'ภัยพิบัติถูกเลื่อนออกไป' นั้นเป็นได้แค่ 'ข้ออ้าง' ?

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 4 พฤษภาคม 2011.

  1. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    กราบโมทนาสาธุ ค่ะ อันที่จริงดิฉันก็เชื่อว่าเลื่อนได้ แต่ไม่ใช่ทุกๆกรณีค่ะ ในยุกสมัยนี้ผู้คน(ส่วนใหญ่)ยังเข้าไม่ถึง(ธรรม) ยังทำความชัว-ความเลวกันอยู่มาก ทั้งๆที่อยู่ในประเทศที่ผู้คนนับถือ(บวรพุทธศาสนามากที่สุด) แต่ก็ยังมักมากในกิเลส(หลงผิด) ทำแต่ความชั่ว (ธรรมชาติ)จึงจำเป็นต้อง(ล้าง)ออกไปบ้างเพื่อความสมดุล (ซึ่งจริงๆแล้วก็คือผลของความชั่ว-ผลของกรรมชั่ว"กรรมหมู่"กรรมที่ร่วมกันทำ-ร่วมกันยินดี"ที่ตัวเองได้ก่อมาทั้งสิ้น) เมื่อครั้ง(ซินามิเมื่อปี47) ดิฉันได้ไปกราบ(หลวงปู่ทา-วัดถ่ำซับมืด) ท่านเป็นพระในสายพระป่าหลายท่านจะรู้จักหลวงปู่ทาดี ท่านเป็นพระที่พูดน้อย ผู้ที่อยู่ใกล้ท่านจะรู้สึกร่มเย็น ดิฉันกราบเรียนถามหลวงปู่ทาว่า..(หลวงปู่เจ้าขา..พวกที่เสียชีวิตจากซินามิเป็นอย่างไรเจ้าคะ?) ท่านหันกลับมาแล้วพูดอย่างชัดถ้อยชักคำอย่างที่ไม่เคยรับฝังมา...(พวกผีตายโหง-ทำกรรมหมู่) ดิฉันรีบกราบลงทันที(มาถึงตรงนี้พวก"หัวใจบาง"อย่าใส่ใจนะคะเดี๋ยวจะปรามาทพระอริยเจ้าท่านได้) ดิฉันและเพื่อนๆที่ไปต่างใจสบายขึ้น เข้าใจอะไรๆมากขึ้นอารมที่คิดว่า(ทำ-ไมๆๆๆๆๆ)ก็หมดลงจากใจทันที ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างมันอยุ่ที่การกระทำของเราตั้งแต่อดีตส่งผลมาถึงปัจจุบันทั้งสิ้น.....
    (พวกที่มืดมาก็ขอให้สว่างไปขอให้ทำกรรมดีกันมากๆจะได้รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง-ส่วนท่านที่มีหน้าที่-มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษต่อส่วนรวมก็ขอให้ทำต่อไปเทิดค่ะ กราบโมทนาด้วยใจจริง สาธุ สาธุ สาธุ เมตตาค้ำจุนโลก)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2011
  2. ปธ6

    ปธ6 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +292
    ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม...สาธุ...ขออนุโมทนา สำหรับรากแก้วของพระพุทธศาสนา...
     
  3. เทพเมรัย

    เทพเมรัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +80
    เรียนคุณ karan 20

    ผมเข้าใจในเจตนาของคุณ และผมก็พยายามแสดงเจตนาของผมเช่นกัน ความเห็นที่ต่างผมก็ยอมรับ แต่ผมก็อยากจะอธิบายบางเรื่องที่คุณยกมาจากพระไตรปิฏก อาทิ

    เรื่อง อายุขัยของขันธกุมาร ผมคิดว่าจัดเป็นเรื่องของวิบากกรรม ที่เขาต้องตายภายใน 7 วัน ไม่เกี่ยวกับภัยทางธรรมชาติ แต่เมื่อพระพุทธเจ้าอนุเคราะห์เขา (เป็นบุญของเขาที่ได้พบพระพุทธเจ้า) เจ้ากรรมนายเวรที่ตามราวีจึงเข้าไม่ถึงตัว และตัวเขาเองก็กระทำกรรมดี โดยการบวช กรรมดีนี้จึงช่วยให้เขาหลุดพ้นจากบาปที่จะตามมา แต่บางกรณีก็หนีบาปเก่าไม่พ้น ดังเช่นท่านโมคคัลลานะ

    เรื่องโรคระบาด ที่บอกว่าผีห่าเข้ามากัดกินมนุษย์ แต่ในปัจจุบันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สาเหตุของโรคระบาดเกิดจากเชื้อโรคต่างๆ อาทิ แบคทีเรีย ไวรัส รา ซึ่งมีตัวมีตนสามารถเห็นได้ผ่านกล้องจุลทัศน์ เราจะถือว่าบรรดาเชื้อโรคเหล่านี้ จัดเป็นผีห่า หรือยักษ์ ได้หรือไม่ กรรมที่ทำให้มีโรคมาก เกิดจากผิดศีลข้อ 1 (ทางพุทธศาสนา) ผมว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวกับภัยทางธรรมชาติที่เกิดจาก ธาตุต่างๆ แปรปรวน

    เรื่องเหตุแผ่นดินไหว ปัจจุบันนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุแห่งพระพุทธเจ้า หรือผู้มีฤทธิ์ ผมเชื่อว่า ธรรมดาของผู้มีฤทธิ์มากขนาดนั้น ต้องเป็นผู้ทรงศีล ทรงปัญญามาก มีเมตตาธรรมสูงส่ง จนมีฌาณแก่กล้า ท่านเหล่านั้นคงไม่แสดงฤทธิ์ให้เกิดแผ่นดินไหว เพราะจะมีคน สัตว์เสียชีวิตมาก เป็นบาปเปล่าๆ และมันอาจไม่ใช่หน้าที่ของท่าน ส่วนภัยอื่นๆ ก็เช่นกัน

    แต่ผมมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า ธาตุทั้งหลายคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ (ทางเคมีจะแยกย่อยได้ร้อยกว่าธาตุ) มีพลังงานในตัว เมื่อมีพลังงานย่อมมีการเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวย่อมเป็นไปเพื่อรักษาสมดุลย์ แต่ผมก็ไม่ทราบว่าต้นเหตุแห่งพลังงานนั้นมาจากไหน (อจินไตยเรื่องโลก) มีรูปแบบอย่างไร และอะไรเป็นสาเหตุแห่งการรักษาสมดุลย์นั้น ในพระไตรปิฏกได้กล่าวถึง บรรดาเทวดา ยักษ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงนี้โดยตรง เราพอจะเปรียบเทียบได้ไหมว่า จากที่ผีห่า ยักษ์ เป็นเหตุให้เกิดโรคระบาด (เชื้อโรค) แล้ว เทวดา ยักษ์ ที่อยู่เบื้องหลังทำให้เกิดภัยธรรมชาติ เป็นการอธิบายถึงพลังงานหรือรูปแบบสิ่งมีชีวิตแบบใดแบบหนึ่ง

    บางอย่างในพระไตรปิฏก เราสามารถทำความเข้าใจ หรือแสดงเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ให้เราเข้าใจได้บ้าง เพราะการอธิบายสิ่งเดียวกัน แต่ต่างยุคต่างสมัย ต่างภาษา ทำให้สื่ออกมาได้ต่างกัน
     
  4. ~อมริศา~

    ~อมริศา~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +2,335
    ขออนุญาตทักท้วงเรื่องการใช้ภาษาไทยของคุณแมวน้ำ9หน่อยนะคะ

    เนื่องจากทุกข้อความในทุกกระทู้ของคุณแมวน้ำ9 มีคำที่เขียนผิดเยอะมาก

    อยากให้คุณกรุณาตรวจเช็คก่อนที่จะส่งข้อความในครั้งต่อๆไป

    เพื่อเป็นการอนุรักษ์ภาษาไทยของเราให้ถุกต้องค่ะ

    ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติไทยของเรา

    เราเป็นคนไทยต้องอ่าน-เขียน ภาษาไทยให้ถูกต้องนะคะ
     
  5. นิพพานายะ

    นิพพานายะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +176
    ผมเชื่อว่าท่านเข้าใจภาษาไทยดี และใช้ได้อย่างถูกต้อง
    แต่บางครั้งการพิมพ์อาจจะผิดพลาดกันไปบ้าง
    เล็กๆน้อยๆ อย่าไปซีเรียสเลยนะ..
     
  6. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เรื่อง อายุขัยของขันธกุมาร ไม่เกี่ยวกับภัยทางธรรมชาตินั้นผมทราบดี
    เรื่องที่ผมยกมาอ้างอิงนั้นคือ อายุวัฒนกุมาร
    แต่ท่านอย่าเพิ่งตรงไปตรงมาแค่ตามตัวอักษร เจตนาของผมคือต้องการชี้ให้เห็นเรื่องอจินไตยของวิบากกรรม
    การที่ท่านจะกล่าวว่ากรรมของใครของมัน ไม่มีใครช่วยได้นั้นอาจนับว่าเป็นการด่วนสรุป

    ผมยกเรื่องในพระไตรปิฎกมาชี้แจงและชี้ให้เห็นว่าผู้มีบารมีสูงเช่นพระพุทธเจ้า
    อาจรวมถึงพระเจ้าจักรพรรดิ พระอริยบุคคล พระโพธิสัตว์นั้นสามารถอนุเคราะห์สัตว์โลกได้
    หากอยู่ในวิสัยที่ช่วยได้ เช่น ในกรณีอุปฆาตกรรม


    การตายเพราะอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติหรือฆาตกรรมนั้นล้วนเป็นอุปฆาตกรรมได้ทั้งสิ้น
    ดังนั้นการยกเรื่อง
    อายุวัฒนกุมารจะต้องตายเพราะอุปฆาตกรรม และพระพุทธเจ้ามาช่วยไว้
    มาประกอบการชี้แจงนั้นจึงอาจสมเหตุสมผลแล้ว

    ส่วนเรื่องโรคระบาดที่ยกมานั้นเพื่อแสดงให้เห็นว่า ภัยพิบัติต่างๆ
    ซึ่งโรคระบาดนั้นก็เป็นภัยพิบัติอย่างหนึ่งในอดีต และในอนาคตนั้นอาจจะเกิดขึ้นตามคำพยากรณ์เรื่องภัย 10 ประการ
    ภัยต่าง ๆ นั้นบางครั้งก็ไม่ได้เป็นไปโดยธรรมชาติ แต่หากท่านจะตีความว่าอมนุษย์เป็นเชื้อโรคนั้นก็เป็นสิทธิ์ของท่าน
    แต่คงไม่ตรงตามพระไตรปิฎก เพราะอมนุษย์นั้นต่างจากเชื้อโรค


    ขอยกเรื่องรัตนสูตรมาประกอบ (ยกมาเพียงบางส่วน)
    เพื่อชี้ให้เห็นว่าผู้มีบารมีนั้นสามารถกำจัดปัดเป่าภัยพิบัติ และชี้ให้เห็นว่าอมนุษย์นั้นอาจไม่ใช่เชื้อโรค


    รัตนสูตร (ยังกิญจิ) คือ พระธรรมบท ปรากฎในอรรถกถารัตนสูตร

    เดิมกรุงเวสาลี นครหลวงแห่งแคว้นวัชชี มั่งคั่งด้วยข้าวปลาธัญญาหาร อาณาประชาราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุข
    จวบจนคราวหนึ่งในสมัยพุทธกาล เกิดฝนแล้งขาดแคลนอาหารถึงขนาดคนยากจนอดตาย ซากศพถูกทิ้งเกลื่อน
    พวกอมนุษย์ได้กลิ่น ก็พากันเข้าไปทำอันตรายซ้ำเติมทำให้คนตายมากขึ้น
    อหิวาตกโรคก็เกิดระบาด ทำให้คนตายเหลือที่จะคณานับ
    นครเวสาลีประสบภัย ๓ ประการพร้อมกัน คือ
    ทุพภิกขภัย (ข้าวยากหมากแพง) อมนุษย์ภัย (ผีรบกวน) และโรคภัย (เกิดอหิวาตกโรค)

    ชาวเมืองชวนกันร้องทุกข์ต่อพระราชาว่า การเกิดภัยร้ายแรงนี้ชะรอยผู้ครองรัฐจะประพฤติมิชอบ จึงเกิดยุคเข็ญเช่นนี้
    พระราชาจึงโปรดให้ชาวเมืองประชุมกันที่ศาลากลางเมือง เพื่อวิจัยความผิดของพระองค์ก็ไม่พบความผิดของพระราชาเลย
    จึงปรึกษากันต่อไปว่าทำอย่างไรภัยร้ายแรง ๓ ประการนี้จึงจะสงบ ผลสุดท้าย จึงตกลงให้เชิญเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาโปรด
    ......


    ส่วนเรื่องเหตุแผ่นดินไหว นั้นตามพระไตรปิฎกว่า สมณะหรือพราหมณ์ผู้มีฤทธิ์
    ถึงความเป็นผู้ชำนาญในทางจิต, หรือว่าเทวดาผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก,
    เขาเจริญปฐวีสัญญาเพียงเล็กน้อย เจริญอาโปสัญญาอย่างแรงกล้า, เขาย่อมยังแผ่นดินนี้ให้สะเทือนสะท้านหวั่นไหวได้

    การที่ท่านเชื่อว่าธรรมดาของผู้มีฤทธิ์มากขนาดนั้น ท่านเหล่านั้นคงไม่แสดงฤทธิ์ให้เกิดแผ่นดินไหว
    เพราะจะมีคนสัตว์เสียชีวิตมาก อันนั้นเป็นความเชื่อของท่าน
    แต่หากกรุณายกหลักฐานหรือพระสูตรมาอ้างอิงด้วยจะน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น


    ขอยกเรื่อง พระพุทธเจ้าทรงทรมานอาฬวกยักษ์
    ซึ่งปรากฎในพระชัยมงคลคาถา (พาหุง)
    ขอยกมาเฉพาะในตอนที่ อาฬวกยักษ์แสดงฤทธิจนเกิดภัยพิบัติ
    และพระพุทธเจ้าได้อธิษฐานว่าอย่าให้ภัยพิบัติมีอันตรายแก่ใคร ๆ


    อาฬวกยักษ์นั้นเป็นยักษ์ที่มีฤทธิ์มาก มีอาวุธที่ร้ายกาจที่สุด ถึง 1 ใน 4 อาวุธที่ร้ายกาจที่สุดในโลกมีกันเลย
    ถ้าทราบอย่างนี้แล้วจะเข้าใจอาฬวกยักษ์ว่า เหตุใดจึงทนงในตน มีมานะในตนมาก แล้วมีต้องโกรธมากอย่างนั้น
    แล้วก็เข้าใจมากขึ้นด้วยว่า ทำไมพระพุทธเจ้าจึงทรงเลือกใช้ขันติบารมีทรมาณอาฬวกยักษ์

    อาฬวกยักษ์โกรธลุกขึ้นเหยียบพื้นมโนศิลา ด้วยเท้าเบื้องซ้ายเหยียบยอดภูเขาไกลาสสูงประมาณ ๖๐ โยชน์ ด้วยเท้าเบื้องขวา
    พร้อมกล่าวว่า “ บัดนี้ จงดูศาสดาของพวกท่านมีอานุภาพมาก หรือเราเป็นผู้มีอานุภาพมากกันแน่
    ยอดภูเขาไกลาสนั้นก็ปล่อยสะเก็ดออกมา ดุจก้อนเหล็กซึ่งถูกทุบด้วยแท่งเหล็กกระจายออกมา
    ฉะนั้น อาฬวกยักษ์นั้น ยืนอยู่ในที่นั้น ประกาศก้องว่า ข้าคืออาฬวกะ เสียงแผ่ไปในชมพูทวีปทั้งสิ้น.

    เสียงนั้นดังมาก ดังไปทั่วชมพูทวีป
    แม้นแต่หิมวันตประเทศ ซึ่งมีส่วนกว้างสามพันโยชน์ก็หวั่นไหวด้วยอานุภาพเสียงนั้นของยักษ์

    อาฬวกยักษ์นั้นก่อลมหมุนให้ตั้งขึ้นด้วยคิดว่า เราจักให้สมณะหนีไปด้วยลมนั้นนั่นเทียว
    ลมอันต่างด้วยลมทางทิศตะวันออกเป็นต้นเหล่านั้น ตั้งขึ้นแล้ว ก็ทำลายยอดภูเขาทั้งหลาย ซึ่งมีประมาณกึ่งโยชน์ ๒ โยชน์ ๓ โยชน์
    ถอนรากถอนโคนกอไม้และต้นไม้ในป่าเป็นต้น พุ่งตรงไปยังอาฬวินคร
    ทำสถานที่ทั้งหลายมีโรงช้างเก่าเป็นต้นให้แหลกลาญ พัดผันหลังคาและอิฐให้ลอยละลิ่วไปในอากาศ

    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอธิษฐานว่า ขอภัยพิบัติจงอย่ามีแก่ใคร ๆ
    ลมเหล่านั้นพัดถึงพระทศพลแล้ว ไม่สามารถทำแม้สักว่าชายจีวรให้หวั่นไหวได้.


    เมื่อไม่ได้ผล อาฬวกยักษ์ก็ทำฝนห่าใหญ่ให้ตกลง ด้วยคิดว่า เราจักให้น้ำท่วมให้สมณะตาย
    ฝนทั้งหลายอันต่างด้วยก้อนเมฆ ตั้งร้อยตั้งพันเป็นต้นก่อตัวขึ้นแล้วก็ตกลงมา
    ด้วยความเร็วของกระแสน้ำฝน แผ่นดินก็เป็นช่อง ๆ ต่อแต่นั้น มหาเมฆก็มาเบื้องบนของราวป่า
    ก็ไม่อาจที่จะทำแม้สักว่า หยาดน้ำค้างให้เปียกที่จีวรของพระทศพลได้. (ขอยกมาเพียงเท่านี้เพื่อไม่ให้เิยิ่นเย้อ)

    หากสนใจสามารถอ่านได้จาก พระพุทธเจ้าชนะอาฬวกยักษ์ด้วยขันติบารมี - ลานธรรมเสวนา



    อธิบายเพิ่มเติม

    ธิบายเพิ่มเติมข้อที่ 1
    ขันธกุมาร
    นั้นเป็นเทพแห่งสงครามตามความเชื่อของศาสนาฮินดู เป็นคนละท่านกับ
    อายุวัฒนกุมาร

    ธิบายเพิ่มเติมข้อที่ 2
    เรื่องภัยพิบัติ 10 ประการนั้นได้แก่
    1. ราชภัย ท้าวพระยาจะบังคับเบียดเบียนพลเมือง
    2. โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
    3. อัคคีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
    4. อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อย ๆ
    5. เมทนีภัย แผ่นดินจะไหวสะท้านและแยกออกจากกัน
    6. วาตภัย จะเกิดลมพายุพัดพาบ้านเมืองพินาศ
    7. อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา
    8. ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร
    9. พยาธิภัย จะเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ล้มตาย
    10. สัตถภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2011
  7. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    ขอบคุณค่ะคุณอมริศา เนื่องจากดิฉันเรืยนหนังสือไทยถึงแค่ป.2 ก็ต้องไปอยู่ต่างประเทศเรียนที่ต่างประเทศ การเขียนภาษาไทยของดิฉันจึงมักจะเขียนผิดอยู่บ่อยๆ ดิฉันจะคอยระมัดระวังให้มากยิ่งๆขึ้นค่ะ...ขอบคุณค่ะ
     
  8. tk_sillyfools

    tk_sillyfools Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก บอกว่า อีกไม่กี่ปี แม่น้ำโขงจะเป็นน้ำแข็ง เดินข้ามได้
     
  9. Kra-Tai

    Kra-Tai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +7
    กด like ให้ 1000 ครั้ง สาธุ สาธุ
     
  10. ต้นไทร

    ต้นไทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +666
    ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
     
  11. thexjeab

    thexjeab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +685
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  12. ปธ6

    ปธ6 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +292
    การเจริญสมาธิ และแผ่อุทิศส่วนกุศลผลของกรรมดี จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาแก่สัตว์โลกได้...ดังเช่นพระเถราจารย์ทั้งหลายเวลาท่านเข้าหรือทำสมาธิแล้ว ท่านจะอนุเคราะห์สัตว์โลกด้วยการแผ่เมตตา...
     
  13. เทพเมรัย

    เทพเมรัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +80
    ขอโทษที ผมจำชื่อผิด อายุวัฒนกุมารนั้นถูกต้องแล้ว

    ผมสังเกตุอย่างนี้น่ะ หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว การเกิดโรคระบาด ทั้งที่บันทึกไว้ หรือไม่บันทึก มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าโรคระบาดต่างๆเกิดจาก ผีหรืออมนุษย์
    แม้ในหลายร้อยปีมานี้โรคระบาดต่างๆ ล้วนมีสาเหตุมาจากเชื้อโรคทั้งนั้น เช่น ไข้หวัดใหญ่ อหิวาตกโรค มาลาเรีย และอื่นๆ ซึ่งวิทยาการสมัยใหม่ก็พิสูจน์ทราบถึงต้นเหตุ วงจร การเกิดโรคเหล่านี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
    แทบไม่มีโรคระบาดอะไรเลยที่ไม่สามารถตรวจหาตัวเชื้อโรคได้
    เป็นไปได้ไหมว่า อายตนะธรรมดาของมนุษย์เห็นตัวก่อโรคเป็นตัวเชื้อโรค เพราะจิตเรารับได้แบบนั้น แต่การเห็นเชื้อโรคในระดับฌาณของพระอริยะ ตัวตนที่ปรากฏย่อมแตกต่างจากที่เราเห็น ตามความละเอียดของจิต เราเห็นแค่สสาร แต่ท่านเห็นจิตวิญญาณ
    เรื่องภัยธรรมชาติ ถ้าเรามองอย่างวิทยาการสมัยใหม่เราก็อาจอธิบายบางอย่างได้อย่างมีเหตุมีผล พิสูจน์ทราบได้ ตามกำลังของวิทยาการในสมัยหนึ่งๆ ผมขอยกตัวอย่างเรื่อง น้ำท่วม
    น้ำเมื่อระเหยก็กลายเป็นไอ เป็นความชื้น เป็นเมฆ ลอยอยู่ในอากาศ การกลายเป็นไอเกิดจากความร้อน ความร้อนมาจากดวงอาทิตย์
    เมื่อเมฆมีความชื้นสูงขึ้น หนาแน่นขึ้น ก็ตกลงมาเป็นน้ำฝน ตกมากน้ำก็ท่วม ถ้าบ้านเมืองอยู่ที่สูงก็ท่วมยาก อยู่ต่ำหน่อยก็ท่วมได้ง่าย หรือการระบายน้ำไม่ดีพอก็ท่วมได้ง่ายๆ
    ถ้าถามว่าอะไรอยู่เบื้องหลังของการเกิดฝน ก็คงเป็น ความร้อน ไอน้ำ ความชื้น เมฆ สิ่งเหล่านี้มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ
    อะไรเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วม อาจเป็น พื้นที่ต่ำ วางระบบระบายน้ำไม่ดี ฝนมาก ไม่มีต้นไม้มากพอเก็บกักน้ำ
    ส่วนนี้เป็นเหตุเป็นผลที่จับต้องได้ทางกายภาพ ส่วนจะมีใครอยู่เบื้องหลังการเกิดนั้น เราต้องหาเหตุผลให้ได้ว่า เขาที่ว่านี้จะแทรกตัวอยู่วงจรช่วงไหนของ การเกิดน้ำท่วมหรือฝนตก และเหตุใดเขาจึงควบคุมพลังงานทางธรรมชาติได้ ด้วยวิธีใด และทำไปเพื่ออะไร
    ที่ผมกล่าวมาทั้งหมด ผมไม่ได้ปฏิเสธ ถึงความเป็นไปได้ของการมีอยู่ของเขาเหล่านั้น แต่ก็อยากจะทราบถึงวงจรการทำงานของพวกเขา
     
  14. ปธ6

    ปธ6 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +292
    คุณทั้งสองคนเก่งมากทั้งคู่ครับ...แต่เรื่องบางเรื่องควรจะมีข้อมูลอ้างอิงตามความเป็นจริงมาเป็นแนวทางให้คนได้เข้ามาศึกษาหาประโยชน์...การลงความเห็นข้อความถ้าเอาตามอัตโนมติของตนใส่มากเกินไป...อันตราย...นะครับ สำหรับผู้ไม่รู้ที่มาที่ไป...แล้วนำไปขยายต่อ...ขอเป็นประโยคแทรกเท่านี้ครับ
     
  15. kountee

    kountee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +166
    ประเทศนี้เหลือเวลาแค่ 6 ปีละหว่าง 6 ปีนี้อยู่ในช่วงแยกแยอะ คนดี คนเลว ใครทำดีอยู่แล้วก็รักษาไว้ให้มั่น ใครทำไม่ดีก็คิดกลับตัวเสียใหม่ยังไม่สายนะครับ..
     
  16. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +1,862
    เลื่อนออกไป ไม่สำคัญเท่ากับบอกมาตรงๆ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อใด
     
  17. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ไม่ทราบว่า 'คุณทั้งสอง' นั้นหมายรวมถึงผมด้วยหรือเปล่าครับ ? ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัย
    แต่ถ้าหนึ่งในสองคนนั้นหมายถึงผม ผมก็ขอใช้สิทธิพาดพิง

    ขอชี้แจงว่าผมได้อ้างอิงพระไตรปิฎกหรือพระสูตรไว้แล้ว
    ทำลิ้งค์อ้างอิงข้อมูลไว้ด้วย อาจเพียงพอสำหรับบางท่าน
    แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเพียงพอสำหรับอีกหลายท่านหรือไม่

    อย่างไรก็ตามวิธีที่ดีที่สุดคือปฏิบัติจนรู้เห็นได้เองจึงจะพ้นสงสัย นั่นเป็นการศึกษาที่ดีที่สุดครับ



     
  18. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    เห็นด้วยกับคุณ karan20 ที่ได้อ้างอิงพระไตรปิฏกหรือพระสูตรทุกครั้งและขออนุโมทนาบุญที่ได้ให้ธรรมะเป็นทานด้วยครับ อย่างน้อยมีผมคนหนึ่งละที่ได้ความรู้ความเข้าใจเพิ่มเติมจากโพสต์ของคุณ karan20
     
  19. ปธ6

    ปธ6 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +292
    ถูกต้องแล้วครับ อ้างอิงจากพระไตรปิฎก...... ถึงจะร่ำเรียนมาเป็นร้อยวันพันปี..ก็คงไม่มีประโยชน์..ถ้าไม่ลงมือปฎิบัติจนรู้แจ้งเห็นจริงสักครั้ง....ขออภัยนะครับผมไม่มีเจตนาพาดพิงใครๆทั้งสิ้น มันเป็นคำเตือนสอนใจผมเอง...คงมิบังอาจไปสอนคนอื่นๆได้ทั้งหมด ... บททดสอบอย่างหนึ่งครับ...ของโพชฌงค์7
     
  20. ดาวบุ๋น5

    ดาวบุ๋น5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +375
    เห็นว่ามีการโต้แย้งกันเรื่องการเลื่อนอะไรทำนองนี้ และยกเอาเรื่องประวัติพระพุทธเจ้ามากล่าวอ้าง...

    ความเห็นส่วนตัวผมว่าน่าจะยกเรื่องที่มันใกล้ตัว ที่เกิดขึ้นล่าสุด ไม่ใช่เอาเรื่องเก่ามากๆ ซึ่งจริงหรือไม่จริงก็ยังไม่รู้ ..เพราะไม่ได้อยู่ที่ยุคนั้น และก็ไม่ได้มีการบันทึกกัน แต่เป็นเรื่องที่ไม่ทราบเหมือนกันว่าได้มาจากที่ไหน อาจจะอุปทานทางจิตขึ้นมาก็ได้เพื่อสอนคน หรืออะไรก็ตามแต่

    ผมอยากให้มองถึงความเป็นจริงที่ชัดเจนเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่ากล่าวอ้างในสิ่งที่มองไม่เห็นโดยไร้เหตุผลไปเลย เพราะเรื่องเช่นนี้สามารถหาเหตุผลได้ ไม่ใช่ว่าต้องใช้แต่ความเชื่อเพียงอย่างเดียว ...มันพิสูจน์ได้จริง

    ดังนั้นผมจะขอกล่าวเรื่องการเลื่อนภัยพิบัติที่เห็นๆที่ผ่านมาให้เห็นด้วยเหตุผลว่าไม่ได้เกิดจากการเลื่อนอย่างที่ทุกคนเข้าใจ ..ก็จะรู้เอง

    จากที่มีคนทำนายว่าจะเกิดเรื่องช่วงเวลานั้น วันที่นั้น จะด้วยใช้ญาณจริง หรืออุปทานญาณก็ไม่ทราบ ..จริงๆก็ได้มีการพิสูจน์พอสมควรแล้วแต่แรก ก็ค่อนข้างผิดพลาดหลายครั้ง แต่ก็ยังมีคนพยายามเชื่อกันเยอะทีเดียว (ผมขออ้างอิงกระทู้อนาคตังสญาณเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน)

    พอเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ว่าได้เห็น ได้รู้ ได้บอกมาแล้วไม่เกิดขึ้นจริงตามนั้น ..ก็หาข้ออ้างบอกว่าเลื่อน เพราะวันนั้นมีงานบุญใหญ่มาช่วยเหลือเอาไว้

    ตรงจุดนี้เองนั้นแหละที่เป็นเหตุเป็นผลที่ผูกมัดคำพูดว่าจริงๆแล้วที่เห็นนั้นไม่เกิดขึ้นอยู่แล้ว..เพราะอะไรอย่างนั้นหรือครับ

    ผมจะกล่าวให้ทุกๆคนฟังสำหรับคนที่ชอบอ้างงานบุญมาแก้ตัว เถไถว่าเลื่อนไป
    ..สาเหตุเพราะว่างานบุญใหญ่ๆนั้นได้มีหมายกำหนดการณ์ไว้ก่อนที่จะจัดงานเป็นอย่างต่ำเดือนหรือ2เดือนอยู่แล้ว

    ดังนั้นการที่มาอ้างวันที่เกิดเหตุเลื่อนไปเพราะว่ามีงานบุญพอดีวันนั้น จึงเป็นข้ออ้างที่บอกชัดเจนว่าคนๆผู้นั้นไม่ได้เห็นอนาคตจริงๆ หรือมีญาณที่เทียงแท้แน่นอน เพราะวันกำหนดการณ์งานบุญนั้นได้ประกาศเป็นที่แน่นอนมาก่อนที่จะมาเตือนเสียอีก ซึ่งพวกเราท่านๆถ้าเข้าเว้ปเกียวกับศาสนา งานบุญอะไรก็จะรู้ว่างานบุญใหญ่ๆนั้นได้ประกาศเอาไว้นานแล้ว

    คนใช้ญาณสมาธิกลับไม่เห็น แล้วมาอ้างว่างานบุญวันนั้นช่วยให้เลื่อนไป ..จะฟังขึ้นมั้ยครับ

    สรุปคือไม่ได้มีการเลื่อนแต่อย่างใดในกรณีนี้ :boo:
     

แชร์หน้านี้

Loading...