เพื่อการกุศล *★.• ใกล้หมดแล้ว !!! พญาลิ้นทอง ยอดแห่งมนต์เสน่ห์เขมรโบราณ สายวิชา "กรูเปรี๊ยะออง" ♡* อ.โอม •.★*

โดนใจ

 

อยากจะชวนแต่ไม่กล้า เพราะเวลา(ว่าง)เราไม่เหมือนกัน

ถ้าว่างก็ขอเชิญนะครับ รับรองไม่ผิดหวัง

 

เพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใดทราบบ้างว่าพระสมเด็จองค์นี้เกจิท่านใดสร้าง
ไม่สามารถเอาพระสมเด็จออกจากถุงซิบได้เนื่องจากถุงหดตัวเพราะเก็บไว้ในกรุนานแล้ว
มวลสารผงอิทธิเจล้วนๆ



​

 

ยังไม่แน่ใจเรื่องเวลาอ่ะเจ๊ .....

 

..เดียวจะมาอ่านเรื่องเล่าตอนดึกๆๆที่ออฟฟิตนะครับ
และอนุโมทนา กับผู้มีจิตศรัทธา ..ในการทำบุญสร้างโบสถ์พระธาตุทุกท่านครับ...

 

เมื่อตอนสายๆไป UP บัญชีมา เห็นตัวเลขก็ยังสงสัยอยู่เลยครับ ว่าใครโอนมา..

อนุโมทนาบุญด้วยครับ...สาธุ...

 

แหะๆๆ...พอดีงานเข้าครับ...

เดี๋ยวต่อคืนนี้เลยครับ...

 

ของพระเกจิอาจารย์ท่านใดสร้างผมไม่ทราบครับ...แต่ถ้าเป็ยผงอิทธิเจล้วนละก็..สุดยอด...ครับ...

 

ต๊ะเอ๋ ...... จะสี่ทุ่มแ้ล้วววววว

 

สงสัยมีนัดกะสาวๆ
เวลายังไม่ลงตัว ฮ่าๆๆ

 

ช่วงดึกผมคงจะหลับแล้ว
เดี๋ยวช่วงเช้าเข้ามาอ่านครับ

มีอะไรดีๆ แนะนำมาได้นะครับ

 

คิดไว้ 2 อย่างสำหรับองค์นี้
- ร่วมบุญสร้างโสถ์พระธาตุ
- ของที่ระลึกสำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เข้าพิธีเสาร์ 5

ส่วนเป็นเกจิท่านใดลองทายกันดู เผื่อมีรางวัล
พรุ่งนี้จะเอาอีกรูปมาให้ชมชัดๆ ครับว่าเนื้อหามวลสารเข้มข้นแค่ไหนสำหรับผงอิทธิเจล้วน

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ กะจะสัก
เหอๆๆ รอตั้งนานแล้วเนี่ย.....
</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ballaman
ช่าย ๆๆ ๆ .... นานมากกกกกก แล้ววววววววววววว 5 5 5
</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Amata_club
โดนใจ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

มาปูเสื่อรอครับ ถ้าวันนี้ผิดนัด สงสัยจะต้องมีปรับ ฮิๆๆ

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู
เอาเรื่องของเจ้ากรรมนายเวรก็แล้วกัน..

เรื่องนี้เป็นหนึ่งในหลายๆเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จะเอามาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นความรู้และอุทาหรณ์ครับ

เมื่อประมาณปีสองปีก่อน ได้มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งพากันมาหาท่าน อ.แทนกันครับ
ในคณะนับก็มีพระภิกษุมาด้วยรูปหนึ่ง กับชาวบ้านอีกสี่ห้าคน พระภิกษุรูปนี้มีอายุพรรษายี่สิบกว่าพรรษาแล้ว มีสมณศักดิ์เป็นพระครู และเป็นเจ้าอาวาสวัดวัดหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด

ตอนที่มาถึง ชาวบ้านก็พากันพยุงท่านพระครูท่านลงมาจากรถ เพื่อมาหาท่าน อ.แทน ท่านเป็นอัมพฤก มืองอ เท้างอ ปากเบี้ยว เดินแทบจะไม่ไหวแล้วครับ

พอมาถึง พระครูท่านนี้ ก็ขอให้ท่าน อ.แทนช่วยท่านหน่อย ท่านเล่าว่า ไม่รู้เป็นเพราะอะไร อยู่ๆ ท่านก็มีอาการมืองอ เท้างอ ปากเบี้ยว เป็นอัมพฤก เดินเหินก็ไม่ค่อยจะสะดวก และท่านก็ยังบอกอีกว่าเห็นชาวบ้านเค้าว่ากันว่าท่าน อ.แทนสามารถช่วยได้ก็เลยพากันมาท่านเพื่อให้ท่านช่วย

ท่าน อ.แทนนิ่งฟังซักพัก ท่านก็บอกกับพระครูท่านนั้นไปว่า "ท่านพระครูโดนพวกเจ้ากรรมเล่นงานเอาซะแล้ว" แล้วก็ถามพระครูท่านนั้นกลับไปว่า "พระครูอยากหายมั๊ย ถ้าอยากหายก็ไปหาผ้าไตรมาให้ผมเด้อ..."

</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู
ต่อนะครับ...

เมื่อพระครูท่านนั้นได้ยินยังงั้นปั๊บ ก็บอกกับชาวบ้านที่พาท่านมา ให้ไปซื้อชุดผ้าไตรมาให้ พอได้มาปั๊บก็เอามาให้กับท่าน อ.แทน

พอท่าน อ.แทน รับผ้าไตรมาจากท่านพระครูแล้ว ท่านก็บอกกับท่านพระครูว่า "ผ้าไตรนี้ท่านพระครูเอามาให้ผมเพื่อเป็นทาน ผมก็จะส่งส่วนบุญที่ท่านพระครูทำนี้ ให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของท่านพระครูเด้อ ให้ท่านพระครูตั้งใจเอาเด้อ..."

แล้วท่าน อ.แทนก็หลับตาซักพักหนึ่ง พอท่านลืมตาขึ้นมา ท่านบอกกับท่านพระครูว่า "เอ้า...หายแล้ว ลุกเดินดูซิ เป็นยังไง..." พอทุกคนได้ยินท่าน อ.แทนพูดปั๊บ พวกชาวบ้านที่มาด้วยก็จะเข้ามาช่วยพยุงท่านพระครู แต่ท่าน อ.แทนห้ามไม่ให้ช่วย และบอกให้ท่านพระครูลุกด้วยตัวเอง...

</TD></TR></TBODY></TABLE>


มาต่อกันครับ...

พอท่าน อ.แทนท่าน บอกให้ท่านพระครูท่านนั้นลุกขึ้น ท่านก็พยายามลุกครับ แล้วก็ลุกขึ้นยืนเองได้ จากนั้นท่าน อ.แทน ท่านก็บอกให้พระครูลองเดินดู เดินโดยไม่ใช้ไม้เท้า ก็ปรากฎว่าพระครูท่านนั้นก็เดินได้ครับ เดินแบบสบายๆเลยครับ

ตอนนั้น พอท่านพระครูท่านนั้นรู้ว่าตัวเองเดินได้เป็นปกติแล้ว แกก็เดินใหญ่เลยครับ ปากก็พูดแต่ว่า "ดีใจๆ เดินได้แล้วๆ ไม่เอาแล้วไม้เท้า ถวายอาจารย์ไว้นี่แหละ" ท่าน อ.แทนท่านก็นั่งหัวเราะครับ เพราะพระครูดีใจที่ตัวเดินได้ เลยเดินใหญ่เลย ทั้งกึ่งวิ่งกึ่งเดิน เป็นที่หัวเราะกันครึกครื้นทั้งพระทั้งโยมที่มา

และด้วยความดีใจนี่แหละ ท่นพระครูคงลืมไปว่า อาการต่างๆที่ท่านเป็น ไม่ว่าจะเป็นมืองอ เท้างอ หรือแม้แต่ปากที่เบี้ยวนั้นหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...

จนท่าน อ.แทน ท่านทักขึ้นมานั่นแหละครับว่า "เป็นไงเบาตัวรึยัง" ท่านพระครูถึงได้รู้ตัว(รวมทั้งญาติโยมที่มาด้วย)ว่าอาการต่างๆที่ท่านเป็นและทุกข์ทรมานมาหลายปีกลับหายไปหมดแล้วนับตั้งแต่ที่ถวายผ้าไตรให้กับท่าน อ.แทน (พระถวายของโยม..)

เมื่อรู้ตัวท่านพระครูก็เริ่มสงสัยครับ...เพราะตัวท่านพระครูเองท่านก็ว่าตั้งแต่ที่ท่านเริ่มมีอาการเจ็บป่วยช่วงแรกจนมาถึงขั้นเป็นอัมพฤก ท่านก็ตระเวณรักษาไปทั่ว หมอที่ไหนว่าดีว่าเก่งก็ไปมาหมด อาจารย์ที่ไหนว่าดีว่าเก่งก็ไปมาหมดแล้วก็ไม่หายซักที หมดเงินเป็นหมื่นๆ แต่กลับมาหายเพราะผ้าไตรชุดเดียว ด้วยควายสงสัย พระครูท่านก็เลยถามท่าน อ.แทนครับว่าท่าน อ.แทนทำยังไงทำไมถึงรักษาได้ ยาก็ไม่เห็นให้กิน แค่ถวายผ้าไตรกลับหายซะงั้น แถมยังพูดอีกว่า ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเห็น เพิ่งจะเคยเห็นนี่แหละ ท่านว่า "ตัวท่านเองบวชมาก็ตั้งยี่สิบกว่าพรรษาแล้ว รับสังฆทานมาก็เยอะก็ไม่เคยเห็นแบบนี้ ยังทำแบบนี้ไม่ได้เลย แต่นี่ ท่าน อาจารย์เป็นโยมเป็นฆราวาสแท้ๆทำไมถึงทำได้.."
ท่าน อ.แทน ก็เลยตอบกลับไปว่า...

 

มีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยได้ร่วมบุญสร้างโบสถ์พระธาตุ
แจ้งความจำนงค์จะนำวัตถุมงคลมาร่วมบุญสร้างโบสถ์พระธาตุ เพื่อต่อยอดบุญในครั้งนี้


โปรดติดตามอย่างใกล้ชิด


อนุโมทนาด้วยครับ​

 

เรื่องนี้ผมคงไม่สงสัย เพราะเคยได้รับความช่วยเหลือจากท่านอาจารย์แทนมาแล้ว

ที่อื่นจะต้องใช้เงินในการรักษา แต่ที่นี่ใช้แค่ศรัทธาและเชื่อมั่นในครูบาอาจารย์เท่านั้นพอครับ

 

อ.แทนตอบกลับไปว่า.............


ตัดโฆษณาตอนสำคัญ ๆ ....... เหมือนรายการหมอลักษณ์ฟันธงเลย อาทิตยบ่ายอ่ะครับ
กะลังจะเฉลย มือไปปากอ้าแล้ว .... ตัดเข้าโฆษณา .. - -"

 

ต่อครับ...

ท่าน อ.แทน ท่านบอกไปว่า ที่ท่านพระครูเป็นอย่างนี้ก็เพราะกรรม กรรมที่รับของๆเขามาแล้วไม่ส่งให้เขา นั่นก็คือ เวลาที่ญาติโยมเขามาทำบุญ ทำสังฆทาน ก็รับของเขามา แล้วยถา สัพพี ไปตามหน้าที่ แล้วก็เอามาเก็บ เอามากิน โดยที่ไม่ส่งให้ญาติให้เจ้ากรรมนายเวรของญาติโยมที่เขามาทำบุญ พวกนี้เขารอรับส่วนบุญอยู่ เมื่อไม่ได้มันก็โกรธเป็นธรรมดา พอนานๆเข้าพวกเจ้ากรรมพวกนี้ก็เลยมาทวงเอากับพระครูนั่นแหละครับ

แล้วที่บอกว่าบวชมานานจนเป็นถึงพระครู ทำไมถึงส่งส่วนบุญแบบ ท่าน อ.แทนไม่ได้ ท่านก็อธิบายว่า เวลาที่ญาติโยมเขาเอาของมาถวาย ก็คอยแต่จะดูจะสนใจว่าของนั้นมีอะไรบ้าง มีเงินเท่าไหร่ รับเสร็จแล้วก็เอาไปเก็บไว้ไม่แบ่งคนอื่น กองเต็มกุฏิไปหมด อย่างนี้เรียกว่าโลภ ไม่รู้จักละ ไม่รู้จักวาง ไม่รู้จักสละ แล้วจะไปส่งส่วนบุญให้ใครได้ แต่ถ้ามีใจที่บริสุทธิ์ ละเอียด เป็นอันหนึ่งอันเดียว ไม่สนใจในวัตถุเหล่านั้นแล้ว นั่นแหละจึงจะส่งได้ และถ้าคนที่เจ็บป่วยเพราะเหตุจากเจ้ากรรม เพียงแค่ส่งส่วนบุญให้เขา เพียงเท่านี้อาการเหล่านั้นก็สามารถหายได้โดยอัตโนมัติ...

หลังจากพระครูท่านนั้น นั่งให้ท่าน อ.แทนเทศสอนอยู่นานพอสมควร แล้วจึงได้ลายกลับไป...ครับ...

นี่แหละครับครูบาอาจารย์ท่านถึงสอนว่า "อย่าประมาทในกรรม.."

อนุโมทนา...สาธุ...ครับ..

 

555...จังหวะมันพอดี....จริงจริ๊ง....

 

อนุโมทนา...สาธุครับ<!-- google_ad_section_end -->
สิ่งใดที่ให้ผลเป็นทุกข์... อย่าทำเลย.ซะดีกว่่า.เพราะผลที่ได้ก็คือ ทุกข์....
...แต่มันยากนะ...