ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ขอบคุณ คุณ Chayutt มากครับที่แปลความหมาย ให้ คงจะทำนองนั้นแหละครับ และเพิ่งจะหายหวัดมา ไปร้านตัดผมช่างตัดผมเขาบอกว่า ปกติคนอายุยิ่งมาก ผมจะบางลงบางลง นี่กลับหนาขึ้นแสดงว่าสุขภาพดี

เล่าความฝันต่ออีดนิด ในคืนเดียวกัน ฝันว่าตัวเองแต่งกายเป็นมุสลิม มีผ้าสีดำคลุม ศรีษะเห็นแต่ลูกตา (แบบหญิงมุสลิม) พอดูข่าวทางทีวี.เป็นช่วงเวลาของการออกจาก การละศีลอดพอดี

 

เหมือนว่าจะมีอะไรบอกเราว่า พิระมิด ได้เปิดแล้ว
เพราะผมเห็นแสงสว่างจ้าออกมาจากพิระมิด พลังที่ออกมาเป็นรูปดวงตา
และมีแสงสว่างจากภายในพุ่งออกมาจากรูต่างๆ และสันขอบพิรามิด
จากนั้นมีลำแสงพุ่งขึ้นไปสู่จักรวาลที่ยอดพิระมิดครับท่าน
และภาพต่อมาเหมือนว่าให้เราไปนั่งตรงกลางพิระมิด
แล้วหมุุนพลังอะไรสักอย่างแล้วตัวเราจะเป็นร่างโปร่งใสครับ

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล
(Archangel Michael)

วันที่ 24 สิงหาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร Ronna Herman
ที่มา: The Voice of Spirit Is Calling > Ronna Herman

ตอนที่ 1

คุรุอันเป็นที่รักทั้งหลาย
ในขณะที่เซลล์แสงสว่างแห่งจิตสำนึกพระเจ้าได้แทรกซึมลึกลงไป
และลึกลงไปยิ่งขึ้นสู่โครงสร้างทางกายภาพ

ผนังของแสงสว่างที่ล้อมรอบ DNA ก็เริ่มที่จะสลายตัวลง
ในฐานะที่มันเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในจักรวาลย่อยแห่งนี้
สิ่งนี้ได้ถูกโปรแกรมลงสู่แบบพิมพ์เขียวที่เป็นกายแห่งแสงของ Adam/Eve Kadmon
เพื่อกระตุ้นให้ DNA เกิดการทำงานขึ้นได้สองสาย ณ เวลานี้

สายของ DNA ต่างๆจะถูกปรับให้เข้ากับระดับของมิติที่แตกต่างกัน
สองสายที่เป็นการใช้งานและปฏิบัติการ
อยู่ในยานพาหนะทางกายเนื้ออยู่ในตอนนี้
ถูกปรับเข้าสู่ระดับของ มิติที่1 มิติที่2 และมิติที่3

อย่างที่พวกเราได้เคยบอกพวกคุณมาก่อนว่า
พวกคุณจมอยู่ในความหนาแน่นของมิติที่ต่ำกว่ากับการทำงานของ DNA 2 สายนี้,

สาย DNA ของพวกคุณจะถูกห่อหุ้มอยู่อย่างมิดชิดภายในผนังกั้นของแสงสว่าง
และอยู่ในพื้นที่สงวน
จนกว่าจะถึงเวลาที่พวกคุณพร้อมที่จะเริ่มเดินทางกลับไปสู่มิติที่สูงขึ้นของแสงสว่าง

มิติที่ 1 มิติที่ 2 และมิติที่3 : DNA 2 สาย
มิติที่ 4 และมิติที่ 5 : DNA 4 สาย
มิติที่ 6 และมิติที่ 7 : DNA 6 สาย
มิติที่ 8 และมิติที่ 9: DNA 8 สาย
มิติที่ 10 และมิติที่ 11: DNA 10 สาย
มิติที่ 12 : DNA 12 สาย

เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเพื่อช่วยให้พวกคุณเข้าใจถึงการผสานรวม
ของตัวตนอันสูงส่งหรือตัวตนทั้งหมดเข้าด้วยกันอย่างเป็นลำดับ

พวกเราขอระบุเลขหมายต่างๆในแต่ละคุณลักษณะต่างๆของตัวตนอันสูงส่งของพวกคุณ
พวกคุณเกิดมาพร้อมกับคุณลักษณะต่างๆของความเป็นพระเจ้าในตนเอง
ที่ถูกห่อหุ้มอยู่ภายในทรงกลมแห่งแสงสว่างที่ถูกเข้ารหัสไว้ใน DNA ,สนามออร่า
และในเซลล์ความจำของพวกคุณตลอดทั่วทั้งร่างกาย

ซึ่งนั่นคือ ความถี่ของประสบการณ์ขั้นเริ่มต้นในชีวิตของพวกคุณ
ถ้าทุกๆสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผน บางทีในช่วงต้นๆของชีวิตของพวกคุณ
พวกคุณเคยถูกปลุกจากการกระตุ้นเตือนหรือการกระซิบบอกจากจิตวิญญาณของพวกคุณ

และกระบวนการในการผสานตัวตน
หรือบุคลิกภาพจึงเริ่มต้นขึ้น

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล
(Archangel Michael)

วันที่ 24 สิงหาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร Ronna Herman
ที่มา:The Voice of Spirit Is Calling > Ronna Herman


ตอนที่ 2

พวกเราจะเรียกสิ่งนี้ว่าตัวตนที่ 1 ของจิตวิญญาณ
ส่วนตัวตนที่ 2 ของพวกคุณ พวกเราจะเรียกว่าตัวตนรวม
ที่อยู่ภายในจักระที่ 8 ที่เป็นจักระ Soul Star ของพวกคุณ ณ เวลาที่พวกคุณเกิด


ถ้าพวกคุณใส่ใจต่อ "เสียงเพรียกจากจิตวิญญาณ(Voice of Spirit)"
เมื่อเวลาค่อยๆผ่านไปเรื่อยๆ เหลี่ยมมุมของมิติอันสูงส่งแห่งจิตวิญญาณนี้
จะมอบแสงสว่างอันเจิดจ้าให้กับพวกคุณ และแผ่คลื่นความถี่ของแสงสว่างอันประณีตนี้ของมัน
ไปยังระบบจักระและสนามออร่าของพวกคุณ

เมื่อการผสานรวมเหลี่ยมมุมของจิตสำนึกอันสูงส่งของพวกคุณ
เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ณ เวลาที่เหมาะสม

ตัวตนระดับ 3 ของจิตวิญญาณ
ประกายแสงที่สูงขึ้นลำดับต่อไปของตัวตนหลากมิติของพวกคุณ
จะเคลื่อนลงมาสู่ตำแหน่งจักระที่ 8
และกลายเป็นตัวตนรวมแห่งจิตสำนึกของพวกคุณ



กระบวนการนี้จะเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกระทั่ง... บางทีอาจเป็นในอนาคตอันไกลแสนไกล
พวกคุณก็จะผสานรวมกับความเป็นพระเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ในตนเองได้ใหม่

เมื่อพวกคุณเริ่มออกผจญภัยในดินแดนทางกายภาพของโลกแห่งวัตถุ
พวกคุณได้สร้างเครื่องแต่งกายที่เป็นเลือดเนื้อขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อมาห่อหุ้มแสงสว่างของพวกคุณไว้,

กายแห่งแสงคริสตัลไลน์
ทรงกลมแห่งแสงสว่างนี้จะอยู่ในบริเวณตำแหน่งด้านหลังร่างกาย
หลังหัวใจทางกายภาพของพวกคุณ




ทรงกลมแห่งแสงสว่างนี้เรียกว่า หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณ
จะกลายมาเป็นบ้านของจิตวิญญาณ/ตัวตนอันสูงส่งของพวกคุณ
และเซลล์พระเจ้าอันแข็งแกร่งของพวกคุณจะอยู่ในตำแหน่งภายในห้องโถงอันศักดิ์สิทธิ์นี้เสมอ

 

เป็นการสัมผัสรับรู้ที่น่าทึ่งที่เดียวครับ
จากที่แปลกันนี่ เค้าเอ่ยถึงการกระตุ้น"พีระมิด"ให้เปิดใช้งายในหลายพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับปีสุดท้าย (12-12-12) โดยนำมาใช้เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังชีวิตครับ

มีอะไรที่เราอาจมองไม่เห็นด้วยตาเนื้อมากมาย..แต่ในมิติทางพลังงานที่สลับซับซ้อนก็มีการเคลื่อนย้ายพลังงานไปมาตามจุดต่างๆเกิดขึ้นตลอดเวลา และภายในพิรามิดเองก็มีพลังหมุนวนเป็นเวอร์เทคที่ซับซ้อน หากใครเคยเข้าไปทำสมาธิคงสัมผัสถึงความถี่นั้นได้ และร่างที่โปร่งใสก็จะกลายเป็นความจริงในยุคทองนี่ล่ะครับ

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล
(Archangel Michael)

วันที่ 24 สิงหาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร Ronna Herman
ที่มา:The Voice of Spirit Is Calling > Ronna Herman


ตอนที่ 3

คุณสมบัติ คุณลักษณะและคุณความดีงามทั้งหลายของลำแสงสีทั้ง7แห่งจิตสำนึกพระเจ้า
จะอยู่ภายในทรงกลมแห่งแสงสว่างนี้เสมอ

ทรงกลมเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันดีว่า มันคือจักระที่ถูกออกแบบมา
ให้มีการหมุนปั่นด้วยความเร็วที่สูงมาก
ที่ทำให้พวกมันดูเสมือนเป็นกรวยหมุนของแสงสว่าง
ที่แผ่แสงสว่างออกมาจากด้านหน้าและด้านหลังกายเนื้อ



ในตอนนี้พวกคุณกำลังมีความมุ่งมั่นที่จะย้อนกระบวนการกลับไป
ในขณะที่พวกคุณพยายามที่จะขจัดความถี่ที่ไม่กลมกลืนทั้งหมด
ที่พวกคุณได้เคยสร้างมาตลอดอายุขัยของพวกคุณออกไป
ด้วยการชำระล้างระบบกายทั้ง 4
ที่เสื่อมลงของพวกคุณ
กายเนื้อ จิต อารมณ์ และกายทิพย์ให้บริสุทธิ์ขึ้น,

เพื่อที่พวกคุณจะได้สามารถออกจากข้อจำกัดทางกายภาพของพวกคุณได้

พวกคุณต้องก้าวออกมาจากการยึดตนเป็นศูนย์กลาง
(self-centered attitude)
แต่ สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นจนกว่า...
พวกคุณต้องอยู่บนหนทางของการเลื่อนระดับ
ได้เป็นอย่างดีแล้ว

จำไว้ว่าพวกเราเคยบอกพวกคุณ มันมีความถูกต้องอยู่ใน"ความเห็นแก่ตัว "
หรือ เวลาแห่ง การหมกมุ่นกับตนเอง(self-absorption)อย่างเข้มข้น
เมื่อพวกคุณกำลังเพียรพยายามที่จะเยียวยาหรือปรับสมดุลร่างกายเนื้อของพวกคุณ
ในการเตรียมความพร้อมเพื่อการเติมแสงสว่างที่มีความถี่สูงขึ้น

ขั้นตอนในการเตรียมการนี้มีความสำคัญในทุกๆระดับของการเติมแสงสว่างที่สูงขึ้นไปนี้
; มิฉะนั้นแล้วมันจะเหมือนกับเป็นการเสียบปลั๊กไฟขนาด 110 โวลท์
เข้าไปในช่องปลั๊กไฟขนาด 220 โวลท์
ที่อาจจะทำให้เกิดไฟช็อตขึ้นและทำลายอุปกรณ์นี้(กายเนื้อ)ให้พังลงได้

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล
(Archangel Michael)

วันที่ 24 สิงหาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร Ronna Herman
ที่มา:The Voice of Spirit Is Calling > Ronna Herman


ตอนที่ 4



มันมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่พวกคุณต้องใส่ใจในการปรับปรุงจักระทั้ง 7 ในร่างกายให้ดีขึ้น,
ด้วยวิธีการสร้างหรือการกระตุ้นให้เสาหลักของแสงสว่าง
ที่ปฏิบัติการอยู่ด้านหน้าโพรงกระดูกสันหลังของพวกคุณเกิดการทำงานขึ้น
เสาหลักของแสงสว่างนี้จะต้องถูกสร้างการเชื่อมต่อของมันขึ้นมาใหม่กับแกนกลางใจโลก
และ Star Tetrahedron,จักระSoul Star ของพวกคุณที่อยู่เหนือจักรมงกุฎของพวกคุณขึ้นไป 8 นิ้ว - 12 นิ้ว




เมื่อพวกคุณทำสิ่งนี้ได้สำเร็จ พวกคุณจะค่อยๆได้รับลำแสงสีที่สูงขึ้นทั้ง 5 ของแสงสว่างแห่งผู้สร้าง,
ที่จะทำให้รอยประทับอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณมีความสมบูรณ์พอสำหรับรอบวิวัฒนาการที่จำเพาะเจาะจงนี้

อย่างไรก็ตามพวกเราจะต้องอธิบายว่า ในระหว่างการเดินทางกลับไปยังมิติที่สูงขึ้นของพวกคุณ
พวกคุณจะถูกร้องขอให้รับภารกิจพิเศษอีกหลายอย่างและโดยปกติพวกคุณก็จะตกลง;
เพราะนี่เป็นวิธีที่กระบวนการเลื่อนระดับถูกออกแบบมา

พวกคุณจะพยายามอยู่ตลอดเวลาที่จะย้อนกลับไปสู่
จิตสำนึกแห่งพระเจ้าอันเต็มเปี่ยมของพวกคุณ
แต่พวกคุณจะต้องหมั่นคอยดูแลรักษา
ความปรารถนาที่สำคัญยิ่งของพวกคุณไว้ด้วย
ในอันที่จะช่วยเหลือผู้อื่นในบางกรณี ;
เพราะในส่วนลึกของหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณ
มันมีเมล็ดพันธ์คริสตัลที่สั่นสะเทือนไปด้วยความรักอันบริสุทธิ์
และมันเป็นความปรารถนาที่มีมาตั้งแต่เกิด
ในการที่จะมาช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

เหลี่ยมมุม/ประกายแสงทั้งหลายของอาณาจักรเทวะ และรูปธรรมแสงสว่างอันยิ่งใหญ่ต่างๆ
ได้ถูกบัญญัติให้มาถือกำเนิดยังโลกและดำเนินวิถีทางเยี่ยงมนุษย์

ประตูทางเข้าทั้งหลายถูกเปิดไว้อยู่แล้วตั้งแต่แรก และจะเปิดค้างไว้อยู่อย่างนั้นไปอีกหลายยุคหลายสมัย
อย่างไรก็ตาม, เมื่อครั้งในอดีต มีเพียงจิตวิญญาณที่กล้าหาญเพียงไม่กี่จิตวิญญาณเท่านั้น
ที่ข้ามผ่านประตูของการส่องสว่างนี้ไปได้และก้าวไปถึง
ความเป็นนายเหนือตนเอง(Self-mastery)

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล
(Archangel Michael)

วันที่ 24 สิงหาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร Ronna Herman
ที่มา:The Voice of Spirit Is Calling > Ronna Herman


ตอนที่ 5

การตื่นรู้ทางจิตสำนึกจะถูกพัฒนาขึ้นโดยค่อยๆผ่านขั้นตอนต่างๆของการตื่นรู้
และความเข้าใจที่ซับซ้อนและมีแนวคิดที่ประณีตขึ้น

ในขณะที่พวกคุณก้าวต่อไปข้างหน้า, พวกคุณจะค่อยๆได้รับการเข้าถึงที่สูงขึ้น
และมีระดับมิติของจิตสำนึกที่สูงขึ้น

ในระหว่างการเดินทางแห่งจิตในยามค่ำคืน(การฝัน...ผู้แปล)ของพวกคุณ
พวกคุณได้ถูกนำไปยังหอแห่งการเรียนรู้ และในที่สุด เข้าสู่หอแห่งภูมิปัญญา
เมื่อเวลาล่วงเลยไป พวกคุณจะเข้าร่วมกับกลุ่มผู้พิทักษ์โลก
ผู้ที่ดึงดูดและแผ่คลื่นอนุภาคอดามันทีนของแสงแห่งผู้สร้างออกมา
เพื่อการใช้งานในคุณงามความดีอันสูงสุด

พวกคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่
ที่พวกคุณเหมาะสมพอที่จะเข้าร่วมกับ
สมาชิกของกลุ่มจิตวิญญาณของพวกคุณ
ในปีระมิดแห่งผู้พิทักษ์โลก?

พวกคุณจะถูกพาเข้าไปที่นั่นเองโดยอัตโนมัติ
เมื่อบทเพลงแห่งจิตวิญญาณของพวกคุณ
สั่นสะเทือนไปถึงกลางมิติที่4 หรือเหนือกว่านั้น

พวกคุณจะไปยังที่นั่นได้
ก็ต่อเมื่อพวกคุณสมดุลกรรมของพวกคุณได้ 51% แล้ว
และกำลังมีความมานะพยายามจริงๆ
ที่จะควบคุมอารมณ์ตามธรรมชาติของพวกคุณให้ได้

และ...พวกคุณจะไปที่นั่นได้
เมื่อพวกคุณเริ่มมองเห็นสิ่งที่ดีงามที่สุด
ในตัวของเหล่าบรรดาผู้คนที่รายล้อมอยู่รอบๆตัวพวกคุณ
พวกคุณกำลังพยายามที่จะย้ายออกไปจากการตัดสินผู้อื่น
ในขณะที่พวกคุณเรียนรู้ที่จะมองชีวิตและโลก
ผ่านดวงตาที่เคลือบไปด้วยด้วยความเห็นอกเห็นใจ

ขอให้เราได้อธิบายให้พวกคุณรู้ถึงวิธีการสร้างปีระมิดแห่งผู้พิทักษ์โลก
ให้จินตนาการถึงปีระมิดแก้วขนาดมหึมาขึ้นในมิติที่ 5 ทีมีปลายยอดคริสตัลแหลมสองด้าน
ขยายขึ้นไปยังระดับแรกของมิติที่ 6 ที่อยู่ภายใน

สิ่งก่อสร้างอันมหัศจรรย์นี้คือ ระดับที่ผ่านพ้นมิติที่ 5มาแล้ว -และมีรูปแบบความถี่อยู่ในระดับต้นๆของมิติที่ 6
มันจะมีปีระมิดที่เล็กกว่าอยู่ในนั้นนับพันๆอัน แต่ละอันจะสั่นสะเทือนด้วยความถี่ของแสงสว่างที่มีจังหวะเฉพาะ

พวกคุณอาจจะเปรียบปีระมิดเหล่านี้ว่าเป็นเมืองเล็กๆแห่งแสงสว่างก็ได้
เมื่อถึงเวลาที่พวกคุณมีคุณสมบัติพอที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มผู้พิทักษ์โลกได้แล้ว
พวกคุณจะถูกนำเข้าไปยังปีระมิดแห่งแสงที่ถูกปรับให้เข้ากับรูปแบบการสั่นสะเทือนที่เฉพาะของพวกคุณ

ในขณะที่พวกคุณมีความก้าวหน้าขึ้นในการสั่นสะเทือนแสงสว่าง
พวกคุณจะเคลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆยังสถานีแห่งแสงสว่างที่สูงขึ้นและสูงขึ้นไปอีก
ภายในปีระมิดแห่งผู้พิทักษ์โลก

สิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้กระบวนการเลื่อนระดับ
เกิดความสมบูรณ์ขึ้นด้วย เช่นกัน

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล
(Archangel Michael)

วันที่ 24 สิงหาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร Ronna Herman
ที่มา:The Voice of Spirit Is Calling > Ronna Herman


ตอนที่ 6

การจดจ้องของมนุษยชาติกำลังถูกดึงออกจากปลักตมที่หนาทึบของการดำรงอยู่ของโลก
เพื่อจะไปยังขอบฟ้าที่แสนกว้างไกลแห่งอนาคต

ความปรารถนาในความมั่งคั่งทางวัตถุ กำลังจะถูกแทนที่ด้วยแรงปรารถนาจากจิตสำนึกแห่งจิตวิญญาณ
ผู้พิทักษ์โลกทั้งหลายจะถูกดึงเข้าหากันด้วยการเชื่อมต่อทางจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง:
ความทรงจำของคำสัญญาที่มั่นคงในอันที่จะช่วยมนุษยชาติ,
พร้อมกับเป้าหมายที่มีร่วมกันเพื่อการเลื่อนขึ้นไปสู่จิตสำนึกที่สูงขึ้น

แบบพิมพ์เขียวอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับจักรวาลย่อยแห่งนี้
ถูกสร้างให้มี 12 มิติประสบการณ์

มันมีจักรวาลย่อยอื่นที่ถูกสร้างให้มีมิติประสบการณ์มากกว่านี้
และในบางจักรวาลก็มีน้อยกว่านี้

โลกและระบบสุริยะเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในกระบวนการของผสานรวมคุณสมบัติ
คุณภาพ และคุณงามความดีทั้งหมดนี้ ให้กลับเข้ามาสู่ลำแสงสีทั้ง12 แห่งจิตสำนึกพระเจ้าได้ใหม่
เพื่อให้มีความเหมาะสมพอที่จะเข้าร่วมในระดับที่สูงขึ้นต่อไปของแผนการอันศักดิ์สิทธิ์
เพื่อการขยายตัวของจักรวาลย่อยแห่งนี้

เมื่อเวลาผ่านไป วิวัฒนาการของจิตสำนึก
จะเป็นไปตามขั้นตอนของวิวัฒนาการที่อยู่ภายใต้กายเนื้อ
ที่สร้างรูปแบบขึ้นมาตามความคิดเสมอ

ร่างกายมนุษย์กำลังถูกเตรียมความพร้อมเพื่อรับคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นของแสงสว่างแห่งผู้สร้าง
อนุภาคอดามันทีนของแสงเพลิงอันศักดิ์สิทธิ์

พวกคุณต้องวิวัฒน์จากรูปธรรมที่มีโหมดของการถูกกระทำ
ไปสู่สถานะแบบใหม่อันประณีตของรูปธรรมแห่งผู้ถือคบเพลิงแห่งแสงสว่าง
ที่เป็นผู้กระทำการอย่างมีทิศทาง,ขยายวงให้กว้างออกไป
ถ้าพวกคุณอยากจะเป็นผู้มีอำนาจในการร่วมสร้างสรรค์แห่งแสงสว่าง
(COCREATIVE MASTER OF LIGHT)

ในขณะที่พวกคุณหันกลับเข้าด้านในและไปถึงยังกรอบความคิด
และข้อมูลของคลื่นความถี่ที่สูงขึ้น,

พวกคุณจะเริ่มถอนออกจากระนาบทิพย์ที่เป็นระบบความเชื่อ
ของจิตสำนึกมวลรวมอย่างเป็นอัตโนมัติ

จากมุมมองของจิตวิญญาณการวิวัฒนาการ
หมายถึง ความรู้สึกที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆต่อความถี่ที่สั่นสะเทือน
และความสามารถที่จะผสานรวม
เข้ากับแก่นแท้แห่งพระผู้สร้างได้มากขึ้น,
ที่ให้ผลในการส่องแสง
และมีวิสัยในการเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น

สัญชาตญาณแห่งสติปัญญาของผู้ที่ตื่นแล้วจะนำไปสู่ความเข้าใจอันยิ่งใหญ่
ในแผนการอันศักดิ์สิทธิ์ของมนุษยชาติ และส่วนที่พวกเขา/เธอ ต้องแสดง

การใส่ใจอย่างมีสติปัญญานั้นมีความจำเป็นต่อความสำเร็จในการเข้าสู่มิติที่ 5
และจากนั้น,เพื่อจะไปให้ถึงยังคลังแห่งภูมิปัญญาและความสามารถอันก้าวล้ำที่มีอยู่ในนั้น
การทำสมาธิและการมีจิตสำนึกแห่งวิญญาณอันแข็งแกร่ง
จะเปิดทางไปสู่การเปิดเผยตัวของเอกภพ

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล
(Archangel Michael)

วันที่ 24 สิงหาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร Ronna Herman
ที่มา:The Voice of Spirit Is Calling > Ronna Herman


ตอนที่ 7

เมื่อถึงคราวจำเป็น ข้อมูลทั้งหลายที่กว้างขึ้นจะถูกจัดส่ง
ให้กับเหล่าผู้แสวงหาหนทางแห่งแสงสว่างอยู่เสมอและอย่างเหมาะเจาะ

ก้าวต่อไปของพวกคุณและสิ่งจำเป็นที่พวกคุณต้องทำก็คือ
การเปิดใจออกมาอีกขึ้นหนึ่ง ณ เวลานี้
ให้นึกคิดถึงการติดต่อสื่อสารในทางโทรจิต
กับรูปธรรมทั้งหลายแห่งปริมณฑลอันสูงส่ง
เพื่อขอรับเซลล์แสงสว่างของความคิดหรือข้อมูล

พวกคุณต้องฝึกฝนที่จะปรับปรุงความสามารถของพวกคุณให้ดีขึ้น
ในการจินตนาการภาพความคิดของพวกคุณให้คมชัด,และคงมันไว้ให้นานพอ
ที่พวกมันจะถูกบันทึกลงไปในสมองและพลังทิพย์ของพวกคุณได้
จำไว้ว่าพลังงานจะเป็นไปตามความคิดเสมอ

แสงสว่างเป็นทั้งพลังงานและสสาร
การเกิดประจุไฟฟ้าหรือการแปลงรูปของสสาร/พลังงานเกิดขึ้นเมื่อ
พลังงานถูกประมวลผ่านปีระมิดแห่งแสง;

ในขณะที่จิตมนุษย์สัมผัสได้ถึงรูปธรรมที่รู้แจ้งทั้งหลายของปริมณฑลที่สูงส่งขึ้น
มันจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพลังงาน

การค่อยๆใช้เทคนิคที่ก้าวล้ำเหล่านี้และทำมันได้สำเร็จลงได้
มันจะปลดปล่อยพวกคุณออกจากกฎของความไร้ระเบียบ(entropy)
หรือความเสื่อมถอย(decay), และพวกคุณก็จะค่อยๆเริ่มกระบวนการฟื้นฟูชีวิตขึ้นมาใหม่ได้

พวกคุณจะค่อยๆเคลื่อนจาก การมองเห็นชนิดหนึ่งไปสู่สภาวะแบบหนึ่งที่สูงขึ้น
ที่ข้ามพ้นไปจากแถบสเปคตรัมของแสงสีอัลตราไวโอเลตอีกด้วย
พวกคุณจะเข้าสู่ความถี่ทั้งหลายที่สูงขึ้นซึ่งเป็นแถบสเปคตรัมคลื่นแม่เหล็กฟ้าของแสง
พวกคุณกำลังถูกเตรียมพร้อมเพื่อการทำงานในหลากหลายระดับสติปัญญา

พวกคุณไม่สามารถที่จะหลบหลีกกระแสการไหลของพลังงาน
ทีกำลังกระหน่ำเข้าใส่โลกและมนุษย์อย่างไม่หยุดยั้งได้

พลังงานของลำแสงสีขนาดใหญ่ที่คอยให้กำเนิดชีวิต
แผ่กระจายออกมาจากพระบิดา/พระมารดาแห่งเรา
ผ่านทางดวงอาทิตย์ศูนย์กลางที่ยิ่งใหญ่ (Great Central Sun)ของจักรวาลนี้

ตลอดจนดวงอาทิตย์อีกมากมายมหาศาลของจักรวาลย่อยๆ,กาแล็คซี่
และระบบสุริยะต่างๆในทุกหนทุกแห่ง

พลังงานของเอกภพที่มีคลื่นความถี่พิเศษกำลังสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งจักรวาลย่อยแห่งนี้
มันเป็นคลื่นความถี่ที่มาจากระบบกลุ่มดาวทั้งหลายและระบบสุริยะอื่นๆ,
รวมทั้งจังหวะและชีพจรของแม่ธรณีของพวกคุณ
ซึ่งมีอิทธิพลโดยตรงต่อสรรพชีวิตทั้งมวล

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล
(Archangel Michael)

วันที่ 24 สิงหาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร Ronna Herman
ที่มา:The Voice of Spirit Is Calling > Ronna Herman


ตอนที่ 8

แรงแห่งเอกภพของคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นทั้งหลาย มีคุณประโยชน์ คอยค้ำจุนและเสริมสร้างชีวิต
ในขณะที่บรรดาคลื่นความถี่ระดับต่ำกว่า, คลื่นความถี่ที่ไม่กลมกลืนกันของมิติที่ 3 /4
จะก่อให้เกิดอันตรายและมีความจำกัด

ทุกจิตวิญญาณเป็นผู้ตัดสินใจเลือกวิธีตอบสนองความถี่จำนวนมหาศาลเหล่านี้ขึ้นเอง
ผ่านทางพลังงานเฉพาะของพวกเขา
ด้วยวิธีการนั้นพวกเขาจึงทั้งสร้างสวรรค์บนดิน
หรือนรกส่วนตัวของพวกเขาให้เกิดขึ้นกับตนเองได้

สมองของพวกคุณเป็นอวัยวะที่เป็นเลิศยิ่งและจุไปด้วย
"คลื่นความถี่ที่ของจิตสำนึกจำนวนมากที่เป็นรหัสต่างๆของชีวิต
(consciousness-frequency Life Codes)"

ศักยภาพที่เป็นความอัจฉริยะของพวกคุณส่วนใหญ่
จะถูกเก็บไว้ใช้กับระดับมิติที่สูงขึ้นของจิตศักดิ์สิทธิ์
ที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่หลังศีรษะใกล้ๆกับจักระมงกุฎของพวกคุณ

บทเพลงแห่งจิตวิญญาณของพวกคุณมีความถี่ที่จะช่วยให้พวกคุณ
เข้าถึงคลังแห่งความรู้อันมหาศาลนี้ได้
ทุกๆช่วงออคเทฟในการเร่งเร็วขึ้นของคลื่นความถี่
ทำให้พวกคุณเข้าถึงระดับของจิตสำนึกพระเจ้าที่สูงขึ้น

สมอง/จิตของพวกคุณถือกุญแจสำคัญสู่การเป็นผู้มีอำนาจและผู้ส่องแสงสว่าง

ดวงใจอันเป็นที่รักทั้งหลาย จงจำไว้ว่า...
ถ้าพวกคุณจดจ่อแต่เพียงการเลื่อนระดับส่วนบุคคล
พวกคุณจะตีความหมาย
ข้อมูลของพวกเราผิดพลาด

ในขณะที่พวกคุณก้าวเดินอยู่บนถนน
แห่งความดีงามที่นำไปสู่การส่องสว่าง
พวกคุณต้องยื่นมือออกไปสัมผัสหัวใจของผู้อื่น
ผ่านทางวาจา กิจกรรม และการกระทำทั้งหลายของพวกคุณ
ผู้แสวงหาที่แท้จริง
คือผู้ที่อยู่บนหนทางที่จะนำไปสู่ชีวิตที่มีแต่การให้

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล
(Archangel Michael)

วันที่ 24 สิงหาคม 2011
ผู้รับการสื่อสาร Ronna Herman
ที่มา:The Voice of Spirit Is Calling > Ronna Herman


ตอนที่ 9...จบค่ะ

ผู้แสวงหาหนทางจะค่อยๆข้ามพ้นไปจากหน้าที่และความรับผิดชอบต่างๆของครอบครัวทางโลก
ในขณะที่พวกเขา/พวกเธอ จะมีจิตสำนึก ภูมิปัญญา และ แสงสว่างที่ค่อยๆเพิ่มมากขึ้น
อิทธืพลของเหล่าผู้แสวงหาจะส่งผลกระทบอย่างเป็นวงกว้าง
และเขา/เธอจะมีโอกาสที่จะกลายเป็นผู้ปลดปล่อยที่แท้จริงมากขึ้น

มันต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องและมีความตั้งใจที่จะควบคุมอัตตาไว้ให้ได้,
และเพื่อที่จะได้มาซึ่งความรู้และทักษะที่จำเป็นในการเป็นผู้พิทักษ์โลก
พวกคุณต้องดำรงตนเป็นเยี่ยงอย่างที่ดีเยี่ยม
และมีความสามารถที่จะกระตุ้นและปลุกเร้าความปรารถนาสำหรับภูมิปัญญาทางจิตวิญญาณ
เพื่อให้ความช่วยเหลือกับมนุษยชาติในฐานะที่พวกคุณคือผู้นำทางแห่งแสงสว่าง

เพื่อนผู้กล้าทั้งหลายของฉัน พวกเรารู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร
ในการที่ได้อาบความรักหรือแสงสว่างแห่งพระผู้สร้างอันพร้อมสรรพ
พวกคุณกำลังจะเริ่มเข้าใจ
และแรงปรารถนาภายในก็จะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและกะเกณฑ์มันได้มากขึ้น

ในขณะที่พวกคุณไปถึงยังปริมณฑลของการส่องสว่างที่สูงขึ้นและสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
แต่แรกเริ่มเดิมทีนั้นพวกเรามีสายสัมพันธ์
ที่เหมาะสมและเข้ากันได้ดี
พวกเรากำลังกลับคืนสู่สภาวะอันงดงาม
ของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเช่นนั้นอีกครั้ง
ด้วยกัน อย่างช้าๆแต่มั่นคง

ฉันคือเพื่อนผู้มีไมตรีจิตอันมั่นคงของพวกคุณตลอดกาล

I AM Archangel Michael.

 

ได้รับแสงสว่างและเติมเต็มแล้วครับ ขอบคุณมากเลยน่ะครับ ^^

 

ข้อความนี้สำคัญครับ
และเชื่อว่าเราหลายๆคนกำลังทำกันอยู่
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ทำได้

ขอบคุณคุณเดรดด้วยครับ

 

ใช่แล้วค่ะ การมอบบทความดีๆ ให้กับที่นี่ คือการเป็นผู้ให้ที่สามารถดึงหัวใจของ อีกหลายๆคนให้ร่วมสร้างประสบการณ์ที่ดีๆ ด้วยกันได้ตั้งแต่ขณะนี้ไปจนบรรลุถึงเป้าหมายที่สูงสุดค่ะ คณะทีมงานแปลคือผู้ให้อย่างแท้จริงค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

 

ขอบคุณมากๆ ครับ
อยากถามว่า แสงระยิบระยับบนท้องฟ้า (กลางวัน) เป็นแสงอะไรครับ เหมือนหิงห้อยเต็มท้องฟ้า

 

ขอบคุณมากๆนะคะคุณkindred
ข้อความนี้ให้อะไรเยอะมากๆเลยค่ะ

 

ลองเอามือไปกวาดดูสิครับ
ถ้าแสงนั้นแกว่งไปตามมือก็อาจเป็นอนุภาคนิวทริโนจากแสงแดด...

ส่วนอีกประเด็นนึงเข้าใจว่าเกิดจากดวงตาเราสร้างภาพลวงตาขึ้นน่ะครับ
เมื่อเรามองไปในความว่างเปล่าของท้องฟ้ายามกลางวัน
อาจเกิดจากกลไกของดวงตาที่จะพยายามแก้ไขแสงจ้าๆ
จึงเห็นเป็นแสงระยิบระยับในม่านตาเราก็ได้

ยิ่งในตอนที่เราหลับตาสนิทแล้ว
ก็มองเห็นแสงระยิบระยับเหล่านี้ในความมืดด้วยเหมือนกัน
โลกแห่งมายาการก็เป็นแบบนี้ล่ะ ทำให้เรามีคำถามเสมอ เพ่งดูกันให้สนุกนะครับ

 

ขอบพระคุณทุกๆท่านเช่นกันนะคะ(kiss)

โดยส่วนตัวคิดว่า คงเป็นพลังงานอะไรบางอย่าง
เคยเห็นเหมือนกันแบบวิบๆวับๆ แต่อยู่ทางหางตา
น่าจะเกิดจากการรับทางปลายประสาทตา
แต่ถ้าเห็นแบบจะๆ ชัดเจน แบบมาระยิบระยับ แบบนั้น ไม่เคยอ่ะค่ะ

ถ้าคุณ มหิศวระ รู้สึกว่ามันไม่ธรรมดา ลองตั้งจิตถามดูซิคะ
สัมผัสภายใน จากความรู้สึกเพียวๆที่วูบเข้ามา
โดยไม่ผ่านการตีความจากสมอง
มักไม่ค่อยบิดเบือน อาจมีคำตอบ ก็ไม่แน่นะคะ

อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ไม่มีตรรกะอะไรทั้งสิ้นค่ะ...:d


จริงๆเรื่องแสงสว่างนี่เป็นอะไรที่สงสัยมาตลอด
แบบบางทีทำสมาธิ ก็ต้องปิดไฟหมด ให้มืดตื๋อเลย
เพราะบางที รู้สึกมีแสงวิ่งแลบไปแล่บมา
เราก็ไม่แน่ใจ ว่าเป็นแสงที่มันลอดผ่านเปลือกตามาไหม
เพราะยังไงเปลือกตาเราก็ไม่สามารถกั้นแสงสว่างจากภายนอกได้สนิทนัก

แต่พอลองปิดไฟดู และถ้ารวมสมาธิได้ดีๆ ละประสาทสัมผัสทั้ง5ได้หมด
แสงกลับจะยิ่งสว่าง ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งสงบยิ่งสว่าง
มันไม่ใช่การเห็น หรือการคิด แต่มันเป็นความรู้สึก

เลยพอเข้าใจว่า ที่ว่าทั้งหมดคึอแสงสว่าง มันไม่ใช่คำอุปมาอุปมัย
แต่มันคือแสงจริงๆ สว่างจริงๆ โล่งและโปรงสบายมากๆ

เล่าสู่กันฟังจ้า....

 

ขอบคุณครับ คงเป็นที่ดวงตาครับผม