999 ประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ 999

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ดู๋ดี๋, 27 มิถุนายน 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. พนมมาลัย

    พนมมาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +173
    วันจันทร์ที่7กุมภาพันธ์2554เวลาประมาณ08.00น.ทางสุสานทุ่งมนจะมีการจัดทำบุญถวายให้หลวงปู่มีสุขภาพแข็งแรงครับขอเชิญทุกท่านร่วมงานครับ
     
  2. modxsuper_1

    modxsuper_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +373
    ขอบคุณมากครับที่เข้าใจตาเสกของผม ผู้จัดการที่เขาตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 53น่ะ เป็นท่านกรรมการผู้จัดการอย่างเป็นทางการ แต่พวกผมยกตำแหน่ง ผู้จัดการ(ไปทั่ว) ณ.สุสานทุ่งมนให้เสกสรรค์ หรือ โป๊ย ไปนานแล้วครับ ใครจะด่าใครผมไม่ค่อยจะสนใจหรอกครับ แต่ถ้าด่าเพื่อนผมคนนี้ ปรี๊ด.................................................ครับ
     
  3. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ขออนุโมทนาครับ:cool:
     
  4. ToPiCaL

    ToPiCaL เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,475
    ค่าพลัง:
    +4,585
    เห็นโต้กันเรื่องจัดสร้าง
    อยากทราบว่ามีประกาศเหตุผลออกมาหรือเปล่าครับว่าทำไมกรรมการไม่อนุญาติให้สร้าง
    กรรมการเคยเห็นจดหมายที่หลวงปู่อนุมัติหรือเปล่าครับ
     
  5. ta_eka

    ta_eka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +2,190
    พึ่งเห็นรูปแทนตัวของคุณ พนมมาลัย ที่เป็นพระจอมขวัญสวยดีครับ ไม่ทราบว่าที่สุสานยังมีไหมครับ ใครเป็นคนจัดสร้าง ราคาเท่าไหร่ มีกี่เนื้อ จำนวนสร้างอย่างละเท่าไหร่ เสกกี่ครั้ง วัตถุประสงค์ในการสร้างเป็นอย่างไร กรรมการวัดรับรองและเป็นที่ยอมรับในวงการไหมครับ รายได้ถวายหลวงปู่เท่าไหร่ บล็อกทำลายหรือยัง มีหนังสือขออนุญาติหลวงปู่ไหมครับ ใครรู้ช่วยตอบพร้อมลงรูปเป็นลำดับตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการทำลายบล็อกก็ดีนะครับสนใจครับสวยดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2011
  6. modxsuper_1

    modxsuper_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +373

    ....เห็นด้วยครับเห็นด้วย เถ้าแก่ลั้งเป็นผู้ใหญ่ และเป็นพ่อค้าที่ชาญฉลาดครับ แค่เราอ่อนเข้าไปหาเขามันก็จบ เขาก็ต้องเล่นตามบทบาทที่ได้รับมา เราก็แค่เล่นไปตามบทบาทที่ถูกที่ควรเรื่องมันก็ไปได้สวย แต่ถ้าเรากลับกลายเป็นอย่างอื่นไปเสียก็จบครับ แต่จบไม่ค่อยสวย
     
  7. modxsuper_1

    modxsuper_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +373

    ...หึ หึ ผมก็คิดว่าทำอย่างที่ว่า คือประกาศบอกรายละเอียดต่าง ๆ นี่ป็นแนวทางที่น่าสนใจครับ และผมเองก็ชื่นชมอยู่มากทีเดียว แต่คุณครับถ้าไม่ทำอย่างที่คุณว่าคือไม่ดีใช่มั๊ย แต่เท่าที่พอทราบพอลาง ๆ ของเขาดีจริง ๆ ครับ ผมไม่ใช่นักพุทธพาณิชย์ แต่ก็ชอบที่จะสร้างพระเครื่องเพื่อเป็นการสร้างบุญกุศล และพระที่สร้างร่วมกันกับเพื่อนหลาย ๆ ครั้ง ขอบอกว่าขั้นตอนมันยุ่งยาก และรายมีละเอียดที่เราต้องลงไปเก็บงานเองกับมือ แทบจะทุกขั้นตอน มันไม่ง่ายครับ
    ...ต้องทำให้ดีจริง ๆ ทำแล้วมองฟ้าก็ไม่กลัว มองดินก็ไม่ละอาย เพราะฉนั้นผมจึงนิยมพระเครื่องที่คนสร้างเขาทำดีจริง ๆ งานละเอียดลออจริง ๆ และเจตนาบริสุทธิ์ สำหรับตัวผม ผมว่า พระจอมขวัญ นี่ ของเขาดี..จริง ๆ ครับ อยากทราบว่าดียังไงลองติดต่สอบถามที่ สุสานทุ่งมนเองเลยดีกว่าครับ จะได้รู้ลึก รู้จริง ทั้งในเรื่องขั้นตอนการสร้างพระจอมขวัญ และอีกหลาย ๆเรื่อง
     
  8. kanyaw

    kanyaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +204
    ด้วยความเคารพครับ สรุปคือจะต้องเลียแพล่บๆใช่ใหมครับถึงจะดี ถึงจะถูกต้อง ไม่ใช่แล้วมั้งครับ คนดีผมไม่กลัวหรอกครับ ผมกลัวแต่คนไม่ดี

    จะให้เข้าหาก้หาว่าประจบประแจง พอเข้าหาก็หาว่าไม่ถูก ผู้ใหญ่แบบนี้พี่ว่าไงครับถ้าเป้นพี่ ถามหน่อย



    เหตุผลไม่ต้องมี เข้าใจลื้อ ว่าทำวัตถุมงคลแข่งกับทางสุสาน ลื้อก็ไม่ต้องเอามาเสก จะเอาใงก้ไม่บอก จะขอพบก็ไม่ยอมคุยด้วย ส่งแต่ลูกน้องมาคุย

    แบบนี้พี่ว่าดีใหมครับ แค่เข้าหาก็จบง่ายๆๆแบบนี้ใครก็พูดได้ครับ แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรกที่เอาพระบูชาขึ้นมาเสกก่อนครับ อยากทราบเหตุผล

    ผมเชื่อว่าเจตนาดีซะอย่างไม่จำเป็นต้องเลีย แล้วถ้าจะต้องประจบสอพอเพื่อจะให้บรรลุจุดประสงค์อย่างที่ใครคิดที่กำลังทำอยู่ คนที่อยากทำจนตัวสั่นก็ต้องรีบเข้าไปหาอยู่แล้วครับ ปัดแข้งปัดขา เลื่อยขาคนอื่น มันก็ต้องทำครับ เพราะมันโลภ พวกเราอยากได้บุญทำบุญกับหลวงปู่ ได้พระสวย เจตนาดี ก็แค่นั้นครับ

    ทุกคนก็มีศักดิ์ศรีครับ คนที่จองพระ ฉลองมงคล 93 มีศักดิ์ศรีครับ และเชื่อว่าได้รับการอนุญาติอย่างถูกต้อง
     
  9. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ความคิดเห็นของคนเรามีความแตกต่างกันได้ครับ มุมมองที่ต่างกัน ต่างกรรม ต่างวาระ ทำให้เราเห็นแตกต่างกัน แต่ความจริง ก็ยังคงเป็นความจริง ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ การแสดงความคิดเห็นก็สามารถแสดงกันไปได้ต่าง ๆ นา ๆ ตามที่เราเข้าใจ แต่สุดท้าย มันก็ต้องมาจบกันตรงที่ ความจริง

    เมื่อพูดถึง มุมของผู้จัดสร้างเป็นแบบนี้ แล้วในมุมของกรรมการเป็นอย่างไร ต้องอธิบายได้ครับ ต้องคุยกันไม่งั้นก็ไม่รู้เรื่อง ต่างฝ่ายต่างต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ลูกศิษย์ ลป. เหมือนกัน จะทำอะไรต้องโปร่งใส และอธิบายได้ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้ามองกันจริง ๆ แล้ว "ก็จะกลายเป็นเรื่องผู้ใหญ่รังแกเด็กไป"

    ในเบื้องต้นผมเองก็คงต้อง ดูผลงานของกรรมการที่แต่งตั้งใหม่ท่านนี้ก่อน ถึงจะให้เครดิตได้ เพราะเริ่มต้นก็ดูท่าไม่ค่อยจะดีแล้ว คำพูดก็ไม่น่าเชื่อถือ นัดหมายกันแล้วก็ไม่ยอมมา ตอนแรกบอกให้ไปพบที่ร้านในตลาด มาตอนหลังบอกให้ไปรอที่สุสานเลย สุดท้ายก็ส่งลูกน้องมาส่งข่าวว่า เถ้าแก่ยืนกระต่ายขาเดียวยังงัยก็ไม่ให้จัดพิธีปลุกเสก แล้วอย่างนี้จะให้ผมเชื่อถือได้ยังไง ถ้าท่านกรรมการอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ได้ ก็จะเป็นการดี ไม่ใช่แก่ตัวท่านเอง แต่รวมไปถึงส่วนรวม และบรรดาลูกศิษย์ทุกท่านด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2011
  10. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เราสามารถตรวจสอบได้มั้ยครับว่า เป็นเลข IP เดียวกันรึเปล่า ผมว่าไม่น่าจะยากนะครับถ้าพี่สงสัย
     
  11. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 14 คน ( เป็นสมาชิก 9 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>คชบุตร, kanyaw, ขอขวด, Magicbunny, ผู้นอบน้อมสุดใจ, คุณพ่อลูก2, smilemans, yimanan, BROSNAN

    ถ่ายรูปไว้เป็นที่ ระทึก ก่อนไปนอนครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. ToPiCaL

    ToPiCaL เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,475
    ค่าพลัง:
    +4,585
    เท่าที่อ่านมาผู้จัดสร้างอธิบายค่อนข้างชัดเจนเหมือนกัน
    รอฝั่งกรรมการออกมาชี้แจงบ้างครับ
     
  13. Magicbunny

    Magicbunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +614
    ผมในฐานะเด็กใหม่

    ไม่เคยไปที่วัด ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
    ได้รับข้อมูลจากที่อ่านผ่านข้อความทั้งหลาย
    (อันนี้ไม่ได้ว่าหรือตำหนิท่านผู้โพส(ทุกๆท่าน)นะครับ
    เพราะทางท่านผู้โพสก็แจ้งว่าได้โทรสอบถาม หรือ อยู่ในเหตุการณ์ในตอนนั้นๆ ซึ่งผมก็ได้รับทราบข้อมูลจากที่ทุกๆท่านโพสไว้-ต้องขอขอบพระคุณมากครับ)

    จะรบกวนสอบถามผ่านไปทาง ทางคณะกรรมการหน่อยครับว่า
    มีเหตุผลอะไร และเพียงพอไหม ที่ หลวงปู่อนุญาตให้จัดสร้างแล้ว
    แต่ทางคณะกรรมการมีมติ มิยอมให้ตั้งพิธีปลุกเสก

    ผมเข้าใจว่า ทุกๆท่านเป็นคนดี ยังไงอยากให้หันหน้าเข้าหากัน
    พูดคุยปรับความเข้าใจกันนะครับ

    เปิดใจคุยกันนะครับ

    ด้วยความเคารพ
     
  14. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    ตอบคุณ DOBBIE ผมเองก็ทราบดีว่าวันรุ่งขึ้นหลวงปู่มีงานที่วัดสะพานหัน ผมเองยังร่วมทำบุญไป 4000 บาท หลวงปู่แจ้งว่าให้ตระเตรียมให้เรียบร้อยในคืนนี้เพราะวันรุ่งขึ้น หลวงปู่จะไปวัดสะพานหันประมาณตี4 และให้ทำการโยงสายสินธ์เข้าไปยังห้องหลวงปู่ ในตอนแรกผมเข้าใจว่าหลวงปู่จะมานั่งอธิษฐานจิตข้างนอก ก่อนรุ่งสางประมาณตี3 หรือตี3 กว่า แต่วันนั้นอากาศค่อนข้างหนาว หลวงปู่ได้ทำการเสกและอธิษฐานจิตจากห้องของท่านมายังปรำพิธีพระบูชาทั้งหมด (หลายวาระหากหลวงปู่ไม่ค่อยแข็งแรงมักอธิษฐานเช่นนี้) เช่นเดียวกับงานออกพรรษาที่ผ่านมา และ โยงสายสินธ์จากปะรำพิธีบนปราสาทเพชรมายังห้องของหลวงปู่

    ปรากฏว่าเวลาประมาณตี2.30 น หลวงปู่ก็ออกมาจากห้องของท่านและกล่าวว่าอธิษฐานจิตเรียบร้อยแล้ว โดยกล่าวว่าอธิษฐานจิตตั้งแต่ก่อน 24.00 น หลังจากนั้นหลวงปู่ก็มานั่งที่ปะรำพิธีเพื่อถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และทางคณะศิษย์ได้ถวายรูปหล่อองค์ครูหลวงปู่ ขนาด 12 นิ้ว พร้อม ถวายขันครูแด่หลวงปู่หงษ์ เป็นอันเสร็จพิธี

    เรื่องนี้สอบถามได้จากคุณเสกสรร - หลวงพี่ถวิล -หลวงพี่ศุภกิจเองดูว่าปลุกเสกจริงหรือไม่อย่างไร แต่จะให้แน่ใจจริงถามหลวงปู่ดูเองก็ได้แต่อย่าดีกว่าไม่อยากดึงหลวงปู่มาเกี่ยวข้องของแบบนี้กรุณาอย่าขว้างหินถามทางครับมันไม่ดี และ ของแบบนี้เขาไม่พูดกันแบบล้อเล่นครับ มันบาป กรุณาอย่าชี้นำให้ผู้มาร่วมทำบุญกับหลวงปู่ไขว้เขว หรืออย่าพยายามดิสเครดิต ส่วนตัวผมเองโดนมาเยอะไม่เป็นไร แต่ทำอย่างนี้ดูเหมือนจะเอาหลวงปู่มาล้อเล่นไม่ได้นะครับ หลังจากเสร็จพิธีกำลังจัดของ ลุงสุเมย (ไม่รู้ว่ารู้จักหรือเปล่า) เดินออกมาบอกว่าหลวงปู่ให้มาชวนไปนั่งเรือเที่ยวกัน ไปถามกันเอาเองครับว่าจริงหรือไม่ ผมเองไม่ใช่เด็กเล่นขายของนะครับ พูดจริงทำจริง (ขออภัยขันเริ่มจะแตกแล้ว ผมเองค่อนข้างที่จะออมคำพูด และ ให้แง่คิดหลายๆท่านโดยอ้อมมาตลอด ไม่พูดจากระทบใครตรงๆ หรือพูดความจริงใดๆ ที่จะทำให้ทุกคนเลื่อมเสียโดยตรง เพราะหากผมพูดความจริงออกไปแล้ว หลายท่านในที่นี้ก็อยู่ไม่ได้ หรืออาจจะนั่งไม่ติด อาจจะกระทบอีกหลายคน ผมคิดว่าผมเองออมคำพูดดีกว่า เพื่อหลวงปู่ อยากทราบว่าทำ ทำไม บางอย่างผมเองอาจจะไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือใครก็อาจจะผิดแต่ผมไม่พูด พยายามปิดหู ปิดตา ปิดปาก มาโดยตลอด หลวงปู่เคยบอกเอาไว้ว่า ใครทำไม่ดีอย่าโต้ตอบ ให้เดินหนี ใครโกรธอย่าโกรธตอบมันบาป ตาอยู่ส่วนตา ปากอยู่ส่วนปาก ใจอยู่ส่วนใจอย่าเอามาปนกันเกี่ยวข้องกัน

    ผมว่าทุกคนถือทิฐิ ต่างเอาชนะกัน ต่างอยากดี ต่างอยากเด่น ต่างอยากเป็นที่รัก หากเราคิดว่ายอมกันนิด ยอมกันหน่อยมันก็คงจะดี ผมเองตอนแรกไม่รู้อิโหน่อิเหน่ กลับถูกสายลึกลับโทรมาต่อว่า อย่าให้ผมพูดเลยดีกว่า ว่ามันเป็นอย่างไร ทุกคนจะเสีย ใครว่าใคร ใครนินทาใคร ใครเหน็บใคร ถ้าให้ผมพูดเสียวสันหลังกันทุกคน เข้าหน้ากันไม่ติด เอาเป็นว่าผมเงียบดีกว่า คนเรามีจิตใจอยากที่จะช่วยเหลือ มีเจตนาดี ลูกศิษย์รวมจิตรวมใจกันสละเงินเพื่อมาเป็นเจ้าภาพงานบุญ ทำไมถึงได้รับการตอบรับเช่นนี้หรือ แต่กลับถูกแทงข้างหลังตลอดเวลา บอกตามตรงว่าโดนตั้งแต่ ตอนทำเหรียญกองทุนสุขภาพ ตอนสร้างพระกริ่งก็โดน ตอนนี้ก็โดนอีก ยังไม่รู้กันอีกหรือว่าผมทนมามากแล้ว แต่ทนเพื่อหลวงปู่เพราะผมคิดว่า เราเก็บเงียบๆดีกว่า เดียวงานการใหญ่จะเสีย ทำอะไรผมคิดไม่ใช่แต่วันนี้ พรุ่งนี้ แต่ผมคิดถึงวันข้างหน้า พยายามลอมชอม อดกลั้น ไม่พูด นิ่งเฉย แต่นับวันความจริงจะออกมาเรื่อยๆ ก็ดูกันไปครับ หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    บอกตามตรงว่าผมเองก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมเองก็พยายามลอมชอมแต่ไม่ได้รับการตอบสนอง แต่จะให้ผมก้มหัวให้โดยที่ผมไม่ได้ทำผิดผมทำไม่ได้ครับ ประเด็นมันก็คือเรามาทำบุญ เหล่าลูกศิษย์มาช่วยกันทำความดี ไม่ใช่มาก้มหัวเพื่อจัดสร้างวัตถุมงคลแล้วได้เงินเข้ากระเป๋า ทำได้เท่าไหร่ก็ถวายหลวงปู่ทั้งหมด พระก็ถวายให้ เงินก็ถวาย ไม่เคยรบกวนเงินของทางวัด เลยแม้แต่น้อย ขอเคลียร์ตรงนี้เลยนะครับว่า เหตุที่ท่านถามหรือชี้นำมาว่า คนเขาทำพระมาถวายหลวงปู่ทั้งหมด โดยออกเงินเองทั้งหมด แล้วสามารถทำโครงการใหญ่ได้หรือไม่ ถ้าจะเป็นหลักล้านทำได้หรือไม่ หรือจะได้นานสักกี่มากน้อย คิดกันได้น้อยมาก กุสโลบายในการทำงานบุญ คือ พยายามสร้างจากจิตศรัทธาของคน ช่วยกันลงเงินคนละนิด ช่วยลงแรงกันคนละหน่อย ช่วยกันประชาสัมพันธ์บ้าง ช่วยกันบอกบุญบ้าง ทำเช่นนี้จะมีคนเข้ามาร่วมกันมากขึ้นเรื่อยเป็นทวีคูณ เหตุที่ไม่ต้องการลงเงินทำเองทั้งหมดก็เพราะเป็นเช่นนี้ ใช้เงินทำนะมันง่ายมาก ไม่ยาก แต่ไม่ได้กระแสศรัทธา ของคน บอกให้นะครับว่า เงินไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้ ไม่สามารถซื้อความศรัทธาของคนได้ ไม่สามารถซื้อใจคนได้ ไม่สามารถซื้อความจงรักภักดีได้ ผมเองรู้สึกเสียใจที่ใครหลายๆคนยังคิดไม่ได้ ทั้งๆที่อยู่ใกล้กับพระอริยะ ผมเองถูกล่าวหา ว่าอย่างเสียๆหายๆ ถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี ถูกว่ากล่าว ถูกต่อว่า ถูกถากถาง ถูกนินทา แต่ทนมาตลอด แต่ดูเหมือนหลายๆคนจะได้ใจ หรือผมอาจจะพูดนุ่มนวลจนเกินไป หรือใช้ศัพท์สูงจนเกินไป จนแปลไม่ออก หรือ อาจจะยังคิดไม่ได้ เพราะไม่ค่อยได้ใช้ในเรื่องที่ดี แต่ผมว่างานนี้ถูกปั่นหัว ให้ข้อมูลเท็จ และ ไม่มีศิลปะ หรือวาทศิลป์ในการพูดจาจึงเกิดเรื่อง ประเภทยอมหักไม่ยอมงอ พระเดชบางครั้งก็ใช้ไม่ได้สำหรับทุกกรณี แต่พระคุณและบารมีต่างหากที่คงทนกว่า เรื่องกำลังจะจบด้วยดี หากแต่ทุกท่านคิดเป็น ไม่ใช้โทสะ โมหะ อารมณ์ ความอิจฉา ริษยา ความหมั่นไส้ หัวโขนต่างๆ มาเป็นองค์ประกอบ ขอความกรุณาต่อจากนี้อย่าได้เสี้ยมคนให้ตีกัน บาปบุญในโลกนี้มีจริงแท้ ผมเองรู้สึกสังเวชใจที่ยังคิดกันไม่ได้ และผมคิดว่างานนี้คงจะเป็นงานสุดท้ายแล้วที่จะปวารณาตัวถวายงานหลวงปู่ คิดว่าเข็ดแล้วครับ แต่ผมไม่เลิกที่จะทำความดีต่อไป เหตุเกิดมาเป็นเช่นนี้ก็อาจจะดีเหมือนกันเพราะทำให้ใครหลายๆคนได้คิด ได้ใช้สมองกันบ้าง จิตใจมันลึกซึ้งเกินกว่าที่คนจะเข้าใจ หากเราทำอะไรก็แล้วแต่ใช้ใจทำงานมักย่อมออกมาดี หากเราเอาใจเขามาใส่ใจเรา เราจะรู้ว่าเราได้ทำผิดอะไรกับเขาคนนั้นมากมาย แต่นั่นมันคงไม่สำคัญอีกต่อไปเพราะ วันข้างหน้าเขาคงไม่อยู่รอให้เราได้ใส่ใจ สนใจ หรือ แคร์อะไรมากมาย เพียงผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

    แง่คิดในอีกมุมหนึ่ง

    1. ทำดีกับคนเลว กับคนเนรคุณ ได้ผลดีน้อยมากหรือไม่ได้เลย ทำดีกับคนดีได้ผล
    ของความดีมากมาย
    2. ขยันในจังหวะที่คนหมู่มากขยันขันแข็ง ความขยันช่วยพยุงตัวเองไว้ ไม่ให้น้อย
    หน้าใคร ขยันหมั่นเพียรในจังหวะที่คนส่วนใหญ่เกียจคร้าน ความขยันจะช่วยผลัก
    ดันให้ตนเองสูงส่ง
    3. ตัวเองทำความดีเสมอ แต่ขณะเดียวกันก็ขัดขวางความดีของผู้อื่นหรือกันท่าไม่
    ให้เพื่อนฝูงทำความดี ด้วยผลกรรมอันนี้ทำให้การเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งแต่ละ
    ครั้งมีคนคอยขัดขวางหรือมีคนอื่นตัดหน้าแซงคิวไปก่อนเสมอ
    4. ตัวเองทำความดีเสมอ แต่โอกาสเดียวกันก็ทำความชั่วไปด้วย คือ ความดีมีความ
    ชั่วเป็นตัวถ่วง ผลของกรรมดีจึงช้าหรือผลของกรรมดีมีความทุกข์แทรกซ้อน
    ปะปนมาด้วย
    5. ตนเองเป็นคนทำความดีเสมอ แต่ไม่ห้ามปรามบริวาร คนข้างเคียงทำความชั่ว
    ปล่วยให้คนในบังคับบัญชาทำความผิดทำบาปโดยไม่ตักเตือนท้วงติง ความดีจะ
    สนองตอบผู้กระทำด้วยทรัพย์สมบัติ ด้วยตำแหน่งหน้าที่การงาน แต่สิ่งที่ได้มา
    ไม่เป็นประโยชน์แก่ตนเองเท่าที่ควร กลับเป็นประโยชน์แก่คนอื่นเป็นส่วนใหญ่ ได้
    รถประจำตำแหน่ง น้องเมียเอาไปใช้ มีคนรบกวนหยิบยืมของใช้ส่วนตัว
    6. ตนเองประพฤติประพฤติชอบเสมอ แต่ริษยากลัวคนอื่นจะได้ดีเท่าเทียมหรือมาก
    กว่าตน จึงกลั่นแกล้งหน่วงเหนี่ยวผลงานของผู้อื่นไว้ รีบเสนอแต่ความดีของตน
    เองไปก่อน ความริษยาทำให้ผลของความดีของตนตอบสนองช้า ขัดข้องด้วยระ
    เบียบข้อบังคับ ล่าช้าเพราะดินฟ้าอากาศ เงินเดือนเต็มขั้นแล้วไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง
    ต้องรอต่อไปเพราะไม่มีตำแหน่งว่าง ผู้ใหญ่ที่จะช่วยเหลือสนับสนุนเอาหลักฐาน
    สำคัญไปทำหาย
    7. ตนเองทำความดีอย่างสม่ำเสมอแต่หวั่นเกรงว่าคนอื่นจะได้ดีเท่าเทียมตนหรือเหนือ
    กว่าตน จึงได้พยายามยุยงให้คนอื่นทำความชั่ว สนับสนุนให้คนอื่นทำความผิด เพื่อ
    ว่าเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ตนเองจะได้เป็นคนดีเด่นอย่างไม่มีคู่แข่งขัน ด้วยผล
    กรรมอันนี้ ความดีของเขาจะปรากฎว่ามีผู้ใส่ร้าย มีผู้โจมตีให้เสียหาย กว่าจะมีผู้รู้
    เห็นความดีของตนเอง ก็ต้องมีคดีมีข้อพิพาทมากมาย หรือมีความยุ่งยาก มีข้อขัด
    ข้องเกี่ยวกับความเป็นอยู่ เช่น ลูกขับรถไปชนคนบาดเจ็บ บริวารกู้หนี้ยืมสินแล้วหนีหนี้
    8. ตนเองเป็นคนทำงานขยันขันแข็ง เห็นผู้อื่นทำงานน้อยกว่า กลับได้ตำแหน่งสูงกว่า
    ตน จึงคอยจับผิด รายงานลับฟ้องผู้บังคับบัญชา ด้วยผลกรรมนี้ทำครั้งที่ได้เลื่อน
    ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขึ้น จะปรากฎว่าน้ำใจจากผู้ร่วมงานลดน้อยถอยลง เกิด
    ความคลางแคลงใจ อยู่ไม่เป็นสุข คือ ได้ความเจริญก้าวหน้า แต่ขาดแคลนมิตรภาพ
    9. ในการทำบุญทุกครั้ง เขาจะบีบบังคับให้เพื่อนฝูงบริวารตระเตรียมงานนั้นแทนตน
    คือ ทำบุญคราวใดต้องเดือดร้อนคนข้างเคียงเสมอ ด้วยผลกรรมนี้ทำให้ทุกครั้ง
    ที่มีโชคลาภหรือได้รับประโยชน์ จะต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้โชคลาภนั้นหมดไปอย่าง
    รวดเร็ว รับของเข้าบ้านวันนี้ พรุ่งนี้เพื่อนสนิทต้องมาหยิบยืมเงิน
    10. บางคนมีความคิดเห็นผิดอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าตัวเองจะเป็นคนดี แต่ชอบตัดสินคน
    ด้วยหลักการอันคับแคบ เขาเชื่อว่าคนดื่มสุราเป็นคนไม่ดี คนไม่ดื่มสุราเป็นคนดี เขา
    จะเพิกเฉยต่อรายละเอียดอื่นๆ คนดื่มสุราอาจดื่มเพียงครั้งคราว ไม่เป็นพิษภัยหรือ
    มีความดีข้ออื่น ด้วยความคับแคบแห่งความคิดเห็น ผลกรรมจะผลักดันให้เขาเข้าสู่
    สังคมที่มีหลักการอันไร้ความยุติธรรม เช่น เข้าสู่สังคมที่บ้า สถาบันที่บ้าเห่อปริญญา
    11. ในอดีตชาติเขาชอบเลี้ยงสัตว์ขังกรง ปรนเปรอให้ข้าวน้ำอาหารอย่างดี แม้ในปัจจุบัน
    จะประกอบกุศลกรรมมากมาย ผลของกรรมดีจะตอบแทนเขาอย่างอึดอัดรำคาญใจ
    หรือไม่สบายใจนัก ผลของกรรมจะผูกมัดตัวผู้กระทำไว้กับสถานที่หรือเหตุการณ์หนึ่ง
    จะออกไปเที่ยวเตร่ แต่ไม่มีใครดูแลบ้าน จะทอดทิ้งงานไปเยี่ยมผู้ใหญ่ ก็หาคนมารับ
    งานแทนไม่ได้ ปกติความก้าวหน้าของผู้ที่ใช้ระเบียบเข้มงวดกับบริวารหรือผู้ร่วมงาน
    จะเกิดขึ้นต่อเมื่อโยกย้ายที่ทำงานหรือที่อยู่ ถ้ารักถิ่นที่อยู่ ไม่ยอมย้ายไปไหน ก็จะทำให้
    งานการก้าวหน้าช้าดักดาน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
  16. อสูรเทวะ

    อสูรเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +1,181
    พวกเราเกิดมาใต้ร่มเงาของพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าจอมศาสดาผู้เป็นบรมครูของทั้งสามโลก ควรเชื่อว่าสวรรค์มี นรกมี บาปมี บุญมี ทำความดีได้ความดี ทำความชั่วย่อมได้ความชั่ว(นรก)เป็นสิ่งตอบแทน...ความจริงย่อมเป็นความจริงอยู่เสมอไม่มีใครมาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ สิ่งที่ผู้ดำเนินการสร้างวัตถุมงคลรุ่นฉลองมงคล ๙๓ ได้ทำนั้นสามารถกล่าวได้อย่างเต็มภาคภูมิว่าทำไปด้วยเจตนาที่ดีมากมุ่งหวังหาปัจจัยมาถวายหลวงปู่เพื่อซื้อที่ดินเพิ่มเติมในการสร้างปราสาทพระเจ้า๕พระองค์ให้แล้วเสร็จดั่งดำริของหลวงปู่ที่ได้บอกกล่าวเอาไว้ พวกเราที่เป็นเหล่าลูกศิษย์ควรร่วมแรงร่วมใจกันทำความตั้งใจของหลวงปู่ให้สำเร็จดีกว่าครับ ดีกว่าจะมานั่งจับผิดติโน่นตินี่ทั้งที่ความจริงยังมีนายทุนสร้างพระอีกหลายเจ้าที่เข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์อย่างโจ่งแจ้งซึ่งน่ารังเกียจกว่ามากแต่พวกท่านทั้งหลายแหล่ก็ไม่เห็นออกมาต่อต้านคัดค้านหรือตั้งคำถามถึงที่มาที่ไปว่าเป็นอย่างไรเห็นเงียบกันได้จนถึงทุกวันนี้แต่กับคณะที่เขาตั้งใจจริงในการช่วยเหลืองานของครูบาอาจารย์กลับได้รับผลตอบแทนเช่นนี้หรือว่าสังคมทุกวันนี้คนดีมันอยู่ยากกันแล้วหรือครับ ฝากให้เป็นข้อคิดข้อเตือนใจกันนะครับ ขอให้ คิดถูก โปร่งใส ใจสูง ก่อนตัวตายนะครับจะได้ไม่ไปอยู่ที่เดียวกับพระเทวทัตครับ สาธุ...?
     
  17. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    กรุณามาตอบด้วยนะครับ ไม่ใช่ทำเป็น ทองไม่รู้ร้อน คิดอะไร ทำอะไร ไว้ก็ต้องเข้ามาเคลียร์ อย่าคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้นะครับ แค่อ่านดูก็เข้าใจแล้วว่ามันหมายความว่ายังงัย ลูกผู้ชายทำอะไร พูดอะไร เขาทำ เขาพูดกันซึ่งหน้า ไม่ใช่ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง "อย่างนี้ คงเลยที่เขาเรียกว่าคบไม่ได้แล้ว คงต้องบอกว่าไม่น่าคบคงจะดีกว่า"
     
  18. เด็กท้ายตลาด

    เด็กท้ายตลาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +412
    เท่าที่ผมเข้ามาอ่านในกระทู้ ตอนแรกก็ว่าจะไม่ขอเสนอความคิดเห็นดีกล่าว เพราะเป็นหนึ่งในผู้จัดสร้างเหรียญฉลองมงคล ๙๓ เดียวจะว่าร้อนตัว ต่าง ๆ นา ๆ แต่ดูแล้วไม่น่าจะจบง่าย ๆ เลยมาขอพูดอะไรบางอย่างบ้างดีกว่า

    ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มสร้างจวบจนถึงวันปลุกเสก ปัญาหาต่าง ๆ นานา มารุมเร้ามากมาย แต่ก็อดทนมาโดยตลอด ปรึกษาหารือกันมาโดยตลอด พบเจอผู้คนมามากมาย ตั้งแต่เริ่มติดต่องานจนถึงการเปิดสั่งจอง คนที่เข้าใจก็พูดรู้เรื่อง คนที่ไม่เข้าใจต้องอธิบายจนปากเปียกปากแฉะ จนงานการสะดุด โดนเจ้านายตำหนิต่าง ๆ นานา และสูญเสียคนที่รักมากที่สุดในชีวิตไปอย่างคาดไม่ถึง โดยไม่ได้ตอบแทนดูแลตอนอยู่โรงพยาบาลอย่าเต็มที่ แต่ก็ไม่เป็นไร คิดถึงหลวงปู่องค์เดียวอยู่ในใจ และอยากผลบุญผลกุศล อดทนอดกลั้นมาตลอด และไม่เคยคิดเลยว่า จะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตมากมายเพียงนี้
    เท่าที่อ่านมา ผมไม่อย่างพูดอะไรมาก เพราะข้อที่เป็นปัญหา เพื่อน ๆ ผมก็ตอบให้อย่างกระจ่างแจ้งหมดสิ้นแล้ว ส่วนจะเข้าใจหรือไม่ก็แล้วแต่จิตใจของแต่ละคน ผมก็ไม่ทราบว่า ที่มารุมย่ำพวกผมนี่ มันเป็นเพราะอะไร ผมคิดสาเหตุที่น่าจะเกิดขึ้นได้มาเกือบทุกอย่างครับ คิดว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก คิดว่ากลัวพวกมึงจะดีกว่าพวกกู คิดว่ากูหมั่นไส้พวกมึง คิดว่ากูเกลียดพวกมึง คิดว่ากูกลัวจะเสียหน้า คิดว่ากูจะได้หน้า คิดว่ากูจะได้โชว์พาว์เวอร์ คิดว่ากูแน่ โอ๊ย....สารพัดครับ

    ผมเชื่อว่าสิ่งที่พวกผมทำอยู่ (ที่ว่าเป็นปัญหานั้น) ครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ทุก ๆ พระองค์รับรู้ องค์หลวงปู่รับรู้ เทวดารับรู้ ท่านพญายมราชรับรู้ ก็เพียงพอแล้วว่า สิ่งที่พวกผมทำไปทั้งหมดทั้งปวงนั้นเป็นอย่างไร ดีหรือชั่ว เลว (อย่างที่บางคนคิด)หรือไม่ ผมไม่สนใจ บอกตามตรงว่าครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นมา โมโหมาก และน้อยใจว่าทำไม่เกิดเรื่องแบบนี้กับพวกผม ตอนแรกคิดว่าจะมาตอบปัญหาข้อข้องในต่าง ๆ ในกระทู้นี้ แต่เท่าที่ติดตามมา มีคนชี้แจงไปหมดแล้ว จึงไม่ขอพูดดีกว่า

    มีครั้งหนึ่ง ช่วงที่สร้างพระกริ่ง เกิดปัญหาขึ้นมากมาย จนมานั่งคิดว่าตัวเองว่าหาเรื่องปวดหัวใส่ตัวแท้ ๆ อยู่ดีไม่ว่าดี ปัญหาเกิด ความเครียดก็เกิด ไม่รู้จะทำยังไง อดทนอดกลั่นมาโดยตลอด จนครั้งหนึ่งที่แรงมาก จนทนไม่ไว้ และเผอิญมีโอกาสได้พบหลวงปู่ ก็หลุดปากออกมาถามหลวงปู่ว่า "หลวงปู่ครับ มีคนเขาหาว่าพวกผมมาหากินกับหลวงปู่ " ถามยังไม่ทันจบประโยค ท่านสวนตอบขึ้นมาทันทีเลยว่า "ของอย่างนี้ ใครจะคิด ใครจะพูด ก็ได้ ห้ามเขาไม่ได้ หรอก ทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวเราเองนั้นแหละว่าดีหรือไม่ ถูกหรือไม่ ที่ทำอยู่ดีหรือไม่นั้น ครูบาอาจารย์ เทวดาจะตัดสินเอง ไม่ต้องกลัว ถ้าเราทำดีอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องกลัว ครูบาอาจารย์ เทวดาจะคุ้มครองเอง " คำประโยคนี้ติดหูมาตลอด และใช้ในเวลาที่มีปัญหามาตลอด

    ส่วนตัวผม เคารพนับถือหลวงปู่มาไม่นานเท่าไรหรอกครับ ครั้งแรกที่เข้าไปหาก็ประมาณปี 40 ระยะเวลาก็ไม่มาก แค่เกือบ 14 ปีเอง ถึงแม้จะไม่ได้ใกล้ชิดอะไรมากมายเท่าไรนัก แต่ผมก็มั่นใจหลวงปู่มาตลอด หลวงปู่เป็นพระโบราณ ทำอะไรทำจริง ไม่เคยทำแบบล้อเล่น และเอาจริงเอาจังตลอดโดยเฉพาะเรื่องการปลุกเสกวัตถุมงคล บางครั้งเวลาท่านเสกของ บางคนที่พึ่งรู้จักหลวงปู่เห็นหลวงปู่แตะ ๆ ครั้ง สองครั้งที่พานครูแล้วส่งกลับคืนให้ ก็ยังเถียงกับท่านเลยว่ายังไม่เห็นท่านทำอะไรเลย แต่ท่านกลับตอบว่าเสร็จแล้ว เรื่องของพลังจิต เรื่องวิธีปลุกเสกของหลวงปู่นั้น ผมรับรอง ไม่เป็นสองรองใครแน่ เมื่อประมาณปี 40 มีหนังสือพระเล่มหนึ่งกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยมีประโยคเด็ดอยู่ประโยคหนึ่งว่า "หลวงปู่หงษ์ แห่งสุสานทุ่งมน ท่านเชี่ยวชาญในพระเวทย์ มนต์คาถาต่าง ๆ นานามากมาย มีครูบาอาจารย์มากถึง 500 องค์ สามารถเข้าออกในฤทธิ์ง่ายดังบุคคลเดินเข้าออกประตู"(ประโยคนี้แหละครับ ที่ทำให้ผมโดดเรียน นั่งรถทัวร์ไปหาท่านที่สุริทร์คนเดียว) คนอื่นคิดยังไงไม่รู้แต่ผมมั่นใจหลวงปู่ และมั่นใจมากด้วย

    เรื่องการสร้างวัตถุมงคล ครั้งนี้น่าจะหยุดแล้วครับ ปัญหาเยอะเหลือเกิน ทำแทบตายยังโดยหาว่าไม่ดีต่าง ๆ นานา พอแล้ว เบื่อมาก คนเรา ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง ไม่เอาแล้ว แต่ถ้าคิดถึงหลวงปู่ก็คงไปหา ไปกราบเหมือนเดิม แต่คงไม่บ่อยครั้งแล้วครับ หลังจากตอนนี้ ขอเป็นลูกศิษย์ห่าง ๆ ดีกว่า แต่ยังคงจะทำบุญกับหลวงปู่เหมือนเดิมครับ ทำบุญกับพระอริยะมหาโพธิสัตว์ เป็นบุญมาก ตายแล้วอยากไปในภพภูมิที่ดี มีบุญกุศลติดตัว กล้าพบและสู้หน้าท่านพญายมราชโดยไม่กลัวความผิดบาปกรรมที่ทำมาครับ ส่วนอบายภูมิที่ผ่านมาพอรู้แล้วว่าเป็นยังไง น่ากลัวครับ......น่ากลัวมาก ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2011
  19. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    "หลวงปู่ครับ มีคนเขาหาว่าพวกผมมาหากินกับหลวงปู่ " ถามยังไม่ทันจบประโยค ท่านสวนตอบขึ้นมาทันทีเลยว่า

    "ของอย่างนี้ ใครจะคิด ใครจะพูด ก็ได้ ห้ามไม่ได้ ทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวเราเองนั้นแหละว่าดีหรือไม่ ถูกหรือไม่ ที่ทำอยู่ดีหรือไม่นั้น ครูบาอาจารย์ เทวดาจะตัดสินเอง ไม่ต้องกลัว"

    ขออนุโมทนาครับ ผมจะน้อมนำโอวาทของ ลป. ไว้เป็นหลักประจำใจครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2011
  20. kanyaw

    kanyaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +204
    เหนื่อยนักก็พักก่อนครับ เป็นกำลังใจให้

    อะไรต่างๆที่ทำมาด้วยกัน เป็นบุญกุศลก็ขออนุโมทนาด้วยครับ


    แค่คนเดียวที่ไม่ยอมรับไม่เป็นไรครับ

    เจตนาที่เป็นกุศลก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ อยากให้คงเจตนาเดิมนั้นไว้ ไม่มีใครเปลี่ยนได้หรอกครับ

    ยังไงก็ต้องขึ้นไปกราบหลวงปู่ ถวายเงินและพระทั้งหมด ได้เจอหลวงปู่คงจะสบายใจกันขึ้นนะครับ

    ถึงจะจบแบบไม่สวย แต่หล่อมากครับ 555
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...