ประสบการณ์ ธรรมะ พระเครื่อง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 14 ตุลาคม 2009.

  1. tanatsan

    tanatsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ขอเรียนท่านที่ทราบเกี่ยวกับพระผงกรรมฐานของหลวงปู่ที่มี
    ๑ด ปั๊มจมอยู่ด้านหลังหน่อยครับว่าเป็นรุ่นอะไร ใช่รุ่นที่เรียกกันว่ารุ่นก้นโอ่งไหมครับ อยากทราบประวัติความเป็นมาของพระรุ่นนี้ซักนิดครับ ขอบคุณมากครับ
     
  2. เปิดโลก

    เปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +2,479
    สวัสดีครับ คุณน้อง
    .....เห็นคุณน้องสร้างบุญกุศลทำบุญได้วัตถุมงคลตระกรุดชั้นครู โมทนาด้วยนะครับ
    .....เท่าที่ได้ยิน พระผงกรรมฐานรุ่นนี้เป็นรุ่นก้นโอ่งตามที่คุณน้องเข้าใจ สร้างประมาณปี 27
    .....ที่มีจาร "ด" อีกอย่างที่น่าสนใจคือลูกอมยุคแรกๆ เข้าใจว่าหลวงปู่ใช้ก้านธูปจาร
    (ข้อมูลผิดพลาดอย่างไร ต้องขออภัยด้วย ได้ยินมาอย่างนี้ครับ)
     
  3. tanatsan

    tanatsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ขอบคุณมากครับพี่เปิดโลก โชคดีที่เปิดเครื่องตอนนั้นพอดีมากกว่าครับ พระผงกรรมฐานที่ผมมีเท่าที่ดูน่าจะเป็นการปั๊มลงไปในเนื้อพระครับ คงไม่ใช่รอยจาร มีเลขหนึ่งไทยกับตัว ด ไม่รู้ว่าจะใช่ตามที่พี่บอกหรือเปล่า เคยได้ยินบางท่านพูดว่าเป็นพระที่หลวงปู่ดู่ให้คุณป้าสะอิ้งที่เป็นลูกศิษย์จัดสร้างขึ้น ผมก็ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พี่พอจะมีข้อมูลบ้างมั๊ยครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ(เป็นรอยปั๊มแบบภาพข้างล่างนี้ครับ ภาพนี้ยืมมาจากท่านอื่นไม่ใช่ของผมครับต้องขออนุญาตด้วยนะครับ)
    [​IMG]
     
  4. lkunl

    lkunl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +390
    ของผมด้านหลังก็คล้ายๆ แบบนีแหละครับ พุทธคุณแรงมากครับ :cool:
     
  5. เปิดโลก

    เปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +2,479
    .....พี่ถามศิษย์สายเบี้ยว เค้าบอกว่ารุ่นนี้มีหลายพิมพ์ มีลูกศิษย์มาช่วยกันทำหลายคน ทั้งคุณป้าสะอิ้ง อ.ศุภรัตน์ หลวงตาม้า(สมัยเป็นฆราวาส) เป็นรุ่นก้นโอ่ง(สมเด็จโอ่ง) ปี27 รุ่นเดียวกันทั้งหมด ด้านหลังปั้ม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. tanatsan

    tanatsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ขอบคุณมากครับพี่เปิดโลก:cool:
     
  7. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    พอดีแวะผ่านมา..เห็นมีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่ง ถามเรื่องพระผงหลวงปู่ หลัง ๑ ด พอดีผมพอจะมีความรู้อยู่บ้าง จึงใคร่จะขอเสริมนิดหน่อยพอเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง..ครับ

    พระผงที่เป็นหลัง ๑ ด จะเป็นพระที่สร้างในปี 2527 ทั้งหมด รุ่นนี้จะแปลกกว่าที่สร้างในปีอื่นๆ กล่าวคือ เนื้อพระจะออกวรรณะขาวจั๋วะ ด้วยมวลสารหลักคือปูนขาวปกติๆเรานี้เอง

    ผู้ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลัก ในการทำพระรุ่นนี้ ก็คือ หลวงน้าสายหยุด พิมพ์พระกันที่กุฏิท่าน โดยมีป้าสอิ้งช่วยบ้างเป็นครั้งคราว นอกนั้นหลักๆก็จะเป็นตัวหลวงน้า และศิษย์ของหลวงน้าเองช่วยๆกัน หรือใครว่างๆก็มาช่วยกัน โดยการทำมิได้เป็นการทำในครั้งเดียว แต่เป็นการทำแบบไปเรื่อยๆ ตลอดปี 2527 นับว่าเป็นรุ่นพระผงที่สร้างจำนวนมากที่สุด ไม่มีใครรู้จำนวนที่แน่นอน แต่คาดว่าน่าจะมีจำนวนหลายๆหมื่นองค์ หรืออาจจะร่วมๆแสนองค์ หรืออาจจะประมาณ 84,000 เท่าพระธรรมขันธ์ ตามคตินิยม

    พระที่ทำขึ้นทั้งหมด ผ่านการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่ทั้งหมด มีทั้งพิมพ์ที่เป็นหลัง ๑ ด และหลังเรียบธรรมดา และหลังตัวยันต์อะระหังอีกเล็กน้อย ขณะที่ทำได้ถวายให้แก่หลวงปู่ท่านบ้าง และหลวงปู่ท่านก็ได้มีการแจกไปสู่ลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่บ้าง แต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก ( เพราะรุ่นอื่นๆที่สร้างก่อนหน้า ยังมีค้างเหลืออยู่อีกเป็นจำนวนมาก พระผงสมัยนั้นของหลวงปู่ฯ ยังไม่ค่อยมีคนสนใจ ยังไม่มีราคาค่างวด) ส่วนใหญ่จึงถูกเก็บอยู่ในโอ่งมังกร พระชุดนี้ในส่วนของหลวงน้าสายหยุดที่เป็นผู้นำจัดสร้าง นับรวมทั้งหมดได้ประมาณ 4 โอ่งมังกร

    แต่ยังมีข้อมูลอีกส่วนหนึ่ง บอกกล่าวว่า แท้จริงแล้ว พระรุ่นนี้ (รุ่นโยงสายสิญธ์) จะมีชุดที่หลวงน้าลำใย พาลูกศิษย์ลูกหาจัดสร้างถวายให้แก่หลวงปู่ในปีเดียวกันนี้อยู่ด้วย และพระทั้งหมดปัจจุบันยังเก็บรักษาอยู่ที่กุฏิหลวงน้าลำใย ยังไม่มีการเปิดโอ่งแต่อย่างใด ข้อมูลทั้งหมดในส่วนนี้เป็นที่เพียงแต่การบอกกล่าว จึงยังไม่ขอยืนยันในความถูกต้อง )

    ปัจจุบัน 2 ลูกอยู่ที่กุฏิหลวงพี่ชาญชัย (พระผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ปัจจุบัน) (กุฏิหลวงลุงดำเดิม อยู่ติดป่าช้าเก่า) ส่วนเหลืออยู่กุฏิหลวงน้าสายหยุด ที่ขณะนี้ท่านพักรักษาตัวอยู่ภายนอก กุฏิถูกปิดตายอยู่

    พระทีออกมาให้เห็น มีการหมุนเวียนสู่ภายนอกบ้างในขณะนี้ ทั้งหมดส่วนใหญ่มาจากการเปิดโอ่งของหลวงพี่ชาญ เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยหลวงพี่ชาญท่านได้ขออนุญาติต่อหลวงน้าสายหยุด เพื่อนำพระออกมาจำหน่ายหารายได้ รายได้ส่วนหนึ่งถวายให้แก่หลวงน้าท่าน และหลวงน้าก็ถวายเข้าบัญชีให้แก่วัดสะแกต่อไป อีกส่วนหนึ่งนำปัจจัยไปสร้างแพริมน้ำ (ที่เป็นทีให้อาหารปลาในปัจจุบัน) โดยเปิดหลายคราว สรุปเปิดมาทั้งหมดประมาณ 1 โอ่งครึ่ง (ที่เหลือยังอยู่กุฏิหลวงพี่ชาญปัจจุบัน) โอ่งหนึ่งไม่มีใครนับจำนวนที่แน่นอน แต่คาดว่ามีจำนวนหลายพันองค์ ร่วมๆหมื่นองค์

    ถามว่าใพระรุ่นในปี 2527 นี้ มีพิมพ์อะไรบ้าง ไม่มีใครตอบได้ครับ แต่เท่าที่พบจากการเปิดโอ่งแล้วทั้งหมด พบพิมพ์พระสมเด็จพิมพ์ต่างๆอยู่มากที่สุด ประมาณร่วมๆ 20 พิมพ์ นอกนั้นก็เป็นพิมพ์อื่นๆอีกมากมายหากรวบรวมกันจริงๆคาดว่าน่าจะมีมากถึงประมาณ 30-40 พิมพ์

    เช่นตัวอย่าง พิมพ์พระที่พบมีดังนี้ครับ

    1. พระสมเด็จ มีทุกพิมพ์ ทั้งพิมพ์ใหญ่ เจดีย์ เกศบัวตูม ฯลฯ
    2. กลีบบัว
    3. ปิดตาหลังใบโพธิ์
    4. พระประจำวันยืน
    5. ปางปฐมเทศนา
    6. สังกัจจายน์ฐานสูง และฐานเตี้ย
    7. สมเด็จปรกยะลา
    8. สี่เหลี่ยมประทานพร
    9. เสมา 22
    10. ข้างบัว 22
    11. บัวข้าง 20
    12. ยันต์ดวง 26

    ส่วนที่เรียกกันบ้างว่า "รุ่นก้นโอ่ง" อันนี้เป็นความเข้าใจผิดครับ เนื่องจากในยุคแรกๆ ที่พระเปิดขึ้นจากโอ่งคราวแรก มีการหมุนเวียนออกสู่ตลาดภายนอก พระผิวจะไม่ค่อยสวยนัก มักพบเป็นเศษผงดำๆ หรือออกน้ำตาล ขึ้นจับผิวพระ คนไม่รู้ ไม่อยู่ในเหตุการ์ณเปิดโอ่ง รู้แต่ว่าได้มาจากการเปิดโอ่ง ก็คิดว่ามาจากก้นโอ่ง ก็พูดๆกันไป สมมุติกันไป จนเป็นชื่อเรียกอย่างนั้นอยู่ช่วงหนึ่ง จริงๆไม่ใช่ครับ พระที่มีคราบผิวไม่สะอาดกลับเป็นส่วนที่อยู่บนสุดโอ่ง เนื่องจากตอนบรรจุโอ่ง จะนำผ้าขาวมาปิดไว้ และโบกทับด้วยปูน จึงมีเศษปูนเศษผงลงไปบ้าง อีกทั้งพระถูกเก็บบรรจุอยู่ในโอ่งเป็นเวลานานหลายปี เศษผงเศษปูนเหล่านั้นจึงจับติดกับองค์พระ ซึ่งเมื่อเปิดลงลึกไปอีกสักหน่อย หรือเปิดลงลึกมากขึ้นเรื่อยๆ พระจะยิ่งขาวสะอาด อย่างที่เห็นในปัจจุบันครับ

    อีกกรณีหนึ่ง ผู้ที่ยังไม่คุ้นไม่ชำนาญกับเนื้อหาพระ ในรุ่นนี้เพียงพอ บางที่ดูเผินๆอาจเหมือนพระใหม่ เนื้อขาวกิ๊ก มีความชื่นอยู่บ้าง เหมือนยังไม่แห้งสนิท สมตามอายุพระ นั่นเป็นเพราะ การเก็บรักษาในโอ่งครับ พระไม่ได้ถูกอากาศภายนอก จึงมีลักษณะเช่นนั้น ต้องเข้าใจที่มาที่ไปให้ถูกต้องครับ

    อีกกรณีหนึ่ง ผู้ที่ไม่ได้เล่นหาพระหลวงปู่สายตรงบางท่าน ก็วิจารณ์ว่าเป็นรุ่นไม่ทันบ้าง นี่ผมเคยได้ยินมาเช่นกัน ก็ยืนยันว่าทันหลวงปู่ทุกองค์แน่นอนครับ ข้อมูลทั้งหมดยังยืนยัน และสอบถามได้จากหลวงพี่ชาญ และหลวงลุงดำครับ

    ส่วนราคาในการเล่นหา องค์ที่มีหลัง ๑ ด ปกติราคาจะสูงกว่าหลังเรียบธรรมดานิดหน่อยครับ เนื่องจากพบน้อยกว่า อีกทั้งการที่มีหลังตัวหนังสือกดลึกในเนื้อพระแบบนี้ ผู้ที่คุ้นกับลักษณะตัวหนังสือ และรอยกด ก็สามารถแบ่งแยกความเก็/แท้ ได้ง่ายขึ้นอีกส่วนหนึ่งด้วย

    ขออนุญาติเพิมเติมข้อมูลเพียงเท่านี้ ผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2012
  8. lkunl

    lkunl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +390
    คุณ Jopaa ข้อมูลแน่นปึ๊ก :cool:
    ขอบคุณมากครับ
     
  9. tanatsan

    tanatsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ขอบคุณพี่ Jopaa มากๆครับ ขอเรียนถามอีกนิดครับว่าพระที่มีหลังปั๊ม ๑ ด ก็มีเก๊ใช่ไหมครับ และพระรุ่นนี้มีผงจักรพรรดิของหลวงปู่ผสมอยู่ด้วยหรือไม่ครับ
     
  10. si12a

    si12a Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +34
    พี่โจสุดหล่อ ถ้าอย่เเถวนี้ดูเปิดโลกตะกั่วให้ทีครับ พอดีได้มาใหม่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    กริ๊บ..วิ้ง.ง..นึกไม่ออก เคยเห็นคร่าวๆ องค์นี้ของใครหว่า..หาเก่งจริงน่ะน้องเรา
     
  12. si12a

    si12a Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +34
    ตอนได้มาพี่เค้าไม่ได้ลงในเวบน่ะครับ ผมลองโทรถามเค้าดุบังเอิญว่ามี เซียนใหญ่ที่อ่างทองน่ะครับ
     
  13. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    ข้อ 1. มีเก๊หรือไม่..ปัจจุบันยังไม่พบครับในรุ่นนี้ อาจด้วยราคายังค่อนข้างถูก แต่เรื่องราคาเช่าหานั้นเป็นเรื่องของตลาด หรือเรียกว่าทางโลกเป็นผู้กำหนด ขึ้นชื่อว่าพระหลวงปู่ฯแล้ว บรรดาศิษย์ทุกคนต่างเชื่อว่าไม่ว่าจะรุ่นใด ขอให้เป็นขององค์ท่าน พุทธคุณศักดิ์สิทธิ์เท่ากันหมดแน่นอนทุกองค์ครับ ไม่เกี่ยวกับความนิยม และราคา ที่มีเก๊ส่วนมากในปัจจุบันมักเป็นพิมพ์ล้อโลหะ และในตระกูลพรหม ที่เป็นที่นิยมและมีราคาครับ

    ข้อ 2. ขึ้นชื่อว่าพระผงขององค์หลวงปู่ท่าน มีผงที่เรียกว่า ผงพุทธคุณก็ดี ผงจักรพรรดิ์ก็ได้ ผสมอยู่ทุกองค์แน่นอนครับ จะผสมมากหรือน้อยก็แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น และจำนวนที่สร้าง อนึ่งพระผงส่วนมากนอกจากผสมด้วยผงพุทธคุณแล้ว ยังมักพบเส้นเกศาของหลวงปู่ผสมอยู่ด้วยในบางครั้ง มีทั้งที่โผล่เส้นออกมาให้เห็น และฝังอยู่ในเนื้อพระ กำหนดแน่นอนตายตัวไม่ได้ในแต่ละรุ่น รุ่นเดียวกันบางที่ก็พบ บางที่ก็ไม่พบ เอาแน่นอนไม่ได้ มิได้มีผสมอยู่แต่ในเพียงรุ่นพรหมเกศาอย่างที่บางท่านเข้าใจกัน
     
  14. เปิดโลก

    เปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +2,479
    สวัสดีครับ คุณJopaa
    .....สุดยอดโดยแท้เลยครับ ผมขออนุญาตสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องตะกรุดขอบผุครับ มีวิธีสังเกตอย่างไร
    ขอบคุณมากครับ
     
  15. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    โอ่..คุณเปิดโลกถามเรื่องตระกรุดขอบผุ นี่ก็ไม่ธรรมดาแล้วครับ ถือว่าเป็นนักสะสมแนวลึกที่เดียว

    ผมขออนุญาติตอบเท่าที่พอจะมีความรู้ และมีของอยู่บ้าง พอเป็นแนวทางคร่าวๆ ดังนี้น่ะครับ

    1. ตระกรุดขอบผุ เป็นตระกรุดเนื้อทองแดง (เพียงเนื้อเดียว เนื้ออื่นไม่มี) สร้างในปี 2519

    2. ผู้ที่ทำการตัดแผ่นทองแดง คือ หลวงลุงดำ โดยท่านทาบจากเสาไม้ที่หน้ากุฏิท่าน ที่มีขนาดเสาหน้า 4 ไม่ได้ใช้ไม้บรรทัดวัดแน่นอนหรอกครับ

    3. ตัวตระกรุดจริงๆ มีขนาดความยาว 4.3 นิ้ว หรือเท่ากับ 13.5 เซ็นติเมตร (ผมมีอยู่หลายดอก วัดได้เท่ากันเป๊ะทุกดอกครับ)

    4. จุดสังเกตุที่ง่ายที่สุดสำหรับตระกรุดรุ่นนี้ก็คือ

    4.1 แผ่นทองแดงจะมีขนาดหนามาก ผิดกับตระกรุดรุ่นอื่นๆ ทั้งหมด
    4.2 มุมแผ่นจะตัดลบมุมทั้งสี่ด้าน
    4.3 เมื่อม้วนเป็นตระกรุดแล้ว มีขนาด 3 รอบพอดีเป๊ะ
    4.4 ที่มาของชื่อ "ตระกรุดผุ" มิได้เกิดจากเป็นรอบผุ แต่เกิดจากรอยฟันเลื่อยตัดแผ่นทองแดง เนื่องจากแผ่นทองแดงหนามาก รอบฟันเลื่อยนี้ก็จะบิ่นๆ เป็นรอยหักๆ ผุๆตามขอบ จึงเป็นทีมาของชื่อเรียก

    5. การอธิบายเพียงตัวหนังสือ ได้เพียงข้อมูลพื้นฐานนิดๆหน่อยๆน่ะครับ ยังไงเสียก็ต้องเห็นของจริงอย่างน้อยก็สักครั้งหนึ่ง ต้องจำกระแสเนื้อทองแดงให้ได้ โดยเฉพาะความหนาของแผ่น และรอยฟันเลื่อย นี่ต้องจำให้แม่นครับ

    6. คุณเปิดโลกถามหารุ่นนี้ แสดงว่าต้องรู้ข้อมูลประสบการ์ณแนวลึกอยู่บ้าง ..ผมเป็นอีกคนหนึ่งครับที่ยืนยัน ถ้าถามคนแถววัด หรือคนอยุธยาเก่า ๆ ก็ต้องรุ่นนี้ล่ะครับ สุดยอดประสบการ์ณจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน นี่เลือดตกยางออกยากครับ..คนแถวนั้นเขาว่าไว้อย่างนั้นจริงๆ..

    แก้ไขข้อความ : ข้อ 4.3 จาก 3 รอบ เป็น 4 รอบครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2011
  16. tanatsan

    tanatsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ขอบคุณพี่Jopaa มากครับ:cool:
     
  17. เปิดโลก

    เปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +2,479
    ขอบคุณมากครับ คุณJopaa ขอบคุณจริงๆ ดีใจที่ได้รู้จักครับ
    .....ผมเพิ่งจะมาเก็บสะสมหลวงปู่ดู่เมื่อไม่กี่ปีมานี้(ทั้งๆที่ได้ยินชื่อเสียงท่านมานาน) เพราะได้ยินประสบการณ์จากเพื่อน จึงลองศึกษาวัตรปฏิบัติและคำสอนท่าน อริยะสงฆ์จริงๆ กราบบูชาคุณหลวงปู่ครับ
    .....ผมเคยนำตะกรุดผุใช้คาดเอวอยู่พักหนึ่ง รู้สึกจะดีทางด้านเมตตาด้วยนะครับ แต่ต่อมาได้ยินสายตรงหลายท่าน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า"ห้ามใช้คาดเอว" เพราะยันต์ที่หลวงปู่ลงเป็นของสูง จึงถอดออก จริงเท็จอย่างไรครับ
    .....ปัจจุบันผมเลยเปลี่ยนเป็นแขวนพรหมโลหะ เพราะชอบหลายๆอย่างในพิมพ์นี้ หลวงปู่ดู่เป็น1ใน3 ที่ผมแขวนเพราะนับถือท่าน โดยไม่ได้มุ่งหวังขอให้ท่านช่วยอะไร

    พรหมโลหะที่แขวนบูชาอยู่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. นวโกฏิ

    นวโกฏิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,061

    พอจะมีอยู่ 1 ดอก น่าจะเข้ามาตรฐานของคุณ Jopaa ยังไงขอรบกวนช่วยพิจารณาให้ด้วยนะครับ และพอจะทราบไหมว่าข้างในหลวงปู่จารยันต์อะไรครับ...ขอขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SANY2093.jpg
      SANY2093.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.9 KB
      เปิดดู:
      126
    • SANY2095.jpg
      SANY2095.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.8 KB
      เปิดดู:
      114
    • SANY2098.jpg
      SANY2098.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.4 KB
      เปิดดู:
      120
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2011
  19. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    ต้องขอโทษคุณ นวโกฏิ ด้วยครับ ผมเองก็ยังงูๆปลาๆ ยังไม่สามารถตี เก๊/แท้ ได้ขาดจากเพียงรูปครับ อีกทั้งด้านในผมเองก็ไม่รู้จริงๆว่าจารยันต์อะไร เพราะยังไม่เคย (กล้า) คลี่ออกดูสักที่ ต้องขอรบกวนสอบถามท่านผู้รู้ระดับเซียนท่านอื่นๆแล้วครับ ผมเป็นเพียงนักสะสมรุ่นเก่าคนหนึ่งเท่านั้นครับไม่ใช่เซียนพระ ลองดูซิครับ เท่าที่ผมเคยเห็น ในหน้าพลังจิตนี่เก่งๆ (กว่าผมมาก) มีเยอะเลยครับ

    อีกทั้งปกติ ผมเองก็ไม่เคยไปยุ่ง ไปดูพระให้ใครๆ ว่าเก๊/แท้ ด้วยสำเหนียกตัวเองดีว่า ยังไม่มีความสามารถเพียงพอ แต่ด้านข้อมูล (บางรุ่น)คิดว่าแม่นและได้จากแหล่งที่ถูกต้องแน่นอน จึงนำเสนอเพียงด้านข้อมูลเท่าที่ตัวเองพอรู้บ้างเท่านั้นครับ

    จึงต้องขอออกตัวว่า กรณีขอให้ดูพระให้..ว่า "ผมดูไม่เป็นครับ" เพียงแต่บางครั้ง ผ่านเข้ามาหน้านี้เฉยๆ นานๆยุ่งบ้างเป็นครั้งคราว ไม่ใช่เป็นกิจจะลักษณะประจำแต่อย่างใด จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบครับ "
     
  20. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    สาธุ..กับคุณเปิดโลก..ด้วยครับ..ผมเองก็ชอบในพิมพ์พระเหนือพรหมครับ ด้วยเป็นอนุสติที่ดียิ่ง แปลก นัยความหมายอันลึกซึ้ง ไม่เหมือนใคร และไม่มีที่ไหนเหมือน แสดงให้เห็นถึง ภูมิธรรมอันลุ่มลึกแห่งองค์หลวงปู่ฯท่าน การถือในคุณพระไตรสรณคมณ์ เป็นสรณะเพียงหนึ่งเดียว เป็นที่พึ่งอันประเสริฐสุด เป็นที่ระลึก ที่ปฏิบัติ ที่บูชา เหนือสรรพสิ่งใดทั้งหลายทั้งปวง
     

แชร์หน้านี้

Loading...