ทำไมมีแต่คนอ้างคำสอนของครูบาต่างๆมากกว่าพระไตรปิฏก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย I2D2, 4 กันยายน 2011.

  1. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ปัตจัตตัง แปลว่า...
     
  2. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0
    ใช่ครับ แต่ที่ผมยึดวิสุทธิมรรคนั้นเพราะเป็นอถรรกถาที่เทียบชั้นพระบาลี ผู้แต่งเป็นพระอรหันต์ที่สามารถยืนยันได้

    ส่วนของท่านอื่นอาจจะไม่เทียบชั้นอถรรกถา แต่เป็นโยชนา คันถี หรือเกจิเป็นต้น
     
  3. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0
    ยกมาหน่อยสิครับ อย่าลืมว่าคำบาลีนั้น แม้เป็นคำเดียวกันแต่เมื่ออยู่คนละประโยคความหมายกลับต่างกันได้

    ป.ลง ผมไม่เก่งบาลี
     
  4. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    อยากรู้ค่ะ ในตำรา เราจะแปลความหมายไม่เหมือนกัน
    เลยอยากจะรู้ โดยตัวของคุณเองแล้ว คุณเข้าใจความหมายว่าอย่างไรคะ
    เวลาตากระทบ ตัวอักษร ด้วยสัญญา เราจะแปล อักษรได้ไม่เท่ากัน
    คุณลองแปลให้ฟังหน่อยคะ คำว่า ปัตจัตตัง
     
  5. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0


    อย่างที่บอกไว้แหละครับ หากไม่ยกมาจะให้แปลยังไงให้เข้าใจ
    เหมือนคำว่า กิน
    กิน
    กินอะไร??
    กินรี??
    กินข้าว??
    กินตับ??

    มันต้องมีประโยคนิถึงจะเชื่อมได้
     
  6. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    อยากตอบ
    ปัจจัตตัง
    ความคิดผมนะ เห็นมะนาวรู้ว่าเป็นมะนาวเหมือนกัน
    แต่พอบีบน้ำมะนาวเข้าปาก ความรู้สึกเปรี้ยวนี่ บอกใครไม่ได้ ว่ามันเปรี้ยวขนาดไหนยังไง
    บางคนอาจจะมีแสบด้วยเพราะเหงือกมีแผล ตรงนี้ล่ะครับปัจจัตตัง
    คือรู้ด้วยตนเองเท่านั้น (ต้องทำเอง)
     
  7. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    อยากจะชี้ให้คุณรู้ว่า การอ่านพระธรรม มีความสำคัญอย่างไร
    หวังว่า คงตอบคำถามของกระทู้คุณได้ คุณลองนำไปพิจารณา
    เพียงคำสั้นๆ คุณยังคิดได้มากมาย เราไม่ยกให้คุณดูไงคะ
    เพราะคุณจะเชื่อถือตำรามากกว่า หลวงพ่อ หลวงปู่
    แล้วอย่างเราหลบภัย ยกมา แล้วจะเชื่อไหม ในคำอธิบาย
    ได้อย่างไร ใช่ไหม ปัญญาของเรา เป็นตัวนำทางว่าจะเข้าถึงได้มากแค่ไหน
    อะไรที่ไม่ชัด อย่าไปเพิ่งปักใจ กาลามสูตร พระพุทธเจ้าท่านทรงแสดงไว้
    แต่ไม่ใช่ให้เราไม่เชื่อถืออะไร เลย เพราะคำว่า หูเบา เดี่ยวเพี้ยน
    กลัวจนไม่กล้าเอาตัวเองเข้าทดสอบ ลองดูสักตั้งเนอะ
    สู้ๆ นะจ๊ะ
     
  8. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ลองดูสักตั้งเนอะ
    สู้ๆ นะจ๊ะ :cool:
     
  9. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0

    เส้นใต้แรก ก็คำบาลีมันมีความหมายกว้างนี่ครับ ทำไงได้
    เส้นใต้สอง อันนี้ผมยอมรับครับว่าผมเชื่อตำรามากกว่า เพราะพระไตรปิฏกของเถรวาทเรา๒๕๐๐ปีแล้วที่ไม่ผิดเพี้ยน แต่มันเพี้ยนไปเพราะเอามาเล่าต่อๆกันไปตามคำพูดของคนบางคน เหมือนข่าวลือนั่นแหละ
    ฉะนั้นว่าตามน้ำหนักแล้วหลักฐานที่มีอยู่เชื่อถือได้มากกว่า
     
  10. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ไม่ได้ถามให้คุณเอาคำตอบจากที่อื่น
    แต่เอาคำตอบในใจคุณไงล่ะ
    หากเราปฏิบัติ ใจที่มี "สักโก" เป็นตัวพลักดัน
    อยู่ในบทสวด กรณียเมตตาสูตร ที่พระพุทธเจ้าท่านวางไว้
    ถามใจว่า จากการที่ศึกษา ว่า ตำราได้เพิ่มหรือลดอะไรเราได้บ้าง
    นั้นเราเรียกปัตจัตตัง
     
  11. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    สู้ๆ นะจ๊ะ :cool:
     
  12. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมศึกษาและปฏิบัติเพื่อเป็นปัจจัยไปครับ สั่งสมเป็นปัจจัยไป
     
  13. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    [​IMG] เมาแล้วล่ะ ลุง ไปดีฟ่า แป่ว และ แป่ว
     
  14. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระวจนะ." สุภัททะ อริยอัฎฐังคิกมรรค หาไม่ได้ในธรรมวินัย(ศาสนาใด) สมณะก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น สมณะที่สองก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น สมณะที่สามก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น สมณะที่สี่ก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น สุภัททะ อริยอัฎฐังคิกมมรค หาได้ในธรรมวินัยใด สมณะก็หาได้ในธรรมวินัยนั้น สมณะที่สองก็หาได้ในธรรมวินัยนั้น สมณะที่สามก็หาได้ในธรรมวินัยนั้น สมณะที่สี่ก็หาได้ในธรรมวินัยนั้น..........สุภัททะ อริอัฎฐังคิกมรรค หาได้ในธรรมวินัยนี้แล สมณะก็หาได้ในธรรมวินัยนี้ทีเดียว สมณะที่สองก็หาได้ในธรรมวินัยนี้ สมณะที่สามก็หาได้ในธรรมวินัยนี้ สมณะที่สี่ก็หาได้ในธรรมวินัยนี้ วาทะเครื่องสอนของพวกอื่นว่างจากสมณะของพวกอื่น........สุภัท ถ้าภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ จะพึงอยู่โดยชอบไซร้ โลกก็จะไม่ว่างจาก พระ อรหันต์...................(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาส)
     
  15. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721
    กระทู้สุดเจ๋ง!
    เหล่าฮูอยากตั้งข้อสังเกตอยู่
    มาจ๊ะเอ๋ที่นี่
    โมทนาสาธุล่วย
    ช่วยๆกันระดมสมองนะ
    จะได้เลิกอ้างคำสอนของครูบาต่างๆมากกว่าพระไตรปิฏก ซะที
    เพราะเลอะเทอะจินๆ
    แทนที่จะยกคำของพระพุทธเจ้า
    แต่นี่มักอ้างคำครู จนกลายเป็นถือดีที่อาจารย์ไปหมดแย๊ว
    (ห่วงจินๆ ศิษย์หลวงตาน่ะ เคารพครูน่ะดี แต่ไม่ทันสำเหนียกระวังเล๊ย อ้างมากไปจะเสียที่พวกที่เห็นประโยชน์จากอัธยาศัยของท่าน แล้วมาถามนำหลวงตาท่านน่ะ เหล่าฮูอยากเทิดทูนท่านเอาไว้ แต่ไม่อยากให้ยกคำของท่านมาอ้างมากไปน่ะ )

    เจ๋งๆ
     
  16. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0
    โอโห พุทธทาสมาแล้ว ท่านลบหลู่พระไตรปิฏกไว้เยอะนี่ครับ ยังเอาคำท่านมากว่าอีกเหรอ นี่แหละที่เรียกว่านับถือตามอาจารย์ (อาจาริยวาท)
     
  17. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    มันจี๊ด มันจี๊ด มองแต่ธรรมเถิด ส่วนที่ดีก็มีอยู่บ้าง สหายเอ๋ย
     
  18. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ทุกข์มีหลายอย่างนะครับ

    ส่วนมากที่รับรู้กันโดยทั่วไปเป็นทุกขเวทนา ทุกขบีบคั้น ที่รับรู้ทางอารมณ์ กาย และ ใจ

    ส่วนทุกขลักษณะ ซึ่งเป็นทุกขสัจ ในอริยะสัจนั้น

    คือรู้ลักษณะไตรลักษณ์ ในจิตเจตสิกรูป

    รู้อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    ถามว่าจะรู้ได้อย่างไร ตอบว่า รู้ลงลักษณะที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

    ของที่รู้สึกชัด ปรากฏชัด ให้รู้ชัดลงในปัจจุบันที่ปรากฏ

    หากย่อให้แคบลง คือรู้ที่ทวาร๖ ว่าขณะนนั้นอารมณ์๖ เกิดที่ใดบ้าง

    ให้รู้ลงลักษณะสภาพธรรม ที่จิตและเจตสิกสัมยุตธรรม ส่วนมากรู้กันที่มโนทวาร

    ก็จะทราบว่า ใจส่วนหนึ่ง อารมณ์ส่วนหนึ่ง นี่ตอบแบบบ้านๆ

    แต่คุณต้องรู้ลงลักษณะที่ปรากฏ ขณะนั้นของรูปนาม

    เมื่อรู้ลักษณะเฉพาะของอารมณ์แต่ละตัว จะเข้าใจธรรมที่เป็นกุศล ธรรมที่เป็นอกุศล

    เกิดดับ สืบเชื่อ ทนอยู่ได้ไม่นาน ในนั้นไม่มีอะไรที่เป็นเราโดยความเป็นจริง

    เมื่อปัญญาพิจารณาตามไปเรื่อยๆ จะเข้าใจสภาพความเป็นไตรลักษณ์ ในจิต เจตสิก รูป

    ส่วนดับอัตตา ตัวผู้รู้นั้น ขณะที่รู้ทางทวารทั้ง๖เป็นวิญญาณขันธ์

    อารมณ์ความคิดที่ปรากฏ เป็น สังขารขันธ์ และัสัญญาขันธ์

    ส่วนรูปภายนอกที่รับ เช่น สีเสียงกลิ่นรส เป็นรูปขันธ์ รูปภายในคือทวารทั้ง๖

    คือ หู ตา ลิ้น กาย ใจ...

    และที่รู้ธรรมทั้งหมดตามจริงนี้ เป็นปัญญาเจตสิกที่เกิดขึ้นจากการพืจารณา


    หากยังติดว่าตาเราเป็นผู้ดูในขณะนั้น ให้ดับด้วยความเป็นธาตุ

    พิจารณาลงไปว่า เป็นธาตุอะไร โดยรู้สึก ความเคลื่อน แข็ง เกาะกุม แจกเป็นธาตุไปเลย

    ให้ไม่เหลือความเป็นสมมุติว่าเป็นตา ให้ระลึกรู้เอานะครับ ไม่ต้องไปคิดเป็นตรรกะอะไร

    ถ้าสมาธิดีๆจะเห็นชัด เข้าใจชัด ในอนัตตา


    ผมแนะนำได้เท่านี้ ถ้าสงสัยให้ถามในกระทู้นี้จะดีกว่าครับ

    ทางอื่นไม่ค่อยสะดวก ขออภัยด้วย ^^
     
  19. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0


    ขออภัยครับ ส่วนตัวผมคิดตามนั้นจริงๆ
     
  20. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    พระไตรปิฏก คือ ตำราที่รวบรวมคำสอนต่างๆ ของพระพุทธเจ้า

    เมื่อครูบาอาจารย์ท่านต่างๆ ได้ศึกษาพระไตรปิฏกจนเข้าใจอย่างถ่องแท้และนำไปปฏิบัติ จนได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

    และได้นำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า มาเผยแผ่แก่ชาวบ้าน ชาวสวน ชาวนา

    ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ท่านหยั่งรู้ได้ว่าชาวบ้าน ชาวสวน ชาวนาทั้งหลายนี้ บางคนพออ่านออกเขียนได้ แต่บางคนก็อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ หากเราเผยแผ่หลักธรรมคำสอนตามภาษาในพระไตรปิฏก จริตนิสัยของชาวบ้าน ชาวนา และชาวสวนส่วนใหญ่คงไม่เข้าใจ จึงได้เผยแผ่หลักธรรมคำสอนเป็นภาษาชาวบ้าน

    ครูบาอาจารย์บางท่านไม่ได้เผยแผ่เป็นภาษาพูด แต่ท่านปฏิบัติให้ดู แล้วให้ชาวบ้านปฏิบัติตาม ซึ่งทำให้เข้าใจง่ายกว่าการกล่าวออกมาเป็นคำพูดด้วยซ้ำ

    และเมื่อชาวบ้าน เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ต้องการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนแก่ลูกหลาน จึงได้กล่าวอ้างตามที่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายได้เมตตาชี้แนะไว้ เป็นภาษาชาวบ้านและภาษาปฏิบัติ ทำให้ลูกหลานเข้าใจง่ายกว่าภาษาในพระไตรปิฏก

    ก็ขึ้นอยู่กับจริตนิสัยของแต่ละบุคคล แต่บางท่านก็ศึกษาในพระไตรปิฏกแล้วเข้าใจง่ายกว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...