เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

"หากเราเปลี่ยนความเชื่อที่ไม่ เป็นผลประโยชน์กับเรา
ให้กลายมาเป็นได้ประโยชน์ ปัญหาต่างๆในชีวิตก็จะคลี่คลายลง
และมันก็จะเป็นไปตามปรารถนา
เพราะว่า พวกเรามีอิสระที่จะเลือกความปรารถนา และสมปรารถนาได้ทุกคน"

แจ้ตีความตรงนี้นิดนึงได้มั๊ยคะ
คือ มันอยู่ที่เราเลือกที่จะกำหนดให้เป็นไปตามที่เราปรารถนาได้หมด
เช่น เราต้องการเป็นแบบนี้ เราก็จะเป็นได้ ใช่หรือเปล่าคะ ถ้าเราจดจ่อจริงจัง

 

ตามความเข้าใจของแจ้นะ หมวยนะ
อันนี้ เราต้องแยกประเด็น ความปรารถนา ออกจาก คำว่า
ความอยาก ความต้องการ ที่เป็นอารมณ์ของกิเลส ออกก่อนนะ

หากเรามีความอยาก ความต้องการใดๆ เป็นภาวะของการขาด ไม่มี
เราก็จะอยู่ในภาวะของการขาด การพร่อง นั้นเสมอ เพราะเราบอกจักรวาลแบบนั้น

เช่น อยากรวย มันก็อยากอยู่นั่นแหล่ะ ไม่รวยซักที
เพราะอยู่ในภาวะที่ขาดความรวย คิดแต่เมื่อไหร่จะรวย จะมีตังค์
หรืออยากสุขภาพดี แล้วก็คิดว่า ต้องออกกำลังกายสุขภาพจะดี หากขาดตอน ทำไม่สม่ำเสมอ
ก็จะรู้สึกว่า เราออกกำลังกายไม่ดีพอ ไม่สมบูรณ์พอ
ซึ่งจริงๆแล้ว หากเราเชื่อมั่นในสุขภาพร่างกาย ว่ามันแข็งแรงจริงๆ
จะ ไม่มีอะไรมาทำอันตราย หรือทำร้ายสุขภาพร่างกายของเราได้เลย

พี่นักเขียนเคยสอนว่า แม้แต่สิ่งที่ดูแล้วเป็นพิษกับร่างกาย เช่นอาหารบางอย่าง
หากเราไม่เชื่อว่ามันทำร้ายเราได้ สิ่งเหล่านั้นก็จะไม่บั่นทอนเราได้เลย

ความปรารถนาของเราจริงๆนั้น มันก็คือ สิ่งที่มันกำลังแสดงออกมา
ผ่านความเชื่อของจิตวิญญาณ
แล้วมาปรากฎ เป็นอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง
ที่เราเป็น เรามี เราอยู่ ณ ปัจจุบันนี่แหล่ะ


จิตวิญญาณปรารถนา สิ่งเหล่านี้ เลือกมาเรียนรู้กับสิ่งเหล่านี้
หากเราไม่ปรารถนาที่จะเป็นแบบนี้ เราจะไม่เป็นโดยเด็ดขาด
มันจะไม่ใช่สาระของเราเลย

อิสระแห่งความปรารถนา เป็น อิสระของการเลือกที่ข้ามพ้นสิ่งที่ทำให้เราทุกข์
เราข้ามพ้นสิ่งที่ทุกข์ได้จากการเปลี่ยนความเชื่อเท่านั้น
ความเชื่อที่ผิด แสดงผลของความทุกข์ยากในชีวิต

การเรียนรู้ในสิ่งที่เราเลือกมา ในรูปแบบความทุกข์ ไม่ใช่การเป็นทุกข์
ดังนั้น เราจะไม่ทุกข์ได้ก็ต่อเมื่อเรามีความเชื่อในทิศทางที่มองเห็น
สิ่งเหล่านั้น เป็นเพียงแค่บทเรียน มาให้เราข้ามผ่านอย่างเข้าใจ
การเรียนรู้ของเรา คือ การเปลี่ยนความเชื่อที่ผิดให้กลายมาเป็นความรู้ เท่านั้น

ความต้องการ หรือความอยาก อยู่บนพื้นฐานของการขาด การพร่อง
ความปรารถนา คือสิ่งที่เต็มอยู่ และ มีอยู่ คือการเป็นนั้นเอง

แจ้เข้าใจแบบนี้นะ หมวยนะ

ขอยกตัวอย่างเรื่องความรวย เรื่องการดึงดูดเงินในแบบฉบับข้าพเจ้า นิดนุง
ปกติตัวเองจะหมุนเงินเป็นอาจิณ ไม่ได้มีเงินก้อนใหญ่ที่ทิ้งค้างไว้ลอยๆ
ดังนั้น เมื่อจะต้องใช้จ่าย หรือลงทุน จะจินตนาการถึง เงินก้อนที่ต้องการ
แล้วแบ่งแยกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้พอดีกับเงินนั้น
จะจินตนาการถึงวิธีการนำเงินเหล่านั้นไปใช้ได้อย่างเหลือเฟือ และจัดสรรปันส่วน แบบสบายๆ

ทุกครั้ง จึงไม่มีปัญหา เรื่องเงิน และมองว่าเงินเป็นแค่สิ่งแลกเปลี่ยน
ในการทำมาหากิน และการดำรงชีวิตเท่านั้น ไม่ได้ให้ความสำคัญมากกว่านี้
จึงไม่มีเงินเก็บ แต่มีใช้แบบสบายๆ ไม่เคยขาดมือ และพอเพียงเสมอๆ
ต้องการใช้เมื่อไหร่ ก็ได้เสมอๆ

ดังนั้น...หากเรารู้สึกว่า เราเป็น เรามี เราไม่ขาด
เราก็จะเป็นแบบนั้น มีการดำรงอยู่แบบนั้น
ตามความปรารถนาที่แท้จริงของเรา

 

โอ้...ขอบคุณแจ้มากๆค่ะ ชัดเจนและเข้าใจมากขึ้นแล้ว

 

โอ้..มายก๊าดดดด !!!

ตรงเป๊ะเลย...เดือนพฤษภาคมเป๊ะเลยจริงๆด้วย

ใช่ไหมีครับคุณ mead สุนัขแสนรักของคุณ mead
ตายจากไปในช่วงเดือนพฤษภาคมใช่ไหมครับ

เพราะเท่าที่ผมดูจากวันที่คุณ mead โพสต์แล้ว
ผมว่าน่าจะใช่นะ

คือพอดีว่า..ผมกำลังแปลข้อความจากต่างมิติอยู่ข้อความหนึ่งหนะครับ
ซึ่งมีพูดถึงเรื่องสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะหมาและแมว
ที่จะทยอยตายไปเป็นจำนวนมาก เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีนี้เป็นต้นไป

ก็ทำให้ผมนึกถึงหมาของคุณ mead ทันทีเลย เลยอดมาค้นดูไม่ได้หนะครับ
เพราะว่า..ดูเหมือนว่า..อะไรๆ ที่กำลังเกิดขึ้นกับโลกเราอยู่นี่
มันจะมีที่มาที่ไปหมดเลยนะเนี่ย..ไม่มีความบังเอิญเลย

ข้อความที่ผมกำลังแปลอยู่นี่ เป็นอีกข้อความหนึ่งที่น่าสนใจมาก
มีพูดถึงสัตว์ไว้เยอะเลย..ผมแปลไป..อ่านไป ก็ขนลุกซู่ๆ
และรู้สึกรักพวกสัตว์ทั้งหลายขึ้นมาอีกเยอะมากๆเลยครับ

รายละเอียดเดี๋ยวค่อยอ่านทีหลังนะครับ
แต่ตอนนี้ขอเกริ่นและฝากไว้อีกนิดหนึ่งว่า

หากสุนัขหรือแมวที่บ้านใคร กำลังเริ่มป่วย ซึ่งจะตายในที่สุด
ก็ได้โปรดรู้ว่า พวกเขากำลังเครียด และเป็นกังวล และซึมเศร้าอยู่
เพราะในระดับจิตวิญญาณแล้ว พวกเขารู้ว่า "ภาระหน้าที่"
ที่พวกเขาได้อาสามาทำให้กับพวกเรา หมดลงแล้ว

เพราะฉะนั้น พวกเขาเลยกำลังรู้สึกเวิ้งว้าง และไม่รู้ว่า
ตัวเองจะยังควรค่าแก่การเลี้ยงดูของพวกเราอยู่อีกหรือเปล่า
และพวกเขาก็กลัวว่า เมื่อพวกเขาหมดหน้าที่แล้ว
พวกเรายังจะรักพวกเขาอยู่อีกหรือเปล่า

จงให้ความรักกับพวกเขามากๆ จงบอกกับพวกเขา
และแสดงให้พวกเขาเห็นว่า ท่านยังคงรักพวกเขาอยู่เหมือนเดิม

แม้ว่าพวกเขาจะลองใจท่าน ด้วยวิธีการก้าวร้าว
หรือทำตัวผิดแผกแตกต่างไปจากปกติอย่างไรก็ตาม

นั่นก็เพราะว่า พวกเขาวิตกกังวล และกลัวว่าท่านจะไม่รักเขานั่นเอง


โถ..น้องหมาที่น่าสงสาร..

..............................

 

คิดว่าจะเก็บข้อความเอาไว้โพสต์ กระทู้ที่กำลังแปลและจะมาใหม่
ของคุณชยุต เล่าเลยดีกว่า อิอิ ที่เคยเล่าว่า

มีแมวมาออกลูกทิ้งไว้ พวกเราเลยเลี้ยงมันไว้
แต่ไม่อยากผูกพันกับมันมากนัก ได้แต่เลี้ยงดูอยู่ห่างๆ
เพราะเคยเลี้ยงแล้วมันตายแบบกระทันหัน

ตัวแรกคิดว่ามันน่าจะโดนวางยา เมื่อเรากลับไปบอกเจ้าของ
(ท่านที่ให้แมวมา)ว่ามันตาย เขากลับยิ้มๆ และบอกว่า
ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอาตัวใหม่ไปซึ่งลำดับญาติแล้วก็เป็นหลานของเจ้าตัวเดิม

ตัวนี้หนักกว่าตัวเก่าอีก เพราะตอนที่เราย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่
เรายังไม่พร้อมที่จะเอามันไปด้วย
เลยฝากไว้ที่บ้านเดิม แต่ก็แปลกในวันที่เรากลับไป

เพื่อไปรับมันมาอยู่ด้วย มันกลับนอนตายอยู่หน้าบ้าน

ไม่มีร่องรอยบาดแผลใดๆเลย
คิดดูว่ามันกระชากใจพวกเราแค่ไหน นั่นคือสาเหตุ
ที่พวกเราไม่อยากเลี้ยงแมวอีกเลย

แต่กลับกลายเป็นว่าเราถูกมัดมือชก (อิอิ ใช้คำถูกป่าวเนี่ย)
ด้วยการที่แม่แมวมันมาออกลูกทิ้งไว้ (มันเป็นแมวเร่ร่อน)
เลยต้องเลี้ยงดูมัน

ตอนนี้มันโตเป็นหนุ่มเป็นสาว กันหมดแล้ว น่ารักซะ
พวกเราก็รักมันกันจนหมดใจ หลวมตัวไปแล้วทำไงได้ ....

หลายเดือนก่อน(ช่วงที่ลูกแมวมาอยู่ใหม่ๆ)มีแมวป่วยอายุมาก
และเป็นตัวผู้ มาร้องคร่ำครวญอยู่หน้าบ้าน2-3 วัน

เราก็เอ.. หรือพ่อมันหว่า
แต่ก็รู้อยู่ในใจว่ามันกำลังจะตาย ก็เลยทำตามวิธีของชาวพุทธคือ
แผ่เมตตาและอุทิศบุญให้มันไป และบอกกับมันว่า
ไม่ต้องเป็นห่วงนะ จะดูแลลูกๆให้ เช้าวันถัดมา มันก็ตาย

และต่อมา แม่ของมันก็มาแสดงตัว เป็นระยะๆ
เราเลยแบ่งข้าวให้มันกินอยู่เสมอ จนทุกวันนี้ เนียนไปแล้ว
ไม่ไปไหนอีกเลย อยู่กับลูกๆของมันและกินอาหารเม็ดอย่างดี
อ้วนท้วนสมบูรณ์ บางวันอารมณ์ดีก็มาเล่นกับลูกๆ ของมัน

 

ลูกแมวสามตัวที่เลี้ยงไว้ สองตัวแรกทั้งรูปร่างหน้าตา
นิสัยพฤติกรรมเหมือนเจ้า สองตัวที่เคยเลี้ยงที่บ้านเก่า เอามากๆ
จนอดคิดไม่ได้ว่า หรือมันมาเกิดใหม่อีกครั้ง


ส่วนเจ้าตัวที่สามก็นิ่งเฉยมารยาทดีสุดๆ
จนต้องตั้งชื่อมันว่า “เจ้าเฉย”
เคยโพสต์เล่าแล้วนิ
รออ่านข้อความแปลชุดใหม่จากคุณชยุตค่ะ

ส่วนคุณmead สงสัยต้องตามมาอ่าน
เพราะช่วงนี้เห็นว่า มีงานเยอะ ปลีกตัวมาลำบากนิดนึง

ข้อความแปลชุดใหม่น่าจะมีคำตอบให้พวกเราในหลายๆเรื่อง
รออ่าน รออ่าน;k06<O</O<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอให้พวกคุณคิดกันไว้เสมอนะครับว่าเราสร้างสรรค์ทุกสิ่งได้จากปัจจุบัน เมื่อใดที่คุณคิดอยู่เสมอๆทุกนาทีทุกวินาทีว่าคุณเป็นผู้สร้างสรรค์ชีวิตของตัวเองเมื่อนั้นคุณจึงจะสามารถเป็นได้ทุกอย่าง กี่ชาติกันแล้วที่เรารอชาติหน้าหรือต้องการอีกชีวิตหนึ่งมาตลอด ถึงเวลาแล้วหรือยังครับที่จะหยุดที่ชาตินี้แล้วเชื่อในพลังอำนาจแห่งปัจจุบันที่ไม่มีวันหมด ทำชาตินี้ให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องรอชีวิตข้างหน้า

 

ยังอยู่นะครับ เข้ามาบ้างเป็นค้างคาว

 

<EMBED src=http://www.youtube.com/v/5f5MTY-S6iY&hl=en_US&fs=1?color1=0xe1600f&color2=0xfebd01 width=480 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always">​

Sometimes a Prayer Will Do ​

Sometimes we stumble
Sometimes we even fall
And we can't find a friend
Can't comprehend it all
And we are lost
With nothing to hold on to​

When we can't find the answer
Sometimes a Prayer will do
And though we wonder
Uncertain if we will get through
To face the future
Sometimes a prayer will do ​

Sometimes we reach
For what's not really there
Sometimes we lose our grip
Come tumbling through midair
And we are searching
For something to hold on to ​

When we can't find the answer
Sometimes a Prayer will do
And though we wonder
Uncertain if we will get through
To face the future
Sometimes a prayer will do ​

Then we are stronger
Somehow we know we will get through
To face the future
Sometimes a prayer will do ​

Yeah, we are stronger
Somehow we know we will get through
To face the future
Sometimes a prayer will do
Sometimes a prayer will do​

​

Lyrics: Sometimes a Prayer Will Do, Secret Garden [end]​

------------------------------------------​

<EMBED src=http://www.youtube.com/v/yO2QE1SNbd4&hl=en_US&fs=1?color1=0x006699&color2=0x54abd6 width=480 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>​

</EMBED>

 

มีใครดูเรื่อง Inception แล้วบ้างครับ

ผมว่าหนังเรื่องนี้เหมาะแก่การตีความและแลกเปลี่ยนในบอร์ดแห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง
ไปดูรอบแรกแล้วครับ บังเอิญเป็น Sound Track ก็เลยจับประเด็นไม่ค่อยได้
เพราะมัวพะวงเรื่องอ่าน sub-title อยู่ ทำให้ได้รสชาติไม่เต็มที่ ดูไปดูมา พาลจะคลื่นไส้ด้วยซ้ำ แต่เนื้อหาเรื่องนี้ไม่ธรรมดาเลย และเกี่ยวข้องกับ "ความฝัน" โดยตรง ตั้งใจว่าจะไปดูอีกรอบคราวนี้จะดูพากย์ไทยให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

 

ด้วยความเขินอายที่จะบอกว่าไปเทคคอร์สครูสอนโยคะมาครับ
แต่ตอนนี้ก็แค่พยายามสอนตัวเองไปก่อน และเล่นกับเพื่อนร่วมงานหลังเลิกงานนิดหน่อยครับ

 

อยากไปดูมากเลยล่ะคุณเวจจี้
คุณเซลล์ไปดูแล้ว ก็บอกว่า นักเรียนห้องฝันต้องไปดู...
เป็นเรื่องที่สอง ในปีนี้ ที่ข้าพเจ้า wanted มากๆต่อจาก Avatar

falky ดูยัง ไปดูกันมะ...

 

ข้าวปุ้น

อืมมม อย่างนั้นหรอกหรือครับคุณชยุต
งั้นผมจะรักเขาให้มากๆ ตั้งแต่ยังไม่เป็นไรนี่แหละ
แต่ตอนที่เขาป่วยก็ลุ้นเหมือนกัน
ดูเหมือนว่าเขาก็รับรู้ว่าเราห่วงเขามาก
เพราะหลังจากหายป่วยดูเขารักเรามากๆ เลย

 

ซู้ดยอด คุณกุญแจไขปริศนา สุโค่ย
ชอบมากจนปล่อยผ่านไปเฉยๆบ่ได้ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ

ปล ใครดูหนัง inception แล้ว มาเล่าบ้างนะ เรายังไม่ได้ดูเลย :'(
อีกสองเรื่องที่อยากแนะนำ จากไดเร็กเตอร์ คนเดียวกัน Christopher Nolan
Memento (2000) กับ The Prestigue (2006)

 

หุหุ...ย่องมาดูด้วยคน

 

อิอิ งานนี้ถ้าเค้ามาพบกันจริงๆ ก็ต่างคนต่างวิ่งล่ะครับ...ลิ้นยาวซะ บรื๊อออ..เลย

อยากจะขออนุญาตินำข้อความของคุณ VeggieGuy จาก E-mail มาลงไว้หน่อยน่ะครับ
ถึงจะมีเพียงไม่กีประโยคก็จริง แต่อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆนะครับเนี่ย
ผู้แปลหนังสือสนทนากับพระเจ้า เล่ม 1-2 กล่าวถึงโนวา อนาลัย (จาก เวป Oh My God)

"จะพูดอย่างไรดีเรื่อง "โนวา อนาลัย"
มันมีแง่มุมที่อยากจะแชร์หลายเรื่อง
จะพูดยังไงไม่ให้ออกเชิงงมงาย-ไสยศาสตร์
เป็นว่าแบบฝึกหัดปฏิบัติที่แนะนำโดย "โนวา-พี่นักเขียน" นั้น
ไม่เพ้อเจ้อและจะเป็นประโยชน์จริงครับ

คนๆนี้พูดอะไรมา หรือสอนอะไร พวกเราควรใส่ใจให้ดีๆเลยครับ
ยอมรับว่าในเว็บพลังจิตมีคนที่มีอภิญญาอยู่จริง
และบางคนที่คนในเว็บนั้นเชื่อถือว่ามีญาณวิเศษจริงๆ ก็ไม่มีอะไร
อาจมีวิชาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีอะไร

แต่ "โนวา อนาลัย" นี่ของจริงของของจริงเลยครับ คือสุดยอดที่สุดของเว็บนี้
(จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นระดับสุดยอดของประเทศนี้เลย)

เป็นคนละระดับกับ "ผู้วิเศษ" ทั่วไปที่เราคุ้นเคยแล้ว ในโลกนี้มีระดับนี้ไม่กี่คนเชื่อได้เลยครับ
ต้องขอโทษจริงๆ ครับที่พูดจาแล้วไม่เคลียร์ ไม่มีเจตนาทำลีลา
การพูดตุยตรงนี้มีข้อจำกัดมาก"