ไปล่ะเหวย....ไปล่ะวา...

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Nirvana, 20 ตุลาคม 2011.

  1. ppoonsuk

    ppoonsuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    3,994
    ค่าพลัง:
    +7,068
    ตอนนี้อยู่วัดที่กาฬสิน จะไปอุดร
     
  2. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    อยู่ตะวันออกเฉียงใต้สุดๆๆ....ของเมืองน้ำดำ ครับ

    ข้ามห้วยหลังบ้านนี้ไปก็ร้อยเอ็ด แล้วครับ

    จริงๆชอบสับปายะวัดหนองป่ากุง ของหลวงปู่ศรีมาก ครับ
    เสียดายได้ไปชมบุญเพียงครั้งเดียว

    เจริญสุข เจริญธรรม ครับ :cool:
     
  3. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    เดี๋ยวอาทิตย์หน้า....ว่าจะไปภูลังกา

    ไปบ่มเพาะวิชาและเคาะสนิม...ซะหน่อย....อิอิอิอิ :cool:

    ขอบคุณที่มาช่วยดันกระทู้ ครับ
     
  4. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    ผ่านมา 21 วัน.....

    พี่กรุงยังถูกน้องน้ำกระชับพื้นที่อย่างเป็นนัยะสำคัญ
    โอบกระชับบีบวงล้อมเข้ามาทุกชั่วโมง.....ประดุจคีมของเหลวขนาดใหญ่อันทรงพลัง

    ชาวกรุงแตกพ่าย หนีหายออกจากเคหะสถานยกเขตยกแขวง
    นิคมต่างๆแตกพ่ายเป็นรายทาง มิบังอาจสู้น้องน้ำได้เลย

    บริบทสุดท้าย น้องน้ำคงร่วมเสวยสุขสันต์กับพี่กรุงสักเดือนนึง....
    เผลอๆยาวไปถึงปีใหม่......Happy New Year 2012...

    5555555555555555 (deejai)
     
  5. Twana

    Twana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +725
    กระทู้เขาดันกันยังไงคะ
    ฮ่องกงฝนตก ล้อมด้วยทะเลลึกแต่ดูมั่นคงแข็งแกร่ง หายเครียดไปหน่อยค่ะ น้ำ กทมท่วมถึงไหนแล้วคะ
     
  6. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    ทางการรบ...ถือว่าเป็นการถอยหนีเข้าสู่วงล้อมของศัตรูหรือเปล่าครับเนี่ย.....ไม่น่าจะมีใครเค้าทำกันนะครับ....แต่ทำไม...จึงทำ....เหตุผลอะไร...ผลประโยชน์อะไรมาบังหรือเปล่า...
     
  7. พญาไก่ป่า

    พญาไก่ป่า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +5



    การตั้งทัพตามตำราภูมิต่างๆ
    จากวรรณคดีเรื่องลิลิตตะเลงพ่าย มีการกล่าวถึงตำราพิชัยสงครามว่าด้วยการตั้งทัพ ดังนี้

    การตั้งทัพก่อนออกรบก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการตั้งกระบวนทัพ จึงจำเป็นต้องทราบว่าภูมิประเทศของศัตรูเป็นแบบใด หรือตั้งทัพในลักษณะภูมิแบบใด ชื่อแม่ทัพต้องข่มนามดังกล่าว หรือตั้งทัพให้สถานที่ข่มนามนั้น เพื่อกองทัพจะได้มีลักษณะที่ดีกว่า และสามารถเอาชนะข้าศึกได้ การสังเกตลักษณะภูมิต่างๆ ดังนี้

    ครุฑนาม มีจอมปลวก ต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง
    พยัคฆนาม ตั้งอยู่แนวป่าริมทาง
    สีหนาม มีต้นไม้สามต้นเรียงกัน มีภูเขาใหญ่ จอมปลวกใหญ่มหึมา
    สุนัขนาม ตั้งทัพใกล้ของโบราณ หรือริมทางใกล้หมู่บ้าน
    นาคนาม ตั้งรายทางไปใกล้คลอง ห้วย แม่น้ำไหล
    มุสิกนาม มีดิน โพรง ปลวก มีรู
    อัชนาม ตั้งทัพกลางทุ่ง
    คชนาม สถานที่มีหญ้าแกมไม้ไผ่



    ราชการสงครามในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช




    <O:p<CENTER>
    [SIZE=+2]การเสริมความแข็งแกร่ง
    [​IMG]</CENTER>
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]การที่เขมรลอบเข้ามาซ้ำเติมไทยหลายครั้ง ในห้วงเวลาที่ไทยเสียแก่พม่านั้น นับว่าเป็นคุณแก่ไทยในทางอ้อม เพราะทำให้ราษฎรที่กระจัดกระจายอยู่ในที่ต่าง ๆ ครั้งเสียกรุงแก่พม่า ให้หนีภัยเขมร กลับเข้ามาอยู่ในกรุงศรีอยุธยา ทำให้ฝ่ายไทยมีกำลังขึ้น นอกจากนั้นก็เป็นโอกาสที่ฝ่ายไทย คิดอ่านจัดการป้องกันพระนคร ให้แข็งแกร่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องเกรงว่าทางพม่าจะระแวงสงสัย

    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]การดำเนินเสริมสร้างความมั่นคงดังกล่าว ได้แก่การเสริมการป้องกันพระนครทางด้านตะวันออก ซึ่งเป็นด้านที่ข้าศึก เคยตีฝ่าเข้าพระนครมาได้ในสงครามที่ผ่านมา โดยให้ขุดขยายคลองขื่อหน้าคูพระนคร ตั้งแต่วัดแม่นางปลื้ม ตรงที่ต่อปากคลองเมืองทุกวันนี้ ลงไปจนปากข้าวสาร ให้ลึกและกว้างกว่าเดิม และผลจากการขุดคลองขื่อหน้านี้ ได้ให้กำแพงพระนครด้านทิศตะวันออก ขยายลงไปถึงริมแม่น้ำ ให้เหมือนกับกำแพงเมืองด้านอื่น จากนั้นได้ให้สร้างป้อมใหญ่ขึ้นอีกป้อมหนึ่ง ที่มุมพระนครด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือเรียกว่า ป้อมมหาชัย ซึ่งอยู่ตรงตลาดหัวรอในปัจจุบัน[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]ป้อมตามแนวกรุงเก่าซึ่งมีอยู่ 16 ป้อมด้วยกันนั้น มีป้อมสำคัญอยู่ 3 ป้อม คือ ป้อมเพชร ตั้งอยู่ตรงลำแม่น้ำ ใช้รักษาพระนครทางด้านทิศใต้ ป้อมซัดกบ ตั้งอยู่ตรงลำแม่น้ำแควหัวตะพาน ใช้รักษาพระนครทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหมือ ทั้งสองป้อมนี้มีอยู่เดิมตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ ส่วนป้อมมหาชัยนั้นสร้างขึ้นใหม่ อยู่ตรงทางน้ำร่วม ที่มุมเมืองด้านตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อใช้รักษาพระนครทางด้านนี้[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]นอกจากการสร้างเสริมคูเมืองกำแพงเมือง และบรรดาป้อมปราการทั้งหลายแล้ว ก็ได้มีการรวบรวมกำลังพล ช้าม้าพาหะ และจัดหาเครื่องศัตราวุธ มีปืนใหญ่เป็นต้นมาเพิ่มเติม โดยจัดหาจากต่างประเทศ ที่เข้ามาค้าขายทางทะเลอยู่แล้ว[/FONT]




    <CENTER>
    [SIZE=+2]การรบที่เมืองคัง[/SIZE]
    [​IMG]</CENTER>[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]เมื่อปี พ.ศ. 2124 พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองสวรรคต ราชโอรสองค์ใหญ่พระนามมังไชยสิงห์ ซึ่งเป็นรัชทายาท และดำรงตำแหน่งมหาอุปราช ได้ขึ้นครองราชย์ ทรงพระนามว่า พระเจ้านันทบุเรง พระเจ้านันทบุเรงได้ตั้งมังกะยอชะวา พระราชโอรสขึ้นเป็นพระมหาอุปราชา เมื่อกษัตริย์องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ ก็จะต้องมีฎีกาบอกกล่าวไปยังบรรดาประเทศราชทั้งหลาย ให้มาเฝ้าตามพระราชประเพณี ในครั้งนั้นก็มีพระเจ้าตองอู ผู้เป็นพระอนุชาพระเจ้าบุเรงนอง พระเจ้าแปรเป็นราชบุตรพระเจ้าบุเรงนอง แต่คนละแม่กับพระเจ้านันทบุเรง พระเจ้าอังวะผู้เป็นราชบุตรเขยพระเจ้าบุเรงนอง พระเจ้าเชียงใหม่ พระเจ้ามินปะลอง ผู้ครองเมืองยะไข่ พระเจ้าหน่อเมือง ผู้ครองเมืองลานช้าง และสมเด็จพระมหาธรรมราชา ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา ซึ่งทางกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาธรรมราชาได้ส่งพระโอรสพระองค์ใหญ่คือ สมเด็จพระนเรศวร เสด็จไปแทนพระองค์[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]ในเหตุการณ์ครั้งนี้ มีเจ้าเมืองคังไม่ได้มาเข้าเฝ้าตามประเพณี พระเจ้านันทบุเรงเห็นว่าเจ้าเมืองคังแข็งเมือง จำต้องยกทัพไปปราบปราม เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป ในโอกาสที่เจ้าประเทศราชมาชุมนุมกันอยู่นี้ จึงให้โอรสของพระองค์ และโอรสเจ้าประเทศราชที่มีฝีมือ ยกกำลังไปปราบปรามเมืองคังแทนพระองค์ ดังนั้นจึงได้จัดให้พระมหาอุปราชา (มังกะยอชะวา หรือ มังสามเกลียด) พระสังกทัต (นัดจินน่อง) ราชบุตรพระเจ้าตองอู และสมเด็จพระนเรศวร ยกทัพไปตีเมืองคัง เป็นทำนองประชันฝีมือกัน[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]เมืองคังเป็นเป็นที่ตั้งอยู่บนภูเขา เป็นเมืองเล็กพื้นที่น้อย การที่กองทัพทั้ง 3 จะเข้าตีพร้อมกันเป็นการลำบาก เพราะไม่มีพื้นที่ให้ดำเนินกลยุทธได้เพียงพอ จึงตกลงกันให้ผลัดกันเข้าตีวันละกองทัพ พระมหาอุปราชาได้รับเกียรติให้เข้าตีก่อน เมื่อถึงวันกำหนด พระมหาอุปราชาก็ยกกำลังเข้าตีเมืองคังในเวลากลางคืน ชาวเมืองคังได้ต่อสู้ป้องกันเมืองเป็นสามารถ รบกันจนรุ่งสว่างก็ไม่สามารถตีหักเอาเมืองได้ จึงต้องถอนกำลังกลับลงมา วันต่อมา พระสังกทัตได้ยกกำลังเข้าตีเมืองคัง แต่ก็ไม่สำเร็จอีกเช่นกัน[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]เมื่อถึงวาระของสมเด็จพระนเรศวร พระองค์ได้มีการเตรียมการเป็นอย่างดี โดยที่ในระหว่างสองวันแรก ที่กองทัพทั้งสองผลัดกันเข้ามาโจมตรีนั้น พระองค์ได้ใช้เวลาดังกล่าว ออกลาดตะเวณตรวจดูภูมิประเทศ และเส้นทางบริเวณเมืองคังโดยตลอด ก็พบว่า มีทางที่จะขึ้นไปยังเมืองคังทางด้านอื่นได้อีกทางหนึ่ง นอกจากเส้นทางหลักที่กองทัพทั้งสองใช้เข้าตี แต่เส้นทางดังกล่าวนั้นเป็นเส้นทางลับ และคับแคบ เคลื่อนกำลังไม่สะดวก ดังนั้น พระองค์จึงแบ่งกำลังออกเป็นสองส่วน เมื่อถึงเวลาค่ำก็ให้กองทหารกองเล็กซุ่มอยู่ทางด้านหน้า ซึ่งเป็นทางหลักที่พระมหาอุปราชาและพระสังกทัต ใช้เป็นเส้นทางเข้าตีมาก่อนแล้ว และให้กองทหารกองใหญ่ ไปวางกำลังอยู่ที่เส้นทางที่ตรวจพบใหม่ กองทัพไทยทั้งสองกองซุ่มอยู่ตลอดคืน จนถึงเวลาสี่นาฬิกา พระองค์จึงให้กองทหารกองเล็ก ยิงปืนโห่ร้อง แสดงอาการว่าจะเข้าตีเมืองทางด้านนั้น ชาวเมืองคังเข้าใจว่า ข้าศึกจะยกเข้าตีหักเอาเมืองทางด้านนั้น เหมือนเช่นครั้งก่อน และด้วยเป็นเวลามืด มองไม่เห็นข้าศึกว่ามีมากน้อยเพียงใด ก็พากันมารบพุ่งต้านทางในด้านนั้น เมื่อพระองค์ทรงเห็นว่า การต้านทานเมืองคัง ได้ทุ่มเทไปทางด้านนั้นหมดแล้ว ก็สั่งให้กองกำลังส่วนใหญ่ ที่ซุ่มคอยอยู่ที่เส้นทางใหม่ เข้าตีหักเอาเมืองคังได้เมื่อเวลาเช้า จับได้ตัวเจ้าฟ้าเมืองคังมาถวายพระเจ้าหงสาวดี[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]พระเจ้าหงสาวดีหมายมั่นที่จะให้การเข้าตีเมืองคัง เป็นผลงานของพระมหาอุปราชา แต่ผลงานกลับเป็นของสมเด็จพระนเรศวร ผลสำเร็จในการปฎิบัติการยุทธของสมเด็จพระนเรศวรครั้งนี้ เพราะพระปรีชาสามารถ ที่ทรงใช้หลักการสงคราม มาประยุกต์ใช้ในการปฎิบัติจริงอย่างได้ผล เมื่อพระองค์เสด็จกลับมากรุงศรีอยุธยาแล้ว ก็ได้ทรงปรับปรุงกองทัพ และเตรียมการณ์ต่าง ๆ ไว้พร้อมที่จะรับสถานการณ์ในอนาคตโดยมิได้ประมาท[/FONT]


    การเดินทัพตำราสงครามซุนวู

    ปราชญ์ซุนวูกล่าวว่า
    อันการคุมทัพและพินิจความศึกนั้น


    ถ้าเดินทัพข้ามภูเขา
    จักต้องเดินตามหุบห้วยละหาน
    ถ้าอยู่ในคมนาคมสะดวกต้องตั้งทัพในที่สูง
    ถ้าข้าศึกตั้งอยู่ในที่สูงชัน
    ก็อย่าได้พยายามตีฝ่าขึ้นไป
    นี้คือคุมทัพในที่ดอยแล

    ถ้าเดินทัพข้ามแม่น้ำ
    ต้องรีบเร่งให้ห่างสายน้ำนั้นทันที
    ถ้าฝ่ายข้าศึกข้ามแม่น้ำมา
    ก็อย่าได้เข้าปะทะกันกลางน้ำ
    ต้องรอให้อยู่ในสะเทินน้ำสะเทินบก
    จึงโหมกำลังตีโดยฉับพลัน
    (อนึ่ง) การยุทธนั้นอย่าได้เรียงค่าย
    ตามฝั่งแม่น้ำคอยรับทัพศึก
    พึงตั้งทัพลงบนที่สูงซึ่งมีการคมนาคมสะดวก
    และ (ครารุกไล่) ก็อย่าได้อยู่ในตำแหน่งที่ทวนน้ำ
    นี้คือการคุมทัพในลำน้ำแล

    ถ้าเดินทัพในที่ลุ่มซึ่งเป็นเนื้อดินเค็ม
    ต้องเร่งรุดข้ามไปโดยพลัน
    ถ้าเกิดปะทะกับข้าศึกในที่เช่นนี้
    ต้องหันหลังเข้าอิงป่า
    และต้องทอดค่ายตามที่ซึ่งมีพืชน้ำจืดอยู่
    นี้คือการคุมทัพในที่ลุ่มแล


    ถ้าอยู่ในที่ราบ
    ต้องเลือกชัยภูมิที่อำนวยความได้เปรียบ
    คือปีกขวาอิงเนินสูง เบื้องหน้าเป็นแดนตาย
    (เช่นห้วงน้ำหรือหน้าผา ฯ,ฯ เพื่อข้าศึกยกเข้าตียาก)
    เบื้องหลังเป็นแดนเป็น (คมนาคมสะดวก)
    นี้คือการคุมทัพในที่ราบแล


    อันความได้เปรียบในการคุมทัพ 4 ประการคือ
    ชำนะกษัตริย์อื่น ๆ ตลอดทั้ง 4 ทิศแล


    อันการตั้งทัพชอบที่จะอยู่ที่สูง พึงรังเกียจที่ต่ำ
    เหมาะที่หันสู่ทิศโปร่ง(อาคเนย์)
    แต่รังเกียจทิศทึบ (ทิศพายัพ)
    ต้องตั้งอยู่ในที่ถูกสุขลักษณะมีอาหารของใช้อุดม
    เมื่อรี้พลปราศจากโรคภัยไข้เจ็บแล้ว
    ย่อมกล่าวได้ว่าจักต้องมีชัยแน่นอน

    ถ้าตั้งทัพตามสันเนินหรือบนทำนบกั้นน้ำ
    ต้องเลือกอาคเนย์ และทอดปีกขวาอิงไว้
    จะได้เปรียบทั้งทางการยุทธและพื้นภูมิแล


    หากฝนเหนือตกชุกมีฟองน้ำลอยฟ่องมา
    (เป็นสัญญาณว่าน้ำจะหลาก)
    เมื่อจะลุยข้ามห้วยน้ำนั้น ควรรอให้ระดับน้ำนั้นแน่เสียก่อน
    (มิฉะนั้นข้ามไปโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ
    เมื่อน้ำทะลักมาจนเชี่ยวกราก อาจประสบหายนะ)

    อันภูมิประเทศย่อมมีลักษณะต่าง ๆ กัน
    เช่น มีหุบห้วยอันมีหน้าผาสูงชัน
    ที่ลุ่มซึ่งเหมือนอยู่ก้นบ่อ
    ถิ่นที่มีป่าเขาล้อมรอบ (ยากแก่การเข้าออก)
    รกชัฏเต็มไปด้วยขวากหนาม เหมือนข่ายธรรมชาติ
    ที่หล่มเต็มไปด้วยโคลนเลน
    และทางแคบซึ่งมีหุบเหวขนาบขนานอยู่
    สถานที่เช่นนี้
    เมื่อประสบพบเข้าต้องรีบรุดออกห่างทันที
    อย่าได้กรายใกล้มันเลย
    (ถ้าเกิดสัประยุทธ์ขึ้น) เราต้องผละห่างจากมัน
    โดยต้องให้ข้าศึกเข้าประชิด หรือให้มันอยู่เบื้องหน้าเรา
    แต่ขวางอยู่เบื้องหลังข้าศึก

    ถ้าริมทางเป็นที่วิบาก หรือสระหนองหุบห้วย
    หรือพงอ้อกอแขม หรือแนวป่าหมู่ไม้
    หรือที่ไพรพฤกษ์รกทึบ
    ต้องตรวจค้นอย่างระแวดระวัง
    เพราะสถานที่เช่นนี้มักเป็นที่ซุ่มทัพ
    หรือที่ซ่อนตัวของกองสอดแนมฝ่ายข้าศึก


    (เมื่อสองทัพเข้าประชิดกัน)
    ฝ่ายข้าศึกยังคงสงบเงียบ นั่นหมายถึงเขาวางใจ
    ในความได้เปรียบแห่งชัยภูมิของเขา
    ถ้าทัพข้าศึกมาท้ารบแต่ทางไกล
    เขาประสงค์จะให้ฝ่ายเรารุกไล่ติดตามไป
    ถ้าข้าศึกตั้งทัพในที่ง่ายต่อการโจมตี
    นั่นเขาทอดเหยื่อล่อแล

    ถ้าเห็นหมู่ไม้ไหวต้น
    นั่นแสดงว่าข้าศึกยกมาแล้ว
    ถ้าเห็นผูกหญ้าคาพรางไว้มากหลาย
    นั่นเขาประสงค์จะให้เราเกิดสนเท่ห์ใจ

    ถ้าเห็นหมู่นกตกใจบินถลาขึ้น
    แสดงว่ามีทหารซุ่มอยู่
    ถ้าเห็นเหล่าสัตว์แตกกระเจิดกระเจิง
    แสดงว่ามีกองจู่โจมซ่อนอยู่แล


    ถ้าเห็นฝุ่นตลบสูงเป็นลำแหลม
    แสดงว่ากองรถข้าศึกวิ่งตะลุยมา
    ถ้าต่ำและปริมณฑลกว้าง
    เป็นการเดินทัพของพลราบ
    ถ้ากระจายเป็นหย่อม ๆ เป็นลำ ๆ
    แสดงว่าเป็นการเก็บผักหักฟืนของกองเกียกกาย
    ถ้าฝุ่นมีเพียงบาง ๆ เคลื่อนไหวไปมา
    แสดงว่าข้าศึกกำลังตั้งค่าย


    (ถ้าข้าศึกส่งทูตมาติดต่อ)
    วาจาถ่อมแต่เร่งรุดในการเตรียม
    แสดงว่าจะมีการรุก
    ถ้าพาทีอหังการมีท่วงทีประหนึ่งจะตะลุมบอนด้วย
    แสดงว่าจะถอนทัพ
    ถ้าขอสงบศึกด้วยวาจา
    มิได้มีหนังสือรับรองเป็นกิจจะลักษณะ
    แสดงว่าเป็น กลศึก

    ถ้าเห็นกองรถเบาของข้าศึกขับแยกออกทางปีก
    แสดงว่ากำลังแปรขบวนทัพ (ซึ่งจะมีการสัประยุทธ์กัน)
    ถ้าเห็นข้าศึกวิ่งทบไปมาและขยายกำลัง
    แสดงว่า กำลังเตรียมพร้อมในการรับมือ
    ถ้ามีท่าทีถอยแต่มิใช่ หมายความว่ามีเชิง
    แสดงว่าจะล่อให้หลงกล


    ถ้าเห็นทหารข้าศึกยืนแซ่วโดยใช้อาวุธยันกาย
    แสดงว่าหิวโหย
    ถ้าเห็นตักน้ำแล้วรีบดื่มก่อน
    แสดงว่ากระหาย
    ถ้าข้าศึกเห็นความได้เปรียบแต่ไม่ยักรุกเอา
    แสดงว่าเหนื่อยล้าอิดโรยแล้ว

    ถ้าเห็นหมู่วิหควกบินลงจับกลุ่ม
    แสดงว่าเป็นที่เปล่าปลอดคนแล้ว
    ถ้าได้ยินเสียงข้าศึกกู่ก้องร้องขานในเพลาค่ำคืน
    แสดงว่าข้าศึกมีความขลาดกลัว
    ถ้าสังเกตว่าค่ายข้าศึกมีความอลวนไม่เป็นระเบียบ
    แสดงว่าแม่ทัพนายกองไม่เป็นที่เลื่อมใสของเหล่าพล
    ถ้าเห็นธงทิวเคลื่อนไหวไม่เป็นระเบียบ
    แสดงว่าระส่ำระสาย
    ถ้าเห็นจ่าทหารดาลเดือดดุด่า
    แสดงว่าพลทหารเหนื่อยอ่อน

    ถ้าข้าศึกฆ่าม้ากิน แสดงว่ากองทัพขาดแคลนเสบียงอาหาร
    ถ้าเที่ยวแขวนภาชนะเครื่องหุงต้มทิ้งไว้โดยไม่กลับค่ายอีก
    แสดงว่าข้าศึกได้ตกเป็นหมู่โจรอันจนตรอกแล้ว


    แม่ทัพนายกองพูดจากับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเชื่องช้า
    ซ้ำซาก ทั้งกิริยาก็เซื่อง ๆ ไม่มีผึ่งผาย
    แสดงว่ากองทัพนั้นขาดความสามัคคี
    ถ้ามีการปูนบำเหน็จรางวัลกันครั้งแล้วครั้งเล่า
    แสดงว่าจนต่อการควบคุมบังคับบัญชา
    (จึงใช้วิธีนี้เหนี่ยวรั้งน้ำใจรี้พล)
    ถ้ามีการทำโทษบ่อยครั้งติดกัน
    แสดงว่าแม่ทัพนายกองยุ่งยากใจต่อการคุมพลปานใด
    ถ้าโหดเหี้ยมดุร้ายในเบื้องต้น
    แต่ภายหลังกลับมีอาการหวาดระแวงในรี้พลของตนเอง
    นั่นแสดงว่าเป็นผู้นำที่บรมเลวทีเดียว


    ถ้าข้าศึกส่งเครื่องบรรณาการมา
    แสดงว่าต้องการพักรบ
    ถ้าข้าศึกยกมาตั้งรับอย่างฮึกเหิม
    แต่ตั้งอยู่นานวันโดยมิยุทธแย้งด้วย
    และก็ไม่ยกไปเสีย
    ความศึกเช่นนี้พึงพิเคราะห์จงหนักแล


    อันพลรบนั้น มิใช่สำคัญที่จำนวนมาก
    ถึงจะไม่มีการรุกพิฆาตอันเกริกก้อง
    แต่รู้จักชุมนุมกำลังเป็นอย่างดี
    พิเคราะห์ความศึกได้ถูกต้องแม่นยำ
    และเข้ารอนรานข้าศึกได้
    ก็เป็นเพียงพอแล้ว
    มีแต่ผู้คุมทัพที่ไร้ความคิดและหมิ่นข้าศึกเท่านั้น
    ที่ไม่แคล้วต้องตกเป็นเชลยแน่นอน


    การลงโทษทัณฑ์ทหาร
    ที่ยังไม่มีความเชื่อถือในผู้บังคับบัญชา
    ย่อมจะก่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง
    เมื่อปรากฏความกระด้างกระเดื่องแล้ว
    ย่อมยากต่อการช่วงใช้



    ถ้าพลทหารมีความเชื่อถือดี
    แต่ผู้บังคับบัญญาไม่ทำโทษในเวลาพึงมี
    (เหล่าพลก็จะกำเริบเสิบสาน)
    กองพลเช่นนี้จะใช้ในการสัประยุทธ์ไม่ได้



    เพราะฉะนั้น การบังคับบัญชาทัพ
    จงตั้งอยู่ในพรหมวิหารธรรม
    แต่ปรับให้เข้าแถวแนวด้วยอาชญา
    นี้คือกองทัพพิชิตแล




    ในเวลาปกติ คำสั่งของมุขบุรุษ
    ได้รับการปฏิบัติตามเป็นอย่างดี
    เมื่อฝึกสอน (วิชาการทหาร) แก่เหล่าพสกนิกร
    เขาก็จะเลื่อมใส
    หากคำสั่งของมุขบุรุษ
    มิได้รับการปฏิบัติอย่างครบถ้วน
    เมื่อฝึกสอน (วิชาการทหาร) แก่เหล่าพสกนิกร
    เขาย่อมไม่เลื่อมใสเป็นธรรมดา
    ฉะนั้น การบังคับบัญชาซึ่งได้รับการปฏิบัติด้วยดีนั้น
    แสดงว่ามุขบุรุษได้รับความไว้วางใจจากหมู่ชนแล้ว



    </O:p[/FONT][/SIZE]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2011
  8. ppoonsuk

    ppoonsuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    3,994
    ค่าพลัง:
    +7,068
    เมื่อวานพาลูกไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์สิรินธร เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กอย่างดีครับ

    ขากลับจะหนีไปอยู่อุดร ผ่านวัดแห่งหนึ่ง มีเจดีย์ใหญ่มาก ก็เลยแวะเข้าไปดู

    เป็นวัดที่สวยมากครับ ชื่อวัดพุทธนิมิต(ภูค่าว) ใครมากาฬสินธุ์ ลองแวะไปดูนะครับ สวยและเงียบสงบจริง ๆ ครับ:cool:
     
  9. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    ปล. พี่บิ๊ก....อย่าได้บังอาจมาขัดขวางความรักของน้องน้ำกับพี่กรุง นะคะ
    พี่คงเห็นตัวอย่างที่น้องน้ำเคยทำไว้กับยัยทราย...จอมยุ่งแล้ว อย่าให้มี
    น้ำโห...เด๋ว..ปัดส์...สสส :mad:
     
  10. ชัยธนันท์

    ชัยธนันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    859
    ค่าพลัง:
    +1,488
    ไปอยู่แถบอีสานดินแดนธรรมะ ใกล้ๆหลวงปู่มั่นก็ดีนะครับ
     
  11. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    ดันกระทู้......อิอิอิอิ

    ก็คือ การเข้ามาตอบหรือแสดงความเห็นในกระทู้ที่ถูกกระทู้ใหม่ดันให้ถอยไปหน้าหลังๆ ทำให้กระทู้ที่ถูกดันกลับมาอยู่ในระดับต้นๆ งัยครับ.....คุณป้า (smile)

    เรื่องฮ่องกงคุณป้าดูไว้ นะครับ เพราะอีกไม่นานคงจะไม่ได้เห็นอีกต่อไป Nirvana ไม่ได้ว่าเอง แต่ครูอาจารย์หลายท่านหลายสาย ท่านว่าไว้ตรงกัน ยังงัยฝากกินห่านย่างด้วย ครับ...อิอิอิอิ

    น้องน้ำก็ทำงานอย่างขะมักเขม้น เดี๋ยวก็มาเยี่ยมออฟฟิดของคุณป้า หรอกครับ.....ไม่นาน....คิคิคิคิคิ :mad:
     
  12. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    เค้าเรียกว่า ถอยเข้าจุดอับของตัวเองต่างหาก ครับ...

    เชื่อว่าไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดใด....
    แต่เพราะความ "ไม่รู้ของคุณหนูอินโนเซ้นต์" ของฝ่ายบริหารจัดการ ครับ

    ความซวยก็เลยมาตกอยู่กับผู้ประสพภัยอย่างช่วยไม่ได้
     
  13. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    เรื่องพิชัยสงครามคงไม่ต้องอธิบายกันมาก ครับ

    ขอสรุปง่ายๆว่า "หากกลยุทธ์ใดที่เคยใช้แล้วล้มเหลว แล้วแม่ทัพนายกองก็ยังไปขุดเอากลยุทธ์นั้นไปใช้อีก ความเสียหายพ่ายแพ้ย่อยยับก็มิอาจหลีกเลี่ยงได้เป็นแน่แท้" :'(

    ขณะที่กำลังโพสต์อยู่นี้ นิคมบางชันยังใช้กลยุทธ์เดิมๆที่พ่ายแพ้มาแล้วทั้ง 7 แห่ง คงไม่เกินคืนนี้ (อย่างช้าพรุ่งนี้) น้องน้ำจะเข้ายึดบางชันไปอีกราย :cool:

    ที่เป็นประเด็นที่น่าคิดก็คือ นิคมแห่งนี้อยู่ในความดูแลของกองทัพ แล้วนี่กองทัพเคยศึกษากลยุทธ์อะไรมาบ้างในอดีตที่ผ่านมา.....คิดแล้วน่า...:mad:
     
  14. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    ด้านหลังวัดนี้มีพระพุทธไสยาสน์ตะแคงซ้าย

    ประดิษฐานอยู่ในชั้นผาหินสลัก ดูน่าเคารพศรัทธายิ่ง

    -
     
  15. จันทิพา

    จันทิพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +460
    กาฬสินธุ์ เขตรอยต่อร้อยเอ็ดก็ท่วมนะคะ

    กาฬสินธุ์ อ.กมลาไสยก็ท่วมนี่คะ
     
  16. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    ท่วมเฉพาะที่ลุ่มของลำน้ำชีและลำน้ำปาว ครับ

    ชาวบ้านแถวนี้เค้ารู้กันมานาน เลยปล่อยให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ
    เอาไว้ยกยอจับปลากันเป็นปกติ ไม่มีใครเดือดร้อน

    แต่ที่เป็นข่าวก็คือ ลำชีล้นเข้าท่วมถนนสายกาฬสินธุ์ร้อยเอ็ด รถเล็กผ่านไม่ได้
    ปกติก็ท่วมตรง อ.จังหารนี่ประจำทุกปี แต่ปีนี้ท่วมมาก

    ลุ่มน้ำชีก็มี "บุ่ง" เช่นเดียวกับที่ริมน้ำโขง
    อยู่ที่ธาตุอาจจะมองไม่ชัด แต่ลองไปดูที่ศรีสงครามจะชัดกว่า ครับ

    อยู่นครพนม ปีหน้าก็ระวังริมตลิ่งหน่อย นะครับ
    หลวงพ่อดำท่านเตือนมาเหมือนกัน :mad:
     
  17. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    ไปด้วย ไปด้วย ไปด้วยจิค๊าปู่...:cool:
     
  18. Twana

    Twana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +725
    คืนแรกใน เกือบ ๔ อาทิตย์ ที่ได้นอนเตียง ไม่ต้องนอนโซฟา แฮปปี้มากๆ ค่ะท่านลุง และ ฝนตกตลอด แต่ผู้คนก็ใช้ชีวิตกันไปอย่างคึกคัก กินของอร่อยอย่างครื้นเครง ใครใคร่ค้า- ค้า ใครใคร่ขาย -ขาย คนละมู๊ดกับบ้านเราจริงๆ :(
    กลับไป ก็คงอย่างว่า ถึงออฟฟิศพอดี สู้กันอีกรอบ! เพราะไม่รู้จะย้ายออฟฟิศไปไหน หาที่ย้ายไม่ได้ค่ะ :(
     
  19. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865

    ได้โอกาสกินอิ่มนอนหวาน ก็รีบตักตวงความสุข นะคุณป้า :cool:

    ช่วงกลับมาออฟิดพอดีงานคงเข้า เดี๋ยวเถ้าแก่เจ้านายคงจัดหนักหนีน้ำ
    อาจจะต้องออกแรงเป็นจับกัง ยกขนของกันน้ำบาน....แระ

    แต่ไม่เป็นไร ใช้แรงงาน สว. ไม่ผิดกฏหมาย...555555

    หาที่ย้ายออฟฟิดไม่ได้ ก็ย้ายงานย้ายเจ้านายไปเลย....ดีกว่า จร้า.....(f)
     
  20. Twana

    Twana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +725
    เฮ่ยยย แนะนำยังงี้ เดี่ยวก็งานเข้าหอกจร้า :)
    คืนนี้อากาศดีไม่มีฝนจ้า เมฆเต็มฟ้าลมแรงจนเซ แฮะ แฮะ แก่ และผอม มันก็เลยไม่มีแรงค้านลมแหละจร้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...