'ภัยพิบัติถูกเลื่อนออกไป' นั้นเป็นได้แค่ 'ข้ออ้าง' ?

สาธุ ให้กับข้อความของคุณ ดาวบุ๋น5 กับ คุณเทพเมรัย ครับ เปิดสติโดนใจมากๆ อยู่ที่ว่าจะยอมรับความจริงกันได้มากน้อยแค่ไหน อยากกด like ให้สัก 99 ที ศรัทธากับงมงายมันใกล้กันมากจริงๆๆ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ว่าง โล่ง ปร่ง เย็น อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด หมาจะกัด ก็อย่าให้มันกัดสิ

 

คิดต่างกันได้...แต่เราไม่แตกแยกกัน

 

ศรัทธาที่ดีต้องมีปัญญา...ควบคุม

 

ต่างคนก้อต่างมีความคิดเป็นของตนเอง ..บางเรื่องอาจจะถูกใจเรา แต่ไม่ถูกใจคนอื่น บางเรื่องอาจจะถูกใจคนอื่น แต่สกิดใจเรา...เฮ้อ ! มนุษย์กิเลสหนา....
...ยอมถูกด่าเพื่อรักษาสัจจะในใจ...

 

เตือนหรือเล่าสู่กันฟังนั้นดีกว่าไม่บอกเลย ทุกคนจะได้ทำดีไงครับ เทวดามีจริง นรกสวรรค์มีจริง ดังนั้นภัยภิบัติขึ้นอยู่กับความไม่ประมาทในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ผู้มีบารมียังอยู่คู่บ้านเมืองท่านเตือนและหาทางช่วยเหลือนั่นคือจิตพุทธะ สัญญามีมาไม่เท่ากันเร่งนั่งสมาธิ รักษาศีลก็จะรู้ด้วยตนเองว่าภัยนั้นมีจริง เลื่อนหรือไม่เลื่อน แรงบุญและแรงบาปเป็นตัวขับเคลื่อน ทุกอย่างมีเหตุและผล ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกรรมดี และกรรมชั่ว

 

วางใจเป็นกลางในการรับรู้ข่าวสารกันดีกว่าครับ อย่าไปกังวลใจเพราะข่าวเหล่านี้มากเลย

เพราะยิ่งเรากังวลกับมันมากเท่าไหร่ ภัยจะยิ่งเกิดถี่มากขึ้น ถ้าเคยอ่าน the secret

น่าจะพอเข้าใจนะครับ เราฟังข่าวภัยก็เหมือนรับข้อมูลไว้ แล้วเตรียมความพร้อม

ผมว่าน่าจะ บอกต่อๆ กันไปด้วยเรื่องการวางกำลังใจ เกี่ยวกับการรับข้อมูลภัยพิบัติ

เพราะคนใหม่ๆ เมื่ออ่านบ่อยๆ จะเริ่มเชื่อ แล้วขยายไปในวงกว้าง จากสมัยก่อน

ที่ยังมีคนเชื่อเรื่องนี้อยู่ไม่มากนัก แต่กลับกันถ้าทำให้คนกลัวแล้ว ทำบุญ ปฏิบัติธรรม

ได้มากขึ้นก็จะดีไม่น้อยครับ

 

ทุกอย่างมีแต่คำอ้างทั้งนั้นแหละครับ...ตราบใดกิเลสยังพอกพูนหนาในจิตใจอยู่...

 

ผมศรัทธาในพุทธศาสนา เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม สำหรับเรื่องภัยพิบัตินั้น นับวันจะร้ายแรงรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากจิตใจของคนที่มีความชั่ว มีการกระทำชั่วที่ไม่เกรงกลัวต่อบาปไม่ละอาจต่อบาป เห็นแก่ตัว มีความโลภอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อสนองต่อความโลภ จึงมีการกระทำอย่างไรก็ได้เพื่อสนองตอบต่อความโลภของตนเอง จึงเกิดการเบียดเบียนต่อธรรมชาติอย่างมากมาย แม้แต่การกระทำต่อคนด้วยกันเองอย่างไม่มีความเมตตาอยู่แม้แต่น้อย การกระทำของคนคือต้นเหตุแห่งภัยพิบัติทั้งปวง ยิ่งนับวันยิ่งรุนแรงกลับมาทำร้ายตัวเอง ทำให้โลกและธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมขาดความสมดุลอย่างหนัก สรรพสิ่งที่ไม่มีความสมดุลย่อมอยู่ไม่ได้ และเพื่อความอยู่รอดของโลก จึงต้องปรับให้เกิดความสมดุล ซึ่งการปรับตัวนี้จะทำลายคนส่วนใหญ่อย่างแน่นอน หากคนยังไม่สำนึกกับการอยู่กับธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมอย่างกลมกลืน ไม่ทำลายซึ่งกันและกัน ยิ่งทำลายธรรมชาติมาก ธรรมชาติก็จะกลับมาทำลายคนมากอีกหลายเท่าตัว และในขณะนี้คนก็ได้ทำลายธรรมชาติอย่างโหดร้ายแม้แต่เผ่าพันธุ์ด้วยกันเอง จึงหนีไม่พ้นที่จะต้องถูกธรรมชาติทำลายไปในที่สุด มีทางเดียวที่จะรอดคือต้องทำความดี มีเมตตาธรรม ไม่เบียดเบียนสรรพสิ่งในโลก ทั้งยังต้องพยายามสร้างส่งเสริมและให้กับธรรมชาติมากที่สุด มากกว่าที่ได้ทำลายมาแล้ว เพื่อให้โลกเกิดความสมดุลโดยมนุษย์ แทนที่จะให้โลกปรับความสมดุลด้วยตัวเอง เหมือนกับความชั่วร้ายที่คนได้กระทำอย่างไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรม ผลการกระทำย่อมกลับมาทำร้ายตัวเองในที่สุด มีทางเดียว หากสำนึกตัวได้ ต้องทำความดีไปละลายความชั่วร้ายให้เบาบางลงให้มากที่สุด เพื่อผลกระทบจากการกระทำชั่วจะได้เบาบางลงไปได้บ้าง ยิ่งทำดีได้มากกว่าทำชั่ว ความชั่วนั้นแม้จะไม่ได้หายไปไหน แต่ก็จะไม่กระทบกับตัวเรา ตราบใดที่ยังทำความดี แต่เมื่อเผลอหรือประมาทเมื่อไร ไปหลงตัวกระทำชั่ว ซึ่งจะไปเพิ่มความชั่วที่เคยทำอยู่แล้วให้มากขึ้น ผลชั่วนั้นต้องกลับมาสู่ตัวเองในที่สุด ธรรมชาติก็เช่นเดียวกัน แทนที่จะยังคงทำลาย กลับมาสร้างธรรมชาติให้เพิ่มมากขึ้น ภัยพิบัตินั้นอาจเบาบางลงไปได้ อย่าคิดว่าคนเราเป็นสิ่งมีชีวิตมีความรู้สึกเท่านั้น สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ต่างก็มีชีวิตมีความรู้สึกไม่ต่างกับคนเท่าไรนัก เพียงแต่ว่าไม่สามารถร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อคนไปทำลายได้เท่านั้น

 

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
และพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้แล้วว่า
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์
หากมีคนเห็นว่า ภัยพิบัตินั้นเที่ยงแท้แน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง ย่อมหมายความว่า สิ่งนั้นไม่ใช่ทุกข์ หรือสิ่งนั้นเป็นสุข ซึ่งนอกจากจะเห็นได้ชัดๆแบบชาวโลกว่าผิดแน่นอน ไม่มีใครที่ไหนในโลกจะรับว่าภัยพิบัติเป็นความสุข และยังขัดแย้งตรงกันข้ามกับพระพุทธพจน์ดังกล่าว ฉะนั้นข้อความ "ภัยพิบัตินั้นเที่ยงแท้แน่นอน" จึงเป็นไปไม่ได้และไม่ใช่ความจริง
สรุปก็คือ พิบัติไม่เที่ยง คือไม่แน่นอน มีความแปรปรวนไปตามเหตุปัจจัย และเป็นทุกข์

สำหรับกรณีที่มีคนกล่าวในทำนองสงสัยไม่น่าเชื่อถือตัวอย่างที่ยกมาประกอบ จากพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานแล้วในสมัยพุทธกาล และพวกเราทุกคนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์นั้น ทำให้ไม่น่าเชื่อถือว่าจะเป็นความจริงนั้นรวมทั้ความเห็นในทำนองว่างมงายนั้น
สำหรับผมแล้ว ผมเชื่อถือ เชื่อมั่นและศรัทธาในพระรัตนตรัยและพระพุทธศาสนา อันมีพระธรรมซึ่งถือเป็นศาสดาของพระพุทธศาสนาสืบแทนพระพุทธองค์ต่อมาจนถึงปัจจุบัน และไม่เคยเคลือบแคลงสงสัยใดๆ ว่าสิ่งใดที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกจะไม่เป็นความจริง และยังได้รับผลดีตามสมควรจากการศึกษาและปฏิบัติ มิได้หลับหูหลับตาเชื่ออย่างงมงายแต่ประการใด ยิ่งทำให้เชื่อถือและศรัทธาได้อย่างสนิทใจ อย่างน้อยที่สุดพระไตรปิฎกนั้นได้รับการพิสูจน์รับรองแล้วโดยคณะผู้สังคายนาซึ่งเป็นพระอรหันตสาวกหรือผู้ที่บรรลุธรรมขั้นสูง ตรงกันข้าม ผมกลับสงสัย คนที่มาโพสข้อความดังกล่าวนั้นมากกว่า ว่าเป็นคนถือศีล 5 หรือไม่ (พวกทุศีล ไม่ถือศีล5 จะพูดจะกล่าวจะโกหกอะไรอย่างไรได้ทุกอย่าง) เป็นมิจฉาทิฏฐิหรือไม่ เป็นพวกโมหะปิดบังจิตใจจนมืดมิดหรือไม่ เ็ป็นชาวพุทธหรือไม่ นับถือศาสนาพุทธหรือไม่ มีความรู้มากน้อยเพียงในทางธรรม เคยศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมในพระไตรปิฎกจนรู้แจ้งเห็นจริงแล้วหรือว่าไม่เป็นไปตามนั้น อย่าได้สำคัญตัวเองผิดๆว่าเรียนทางโลกมาสูงๆ มีปริญญาห้อยท้ายแล้วจะมีสติปัญญาล้ำเลิศ ฉลาดรู้แจ้งเห็นจริงในสรรพสิ่งยิ่งไปกว่าพระพุทธเจ้า และได้โพสข้อความทำนองดูแคลนไม่เชื่อถือพระไตรปฏิฎกเช่นนั้น บุคคลผู้มีความคิดและการแสดงออกดังกล่าว ผมเห็นว่าบาปหนัก เข้าข่ายปรามาสพระธรรม มีอบายภูมิและอเวจีมหานรกเท่านั้นเป็นที่ไปเบื้องหน้า

 

ส่วนเรื่องกรรมและผลของกรรม หรือวิบากกรรม นั้น พระพุทธพจน์ทรงตรัสไว้แล้วในพระไตรปิฎก

ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคน ไม่มีใครรู้แจ้งเห็นจริงอย่างถ่องแท้ในเรื่องกรรมและวิบากกรรม แม้แต่คนเดียว ฉะนั้น เมื่อไม่รู้แจ้งเห็นจริง จึงไม่บังควรอย่างยิ่งที่จะกล่าวคัดค้านหรือเห็นเป็นอื่นในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในพระไตรปิฎก สิ่งที่ควรทำก็คือการยึดถือและปฏิบัติตามในพระไตรปิฎก ที่ทรงมอบให้ไว้เพื่อเป็นศาสดาแทนพระพุทธองค์สืบไป ทั้งนี้เพื่อให้สัตว์โลกทั้งหลายได้ใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดในการพัฒนาตนเองจนถึงที่สิ้นสุดแห่งทุกข์ทั้งปวง ครับ

 

- อ่านแล้วก็ขาดเหตุผลที่จะมาอ้างอิง เรื่องที่ว่าอะไรที่ไม่เทียง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หมดและถ้าสิ่งนั้นเที่ยงก็เป็นสุขหมด ...อะไรที่ไม่เที่ยงนี้เป็นวัตถุหรือเปล่าครับ

ผมอยากให้พยายามอย่าอ้างอิง!!พระพุทธเจ้าโดยไม่รู้เนื้อแก่นแท้จริง แล้วบอกว่าเป็นคำตรัสจากพระพุทธเจ้ามันไม่ดีครับ

จะยกคำอะไรที่ไม่ได้กลั่นกรองแล้วก็บอกว่ามาจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ...จะทำให้ศาสนาเสื่อมลง

สมมุติว่าภัยพิบัติจะเกิดวันนี้แน่นอน คุณมีความสุขหรือ??? มันเที่ยงแท้มั้ย

สมมุติภัยพิบัติไม่เกิดวันนี้ตามที่มีคนบอก คุณจะทุกข์ใจหรือเปล่า เพราะมันไม่เทียงอย่างที่คุณบอกมา ???

สมมุติว่าผมซื้อข้าวมาจะกินตอนเที่ยง แล้วผมก็ได้กินตอนเที่ยง มันเทียงแท้มั้ยใช่ผมมีความสุขครับ...แต่ถ้ามันไม่อร่อย ผมก็ทุกข์นะ ???


ดังนั้นสิ่งทีคุณพูดแสดงความเห็นไม่ได้เนื้อแท้ของความไม่เที่ยงนะ สิ่งที่เป็นทุกข์จากความไม่เที่ยงแท้ นั้นคือสิ่งที่เป็นวัตถุ หมายถึงว่าอย่าไปยึดติดวัตถุ ไม่ใช่เหตุการณ์ต่างๆครับ({)

 

ชอบที่คุณฐนาเขียนมาทั้งหมด
และผมเองก็รู้สึกไม่แตกต่างกันเลย

ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

ถามท่านดาวบุ๋น

ขอใช้สิทธิพาดพิงนะครับ และเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด
เพราะที่ท่านกล่าวมานั้นเกี่ยวข้องกับข้อความที่ผมได้ยกมาแสดงไว้
ท่านดาวบุ๋นได้เตือนผมใน 2 ข้อคือ
ข้อที่ 1 อย่าอ้างอิง!!พระพุทธเจ้าโดยไม่รู้เนื้อแก่นแท้จริง แล้วบอกว่าเป็นคำตรัสจากพระพุทธเจ้ามันไม่ดีครับ
ข้อที่ 2 จะยกคำอะไรที่ไม่ได้กลั่นกรองแล้วก็บอกว่ามาจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ...จะทำให้ศาสนาเสื่อมลง

โชคดีที่นี่ไม่ใช่การตั้งข้อหา เพราะถ้าเป็นการกล่าวหาก็ถือว่าเป็นข้อหาร้ายแรงทีเดียว

การที่ท่านกล่าวว่าผู้อื่นไม่เข้าใจแก่นเนื้อแท้นั้น
ผมขอยอมรับว่าเป็นคนหนึ่งที่ไม่กล้าคิดว่าตนจะเข้าใจแก่นเนื้อแท้
การจะกล่าวสิ่งใด ๆ จึงพยายามอ้างอิงพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ ไม่อาจกล่าวเองเพราะเกรงว่าจะกลายเป็นเพ้อเจ้อ

อย่างไรก็ตามเพื่อความชัดเจนผมขอถามท่านดาวบุ๋นดังนี้ครับ

1. ที่ท่านกล่าวว่า "สมมุติว่าภัยพิบัติจะเกิดวันนี้แน่นอน คุณมีความสุขหรือ??? มันเที่ยงแท้มั้ย"
ขอถามว่า คำว่า 'มันเที่ยงแท้มั้ย' ของท่านนั้นตรงกับคำว่า 'เที่ยง' ที่พุทธเจ้าตรัสสอนหรือไม่ กรุณาอ้างอิงประกอบด้วย

2. ที่ท่านกล่าวว่า "สมมุติว่าผมซื้อข้าวมาจะกินตอนเที่ยง แล้วผมก็ได้กินตอนเที่ยง มันเทียงแท้มั้ยใช่ผมมีความสุขครับ
...แต่ถ้ามันไม่อร่อย ผมก็ทุกข์นะ ???"
ขอถามว่า
2.1 การที่ท่านซื้อข้าวมากินแล้วได้กินตามที่ตั้งใจนั้น นี่คือความ 'เที่ยง' ตามความหมายของพระพุทธเจ้าหรือไม่
นี่เป็นเครื่องยืนยันความ 'เที่ยง' ได้หรือไม่ มีบางวันหรือไม่ที่ท่านไม่ได้กินข้าวเที่ยง
ท่านกินข้าวเที่ยงในเวลาเดียวกันทุกวันหรือไม่
2.2 ตกลงว่าท่านเป็นสุขหรือเป็นทุกข์จากการกินตามเหตุการณ์ที่ท่านสมมติเพราะท่านบอกว่า "ถ้าไม่อร่อยก็เป็นทุกข์"
ตกลงว่าอร่อยหรือไม่ อร่อยเหมือนกันทุกวันหรือไม่

3.ท่านกล่าวว่า "สิ่งที่เป็นทุกข์จากความไม่เที่ยงแท้ นั้นคือสิ่งที่เป็นวัตถุ หมายถึงว่าอย่าไปยึดติดวัตถุ ไม่ใช่เหตุการณ์"
ขอถามว่า
3.1 สุขหรือทุกข์จากการกินข้าวเที่ยงของท่านนั้นเป็นเป็นวัตถุหรือไม่ สุขหรือทุกข์นั้นเที่ยงหรือไม่เที่ยง
3.2 การที่คนกล่าวยกย่องชื่นชมเรา การยกย่องเหล่านั้นเป็นวัตถุหรือไม่
และการยกย่องนั้นเที่ยงหรือไม่ มีความแปรปรวนหรือไม่
3.3 การไม่เที่ยงของวัตถุนั้นนำไปสู่ความไม่เที่ยงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับวัตถุอันไม่เที่ยงนั้นหรือไม่
เช่น ความสวยงามป็นวัตถุหรือไม่ ความสวยนั้นเที่ยงหรือไม่ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

4. ภัยพิบัตินั้นหมายถึงอะไร ภัยพิบัติในความเห็นของท่านนั้นเกิดจากอะไร มีปัจจัยอะไร
ปัจจัยเหล่านั้นเที่ยงหรือไม่เที่ยง แปรปรวนหรือไม่

5. ธรรมชาติต่างๆ นั้น เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ เปลือกโลก ภูเขาไฟ นั้นเที่ยงหรือไม่เที่ยง มีความแปรปรวนหรือไม่


ขอความกรุณาท่านดาวบุ๋นช่วยยกพระสูตรหรือพุทธพจน์ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้ามาประกอบเพื่อความกระจ่างด้วยครับ

 

<TABLE width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๏[/FONT] [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]นาคีมีพิษเพี้ยง [/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]สุริโย [/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เลื้อยบ่ทำเดโช [/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]แช่มช้า [/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]พิษน้อยหยิ่งโยโส[/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]แมลงป่อง[/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ชูแต่หางเองอ้า [/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]อวดอ้างฤทธี[/FONT][FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๚[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๏[/FONT] [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เว้นวิจารณ์ว่างเว้น [/FONT]</TD><TD width="9%"> </TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]สดับฟัง [/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เว้นที่ถามอันยัง [/FONT]</TD><TD width="9%"> </TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ไป่รู้ [/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เว้นเล่าลิขิตสัง-[/FONT]</TD><TD width="9%"> </TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เกตว่าง เว้นนา[/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เว้นดั่งกล่าวว่าผู้ [/FONT]</TD><TD width="9%"> </TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ปราชญ์ได้ฤามี[/FONT][FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๚ะ๛[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๏[/FONT] [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]โทษท่านผู้อื่นเพี้ยง [/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เมล็ดงา [/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ปองติฉินนินทา [/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ห่อนเว้น [/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]โทษตนเท่าภูผา[/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]หนักยิ่ง[/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ป้องปิดคิดซ่อนเร้น [/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เรื่องร้ายหายสูญ[/FONT][FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๚ะ๛[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๏[/FONT] [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ก้านบัวบอกลึกตื้น[/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ชลธาร [/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]มารยาทส่อสันดาน [/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ชาติเชื้อ [/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]โฉดฉลาดเพราะคำขาน[/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ควรทราบ[/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ [/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]บอกร้ายแสลงดิน[/FONT][FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๚ะ๛[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๏[/FONT] [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]คนใดคนหนึ่งผู้ [/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ใจฉกรรจ์ [/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เคียดฆ่าคนอนันต์ [/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]หนักแท้ [/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ไป่ปานบุรุษอัน[/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ผจญจิต เองนา[/FONT]</TD></TR><TR><TD width="47%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]เธียรท่านเยินยอแล้ [/FONT]</TD><TD width="44%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ว่าผู้มีชัย[/FONT][FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]๚ะ๛[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

-คำตอบก็อยู่ในนี้แล้วนี้ครับ
ข้อที่ 1 อย่าอ้างอิง!!พระพุทธเจ้าโดยไม่รู้เนื้อแก่นแท้จริง แล้วบอกว่าเป็นคำตรัสจากพระพุทธเจ้ามันไม่ดีครับ
ข้อที่ 2 จะยกคำอะไรที่ไม่ได้กลั่นกรองแล้วก็บอกว่ามาจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ...จะทำให้ศาสนาเสื่อมลง

เมื่อบอกแบบนี้แล้วจะให้ผมอ้างอิงพุทธพจน์ไปเพื่ออะไรครับ({)

 

เอะอะ ก็อ้าง อภิญญา อ้างญาณ อ้างว่ามันเลื่อนไป อ้างช่วยกันทำความดี อ้างฝึกสมาธิ อ้างสารพัดร้อยแปด

มีใครสักคนไหมที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองพูดไป หรือทำนายไว้

เก่งกันเหลือเกินทั้งอภิญญา ทั้งญาณสมาธิ มีใครที่ไม่ผิดศีลข้อ 4 บ้างไหมครับ

การที่คุณดาวบุ๋น5 ออกมาเตือน เสมือนนิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ เพราะถ้าวันหนึ่งหมาป่าหรือภัยพิบัติมันเกิดขึ้นจริง จะมีใครเชื่อ ก็คงต้องเสียหาย หรือพังพินาศ เพราะคำลวงต่าง ๆ

ถามจริง ๆ เหอะ ภัยพิบัติต่าง ๆ ที่มันจะเกิดขึ้นจริง ในอนาคตกาลเบื้องหน้า มีใครจะสามารถหยุดยั้งหรือจะเลื่อนมันออกไปได้

คนไม่ว่าดีหรือเลว สุดท้ายมันก็ตายด้วยกันทั้งนั้น ผมว่าบางคนจะตายก่อนภันพิบัติจะมาซะด้วยซ้ำ

ตอนนี้ ทั่วโลกมีผู้พยากรณ์เทียมเท็จอยู่มากแล้ว อย่าให้มีในเวบนี้เลย เพราะรู้จักเวบนี้มาหลายปีแล้ว มีแต่เรื่องดี ๆ เรื่องญาณ หรืออภิญญา หรือการฝึกสมาธิ จะดีบ้างโม้บ้าง เห็นนู้ นี้ นั้น ก็สุดแท้แต่ มันจะไม่ยังให้เกิดประโยชน์หรือโทษแก่ผู้ใดมากนัก แต่หลัง ๆ เอาเรื่องพรรค์นี้มาทำนายเกี่ยวกับภัยพิบัติ เคยคิดบ้างไหม ว่ามันจะมีโทษ เหมือนคนไร้สติฆ่าตัวตายเพราะเชื่อคำอาจารย์หวัง ก็แล้วไง อาจารย์หวังมันรับผิดชอบต่อคำพูดมันไหม

คุณจะเอาทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินมาอ้างก็ทำไปเถอะ แต่ถ้าคุณยังเป็นชาวพุทธจริง ๆ แล้วล่ะก็ อย่าเอาพระพุทธเจ้าท่านมาอ้าง อย่าเอาท่านมาเปรอะเปื้อนด้วยปากของคุณเลย

 

อย่าไปว่านะ คนในเว็บนี้เขาบอกว่าเลื่อนได้นะ สารพัดจะเลื่อนเลยล่ะ ตะเอง ....

 

เฮ้อ.....กะทู้ในบอร์ดรู้สึกว่าจะแรงขึ้นทุกวัน
อ่านแล้วมึน เครียด เรายิ่งสมาธิไม่ดีซะด้วย

ปล...ความเห็นส่วนบุคคล(แค่อยากระบายเท่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องบุคคลอื่น)

ขออนุโมทนา...กับผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแล้ว สาธุฯ

 

ปล่อยไปเถอะ อย่าไปสนใจเลย เพราะเค้าเหล่านั้นเกิดมาเพื่อทำสิ่งนั้น มันเป็นหน้าที่ของเค้า

ส่วนหน้าที่ของเรา ก็ทำกันต่อไป จงเลือกบอกบัว 3 เหล่า