พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย tiger-k007, 6 มิถุนายน 2011.

  1. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,090
    แหลงใต้วันล่ะคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า "ทอน"

    ทอนในภาษากลางหมายความว่า "เช่า" ยกตัวอย่างเช่น...

    วันนี้ไปวัดก็เลยทอนพระมา๑องค์

    วันนี้ไปวัดก็เลยเช่าพระมา๑องค์
     
  2. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,800
    อ๋ออออออออ.................... เป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบคุณคร้าบบบ
     
  3. ลับแล

    ลับแล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    854
    ค่าพลัง:
    +848
    คุณPUEDPUNON
    ขอบคุณคุณPUEDPUNON มากๆนะคะ น่ารักจริงๆ ที่แปลภาษาใต้ให้ลับแล ลับแลก็ลืมนึกไปว่า ภาคอื่นเขาไม่เข้าใจ ขอบคุณหลายๆนะคะ หายากนะคะคนน่ารักๆแบบนี้ (good)
     
  4. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    คมเข้มมากมายครับท่านโต้ง.....(^_^)
     
  5. ลับแล

    ลับแล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    854
    ค่าพลัง:
    +848
    ;aa20พี่รุ่ง และคุณ Norragate....
    พี่รุ่งขา... มีคนกล่าวหายัดเยียดลับแล..ค่ะว่า จะจับจองคุณ Norragate("หล่อขั้นเทพ") อีกแล้วค่ะ
    ขอบอกตรงๆ เลยนะคะ สำหรับคุณNorragate เนี่ยนะคะ ลับแลไม่เคยคิดจะทอน เอ๊ย ไม่ได้คิดจะจอง"เขา"เลยนะคะ เขาไม่ใช่ "วัตถุสิ่งของ" นะคะ......อย่าลืม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2013
  6. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    5555 เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกช่างมันเถอะครับคุณลับแล คนเราจะเป็นกัลยาณมิตรกัน สิ่งสำคัญอยู่ที่ข้างในมากกว่า......
    สังขารมันไม่เที่ยง..สุดท้ายก็เหี่ยวย่นกันทุกคน ^^

    ว่าแต่จองอะไรกันเหรอครับ..ผมมะเห็นรู้เรื่องเลยยยย - -"

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2011
  7. FLUKE-NICE

    FLUKE-NICE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2008
    โพสต์:
    968
    ค่าพลัง:
    +1,397
    สวัสดียามเช้าครับ พี่เสือ พี่รุ่ง พี่หนุ่ย พี่หนู พี่ภณ น้าหมู พี่ลับแล คุณพล คุณนอร์ พี่tong พี่นวล พี่ลิน พี่นก และพี่ๆทุกท่านครับ หากพี่เสือ พี่รุ่ง และพี่หนุ่ย พอมีเวลาอยากรบกวนให้ช่วยดูพระองค์นี้ให้หน่อยครับ เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเดิมครับ อยากทราบว่าหลวงพ่อเดิมท่านได้เสกไหมครับ เพราะตามข้อมูลที่ได้มา ผู้สร้างคือหลวงปู่นอง วัดวังสีทอง สระแก้ว ท่านเป็นหลานหลวงพ่อเดิม เห็นว่าตอนที่หลวงพ่อเดิมท่านสร้างพระ หลวงปู่นองก็ได้ขออนุญาตสร้างและจึงได้ทำบล็อคนี้ขึ้นมา และได้นำไปให้หลวงพ่อเดิมเสกด้วย ซึ่งยังเก็บอยู่ที่ท่านบางส่วน จนได้นำออกมาแจกและให้ทำบุญในช่วงหลังนี้ครับ อยากรู้จริงๆครับ ขอรบกวนด้วยนะครับ แต่ก็เหมือนเดิมนะครับยังไงถ้าเป็นรูปหลวงพ่อเดิมแล้วใช่ไม่ใช่ผมเก็บอยู่แล้วครับ ว่าแต่แล้วองค์นี้กระแสเป็นไงบ้างครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1124.JPG
      DSCF1124.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      71
    • DSCF1125.JPG
      DSCF1125.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      43
  8. ลับแล

    ลับแล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    854
    ค่าพลัง:
    +848
    ;aa44คุณNorragate คะ
    คุณ Norragate พูดถูกใจลับแลมากที่สุดเลยค่ะ
    (good)ที่ผ่านมาในชีวิตของลับแล...จนถึงปัจจุบัน "ธรรมะ"อยู่ในจิตวิญญานของลับแลมาตลอดเลยค่ะ ทุกครั้งที่ลับแลไปทำบุญหรือไปบวชกรรมฐานที่วัด เพื่อนจะบอกว่า "ลับแล เวลาเธอเหยียบย่างเข้าวัดเนี่ย.... ตาเธอเป็นประกายเลยเชียวนะ"
    :z8 ที่สำคัญ....มีอยู่สถานที่หนึ่งที่ลับแลจะต้องเข้าไปเยี่ยมชมทุกครั้ง คือ ช่องเก็บ"กระดูก" พร้อมๆกับคิดในใจว่า วันหนึ่ง ต้องถึงตัว"เรา" (ชอบมากยืนดูช่องเก็บกระดูกที่มีรูปถ่ายคนตายระบุบอกว่าเกิดเมื่อไหร่ เคยมีตำเเหน่งเป็นอะไร และมรณะเมื่อไหร่?" )
    (kiss)ดูแล้วมันสะท้อนอกสะท้อนใจ นึกถึงตัวเอง วันหนึ่ง เรายังพาตัวเองไปไม่ได้เลย ฉนั้นตอนที่ลับแลทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลชุมพร ในวันหนึ่ง คุณแม่บอกลับแลว่า "แม่เป็นห่วง ลูกหาแฟนแต่งงานได้แล้วนะ" แต่ลับแลพูดกับคุณแม่ว่า "เนี่ย ถ้าลับแลไม่ใช่ลูกคนเดียวของคุณแม่ ลับแลจะบวช(ชี)ไม่สึกเลย"
    :z4ต่อมา (ในปัจจุบัน) ลับแลชอบนั่งดูช่องวัดพระธรรมกาย หลวงพ่อท่านสอนดีมากๆ หลวงพ่อธัมมชโยท่านเทศน์สอนทางทีวีทุกคืน จนวันหนึ่ง ทางวัดประกาศให้"ชายแมนๆ" ไปสมัครบวช :)'( ลับแลขอเปิดเผยความลับให้ฟังเป็นกรณีพิเศษนะคะ (ตามหลักเขาจะไม่บอกกันหรอกค่ะเรื่องส่วนตัวแบบนี้) ใครก็ตาม...ห้ามล้อเลียนนะคะ การล้อเลียนคนอื่นในเรื่องของศาสนา มันบาปนะคะ มันไม่ใช่ของเล่น เวลาเสียชีวิตไปแล้ว คนที่ชอบล้อเลียน ตายไปต้องไปเกิดเป็นเปรตค่ะ (พูดจริงๆนะคะ รวมถึงคนที่คอยห้าม คอยขัดขวางคนอื่นทำบุญด้วย)
    :z2 เมื่อลับแลนั่งดูทีวีช่องวัดพระธรรมกาย เห็นผู้ชายบวชพระเดินเป็นแถว(เดินธุดงค์)ลับแลนั่งน้ำตาไหลเลย(เกือบทุกครั้ง... ใจมันอยากบวช..ไงคะ)
    ลับแลนั่งคิดในใจว่า ทำไมนะ เราถึงไม่เกิดเป็นผู้ชาย แล้วก็คิดต่อไปว่า"น่าว่าเราจะเคยผิดศีลข้อ 3 มาก่อนในอดีตชาติ เราถึงต้องมาเกิดเป็นผู้หญิง มันทรมานใจมาก..เมื่อเราอยากบวชเป็นพระภิกษุแล้วเราไม่ได้บวช"
    qsquวันหนึ่ง ลับแลพูดกับญาติผู้ชายว่า "เนี่ย ถ้าฉันขอยืมร่างเธอได้ ฉันขอยืมแล้ว ไม่มากหรอก ขอยืมซัก 3 เดือนพอ ขอสลับวิญญานกันชั่วคราว"
    fairy3ทุกวันนี้ เวลาทำบุญ อธิษฐาน ลับแลจึงอธิษฐานขอเกิดเป็นชายทุกๆชาติไป ให้เกิดได้กายมหาบุรุษทุกครั้ง และยังอธิษฐานเพิ่มเติมอีกว่า "เมื่อเกิดแล้ว ขอให้ได้บวชแต่เยาว์วัย จนละโลกเลย....ไม่ขออยู่ในเพศฆราวาสต่อไป"
    (f)เพราะพระท่านเทศน์สอนว่า การอยู่ในเพศฆราวาสนั้นเป็นการเดินทางอ้อม ยังต้องทำให้เราเกิดอีกครั้งแล้วครั้งเล่าหลายต่อหลายชาตินับครั้งไม่ถ้วน
    (kiss)(rose)การได้เกิดเป็นผู้ชายมีโอกาสสูงในการเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมเร็วกว่าผู้หญิงมากมายหลายเท่านัก ฉนั้น ชาตินี้... ใครได้เกิดเป็นชาย และอยากออกจากวัฎสงสารไวๆ น่าจะบวชไม่สึก(ถ้ามีบุญบารมี จะเป็นไปได้ค่ะ)
    (rose)แต่สำหรับ"ลับแล" ได้แต่"อธิษฐาน" อย่างเดียว
    ชาตินี้ไม่ทัน..แล้วค่ะ
     
  9. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    การเจริญวิปัสสนาให้ได้ผล ก็ต่อเมื่อเราได้ฝึกสมาธิเพื่อระงับกิเลสอย่างแรก คือความโกรธและความโลภ เมื่อจิตใจเนื่องสงบเป็นมาตฐานแล้ว จึงจะเจริญวิปัสสนาให้เกิดปัญญาดี
    แต่ใช่ว่าเราต้องบวชเป็นพระสงฆ์ถึงจะทำการเจริญวิปัสสนา ความจริงแล้ว เราทุกคนก็สามารถทำได้เพียงแต่เราต้องฝึกเจริญให้บ่อยๆ ทำมากๆ ทำจนจิตใจนิ่งเป็นอารมณ์แนบแน่นไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถหรือกิริยาอาการแบบไหนก็ตาม จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน ก็ได้คิดพิจารณาความเป็นจริงสี่ประการ ดังนี้
    1. มีจิตใจใคร่ครวญถึงความตายอยู่เสมอ มีความเพียรขึ้นที่จะชำระจิตใจให้สะอาด ก่อนที่ความตายจะมาถึง ไม่ยึดอยู่กับสิ่งใด พอพิจารณาเรื่องนี้ไปนานๆ จิตใจก็จะสงบลง ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างได้ง่ายขึ้น

    ในวันสุดท้ายก่อนถึงมหาปรินิพพาน ก็ทรงประธานโอวาทที่เป็นอมตะมาจนถึงทุกวันนี้ว่า
    "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ตถาคตขอเตือนท่านทั้งหลาย ว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นของธรรมดาพวกเธอจงยังประโยชน์แห่งตน และประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด"

    2.มีจิตใคร่ครวญพิจารณาถึงว่า ร่างกายของคนเราเป็น สิ่งไม่สวยงาม (อสุภกรรมฐาน) แก้ความหลงใหลในรูปกายผู้อื่น
    เมื่อพิจารณาว่าร่างกายที่สวยๆ งามๆ เดี่ยวร่างกายของเขาหรือเธอที่น่าหลงใหลก็แก่ก็เหี่ยวและสิ้นไปเป็นของธรรมดาอย่างนี้ จะทำให้เราไม่หลงยึดติดกับคนไม่คิดจะผิดศีล โดยเฉพาะ ข้อ 3 อันเป็นปัญหาใหญ่ ในสังคมปัจจุบัน
    3.มีจิตใจใคร่ครวญถึงสภาพร่างกายของตนว่าเป็นสิ่งโสโครก (กายคตานุสสติกรรมฐาน)
    แก้ไขความหลงในความสวยงามในตนเอง...

    ตัวอย่างที่เห็นชัดในเรื่องนี้ คือ เรื่องราวของ คนที่มีความสวยงามในยุคพุทธกาล อย่างพระนางอภิรูปนันทาฟังชื่อก็พอจะเข้าใจแล้ว ว่าสวยงามปานใด

    พระนางเป็นราชธิดาของพระเจ้าเขมกะศากยะ และจัดว่าสวยงามที่สุดในยุคสมัยนั้น พระนางภูมิใจในรูปลักษณ์ที่สวยงามของตนเองมาก ด้วยบุญบารมีที่ได้สร้างสมไว้ในชาติปางก่อนจึงมีโอกาสได้สดับธรรมของพระบรมศาสดา พระพุทธองค์ได้เทศนาเกี่ยวกับการพิจารณาด้วยกรรมฐานทั้ง 3 แล้ว ทรงเนรมิตรูปกายของสาวงามที่สวยงาม
    "ยิ่งกว่า" พระนางอภิรูปนันทาเสียอีกให้ปรากฎขึ้น ให้เห็นถึงความเสื่อมถอยของร่างกาย เจริญวัย เสื่อมลงไป จนตายในที่สุด พระนางได้ชมและน้อมเอาภาพนิมิตนั้นมาพิจารณาว่า ร่างกายของพระนางนั้นไม่ได้มีความงามที่แท้จริง เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา โดยแท้ จนพระนางสำเร็จเป็นอรหันต์ในขณะนั้นเอง

    4. มีจิตใจใคร่ครวญถึงร่างกายไม่ใช่ของๆ เรา แต่เป็นธาตุที่มารวมกัน (ธาตุกรรมฐาน) แก้ไขความหลงใหลในการยึดติดในตัวตน(อนัตตา)

    อ้างอิง จากหนังสือของขวัญเพื่อความเป็นสิริมงคลเกิดจากผู้ให้และผู้รับ
    โชคดี มีลาภใหญ่ ร่ำรวยได้ด้วยสุดยอดเคล็ดสิริมงคล
    โดย...วัชระ บรรณาคาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 พฤศจิกายน 2011
  10. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    อนุโมทนากับความตั้งใจด้วยครับ...

    จะหญิงหรือชาย,จะยากดีมีจนหรือพิการ..ก็ปฎิบัติธรรมได้ครับ....อยู่ที่ความตั้งใจกับจิต....(^_^)..... ธรรมะไม่แยกชนชั้น.... ^^
     
  11. ลับแล

    ลับแล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    854
    ค่าพลัง:
    +848
    คุณ norragate คะ
    ;aa1 (ตอบประโยคสุดท้ายในข้อความของคุณนอร์..)
    ต้องลองคลำดูอีกทีนะคะ ถ้าหัวใจ"ไม่อยู่" เเสดงว่า มันจองตั๋วเดินทางไกลแล้วค่า...
     
  12. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    อนุโมทนาเหมือนกันครับพี่ลับแล แต่ชาตินี้คงไม่ทันแล้วละครับ สึกมาได้เกือบสิบปีแล้วครับผม:cool:
    ถ้ามีโอกาสอีกครั้ง คงไม่พลาดครับ ตลอดชีวิตแน่นอนครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    อนุโมทนาด้วยครับ...เห็นด้วยอย่างแรงงงงงงงงงงงงงงง ^^
     
  14. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    คุณลับแลกำกวมนะเนี๊ย......ผม งง (>_<)
     
  15. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ผมเองก็เสียดายครับพี่พลศิริ ที่เคยบวชแค่ 9 วันเอง.....หากมีโอกาศสักวันคงได้เข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์อีกครั้ง...(^_^)


    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1656.jpg
      1656.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.8 KB
      เปิดดู:
      322
    • 19656.jpg
      19656.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.5 KB
      เปิดดู:
      227
  16. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    นอกเหนือจากการไหว้ขอพรแล้ว ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งท่านสอนให้มีการเชื่อมบุญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย เพื่อเพิ่มบุญ เพิ่มสิริมงคลให้กับตนเอง

    การอธิษฐานเชื่อมบุญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    เรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น เชื่อว่าหลายคนคงสัมผัสถึงอำนาจและพลังมหาศาลที่ตาของคนนั้นไม่มีทางมองเห็น แต่สัมผัสได้ด้วยความรู้สึกลึกอยู่ข้างในจิตใจ เมื่อไปอยูในสถานที่สำคัญ ที่เชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นของพรหม เทพเทวดาหรือดวงจิตวิญญาณ
    การสัมผัสนั้นอาจจะเป็นในรูปแบบของความปิติยินดี ความเย็นกายสบายใจ หรือขนลุกซู น้ำตาไหลโดยไม่ทราบสาเหตุ ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้เสมอในทุกสถานที่สำคัญที่มีคนมาทำบุญกันนั้นล้วนมีเหล่าเทพเทวามาร่วมอนุโมทนาในบุญนั้นด้วยเสมอ

    มีทั้งที่อยู่ประจำสถานที่นั้นหรือได้รับการอัญเชิญมาร่วมอนุโมทนาบุญที่มนุษย์นั้นสร้างบุญใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวิหาร อุโบสถ ฝังลูกนิมิต สร้างพระพุทธรูป การทอดกฐิน ทอดผ้าป่าหรือแม้กระทั้งการทำสังฆทาน

    โดยเฉพาะในเขตพุทธสถานหรือวัดวาอารามต่างๆนั้น ล้วนมีปวงเทพเทวาและผู้สร้างผู้ทำนุบำรุงวัดนั้น คอยปกปักคุมครองวัดนั้นอยู่แน่นอน เป็นการดีหรือไม่หากเรามีโอกาสไปทำบุญและอุทิศเชื่อมบุญกับท่านเหล่านั้น และขออนุโมทนามีส่วนร่วมในบุญของท่านเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

    เพราะที่สถานศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นมีการสร้างบุญตลอดเวลายิ่งเป็นวัดวาอารามที่มีอายุหลายร้อยปี ก็จะยิ่งมีกองบุญใหญ่แน่นอนเพราะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีคนไปทำบุญมากมายมหาศาลในแต่ละวัน ในอดีตนั้นเวลาที่ครูบาอาจารย์ท่านจะไปสร้างอะไรหรือบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนั้น ถ้าท่านรู้ว่าไม่มีการเชื่อมบุญกันมาก่อน เป็นการสร้างบุญใหม่ท่านจะทำการอธิษฐาน ขอมีส่วนในกองบุญของวัดนั้นก่อนเสมอ เพื่อให้การทำงานนั้นลุล่วงหรือเรียกง่ายๆ ก็ขอให้มีบุญเพิ่มมากขึ้นเสียก่อน อัญเชิญปวงเทพเทวาที่คุ้มครองวัดนั้น ให้เมตตาส่งบุญมาช่วยให้งานสำเร็จได้โดยง่าย
    ซึ่งในเรื่องการเชื่อมบุญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น ครูบาอาจารย์ท่านรู้ดีเกือบทุกท่านตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน ลองคิดดูง่ายๆ ว่าลำพังพระสงฆ์รูปเดียวนั้น จะมีบุญพอหรือไม่ที่จะสร้างพระวิหาร อุโบสถใหญ่โต ต้องใช้เงินสร้างเป็นร้อยๆ ล้าน ท่านจะเอาเงิน เอาบุญที่ไหนมาทำให้สำเร็จ นอกจากการรวมกองบุญจากคณะผู้มีศรัทธาที่มีการเชื่อมบุญกันไว้อาจจะตั้งแต่อดีตชาติที่ผ่านมา ถึงแม้ชาตินี้จะอยู่กันไกลแสนไกลด้วยวิบากกรรมของแต่ละคนที่ทำไว้
    ด้วยอำนาจและพลังจากปวงเทพเทวาที่ดลใจให้คนจากทั้วสารทิศมาร่วมกันสร้างบุญ บางคนอยู่ไกลถึงต่างประเทศ เมื่อปวงเทพเทวาท่านดลใจให้รับรู้ รับทราบการสร้างบุญ ก็มาร่วมกันสร้างให้สำเร็จ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 พฤศจิกายน 2011
  17. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    เป็นเรื่องจริงเป็นอย่างยิ่งว่า คนที่เคยร่วมบุญกันมาตั้งแต่อดีต เมื่อถึงเวลาก็จะกลับมาช่วยกันสร้างบุญใหม่ร่วมกันอีก เพราะสายใยแห่งบุญนั้นจะดึงกลับมา หรือจากแรงอธิษฐานที่เคยสัจจะวาจาไว้ในอดีตชาติ

    การเชื่อมบุญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น นอกจากเราจะได้บุญเพิ่มแล้วเรายังมีโอกาสมาสร้างบุญใหม่ให้หนุนนำชีวิตให้พบความสุขอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเกิดสักกี่ชาติก็ตาม เมื่อรู้วิธีแล้ว ก็ถึงเวลาไปไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญในบ้านเรา และเชื่อมบุญกับท่านด้วย

    อนุโมทนาบุญค่ะ
     
  18. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    :cool:

    สวัสดีครับ คุณ ลับแล
    คุณ ลับแล ชอบเครื่องราง ชอบพระ เหมือนน้องสาวกระผมเลยครับ
    ถ้าจำไม่ผิด น้องสาวกระผมห้อย
    1)ฤาษีดินอาถรรพ์หลวงปู่กาหลง+ตะกรุด
    2)สมเด็จพระธาตุพนมหลังทองคำ
    3)ปิดตาไม้เกาะของหลวงปู่รอดวัดนายโรง
    4)ล๊อคเก๊ตหลวงพ่อโอภาสี หลังติดพระธาตุ
    5)เสือหลวงพ่อสงวน
    6)ตะกรุดจารมือทำให้พิเศษ หลวงพ่อตัด วัดชายนา
    7)เหรียญโภคทรัพย์เจ้า คุณ นร วัดเทพสิรินทร์
    8)ฟังตะกรุดทองคำ ที่แขนไม่รู้ของอาจารย์ใหน
    9)ใหม5สี +ลูกสกด ของหลวงพ่อแถมวัดช้างแทน
    10)เหรียญหลวงปู่ทวด เปิดโลก หลวงปู่ดู่
    11)แหวนปู่ดู่ วัดสะแก
    ที่เหลือจำไม่ได้ เต็มคอ มีเหน็บอีกครับ
    ขนาดพ่อของกระผมเห็น แกยังส่ายหัวเลยอ่ะครับ อิอิ
    5555 นี่ ถ้าได้เจอ กับคุณ ลับแล คงคุยกันถูกคอแน่ครับ
    น้องสาวกระผมนี่สาย ฤทธิ์ ชอบฤทธิ์ เต็มตัว นักเลงไม่กลัวใคร
    จับพลัง แน่นอนมาก สุดยอดครับ สวดมนต์ ทำกรรมฐานประจำครับ
    แหะ หาเรื่องคุยกันพอ สนุกๆ ขำ ขำ ครับ
    จะได้ไม่เครียดน้ำท่วมกันน่ะครับ
    รวยๆกันนะทุกๆคน
     
  19. ลับแล

    ลับแล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    854
    ค่าพลัง:
    +848
    fairy3ตามที่น้องนวลกล่าวถึงว่า การที่จะเจริญวิปัสสนาให้ได้ผล อาจจะอยู่ในเพศฆราวาสก็ได้.....ไม่จำเป็นต้องบวชเป็นพระสงฆ์ ก็จริงอยู่นะคะ ( พี่ลับแลก็รู้ๆอยู่)
    (k)แต่จะมีสักกี่คนที่จะมีบุญบารมีสูงเหมือนพระนางอภิรูปนันทา ที่พระนางมีการสั่งสมบารมีมาแต่ชาติปางก่อนนับกี่ชาติแล้ว ประกอบกับพระนางได้มีโอกาสฟังคำเทศน์สั่งสอนของพระภิกษุที่เป็น:cool:ถึงระดับพระบรมศาสดาของพระพุทธศาสนาอีก.........
    จะมีสักกี่คนจะมีวาสนาบารมีเช่นนั้น (ในทางพระพุทธศาสนา เป็นที่รู้กันดีว่า การมีครูบาอาจารย์ที่มีภูมิรู้ทางธรรมสูง จะมีส่วนผลักดัน สนับสนุนให้การปฏิบัติธรรมของศิษย์หรือผู้ฟังธรรม ไปได้ไว ฉนั้น บุญบารมีของระดับพระบรมศาสดาของพระพุทธศาสนานั้น จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ผลักดันให้พระนางเข้าถึงพระอรหันต์ได้ง่าย(รวมถึงบารมีดั้งเดิมของพระนางเองที่สั่งสมมาอีกแต่อดีตชาติรวมๆกันเข้า) ซึ่งกรณีเช่นนี้มันคงมี ไม่กี่ราย และมักจะมีในสมัยพระพุทธกาลเป็นส่วนใหญ่ (เพราะครั้งหนึ่งพระพุทธองค์ทรงตรัสว่าคนที่มาทางธรรม มีแค่หยิบมือหนึ่ง(ใบไม้)ในป่าใหญ่ )
    เปรียบเหมือนเราหุงข้าว ผู้หญิงเป็นหม้อดิน ผู้ชายเป็นหม้อไฟฟ้า ใครๆก็พูดว่าหม้อไหนๆก้็หุงไปเถอะ...สุกเหมือนกัน
    (||)ก็จริงอยู่ แต่หม้อไฟฟ้าสุกเร็วกว่าหม้อดินใช่ไหมคะ ? เพราะหม้อดินต้องมานั่งก่อไฟก่อฟืนกันก่อนกว่าจะได้ตั้งหม้อหุง ฉันใดก็ฉันนั้น
    (sing)ลับแลไม่ได้บอกว่า การเป็นผู้หญิงเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมไม่ได้เลยนะคะ แต่ลับแลบอกว่า การเป็นเพศชาย(ถ้าเป็นนักบวช) จะเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมได้เร็วกว่าผู้หญิงหลายเท่านัก
    yimmการย่นระยะทางของการเข้าสู่พระนิพพานนั้น ถ้าจะให้เร็วขึ้นกว่าปกติ จะต้องอยู่ในเพศนักบวช (อาจจะมี 1 ใน 100 ที่เป็นเพศฆราวาสแล้วเข้าถึงที่สุดแห่งธรรม ลับแลไม่ได้ค้านว่าไม่มีนะคะ)
    :VOการจะเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมได้ ชาติสุดท้ายต้องอยู่ในชุดนักบวชเท่านั้นจ้า(เทศน์สอนโดยหลวงพ่อธัมมชโย)
    เรื่องนี้ ลองสอบถามพระคุณเจ้าดูอีกทีนะคะ
     
  20. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ของผมแค่ 15 ปีครับผม เริ่มตั้งแต่เป็นเณรน้อยจนเป็นพระหนุ่มน้อยครับพี่:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...