การนุ่งสั้นโชว์ขาอ่อนของผู้หญิงสมัยนี้เป็นบาปหรือไม่ ?

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต (ผู้หญิงญี่ปุ่นในภาพถูกผู้ไม่หวังดีลวนลามในที่สาธารณะ)​

ส่วนตัวผมคิดว่าบาปบ้างนะเพราะเป็นการแต่งเพื่อให้ดึงดูดเพศตรงข้ามในเชิงยั่วยุตัณหาราคะ

ซึ่งปัจจุบันมีเยอะมาก จนผมไม่กล้าตั้งหัวข้อว่า 'แต่งกายไม่เหมาะสม' เพราะสังคมปัจจุบันแต่งกันทั้งเมืองจนกลายเป็นเรื่องเหมาะสมไปแล้ว แฟชั่นที่ว่านี้ก็คือเกงยีนต์ขาสั้นที่สั้นจนเหมือนไม่มีขากางเกงกับเสื้อสายเดี่ยว ไม่ว่าจะไปภาคไหน จังหวัดก็จะเจอชุดสไตล์นี้อยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง ตั้งแต่นางเอกในละครยันคนในชีวิตจริงก็แต่งแบบนี้

ส่วนคนที่ไม่มีชุดหรือไม่ใส่ชุดสไตล์นี้ก็จะถูกมอง(จากผู้หญิงด้วยกัน) ว่าเป็นคนเชย หลงยุค เฉิ่ม มีตำหนิที่น่อง ที่นม ฯลฯ

สำหรับผมมักจะคอยเตือนน้องสาวบ่อยๆ ให้แต่งให้เรียบร้อยหน่อยอย่าตามเพื่อนนัก คือไม่ต้องเรียบร้อยแบบกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวหรอก แต่อย่าให้มันหวือหวาเกินไปก็พอเช่นกางเกงยาวเกือบถึงหัวเข่าหน่อย เสื้อก็เป็นเสื้อยืดหรืออย่างอื่นซะ ในสายตาผมก็ว่าน่ารักดี แต่เด็กมันจะเข้ากับเพื่อนไม่ค่อยได้เพราะเพื่อนนุ่งยีนต์สั้นติดขาหนีบกันทั้งนั้น เฮ้อ กลุ้มใจเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะทำไงดี

 

ระหว่างสายเดี่ยวเกาะอกสมัยนี้ กับผ้าแพรพันรอบอกสมัยคุณยาย ต่างกันตรงไหนล่ะ...ก็ต่างกันแค่มุมมองของคนมอง

ถ้าคุณเจอคุณยายโนบรา นั่งตำหมาก(มีเกลื่อน) คุณจะรับได้มั้ย

ผมเป็นคนหนึ่งที่ดูคลิปสงกรานต์สีลมมาแล้ว

และแนะนอน ผมไม่พลาดที่จะดูหน้าเว็บของกระทรวงวัฒนธรรมในช่วงเวลาเดียวกัน
ซึ่งถามว่ามันคืออนาจารหรือเปล่า มันก็อนาจารเต็มๆ แต่ไปมองว่ามันคือศิลปะแทน แล้วโยนคำว่าอนาจารให้เด็กรับบาปแทน(แล้วก็รีบเปลี่ยนรูปหน้าเว็บ เรื่องก็เงียบ)

เอวัง

 

คำทำนายพุทธพยากรณ์พระพุทธเจ้า

2. ทรงฝันว่า ต้นไม้เล็กๆ และกอไผ่ที่โตเพียงคืบบ้าง ศอกบ้าง ก็ออกดอกออกผลแล้ว - พระพุทธองค์ทรงทำนายว่า ต่อไปเมื่อโลกเสื่อม มนุษย์แม้จะมีอายุเยาว์ มีวัยยังไม่สมบูรณ์ก็จะมีราคะกล้า และสมสู่กันตั้งแต่อายุยังน้อย และจะมีลูกแต่เด็กๆ เหมือนต้นไม้เล็กๆ แต่ก็มีผลแล้ว

7.ทรงฝันว่า มีชายคนหนึ่งนั่งฟั่นเชือก แล้วหย่อนไปในที่ใกล้เท้า แม่หมาจิ้งจอกโซตัวหนึ่ง นอนอยู่ใต้ตั่งที่บุรุษนั้นนั่งอยู่ แล้วก็กัดกินเชือกนั้น โดยที่เขาไม่รู้ตัว - ทรงทำนายว่า ในกาลข้างหน้า ผู้หญิงจะเหลาะแหละ โลเล ลุ่มหลงในสุรา เอาแต่แต่งตัว เที่ยวเตร่ ประพฤติทุศีล แล้วก็จะเอาทรัพย์ที่สามีหาได้ด้วยความลำบากไปใช้ หรือให้ชายชู้ เหมือนนางหมาโซที่นอนใต้ตั่ง คอยกัดกินเชือกที่เขาฟั่น และหย่อนลงไว้ใกล้เท้า

เหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า มาตุคามเป็นอันตรายต่อการประพฤติพรหรรมจรรย์

 

ยายกับสาววัยรุ่นเปรียบกันไม่ได้ครับ

รุ่นยายเค้ารู้ดีว่าเนื้อหนังเหี่ยวยานหมดแล้วใส่ไปก็ไม่มีใครคิดพิสวาสอยู่เเล้ว

เจตนาจึงคนละเรื่องกัน รุ่นยายเค้าใส่เพราะสบาย ปลอดโปร่ง ประมาณนั้น

สมมุติยายอายุ 80 นุ่งผ้าถุงกระอก หรือผ้าถุงใส่เสื้อคอกระเช้าไม่ใส่เสื้อชั้นในไปเดินตลาดนัดกับเด็กสาวนุ่งแบบนั้นอันไหนจะแย่กว่ากันล่ะ

จะเราจะเปรียบเทียบไม่ได้ถ้าอายุต่างกัน ไม่เช่นนั้นแล้วเราก็อาจพูดได้ว่าสมัยเด็กๆเรายังไม่นุ่งอะไรได้เลย แก้ผ้าเดินไปเดินมา เเล้วตอนนี้นุ่งแบบนี้จะทำไม

 

น่าจะต่างกันที่กิเลสของคนมอง ดูอย่างละครทวิภพที่จบไป คนสมัยก่อนทั้งสาวและแก่ก็พันผ้าแถบ ห่มสไบ กันทั้งนั้น แต่เมื่อเราลืมวัฒนธรรมของเราหันไปนุ่งแบบต่างชาติ มันเลยทำให้เหมือนกับว่าเรารับไม่ได้กับแบบนี้ และกิเลสของคนมันก็มากขึ้นด้วย มองแล้วก็คิดว่าโป๊ ว่ายั่ว ถ้าเรายังใส่แบบเดิมเหมือน ลาว พม่า เวียดนาม เรื่อง สั้น เรื่องโป๊ะ เรื่องรัดรูปคงไม่เกิด แล้วเราจะโทษอะไรดี ถ้าไม่โทษที่เราลืมวัฒนธรรมของเราเอง

 

มันขึ้นกับเจตนาด้วยนะครับ อย่างสมัยก่อนในยุโรปผู้หญิงแต่งกายปิดมิดชิดมากบาง
ทีเท้าโผล่ให้เห็นก็ทำให้คนเกิดอารมณ์ได้แล้ว กลับกันสมัยยุคหินคนเดินเปลือยแต่
ไม่มีเจตนาทำให้ผู้อื่นเกิด ราคะ โทสะ โมหะ ก็คงมีโทษไม่หนัก ส่วนคนที่ชอบ
เปลือยกายในที่สาธารณะลองหาที่หลวงปู่คำคะนิงว่าไว้ว่าท่านไปเห็นนรกขุมนี้
มาแล้ว

 

อย่าเลย ความเหมาะสมและเหมาะสมอยู่ที่ใจ คนมันให้ค่านิยมกันเองกันเองนี่นา คนเหล่านั้น มีอคติ ทิฏฐิ ไม่ต้องเตือนไม่ต้องอะไรทั้งนั้น แต่งตามสะตายตัวเองละกัน

 

ผมไม่ชอบผู้หญิงแต่งตัวโป๊ฮะ.. ผู้หญิงควรจะอยู่ให้เหมาะสม ที่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง แต่อย่างว่าล่ะครับ ของแบบนี้ ก็อยู่ที่ภพภูมิที่มาด้วย พูดยากจริงๆฮะ

 

เวลาผมมองผู้หญิงผมไม่มองที่ลักษณะการแต่งตัวครับ แต่ผมมองที่ใจ^^

 

มันเป็นกระแส แฟชั่น หรือค่านิยม อะไรทำนองนั้นอ่ะ
แล้วแต่มุมมอง ถ้าทำตามสมควรก็ดูน่ารักดี อย่าให้ดูน่าเกลียดเกินไป
เพราะมันก็เป็นภัยแก่ตัวเอง ถ้าเป็นลูกหลานก็คงต้องเตือนบ้าง
อยู่ที่ความเคยชินด้วยถ้าเห็นบ่อยๆ ก็ดูเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว

 

นับว่าเป็นผู้ชายที่หาได้ยากยิ่งนะคะ
เพราะส่วนใหญ่แล้ว เราก็จะมองกันที่ภายนอกก่อน
เช่น รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ
การแต่งกาย(แต่งกายถูกกาลเทศะหรือเปล่า สวยงามเหมาะสมกับเจ้าตัวหรือเปล่า ความประณีต ความสะอาด ความสุภาพ ฯลฯ)
ต่อมาค่อยฟังการพูดการจา แล้วพอคบหาสมาคมค่อยดูที่ใจ

 

ผมคิดซะว่า ภายนอกไม่ใช่รูปลักษณ์ที่แท้จริง มองไปก็ไม่เกิดประโยชน์ จิตใจสิของจริง ต้องได้พูดคุย ต้องได้ ดูการกระทำของเค้า เราถึงจะรู้ว่าเค้าเป็นคนยังไง

 

อีกอย่างผู้หญิงสมัยก่อนก็ไม่ได้แต่งตัวมิดชิดมากนะครับ ตามหลักความเป็นจริงแล้ว มันไม่มีอะไรหรอกครับแต่คนเราชอบคิดไปเองว่า มัน ดียังนี้ไม่ดีอย่างนู้นเราลองมองเป็นเรื่องธรรมดาสิ แล้วเราจะไม่คิดอะไร เราจะรู้สึกเฉยๆ

 

บาปครับ ไม่ต้องสงสัย ทำไมน่ะเหรอ เพราะสาวๆเหล่านี้ แต่งไปเพราะความที่ "ติดในรูปลักษณ์" ที่หมดจดงดงาม เรียวขาที่ขาวสะพรั่ง ทรวงอกที่เนินนูนเข้ารูป สะโพกที่ยักย้ายอ่อนช้อย คือสิ่งที่ดึงดูด "ตัณหา และ ราคะ" ได้เป็นอย่างดี คนสมัยก่อนแม้จะใส่น้อยห่มน้อย แต่ช่วงขาก็ยังปิดมิดชิด ผ้าถุงยาวเลยหัวเข่า ส่วนหน้าอกนั้นมันไม่เท่าไหร่ เห็นวับๆแวมๆกันมาแต่โบราณ จนผู้คนเฉยชาต่อทรวงอกยานๆ หัวดำๆนั้นเสียแล้ว แต่กับสาวๆวัยรุ่น (สมัยใหม่) มีสักกี่คนที่คิดแบบนั้นกันครับ แต่ก็ต้องระวังด้วยนะครับ สหายธรรมที่เป็นท่านชายทั้งหลาย หากอยากจะศึกษา หรือเดินทางธรรม ก็ไม่ควรไปลุ่มหลงว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของสวยงาม เป็นอะไรที่น่าลิ้มลอง ต้องวางจิตให้อุเบกขาให้ได้ ไม่งั้นติดแน่ครับ แล้วบอกได้เลยว่าหลุดยาก เรื่องเนื้อหนังมังสาของสาวๆ เป็นอะไรที่น่าพิศวาสลิ้มลอง แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นบททดสอบถึงความแข็งแกร่งของภาวะจิตนะครับ ^^

 

พอเราไปจ้องมองก็หาว่าเราบ้ากาม โรคจิต
แล้ว...ใส่มาเพื่ออะไรถ้าไม่ให้คนอื่นมอง เนอะ (ping)

 

ผมว่ามันอยู่ที่เจตนาและการแสดงออกนะครับ คือเจตนาคนสมัยก่อนเขาใส่แบบนั้นเพราะบ้านเรามันอากาศร้อนเหมือนที่ผู้ชายสมัยก่อนเขาไม่ใส่เสื้อกันแต่ผู้หญิงทำแบบนั้นไม่ได้ และผู้หญิงไทยสมัยก่อนเขาเดินเหินหรือแสดงกริยาอาการก็มีความระมัดระวังตัวดีสมกับเป็นกุลสตรีไทย ที่นี้ลองมาดูหญิงไทยปัจจุบันบ้าง ลองพิจารณาดูว่าเขาแต่งแบบนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อะไรและการแสดงกริยาอาการมีความสำรวมมัย การแต่งกายเราไปเอาวัฒนธรรมตะวันตกมาแต่ไม่ได้พิจารณาถึงรากทางความคิดและประเพณีอันดีงามของไทยเรา ผลที่ออกมามันจึงเป็นแบบทุกวันนี้ครับ

 

อย่ายอมแพ้ค่ะ ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย
นุ่งผ้าขะม้าโชว์มั่งสิคะ เป็นสีสันของโลก ลมก็เย็นดีด้วย

๕๕๕

ห้ามยากน่ะค่ะ เรื่องนุ่งสั้นสายเดี่ยว
ใส่ไปห้าง ไปเที่ยว ทะเล ก็พอเข้าใจ
แต่ที่เค้าใส่ไปวัดนี่ซี้ ก้มกราบพระที เห็นร่องตูดดำ จำเริญตา

ไปเตือน ประเดี๊ยวย้อน ว่าเราแก่ ให้คนเตือนปมด้อยเกิดอีกน่ะ

วิธีแก้ใขจัดการมีดังต่อไปนี้

๑
ที่ใส่ไปเรียนก็ทั้งรัดทั้งสั้น ห้ามไม่ฟัง ต้องเปิดเร่งแอร์ ซูเปอร์ขั้วโลกเหนือเข้าใส่
เลิกคลาสทีหนึ่ง ให้แม่นางตะพ้านกินไปเลย
๑
ให้กระทรวงสาธารณสุข ออกข่าวเตือน ยุง เห็บ หมัด กัด หน้าแข้งโคนขา ระบาด หนัก พาหะนำ โรค ไข้สารพัด ก็ว่ากันไป

๑
ที่วัด หลายวัด เค้าให้ยืมผ้าถุงกับผ้าคลุมใหล่ ก่อนเข้า เขตวัด ก็ดีเยี่ยมแล้วค่ะ

แต่แต่งแบบสตรีมุสลิม ที่เห็นแต่ลูกกะตา มันก็ร้อนไปนะ

เมืองไทย ถึงสมัยก่อนคุณย่าคุณยาย จะปล่อยนมยานสยายพาดพุง ยามหน้าร้อนแล้งไรไปมั้ง แต่เข้าวัด เค้าก็ใส่เสื้อแสงพร้อมสะใบทับนา

จากอดีตเด็กที่เคย ถูก ย่า เอานมยานยัดปาก เวลา ป่วน

 

เห็นด้วยครับ อยู่ที่เจตนาล้วนๆ ใส่เพราะร้อนก็อีกเรื่องหนึ่ง ใส่เพราะแฟชั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่แน่ๆใส่เพื่อให้ดึงดูดเพศตรงข้าม อยากให้ผู้ชายมองเยอะเเล้วภูมิใจในเสน่ห์ของตัวเองนี่มีไม่น้อยเลย ซึ่งถ้าจะบาแคนกรณีหลังนี่แหละบาป แต่อาจไม่มากมายนัก เคยอ่านในหนังสือธรรมะเล่มหนึ่งเขาบอกว่าคนเช่นนี้พอเกิดใหม่มักจะไม่สวย แต่ถ้าสวยก็ไม่มีเสน่ห์ คือไม่ดึงดูดสายตาใคร หรือถ้าดึงดูดคนเข้ามา คนเข้ามามักจะมีความต้องการเสพกามอย่างเดียว ไม่รู้จริงไหม

 

เพราะการแต่งกายมันพอแสดงนิสัย บุคลิกของคนๆนั้นได้ไงครับ ผมว่าเค้ามองที่การแต่งกายเป็นการมองที่ฉลาดแล้ว หากมองที่ร่างกายนู่นถึงจะไม่ฉลาด

ยกตัวอย่าง สมมุติใครแต่งตัวนุ่งสั้นจู๋ เอวลอยโชว์สะดือ ก้มทีร่องตูดโผล่ เราคงจะมองว่าเป็นคนเรียบร้อย ใสซื่อ บริสุทธิ์ รักนวลสงวนตัว ก็คงไม่ใช่ ยิ่งถ้าสักยันต์บริเวณบ่าด้วยแล้วอาจบอกได้ถึงไปถึงอาชีพเลยก็ได้

เพราะฉะนั้นผู้หญิงคนนั้นมีนิสัยยังไง การแต่งตัวก็พอบ่งชี้ได้ครับ และถ้าผู้ชายอยากเลือกผู้หญิงดีๆซักคน ในกรณีที่ยังไม่รู้จักบ้าน ไม่รู้ประวัติ เบื้องต้นที่พอจะดูได้ว่าเป็นคนยังไงก็การแต่งตัวนี่แหละ

 

ผมชอบนะเห็นสาวๆแต่งสั้นๆ แต่ก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกะเค้า พอเห็นบ่อย มันชินไปแล้ว

ปัญหา คือถ้าเกิดว่านุ่งสั้นๆแบบนั้นแล้วมาอยู่ใกล้ผม และ ก็อยู่กันสองต่อสอง นี่ผมเตลิดแน่นอนครับ (ผมคิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน)

วิธีแก้ปัญหาของผมคือ ไม่ยอมอยู่กับผู้หญิงพวกนี้เพียงสองคนเพียงลำพัง เพราะ(กลัวใจตัวเอง) ยิ่งต้องอยู่ในห้องด้วยกันสองต่อสอง ต้องหาข้ออ้างออกไปข้างนอก หรือมีธุระอะไรสักอย่าง ไม่งั้นไม่รอดแน่

จริงๆผู้หญิงใส่อยู่กับเพื่อน(สาว) หรืออยู่บ้านมันไม่มีปัญหาหรอก แต่อยู่กับเพื่อนชาย นี่ปัญหาเกิดแน่นอน