WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

B1

แนวดินกั้นน้ำพังทำสันทรายท่วม-เร่งสร้างรับเนสาด


30 กย. 2554 12:54 น.

นายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ว่าน้ำที่ล้นสปรินเวย์จากเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อ.ดอยสะเก็ดตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำกวงเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้กำแพงดินที่สร้างขึ้นเพื่อกั้นน้ำไหลเข้าพื้นที่ตำบลสันทรายหลวงพังเสียหายและทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้ง หมู่บ้านจัดสรรอีกหลายแห่ง ทั้ง หมู่บ้านพิมุกต์ หมู่บ้านลากูนน่า และ หมู่บ้านสันทรายเลคแลนด์ มีประชาชนเดือดร้อนรวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ครัวเรือน
อย่างไรก็ตามในเวลา 12.30 น. ระดับน้ำที่ท่วมขังได้เริ่มลดลงตามลำดับ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในเวลาประมาณ 23.00 น. หลังจากนั้นจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าซ่อมแซมกำแพงดินกั้นน้ำทันทีเพื่อเตรียมรับมือกับอิทธิพลพายุเนสาดที่จังหวัดเชียงใหม่จะได้รับผลกระทบในวันที่ 1-3 ก.ย. นี้

 

B1

เอาไม่อยู่! น้ำท่วม ถนนรังสิต-ปทุมธานี-ถนนติวานนท์ รถติดหนัก




อาไม่อยู่! น้ำท่วม ถนนรังสิต-ปทุมธานี-ถนนติวานนท์ รถติดหนัก
น้ำเหนือทะลักคลองรังสิต ท่วมถนนสายซ่อมสร้างฯ ระยะทางกว่า 2กม. ที่จังหวัดปทุมธานี ทำให้รถติดขัดอย่างหนัก ขณะที่ดาวเทียม ชี้ 13 เขต กทม.เสี่ยงน้ำท่วมฉับ...

ะดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เอ่อล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนรังสิต-ปทุมธานี และถนนติวานนท์ ไปปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี ระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร โดยรถยนต์สัญญรไปมาด้วยความติดขัด ล่าสุดตำรวจต้องทำการปิดถนนฝั่งขาออกทั้งเส้นทาง

ส่วนบริเวณตลาดรังสิต ซึ่งเป็นแหล่งเศรษฐกิจและแหล่งชุมชนขนาดใหญ่นั้น นายธีรวุฒ กลิ่นกุสุม นายกเทศมนตรีนครรังสิต ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่กองช่าง ได้ออกตรวจสอบสภาพประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ (ประตูดำ) ซึ่งเป็นประตูน้ำที่กั้นระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะไหลผ่านเข้ามาในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ พร้อมทั้งมีการตรวจสอบระดับน้ำ โดยพบว่าระดับน้ำสูงขึ้นปริ่มแนวคันกั้นกระสอบทรายที่มีการเสริมไว้เหนือประตูระบายน้ำ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งเสริมกระสอบทรายเพิ่มสูงขึ้นอีก พร้อมมีการเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง

ส่วนที่อำเภอสามโคก บริเวณถนนสายคลองน้ำอ้อม–เชียงรากน้อย ซึ่งเป็นถนนเลียบคู่ไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นคันเขื่อนมีความยาวประมาณ 13กิโลเมตร มีกลุ่มชาวบ้าน ทั้งจากเขต ตำบลบ้านกระแชง ตำบลบ้านปทุม ตำบลบ้านงิ้ว และ ตำบลรากน้อย ร่วมมือร่วมใจช่วยกันกรอกกระสอบทรายแล้วนำไปวางเพิ่มเสริมความแข็งแรงของแนวคันดิน และแนวกระสอบทรายที่วางไว้อยู่เดิม เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มระดับขึ้นสูงกว่า 50เซนติเมตร

ด้านนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ สทอภ. ได้เผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงพื้นที่เสี่ยงภัยในการเกิดน้ำท่วมฉับพลันภายใน 3-5 วันนี้ ประกอบด้วย 13 เขต ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ หนองค้างพลู ทุ่งสองห้อง สายไหม คลองถนน อนุสาวรีย์ จรเข้บัว ลาดพร้าว คลองกุ่ม คลองจั่น หัวหมาก สะพานสูง คลองสองต้นนุ่น และลาดกระบัง
รวมทั้งปริมณฑล ได้แก่ จ.นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ และ จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งนี้เพื่อเตือนให้ประชาชนเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วม

 

B1

กทม.จับตาน้ำหนุนสูงเช้านี้-ชี้น้ำเหนือยังไม่นิ่ง เฝ้าระวังใกล้ชิด

กรุงเทพฯ 30 ก.ย. - กทม.จับตาน้ำทะเลหนุนสูงเช้านี้ พบที่ปากคลองตลาดน้ำสูง 1.96 ม.รทก. ชี้ยังรับสถานการณ์ได้ ประสานเรือโดยสารชะลอความเร็วลดแรงกระแทกบ้านเรือนริมน้ำและแนวกระสอบทราย ระบุน้ำเหนือยังไม่นิ่ง ต้องจับตาต่อเนื่อง ด้านโรงเรียนทหารพลาธิการพบรอยร้าวคันกั้นน้ำ หวั่นเสียหายน้ำทะลักท่วมเมือง

นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางไปตรวจพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าน้ำบางโพ เขตบางซื่อ เนื่องจากช่วงเช้าประมาณ 08.00 น. คาดการณ์ว่าจะมีน้ำทะเลหนุนสูงสุดในเดือนกันยายนนี้ มีฐานน้ำหนุน 1.16 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น ตรวจวัดที่บริเวณปากคลองตลาด ระดับน้ำสูงสุด 1.96 ม.รทก. เมื่อเวลา 08.45 น. ถือว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องและดูแลความแข็งแรงของแนวคันกั้นน้ำตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยาและกรุงเทพฯ ด้านตะวันออก ขณะที่การระบายน้ำจากในพื้นที่ยังดำเนินการอย่างเต็มที่ ผ่านทางคลองสายต่าง ๆ รวมวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ ระบุว่า ขณะนี้มีชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะคงระดับน้ำสูงเช่นนี้อีกระยะหนึ่ง เบื้องต้นได้ประสานให้แจ้งเรือโดยสารที่สัญจรไปมาชะลอความเร็วเพื่อลดแรงกระแทกของน้ำต่อบ้านเรือนชุมชนริมน้ำและแนวกระสอบทราย

"สถานการณ์น้ำที่นครสวรรค์ยังไม่นิ่ง น้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระรามหกยังไม่ลดขณะที่น้ำจากเขื่อนป่าสักก็ยังลงมามาก จึงยังกังวลอยู่ และต้องจับตาเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องตลอดเวลา" ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าว

โอกาสนี้ยังมี พ.ท.สุพจน์ บัวแก้ว หัวหน้าแผนกธุรการ โรงเรียนทหารพลาธิการ กรมพลาธิการทหารบก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดกับท่าน้ำบางโพ ได้นำผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย เข้าไปตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำถาวรซึ่ง กทม.สร้างไว้ แต่ปรากฏว่ามีรอยแตกร้าวชำรุดเนื่องจากฐานรากมีปัญหา ทำให้แนวคันกั้นน้ำเอียง และเกิดรอยแตกร้าว มีน้ำรั่วซึมเข้ามาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยในปีนี้ยังมีรอยร้าวเพิ่มอีก 2 จุด จึงหวั่นว่าหากคันกั้นน้ำเสียหาย จะทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนอย่างรวดเร็วเป็นบริเวณกว้าง เบื้องต้นทาง กทม.ได้ดำเนินการนำกระสอบทรายมาวางป้องกันไว้อีกชั้นหนึ่ง และจะดำเนินการซ่อมแซมในเดือนมกราคม 2555 ขณะที่ทางโรงเรียนได้จัดเวรยามตรวจตราเฝ้าระวัง

จากนั้น ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ เดินทางไปตรวจสอบการป้องกันน้ำท่วมบริเวณท่าน้ำเกียกกาย เขตดุสิต ซึ่งมีชุมชนตั้งอยู่ริมน้ำ พบว่าระดับน้ำเพิ่มขึ้น และอยู่ต่ำกว่าระดับแนวคันกั้นน้ำไม่ถึง 50 เซนติเมตร และมีน้ำเล็ดลอดเข้ามาบางส่วนซึ่งได้มีการวางแนวกระสอบทรายบังคับน้ำลงสู่ระบบระบายน้ำ.-สำนักข่าวไทย

 

B1

สถานการณ์น้ำล้น 9 เขื่อนใหญ่ วิกฤติแล้ว!

สภาพน้ำในเขื่อนทั่วประเทศ ขณะนี้มีน้ำเกินความจุที่กักเก็บจนล้นเขื่อนรวม 9 เขื่อนโดยเฉพาะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ น้ำเกินความจุเกือบ 280 ล้านลูกบากศ์เมตร




ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงานสภาพน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศ พบว่า ขณะนี้มีน้ำล้นเขื่อน 9 เขื่อน ประกอบด้วย เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ เกินความจุ 4 ล้านลูกบากศ์เมตร, เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร เกินความจุ 35 ล้านลูกบากศ์เมตร, เขื่อนน้ำพุง จังหวัดสกลนคร เกินความจุ 2 ล้านลูกบาศ์เมตร, เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เกินความจุ 83 ล้านลูกบากศ์เมตร,เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ เกินความจุ 35 ล้านลูกบากศ์เมตร

ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี พบว่า ขณะนี้มีน้ำเกินความจุมากที่สุด ที่ 278 ล้านลูกบากศ์เมตร ส่วนเขื่อนคลองสียัด จังหวัดฉะเชิงเทรา เกินความจุ 2 ล้านลูกบากศ์เมตร เขื่อนหนองปลาไหล จังหวัดระยอง เกินความจุ 7 ล้านลูกบากศ์เมตร และเขื่อนประแสร์ จังหวัดระยอง เกินความจุ 23 ล้านลูกบากศ์เมตร

 

B1

น้ำท่วมหมูตายยกฟาร์ม



ความคืบหน้าล่าสุดของฟาร์มหมูที่ตำบลโพธิ์เก้าต้น เจ้าของฟาร์มแจ้งว่า หมูที่ลอยคออยู่ในน้ำเหลืออีกไม่ถึง 30 ตัว และคาดว่าใกล้จะตายอีกหลายตัว
เจ้าของฟาร์มยังทำใจไม่ได้ หลังกระแสน้ำพัดเข้าท่วมบ้านจนรั้วปูนพัง ทั้งที่ได้นำกระสอบทรายกว่าพันกระสอบล้อมจนรอบบ้านสูงมิดหัวแต่ก็ไม่พ้นน้ำ โดยเฉพาะฟาร์มหมูที่เสียหายอย่างหนัก
หมู 200 กว่าตัวลอยคอมานานกว่า 4 วัน อยู่ในคอกขังเหล็กเล็กๆ ที่เจ้าของพยายามจะช่วยเหลือมันด้วยการดึงกลอนคอกขังออก แต่ก็จนปัญญา มันทยอยตายทุกวัน วันละ 50 ตัว
ที่เหลืออีก 20 ตัว ก็ร้องโหยหวน เพราะอยู่ในสภาพที่รอวันตายเช่นกัน บางตัวอ่อนแรงค่อยๆ นอนตะแคงตายต่อหน้าเจ้าของและทีมข่าว บางตัวก็พยายามกัดคอกขังเหล็ก เพื่อหาทางออกเอาชีวิตรอดอย่างน่าเวทนา

เฉพาะฟาร์มหมูพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีลูกหมูให้ครอบครัวนี้ได้ขายเดือนละไม่ต่ำกว่า 500 ตัว ยังไม่รวมบ่อปลาอีก 11 บ่อ ที่เพิ่งจมน้ำเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้ครอบครัวไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เรียกได้ว่าแทบจะหมดตัวไปกับฤดูน้ำหลากนี้

:'( น่าสงสารมากจริงๆ

 

B1

ชาวมหาสารคามเซ่นน้ำท่วมแล้ว1 น้ำชียังเพิ่ม-อ่างเก็บ 9 แห่งล้นทะลัก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2554 13:06 น.



มหาสารคาม-สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่งในจังหวัดมหาสารคาม มีปริมาณเก็บกัก เกินกว่า ร้อยละ 100 แล้ว 9 แห่ง ขณะนี้สถานการณ์น้ำในลำน้ำชียังคงเพิ่มสูงต่อเนื่อง ล่าสุดจังหวัดมหาสารคามประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมเพิ่มอีก 1 อำเภอ รวมเป็น 11 อำเภอ จากพื้นที่ทั้งหมด 13 อำเภอ และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย

นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดมหาสารคามมีฝนตกสะสมหนาแน่นในพื้นที่ ส่งผลให้น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 แห่ง มีปริมาณน้ำเก็บกัก โดยรวม 74.754 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 91.81 จากปริมาณน้ำเก็บกักทั้งหมดจำนวน 81.41 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยอ่างเก็บน้ำ 9 แห่งมีปริมาณน้ำเก็บกักเกินกว่า ร้อยละ 100

ขณะที่สถานการณ์ในแม่น้ำชีอยู่ในระดับวิกฤต ซึ่งยังคงต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากปีนี้ฝนที่ตกทั้งในพื้นที่ รวมถึงตอนบนและตอนล่างของลุ่มน้ำมากกว่าปีที่ผ่านมา

ล่าสุดสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชี จุดวัดระดับที่ฝายมหาสารคาม อ.โกสุมพิสัย ปริมาณน้ำเกินจุดวิกฤตอยู่ที่ 2.53 เมตร โดยมีน้ำปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,024 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้หลายพื้นที่มีน้ำเอ่อเข้าท่วมไร่นา และบ้านเรือนได้รับความเดือดร้อน จังหวัดมหาสารคามจึงได้ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมเพิ่มอีก 1 อำเภอ คือ ที่ อำเภอวาปีปทุม

รวมพื้นที่ประสบภัยน้ำพิบัติน้ำท่วม 11 อำเภอ จากพื้นที่รวมทั้งจังหวัด 13 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองมหาสารคาม กันทรวิชัย โกสุมพิสัย เชียงยืน กุดรัง บรบือ นาเชือก ชื่นชม พยัคฆภูมิพิสัย แกดำ และอำเภอวาปีปทุม รวม 11 อำเภอ 101 ตำบล 1,154 หมู่บ้าน 30 ชุมชน ราษฎรประสบภัยและได้รับความเดือดร้อน 185,401 คน 61,970 ครัวเรือนมี ผู้เสียชีวิต 2 ราย

ขณะที่พื้นที่การเกษตรเสียหาย 130,128 ไร่ บ่อปลา 1,000 ไร่ ถนน 127 สาย ทำนบ 10 แห่ง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

 

ฺB1

พิษณุโลกน้ำท่วมขังหลายจุดยังเฝ้าระวัง

ข่าวภูมิภาค วันศุกร์ที่ 30 เดือนกันยายน พ.ศ.2554 13:25 น.



น้ำท่วมพิษณุโลก ยังไม่คลี่คลาย กรมชลประทาน สั่งเฝ้าระวังอิทธิพล จาก "เนสาด" อาจทำให้เกิดฝนตกหนัก



สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพิษณุโลก ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำน่าน ได้ทรงตัวสูง ที่ระดับ 10.91 เมตร โดย นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ช่วง 1 - 2 วันนี้ คาดการณ์ว่า แม่น้ำน่าน เมืองพิษณุโลก อาจจะขึ้นสูง เกือบ 11 เมตร ซึ่งขณะนี้ได้มีการควบคุมบริหารน้ำ เพื่อไม่ให้เข้าท่วมย่านเศรษฐกิจ ด้วยการลดการระบายน้ำของเขื่อนแควน้อยลง และใช้เขื่อนนเรศวร ระบายน้ำน่านออกทาง ต.หนองแขม อ.พรหมพิราม ส่งผลให้บริเวณดังกล่าว มีน้ำท่วมในปริมาณที่สูงขึ้น บางแห่งท่วมถนน ทางเข้าหมู่บ้าน ประชาชนสัญจรไปมาลำบาก

ผู้อำนวยการชลประทาน จ.พิษณุโลก ยังกล่าวอีกว่า ระยะนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ โดยเฉพาะอิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่น เนสาด ที่กำลังเคลื่อนตัวสู่ประเทศเวียดนาม ว่าจะกระทบในเขตภาคเหนือตอนล่าง หรือไม่ สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม จังหวัดพิษณุโลก ขณะนี้ ยังมีจุดที่น้ำท่วมขังอยู่มาก โดยเฉพาะ ในเขต อ.บางระกำ นั้น น้ำยังท่วมขังวงกว้าง และไม่สามารถระบายน้ำได้ ส่วนที่ อ.บางกระทุ่ม ก็ประสบปัญหาน้ำที่ท่วมขัง ไม่สามารถระบายออกสู่แม่น้ำน่านได้เลย ทำให้ขณะนี้มีภาวะน้ำท่วมขัง ในเขตอำเภอบางกระทุ่มเป็นวงกว้าง
Link : พิษณุโลกน้ำท่วมขังหลายจุดยังเฝ้าระวัง

 

ฺB1

ปภ.สรุปน้ำท่วมตาย188ราย-ระวังถึง3ตค.



นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย หรือ ปภ. เปิดเผยสถานการณ์อุทกภัยล่าสุด มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 23 จังหวัด ได่แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ฉะเชิงเทรา นครนายก และปราจีนบุรี ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 591,592 ครัวเรือน 1,894,792 คน มีผู้เสียชีวิต 188 ราย สูญหาย 3 คน

ทั้งนี้ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือน ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม ริมแม่น้ำ 42 จังหวัด ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ในช่วงนี้ถึงวันที่ 3 ตุลาคมนี้

 

B1 - อยากได้สักหลัง

เผยแบบแปลน บ้านลอยน้ำ แนวคิดจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
4 hours ago



ราคาประมาณ 719,000 - 915,000 ยังแพงอยู่เนอะ หากมีการต่อยอดให้ราคาถูกกว่านี้คงจะดีมากสำหรับประชาชนทั่วไปครับ

 

ฺB1 - แนะนำ

แนะนำ 2

ลุยน้ำท่วมอย่างมีเทคนิค





ลุยน้ำท่วมอย่างมีเทคนิค (Lisa)

นอกจากเบื่อรถติดแล้ว ช่วงนี้หลายคนหงุดหงิดกับน้ำท่วมจากฝนที่ตกลงมาแทบทุกวันจนถนนมีน้ำขังสูง จะเลี่ยงใช้ทางอื่นก็ไม่ได้ แล้ววิธีใดล่ะ จะสามารถรับศึกหนักและยังถนอมรถที่รักของเราได้ Lisa มีข้อแนะนำดีๆ มาฝากเช่นเคยค่ะ

อันดับแรกต้องระวังน้ำเข้าท่อไอเสีย ให้ลองกะระดับน้ำคร่าวๆ กับความสูงของช่วงล่างว่าสามารถขับลุยได้มั้ย ถ้าเป็นรถเก๋งทั่วไปสามารถลุยน้ำได้สูงประมาณ 5-10 ซม. แต่ถ้าน้ำสูงกว่านั้นควรหลบไปใช้เส้นทางอื่นดีกว่าเสี่ยงให้รถดับกลางทาง

เมื่อรถเริ่มลุยน้ำ ให้ปิดแอร์รถยนต์เป็นอันดับแรก เพราะถ้าพัดลมแอร์ทำงานอยู่ มันจะพัดน้ำที่อยู่บนถนนกระจายไปทั่วห้องเครื่องทำให้เครื่องยนต์ดับได้ นอกจากนี้ควรระวังพวกขยะที่ลอยมากับน้ำจะเข้าไม่ติดมอเตอร์พัดลมหรือเกี่ยวใบพัดเสียหาย ทำให้ระบบระบายความร้อนในเครื่องยนต์พังได้เช่นกัน

อย่าเร่งเครื่องเพราะกลัวน้ำเข้าเครื่องแล้วเครื่องจะดับ ไม่เช่นนั้นคลื่นน้ำที่ถูกดันไปข้างหน้าอาจทะลักกลับมายังห้องเครื่องได้

ขับช้าๆ โดยใช้เกียร์ต่ำ หากรถเป็นเกียร์ออโต้ให้ใช้เกียร์ L แล้วพยายามเลี้ยงรอบให้นิ่งที่สุดประมาณ 1,500 รอบต่อนาที

เมื่อถึงที่หมายแล้วไม่ควรดับเครื่องยนต์ทันที จอดทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้น้ำที่อาจค้างอยู่ในหม้อพักไอเสียระเหยออกให้หมด จากนั้นให้ย้ำเบรก (สำหรับรถเกียร์ออโต้) เพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก และย้ำคลัตช์ (ในรถเกียร์ธรรมดา) เพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น

 

ฺB1 -

ขับรถลุยน้ำ ระวังก้านสูบคด

อ่านดูแล้วนึกไม่ค่อยออก ทำไมมันถึงคดได้ มันเกี่ยวกันกับน้ำอย่างไร บางท่านอาจจะทราบแล้ว บางท่านก็อาจจะยังไม่ทราบ ก็ขอเอามาบอกเล่าสู่กันฟัง

ไว้เพื่อป้องกันเมือขับรถลุยน้ำ ลึกขนาดไหนที่พึงควรระวัง

หมู่นี้น้ำล้นตลิ่ง ถนนหนทาง อยู่ใต้น้ำ ทางรถกลายเป็นทางเรือ และก็มีเจ้าของรถยนต์หลายท่าน เจอปัญหา

เวลาขับรถในท้องถนนที่มีน้ำท่วม ลึกบ้าง พอลุ้นได้บ้าง แต่ในเส้นทางย่างนั้นจะมีใครบ้างที่ทราบถึงอันตรายสำหรับเครื่องยนต์

อาจจะเคยชินกับคำว่าขับรถลุยน้ำแล้วเครื่องดับ ดับเพราะน้ำเข้าจานจ่าย

เข้าเบ้าหัวเทียน และระบบไฟจุดระเบิด อาการที่ว่านี้ นอกจากจะซ่อมแก้ไขได้ด้วยตนเอง และไม่เกิดการเสียหายอะไรกับตัวเครื่องยนต์

แต่นั้นเป็นเรื่องปรกติทั่วไป มีอีกแบบหนึ่งที่ไม่ธรรมดา เมื่อขับรถลุยน้ำที่ลึกระดับหัวเข่า หรือล้นเข้าพื้นรถ

ข้างใน ขอให้พึงระวังไว้ด้วยว่า กำลังจะมีงานเข้า เพราะอะไรถึงกล่าวอย่างนี้ ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆที่ห้องเครื่องยนต์ จะออกแบบเรื่องระบบหม้อกรองอากาศ

มีตัวช่วยท่อรับอากาศ เพื่อรับอากาศจากข้างหน้ารถยนต์ ซึ่งท่อนี้จะติดตั้งบริเวณซอกใกล้ช่องกระจังหน้ารถ และบริเวณโค้งซุ้มล้อรถด้านในห้องเครื่อง

ทั้งสองที่นี้ ช่องรับอากาศ ที่นำอากาศเข้าหม้อกรองอากาศ จะติดตั้งต่ำกว่าหม้อกรองอากาศ

ดังนั้นเมื่อนำรถขับลุยน้ำ โดยเฉพาะรถเก๋ง ไปตามถนนที่มีน้ำท่วมและค่อนข้างลึก ประเภทน้องๆหัวเข่า

เมื่อเวลาตกหลุมที่เราไม่ระวังและไม่ทราบว่ามีหลุม ที่อากาศที่ว่านี้อาจจะจุ่มลงในน้ำหรือน้ำเข้ามาในท่อรับอากาศ

ทำให้อากาศที่ปกติจะถูกดูดด้วยแรงดูดจากท่อไอดีผ่านลิ้นปีกผีเสื้อเข้าห้องสูบ กลับมีน้ำถูกดูดเข้าไปแทนอากาศ เนื่องจากช่วงเวลาที่เครื่องยนต์ทำงานในขณะนั้น

มีรอบเครื่องยนต์ต่ำ ทำให้เกิดแรงดูดจากท่อไอดีมากขึ้นกว่าปกติ (แรงดูดที่เกิดจากท่อไอดีหากรอบเครื่องยนต์ต่ำในรอบเดินเบา จะยิ่งมีแรงดูดมากกว่ารอบเครื่องยนต์ที่สูง)

มันจึงดูดน้ำผ่านใส้กรองอากาศได้อย่างรวดเร็วเข้าห้องสูบ กับในจังหวะเดียวกันนั้น กระบอกสูบที่อยู่ในจังหวะดูดและอัด ก็จะดูดเอาน้ำเข้ามาในกระบอกสูบ

เป็นจังหวะเดียวกันที่วาวล์ไอดีและไอเสียปิดและอยู่ในจังหวะอัด ความจริงช่วงเวลานี้กระบอกสูบที่มีน้ำเข้าไปแทนที่อากาศ จะไม่สามารถจุดระเบิดได้

น้ำที่ถูกดูดจากแรงดูดของท่อไอดี จะถูกดูดโดยลูกสูบที่ 2และ3 มากกว่าสูบที่ 1 และ 4 ทั้งนี้เพราะว่า น้ำที่เป็นของเหลวนี้ จะมีน้ำนัก ไม่เหมือนอากาศที่เบา

ดังนั้นสูบไหนที่ใกล้ท่อไอดีที่มีระยะสั้น มันก็จะมีแรงดูดเข้ามากกว่าสูบที่อยู่หัวและท้าย โดยมากจะเกิดขึ้นกับสูบที่ 2 และ 3

เนื่องจากเพลาข้อเหวี่ยง ที่ได้กำลังงานจากการทำงานของลูกสูบข้างเคียง ที่ไม่มีน้ำเข้าหรือมีส่วนน้อย ยังพอจุดระเบิดได้ ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์

ก็ยังทำให้ชุดแกนเพลาข้อเหวี่ยง หมุนและเกิดแรงเหวี่ยง ดันให้ก้านสูบ ของลูกสูบที่มีน้ำอยู่ด้านในกระบอกสูบ เคลื่อนที่สู่จุดศูนย์ตายบน น้ำที่อยู่ในลักษณะของเหลว

เมื่อถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่ในกระบอกสูบ มันไม่สามารถที่จะไหลถ่ายเทไปยังที่อื่นได้ เพราะไม่มีทางออก เมื่อมันถูกแรงดันจากลูกสูบ มันจึงเกิดแรงต้านการอัดดันของลูกสูบ

หลับตาคิดก็จะเห็นภาพและรู้ได้ทันที่ว่า จะต้องมีส่วนหนึ่งส่วนใดของลูกสูบเกิดความเสียหายทันที่ งั้นส่วนที่จะแตกหักคดงอ ย่อมเป็นชิ้นส่วนที่มีสภาพอ่อนกว่าชิ้นส่วนอื่น

ในที่นี้ก็คือก้านสูบ น้ำที่เข้าไปในห้องสูบหากมีปริมาตรมาก ย่อมทำให้ระยะที่ลูกสูบจะดันไปสู่ตำแหน่งจุดศูนย์ตายบน มีระยะทางห่างมาก เมื่อห่างมากก็จะยิ่งทำให้ก้านสูบคด

มากหรือหักทันที เพราะเพลาข้อเหวี่ยงจะต้องดันก้านสูบให้ดันลูกสูบให้ถึงตำแหน่ง TDC ถึงจะสุดแรงเหวี่ยงดันของเพลาข้อเหวี่ยงและกลับมาต่ำแหน่งเคลื่อนตัวลง

ดังนั้นเมื่อแกนเพลาข้อเหวี่ยงดันก้านสูบ แต่ลูกสูบไม่เคลื่อนที่ เพราะถูกแรงต้านของน้ำในกระบอกสูบ ผลออกมาก้านลูกสูบเป็นผู้ปราชัย หากน้ำในกระบอกสูบมีปริมาตรน้อย

ก้านสูบก็แค่คด หากมากก็จะหัก

แต่ในสภาวะจริงที่เกิดขึ้น น้ำที่เข้าไปในห้องสูบจะไม่มาก จึงทำใหเก้านสูบแค่คดเสียส่วนใหญ่ ก็เป็นที่ไปที่มาของก้านสูบคดเมื่อขับรถลุยน้ำ ที่มีระดับน้ำสูง……..srithanon

 

ฺB1

หวิดดับ!! ชายอังกฤษเมินคำเตือนลงเล่นน้ำ โดนฉลามขย้ำ

คลิป วีดีโอ คลิปวีดีโอ คลิปดารา วิดีโอ คลิปการ์ตูน คลิปรถ คลิปหนัง คลิปไทย คลิปฟรี คลิปvdo :Mtha



Mthai News : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายไมเคิล โคเฮน วัย 42 ปี ที่อาศัยอยู่ในเมืองเคปทาวน์ ประเทศอังกฤษ ได้ถูกฉลามเข้าทำร้ายระหว่างที่เขาดำน้ำอยู่นอกชายฝั่งของเมืองฟิชฮอก์

ทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้มีคำเตือน ให้ระมัดระวังภัยจากฉลาม หลังมีคนพบเห็นฉลามอย่างน้อย 3 ตัว ในบริเวณหาดแห่งนี้ แต่นายไมเคิล ไม่ได้ใส่ใจต่อคำเตือนดังกล่าว เขาได้ลงดำน้ำเหมือนที่เคยทำเป็นประจำ ก่อนถูกเจ้าฉลามร้ายเข้าจู่โจม

โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า สีของทะเลเป็นสีแดงหลังฉลามเข้าโจมตี ขาขวาของเขา ถูกฉลามกัดจนขาดตั้งแต่เหนือเข่าขึ้นมา ส่วนข้างซ้ายก็เป็นแผลฉกรรจ์ แต่โชคดีที่ยังมีคนเห็นและเข้าไปช่วยเหลือเขาขึ้นมาบนฝั่งได้

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดชายหาดทุกแห่งในย่านนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยปีที่แล้วก็มีคนถูกฉลามทำร้ายจนเสียชีวิตที่หาดแห่งนี้

Mthai News

 

เวียดนามตั้งรับเต็มที่ "เนสาด" ขึ้นฝั่งบ่ายนี้ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="40"> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">30 กันยายน 2554 13:30 น.</td> <td align="left" valign="middle">

Share

</td><td>
</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td>
</td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="650"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="650"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">
อาสา สมัครกาชาดและชาวประมงช่วยกันทอดสมอเรือในที่ปลอดภัยเตรียมพร้อมรับมือพายุ ไต้ฝุ่นเนสาดที่กำลังมุ่งหน้ามายังชายฝุ่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศใน วันนี้ ประชาชนหลายพันคนต้องหาที่หลบภัย หลังจากพายุลูกนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 43 คน ที่ฟิลิปปินส์. -- AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam. </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>
เอเอฟพี - ชาวเวียดนามหลายพันคนหาที่หลบภัย หลังพายุกำลังมุ่งหน้าเข้าถล่มชายฝั่งภาคเหนือของประเทศในวันนี้ (30 ก.ย.) หลังอิทธิพลของพายุทำให้มีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์แล้ว 43 คน และกำลังสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของจีนอยู่ในขณะนี้

รัฐบาลปักกิ่งออกคำเตือนภัยไต้ฝุ่นเป็นครั้งแรกของปี แม้ว่าไต้ฝุ่นเนสาดจะอ่อนกำลังลงลดระดับเป็นพายุโซนร้อนก็ตาม แต่ทำให้ประชาชนราว 300,000 คน บนเกาะไหหลำต้องอพยพหาที่ปลอดภัย

อิทธิพลของพายุส่งผลให้เกิดกระแสลมพายุรุนแรงและฝนตกหนักต่อเนื่องบน ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีนวันนี้ (30 ก.ย.) และกระแสลมแรงยังเข้าปะทะกรุงฮานอย ที่พยากรณ์อากาศระบุว่าพายุเนสาดจะเข้าถึงชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของ เวียดนามในช่วงบ่าย

"ตามการคาดการณ์ หลังจากพายุขึ้นฝั่งแล้ว ไต้ฝุ่นจะอ่อนกำลังลงแต่ยังคงมีกำลังแรงมากอยู่" นายบุ่ย มีนห์ ถั่ง ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติเวียดนาม ระบุ

สถานีวิทยุวอยซ์ออฟเวียดนามรายงานว่า ประชาชนประมาณ 5,000 คน บนเกาะนอกชายฝั่งเมืองท่าหายฟ่อง ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องอพยพหาที่หลบภัย และทางการมีคำสั่งให้เรือประมงกลับเข้าฝั่งและเรียกร้องให้เกษตรกรเก็บ เกี่ยวผลผลิตให้เร็วที่สุดเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากพายุเนสาด

ส่วนเกาะไหหลำ ทางการมีคำสั่งให้เรือมากกว่า 27,000 ลำกลับเข้าฝั่ง ระงับเที่ยวบินและเรือเฟอร์รี่ รวมทั้งหยุดการเรียนการสอน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

สื่อของทางการจีนรายงานว่า พายุสร้างความเสียหายอย่างมาก เฉพาะเมืองไหหลำแห่งเดียวคิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงมากกว่า 500 ล้านหยวน (78 ล้านดอลลาร์) ส่วนในฮ่องกง ทุกอย่างกลับมาดำเนินตามปกติ หลังจากอิทธิพลจากไต้ฝุ่นวานนี้ทำให้ต้องปิดเมือง และมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน จากกิ่งไม้และนั่งร้านที่หลุดลงมา

ในฟิลิปปินส์ ประชาชนหลายหมื่นคนต้องลอยคอในน้ำท่วมสูง หลังจากพายุเนสาดพัดผ่านเกาะลูซอน โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ระบุว่า ประชาชนเกือบ 1 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และไต้ฝุ่นนาลแก ที่ก่อตัวขึ้นอีกลูกนั้น คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วทั้งเกาะลูซอนตั้งแต่วันเสาร์นี้

ภัยน้ำท่วมสร้างความเสียหายในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ มีรายงานผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม 8 คน ในจังหวัดภาคใต้ของเวียดนาม และช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเกือบ 190 คน ในไทย รวมทั้งคร่าชีวิตชาวเขมรแล้วมากกว่า 100 คน.

 

ฺB1

รถไฟสายหนือหยุดวิ่ง เหตุน้ำท่วมหนัก



นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท. ) เปิดเผยว่า การรถไฟฯต้องประกาศงดการเดินขบวนรถไฟสายเหนือในช่วงเช้าวันนี้ต่อไปอีก หลังยังมีน้ำท่วมเส้นทางรถไฟช่วงสถานีลพบุรี ช่วงปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดเชียงใหม่



สำหรับขบวนรถที่ประกาศงดให้บริการมี ดังนี้

1. ขบวนรถธรรมดาที่ 212 (ตะพานหิน-กรุงเทพ) กำหนดออกเวลา 05.30 น.

2. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9,10 (กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ) กำหนดออกเวลา 08.30 น.,

3. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 3,4 (กรุงเทพ-สวรรคโลก) กำหนดออกเวลา 10.50 น.

4. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 11,12 (กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ) กำหนดออกเวลา 08.00 น.

5. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 1,2 (กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ) กำหนดออกเวลา 18.10 น.

6. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13,14 (กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ) กำหนดออกเวลา 19.35 น.

7. ขบวนรถเร็วที่ 105,106 (กรุงเทพ-ศิลาอาสน์-กรุงเทพ) กำหนดออกเวลา 19.50 น.

8. ขบวนรถเร็วที่ 107,108 (กรุงเทพ-เด่นชัย-กรุงเทพ) กำหนดออกเวลา 20.10 น.

9. ขบวนรถเร็วที่ 115,116 (กรุงเทพ-พิษณุโลก-กรุงเทพ) กำหนดออกเวลา 20.55 น.

10. ขบวนรถด่วนที่ 51 (กรุงเทพ-เชียงใหม่) กำหนดออกเวลา 22.00 น.

ทั้งนี้ ยังมีขบวนรถที่สามารถเดินรถในระยะสั้นระหว่างเมือง ได้แก่

1. ขบวนรถเร็วที่ 102 (เชียงใหม่-กรุงเทพ) กำหนดออกเวลา 06.45 น. เดินรถระหว่างสถานีเชียงใหม่-ชุมแสง

2. ขบวนรถเร็วที่ 111/112 (กรุงเทพ-เด่นชัย-กรุงเทพ) กำหนดออกเวลา 07.00 น. เดินรถระหว่างสถานีเชียงใหม่-ชุมแสง-เชียงใหม่

3. ขบวนรถเร็วที่ 109 (กรุงเทพ-เชียงใหม่) กำหนดออกเวลา 14.30 น. เดินรถได้เชียงใหม่-ชุมแสง

และ ขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร กรุงเทพ-ลพบุรี กำหนดออกเวลา 20.10 น. เดินถึงลพบุรี

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางได้ ติดต่อขอรับเงินในราคาเต็มได้ที่นายสถานีรถไฟทุกแห่ง หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1690

 

ฺB1 - ohhh... :boo: มันแปรปรวนสุดขั้วจริงๆ

อากาศวิปริต!! จีนหนาวฉับพลันหลังมวลอากาศเย็นมาเร็วเกินคาด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2554 12:57 น



สภาพอากาศในจีนแปรปรวนเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน

โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เปลี่ยนจากฤดูใบไม้ผลิ มาเป็นฤดูหนาว ในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน

ทำให้หิมะตกโปรยปรายไปทั่ว ซึ่งเป็นผลจากมวลอากาศเย็นที่มาเร็วเกินคาด ส่งผลให้อุณหภูมิลดต่ำถึง 8 องศาเซลเซียส




An early snowfall hits Zalantun, Hulunbuir city in North China's Inner Mongolia autonomous
region, Sept 28, 2011. A strong cold front hit the northern part of China, bringing lower
temperatures and rain to some provinces. It even brought snow to some parts of Inner
Mongolia and Northeast China's Heilongjiang province.[Photo/Xinhua]



A car is covered by a layer of snow in Bei'an city, Northeast China's Heilongjiang
province, Sept 29, 2011. [Photo/Xinhua]



A car is covered by a layer of snow in Bei'an city, Northeast China's Heilongjiang
province, Sept 29, 2011. [Photo/Xinhua]




Snow comes down in Hulunbuir city of North China's Inner Mongolia autonomous region, Sept
28, 2011. [Photo/Xinhua]



Tourists take photos of a snow-covered forest in the Mordaga National Forest Park in the
Greater Hinggan Mountains area of North China's Inner Mongolia autonomous region, Sept 27,
2011. [Photo/Xinhua]




People are wearing coats in Harbin city, capital of Northeast China's Heilongjiang
province, Sept 29, 2011. A strong cold front hit the northern part of China, bringing
lower temperatures and rain to some provinces. Heilongjiang province issued a cold front
blue alert on Wednesday, as the temperature was expected to plunge 4 to 8 degrees in the
next 48 hours. [Photo/Xinhua]



People are wearing coats in Harbin city, capital of Northeast China's Heilongjiang
province, Sept 29, 2011. A strong cold front hit the northern part of China, bringing
lower temperatures and rain to some provinces. Heilongjiang province issued a cold front
blue alert on Wednesday, as the temperature was expected to plunge 4 to 8 degrees in the
next 48 hours. [Photo/Xinhua]

 

B1

ระนองขอ 400 ล. สร้างประตูกั้นน้ำ รับมือน้ำทะเลหนุนท่วมชุมชน

30 กย. 2554 13:45 น.


นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าจากวิกฤติปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงเข้าท่วมหลายชุมชนชายฝั่งในเขตพื้นที่ อ.เมืองระนอง และชุมชนในเขตพื้นที่เกาะ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาที่สร้างความวิตกให้กับประชาชนเนื่องจากพบว่าระดับน้ำทะเลมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น
“จากการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่ามีวิธีการเดียวที่จะสามารถรับมือกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูงเข้าท่วมชุมชนชายฝั่งได้คือการสร้างประตูปิด-เปิดน้ำ บริเวณปากอ่าวระนอง น่าจะเป็นทางออกที่ตรงจุดมากที่สุด โดยจากการศึกษาในเบื้องต้นพบว่าจะต้องใช้งบประมาณดำเนินการก่อสร้างประมาณ 400 ล้านบาท โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้คือกรมชลประทาน ซึ่งทางตนจะได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับหน่วยงานกรมชลประทาน เพื่อทำการศึกษา เขียนโครงการ และของบประมาณต่อไป” นายวันชาติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนท่วมสูงชุมชนชายฝั่ง และชุมชนในพื้นที่เกาะ ปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในเขตพื้นที่ชายฝั่ง จ.ระนอง ที่พบว่ามีความผิดปกติเมื่อมีน้ำทะเลหนุนสูงมักจะเอ่อท่วมชุมชนชายฝั่งจนสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน และสร้างความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน จนสร้างความวิตกให้กับประชาชน และชุมชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ชายฝั่งทะเล ซึ่งมีมากว่า 5,000 ครัวเรือน
นางรุ่ง กันทะไชย ชาวบ้านชุมชนชายฝั่งบริเวณบ้านปากคลอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง กล่าวว่า ตนเริ่มวิตกกับปริมาณน้ำทะเลที่เพิ่มระดับมากยิ่งขึ้น กำลังเตรียมที่จะปรึกษากับสามีถึงการย้ายออกจากพื้นที่ หากน้ำทะเลยังจะหนุนสูงเช่นนี้อีก
นายเคียง แก้วมีสี อายุ 75 ปี ชาวบ้านชุมชนซอยสามัคคี ม.5 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเล กล่าวว่า ปัญหาน้ำทะเลหนุนได้สร้างความวิตกให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก บางคนเริ่มคิดที่จะอพยพออกจากพื้นที่ เพราะขณะนี้แทบทุกครั้งที่มีน้ำขึ้นส่วนใหญ่จะขึ้นสูงเข้ามาท่วมชุมชนแทบทุกครั้ง โดยในช่วงเวลากลางคืนน้ำจะขึ้นสูงกว่ากลางวันเกือบเท่าตัว และทุกครั้งระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ชาวบ้านเริ่มวิตกเป็นอย่างมาก


เตือนลพบุรี-อยุธยารับมือน้ำสูง

30 กันยายน 2554 เวลา 13:59 น.

กรมชลฯเตือนลพบุรี-อยุธยาเตรียมรับมือระดับน้ำสูงขึ้นอีก 3-4 ต.ค.นี้ เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมประตูน้ำบางโฉมศรี

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน แจ้งว่า จากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำส่วนหนึ่งไหลหลากลงสู่พื้นที่ลุ่มต่ำในเขตจังหวัดลพบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำตอนบนฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาจรดคันคลองชัยนาท-ป่าสัก ตั้งแต่อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ถึงอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ขณะนี้มีปริมาณน้ำเต็มพื้นที่แล้ว ซึ่งปริมาณน้ำส่วนหนึ่งเริ่มไหลข้ามถนนสายสิงห์บุรี-ลพบุรี และไหลผ่านประตูระบายน้ำวัดมณีชลขัณฑ์เข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำตอนล่างฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาจรดคันคลองชัยนาทป่าสัก ตั้งแต่อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ถึงอำเภอท่าเรือ และอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น

ลักษณะดังกล่าว จะทำให้ระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณตอนบน ได้แก่ ทุ่งท่าวุ้ง ทุ่งบางขาม มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 20 - 30 เซนติเมตร ส่วนระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำตอนล่าง คือ ทุ่งมหาราช ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี อำเภอหนองโดน อำเภอบ้านหมอ และอำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี, ทุ่งภูเขาทอง – บางปะหัน ในเขตอำเภอมหาราช อำเภอบางปะหัน อำเภอบ้านแพรก อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอท่าเรือ และอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นวันละประมาณ 40 – 50 เซนติเมตร

ทั้งนี้ คาดว่าระดับน้ำจะสูงสุดในช่วงวันที่ 3 – 4 ตุลาคม 2554 โดยมีความลึกเฉลี่ยของน้ำในทุ่งประมาณ 2 เมตร ส่วนในพื้นที่ลุ่มต่ำมากๆ อาจมีระดับน้ำลึกสูงสุดประมาณ 3 - 4 เมตร และจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ที่สถานี S.5 อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะมีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งประมาณ 50 – 70 เซนติเมตร

ดังนั้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ในเขตจังหวัดสระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมการป้องกันและขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นบนที่สูงหรือที่ปลอดภัยจากน้ำท่วม พร้อมทั้งขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาด้วย

เร่งซ่อมประตูน้ำบางโฉมศรี

ด้านนายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้ลงพื้นที่ไปติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรมชลประทานที่ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมการทหารช่าง ในการเร่งซ่อมแซมคันขาดบริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยในเขตจังหวัดลพบุรี โดยคาดว่าจะสามารถลดและชะลอปริมาณน้ำที่จะไหลหลากลงสู่จังหวัดลพบุรีได้ในระดับหนึ่ง และคาดว่าภายใน 1 สัปดาห์นี้ จะมองเห็นผลความก้าวหน้าในการดำเนินการดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม

กรมชลประทานชี้แจงว่าในข้างต้นเมื่อขณะเกิดเหตุคันขาดบริเวณปตร.บางโฉมศรี นั้น ระดับน้ำในด้านแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทะลักล้นข้ามคันขาด มีความต่างกับระดับน้ำในคลองบางโฉมศรี มาถึง 5 เมตร ทำให้น้ำไหลเชี่ยวแรงมาก หากเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการซ่อมแซมในทันที เท่ากับว่ากรมชลประทาน ส่งเจ้าหน้าที่หลายชีวิตเข้าไปเสี่ยงชีวิตค่อนข้างสูงมาก เพราะโอกาสที่จะดำเนินการซ่อมแซมให้สำเร็จในภาวะที่น้ำไหลเชี่ยวแรงเป็นอย่างมากนั้นไม่มีเลย แต่ในขณะนี้เมื่อโอกาสที่เหมาะสมได้มาถึงแล้ว ระดับของความอันตรายได้ลดน้อยลงแล้ว กรมชลประทาน จึงได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมการทหารช่าง เข้ามาช่วยดำเนินการเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของทีมงาน ความรวดเร็วในการทำงาน และเพื่อให้การปฏิบัติงานในภารกิจซ่อมแซมปตร.บางโฉมศรีในครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

 

B1

พม่ายกเลิกโครงการสร้างเขื่อนหลังมีเสียงคัดค้าน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2554 14:15 น.



นางอองซานซูจี ยืนถ่ายภาพข้างโปสเตอร์รณรงค์คัดค้านการสร้างเขื่อนมิตโสน บนแม่น้ำอิรวดี ที่เป็นแม่น้ำสายหลักของพม่า รัฐบาลพม่าประกาศยุติโครงการก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้ที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนหลังมีเสียงคัดค้าน. --AFP PHOTO/Soe Than Win.

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ของทางการพม่าเปิดเผยวันนี้ (30 ก.ย.) ว่า รัฐบาลพม่าระงับโครงการสร้างเขื่อนไฟฟ้าบนแม่น้ำอิรวดีมูลค่า 3,600 ล้านดอลลาร์ หลังสาธารณชนคัดค้าน

เสียงคัดค้านการสร้างเขื่อนมีขึ้น ขณะที่นักเคลื่อนไหวรณรงค์สิ่งแวดล้อมและผู้สนับสนุนประชาธิปไตยทดสอบข้อจำกัดด้านเสรีภาพภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดใหม่ ที่ปกครองโดยอดีตนายทหารหลายคน

ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง กล่าวกับสมาชิกสภาในกรุงเนปีดอว่า โครงการก่อสร้างเขื่อนมิตโสน ที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน ในรัฐกะฉิ่น ทางภาคเหนือนั้น จะไม่มีการดำเนินขึ้นในระหว่างการบริหารของรัฐบาลชุดนี้

"ประธานาธิบดีตัดสินใจที่จะยุติโครงการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าเพราะรัฐบาลชุดนี้ได้รับเลือกมาจากประชาชน และรัฐบาลต้องเคารพความประสงค์ของประชาชน" เจ้าหน้าที่รัฐนายหนึ่ง กล่าว

นักสิ่งแวดล้อมเตือนว่า โครงการเขื่อนแห่งนี้จะทำให้หมู่บ้านหลายสิบแห่งต้องจมน้ำ ประชาชนต้องอพยพออกจากที่อยู่อย่างน้อย 10,000 คน และสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วย

สำหรับประชาชนในรัฐกะฉิ่น เขื่อนมิตโสนเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ที่พวกเขาต้องเผชิญมาเป็นเวลาหลายสิบปี

เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมชายผู้หนึ่งที่ประท้วงเดี่ยวต่อต้านการก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้ด้านนอกอาคารสถานทูตจีนในกรุงย่างกุ้ง และไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสกัดการเดินขบวนของประชาชนที่เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองและเรียกร้องยุติโครงการก่อสร้างเขื่อนมิตโสน ที่คาดว่าไฟฟ้าที่ผลิตได้จากเขื่อนแห่งนี้จะถูกส่งไปจีน แต่ไม่มีการจับกุมผู้ชุมนุมแต่อย่างใด

"สำหรับข้อตกลงที่ทำไว้กับบริษัทของจีนนั้น ทั้งสองฝ่ายจะหารือบนพื้นฐานด้วยไมตรีจิต" เจ้าหน้าที่พม่า กล่าว.