ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

วันนี้ขอเขียนเพียงเท่านี้ก่อนค่ะ หลังจากงานศพคุณแม่แล้ว ดิฉันยังติดอาลัยอาวรณ์ท่านอยู่มากทีเดียว อาจจะหลังเลือกตั้ง วันที่ 3 ก.ค.ไปแล้วมังคะ จึงจะเขียนต่อ เพื่อให้หลายท่านมั่นใจว่าข้อเขียนของทางสายธาตุไม่เกี่ยวข้องด้วยเรื่องการเมือง จึงขอยุติการเขียนไว้แค่นี้ก่อน ต่อเมื่อการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว จึงจะกลับมาเขียนอีกค่ะ

คิดถึงทุกท่านค่ะ

---------------------------------------
น้องสายจ้ะ

พึ่งเข้ามาอ่านพบ ขอแสดงความเสียใจอย่างมาก
เพราะทราบว่า น้องเป็นลูกที่ดี รักแม่มาก และมีความกตัญญู
ดูแลท่านเสมอ เสียใจด้วยอีกครั้ง ...

*****************************
เดือนรูปเคียวเกี่ยวกิ่งฟ้าเพลาดึก
จิตคงนึกล่องลอยไปไกลนักหนา
ย้อนอดีตก่อนเก่าแต่เยาว์มา
ใครกันหนา.คอยฟูมฟักแสนรักเรา

ยามเป็นเด็กทารกน้อยคอยเห่กล่อม
มิให้ยุง ริ้น ไรตอม มิให้เหงา
ยามหัดเดินเตาะแตะล้ม ปลอบบรรเทา
มิห่างกายลับตาเราเลยสักครา

ยามเจ็บไข้ใครกันเล่าเฝ้าดึกดื่น
ลืมตาตื่นมิต้องแลชะแง้หา
ใครคนนั้นยังคอยเฝ้าไม่นิทรา
คอยโอบกอดเช็ดกายาทุกคราไป

จากวัยเล็กเด็กมาจนโตแล้ว
เสียงคำสอนยังยินแว่วใครคนไหน
ยามเราเจ็บผิดพลาดลงตรงที่ใด
มือของใครซับน้ำตาพาลุกเดิน

เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่มิหน่ายแหนง
หวังเพียงยลเราแข็งแกร่งชนสรรเสริญ
เติบโตจนสง่างามนามเจริญ
ก็สุขเกินความสุขใดในชีวี

ตามกฎกรรมธรรมดาวัฏสงสาร
ทุกชีวิตต้องเดินทางตามวิถี
ไม้ใกล้ฝั่งย่อมล้มไปวายชีวี
ทิ้งฝั่งนี้ให้เอกาว้าเหว่ใจ

ใครกันหนอใครคนนั้นตามฉันว่า
คนนั้นคือมารดา...อย่าสงสัย
ถึงเวลา..วางเราลง..จำลาไกล
ยามท่านอยู่กตัญญูไซร้..ได้แทนคุณ

 

ท่านมหาฤทธิชัยท่านได้ออกแบบปั้นรูปพระพี่นางสุพรรณกัลยาขนาดใหญ่กว่าองค์จริงเล็กน้อย ในอิริยาบถประทับนั่งพับเพียบ ฉลองพระองค์ชุดไทย (แบบได้เคยโพสลงในกระทู้นี้แล้ว) ภายหลังจากหล่อแบบแล้วสามารถที่จะหล่อเป็นพระรูปได้สัก 2-3 องค์ส่วนจะให้หล่อด้วยทองเหลืองหรือเหล็กน้ำพี้ หรือด้วยกระเบื้องหลังคาเก่า ก็สุดแท้แต่เจ้าภาพจะต้องการ สนนราคาก็จะแตกต่างกันไป หล่อด้วยทองเหลืองราคาจะสูงสุดครับ ก็มีท่านที่สนใจได้ติดต่อไปคือคุณ Florence 125 คงจะสามารถให้รายละเอียดได้มากกว่านี้

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมาได้มีผู้ศร้ทธานำพระบรมรูปสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา ตามรูปแบบที่กล่าวถึงนี้ไปประดิษฐานที่วัดตาลสุวรรณ จังหวัดพิษณุโลกแล้วครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมจากข้างต้น ขออนุญาตส่งไม้ต่อให้คุณ Florence 125เลยนะครับ

ปล.คุณดอกไม้เมืองบนต้องการทราบรายละเอียดในเรื่องใด แนะนำให้ PM ถึงคุณ Florence 125 โดยตรงครับ

 

---------------------
มีข่าววงในกระซิบว่า..งานนี้มีหวังเจอแพะ
แต่เป็นแพะที่อาสายอมบูชายัน
เพื่อลูกแพะรอด ข่าวกระซาบต่อว่า
ลูกแพะเป็นทอมเลยอารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรง โถ โถ โถ

โชคดีที่หมอมุกเป็นลูกทหาร
แต่ก็ยังมิเท่าไหร่กับการเป็นลูกทหารที่ไร้ลมหายใจจะปกป้องสู้เพื่อลูก

แต่ที่ี่โชคดีคือคุณธรรมในตัวเธอเองกับการเป็นแพทย์อาสาลงภาคใต้
ที่ไม่มีใครอยากไป และโชคดีที่เธอเป็นแพทย์ทหารซะด้วย ยศก็พอตัว
เลยเกิดอาการกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกของบิ๊ก ๆหลายคน

ทำให้คดีนี้ต้องเป็นคดีช้างเพราะจนป่านนี้แล้วตำรวจไม่กล้าประกาศว่่าใครคือคนขับชนสักทีทั้งที่เป็นคดีธรรมดาๆ
อุกอาจคนเห็นจะๆทั้งเมือง

และยังอาการกร่างจากพฤติกรรม
ของฝ่ายชน เห็นจากจอดรถบังบ้านเขาเพื่อไปกินอาหาร
เขาให้คนไปบอก ก็กร่างทำเฉยออกมาเมื่อกินเสร็จ
เป็นทหารแล้วหญ่ายยยขนาดนี้หรือ ประชาชนจะทำอย่างไร

ถ้าเป็นตาสีตาสาฆาตกรคงลอยนวล

ขอเอาใจช่วยหมอมุกกับคุณแม่..ด้วยคนค่ะ

 

ถ้ามันเป็นแพะดีมันก็ควรที่จะห้ามปรามลูกแพะเสียตั้งแต่ตอนต้นนะครับ แล้วอีก
อย่างรถราชการเนี่ยไม่อนุญาตให้มีการนำมาใช้และให้บุคคลอื่นขับกันอย่างง่ายๆอย่างนี้เด็ดขาด ได้ทราบมาว่าไอ้รถยนต์นิสสันรุ๋นนี้เคยใช้เป็นรถตำแหน่งระดับพลตรี แต่ต่อมาได้ยกเลิกเพราะมีการใช้ระบบการจ่ายเงินเป็นค่ารถตำแหน่งเช่นเดียวกับบริษัททั้งหลาย

ก็ว่าจะไม่พูดถึงแล้วนะเนี่ย !!!

 

ทราบว่ากำลังจะรวบรวมทำเป็นเล่มอยู่นะครับ ถ้าสำเร็จเป็นจริงเมื่อใดจะแจ้งให้ทราบครับ ขั้นนี้ถ้าต้องการผมจะ fwd mail ทั้งหมดมาให้ ?

 

...ผมก็อยากแถมท้ายว่า คำสั่งศาลโลกไม่ว่าจะออกมาแบบไหน นั่นไม่ใช่คำตอบ "อนาคตประเทศไทย" สนใจกันได้ แต่ไม่ควรให้ความสำคัญเหนือศักดิ์ศรีความเป็นชาติของเรา
โลกวันนี้ หมุนคืนยุคจักรวรรดิอำนาจล่าเมืองขึ้นอีกแล้ว เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบ จากยกทัพยึดประเทศเป็นเจ้าเข้าครอง ไปเป็นใช้ "องค์กรใต้อำนาจ" ยึดแทน ทางเงื่อนไขเศรษฐกิจและทรัพยากรสู่ความเป็น "อำนาจเดียวครองโลก"
ก็ดูซี...ตัวแทนแต่ละประเทศ เดี๋ยวนี้มีมรรยาท มียางกันซะที่ไหน งานทูตวันนี้ก็แค่ "เซลส์แมน" ตักตวงผลประโยชน์ให้ประเทศตัวเอง....
...................

Verapat New Pariyawong · Harvard Law School
ขอบคุณคุณเปลวอีกครั้งครับ วันจันทร์ที่ 18 นี้ เชิญติดตามบทวิเคราะห์คำสั่<WBR>​งศาลได้ทาง ASEAN TV (Truevision 99 สดภาษาอังกฤษ) เวลา15.00 น., จากนั้นที่ช่อง Nation Channel (รายการคมชัดลึก) 20.30 น. และ Voice TV (รายการ Voice Focus ชม online ได้ทาง http://shows.voicetv.co.th<WBR>​/voice-focus) เวลา 21.30 น. ครับ

ขอร่วมเป็นกำลังใจให้สันติภ<WBR>​าพกลับมาโดยเร็ว

วีรพัฒน์ ปริยวงศ์
http://www.facebook.com/ve<WBR>​rapat.pariyawong



คัดลอกจากคอลัมน์ คุณ เปลว สีเงิน 18 ก.ค.54 www.thaipost.net

 

"คนดี" ที่มี "หมาตัวสีขาว" ท่านที่ได้อ่านประโยคนี้แล้วกรุณาอย่าได้คิดอะไรมาก ผมเพียงนำมาโปรยเรียกความสนใจเท่านั้น หากท่านสนใจอยากรู้คำตอบก็เพียงคลิกเข้าไปที่ สองมาตรฐานของใคร | ไทยโพสต์ คอลัมน์ ถูกทุกข้อ ของคุณ สามวา สองศอก เสธ.เหลืองท่านจะอธิบายให้ฟังครับ

ขอขอบคุณแหล่งที่มาทุกท่านครับ

 

เอกอุดมพระราชปณิธาน ฉบับแก้ไข

เอกอุดมพระราชปณิธานfficeffice" /><O></O>​

คำร้อง : พลตรีพิจิตร ขจรกล่ำ<O></O>​

เรียบเรียง : ร้อยโทสุรชัย ถวิลไพร ทำนอง : ร้อยโทสุรชัย ถวิลไพร <O></O>
ขับร้อง ดย.ทบ.<O></O>
เอกอุดมพระราชปณิธาน ยั่งยืนนานยิ่งใหญ่ไปทั่วหล้า<O></O>
ครองแผ่นดินโดยธรรมล้ำโลกา ชาวประชาทุกผู้ได้อยู่ดี <O></O>
เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน ชาวสยามรักล้นใส่เกศรี <O></O>
พระเมตตาบุญญาพระบารมี แปดสิบสี่ปีสุขสันต์นิรันดร<O></O>
อันโครงการสู่ไพร่ฟ้าประชาชน ล้วนเป็นผลความมั่นคงพระทรงสอน<O></O>
สร้างแหล่งน้ำเมตตาเอื้ออาทร งามบวรวัดวาพื้นป่าดี<O></O>
อนุรักษ์ดินไร่นาสร้างอาหาร ชลประทานน้ำไหลไปทุกที่<O></O>
ทฤษฎีใหม่หนึ่งเดียวเขียวขจี ปลานิลมีพืชสวนครัวไม่กลัวใคร<O></O>
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน สุขสำราญไพร่ฟ้าล้วนหน้าใส<O></O>
เศรษฐกิจเลื่องลือระบือไกล ประชาไทยสุขหนอความพอเพียง<O></O>
(พร้อมกัน)<O></O>
“ ขอให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญ ”

 

----------------------------------------------
ขอบคุณอ้าย..หลาย ๆเด้อ...ทั้งเรื่องการรวมเล่ม และเื่รื่ืองfwd mail

 

แด่.....ทหาร!

สายฝนพร่างราวฟ้านภาปิด
มัวมืดมิดขุนเขาตะนาวศรี
..โอ้..เทวาพนาไพร..ไม่ปราณี
5 ชีวีนักรบกล้ามาวางวาย

ต้องเหว่้ว้าเดียวดายในไพรกว้าง
คงยืนเฝ้ามองดูร่างแหลกสลาย
ไร้ญาติมิตรแม่เมียลูกอยู่แนบกาย
มีแต่เสียงวิญญาณไพร..ให้วังเวง

หยาดน้ำตา...ยังไม่ลาจากตาเศร้า
ร่างยังเนาว์กลางป่าชัฏ..สัตว์ข่มเหง
ทาบทบดิน..เหลือแค่ชื่อลือละเบง
ฟ้าบรรเลงเพลงหมอกฝนรินล้นไพร

ขอน้อมส่งวิญญาณทหารกล้า
เสียงหริ่งหรีดแทน..แตรนอน..กล่อมสหาย
ฟ้าครืนครั่นต่าง..ปืนสลุต...หลับสบาย
พ้นอาลัยไปแดนสรวงสิ้นห่วงตรม

แต่..เหตุใดไยพิโรธฤาโกรธกริ้ว
ทหารกล้า 5นายปลิวชีพทับถม
ยังมิหนำสาใจ..ในอารมณ์
มาอีก 9 นักรบล่มใต้ฟ้าครวญ

ขอวิงวอนเทพพนาและขุนเขา
โปรดพิทักษ์นักรบ 9 เฝ้าแลหวน
ให้พ้นภัยรอดคืนมาอย่าเรรวน
บุญทั้งมวลอุทิศให้ไร้มืดมน

นี่แหละหนาคือชีวีที่พลีไว้
เพื่อหน้าที่แม้วางวายทุกแห่งหน
ทหารไทยทหารกล้าฝ่าผจญ
ต้องยอมทนเพื่อแผ่นดินแม้สิ้นใจ

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวทหารทั้ง 5นาย
และขอวิงวอนเจ้าป่าเจ้าเขาให้ ทหารอีก 9 นายจงปลอดภัยกลับมา

บุญกุศลใดที่สร้างบำเพ็ญมาขออุทิศให้ 5 ทหารผู้ล่วงลับแล้วจงไปสู่สุคติ
และคุ้มครองอีก 9 ทหาร ที่อยู่ระหว่างการค้นหาให้รอดปลอดภัย....

 

เมื่อวันที่ 8-11 กรกฎาคม 2554 Florence125 ได้เดินทางไปเมืองพิษณุโลก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และขอพรสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ พระพี่นางสุพรรณกัลยา และที่สำคัญตั้งใจไปชมพระบรมรูปพระพี่นางสุพรรณกัลยาที่พระมหาฤทธิ์ชัยท่านสร้างไว้ ...เห็นแล้วอดปิติไม่ได้ งดงามมากจริง ๆ ค่ะ ท่านสร้างไว้ 3 องค์ องค์แรกสีดำ (หล่อด้วยเหล็กน้ำพี้) เจ้าภาพนำไปประดิษฐานที่วัดตาลสุวรรณ ต.ดอนทอง อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม ที่ผ่านมา องค์ที่สองสีน้ำตาล (หล่อด้วยอิฐวังจันทน์) มีเจ้าภาพแล้วค่ะ แต่ยังไม่ทราบว่าประดิษฐานที่ใด องค์ที่สามสีชมพู (หล่อด้วยอิฐวังจันทน์) ยังไม่มีเจ้าภาพ ท่านที่ปรารถนาจะเป็นเจ้าภาพติดต่อพระมหาฤทธิชัยได้นะคะ.
<O
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 369pt; HEIGHT: 276.75pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://www.phitsanulok1.go.th/admin/FCKeditor/upload/Image/DSCF2527.JPG"></v:imagedata></v:shape>
<O<O<v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 369pt; HEIGHT: 276.75pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image002.jpg" o:href="http://www.phitsanulok1.go.th/admin/FCKeditor/upload/Image/DSCF2529.JPG"></v:imagedata></v:shape><v:shape id=_x0000_i1027 style="WIDTH: 369pt; HEIGHT: 276.75pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image003.jpg" o:href="http://www.phitsanulok1.go.th/admin/FCKeditor/upload/Image/DSCF2539.JPG"></v:imagedata></v:shape>
<O

 

ลูกหลานพระยาเสือ ณ ทุ่งลาดหญ้า






<!-- main-content-block --><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 504px; HEIGHT: 32px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.thaipost.net/news/220711/42152&layout=standard&show_faces=true&width=450&action=like&colorscheme=light&height=80" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME><!--22 กรกฎาคม 2554 - 00:00-->

• เปลว สีเงิน

22 กรกฎาคม 2554 - 00:00



อืมมมม...ตั้งแต่จันทร์ที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นมา พวกเรา-คนไทยทุกคน ค่อนข้างจะจิตใจว้าวุ่นพอสมควรนะครับ ไหนจะข่าวศาลโลก ไหนจะข่าว ฮ.นายทหาร "ค่ายทัพพระยาเสือ" ตกที่แก่งกระจาน และซ้ำๆ ซ้อนๆ นายทหารระดับ "ผู้บัญชาการกองพล" เป็นห่วงลูกน้อง พาอีก ๙ นาย ขึ้นบินตามไปช่วย ก็สูญหายตามไปอีกคล้าย...ต้องอาถรรพ์!?
มันอั้นตันอก พูดไม่ออกจริงๆ ผมเฝ้าติดตามข่าวไป ภาวนาไป จากวันที่ ๑๘ นี่ก็เข้ามาวันที่ ๒๒ แล้ว ไม่มีคำอะไรพูดแทนคำว่า "เศร้า-ด้วยเสียใจ"
ชีวิตทหารก็เช่นนี้.........
อยู่-ก็ไม่มีคนเห็นค่าซักเท่าไหร่ ครั้นมีอันจากไป ก็ยังไม่วายมีบางคนตั้งแง่สงสัย จนกว่าทุกข์กรายถึงหัวตัวเองนั่นแหละจะเห็นค่า
แล้วร้องหา...ทหารอยู่ไหน!?
ตอนนี้ (๒๑ ก.ค.๕๔) ร่างนายทหารหน่วยเฉพาะกิจค่ายทัพพระยาเสือ ที่แหลกพร้อมฮิวอี้ซึ่งชนภูเขาระเบิด ตกลงไปในหุบเหวลึกชายแดนไทย-พม่า ในบริเวณที่เรียกว่า แก่งกระจาน เพชรบุรี ได้ลำเลียงมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดทุ่งลาดหญ้า ของหลวงพ่อลำใย ที่เมืองกาญจนบุรี เรียบร้อยแล้ว
ประกอบด้วย ๑.พ.ต.กิติภูมิ เอกพันธ์ นายทหารฝ่ายแผนค่ายทัพพระยาเสือ กองกำลังค่ายสุรสีห์ ๒.พ.ต.เกียรติศักดิ์ จีนเอี่ยม นักบินที่หนึ่ง ๓.ร.ท.ปรัชญา นวลศรี นักบินที่สอง ๔.จ.ส.อ.รังสรรค์ ชลสายบัว ช่างเครื่องที่หนึ่ง และ ๕.จ.ส.อ.ณรงค์เดช พงศ์นุ่มกูล ช่างเครื่องที่สอง
ส่วนแบล็กฮอว์ก ที่พลตรีตะวัน เรืองศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๙ ค่ายสุรสีห์ นำคณะขึ้นบินหวังไปช่วยลูกน้องในวันต่อมา แต่หาย-ไร้ร่องรอยตามไปอีกทั้งลำ จนบัดป่านนี้ก็ยังไม่พบแม้วี่แวว ทหารไทย-ทหารพม่า กำลังช่วยกัน "พลิกป่า" มา ๒-๓ วันแล้ว ทั้ง ๙ นายบนเครื่องประกอบด้วย
๑.พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ๒.ร.อ.เจตต์ สุดใจ รอง ผบ.ร้อย.ลว.ไกลที่ 9 ๓.ร.อ.จักรพันธ์ บำรุงพืช ฝอ.3 ร้อย.ลว.ไกลที่ 9 ๔.ส.ต.อิทธิศักดิ์ หิณะสุทธิ์ ร้อย.ลว.ไกล.ที่ 9 ๕.พ.ต.ประพันธ์ เจียมสูงเนิน นักบินที่ 1 ๖.พ.ต.ชูพันธ์ พลวรรณ นักบินที่ 2 ๗.จ.ส.อ.สมคิด วงษ์ตกแสง ช่างเครื่อง ๘.ส.อ.อร่าม วงษ์สิงห์ ช่างเครื่อง และ ๙.นายศรวิชัย คงตันนุกูล ช่างภาพ ททท.5
ครับ...ยังไม่เห็นร่าง ก็อย่าด่วนสรุปว่าตาย อันนักรบค่ายสุรสีห์นั้น นับเป็นนักรบสายเลือด "พระยาเสือ" คือ "สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล" ผู้เป็นราชอนุชา "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก" รัชกาลที่ ๑
ในยุคกู้บ้าน-กู้เมืองหลังกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ ๒ พระองค์ทรงเป็นนักรบคู่พระทัย รบเคียงบ่า-เคียงไหล่ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" จนตั้งกรุงธนบุรีขึ้นสำเร็จ การที่พระองค์ได้รับสมญานามว่า "พระยาเสือ" นั้น เป็นคำอธิบายถึงเด็ดขาด-ห้าวหาญ "ดุ-ดั่งเสือ" ของพระองค์ชัดเจน
กองพลทหารราบที่ ๙ ค่ายสุรสีห์ อันเป็นต้นสังกัดของทหารทั้ง ๕+๙ นายนั้น เดิมชื่อค่ายกาญจนบุรี เพราะตั้งอยู่ที่ทุ่งลาดหญ้า กาญจนบุรี ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๓ ได้รับพระราชทานนามเป็น "ค่ายสุรสีห์"
คำว่าสุรสีห์ คือพระราชทินนาม "พระยาสุรสีห์" ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงตั้งให้จากความดีความชอบในการศึกของ "สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท" นั่นเอง!
ทุ่งลาดหญ้านี้ เป็นประวัติศาสตร์คู่ "สงคราม ๙ ทัพ" เป็นสัญลักษณ์ชนะศึก-ชนะสงคราม ประเทศไทยคงเอกราชมาถึง ณ วันนี้ได้ ก็จากสมรภูมิ "ทุ่งลาดหญ้า" ที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงใช้อัจฉริยภาพทั้งบู๊และบุ๋น วางกลยุทธ์-กลศึก
ใช้กำลังน้อยชนะกำลังมากด้วยปัญญา เผด็จศึกด้วยห้าวหาญ เด็ดขาด ไม่หย่อนในอาญาทัพ!
ย้อนไป ๒๒๖ ปี ณ ปี พ.ศ.๒๓๒๘ บริเวณทุ่งลาดหญ้า อันเป็นสถานที่ตั้งกองพลทหารราบที่ ๙ นี้แหละ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาททรงนำทหาร ๓๐,๐๐๐ นาย ไปสู้ทหารพม่า ๘๙,๐๐๐ นาย ที่ยกเข้ามาทางด่านเจดีย์ ๓ องค์!
พม่าตีแหลกแหวกทางมาถึงทุ่งลาดหญ้า เจอทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทขวางหน้า ก็ติดแหง็ก...ไปไม่เป็น จึงตั้งค่ายใหญ่ขึ้นที่นั่น โธ่...๓๐,๐๐๐ กับ ๘๙,๐๐๐ จะสู้ด้วยกำลังให้ชนะได้อย่างไร ซ้ำทัพหนุนพม่าก็ไหลมาเติมไม่หยุด "พันโชติ เจ้าพระยา" เขาเขียนไว้ในเว็บไซต์เจ้าพระยาว่า
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทได้ให้ทหารออกไปโจมตีค่ายพม่า แต่พม่าก็ต่อสู้อย่างเข้มแข็ง พลทหารไทยและพม่าต่างยิงโต้ตอบกัน ทำให้บาดเจ็บล้มตายลงทั้งสองข้าง จึงทรงตั้งกองโจรให้พระยาสีหราชเดโช พระยาท้ายน้ำ พระยาเพชรบุรี ทั้ง ๓ นาย เป็นนายทัพกองโจร
และให้พระยารามคำแหงถือพล ๕๐๐ ยกทัพกองโจรลัดป่าไปคอยซุ่มสกัด คอยตีกองลำเลียงเสบียงอาหารของพม่าที่พุไคร้ ทางลำน้ำแควไทรโยค
แต่นายกองโจรทั้งสามนายอ่อนแอและย่อท้อ ได้หลบหนีไปซุ่มตั้งทัพอยู่ที่อื่น สมเด็จพระบวรราชเจ้าสุรสิงหนาทจึงดำรัสสั่งให้ประหารชีวิตนายทัพกองโจรทั้ง ๓ นาย แล้วนำศีรษะไปเสียบประจานไว้หน้าค่ายหลวงที่ทุ่งลาดหญ้า ส่วนปลัดทัพ ๒ นายนั้น
ให้เอาดาบสับศีรษะคนละ ๓ เสี่ยง เป็นการลงโทษไม่ให้ผู้ใดเอาเยี่ยงอย่าง!
แล้วให้ "พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าขุนเณร" เป็นนายทัพกองโจรกับข้าหลวงหลายนาย ถือพล ๑,๐๐๐ ยกไปบรรจบกองโจรเดิม อีก ๕๐๐ รวมเป็น ๑,๕๐๐ ไปคอยสกัดกองลำเลียงพม่าที่พุไคร้ มิให้ส่งกองลำเลียงเสบียงอาหารถึงกันได้ กองทัพพม่าที่ตั้งค่ายอยู่ที่ทุ่งลาดหญ้าจะได้ขาดเสบียงอาหารและอ่อนกำลังลง
ฝ่ายแม่ทัพหน้าพม่าทั้ง ๒ นาย ที่ตั้งค่ายอยู่ที่ชายทุ่งลาดหญ้า ได้แต่งหอรบขึ้นที่ค่ายหน้าหลายแห่ง แล้วให้เอาปืนใหญ่ตั้งขึ้นบนหอรบ ยิงค่ายกองทัพไทย สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทก็ให้เอาปืนลูกไม้แต่ครั้งกรุงธนบุรี (ปืนใหญ่ที่ใช้ท่อนไม้เป็นกระสุน) เข็นออกมาตั้งหน้าค่าย ยิงค่ายและหอรบพม่าพังลงหลายแห่ง ทำให้ไพร่พลบาดเจ็บล้มตาย จนพม่าครั่นคร้ามไม่กล้าออกมาโจมตีค่ายไทย ทั้งเสบียงอาหารก็ขาดแคลนลง ฯลฯ
ต่อมาสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาททรงทำกลอุบายลวงข้าศึกว่า กองทัพไทยมีกำลังไพร่พลและศัสตราวุธมาหนุนเนืองเป็นจำนวนมาก โดยแบ่งกำลังพลในกองทัพให้ลอบออกจากค่ายในเวลากลางคืนอย่างเงียบๆ และไปให้ไกลพอควร
ครั้นรุ่งเช้า ก็ยกกระบวนเดินพลช้างม้าเรียงรายเนืองกันขึ้นไปอย่างไม่ขาดสาย ตั้งแต่เช้าจนเย็นเพื่อกลับเข้าค่ายทรงทำกลลวงข้าศึกเช่นนี้อยู่หลายวัน พม่าซึ่งอยู่ที่สูงกว่าและเห็นก็เข้าใจว่ากองทัพไทยได้กำลังเพิ่มเติมเสมอก็ยิ่งครั่นคร้ามมากขึ้น
จนสังเกตเห็นว่ากองทัพพม่าอดอยากและครั่นคร้ามมากแล้ว จึงสั่งให้ไพร่พลเข้าโจมตีค่ายพม่าพร้อมกันทุกค่ายในเวลาเดียวกัน เมื่อวันศุกร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๓๒๘
ฝ่ายพม่าพยายามสู้รบอยู่ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ครั้นเวลาประมาณทุ่มเศษ แม่ทัพพม่าเห็นเหลือกำลังที่จะต่อสู้ก็แตกฉานออกจากค่ายหนีไป ไทยได้ค่ายพม่าหมดทุกค่ายจับไพร่พล และเครื่องศัสตราวุธ ปืนใหญ่น้อยได้เป็นอันมาก
ครับ...นี่คือความเป็นมาของ "ทุ่งลาดหญ้า" ที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาททรงประกอบวีรกรรมยิ่งใหญ่ ใช้เวลาประมาณ ๒ เดือน ก็ยันและตีทัพพม่าแตกไป
และจากแพ้ยับ-แพ้เยินตรงนี้ พระเจ้าปดุงทรงถอดใจ สั่งล้มเลิก "สงคราม ๙ ทัพ" อันเป็นสงครามครั้งสุดท้ายกับไทย จากนั้นอังกฤษก็เข้ามา "กินรวบ" พม่าไปทั้งหมด!
จบวันนี้ ผมไม่มีคำจะตบท้าย นอกจากกราบดวงพระวิญญาณ "สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท" ทรงพระเมตตา ปกปักรักษาและทรงคุ้มครอง "ทหารไทย" อันสืบสายเลือดเนื้อเชื้อไขจากพระองค์ด้วย และขอนำวาทะวานนี้ ของ ผบ.ทบ. "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" มาตบท้ายแทน
“ผมสวดมนต์อวยพรทุกวันให้ทหารทุกคนทำหน้าที่ด้วยความเสียสละ ทหารที่ทำหน้าที่ตามแนวชายแดนและพื้นที่ที่มีอันตรายมีความเสี่ยง วันหนึ่งประมาณ 5 หมื่นคน ขอให้เห็นใจทหาร และเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทุกอย่างเราทำด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบและเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง แต่ยังมีหลายคนที่ไม่เข้าใจ มีทั้งส่งข้อความมาด่าทหาร ผมคิดว่าไม่ถูก ไม่อยากจะอ่าน แต่ก็อยากรู้ว่า เขารู้สึกอย่างไร ซึ่งเขาก็ไม่รู้สึกว่าทหารทำอะไรให้เขาบ้าง แต่ก็เป็นส่วนน้อย ทั้งที่มีทหารทำงานอย่างนี้ และก็มีการบาดเจ็บเสียชีวิตก็ยังไม่เห็นใจ ไม่เข้าใจ ยังต่อว่าทหารอยู่ ซึ่งก็ไม่เป็นธรรมกับทหาร และถ้าไม่มีเราทำงาน แล้วใครจะทำงานช่วยท่าน ใครจะดูแล ณ วันนี้ เราถือว่าเราทำมากแล้ว ตามหน้าที่ก็ทำ ไม่ใช่หน้าที่ก็ทำ”




ครับ "พระยาเสือ" คือ "สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล" ผู้เป็นราชอนุชา "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก" รัชกาลที่ ๑
ในยุคกู้บ้าน-กู้เมืองหลังกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ ๒ พระองค์ทรงเป็นนักรบคู่พระทัย รบเคียงบ่า-เคียงไหล่ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"


ขอขอบคุณ ลูกหลานพระยาเสือ ณ ทุ่งลาดหญ้า | ไทยโพสต์
<INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_1_anchor></INS></INS>

 

สวัสดีค่ะพี่หมอกแต่หว่า

พี่หมอกไปไหว้พระจักษุธาตุหรือยัง หนูสายไปหลายหนแล้วตั้งแต่พี่หมอกแนะนำให้ไปนมัสการ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่แนะนำค่ะ

เรื่องทองวัดราชบูรณะ คิดว่าองค์พระปรางค์จำลองที่ว่านี้มีโอกาศจะหมายถึงองค์จำลองของ

1 พระปรางค์วัดไชยวัฒนาราม
2 พระปรางค์วัดมหาธาตุ
3 พระปรางค์วัดวรเชษฐ์

จากรูปแบบของพระปรางค์แล้วและจรนำที่มีทั้ง 4 ทิศที่เข้าข่ายก็มี 3 องค์ที่กล่าวมาเท่านั้น

ทีนี้จะตัดพระปรางค์วัดมหาธาตุออก เพราะจากรูปสมัยรัชกาลที่ 5 พระปรางค์วัดมหาธาตุ เป็นดังนี้




คิดว่าพระปรางค์จำลองที่ว่านี้ไม่น่าจะหมายถึงวัดมหาธาตุ

จึงเหลือเพียง 2 องค์ที่กำลังเพ่งพินิจพิจารณาอยู่ระหว่าง

พระปรางค์วัดไชยวัฒนาราม กับพระปรางค์วัดวรเชษฐ์

เพื่อดูว่าองค์จำลองที่ว่านี้เป็นองค์จำลองของพระปรางค์องค์ใดกันแน่ค่ะ

 

พระปรางค์จำลองที่ขุดพบในกรุวัดราชบูรณะ

พร้อมๆกับ พระมาลาทองคำ (เป็นของเจ้านายสตรีเพราะเส้นรอบวงพระเศียรเล็กไม่น่าจะเป็นของเจ้านายฝ่ายหน้า)



และรูปหล่อสำริดโบราณ ที่ฝรั่งตั้งชื่อวัตถุโบราณชิ้นนี้ว่า An Unusaul Siamese Bronze



ลวดลายเครื่องทองหลายชิ้น ใช้รูปดอกโบตั๋นเป็นหลัก รวมถึงลวดลายประดับพระปรางค์จำลองด้วย

และถ้าเครื่องทองเหล่านี้มีอายุราวๆ 400 ปีจริง คำถามที่ต้องหากันต่อไปก็คือ พระราชสมบัติเหล่านี้เป็นของใครหรือของพระองค์ใดบ้าง

 

จากการอ่านวิทยานิพนธ์ฉบับที่ยกมาข้างต้นแล้วนั้น
พระปรางค์วัดมหาธาตุเป็นพระปรางค์ยุคต้นกรุงศรีฯ ทางขึ้นพระปรางค์จะมีด้านเดียว แต่ในวิทยานิพนธ์ก็กล่าวไว้ว่า สมัยพระเจ้าปราสาททองผู้บูรณะพระปรางค์นี้จะทรงคงรูปแบบเดิมคือทางขึ้นทางเดียวไว้หรือไม่ จากรูปเก่าก็ยังเห็นไม่ชัดนัก

ส่วนพระปรางค์วัดวรเชษฐ์และพระปรางค์วัดไชยวัฒนาราม เป็นพระปรางค์ที่มีจรนำ 4 ด้านและมีทางขึ้นพระปรางค์ทั้ง 4 ด้าน พระปรางค์ที่มีจรนำและทางขึ้นทั้ง 4 ด้านก็มีแค่สององค์นี้เท่านั้น

​

พระปรางค์วัดวรเชษฐ์(นอกเกาะ)



พระปรางค์วัดไชยวัฒนาราม

​

ทั้งพระปรางค์วัดวรเชษฐ์และวัดไชยวัฒนารามนั้นมีทางขึ้น 4 ด้านเหมือนกัน

แต่ในวิทยานิพนธ์บอกว่าพระปรางค์ทั้งสองนี้ไม่มีเชิงบาตรครุฑแบก

ทางสายธาตุคิดว่าถ้าครุฑไม่อ้วนใหญ่โตมากก็น่าจะนำมาประดับพระปรางค์ได้นะคะ
ซึ่งถ้าจะมีครุฑแบกน่าจะเป็นพระปรางค์วัดวรเชษฐ์มากกว่า (เดาค่ะ)





<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">
</TD></TR></TBODY></TABLE>

เทียบกับครุฑที่ปรากฏบนพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง(องค์จำลอง) ตัวครุฑไม่อ้วน ไม่มีปีกเป็นขนนก แต่มีลักษณะเป็นแขนคล้ายแขนคนแทน



ภาพพระแสงปืนต้นนำมาจากเวปพันทิพย์ค่ะ


​

 

พาหุรัด และทองพระกรในกรุวัดราชบูรณะ เรียนถามพระมหาฯไว้นานแล้ว ท่านบอกว่าเป็นของกษัตริย์ วงรอบใหญ่มาก

ถ้าอยากทราบว่าพระกล้ามเนื้อต้นแขนของพระมหากษัตริย์องค์เจ้าของพาหุรัดนี้เท่าใดก็น่าจะคะเนได้จากเส้นรอบวงของพระพาหุรัดนี้ พระราชสมบัติของกษัตริย์นักรบ​

 

กษัตริย์นักรบพระองค์นั้น คือใครเหรอคะ คุณพี่ทางสายธาตุ<!-- google_ad_section_end -->

 

...พี่น้องไทยที่ใจจดจ่อรอฟัง "ข่าวดี" จากทีมค้นหา เหมือนคนใจหล่นหาย เมื่อแน่ว่าที่หวั่นมันเป็นจริง ทุกสิ่งรอบตัวดูมันซีดเซียว-หม่นเศร้าไปหมด ถึงมิใช่เพื่อน-มิใช่ญาติ แต่ "ทหาร" เป็นมากกว่าญาติและเพื่อน เพราะ "ทหาร" คู่กับความเป็น "ชาติ" ของเรา
เมื่อเสียเขา เราก็อดเศร้าด้วยไม่ได้!...


ขอคารวะทหารกล้าทั้ง ๑๓ ท่านและอีก ๑ ชายชาติทหารครับ


คัดลอกจาก ทหารยังต้องเกรง "กระเบื้องบาด" | ไทยโพสต์

 

เอกอุดมพระราชปณิธาน ในเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์ล่าสุด

 

ท่านที่สนใจและติดตามเรื่องศาลโลก รวมถึงผลการตัดสินของศาลโลกไปเมื่อเร็วๆนี้ ควรได้อ่านบทความนี้ครับ (อยากจะบอกว่าไม่ควรพลาด)

บทวิเคราะห์คำสั่งศาลโลก 18 กรกฎาคม : ประเด็นที่คนไทยควรรู้

รายละเอียดคลิกไปที่นี่ครับ http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000089174