WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

สนามรัชมังคลาฯ

โดย: สเตตัส!!,,,โดนใจ [แรงส์]

 

ระดับน้ำคลองแสนแสบที่ตลาดหนองจอก เวลาประมาณ 13:00 น ขณะนี้กำลังเร่งระบายไปทางลาดกระบังอยู่คะ

โดย: Arunee ILamun

 

ท่าน้ำนนท์ 15.00น. น้ำท่วมบริเวณลานนั่งเล่น มีการกั้นกระสอบทราย2ชั้น

ลงมาที่ถนนอีกชั้น ร้านค้า 2 ข้างทางมีการวางกระสอบทราย และก่ออิฐกันบ้างแล้ว ตลาดนนท์คนยังคึกคักอยู่ค่ะ

โดย: Budsanee Koranuntachai

 

15.30 น. ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา(ม.รทก.)ที่บางนาระดับ +1.38 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ1.12 ม

ปากคลองตลาดระดับ+1.77ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ1.03ม.|

บางเขนใหม่ระดับ+2.11ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ+0.89 ม.

 

ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร

‎16.00 น.กรุงเทพมหานครและปริมณฑลไม่พบกลุ่มฝน|

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา(ม.รทก.)ที่บางนาระดับ +1.42 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ1.08 ม.|

ปากคลองตลาดระดับ +1.84 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ0.96ม.|

บางเขนใหม่ระดับ+2.17 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ0.83 ม.

 

เออ..ข่าวนี้ สรุปว่าไม่ทำพรุ่งนี้แต่แอบ<wbr>ๆ มาทำพิธีกันวันนี้ใช่ไหม

 

ขนส่งรายใหญ่ภาคเหนือ ใช้เส้นทางอ้อม100กม.หนีน้ำท่วม

8 ตค. 2554 15:25 น.

นายอุดม สุวิทย์ศักดิ์ดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิ่มซีเส็งขนส่ง 1988 จำกัด ผู้ประกอบการขนส่งรายใหญ่ในภาคเหนือ เปิดเผยว่า หลังน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางจนขยายวงกลางและยังส่งผลกระทบต่อเส้นทางคมนาคมโดยเฉพาะช่วง จ.สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ถนนสายเอเซียที่เชื่อมระหว่างภาคเหนือและภาคกลางถูดตัดขาดเพราะน้ำทะลักท่วมถนน บริษัทฯต้องหันไปใช้เส้นทางอ้อมผ่านจ.สุพรรณบุรีเข้า จ.นครวรรค์ แทน รวมระยะทางที่เพิ่มขึ้นปรมาณ 100 กม. ต้องเสียเวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง แต่เพื่อไม่ให้สินค้าที่ลูกค้าส่งตกค้างเพราะปัจจุบันบริษัทฯให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างภาคเหนือและกรุงเทพฯไม่ต่ำกว่าวันละ 200 เที่ยว
อย่างไรก็ตามหากบริเวณสะพานเดชา ที่ จ.นครสวรรค์ ได้รับผลกระทบอีกจุดจนเส้นทางคมนาคมถูกตัดขาดอาจมีผลให้การขนส่งสินค้าต้องหยุดชะงักได้ ส่วนการขนส่งที่ต้องใช้ระยะทางและเวลาเพิ่มขึ้นบริษัทฯไม่ได้คิดค่าขนส่งเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะเกรงเป็นการซ้ำเติมลูกค้าในภาวะอุทกภัยน้ำท่วมซึ่งผู้ประกอบการและประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อนกันอยู่แล้ว



http://maintenance.doh.go.th/test.html

 

น้ำที่สะพานพุทธขึ้น 24 ซม.

8 ตค. 2554 14:42 น.

กรมชลประทาน รายงานระดับน้ำที่ สะพานพุทธ เมื่อเวลา 14.00 น. อยู่ที่ 1.74 เมตร สูงจากเมื่อช่วงเที่ยงเพิ่มอีก 24 ซม.

ขณะที่ระดับคันกั้นน้ำอยู่ที่ 2.5 เมตร

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=532991&lang=T&cat=

 

เปิด 15 จุดเสี่ยงพื้นที่ กทม.ชั้นใน เผชิญน้ำท่วม สาทร ลาดพร้าว ดินแดง ยันบางแค : มติชนออนไลน��

เปิด 15 จุดเสี่ยงพื้นที่ กทม.ชั้นใน เผชิญน้ำท่วม สาทร ลาดพร้าว ดินแดง ยันบางแค

วันที่ 08 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:33:29 น.

วิกฤตน้ำท่วมขยายวงส่งผลกระทบพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก 15 แห่ง

นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพ มหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ระดับแม่น้ำเจ้าพระยา (7 ต.ค.) วัดได้ที่ 1.97 เมตร ยังถือว่าพอรับมือไหว แต่หากระดับน้ำสูงเกินจากแนวคันกั้นน้ำที่ กทม.สร้างไว้สูง 2.50 เมตร บวกกับปริมาณน้ำที่ไหลมาจากน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนสูง กทม.ก็จะเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมในเขตรอบนอกทั้งฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะทำเลริมเจ้าพระยาประมาณ 28 ตร.ก.ม. ซึ่งมีบ้านพักอาศัย 80,000 หลังคาเรือน ส่วนฝั่งตะวันออกในพื้นที่ 300 ตร.ก.ม.น่าห่วงสุด เพราะเป็นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำพระราชดำริ มี 4 เขต คือคลองสามวา หนองจอก มีนบุรี และลาดกระบัง ซึ่งมีคนอาศัยอยู่หลายหมื่นครัวเรือนเช่นกัน

สำหรับพื้นที่ชั้นใน กทม.จากการสำรวจพบว่า มี 15 พื้นที่เป็นจุดอ่อนและเสี่ยงต่อน้ำท่วม ได้แก่ 1)เขตสาทร ย่านถนนจันทร์ เซนต์หลุยส์ สาธุประดิษฐ์ 2)เขตพญาไท ถนนพหลโยธิน ช่วงคลองสามเสน-คลองบางซื่อ 3)เขตพระโขนง ถนนสุขุมวิท จากคลองพระโขนง-ซอยลาซาล 4)เขตวัฒนา ซอยสุขุมวิท 39 และ 49 5)เขตวังทองหลาง ถนนลาดพร้าว จากคลองลาดพร้าว-ห้างเดอะมอลล์ 6)เขตบึงกุ่ม ถนนนวมินทร์ จากคลองดอนอีกา-แยกถนนประเสริฐมนูกิจทั้งสองฝั่ง

7)เขตดินแดง ถนนรัชดาภิเษก หน้าห้างโรบินสัน 8)เขตจตุจักร ถนนรัชดาภิเษก แยกลาดพร้าว 9)เขตราชเทวี ถนนเพชรบุรี จากถนนบรรทัดทอง-แยกราชเทวี 10)เขตราชเทวี ถนนนิคมมักกะสัน 11)เขตราชเทวี ถนนพระรามที่ 6 หน้าตลาดประแจจีน 12)เขตบางแค ถนนเพชรเกษม ซอย 63 (ซอยวัดม่วง) 13)เขตยานนาวา ถนนเย็นอากาศ จากถนนนางลิ้นจี่- ซอยศรีบำเพ็ญ 14)เขตประเวศ ถนน ศรีนครินทร์ ช่วงคลองตาสาด-คลองตาช้าง และ 15)เขตพระนคร ถนนสนามไชยและถนนมหาราช

"ทั้ง 15 จุดนี้ถ้า 3 น้ำมาพร้อมกัน ทั้งน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน ก็เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมได้ เพราะกรุงเทพฯเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ง่ายต่อน้ำท่วมขัง"

นายสัญญากล่าวว่า ปัจจุบัน กทม.เตรียมรับมือเต็มที่ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ช.ม. ล่าสุดซื้อกระสอบทรายเพิ่มอีก 1.5 ล้านถุง เพราะทุกเขตขอเข้ามา

นอกจากนี้ยังได้ขุดลอกคลองให้ระบายน้ำได้เร็วขึ้น ดูแลประตูระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำ สถานีสูบน้ำ รวมถึงประสานงานกับกรมชลประทานช่วยบริหารจัดการน้ำผ่านคลองและอุโมงค์ลงสู่ทะเล

"ถ้าน้ำมามากเกิน คนกรุงต้องยอมรับสภาพ ซึ่งปริมาณน้ำฝน กทม.รับมือได้เต็มที่ 1,500-1,600 ลบ.เมตรต่อวินาที ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยารับได้ 3,000-3,500 ลบ.เมตร

 

อาสาสมัครเฝ้าจับตาสถานการณ์น้ำท่วมกรุงเทพ@js100radiojs100

กรมอุทกศาสตร์ แจ้งระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะขึ้นเต็มที่เวลา 17.15น.

สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1.86 ม. ให้ปชช.ริมแม่น้ำเตรียมรับมือ

 

อาสาสมัครเฝ้าจับตาสถานการณ์น้ำท่วมกรุงเทพ

‎16.10น ถ.รามคำแหง ช่วงหน้าม.ราม ตอนนี้การจราจรคล่องตัวขึ้น

น้ำขังตามจุดต่างๆเริ่มลดลง น้ำขังริมฟุตบาทได้แห้งไปหมดแล้ว

 

18.00น.ชัยนาท-ปิดถนน สาย สวนนกชัยนาท-เอเชีย


8 ตค. 2554 16:35 น.

นายสิทธิชัย วนานุเวชพงศ์ ผู้อำนวยการแขวงการทางจังหวัดชัยนาท ได้ประกาศปิดการจราจรทางหลวงหมายเลข 1 เส้นทางเข้า-ออก สายหน้าสวนนกชัยนาท -สายเอเชีย เพราะน้ำท่วมสูงกว่า 60 ซม.ในเวลา 18.00 น.ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.เป็นต้นไป จนกว่าน้ำจะลด ผู้ที่จะใช้ทางเข้าออกชัยนาทให้ไปใช้ถนนสาย 340 สุพรรณบุรี ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงเส้นเดียวที่ยังสามารถใช้ได้อยู่

 

ศภช.เตือนน้ำจ่อล้นตลิ่ง 4 เขตกรุงเทพฝั่งตะวันออก 8-16 ต.ค.นี้

8 ตค. 2554 16:24 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ(ศภช) - 8 ต.ค. 54 ศภช. แจ้งเตือนว่า ในระหว่างวันที่ 8 - 16 ต. ค.นี้ สถานการณ์น้ำนอกเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อาจเกิดน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่เขตมีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก และคลองสามวา ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุ และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องต่อไป

 

เตือนเมืองกาญจน์ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าหลาก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 ตุลาคม 2554 16:28 น.

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติประกาศเรื่อง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในวันนี้ถึงวันพรุ่งนี้ บริเวณ จ.กาญจนบุรี ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในพื้นที่เฝ้าระวัง และติดตามข้อมูลจาก ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอซีทีอย่างใกล้ชิด

 

เขื่อนสิริกิติ์ลดปล่อยน้ำบรรเทาผลกระทบ ปชช.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 ตุลาคม 2554 16:05 น.

ขื่อนสิริกิติ์ประสานกรมชลประทาน ขอปรับการระบายน้ำ จากเดิม 60 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เหลือ 55 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะพิจารณาปรับลดลงอีกตามสถานการณ์ของปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน
ทั้งนี้ การปรับลดการระบายน้ำ จะทำให้ระดับน้ำในเขื่อนทรงตัว มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เขื่อนมีน้ำกักเก็บประมาณ 9,391 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 98.75 และยังสามารถรับน้ำได้อีก 118 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 1.25

 

ผวา“เจดีย์เกาะเกร็ด”จม!

วันเสาร์ ที่ 08 ตุลาคม 2554 เวลา 16:30 น



ผู้ว่าฯ 3 จังหวัด ระดมเสริมคัน รับมือน้ำก้อนใหญ่ทะลัก “นนท์” หวั่นเจดีย์เกาะเกร็ดจม ด้านสถานทูตจีนบริจาคช่วยน้ำท่วม 50 ล้าน

วันนี้ (8 ต.ค.) เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ห้องรับรองพิเศษ อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง มีการประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ระหว่าง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะ ผอ.ศปภ. กับผู้ว่าฯ 3 จังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย และความต้องการของจังหวัดที่ประสบอุทกภัย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

นายวิศว ศะศิสมิต ผวจ.อ่างทอง กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในจังหวัดอ่างทองได้รับผลกระทบแล้ว 22,655 ครัวเรือน โดยได้แจ้งเตือนให้ประชาชนเก็บข้าวของขึ้นพื้นที่สูงโดยเร็ว เพราะขณะนี้มีปริมาณน้ำ 80-90 เปอร์เซ็นต์มาทุกรอบด้าน และอยากได้รับการสนับสนุนห้องน้ำสำเร็จรูป ซึ่งขณะนี้ขาดแคลน รวมทั้งกระโถน 1,000 อัน เพื่อใช้สำหรับผู้ป่วย หรือคนชรา เรือพาย เรือท้องแบน 400 ลำ ถังน้ำใบใหญ่ ขนาดจุ 200 ลิตร น้ำดื่ม ถุงยังชีพ 10,000 ชุด และกระสอบทราย 200,000 ลูก นอกจากนี้ มีปัญหาด้านการจราจร เพราะเส้นทางเข้าตัวเมืองอ่างทองถูกตัดขาดทั้งหมด อย่างไรก็ดี ชาวบ้านส่วนใหญ่จะไม่ทิ้งที่อยู่อาศัย เนื่องจากมีความผูกพันกับสถานที่เกิด ทำให้ถนนสายเอเชียมีประชาชนเข้ามาจับจองพักอาศัยอยู่จำนวนมาก เกรงว่าคันกั้นน้ำของจังหวัดที่ทำไว้กว่า 2 เดือนแล้ว จะรับน้ำจำนวนมากไม่ไหว เพราะขณะนี้น้ำเข้า จ.อ่างทอง ทุกด้าน

ด้าน นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผวจ.สิงห์บุรี กล่าวว่า ในพื้นที่สิงห์บุรีมี 6 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ชาวบ้านเดือดร้อน 38,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 100,000 ไร่ มีผู้เสียชีวิต 14 ราย อยากได้รับการสนับสนุนเรือท้องแบบ พร้อมเครื่อง 300 ลำ ห้องน้ำสำเร็จรูป 200 ห้อง ชูชีพ 2,000 ถุง ถังน้ำขนาดใหญ่ 100 ถัง ขณะเดียวกัน จะจัดซื้อจุลินทรีย์ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเน่า ตลอดจนจัดซื้อห่วงยางด้วย

ส่วน นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้ อบต.ต่าง ๆ ตรวจสอบสำรวจแนวคันกั้นน้ำให้ดี ให้แข็งแรง และสั่งให้เพิ่มแนวคันกันสูงขึ้นอีก 50 เพราะเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้คันทรุดน้ำเอ่อเข้าท่วมถนนราชพฤกษ์ ซึ่งได้สั่งเข้าซ่อมแซมแล้ว แต่เป็นห่วงพื้นที่เกาะเกร็ด ซึ่งบริเวณวัดปรมัยยิการาม และวัดไผ่ล้อม น้ำยังไม่ท่วม เพราะมีแนวคันกันน้ำ และได้เสริมแนวคันกั้นน้ำรอบวัดปรมัยยิการามขึ้นไปอีก เพราะเป็นจุดศูนย์รวมคนเกาะเกร็ด คือ เจดีย์เกาะเกร็ด โดยขอให้ทหารรักษาดินแดนมาช่วยเสริมแนว ซึ่งได้ข้อมูลว่าน้ำก้อนใหญ่จาก จ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นห่วงปริมาณน้ำที่จุดอำเภอไทรน้อย เกรงว่าจะท่วมครึ่งองค์เจดีย์เกาะเกร็ด เป็นเหมือนปี 2549 ขณะนี้ได้ระดมสร้างแนวคันกั้นน้ำเพิ่ม แต่ติดปัญหาเรื่องทรายเอามากั้น ติดขัดปัญหามาก ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และใช้รถแบ็กโฮเอาดินข้างทางมาทำคัน เกรงจะเอาไม่อยู่

ด้าน นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สอบถามว่า เห็นปริมาณน้ำเหนือที่จะเข้าสู่จังหวัดนนทบุรีแล้ว ให้เร่งประสานกรมชลประทาน เพื่อรีบระบายน้ำออกสู่เจ้าพระยา หากไม่รีบระบายลำบากมากแน่ ต้องประสานกรมชลฯ เพื่อเร่งระบายน้ำในทุ่งจังหวัดปทุมธานี และอยุธยา วางมาตรการป้องกันอย่างไรให้น้ำมากระทบพื้นที่น้อยที่สุด

ต่อมา เวลา 14.15 น. นายเกา เหวินควน ที่ปรึกษาเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ด้านพาณิชย์ ประจำประเทศไทย เป็นตัวแทนของรัฐบาลจีน มามอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และบริจาคสิ่งของ 10 ล้านหยวน มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท.

 

ปิดแบงก์พาณิชย์ชั่วคราว 32 สาขาใน 3 จังหวัดน้ำท่วม



ธปท. เผย แบงก์พาณิชย์ประกาศปิดชั่วคราว 32 สาขาในพื้นที่น้ำท่วม อยุธยา ลพบุรี ชัยนาท แบ่งเป็น ธ.กรุงไทย 8 สาขา ทิสโก้ 1 สาขา ไทยพาณิชย์ 1 สาขา ซีไอเอ็มบีไทย 1 สาขา เกียรตินาคิน 1 สาขา กรุงศรีอยุธยา 4 สาขา กสิกรไทย 1 สาขา กรุงเทพ 6 สาขา ยูโอบี 1 สาขา ธนชาต 7 สาขา และบริษัทเงินทุนสินอุตสาหกรรม

ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้รายงานการปิดสาขาธนาคารพาณิชย์ ในพื้นที่น้ำท่วมเป็นการชั่วคราว ใน จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ลพบุรี และ จ.ชัยนาท จำนวน 10 ธนาคารพาณิชย์ 1 บริษัทเงินทุน รวมสาขาที่ปิดทำการทั้งสิ้น 32 สาขา ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทยปิดชั่วคราว 8 สาขา 1. สาขาเสนา อยุธยา 2. สาขาตลาดหัวรอ อยุธยา 3. สาขาท่าเรือ อยุธยา 4. สาขาโรจนะ อยุธยา 5. สาขาศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยุธยา 6. สาขาบางปะอิน อยุธยา 7. สาขาบิ๊กซี อยุธยา 8. สาขาท่าลาน อยุธยา ธนาคาร ทิสโก้ปิด 1 สาขา คือ สาขาอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ปิด 1 สาขา คือ สาขาท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยปิด 1 สาขา คือ สาขาพระนครศรีอยุธยา อยุธยา ธนาคารเกียรตินาคิน ปิด 1 สาขา คือ สาขาพระนครศรีอยุธยา อยุธยา ธนาคารกรุงศรีอยุธยาปิดชั่วคราว 4 สาขา ประกอบด้วย 1. สาขาท่าเรือ อยุธยา 2. สาขาบิ๊กซี อยุธยา 3. สาขาบางปะอิน อยุธยา 4. สาขาสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อยุธยา ธนาคารกสิกรไทย 1 สาขา คือ สาขาอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพปิดชั่วคราว 6 สาขา ประกอบด้วย 1. สาขาโพนางดำ จ.ชัยนาท 2. สาขานครหลวง อยุธยา 3. สาขาอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 4. สาขาท่าเรือ อยุธยา 5. สาขาบิ๊กซี ลพบุรี จ.ลพบุรี 6. สาขาบิ๊กซี ลพบุรี 2 จ.ลพบุรี ธนาคารยูโอบีปิด 1 สาขา สาขาพระนครศรีอยุธยา อยุธยา ธนาคารธนชาตประกาศปิดชั่วคราว 7 สาขา 1. สาขาพระนครศรีอยุธยา อยุธยา 2. สาขาตลาดเจ้าพรหม อยุธยา 3. สาขาอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 4. สาขาโรจนะ อยุธยา 5. สาขาท่าเรือ (อยุธยา) จ.พระนครศรีอยุธยา 6. สาขาบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา 7. สาขาสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อยุธยา และ บริษัทเงินทุนสินอุตสาหกรรม ประกาศปิดชั่วคราวสำนักงานอำนวยสินเชื่อ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ ไทยรัฐ

8 ตุลาคม 2554, 16:00 น.

 

จีนบริจาคเงิน-สิ่งของช่วยอุทกภัยไทย 81 ล้านบาท

วันเสาร์ที่ 08 ตุลาคม 2011 เวลา 16:09 น



Mr. Guan Mu เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ในฐานะตัวแทน สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์แสดงความชื่นชมต่อการทำงานของรัฐบาลไทยในการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในปัจจุบัน นอกจากนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือ เป็นเงินสดจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 31 ล้านบาทและสิ่งของเพื่อการช่วยเหลือฉุกเฉินมูลค่ารวม 10 ล้านหยวน หรือประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและบริหารสถานการณ์ในขณะนี้ด้วย

http://www.thanonline.com/index.php...-81-&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524

 

กทม.สรุปฝนถล่มกรุงน้ำท่วมสาหัส 17 จุด "รัชดาภิเษก" หนักสุด

8 ตค. 2554 14:50 น.

กทม.สรุปฝนถล่มกรุงน้ำท่วมสาหัส 17 จุด ‘รัชดาภิเษก’ หนักสุด ‘สุขุมพันธุ์’ สั่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำกู้วิกฤติเร่งด่วน คาด 2 ชม.น้ำลดแน่ ยืนยันกทม.ยังรับน้ำเหนือไหว พร้อมสั่งเสริมกระสอบทรายริมคลองรังสิต กั้นน้ำทะลักเข้าเทศบาลหลักหก ป้องกันพื้นที่กรุงชั้นนอก
เวลา 08.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมบริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว ตั้งแต่ช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงบริเวณศาลอาญารัชดา หลังจากน้ำได้ท่วมขังพื้นผิวจราจรทั้งขาเข้า-ออก มีระดับน้ำสูง 30-40 เซนติเมตร ซึ่งมีรถโดยสารประจำทางและรถยนต์ส่วนบุคคลจอดเสียอยู่กว่า 20 คัน เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกลงมาหนักต่อเนื่อง สามารถวัดปริมาณได้ที่ 101 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมขังพื้นผิวจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ หลายจุด โดยสำนักการระบายน้ำเร่งสูบน้ำออกสู่คลองต่างๆ คาดว่าใช้เวลา 2 ชั่วโมง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงเวลา 03.00 น. วัดได้ถึง 101 มิลลิเมตร ทำให้พื้นที่ กทม.มีปัญหาน้ำท่วมขังรอระบายรวม 17 จุด โดยจุดวิกฤตอยู่ที่บริเวณถนนรัชดาภิเษก และแยกรัชดา-ลาดพร้าว จึงได้ระดมเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเสริม 4 จุด คาดว่าจะระบายน้ำออกได้หมดภายใน 2 ชั่วโมง โดยจะมีการส่งน้ำไปอุโมงค์พระรามเก้า-รามคำแหงที่สามารถระบายน้ำได้ถึง 80,000 ลูกบาศก์เมตรได้ ขณะที่น้ำท่วมในพื้นที่อื่นๆ คาดว่าจะระบายน้ำได้หมดใน 1 ชั่วโมง ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลการรับสถานการณ์น้ำเหนือนั้น ที่บริเวณคลองบางซื่อ พบว่าระดับน้ำไม่ได้เพิ่มสูงมากนัก กทม.ยังสามารถระบายน้ำได้ต่อเนื่อง
จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เดินทางต่อไปยังแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณคลองรังสิตที่ประตูระบายน้ำหลัก 6 เทศบาลตำบลหลัก 6 จ.ปทุมธานี พร้อมกล่าวว่า จุดนี้เป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างจ.ปทุมธานีและกรุงเทพฯ โดยมีประตูระบายน้ำคลองเปรมใต้ที่ใช้ในการรับน้ำที่มาจากจ.ปทุมธานี กั้นอยู่ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในคลองรังสิตมีปริมาณน้ำที่ค่อนข้างสูง วัดจากประตูระบายน้ำคลองเปรมใต้ อยู่ที่ประมาณ 1.80 เมตร ซึ่งหากฝั่งเทศบาลตำบลหลัก 6 ปทุมธานีไม่เสริมกระสอบทรายเพิ่มเติม น้ำจากคลองรังสิตก็อาจจะทะลักเข้าสู่เทศบาลตำบลหลัก 6 จ.ปทุมธานีและพื้นที่ใกล้เคียงในกทม.ได้ ตนจึงสั่งให้นำกระสอบทรายมาเสริมเพิ่มเติมให้สูงถึง 80 เซนติเมตร ช่วงระหว่างคลองรังสิตฝั่งหลัก 6 เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าพื้นที่ดังกล่าว
ขณะที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกทม. ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ กทม.ว่า ได้เกิดฝนที่ตกตั้งแต่เวลา 01.00 น. มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 17 จุด ระบายแล้วได้ 5 จุด ยังเหลือน้ำคงค้าง ปริมาณสูง 10-15 เซนติเมตร บริเวณถนนรัชดาภิเษก แยกรัชโยธิน แยกลาดพร้าว ถนนงามวงศ์วาน แยกเกษตร ถนนลาดพร้าว ซอยประดิษฐ์มนูธรรม ลาดพร้าว 22 ถนนพหลโยธิน แยกเกษตร ตลาดอมรพันธ์ ซอยเสนานิคม ถนนศรีนครินทร์ หน้าบริษัทกรีนสปอต และถนนนวมินทร์ บริเวณโรงเรียนบางกะปิ ถึงการเคหะแห่งชาติ

 

แอบรื้อกระสอบทราย น้ำทะลักท่วมวัดเจดีย์ทอง

8 ตค. 2554 12:44 น.

ปทุมธานี-ชาวบ้านแอบรื้อกระสอบทรายตลอดแนวยาวกว่า 50 เมตร น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนบริเวณ ถนนปากทางเข้า วัดเจดีย์ทอง หมู่ 4 ต.คลองควาย อ.สามโคก
เวลา 02.30 น. วันที่ 8 ตุลาคม 2554 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มชาวบ้านจำนวนประมาณ 7-8 คน เข้ารื้อแนวคันกั้นกระสอบทราย บริเวณ ถนนปากทางเข้า วัดเจดีย์ทอง หมู่ 4 ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เป็นระยะทางยาวกว่า 50 เมตร น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักข้ามถนนอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำสูงกว่า 30 ซม.เข้าท่วมบริเวณบ่อเล็ก ๆ ข้างทางถนนเส้นทางปทุมธานี-เสนา ซึ่งหากระดับมีจำนวนมากก็จะทำให้ล้นข้ามถนนเส้นทางปทุมธานี-เสนาได้อย่างรวดเร็ว มีผลทำให้สถานีตำรวจ สภ.สามโคก,บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ อ.สามโคก และ อ.ลาดหลุมแก้ว อาจเกิดน้ำเข้าท่วมได้อย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าไปเจรจา แต่จากการตรวจสอบภายในกลุ่มบางคนมีอาวุธมีด ไม้ ป้องกันตัว จึงต้องเข้าเจรจาด้วยความระมัดระวัง กระทั่งทราบว่าเป็นกลุ่มชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ภายในหอพักที่อยู่ภายในแนวคันกั้นกระสอบทราย ซึ่งปลูกอยู่ริมแม่น้ำและถูกน้ำเข้าท่วมบริเวณหอพักชั้นล่าง มานานกว่า 1 เดือนแล้ว แต่ในวันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น กลุ่มชาวบ้านดังกล่าวเกิดความเครียด จึงได้พยายามจะรื้อกระสอบทรายให้น้ำระบายออกไปนอกพื้นที่หอพักดังกล่าวบ้าง แต่เมื่อชาวบ้านอีกกลุ่มประมาณกว่า 30 คน ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่ล้นข้ามถนน เพราะเกรงว่าน้ำจะทะลักเข้าท่วม จึงได้รวมตัวกันมาปิดทางแนวคันกระสอบทรายไว้เหมือนเดิม อีกทั้งทางเจ้าหน้าทีตำรวจได้แจ้งกับทางกลุ่มชาวบ้าน 7-8 คน ที่รื้อกระสอบทรายว่าถือเป็นความผิด หากรื้อต่อไปจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ทำให้กลุ่มชาวบ้าน 7-8 คนดังกล่าว ต่างพากันแยกย้ายหายไป ซึ่งชาวบ้านอีกกลุ่มกว่า 30 คน ต้องเร่งช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้นน้ำไม่ให้ปริมาณน้ำเข้าท่วมไปมากกว่านี้


น้ำท่วมกทม.คลี่คลาย ปทุมฯยังวิกฤต

8 ต.ค. 54 15.30 น.



สถานการณ์น้ำท่วมขังในกรุงเทพฯ ล่าสุดทุกเส้นทางจราจรเริ่มกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว หลังฝนกระหน่ำทั่วกรุงเมื่อเช้ามืดวันนี้ โดยสภาพถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าศาลอาญารัชดา ซึ่งเมื่อช่วงเช้านี้มีท่วมขังสูงกว่า 40 เซนติเมตร ล่าสุดกรุงเทพมหานครเร่งระบายน้ำลงสู่คลองแล้ว ทำให้รถสามารถสัญจรไป-มา ได้ตามปกติ ส่วนถนนแจ้งวัฒนะ วงเวียนหลักสี่ ศรีนครินทร์ และลาดพร้าว ทุกเส้นทางระดับน้ำลดลงจนกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้วเช่นกัน

สำหรับสาเหตุที่น้ำท่วมในเช้านี้ เนื่องจากมีน้ำหนุน การระบายต้องใช้เวลามากขึ้น โดยตำรวจจัดชุดช่วยเหลือน้ำท่วม รวมทั้งเตรียมรถยกเข้าประจำจุดตามพื้นที่เสี่ยง เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร ส่วนการเฝ้าระวังจะเน้นดูแลพื้นที่ สน.สายไหม มีนบุรี พื้นที่ริมฝั่ง แนวแม่น้ำเจ้าพระยา และพื้นที่รอยต่อปทุมธานี นนทบุรี โดยเฉพาะในช่วง วันที่ 17-18 ตุลาคม ที่ระดับน้ำทะเลจะหนุนขึ้นอีก

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ปทุมธานี ยังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น หลังแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มสูงต่อเนื่อง โดยชาวบ้านหมู่ 1 ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี เกือบ 200 หลังคาเรือน ซึ่งอาศัยอยู่ริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ต้องอพยพขึ้นมาอาศัยบนถนนโรโคโรด ในเต็นท์ที่หน่วยงานจัดไว้ให้ พร้อมเตรียมอพยพชาวบ้าน หากสถานการณ์เข้าสู่ขั้นวิกฤต

ขณะที่คลองเปรมประชากร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้จะมีประตูระบายน้ำติดเครื่องสูบขนาด 24 นิ้ว ผลักน้ำลงสู่เจ้าพระยา แต่ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่บรรยากาศล่าสุดที่ศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัย จ.พระนครศรีอยุธยา ในขณะนี้มีประชาชนทยอยเดินทาง เข้ารับการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำป่าสัก ไหลทะลักเข้าท่วม ซึ่งทำให้หลายจุดเสียหาย และสร้างความเดือดร้อน ซึ่งขณะนี้มีประชาชนลงทะเบียนแล้วจำนวน 570 คน ซึ่งเพิ่มจากวานนี้เป็น 2 เท่า ส่งผลทำให้อาคารที่ใช้รองรับประชาชนเต็มแล้ว 1 ตึก

จากการสอบถาม นายสะอาด สายทอง อายุ 58 ปี เป็นชาว จ.เพชรบูรณ์ ที่เดินทางมาทำงานที่แคมป์ก่อสร้างหลังวัดใหญ่ชัยมงคล ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ได้เดินทางเข้ารับการช่วยเหลือที่ศูนย์แห่งนี้ เป็นวันแรก กล่าวว่า ตนรู้สึกมีความกังวลและมีความเครียด เนื่องจากไม่สามารถนำข้าวของออกมาได้ เพราะกระแสน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับตนไม่ได้ทำงาน ทำให้ไม่มีเงินมาดูแลครอบครัว อย่างไรก็ตามบรรยากาศในขณะนี้ประชาชนยังทยอยเดินทางเข้ารับการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง