WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร

‎09.00 น.พื้นที่กรุงเทพมหานครไม่พบกลุ่มฝน

มีกลุ่มฝนกำลังอ่อนถึงปานกลางปกคลุม อ.บางเสาธง บางพลี บางบ่อ จ.สมุทรปราการ |

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเวลานี้ (ม.รทก.) บางนา+1.75ม. ต่ำกว่าแนวคันกั้นน้ำ0.75ม.

ปากคลองตลาด+2.15ม.ต่ำกว่าแนวคันกั้นน้ำ 0.65ม.

บางเขนใหม่+2.46ม.ต่ำกว่าแนวคันกั้นน้ำ 0.54ม.

 

มวลน้ำมหาศาล

ระดับน้ำในจังหวัดนครสวรรค์เริ่มคงที่ ขณะที่ในหลายพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา,นนทบุรี ,ปทุมธานี มีระดับสูงขึ้นอีกและขยายวงกว้าง ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทำใจรับสภาพ ใช้ชีวิตกลางน้ำ โดยการเดินลุยน้ำ บ้างนั่งโฟม และรถบริการของทหาร เพื่อออกจากบ้านมาซื้ออาหาร , ส่วนคนกรุงเทพในพื้นที่เสี่ยงยังหวาดวิตก คอยติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง บางส่วนขนของขึ้นสูง บ้างขนของหนีออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย และนำรถขึ้นจอดบนที่สูง

 

น้ำน่านพิจิตรลดจากน้ำพังนครสวรรค์

น้ำแม่น้ำน่านพิจิตรลดถนนสายหลักกลับมาสัญจรได้ผลจากน้ำพังที่จังหวัดนครสวรรค์

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพิจิตร แม่น้ำน่านที่ไหลผ่าน 3 อำเภอ เริ่มลดลงสาเหตุจากเขื่อนสิริกิตติ ลดการจ่ายน้ำ และน้ำพังเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ส่งผลให้น้ำแม่น้ำน่านในพื้นที่จังหวัดพิจิตรลดลง จากน้ำที่ระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และจากน้ำที่ลดระดับลงแม่ว่าจะยังไม่พ้นจุดวิกฤติแต่ก็ทำให้ถนนสายหลัก พิจิตร-ตะพานหิน และสายเข้าออกระหว่างหมู่บ้าน กลับมาใช้ได้อีกครั้ง แม้ว่าจะยังมีน้ำท่วมขังอยู่บางช่วง นอกจากนั้นระดับน้ำที่ลดลง ทำให้สถานที่ราชการต่างๆ บ้านเรือนประชาชน น้ำได้ลดระดับลงอย่างมาก จนเกือบเป็นปกติ เว้นแต่ที่ราบต่ำที่มีน้ำอยู่

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดของจังหวัดพิจิตรแม่น้ำน่านเริ่มคลี่คลาย แต่แม่น้ำยมยังคุงเพิ่มสูงขึ้น โดยระดับน้ำแม่น้ำยม ซึ่งส่งผลกระทบ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวชิระบารมี สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และโพทะเล ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ Y 17 อำเภอสามง่าม ระดับน้ำ 6.91 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤติ 1.35 เมตร ระดับน้ำลดลง 1 เซนติเมตร แม่น้ำยมที่สถานีวัดน้ำ Y5 ระดับน้ำ 9.04 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤติ 2.09 เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1 เซนติเมตร

แม่น้ำน่าน ซึ่งผ่าน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพิจิตร ตะพานหิน อำเภอบางมูลนาก

ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ N 7A

อำเภอเมืองพิจิตร ระดับน้ำ 11.00 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤติ 22 เซนติเมตร ระดับน้ำลดลง 21 เซนติเมตร

ที่สถานีวัดน้ำ N 8 A

อำเภอบางมูลนาก ระดับน้ำ 11.39 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤติ 10 เซนติเมตร ระดับลดลง 6 เซนติเมตร

 

ปาปัวฯ ระส่ำ ทั้งแผ่นดินไหว และเครื่องบินตก



สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ “ยูเอสจีเอส” ว่า เกิดแผ่นดินไหวทางตะวันออกของปาปัวนิวกินี วัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 6.7 เบื้องต้นยังไม่พบรายงานความเสียหาย และไม่มีการประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิ

ขณะเดียวกันเพียงไม่กี่ชชั่วโมงก่อนหน้านั้น ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กแบบ 2 ใบพัดของสายการบินแอร์ไลน์ส พีเอ็นจี ของปาปัวนิวกินี ประสบอุบัติเหตุตกลงกลางป่าดงดิบอันห่างไกลทางตอนเหนือของประเทศขณะออกเดินทางไปยังเมืองมาดัง

เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 28 ราย แต่มีผู้รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ 4 ราย เบื้องต้นคาดว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้

Mthai News

 

08.00 น. วันนี้สถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ อยู่ในเกณฑ์ปกติ

น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นสูงสุดเวลา 08.19 ที่ระดับ +2.18 เมตร ยังต่ำกว่าระดับเขื่อน ป้องกัน 62 ซม.

กรมอุตุฯ คาดว่าจะมีฝนฟ้าคะนอง 60% ของกรุงเทพฯ วานนี้วัดปริมาณน้ำฝนสูงสุดได้ที่เขตบางรัก 104.5 มม.

คลองที่มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยวันนี้ คือ คลองบางซื่อ และคลองน้ำแก้ว ส่วนคลองสายหลักอื่นๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ

 

http://www.thaiwater.net/TyphoonTracking/wxImages/lastest_wc.jpg

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กรมวิทย์ฯ เตือน!น้ำท่วมระวังมดตะนอยต่อยเสี่ยงตายได้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>14 ตุลาคม 2554 17:32 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="https://ssl.gstatic.com/webclient/js/gc/24479126-6666cb8c/googleapis.client__plusone.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>


<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000131338&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตือนน้ำท่วมระวังมดตะนอยต่อย หลังพบชาวบ้านที่จังหวัดตรังถูกมดตะนอยต่อยแล้วเกิดอาการแพ้จนเสียชีวิต แนะอย่าเข้าใกล้รังมดตะนอย โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ หากถูกมดต่อยแล้วรู้สึกว่ามีอาการแพ้ หายใจไม่ค่อยออก ให้รีบไปพบแพทย์ ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการแพ้ ให้รักษาแผลบริเวณที่ถูกต่อยให้สะอาดเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อซ้ำ

นายแพทย์บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ในช่วงน้ำท่วมนี้ต้องระมัดระวังสัตว์ แมลงมีพิษต่างๆ ที่หนีน้ำขึ้นไปตามบ้านเรือนประชาชน รวมถึงต้องระมัดระวังมดตะนอยด้วย เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีชาวบ้านอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ได้ปีนขึ้นไปบนต้นไม้แล้วถูกมดตะนอยกัดที่ริมฝีปาก จากนั้นมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เจ็บปวดตรงแผลที่โดนมดตะนอยกัด และมีอาการรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นอาเจียน และเสียชีวิตในที่สุด ต่อมามีชาวบ้านที่จังหวัดนครปฐมถูกมดต่อยมีอาการรุนแรงจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และได้มีการส่งตัวอย่างมดมาที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากการตรวจจำแนกชนิดตัวอย่างมดที่ได้รับดังกล่าว พบว่าเป็นมดตะนอยเช่นเดียวกัน


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>สำหรับอันตรายของมดตะนอย เกิดจากการที่มดตะนอยต่อยด้วยเหล็กใน ซึ่งการต่อยของมดจะแตกต่างจากผึ้ง คือมดเมื่อต่อยแล้วจะสามารถดึงเหล็กในกลับ ทำให้สามารถต่อยได้หลายครั้ง ผู้ถูกต่อยจะถูกต่อยซ้ำๆ ด้วยมดตัวเดิม ในขณะที่ผึ้งจะต่อยเพียงครั้งเดียวแล้วทิ้งเหล็กในไว้ที่แผลของผู้ถูกต่อย เหล็กในที่ยื่นออกมาจากปลายท้องมดจะเชื่อมต่อกับต่อมพิษที่อยู่ภายในท้อง ซึ่งต่อมพิษจะผลิตสารประกอบโปรตีนและสารอัลคาลอยด์ และสารที่ทำให้ผู้ถูกต่อยเกิดอาการแพ้คือสารประกอบพวกโปรตีน โดยสารโปรตีนเหล่านี้จะทำให้ผู้ถูกต่อยมีอาการต่างๆ เช่น เจ็บปวดบริเวณแผล แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก อาเจียน ซึ่งหากบางรายที่แพ้รุนแรงถ้ารักษาไม่ทันอาจทำให้เสียชีวิตได้ และไม่เฉพาะแต่มดตะนอยเท่านั้นที่มีเหล็กในและมีต่อมพิษ มดชนิดอื่นๆ เช่นมดคันไฟก็มีสารพิษที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า มดตะนอยมีลักษณะลำตัวยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร ส่วนหัวและส่วนท้องเป็นสีเข้มเกือบดำ ส่วนอกเป็นสีน้ำตาลเหลืองจนถึงสีส้ม รอยต่อระหว่างอกและท้องมีลักษณะเป็นปุ่มนูน 2 ปุ่มมีสีน้ำตาลเหลืองจนถึงสีส้มเช่นกัน หนวดมี 12 ปล้อง กรามมีขนาดใหญ่ ท้องมีลักษณะเป็นรูปไข่ โดยที่ปลายท้องจะมีเหล็กในยื่นออกมาให้เห็นได้เด่นชัด ชอบทำรังอยู่บริเวณบนต้นไม้ใหญ่และต้นไม้ที่ตายแล้ว โดยจะเห็นเป็นโพรงอยู่ภายในต้นไม้ มดตะนอยจะกินซากแมลงเล็กๆ เป็นอาหารและจะออกหากินอยู่บริเวณต้นไม้และพื้นดินใกล้เคียงที่อาศัย ดังนั้น ประชาชนจึงควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีมดตะนอยทำรังอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามต้นไม้ใหญ่ หรือต้นไม้ที่ตายแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้มดต่อย แต่ถ้าถูกมดต่อยแล้วรู้สึกว่ามีอาการแพ้ หายใจไม่ค่อยออก อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบไปพบแพทย์ ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการแพ้ ให้รักษาแผลบริเวณที่ถูกกัดและต่อยให้สะอาดเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อซ้ำ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สื่อนอกเผย น้ำท่วมใหญ่ในไทย ล้วนฝีมือมนุษย์



หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส ของสหรัฐ เปิดเผยถึงสาเหตุของการเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี สร้างความเสียหายเป็นพื้นที่กว้างหลายจังหวัด ซึ่งจากรายงานระบุว่า มียอดผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 283 ราย

โดยสื่อดังอ้างว่า การที่ภัยธรรมชาติธรรมดากลายเป็นหายนะครั้งใหญ่นั้น ตามแหล่งข่าวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการทรัพยากรน้ำรายหนึ่ง เปิดเผยว่า สาเหตุหลักมาจากฝีมือของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น การตัดไม้ทำลายป่า การก่อสร้างที่อยู่อาศัยในเขตที่ควรเป็นที่รองรับน้ำ การขยายตัวของชุมชนเมือง หรือแม้แต่การจัดการทรัพยากรน้ำที่ย่ำแย่จากภาครัฐ

Mthai News

 

ไก่ฟาร์มบางปะอินน้ำท่วมตายกว่าล้านตัว


ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 15 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 10:03 น.



ผู้ว่าฯอยุธยา เผย ปศุสัตว์จังหวัด รายงาน พบ ไก่ตายแล้วกว่า 1 ล้านตัว เกรงโรคระบาด สั่งคณะเข้าสอบแก้ปัญหาเร่งด่วน ขณะที่เตรียมนำเครื่องอุปโภคบริโภคขึ้น เฮลิคอปเตอร์ ลำเลียงส่งประชาชนในพื้นที่ ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้

นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับรายงานจากปศุสัตว์ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ไก่ไข่จากฟาร์มกรรณสูตร ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตายแล้วกว่า 1,000,000 ตัว จากภาวะน้ำท่วม เนื่องจาก ไม่สามารถขนย้ายออกมาได้ทัน ซึ่งคาดว่าจะส่งกลิ่นเหม็นเน่าและเป็นสาเหตุของโรคติดต่อ ล่าสุด ทาง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รายงานไปยัง ศปภ. แล้ว และในช่วงเช้าวันนี้ คณะของ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกับ นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ จะเดินทางโดยเรือ เข้าไปดูสถานที่ ที่ฟาร์มกรรณสูตร เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำชับให้ ปศุสัตว์จังหวัด และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เร่งแก้ไขภาวะแวดล้อม โดยให้เน้นพื้นที่ในเขตชุมชนเป็นพื้นที่เร่งด่วน

สำหรับการตายของไก่ไข่ที่ฟาร์มกรรณสูตในครั้งนี้ คาดว่า จะใช้สาร E.M. (อี.เอ็ม.) หรือ สารอื่น เพื่อความเหมาะสมในการลดกลิ่นเหม็นของไก่ตาย เนื่องจาก ยังไม่มีวิธีการนำซากไก่ออกมาได้

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในวันนี้ ทาง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ นำเครื่องอุปโภคบริโภค ลำเลียงทางอากาศ เพื่อนำไปส่งให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่การช่วยเหลือเยียวยายังเข้าไม่ถึง โดยมีการกำหนดจุดปฏิบัติการดังกล่าวไว้ ประมาณ 16 จุด ในพื้นที่ 9 อำเภอ รวมถุงยังชีพทั้งหมด 1,500 ชุด ซึ่งทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดเตรียมเรือ เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อการเข้าถึงของประชาชน สำหรับ จุดปฏิบัติการดังกล่าว ได้ให้อำเภอเป็นผู้กำหนดจุด ในการเข้าให้ความช่วยเหลือ โดยจะบินปฏิบัติการทั้งวัน สำหรับการรับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อขอการช่วยเหลือของทาง จ.พระนครศรีอยุธยานั้น ในแต่ละวัน มีอยู่จำนวนมาก โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำชับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดลำดับของความสำคัญอย่างแท้จริง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนกว่า


Link : http://www.innnews.co.th/ไก่ฟาร์มบางปะอินน้ำท่วมตายกว่าล้านตัว--314637_06.html

 

คลิปวงจรปิด แฉสาเหตุ คันกั้นน้ำป้อมหนึ่งนครสวรรค์พัง



หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา แนวคันกั้นน้ำบริเวณชุมชนป้อม 1 ในเขตเทศบาลนครสวรรค์ ได้พังลง และส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมชุมชนป้อม 1อย่างรวดเร็ว

โดยน้ำท่วมสูงจากระดับเดิมที่ 30 เซนติเมตร ท่วมสูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านต้องรีบเก็บของขึ้นที่สูง และอพยพโดยด่วน เพราะมีการคาดการณ์กันว่า ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก 1 เมตร

ล่าสุดมีผู้ใช้นามแฝง bmwe306049 นำคลิปวงจรปิดบริเวณดังกล่าวนำมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูป จำนวน 3 คลิป เปิดเผยถึงสาเหตุที่คันดินบริเวณดังกล่าวพัง โดยเป็นคลิปที่คนขับเรือรับจ้างทำการลากเรือข้ามแนวคันกั้นน้ำ เป็นเหตุให้คันดินทรุดตัวลง ก่อนที่น้ำจะทะลักเข้าท่วมอีกฝั่ง

Mthai News

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=82b99ve0xdk&feature=player_embedded"]????????????????????? - YouTube[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=BY4n-wvGhyw&feature=player_embedded]สาเหตุที่น้ำทะลักเข้าป้อมหนึ่ง - YouTube[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=wYhfivch2y8&feature=player_embedded"]1???????????? - YouTube[/ame]

 

ถนน 345 น้ำท่วมเป็นระยะรถสัญจรลำบาก

ข่าวสังคม วันเสาร์ที่ 15 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 10:26 น.



สถานการณ์บางบัวทอง น้ำยังท่วมเป็นระยะ รถสัญจรลำบาก ปิด ถ.345 เชื่อมต่อ ถ.ราชพฤกษ์ หลังน้ำท่วมสูงกว่า 60 ซ.ม.


สถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ อ.บางบัวทอง บริเวณช่วงถนนสาย 345 มุ่งหน้า จ.ปทุมธานี ยังคงมีน้ำเอ่อท่วมบนถนนเป็นระยะ ๆ ซึ่งบางช่วง สูงกว่า 20 ซ.ม. ทำให้รถเล็กสัญจรได้ยาก ขณะที่ บางแยกของถนน 345 ที่เชื่อมต่อ ถ.ราชพฤกษ์ ต้องมีการปิดเส้นทางสัญจรเนื่องจาก มีน้ำท่วมสูงกว่า 60 ซ.ม. ซึ่งหากจะใช่เส้นทางดังกล่าวในการสัญจรนั้น ควรใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากบางช่วงของถนนนั้นการจราจร สามารถใช้งานได้เพียงช่องเดียวเท่านั้น

Link : ถนน 345 น้ำท่วมเป็นระยะรถสัญจรลำบาก

 

กทม.สรุปรายงานพยากรณ์อากาศและสถานการณ์น้ำ15ต.ค.

วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 2011 เวลา 10:28 น.

กองประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร รายงานพยากรณ์อากาศและสถานการณ์น้ำ 15 ตุลาคม 2554

คาดการณ์ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุด (15 ต.ค.54) กรมอุทกศาสตร์ เวลา08.46 น.

ระดับ 2.18 ม.รทก.และเวลา 19.25 น. ระดับ 1.94 ม.รทก.

พยากรณ์อากาศ (04.00น.) ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกของประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักได้บางแห่ง ในระยะ 1-2 วันนี้ อนึ่ง

พายุดีเปรสชัน “บันยัน” บริเวณทะเลจีนใต้ได้อ่อนกำลังลงเป็น หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้วและ จะไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย



กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่

และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

วิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม (06.30น.) กลุ่มเมฆชั้นต่ำและชั้นกลางปกคลุมภาคกลาง โดยมีฝนบางแห่งปกคลุมทางตอนล่างของภาค สภาวะอากาศ จากเรดาร์ภาษีเจริญ (07.00น.) พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลไม่พบกลุ่มฝน

 

ไก่ฟาร์มบางปะอินน้ำท่วมตายกว่าล้านตัว

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 15 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 10:03 น.



ผู้ว่าฯอยุธยา เผย ปศุสัตว์จังหวัด รายงาน พบ ไก่ตายแล้วกว่า 1 ล้านตัว เกรงโรคระบาด สั่งคณะเข้าสอบแก้ปัญหาเร่งด่วน ขณะที่เตรียมนำเครื่องอุปโภคบริโภคขึ้น เฮลิคอปเตอร์ ลำเลียงส่งประชาชนในพื้นที่ ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้


นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับรายงานจากปศุสัตว์ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ไก่ไข่จากฟาร์มกรรณสูตร ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตายแล้วกว่า 1,000,000 ตัว จากภาวะน้ำท่วม เนื่องจาก ไม่สามารถขนย้ายออกมาได้ทัน ซึ่งคาดว่าจะส่งกลิ่นเหม็นเน่าและเป็นสาเหตุของโรคติดต่อ ล่าสุด ทาง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รายงานไปยัง ศปภ. แล้ว และในช่วงเช้าวันนี้ คณะของ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกับ นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ จะเดินทางโดยเรือ เข้าไปดูสถานที่ ที่ฟาร์มกรรณสูตร เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำชับให้ ปศุสัตว์จังหวัด และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เร่งแก้ไขภาวะแวดล้อม โดยให้เน้นพื้นที่ในเขตชุมชนเป็นพื้นที่เร่งด่วน

สำหรับการตายของไก่ไข่ที่ฟาร์มกรรณสูตในครั้งนี้ คาดว่า จะใช้สาร E.M. (อี.เอ็ม.) หรือ สารอื่น เพื่อความเหมาะสมในการลดกลิ่นเหม็นของไก่ตาย เนื่องจาก ยังไม่มีวิธีการนำซากไก่ออกมาได้


นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในวันนี้ ทาง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้นำเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ นำเครื่องอุปโภคบริโภค ลำเลียงทางอากาศ เพื่อนำไปส่งให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่การช่วยเหลือเยียวยายังเข้าไม่ถึง โดยมีการกำหนดจุดปฏิบัติการดังกล่าวไว้ ประมาณ 16 จุด ในพื้นที่ 9 อำเภอ รวมถุงยังชีพทั้งหมด 1,500 ชุด ซึ่งทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดเตรียมเรือ เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อการเข้าถึงของประชาชน สำหรับ จุดปฏิบัติการดังกล่าว ได้ให้อำเภอเป็นผู้กำหนดจุด ในการเข้าให้ความช่วยเหลือ โดยจะบินปฏิบัติการทั้งวัน สำหรับการรับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อขอการช่วยเหลือของทาง จ.พระนครศรีอยุธยานั้น ในแต่ละวัน มีอยู่จำนวนมาก โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำชับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดลำดับของความสำคัญอย่างแท้จริง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนกว่า

Link : http://www.innnews.co.th/ไก่ฟาร์มบางปะอินน้ำท่วมตายกว่าล้านตัว--314637_06.html

 

เส้นทางเลี่ยงภาคอิสานค่ะ

 

ใจเย็น ๆ ค่ะ ทุกคนย่อมมีอุปสรรค ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ ยังไงก็ต้อง สู้ต่อไป

ช่วงหลัง จอย เอง จะพยายามเก็บข้อมูลใน คอมฯ ทุกๆ 4 เดือน เพราะกลัวเครื่อง Hang เหมือนกัน

สู้ๆนะค่ะ chearr

 

นายกฯ วอนคนกรุงเชื่อมือรัฐป้องกันน้ำท่วมเขต ศก.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 ตุลาคม 2554 10:32 น.


น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รายงานสถานการณ์น้ำท่วมผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 โดยเป็นการบันทึกเทปไว้เมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากต้องใช้เวลาในช่วงเช้าวันนี้ติดตามการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมที่ยังวิกฤตอยู่ในหลายพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรีรายงานถึงสภาพความวิกฤตจากน้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งรัฐบาลยึดหลักปฏิบัติการป้องกันเขตเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ เช่น สถานที่สำคัญ อย่างท่าอากาศยาน ศูนย์อพยพต่างๆ ซึ่งจะเร่งผลักดันน้ำสู่ทะเล โดยใช้ 3 ช่องทาง คือ ปากแม่น้ำเจ้าพระยา และการระบายน้ำลงทะเลในฝั่งตะวันออกและตะวันตกของลำน้ำเจ้าพระยา ซึ่งฝั่งตะวันออกจะผ่าน จ.นครนายก โดยมีการขุดลอกคูคลองเพิ่มขึ้น 7 แห่ง ซึ่งจะเป็นช่องทางการระบายน้ำสู่ทะเล

ขณะที่ฝั่งตะวันตกจะใช้คลองมหาสวัสดิ์ คลองมหาชัย และอีกหลายคลอง ซึ่งรัฐบาลจะเร่งขุดทางลัดเพื่อย่นระยะเวลาในการไหลออกสู่ทะเลของมวลน้ำด้วยเช่นกัน
สำหรับการผลักดันน้ำต้องขอบคุณภาคเอกชนที่ช่วยนำเรือมาใช้ในการผลักดันน้ำร่วมกันในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า คันกั้นน้ำฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานครมีความแข็งแรงมาก ซึ่งขอให้ไว้วางใจว่าจะไม่มีน้ำท่วมเข้าในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานครอย่างแน่นอน

 

กรุงเทพมหานคร เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับชาวบ้านผู้สบภัยน้ำท่วม

กรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้สำนักงานเขตฝั่งตะวันออกและ 13 เขตที่อาศัยอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ทำการจัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับชาวบ้านผู้สบภัยน้ำท่วม โดยล่าสุดได้มีการรวบรวมชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงทั้งสิ้น 191 ชุมชน ใน 4 เขตฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ได้แก่ (คลิกที่รายชื่อเพื่อดูแผนที่ของศูนย์อพยพ)



เขตมีนบุรี

โรงเรียนบึงขวาง (มหาดไทยอุปถัมภ์)
โรงเรียนวังเล็กวิทยานุสรณ์ (คลองสี่)
โรงเรียนคลองสาม
โรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน
โรงเรียนศาลาคู้
โรงเรียนบ้านเกาะ
วัดใหม่ลำนกแขวก
โรงเรียนคลองสองต้นนุ่น
กลับสู่ด้านบน

เขตหนองจอก

โรงเรียนวัดแสนเกษม
โรงเรียนวัดใหม่เจริญราษฎร์
โรงเรียนวัดพระยาปลา
โรงเรียนวัดหนองจอก (ภักดีนรเศรษฐ)
โรงเรียนสามแยกท่าไข่
โรงเรียนนีลราษฎร์อุปถัมภ์
โรงเรียนสุเหร่าศาลาแดง
โรงเรียนหลวงแพ่งบำรุงรัฐกิจ
โรงเรียนสุเหร่าหะยีมินา
โรงเรียนสุเหร่าใหม่
โรงเรียนบ้านลำต้นกล้วย
โรงเรียนวัดทรัพย์สโมสร
โรงเรียนวัดสามง่าม
โรงเรียนสุเหร่าคลองเก้า
โรงเรียนสุเหร่าคลองสิบ
โรงเรียนสุเหร่าคลองสิบเอ็ด
โรงเรียนลำบุหรี่พวง
โรงเรียนวัดสีชมพู
โรงเรียนอิสลามลำไทร
โรงเรียนบ้านเจียรดับ
โรงเรียนสุเหร่านาตับ
โรงเรียนวัดลำต้อยติ่ง
โรงเรียนศิริวังวิทยาคาร
โรงเรียนวัดใหม่กระทุ่มล้ม
โรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง
โรงเรียนสุเหร่าบ้านเกาะ
โรงเรียนหนองจอกพิทยานุสรณ์
โรงเรียนศิริวังวิทยาคาร
โรงเรียนสังฆประชานุสรณ์
กลับสู่ด้านบน

เขตลาดกระบัง

โรงเรียนวัดบึงบัว
โรงเรียนวัดสุทธาโภชน์
โรงเรียนลำพะอง
โรงเรียนวัดทิพพาวาส
โรงเรียนวัดลาดกระบัง
โรงเรียนวัดปลูกศรัทธา
โรงเรียนวัดบำรุงรื่น
โรงเรียนวัดราชโกษา
โรงเรียนประสานสามัคคี
โรงเรียนวัดพลมานีย์
โรงเรียนแสงหิรัญวิทยา
โรงเรียนตำบลชุมทอง
โรงเรียนสุเหร่าลำนายโส
กลับสู่ด้านบน

เขตคลองสามวา

โรงเรียนประชาราษฎร์อุปถัมภ์วิทยา
โรงเรียนสุเหร่าคลองหนึ่ง
โรงเรียนสุเหร่าสามวา
โรงเรียนวัดสุขใจ
โรงเรียนวัดศรีสุก
โรงเรียนสุเหร่าคลองสี่
โรงเรียนวัดลำกระดาน
โรงเรียนวัดสุทธิสะอาด
โรงเรียนบ้านแบนชะโด
โรงเรียนวัดแป้นทอง
โรงเรียนวัดพระยาสุเรนทร์
โรงเรียนวัดบัวแก้ว
โรงเรียนสุเหร่าแสนแสบ
โรงเรียนสุเหร่าเกาะขุนเณร
กลับสู่ด้านบน

ศูนย์อพยพนอกแนวคันกั้นน้ำ

โรงเรียนวัดสร้อยทอง
โรงเรียนมัชฌนติการาม
โรงเรียนวัดจันทรสโมสร
โรงเรียนวัดราชผาติการาม
โรงเรียนวัดเทวราชกุญชร
วัดอินทรวิหาร
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
โรงเรียนวัดพระเชตุพน
วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร
โรงเรียนวัดจันทร์ใน
โรงเรียนวัดลาดบัวขาว
โรงเรียนวัดบางโคล่นอก
โรงเรียนวัดจันทร์นอก
โรงเรียนวัดช่องลม
วัดสะพาน
โรงเรียนวัดฉัตรแก้วจงกลนี
โรงเรียนวัดดุสิตาราม
โรงเรียนมัธยมวัดดุสิต
โรงเรียนสตรีวัดระฆัง
โรงเรียนวัดกัลยาณมิตร
กลับสู่ด้านบน



แก้ไขล่าสุด ใน วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2011 เวลา 08:43 น.

 

ยังต้องเฝ้าระวังกทม.15-17ต.ค.


15 ตุลาคม 2554 เวลา 10:19 น. <!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
กทม.ย้ำยังต้องเฝ้าระวัง กทม.15-17 ต.ค.นี้ หวั่นพายุ“บันยัน”ซ้ำ

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาบริเวณท่าพระจันทร์ ปริมาณน้ำได้ไหลรั่วซึม ซึ่งทางสำนักระบายน้ำกรุงเทพมหานครได้เร่งระบายน้ำลงปลายน้ำเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลไปยังผิวถนน เพื่อป้องกันจราจรติดขัด ขณะที่ระดับน้ำปากคลองตลาดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาวัดได้ 2 เมตร 4 เซนติเมตร ซึ่งระดับน้ำจะขึ้นสูงสุดในช่วงเวลา 08.00 น.เศษ

ทั้งนี้ ทางศูนย์ระบายน้ำของกรุงเทพมหานครจะทำการแจ้งระดับน้ำในทุก 15 นาที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ ทั้ง 8 จุดได้รับทราบถึงสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บางจุดยังไม่สามารถทำคันกั้นน้ำได้

อย่างไรก็ตามในวันนี้ทางกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ได้แจ้งสภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยในวันนี้ระดับจะขึ้น 2 ครั้งในเวลา 08.41 น.ปริมาณน้ำจะสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 2 เมตร 18 เซนติเมตร และในเวลา 19.25 น.คาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงกว่าระดับทะเลปานกลางแต่จะลดลงจากช่วงเช้าที่ผ่านมาเล็กน้อยประมาณ 2 เมตร 5 เซนติเมตร ทั้งนี้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจะต้องติดตามเฝ้าระวังอีกครั้งในคืนวันที่ 27-31 ตุลาคม 2554 ซึ่งจะเป็นช่วงน้ำทะเลขึ้นสูงสุด และจะสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 2 เมตร 30 เซนติเมตร

ด้านนายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวานนี้ (14 ต.ค.) ที่ปากคลองตลาดเมื่อเวลา 08.00 น.สูง 2.13 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำลายสถิติระดับน้ำที่สูงสุดในปีนี้และปีที่แล้วที่ 2.10 เมตร ดังนั้นจึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ สั่งการให้สำนักงานเขตเร่งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน 27 ชุมชน นอกแนวคันกั้นน้ำ ให้เตรียมอพยพเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคงไม่สามารถพักอาศัยต่อไปได้ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 15-17 ต.ค.นี้ ถือเป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด ขณะเดียวกันทางผู้บริหาร กทม.ได้วางแนวทางการทำงานใหม่ โดยจะจัดประชุมทุกๆ 6 ชั่วโมงเพื่อประเมินสถานการณ์วันต่อวัน

นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานศูนย์ประงานการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ศปภ.ทส.) กล่าวว่า ทั้งนี้สิ่งที่ต้องจับตาในขณะนี้ก็คือเรื่องของฝนจากพายุดีเปรสชันบันยัน ที่ต้องลุ้นว่าในอีก 120 ชั่วโมงหรือราวอีก 4-5 วันที่จะถึงนี้เส้นทางของพายุบันยัน ที่กำลังเดินทางขึ้นจากทะเลพุ่งตรงสู่เมืองดานัง ของประเทศเวียดนาม จะวกเข้ามาจนทำให้เกิดฝนตกในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั่วทุกพื้นที่ และบางส่วนของ จ.ตราด และจันทบุรี หรือไม่

ขณะที่ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกยังคงระดมทหารและยุทโธปกรณ์ เข้าช่วยแก้ไขวิกฤตสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ เพื่อป้องกันและแก้ไขวิกฤติน้ำที่กำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยวันนี้มีการทำงานในพื้นที่สำคัญหลายจุดได้แก่ บริเวณรังสิตคลองหนึ่ง - คลองแปด ยังคงใช้กำลังทหารจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร. 2 รอ.) เข้าวางแนวกระสอบทรายคู่ขนานกับถนนรังสิต - องครักษ์ เป็นระยะทาง 17 กิโลเมตร เพื่อรักษาพื้นที่ไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วม เพราะอาจส่งผลต่อสถานการณ์น้ำท่วมในเขตกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตามจากการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในช่วงวันที่ 14 - 19 ต.ค.นี้ ซึ่งมีความน่าเป็นห่วงเนื่องจากน้ำทะเลหนุน และปริมาณน้ำจำนวนมากจากพื้นที่ตอนบนจะเข้าสู่ภาคกลางตอนล่างรวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ดังนั้นผู้บัญชาการทหารบกกำชับให้ทุกหน่วยทหารเฝ้าตรวจสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดช่วง 3-5 วันนี้

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

อีสานพบผู้ป่วยฉี่หนูแล้ว 59 ราย

ข่าวภูมิภาค วันเสาร์ที่ 15 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 11:31 น.

กรมควบคุมโรคที่ 7 ระบุ ภาคอีสาน พบผู้ป่วยโรคฉี่หนูแล้ว 59 ราย เตือน ประชาชน ระวังโรคภัยที่มากับน้ำ

น.พ.สุรศักดิ์ เกษมศิริ รองผู้อำนวยการเขต 7 เปิดเผยว่า ช่วงสถานการณ์น้ำท่วม จากวันที่ 1 กันยายน - 14 ตุลาคม จากการตรวจโรคในเขต 7 ช่วงน้ำท่วมที่สำคัญพบโรคฉี่หนู หรือเล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) ที่ จ.นครพนม 1 ราย จ.สกลนคร 3 ราย จ.ยโสธร 4 ราย จ.ศรีสะเกษ 45 ราย และ จ.อุบลราชธานี 6 ราย รวมทั้งสิ้น 59 ราย ส่วน จ.มุกดาหาร และ จ.อำนาจเจริญ ไม่พบโรคฉี่หนูแต่อย่างใด

สำหรับโรคตาแดงช่วงน้ำท่วม ตรวจพบ จำนวน 1,186 ราย ดังนั้น น.พ.สุรศักดิ์ จึงขอเตือนประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกพื้นที่ ให้ระวังโรคมากับน้ำท่วม ช่วงใดน้ำขังนาน ๆ น้ำนิ่ง น้ำไม่ไหล ถ้าลงลุย เมื่อขึ้นจากน้ำ ให้รีบล้างน้ำล้างตัวให้สะอาดด้วยสบู่ ถ้าป่วยเป็นโรค ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน


Link : http://www.innnews.co.th/อีสานพบผู้ป่วยฉี่หนูแล้ว-59-ราย--314657_06.html