่อม(ผลกรรมจากสุรุ่ยสุร่ายเพื่อตัวเอง เอาเปรียบเกินเลยคนอื่นมากไป เป็นหนี้เวรกรรมหนักหนา) ฉันเกิดมาเป็นใบ้ (ผลกรรมจากชอบโทษโพย ปากพล่อยวิจารณ์ว่าไหว้พระไม่เกิดคุณ ห้ามพ่อแม่ทำบุญให้ทาน ไม่ตักเตือนขอร้องสามีและพ่อแม่ของสามีให้เลิกขูดรีดหลอกลวงทรัพย์สิ่งของ ๆ ผู้อื่น ฯลฯ)

ผลกรรมนี้ยังทำให้เป็นโรคสะอึกประจำถูกผู้คนดูถูกเหยียดหยาม ถูกทอดทิ้ง ถูกสุนัขดุร้ายทำให้เสียขวัญบ่อย ๆ ชั่วชีวิตจึงอ้างว้างอยู่ตัวคนเดียว ประสบเคราะห์ภัยไม่เว้น ตั้งใจจะทำอะไรก็ล้มเหลว ผิดหวังตลอดชีวิต...

โพสต์โดย doll เมื่อ November 21 2006 19:10:22

ที่มา http://www.eanic.org/fusion/readarticle.php?article_id=69

 

ชาวตรังยี้! กิ้งกือนับล้านตัวบุกบ้าน


ตรัง 22 มิ.ย. - ชาวบ้านตรังกว่า 200 หลังคาเรือน ถูกกองทัพกิ้งกือนับ ล้านตัวบุกเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้าน ขณะที่ปศุสัตว์ระบุแค่ทำให้รำคาญ แต่ไม่มีพิษภัย
กิ้งกือตัวแบนยาวกว่า 4 ซม. นับล้านตัวบุกเข้าบ้านเรือนชาวบ้านหมู่ 3 ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง จนได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 หลังคาเรือน กิ้งกือตัวแบน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "หนอนหวี" เข้าไปอาศัยอยู่ทุกซอกทุกมุมของบ้าน ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ และต้นไม้น้อยใหญ่รอบบ้าน เวลาจะรับประทานอาหารต้องกางมุ้ง และปิดฝาโอ่งน้ำให้มิดชิด ซึ่งสร้างความเดือดร้อนรำคาญ เพราะกิ้งกือมีกลิ่นเหม็น รุนแรง บางคนถึงกับอาเจียนออกมาหลายครั้ง ระยะแรกชาวบ้านซื้อยากำจัดมดและยากำจัดศัตรูพืชมาผสมน้ำและฉีดพ่นรอบบ้าน แต่จำนวนกิ้งกือยังไม่ลดลง บางบ้านใช้วิธีต้มน้ำร้อนราดและจุดไฟเผา
ด้านปศุสัตว์ อ.สิเกา ระบุว่า กิ้งกือมีประโยชน์ ทำให้ดินร่วนซุย ไม่มีพิษภัย แต่จะสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้าน ซึ่งปศุสัตว์ อ.สิเกา จะเร่งหาทางช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วนภายใน 1-2 วันนี้. - สำนักข่าวไทย

 

ชาวตรังขยะแขยง 'กิ้งกือ'นับล้าน ส่งกลิ่นเหม็นสาบ​

​

กองทัพ "กิ้งกือ" นับล้านบุกชาวเมืองตรัง สร้างความรำคาญ และส่งกลิ่นเหม็นสาบ จนท.รุดช่วยเหลือพ่นยากำจัดศัตรูพืช เบื้องต้นคาดหนีสภาพอากาศที่ร้อนสะสม ลงจากภูเขาเจ็ดยอด แพร่ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว...

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายระหมาน ปูเงิน อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/11 ม.3 บ้านดุหุน ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง ว่า กองทัพกิ้งกือนับล้านตัว บุกเข้าในบ้าน เกาะติดฝาผนัง และในห้องน้ำ ตลอดทั้งวัน สร้างความรำคาญจนทนไม่ไหวแล้ว แม้ว่าชาวบ้านใช้ยากำจัดมด และยากำจัดศัตรูพืชฉีดพ่นวันต่อวัน แต่กิ้งกือก็ยังไม่หยุดแพร่ขยายพันธุ์ หลังฝนตกจะกลับมาใหม่ซ้ำอีก โดยที่กองทัพกิ้งกือ ได้ยกทัพสร้างความรำคาญมานานกว่า 20 วันแล้ว หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าว พร้อมชาวบ้านบ้านดุหุน และนายสัตวแพทย์ ธีระวุฒิ พิบูลรัตพงศ์ ปศุสัตว์อำเภอสิเกา จ.ตรัง และนายธรรมฤทธิ์ เขาบาท นายก อบต.บ่อหิน รุดไปดูซากกิ้งกือดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้ง

จากการตรวจสอบซากกิ้งกือ พบว่า เป็นสายพันธุ์ตัวแบน นอนตายเกลื่อนอยู่รอบบ้าน หลังกองทัพกิ้งกือนับล้าน บุกเข้ามาภายในบ้านและรอบๆ บ้าน กระทั่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อ.สิเกา และเจ้าหน้าที่ อบต.บ่อหิน รุดลงพื้นที่ตรวจสอบ และแนะนำให้ใช้ยากำจัดศัตรูพืชฉีดพ่นอีกครั้ง

นายระหมาน กล่าวว่า กิ้งกือตัวแบนมักจะยกกองทัพมาในช่วงกลางวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของทุกวัน และจะไต่ตามฝาผนังบ้านห้องน้ำ ใต้โอ่งน้ำ และต้นไม้ พบมีกลิ่นเหม็นสาบ จนสร้างความขยะแขยง รำคาญ กินข้าวไม่ลง เกิดอาการอาเจียน บางบ้านถึงขั้นไม่ได้ทำมาหากิน เพราะมัวแต่เฝ้ากำจัดกิ้งกือตลอดทั้งวัน โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบ สันนิษฐานว่ากิ้งกือดังกล่าวนี้ น่าจะลงมาจากบนภูเขาเจ็ดยอด ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 500 เมตร ซึ่งน่าจะเกิดจากความร้อนสะสมเป็นเวลานานในพื้นดิน ทำให้กิ้งกืออพยพเคลื่อนย้ายออกมาจากพื้นดิน และเข้ามาในหมู่บ้าน แต่ไม่ทราบสาเหตุการแพร่ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วในช่วงนี้ ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลกำจัดกิ้งกือให้หมดไปโดยเร็ว เพราะลำพังชาวบ้านไม่มีเงินเพียงพอ ที่จะซื้อยามากำจัดแล้ว จึงต้องใช้น้ำร้อนราดและเผาไฟ

ขณะที่ นายสัตวแพทย์ ธีระวุฒิ กล่าวด้วยว่า กิ้งกือที่พบมีขนาดประมาณ 4 เซนติเมตร เป็นสายพันธุ์กิ้งกือตัวแบน แต่ชาวบ้านเรียกว่า "หนอนหวี" ซึ่งเป็นกิ้งกือที่มีประโยชน์ ทำให้ดินร่วนซุย ไม่มีพิษภัย แต่จะสร้างความรำคาญ ทำให้ชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือน ประสบปัญหาความเดือดร้อน ทั้งนี้คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์ จะทราบสาเหตุที่กิ้งกือยกทัพเข้ามาในหมู่บ้าน เบื้องต้นได้แนะนำวิธีกำจัด ด้วยการละลายยากำจัดศัตรูพืชเลนเนท พ่นรอบๆ บ้าน ซึ่งภายในเวลา 30 นาที กิ้งกือก็ตายหมด แต่ไม่แนะนำให้ผสมยาเข้มข้นมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดพิษและสารตกค้าง ที่เป็นอันตรายกับผิวหนังได้

ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

หมายเหตุ

การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นการทำบาป ซึ่งเป็นการทำผิดศีลข้อที่ 1 จะมีผลต่อผู้กระทำต้องไปชดใช้กรรมในเบื้องหน้าอย่างแน่นอน ในฐานะที่พวกเราเป็นชาวพุทธ เมื่ออ่านข่าวนี้แล้วถ้าต้องมาพบเจอกับสภาพถูกรบกวนด้วยสัตว์เหล่านี้เป็นจำนวนมาก ผมว่าควรหาวิธีอื่นๆ ที่ไม่ต้องไปทำร้ายสัตว์เหล่านี้จะดีกว่านะครับ -เกษม-

 

เปิ้ล-นาครแฉหลานถูกลวงโอนเงินผ่าน ATM สูญ 3 แสนบาท​

​

ระบาดหนักแก๊งโทรมาให้โอนเงินทางเอทีเอ็ม ล่าสุดหลานเปิ้ลนาครหลงเชื่อสูญกว่า 3 แสน ตำรวจเร่งล่า

ผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้รับแจ้งจากนาคร ศิลาชัยดาราพิธีกรจอมทะเล้นว่าหลานชายของตนชื่อ สรสิทธิ์ กลสุข (บอส) ที่อยู่ 20/30 ม.2 ต.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง โดนแก๊งทรชนลวงให้โอนเงินผ่านบัตรเอทีเอ็ม อ้างว่าถูกแอบอ้างชื่อไปทำบัตรเครดิตจึงขอให้ดำเนินการระงับ แต่กลับสูญเงินในบัญชีะนาคารกรุงเทพมากกว่า 3 แสนบาท โดยได้แจ้งความไว้ที่สภอ.เมือง จ.ระยอง เมื่อ 17 มิย 2553 ทั้งนี้เปิ้ลบอกว่าสงสารหลานมากๆ เพราะตอนนี้หลานรู้สึกเสียขวัญจนทำอะไรไม่ถูก และอยากยกให้เป็นอุทาหรณ์เตือนประชาชนพร้อมวอนเจ้าหน้าที่ เร่งตามจับผู้ร้ายให้ได้

" เรื่องนี้เกิดขึ้นสองสามวันก่อน พอดีมีญาติโทรมาจากระยองว่า น้องบอส ซึ่งก็รักใคร่กันมาก เสียรู้พวกมิจฉาชีพ หลอกให้กดเอทีเอ็ม คือน้องเขาไม่มีบัตรเครดิต แต่คนที่โทรมาอ้างว่าน้องบอสถูกแอบอ้างเอาไปทำบัตรเครดิต ให้รีบระงับบัตรด่วน เด็กก็ไม่รู้เรื่อง ก็ยอมทำตามที่เขาโทรมาบอกว่า ให้ไปกดรหัสที่ตู้เอทีเอ็ม ก็กลายเป็นว่าเสียเงินไป 3 แสน ตอนนี้แจ้งความแล้วครับ อยากให้ช่วยติดตามด้วย สงสารน้อง"

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2553

:boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo:

หลักการง่ายๆในการป้องกันครับ พวกมิจาชีพพวกนี้มีมาหลายเรื่องหลายรูปแบบ
แต่จุดจบเหมือนกันครับ คือไปกดที่ตู้ ATM ดังนั้นจดจำไว้ครับ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่มีผู้โทรมาบอกให้เราไปกดที่ตู้ ATM โดยเฉพาะเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ต้องกดครับ ถ้าจะทำรายการไปทำกับธนาคารโดยตรงครับ คิดง่ายๆระบบงานอะไรในประเทศเราที่มีความเร่งด่วนขนาดใช้โทรศัพท์อย่างเดียวไม่มีเอกสาร ไม่มีสถานที่ติดต่อเป็นทางการ จับต้องไม่ได้ เอาแต่ พูด บลาๆๆๆๆ มันไม่น่าเชื่อแต่แรกแล้วครับ ขอให้ท่านๆปลอดภัยจากภัยประเภทนี้ด้วยครับ จำไว้ไม่ไปกดที่ตู้ ATM แต่จดเอาไว้ทุกขั้นตอนที่มันบอกแล้วเอาไปแจ้งตำรวจดีกว่าครับ

 

*** กำแพงเมฆ ****

วันที่ท้องฟ้าสดใส ดูแนวกำแพงเมฆ เกิดบริเวณที่ซ้ำๆ แนวเดิมๆ เป็นประจำ
แสดงว่า รอยปริผิวโลก เริ่มเคลื่อนไหว
ไม่ต้องดูไกลที่ไหน บริเวณเมืองหลวง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

มองดูแปลกๆดี สายรุ้งนี้พาดผ่านดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน
ในเวลา16.00น.วันที่22มิ.ย.53 วันนี้ไม่มีฝนตกเลย

นำมาให้เพื่อนธรรมในกระทู้นี้วิจารณ์กันครับ