ขอถามเกี่ยวกับ แดนสุขาวดี หน่อยครับ

ผู้ที่จะเข้าสู่แดนสุขาวดีได้นั้น นอกจากจะต้องระลึกถึงพระนามของ

พระอมิตาภะพุทธเจ้าแล้วนั้น

ต้องมีลักษณะแบบใดอีก
เช่น ทำดีขนาดไหน เคยทำชั่วหรือไม่ แบบนี้น่ะครับ

ขอให้ผู้รู้ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยนะครับ

 

ตามที่ผมเคยอ่านในพระธรรมสูตร
พระสูตรที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน กล่าวถึง ดินแดนสุขาวดีและพระอามิตาภพุทธเจ้า มีกล่าวไว้อยู่ 3 เล่ม คือ

1. มหาสุขาวดีวยุหสูตร คือ พระสูตรที่ว่า อดีตของของพระอามิตาภพุทธเจ้า ที่เป็นพระภิกษุชือ"ธรรมกร"และตั้งประกาศมหาปณิธาน 48 ข้อ (ซึ่งมีอยู่ข้อหนึ่ง ถ้าผมจำไม่ผิดคือข้ที่ 18 ที่กล่าวไว้เป็นต้นว่า "ถ้าผู้ใดที่สามารถระลึกถึงข้าพระองค์ ถึง 10 วาระหากยังมิสามารถอุบัติยังโลกธาตุของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ก็จักไม่ขอสำเร็จพระอนุตรสัมมาสมโพธิญาณ เว้นแต่ผู้นั้นจั่ออนันตริยกรรม 5 ประการ คือ1.ทำร้ายพระพุทธเจ้าถึงขั้นห้อพระโลหิต 2.ทำให้หมู่พระสงฆ์แตกแยก 3.ฆ่าพระอรหันต์ 4.ฆ่าบิดา 5.ฆ่ามารดา)

2. อมิตายุธยานสูตร คือ พระสูตรที่ว่าถึงการทำสมาธิเพื่ออุบัติยังมหาสุขาวดี

3. อามิตาภะพุทธสูตร คือ พระสูตรที่ว่าถึงลัษะความงดงามของมหาสุขาวดี

สำหรับความคิดผมเองการอุบัติยังมหาสุขาวดีนั้น
คือ เราต้องทำหน้าที่ของชาวพุทธ คือ ไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา
ศึกษา ปฏิบัติในพระธรรมคำสั่งสอน
ระลึกถึงองค์พระอามิตาภพุทธเจ้า และภาวนาพระนาม "นำม๋ออามีถว๋อฝอ" ทุกขณะจิต ให้มีสติตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาที่เราต้องละจากโลก เราก็นึกถึงพระอามิตาภพุทธเจ้า ผมเชื่อว่า บุคคลนั้นๆย่อมจักยังอุบัติสู่มหาสุขาวดีโลกธาตุได้อย่างแน่นอน ครับ

 

อยากไปแดนสุขาวดี ก็ต้องตั้งมั่นใน ทาน ศีล ภาวนา นึกถึงกุศลกรรมอยู่เสมอไม่หลงอยู่ในอกุศลกรรม เมื่อใจเป็นสุขกายก็เป็นสุข ทำอย่างนี้ได้ตลอดจนจบลมหายใจอาจไม่ใช่แค่แดนสุขาวดี อาจพาไปถึงพระนิพพาน

 

สุขาวดี แบบเทวดาทั่วไป ก็ คือเทวโลก มี 6ชั้น(ถ้าสงสัยก็ไปหา คำว่า วัฏตะสงสาร 31 ภูมิจะมีบอก ครับ) เป็นที่อยู่ของคนดี กล่าวคือ มีศีล 5 ชอบบำเพ็ญ ทาน ศีล ภวนา ก็ ไปเป็นเทวดา แต่ พุทธเกษตรวิสุทธิภูมิ ของพระอมิตาสัมมามสัมพุทธเจ้า นั้น เป็นแดน ศักสิทธิ สวยงามและบริสุทธิ เป็นที่ ที่พระโพธิสัตว์ ใช้บำเพ็ญธรรมต่อมื่อ ละสังขารจากมนุษย์โลก ผู้ที่อยู่ที่นั่น จะได้อยู่ใกล้ชิดกับพระอนิตาพระพุทธเจ้า และจะได้อยู่ ได้ฟังธรรมของพระโพธิสัตว์หลายพระองค์อันประมาณมิได้ จะไปได้ ก็ต่อเมื่อ บุคลนั้นปรารถนาเป็นโพธิสัตว์ หรือตั้งใจว่าจะขอสร้างบารมีเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ บุคลทั่วไปต้องการจะไปอุบัติที่นั่นจริง ๆ ให้หมั่นสร้างกุศล ทุกครั้งที่มีโอกาส สวดภาวนาพระนามของพระอมิตาสัมมาสัมพุทธะ หรือภาวนาถึงพระนามของพระพุทธเจ้า หลายพระองค์ แล้วตั้งจิตว่าข้าพเจ้าจะไปขออุบัติขึ้นที่นั่น ก่อตาย ก็กำหนดจิตไปที่นั่น ประคองจิตให้ไปถึงโลกธาตุของพระองค์

​

 

ไม่ทราบว่ามีบอกในหนังสือ(อะไร) หรือว่าจากไหนคะ?

 

ด้วยการไม่คิดแบ่งแยก ไม่ยึดมั่นถือมั่น ละวางอัตตาตัวตน มองเห็นทุกสิ่งเสมอภาคเท่าเทียมกัน แล้วใจเราก็จะเป็นสุข ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เป็นสุขาวดีนั่นเอง อามีทอฝอ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=RlmlFPLGfj8]พระอมิตาภะพุทธเจ้า 阿彌陀佛 - YouTube[/ame]

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มพระอมิตาภะพุทธเจ้าค่ะ PaLungJit.com - พระอมิตาภะพุทธเจ้า (南 無 阿 彌 陀 佛 )

 

อย่างที่คุณ BAE1982 ว่าไว้ สุขาวดีคือสวรรค์ในการปกครองของพระอมิตาภะพุทธเจ้า
สวรรค์ในทิศตะวันตก แบ่งเป็น 3 ชั้นใหญ่และแบ่งอีก 3 ชั้นย่อย รวมเป็น 9 ชั้น
ไม่ใช่แดนนิพพาน มีพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และพระโพธิสัตว์มหาสถามปราบต์เป็นผู้ช่วย
ผู้สำเร็จธรรมจะสวดมนต์ ทำสมาธิ ฟังธรรมจากพระโพธิสัตว์ข้างบน

 

เป็นคำถามที่ดีครับ อนุโมทนาครับ

ก่อนอื่นผมว่า คงต้องทำความเข้าใจกับลักษณะของพระพุทธศาสนาแบบมหายานก่อน (ซึ่งหลายๆเรื่องก็น่าสนใจว่ามันเริ่มมีการพิสูจน์ได้ว่าน่าจะเป็นจริง) คือ ในจักรวาลหนึ่งๆ นั้นย่อมมีโลกธาตุต่างๆ ที่มีทั้งมีสิ่งมีชีิวิต และไม่มีชีวิต ทั้งที่มีมนุษย์ และไม่มีมนุษย์ มิใช่เพียงเท่านั้น จักรวาลนั้นก็ไม่ได้มีเพียงจักรวาลเดียว และไม่ใช่ทุกจักรวาลที่มีพระพุทธเจ้ามาตรัส ดังนั้นเรื่องราวของพระอมิตตาภพุทธเจ้านั้น ก็เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับจักรวาลนอกเหนือจากจักรวาลที่เราอยู่

ดินแดนสุขาวดีพุทธเกษตรของพระอมิิตตาภพุทธเจ้านั้น เป็นดินแดนเช่นเดียวกันกับโลกที่เราอาศัยอยู่นั่นแหละ ซึ่งโลกธาตุที่เราอาศัยอยู่นั้นก็มีชื่อเรียกว่า "สหาโลกธาตุ" ซึ่งหมายถึงโลกธาตุที่มีสัตว์ผู้มีปัญญาทราม มีความหยาบในดวงจิต สั่งสอนยาก แต่พระพุทธองค์ก็ทรงเลือกที่จะมาตรัสในสหาโลกธาตุ บำเพ็ญเพียรบารมีต่างๆ ในสหาโลกธาตุ เพื่อสงเคราะห์หมู่สัตว์ต่างๆ เพียงแต่สุขาวดีพุทธเกษตรนั้นมีความวิจิตรอลังการมากกว่าโลกที่เราอยู่มากมายยิ่งนัก ด้วยดินแดนนั้นเป็นดินแดนของผู้มีบุญบารมี ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีความบริบูรณ์ อีกทั้งร่วมด้วยบารมีแห่งพระอมิตตาเอง ดังนั้นสุขาวดี จึงไม่ใช่สวรรค์แบบที่เราเข้าใจ แต่ว่าเป็นโลกธาตุแบบที่เรากำลังอาศัยอยู่

การเดินทางไปยังสุขาวดีพุทธเกษตรนั้น หากเราเอาตามถ้อยความแห่ง พระสุขาวดีวยุหสูตรแล้ว การไปยังสุขาวดีนั้นจะต้องมีใจที่เคารพต่อพระอมิตตาพุทธเจ้า มีการเพ่งหรือว่า ระลึกต่อ สิ่งที่อยู่สุขาวดีทั้งหมด ๑๖​ อย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สระบัว ดอกบัว วิหาร พระพุทธองค์​ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์เป็นต้น ในยุคสมัยหลังพระอาจารย์ชาวจีนผู้ก่อตั้งนิกายสุขาวดี (เจ็งโท้ว) ท่านเริ่มสั่งสอนด้วยการสวดพระนามของพระอมิตตาภพุทธเจ้าวันละร้อยพันหมื่นจบ ตัวท่านเองก็สวดวันละหมื่นจบและหันหน้าไปทางทิศตะวันตก สุดท้ายก็ดับขันธ์ไปอย่างสงบ นิกายของท่านก็ได้รับการถ่ายทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน

แต่ในสมัยราชวงศ์ซ่ง พระอาจารย์ฮุ่ยเน้ง เป็นพระอาจารย์แห่งนิกายฌาน สังฆปรินายกองค์ที่ ๖ ท่านเคยได้คำถามเช่นนี้เช่นกัน ท่านได้แนะนำวิธีการเดินทางไปสู่ดินแดนสุขาวดีด้วยวิธีการ ประพฤติกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ และมรรคมีองค์ ๘ ก็จะเดินทางสู่ดินแดนสุขาวดีพุทธเกษตรได้

หากสรุปๆ รวมๆกันแล้ว เราคงต้องใช้พุทธานุสติกรรมฐาน พร้อมกับดำเนินตามมรรคมีองค์ ๘ รวมถึงกุศลกรรมบถ ๑๐​ หรือเอาอย่างย่อ ก็อย่างที่มีผู้แนะนำแล้วคือ ไตรสิกขา ก็จะสามารถเดินทางไปได้

แต่หากว่ามีกรรมชั่วที่จะต้องใช้อยู่ ก็ต้องไปทำการบำเพ็ญเพียรในระยะเวลาหนึ่งแทนการไปใช้กรรมในนรก ก่อนที่จะได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระพุทธองค์

หวังว่าการเดินทางของคุณเก็งจูคงได้สำเร็จ สาธุ สาธุ สาธุ