มาดูสมเด็จกัน

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย wasabi san, 25 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    การบ้านอีกแล้วนะคะ คุณ XL

     
  2. อังคาร99

    อังคาร99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2010
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +1,178
    ช่วงนี้ศึกษาหาความรู้ ต่อยอดไปเรื่อย อย่างองค์นี้ขออนุญาติ khun den ครับ เพื่อเปรียบเทียบ กระจายความรู้กันไป
    สรุป องค์นี้น่าจะเป็นพิมพ์เศียรบาตร อกกระบอก วัดระฆังครับ...(สากลไม่นิยม) แต่บางท่านก็อาจจะตีเป็น ลป.นาคก็เป็นได้เหมือนกันครับ....<!-- google_ad_section_end -->
    ยกตัวอย่างองค์ที่ผมยกมาให้ดูนี้ เศียรโตแบบนี้ เป็นพิมพ์ท่านแกะ หรือ ของหลวงปู่นาคครับ ( คุณ xlmen เคยวิจารย์แล้วครับ ผมก็ยังหาไม่เจอ ครับ ) รบกวนดูให้ใหม่ด้วยครับต้องขอโทษที่ซ้ำ ขอบคุณครับ
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_51.jpg
      DSC_51.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      351
  3. อังคาร99

    อังคาร99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2010
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +1,178
    แต่ก็ยังดีใจครับที่เพื่อนสมาชิกยังช่วยกันดู...ช่วยกันวิเคราะห์กล้าที่จะนำเสนอกัน...
    อย่างคุณบุพนิมิตและคุณอังคารนี่ก็ใช้ได้เลยครับ....อย่างน้อยกรุงศรีก็ยังไม่สิ้นคนดีครับ อิอิ (ช่วยๆ กันครับก่อนที่ผมจะเดี้ยงครับ...หุหุ)


    โหะๆๆๆมิบังอาจ จ้า......... ขอเป็นผู้เสาะหาความรู้ดีก่า ไม่ขอเปงผู้วิจาน เด้อ....... อิอิอิ
    ผมลองอ่านย้อนหลังกระทู้นี้มา อ่านแล้วมีความรู้สึกว่า คุณ wasabi san ฟันฝ่าอุปสรรค จากท่านเซียนทั้งหลายด้วยความสุขุม และเหล่าก้อนน้ำแข็งเรียกคุณ wasabi san ว่าพี่ได้ ถ้าใจไม่เย็นพอ และอยากสอนสมาชิกให้ดูสมเด็จเป็น หล่ะก็คุณ xlmen ก็คงไม่ได้มาให้ความรู้ รายละเอียด ยิบ...... อย่างทุกวันนี้แน่ ป่านนี้ปิดกระทู้ไปแล้ว
    อนุโมทนา ในการให้ความรู้กับสมาชิกด้วยครับ สุดโค่ยจิงๆ ส่วนตัวผมต้องหาความรู้ต่อเพื่อดูพระสมเด็จให้เป็นเอง อิอิอิ
     
  4. THEP TRANG

    THEP TRANG Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +38
    สวัสดีครับ คุณอังคาร99 ใช่ครับสมเด็จมีฟันหนูด้วยอยากให้คุณ xlmen บอกเลยครับตรงๆ
    ขอบคุณครับ
     
  5. krit90

    krit90 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +2,222
    ใช่ครับที่กระทู้นี้ต้องบอกคุณภาพครับ และเป็นกระทู้ที่ดี..เจตนาดี..ผมเห็นด้วยคนครับ ทั้งการวิเคราะห์ต้องบอกว่าได้ความรู้ตามหลักวิชาการ มีทั้งเหตุและผลจากการวิเคราะห์ และสรุป ทั้งการใช้คำที่นุ่มนวลและสุภาพ ให้เกรียติกับผู้นำพระมาโพสเพื่อสอบถาม ที่มีทั้งพระแท้และไม่แท้(พระล้อพิมพ์ พระแกะพิมพ์)
    มีประโยชน์จริงๆ ครับ:cool::cool::cool:
     
  6. พ่อเลี้ยง2

    พ่อเลี้ยง2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +838
    <LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
    [​IMG]
    พระสมเด็จองค์นี้ของใครหรือครับคุณอังคาร99
    ผมเปิดกระทู้ ดูข้ามไปหรือเปล่า ก็ไม่ทราบ พอหลายๆหน้าชักจำไม่ได้
    เนื้อพระองค์นี้ดูเข้าท่าดีนะครับ แต่ไม่เห็นด้านหลังองค์พระ
     
  7. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ตอบคุณอังคาร และคุณ เทพฯ

    [​IMG]
    การที่พิมพ์มีฟันหนูให้เห็นนั้นยังมิใช่ข้อยืนยันว่าถ้ามีแล้วจะต้องเป็นพระสมเด็จแท้เสมอไปนะครับ.....
    ถ้ามีฟันหนูแล้วพิมพ์ถูก เนื้อถูก มวลสารถูก ผงพุทธคุณในเนื้อพระถูก ตัวประสานเนื้อถูก ความเก่าถูก แบบนี้จึงจะสรุปได้ร้อย % ว่าแท้ครับ.....

    แต่ถ้ามีฟันหนูแล้ว ข้ออื่นถูกหมดแต่ผงพุทธคุณหายไป ...
    ผมก็ต้องปรับระดับความน่าเชื่อถือลงตามส่วนแหละครับ....

    อย่าลืมครับว่า...พระสมเด็จนั้นมีปลอมมาตั้งแต่สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่แล้วนะครับ...
    ชาวบ้านที่มาช่วยเจ้าประคุณท่านพิมพ์พระก็มีเป็นจำนวนมาก....ดังนั้นกรรมวิธีการผลิตชาวบ้านที่มาช่วยงานย่อมทราบดีครับ....

    เผลอๆ กรอบบังคับแม่พิมพ์ก็อาจจะหลุดไปอยู่กับมือดีฉกของวัดไปก็อาจจะเป็นได้เหมือนกันครับ....
    นี่ยังไม่คิดถึงข้อที่เข้ามาช่วยกดพระแล้วขโมยแม่พิมพ์ไปด้วยเป็นของแถมนะครับคุณอังคาร....555+

    ด้วยเหตุนี้ในการดูพระสมเด็จที่ดูยากจริงๆ ก็คือ "พระที่ทันยุค" (แต่สมเด็จไม่ได้สร้าง)
    และมีลักษณะผ่านเกือบจะหมดทุกข้อ....แบบสมเด็จยายขำ เป็นต้น สิ่งเดียวเท่านั้นที่พระปลอมไม่สามารถจะปลอมได้ก็คือ ผงพุทธคุณในเนื้อพระ....

    ถ้าคนยุคนั้นรู้สูตรของท่านก็ไม่ยากอะไรที่จะปลอมพระของท่าน....
    โดยการขโมยพิมพ์ก่อน + กรอบบังคับแม่พิมพ์เป็นของแถม อิอิ....

    ส่วนผงพุทธคุณก็คงจะไม่ยากอีกเช่นกัน...หาดินสอพองมาผสมหยาบๆ ก็น่าจะใช้ได้อยู่เหมือนกันนิ....อิอิ
    จุดตายเรื่องผงพุทธคุณในเนื้อพระนั้นยังมีอยู่ครับแต่ผมขอกั๊กไว้หน่อยเถอะครับ...กลัวมือดีจะเอาไปทำปลอมสำเร็จไม่งั้นหละหมดท่ากันเลยครับ หุหุหุ

    ถ้าจะสรุปให้อีกรอบ....ก็ต้องสรุปเหมือนเดิมครับว่า 40-60 ชอบ 40% สงสัยหรือไม่มั่นใจ 60% ครับ
    บางทีอาจจะแท้ก็ได้ครับ....อย่าเอาอารมณ์ผมเป็นเกณฑ์ครับขอให้เชื่อในสิ่งที่คุณเทพประสบอยู่จะดีกว่าครับ...

    ถ้าหากเราสัมผัสได้ถึงพลังเมตตาในองค์พระเช่น...ไปซื้อของแล้วแม่ค้าเห็นหน้าแล้วชอบเราใจดีแถมหมู ไก่ กุ้ง+ไข่ดาว แต่คิดราคาเท่าเดิมไม่คิดเพิ่มนั่นแหละครับชัดเลยพุทธานุภาพแน่ๆ....
    และก็อย่าเข้าข้างตัวเองหละครับการที่แม่ค้าให้เรามาเยอะคงจะไม่ใช่เพราะเราหล่อหลอกครับ 5555+
     
  8. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    [​IMG]
    พิมพ์นี้น่าจะเป็นช่างสิบหมู่แกะพิมพ์ถวายนะครับ....ไหล่หนาล่ำเป็นเอกลักษณ์ทางศิลป์ของนายเจิม-จอน วงศ์ช่างหล่อ....
    ที่พยายามแกะพิมพ์ให้เหมือนกับพิมพ์หลักของหลวงวิจารเจียรนัยครับ....
     
  9. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
     
  10. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    แหมแหมแหม คุณพี่ XL ขา ตื่นเช้ามา ยายังสงสัยอยู่เลย ว่าทำไม มันคันยิกยิกยิก
    ( ไม่ได้อาบน้ำ่ก่อนนอนแหงเลย พิมพ์ตัวเล็กๆคนอายุมากจะได้อ่านไม่เห็น) ที่ว่าจะหาหมัดไฟ ก็เพราะอยากทราบความเป็นมา ว่าหมายถึงอะไร เกิดขึ้นได้ในกรณีใด และ ชอบขึ้นบนพื้นผิวแบบไหน และอีกมากมายคะ อยากรู้คะ อยากรู้ สนุกดีหาคำตอบ ที่ตัวเองไม่เคยรู้ เหมือนเดินตามรอยเท้า สัตว์ ว่าเป็นสัตว์ชนิดไหน อาศัยอยู่แบบไหน มาจากที่ใด ประมาณนี้คะ คุณ XL ขาาาาา[​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. อังคาร99

    อังคาร99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2010
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +1,178
    ขอบคุณครับคุณxlmen ส่วนคุณพ่อเลี้ยง2 อยากดูเพิ่มอีก จัดให้ครับ เพื่อความรู้กันในผู้อยากศึกษาบูชาสมเด็จท่าน จะได้รู้ว่า
    พิมพ์ทรงแบบนี้ทั้ง 3 แบบ
    หรือเนื้อมวลสารแบบนี้
    ดูเก่า และแกร่งแบบนี้
    คราบเก่าที่ฝังลึกแบบนี้
    การแตกลายงาแบบนี้ทั้งหน้า และหลัง
    การยับย่นของผิว
    ควรหนีห่าง หรือรีบเก็บบูชา ขึ้นอยู่ที่ใจเราเองครับ มีของผม 1 องค์ของเพื่อน 2 องค์ครับ ดูแล้วต่างพิมพ์กัน มีมาให้ชม 3 องค์ ส่วนเนื้อมวลสารคล้ายกัน จะว่าเหมือนกันเด๊ะก็ได้ ดูพร้อมกันเลยนะครับ
    ดูศึกษากันครับ จะเก๊ จะแท้อยู่ที่ใจเราเพื่อบูชา หรือเพื่ออะไรหล่ะ
    ส่วนผม บูชารักษาต่อครับ อิอิอิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_51.jpg
      DSC_51.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      162
    • DSC_52.jpg
      DSC_52.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      153
    • DSC_53.jpg
      DSC_53.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      171
    • DSC_54.jpg
      DSC_54.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      162
    • DSC_55.jpg
      DSC_55.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      546
    • DSC_56.jpg
      DSC_56.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      147
  12. THEP TRANG

    THEP TRANG Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอบคุณมากครับคุณ xlmen ที่ช่วยแนะนำครับ
    ขอบคุณครับ
     
  13. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    [​IMG]
    ศึกษาจากหัวข้อด้านบนนะคะ แต่ละข้อนะคะ
    ต้องขอคำอธิบายอีกครั้ง เพื่อความเข้าใจของตัวเองและเพื่อนสมาชิกที่เข้ามาใหม่นะคะ
    ( ต้องรบกวนพี่ๆและ ต้องขออภัยหากคำถามสร้างความรบกวนคะ)

    1 คราบน้ำเหลืองๆที่กรอบซุ้ม คือ คราบของอะไรคะ น้ำอ้อยเชื่อม หรือ ตังอิ๋ว หรือ อื่นๆ
    2 เจ้าลูกศรที่ชี้ไป สีออกชมพู อ่อนๆ เป็นสีของอะไร ในส่วนผสมของพระสมเด็จคะ
    3 คราบที่แตกราน แบบกระจาย สีออกน้ำตาลแบบนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไรแล้วทำไมจึงมีสี
    น้ำตาลแบบนี้คะ
    4 คราบที่ขึ้นขาว เคลือบบนผิวพระสมเด็จแบบที่ลูกศรชี้ เป็นคราบของน้ำปูน หรือ แป้งใช่
    ไหมคะ
    5 รอยที่ขึ้นตรงซอกแขน เหมือนรอยขนปูนที่ยังไม่แห้งแล้วเอามือไปแตะเล่น เกิดจากการ
    ยุบตัว และ คราบของน้ำปูน และ บรรยากาศรอบข้างทำปฎิกิรยา ใช่หรือเปล่าคะ แล้วเรา
    จะรู้ได้อย่างไรว่า รอยที่เกิดนั้น เป็นรอยทำปฎิกิริยาเก่าจริงๆคะ
    6 รอยที่เห็นถือ ว่าเป็นรอยไม้กุ๊กไก่ ที่ซีดจางได้หรือไม่คะ

    ขอบคุณคะ ที่ให้ความรู้พื้นฐานในการวิเคราะห์ผิวเนื้อของพระสมเด็จ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ต้องขอบคุณท่าน xl ทุกๆครั้ง...ที่เมตตาแบ่งปันองค์ความรู้ของตัวเองออกมาเป็นคำพูด คำอธิบาย ได้น่าเก็บไปเป็นวิธีการของตัวเอง....

    ได้รับคำขอบคุณบ้าง...คำตำหนิบ้าง...น่าเหนื่อยแทนครับ...
    แต่ด้วยจิตที่มีเมตตา ของท่าน xl จนมาถึงวันนี้...พิสูจน์ชัด ในภูมิปัญญาด้านพระสมเด็จของท่าน xl ว่า..."สุดยอดดดดด" (ใจท่าน xl ก็สุดยอดเช่นกัน)

    จริงๆแล้ว...200 กว่าหน้าของกระทู้นี้...ผมว่ายังคงไม่ maturity นะครับ...แลหากท่าน xl และท่าน wsb ไม่หมดความเมตตา (ท้อ) ไปซะก่อน...ผมคิดว่าคงจะ growth ต่อไปได้อีก......

    200 กว่าหน้าที่ผมเป็นแอบเป็นแฟนประจำอยู่นี้....เกิดองค์ความรู้กับผมอันดับแรกครับ.....
    1. พระสนาม...เป็นอย่างไร ???? พิมพ์..เนื้อ...คราบ...เก่า...กร่อน ฯลฯ
    2. พระสมเด็จฯพิมพ์ไม่นิยม...เป็นอย่างไร ??? พิมพ์...เนื้อหามวลสาร...ตัวประสาน น้ำมันตั้งอิ้ว/น้ำอ้อยเคี่ยว/ข้าวสุกบด/น้ำผึ้งป่า...คราบกรุ คราบลัก/ชาด/ทอง...หด ยุบ กร่อน...ปูนเป็น/ปูนตาย... ฯลฯ
    3. พระสมเด็จล้อพิมพ์...เป็นอย่างไร ??? ล้อพิมพ์ ล้อมวลสาร..ล้อคราบไคร/ความเก่า ฯลฯ
    4. สำคัญที่สุด...ได้พระสมเด็จฯฟรีจากกัลยาณมิตรผู้เมตตาหลายท่าน...ฮ่าๆๆๆ

    ผมเป็นกำลังใจให้ท่าน xl ทุกๆวันนะครับ...ท่านเจ๋งที่สุดในกระทู้นี้ด้านข้อมูลของสมเด็จโตครับ...สมฉายาในใจผม "ขงเบ้ง" (ท่าน wsb เป็นปรมาจารย์สุมาเต็กโชครับ...ชอบแอบหลบไปแสวงหาความสุขเพียงลำพังในป่าเขา ฮ่าๆๆๆ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2010
  15. kepper

    kepper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +128
    พิมพ์ฐาน 7 ชั้นองค์นี้หน้าเม็ดพริกไทยจัดเป็นบล๊อคแรก....
    หูบายศรี มีคอ มีพระเกศ ไหล่ยก แขนกาง ไหล่ขวาของพระสูงกว่าไหล่ซ้าย ฐานล่างสุดเรียวแหลมกระดกขึ้น ฐานที่ 4 ด้านขวาขององค์พระสั้นกว่าปกติ....


    ถ้าไปพบเจอพระพิมพ์แบบนี้บอกได้คำเดียวว่า "โดน"...........
    ...
    ..
    .
    "โดนใจมากครับ" อิอิ..หุหุหุ

    ลักษณะเนื้อเป็นปูนเปลือกหอยผสมน้ำอ้อยเคี่ยวสีกลมกลืนสวยมีศิลป์สุดยอดมากครับ...
    การหดตัวของเนื้อมีทั่วองค์เยี่ยมจริงๆ ครับ....

    สรุป พระสมเด็จเกศไชโยพิมพ์ฐาน 7 ชั้น ถือเป็นของดีจากอ่างทอง...ผู้ครอบครองคือคุณ kepper<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4018379", true); </SCRIPT> ผู้นี้นี่เอง.......หุหุ
    (ถ้าไม่ชอบก็ปล่อยผมได้นะครับขอหลักพันต้นๆ นะครับเพราะกระตังส์ผมจำกัด...อิอิ)

    ขอบคุณ คุณ xlmen ที่ช่วยดูให้ ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_2321.JPG
      SAM_2321.JPG
      ขนาดไฟล์:
      508.8 KB
      เปิดดู:
      315
  16. kepper

    kepper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +128
    รบกวน คุณ xlmen ช่วยดูพระสมเด็จปิลันทน์ ให้ด้วย ครับ มี 2 องค์ ครับ ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_2283.JPG
      SAM_2283.JPG
      ขนาดไฟล์:
      96.2 KB
      เปิดดู:
      130
    • SAM_2287.JPG
      SAM_2287.JPG
      ขนาดไฟล์:
      198.1 KB
      เปิดดู:
      112
    • SAM_2289.JPG
      SAM_2289.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109.1 KB
      เปิดดู:
      89
    • SAM_2296.JPG
      SAM_2296.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      132
    • SAM_2297.JPG
      SAM_2297.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      113
  17. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ขอบคุณๆ บุพนิมิตครับที่เป็นกำลังใจให้ครับ....ผมเองก็หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าท่านอาจารย์สุมาเต็กโช (คุณวาซาบิซัง) จะหวนกลับมาโดยเร็ววันครับ หุหุ....

    คุณบุพนิมิตชอบศึกษาในพิชัยยุทธ์สามก๊กแบบนี้....นับถือครับนับถือ...ตอนนี้ผมก็กลัวใจตัวเองว่าจะกลายเป็นโจโฉแตกทัพเรือวันไหนก็ม่ายรู้ครับ อิอิ......

    ================================================
    มาต่อกันที่คำถามปริศนาชวนผมร่วงของคุณยากันต่อเลยนะครับ....หุหุ
    [​IMG]

    1. คราบน้ำเหลืองๆที่กรอบซุ้ม คือ คราบของอะไรคะ น้ำอ้อยเชื่อม หรือ ตังอิ๋ว หรือ อื่นๆ ?
    ตอบ ไม่ใช่ทั้งน้ำอ้อยเชื่อม และน้ำกล้วยเชื่อมครับคุณยา....อิอิ สีเหลืองที่เห็นเป็นปฏิกริยาที่เกิดภายในเนื้อพระที่ผ่านการลงรักน้ำเกลี้ยงมาครับ....

    ส่วนที่ลงรักน้ำเกลี้ยงเมื่อผู้ใช้ห้อยคอ น้ำก็ดี ,เหงื่อก็ดีก็จะทำปฎิกริยากับผิวพระภายใต้รักน้ำเกลี้ยงทำให้สีเนื้อพระดูเข้มขึ้นครับ...

    ------------------------------------------------------------------------------------------------
    2. เจ้าลูกศรที่ชี้ไป สีออกชมพู อ่อนๆ เป็นสีของอะไร ในส่วนผสมของพระสมเด็จคะ ?
    ตอบ ถ้าพิจารณาจากรูปถ่ายโอกาสวิเคาะห์พลาดเพราะสีเพี้ยนก็จะมีตามมาครับ....สีที่เห็นผมตีว่าเป็นคราบรักน้ำเกลี้ยงครับ...ถ้าส่ององค์จริงไม่เป็นตามรูปก็อาจจะตีว่าเป็นเศษว่านครับ

    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    3. คราบที่แตกราน แบบกระจาย สีออกน้ำตาลแบบนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไรแล้วทำไมจึงมีสีน้ำตาลแบบนี้คะ ?
    ตอบ คราบที่เห็นคือปฏิกริยาของรักน้ำเกลี้ยงที่แทรกตัวลงในเนื้อพระแล้วเกิดการหดตัวของเนื้อพระทำให้เกิดเป็นลวดลายดังกล่าวขึ้นครับ....

    ------------------------------------------------------------------------------------------------
    4. คราบที่ขึ้นขาว เคลือบบนผิวพระสมเด็จแบบที่ลูกศรชี้ เป็นคราบของน้ำปูน หรือ แป้งใช่ไหมคะ ?
    ตอบ ถ้าเป็นคราบปูนก็ต้องไม่ถูกกับขมิ้นนะครับคุณยา อิอิ...ผมคิดว่าน่าจะเป็นคราบแป้งโรยพิมพ์มากกว่าครับ


    ------------------------------------------------------------------------------------------------
    5. รอยที่ขึ้นตรงซอกแขน เหมือนรอยขนปูนที่ยังไม่แห้งแล้วเอามือไปแตะเล่น เกิดจากการ ยุบตัว และ คราบของน้ำปูน และ บรรยากาศรอบข้างทำปฎิกิรยา ใช่หรือเปล่าคะ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า รอยที่เกิดนั้น เป็นรอยทำปฎิกิริยาเก่าจริงๆคะ
    ตอบ ถ้าหมายถึงจั้มปูน...ในการพิมพ์พระสมเด็จจั้มปูนนั้นเกิดขึ้นได้ครับแต่จะเกิดขึ้นเห็นเพียงบางๆ ไม่เด่นชัดมากนัก....ถ้าเป็นแม่พิมพ์สมัยใหม่พื้นผิวจะเป็นเนื้อโลหะที่มีความเรียบมากถ้าไม่ใช้แป้งโรยพิมพ์แล้วกดมวลสารลงไปก็จะทำให้เกิดจั้มปูนขนาดใหญ่ขึ้นได้ครับ...แต่ถ้าลงแป้งโรยพิมพ์มากไปก็ดูออกอีกว่าเจตนาทำใหม่....

    การจะดูว่าจั้มปูนเก่าจริงหรือไม่ก็คือ การดูว่าเนื้อปูนสีใหม่หรือสีเก่าครับ....ถ้าปูนสีเก่าก็คือเก่า ถ้านึกไม่ออกลองดูปูนซีเมนต์ที่เสาไฟฟ้าก็ได้ครับคุณยา...อิอิ

    ------------------------------------------------------------------------------------------------
    6. รอยที่เห็นถือ ว่าเป็นรอยไม้กุ๊กไก่ ที่ซีดจางได้หรือไม่คะ ?
    ตอบ ที่เห็นคือเส้นเกสรดอกบัวครับ...เจ้าประคุณสมเด็จท่านจะใส่เกสรบัวอยู่หลายชนิดครับมีทั้งบัวหลวง บัวเผื่อน บัวสัตบงกต ที่เหลือจำชื่อไม่ได้ครับ อิอิ...ว่าง่ายๆ ก็คือ ใครนำบัวชนิดใดมาถวายท่านก็นำมาใส่หมดแหละครับ....หุหุ
     
  18. kepper

    kepper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +128
    รบกวนผู้รู้ เรื่องพระเนื้อดิน ช่วยดูพระผงสุพรรณ ให้ด้วยครับ
    เป็นพระที่บ้านครับ เห็นเป็นแผ่นทองเก่าตกองค์พระครับ
    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_2317.JPG
      SAM_2317.JPG
      ขนาดไฟล์:
      521.5 KB
      เปิดดู:
      164
  19. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ฮ่าๆๆๆๆ.....ผู้รู้แจ้งในเรื่องใดๆ..ย่อมตอบคำถามได้ชัดเจนในเรื่องนั้นๆ...สุดยอดครับ....

    ผมอ่านสามก๊กไม่กี่เที่ยวหรอกครับ...ตอนอยู่มัถยม ชอบอ่านครับ...หนังสือมันเก่า ปกก็แข็ง หนาดี...เลยชอบแอบมาอ่านๆ...
    ตอนมัถยม...ผมชอบอ่านหลายเรื่องครับ...ที่จำได้ดีก็...
    รามเกียรต์...สุดยาวเช่นกัน...
    พระอภัยมณี...ก็ยาวอ่ะนะ...
    ขุนช้างขุนแผน...นี่ก็สุดๆ หลายตอน....
    สามเรื่องนี้...ร้อยแก้ว ชอบมากๆ...เรื่องขับเสภา..ผมก็เสียงดีไม่เป็นรองใครนะ (คุยซะหน่อย อิอิอิ)

    ร้อยกรองที่ชอบมากๆ...ก็สามก๊ก ของท่านพระยาพระคลัง (หน)...ตอนเด็กๆอ่านเพราะชอบ แค่รอบเดียวครับ...อ่านไปจีบรุ่นน้องไป ฮ่าๆๆๆๆ (โม้ไปเรื่อย อิอิอิ)

    ตอนโตเนี่ย...ดูหนังทีวีช่อง 9...ดูมั่งไม่ดูมั่ง...ส่วนหนังใหญ่ โจโฉแตกทัพเรือ ก็ copy ต่อจากลูกน้องมาดูในคอมฯ (อิอิอิ...ฟรีอีกแระ ฮ่าๆๆๆ)

    ช่วงต่อสู้กับมะเร็งตับ ปี 52 ...กลับไปอ่านฉบับคนขายชาติของคุณเรือง...โหลดจากเนต เช่นกันครับ (ฟรี)....อ่านเพื่อลืมความทุกข์ และฝึกจิตให้ปล่อยวางจากทุกข์ในใจครับ...ได้ผลดีมากกกกกก ครับ...

    สุดท้าย...ได้ dvd ฉบับนักบริหาร ของเพื่อน...มา copy ไว้ใน external HDD ...ฟรีอีกน่ะแระ...อ.เจริญท่านวิเคราะห์ได้ดีมากๆเลยครับ...เวลาต้องหาคำตอบในงานที่ทำ ช่วยตีโจทย์ business problem ได้ดีจริงๆครับ...

    ตอนนี้เลยใช้เป็นส่วนหนึ่งในการบริหารงานที่รับผิดชอบอยู่ครับ...ท่าน xl

    ขงเบ้งเก่งกาจเหนือผู้อื่นเพราะรู้จักใช้พลังจากธรรมชาติ...ดิน น้ำ ลม ไฟ....
    แต่ผมกลับมองว่า...แท้จริงแล้ว ทั้งหมดทั้งปวงล้วนเกิดจากพลังธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวของขงเบ้งเอง...คือ "พลังแห่งปัญญามนุษย์"

    ผมเห็นมันในตัวท่าน xl ครับ....(เอาใจกัยสุดๆ ฮ่าๆๆๆๆ)
     
  20. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    แหมะ....คุณบุพนิมิตก็ชมผมเกินไปครับ...มิกล้าครับมิกล้า...
    ขงเบ้งท่านเป็นยอดอัฉริยะบุคคลผมเองก็ชื่นชอบท่านเช่นกันครับ....และก็อดสงสารท่านไม่ได้ด้วยครับ....

    มีตอนนึงที่จูกัดเหลียง (ขงเบ้ง) เปรยออกมาว่า

    "เรานี้อาภัพนักที่ต้องเกิดมาในกลียุค...หากเลือกได้เราก็ไม่อยากเกิดมาในยุคที่บ้านเมืองมีศึกสงครามแบบนี้....และการที่เราต้องใช้ปัญญาเข่นฆ่าศัตรูก็มิได้เป็นสิ่งที่เราปรารถนาแต่จำเป็นต้องทำเพราะสถานการณ์บ้านเมืองบังคับ....ดังนั้น การที่เราต้องอายุสั้นก็เพราะกรรมข้อนี้แหละ"
    แหะๆ จำผิดจำถูกปนๆ กันไปนะครับ...แบบว่าจำมาจากหนังหนะครับ อิอิ

    ผมเองก็คงมิอาจจะไปยกตนเทียบกับวีรบุรุษเช่นท่านขงเบ้งได้หรอกครับ.....(แต่ถ้าคุยกันเล่นๆ ชิวๆ ไม่มีปัญหาครับ)

    ยังงัยก็ขอเอาใจช่วยให้คุณบุพนิมิตหายป่วยจากโรคร้ายไวๆ นะครับ....และถ้าเป็นไปได้น่าจะลองใช้วิธีฝึกสมาธิหมั่นเข้าฌาน 4 บ่อยๆ จะช่วยทุเลาอาการปวดลงได้มากครับ....

    ก่อนจะเข้าฌานก็ต้องพิจารณาสังขารว่าเป็นที่ตั้งของทุกข์...
    ทุกข์ทั้งหลายเกิดจากจิตเราเองที่เข้าไปยึดว่านี่คือ แขน นี่คือขา นี่คือตัวเราที่ปวด นี่คือตัวเราที่เจ็บ นี่คือตัวเราที่ร้อน นี่คือตัวเราที่หนาว....

    ถ้าความยึดถือว่านี่คือตัวเรา...ของเรายังไม่คลายตัวลงความทุกข์ที่เกิดจากการนำจิตเข้าไปยึดเกาะสังขารก็จะทำให้จิตพลอยทุกข์ตามสังขารร่างกายตามไปด้วย....
    วิธีฝึกจิตที่ผมนิยมมากก็คือ เวลาอาบน้ำเย็นๆ ให้ถามจิตเราว่ากายนี้เย็นจริง แล้วทำไมจิตต้องไปสนใจว่าเย็นหรือไม่เย็น เย็นก็คือเย็นไม่ทุกข์ตามไม่หนาวตาม ไม่สนใจ....

    ถ้าจิตตัดสนใจในน้ำเย็นได้...ขณะที่ตักน้ำราดตัวนี่จะลืมไปเลยว่าน้ำเย็น...

    แหมะวิธีนี้เหมาะมากครับคุณบุพนิมิตเพราะประหยัดไฟไม่ต้องต้มน้ำอาบครับ....หุหุหุ
    คุณบุพนิมิตจะลองนำไปใช้ประโยชน์ดูก็ได้นะครับ.....ผมไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ....อิอิ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...