เปิดตำนานหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 17 เมษายน 2011.

  1. Agnostic

    Agnostic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +265
    สวัสดีตอนบ่ายท่าน อ.แก้วสว่าง และพี่ๆทุกท่านครับ ได้ติดตามอ่านและย้อนกลับไปไล่อ่านอยู่นานกว่าจะครบครับ ได้เห็นว่ามีการแจกลูกอมด้วย ไม่ทันครับ เข้ามาอ่านช้าไปนานเหมือนกัน ครับ แหะๆ :cool:
     
  2. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    เราจะเห็นแล้วว่าการเสกเสือให้มีอานุภาพที่ดีหรือการภาวนาจิตให้มีฤทธิ์ได้ดั่งตามที่ต้องการ ซึ่งเสือนั้นสามารถมีฤทธานุภาพดั่งที่ใจต้องการและมีพลังอำนาจที่ดีได้ถ้าเกจิอาจารย์หรือผู้ที่ทรงอาคมได้ปลุกเสกหรือใช้อำนาจจิตให้ไปในทิศทางที่ถูกหลักวิธี ซึ่งทำให้ทุกคนนั้นสามารถนำเครื่องรางที่ได้ปลุกเสกไปใช้กันอย่างมั่นใจได้เต็มที่ เสือที่หลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกไว้นั้นซึ่งโดยส่วนใหญ่ชาวบ้านที่เคยได้รับซึ่งต่างก็หวงแหนกันและเป็นที่ยอมรับกันถึงเรื่องพุทธคุณและประสบการณ์ที่เคยประสบมา ซึ่งส่วนใหญ่เราจะคิดกันว่าถ้าแขวนเสือแล้วจะทำให้จิตใจและอารมณ์นั้นเกิดอาการที่รุ่มร้อนได้หรือเป็นที่ลองอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ ซึ่งจริงๆแล้วธรรมชาติเรื่องราวของละครชีวิตนั้นมันอยู่ในโลกของความเป็นจริงในการดำเนินชีวิตซึ่งอยู่ภายใต้ของกฎแห่งกรรม การแขวนเครื่องรางของขลังทุกชนิดไม่ว่าจะศักดิ์สิทธิ์สักเพียงไหนก็ตามทีถ้าถึงเวลาที่เจ้ากรรมนายเวรมาทวงถามก็ต้องว่ากันไปตามกรรมกันไป ก็ไม่มีเครื่องรางของขลังชนิดไหนที่จะมาลบกรรมหรือบังคับผลของกรรมไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่หลวงปู่ทิม ท่านได้สอนให้ทุกคนนั้นคือการมีสติอยู่เสมอ หรือมีจิตที่พึงระลึกได้ หรือการที่ไม่ประมาท ซึ่งเราจะได้ยินคำเตือนอยู่เสมอว่า ความประมาทคือหนทางแก่ความตาย ฉะนั้นเราต้องมีสติอยู่เสมอ ซึ่งสตินั้นความหมายก็คือความระลึกได้ ความนึกขึ้นได้ ความไม่เผลอ ฉุกคิดขึ้นได้ และการคุมจิตไว้ในกิจ หมายถึง อาการที่จิตนึกถึงสิ่งที่จะทำจะพูดได้ นึกถึงสิ่งที่ทำคำที่พูดไว้แล้วได้ เป็นอาการที่จิตไม่หลงลืม ระงับยับยั้งใจได้ ไม่ให้เลินเล่อพลั้งเผลอยับยั้งชั่งใจไม่บุ่มบ่าม เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ความไม่ประมาท ซึ่งสตินั้น หากนำมาใช้กับทางโลกทั่วไปก็ย่อมมีประโยชน์มหาศาลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการงาน ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ๆ การคิดอ่านย่อมเป็นระบบ จิตย่อมมีสมาธิในการทำกิจการงานใด ๆ อารมณ์มักจะเป็นปกติ ไม่ค่อยโกรธ เครียด หรือทุกข์ใจอะไรมาก ๆ ถ้าเราจะกล่าวโดยรวมแล้วคือมันย่อมเกื้อกูลกับชีวิตประจำวันทางโลกได้อย่างดีซึ่งก็เป็นประโยชน์อย่างที่เห็นได้ชัดเจน ก็จะได้ประโยชน์จากทางธรรมด้วย การที่เรามีสติอยู่เนือง ๆ รู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง ทำอย่างติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ก็เพื่อให้สตินั้นเกื้อกูล ต่อการเห็นความเป็นจริงในหลักธรรมชาติของมนุษย์ และความจริงนี้เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดก็คือกายกับใจจุดหมายของการรู้ก็เพื่อ ให้เห็นหลักของความจริง อันได้แก่อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ว่ากายและใจของเรานั้นเป็นสิ่งไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวเรา

    การที่จะกล่าวถึงสตินั้นมันเป็นอาการอย่างหนึ่งของจิตที่ทำหน้าที่ระลึกได้หรือสำนึกพร้อมในสิ่งที่เกี่ยวข้องหรือการปฏิบัติในสิ่งต่างๆที่พึงจะกระทำกัน และการใช้สติซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิบัติทางพุทธศาสนาอย่างเช่นการใช้สติในมรรค8 หรือการใช้สติในสติปัฏฐาน 4 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการบรรลุถึงจุดมุ่งหมายแห่งการดับทุกข์ ฉะนั้นเราต้องพึงระลึกจดจำไว้อยู่อย่างเสมอได้ว่า สติที่ใช้ในการปฏิบัติเพื่อการดับไปแห่งทุกข์นั้นทำหน้าที่สำคัญที่สุดอย่างยิ่งเพื่อระลึกให้อย่างเท่าทันในเวทนาและจิตสังขารเป็นจุดประสงค์สำคัญสูงสุดเช่น จิตที่คิดฟุ้งซ่านคือจิตที่คิดปรุงแต่งให้มีความแตกต่างออกกันไปเป็นผลที่ต่อเนื่องมาจากเวทนานั่นเอง ซึ่งเมื่อสติรู้เท่าทันเวทนาหรือจิตสังขารได้แล้วก็จะทำให้เกิดปัญญาขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่จัดการต่อไปซึ่งเราจะได้ยินพระท่านจะกล่าวอยู่เสมอว่า สติมาปัญญาเกิด ซึ่งปัญญาที่เกิดให้มีความเข้าใจในหลักความจริงหรือสภาวะธรรม ซึ่งตัวปัญญานี้จะเป็นตัวแก้ปัญหารวมทั้งจำแนกแจกแจงว่าอันใดที่ทำให้เกิดหรือควรเกิดควรมีหรืออันใดที่คิดปรุงแต่งหรือการกระทำให้เกิดทุกข์ ซึ่งตัวปัญญาก็สามารถเป็นตัวเกิดอุเบกขาหรือการวางเฉยขึ้นมา เพื่อให้สิ่งต่างๆที่เป็นไปโดยธรรมชาติให้ถูกต้องถึงหลักของความเป็นจริงของมนุษย์ ซึ่งเราจะเห็นดังตัวอย่างที่นายพรวนได้มาหาหลวงปู่ทิม อิสริโก แห่งวัดละหารไร่ เพื่อที่จะต้องการให้ความช่วยเหลือต่างๆให้ได้ดั่งใจที่ต้องการ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็เพียงกล่าวให้มีสติและระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั้งหลาย ซึ่งก็แสดงว่าหลวงปู่ท่านสอนให้เราทุกคนนั้นมีสติและยึดมั่นต่อคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ เพื่อให้จิตและสติของเราให้นิ่งเหมือนพระพุทธรูปที่ท่านทรงนั่งนิ่งเฉยเพื่อให้คนเรานั้นได้กราบไหว้บูชาและเคารพนับถือถึงคุณของพระพุทธและเราจะระลึกถึงคุณพระธรรมก็เพื่อให้จิตและสติของเรามีความระลึกถึงคำสั่งสอนที่ดีที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสไว้เพื่อเป็นทางแห่งการพ้นทุกข์ส่วนคุณพระสงฆ์นั้นนั้นก็เพื่อให้เรามีจิตศรัทธาที่ดีที่ได้รับคำสั่งสอนจากพระสงฆ์เพื่อการปฏิบัติที่ดีหรือเพื่อได้เห็นหลักการปฏิบัติของพระสงฆ์ที่ท่านได้ยึดหลักปฏิปทาที่ดีและได้ดำเนินตามหลักของพระพุทธศาสนาอย่างแน่วแน่ เพื่อให้มนุษย์เราได้เห็นถึงหลักธรรมชาติความจริงของความเที่ยงแท้ในชีวิต ซึ่งมนุษย์ทุกคนนั้นย่อมมีความเที่ยงแท้กับชีวิตและหนีไม่พ้นกับการเกิด แก่ เจ็บ และตาย หามีใครหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ไม่ บางครั้งคนบางคนก็เกิดมาเพื่อที่จะรักและให้เพียงอย่างเดียว ยามจากไปจึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดายยิ่งนัก แต่บางคนก็เกิดมาเพื่อสิ่งอื่นๆแตกต่างกันออกไปแล้วแต่จุดมุ่งหมายของชีวิต งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา มีพบ มีจาก มีพรากเป็นของคู่กัน แต่จะมีสักกี่คนที่จะยอมรับมันได้ด้วยหัวใจที่ไม่สะทกสะท้าน ต่อการสูญเสีย มันเป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่ถึงกลัวเราก็หนีไม่พ้น ทุกครั้งที่ได้พบได้ยินและได้เห็น ผู้คนรอบข้างไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใคร เพื่อน คนรู้จัก หรือแม้กระทั่งคนเคยเห็นหน้า ต้องร่ำไห้ต่อคำนี้ มันจะอดสะท้อนใจไม่ได้ หวนนึกถึงตัวเองไม่ได้เช่นกัน การพราก และมองไม่เห็น หาเท่าไหร่ไม่มีวันเจอ มันเหมือนอยู่ในห้วงแห่งการทรมานโดยแท้ เหมือนหัวใจอยู่ในหลุมมืดดำ ว้าเหว่ เงียบเหงา เดียวดายและหนาวไปจับขั้วหัวใจ แล้วใครคนนั้นจะผ่านพ้นมันมาได้ยังไม่จำเป็นต้องหาคำตอบ แต่สิ่งที่ต้องทำ คือเราจะผ่านมันด้วยวิธีไหนที่ทำให้เราหายเจ็บปวดและไม่ลืมเลือนในสิ่งที่รักหรือสิ่งที่ได้เทิดทูลกันไปตลอดจนชีวิตนี้ เมื่อหนึ่งชีวิตจบสิ้น แต่อีกหลายชีวิตต้องเดินทางต่อไปและต้องเข้มแข็งอยู่ให้ได้ ซึ่งการที่จะต่อสู้ชีวิตเพื่อความเป็นอยู่และการดำรงชีวิตที่ดี หรือการใช้ชีวิตที่เกิดมาเพื่อให้เกิดความเป็นไปของธรรมชาติโดยอยู่ในความตั้งมั่นของกฎแห่งกรรมที่เป็นตัวกำหนดชีวิตหรือทางเดินชีวิตทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกมนุษย์ กรรมก็คือกฎของเหตุและผลซึ่งเหตุที่ได้กระทำนำมาซึ่งผลที่ต้องได้รับผลที่ได้รับอยู่ในขณะนี้แสดงถึงเหตุที่เคยกระทำไว้แต่ก่อนและมันก็เป็นเรื่องที่ธรรมดามาก เหมือนกับที่เราเพาะปลูกเมล็ดพันธ์ไม้ต่อมาเราก็ได้รับต้นพันธ์ไม้นั้นและเมื่อเราเห็นต้นของพันธ์ไม้นั้นโตเราก็จะย่อมรู้ได้ว่า มันมาจากเมล็ดพันธ์ไม้ ซึ่งก็เช่นเดียวกันถ้าคนเราทำแต่สิ่งที่ดีๆ มาตลอดชีวิต ในชีวิตหน้าเราก็จะพบชีวิตที่สุขสบาย ในทางตรงกันข้ามหากคนที่ทำแต่ความชั่วมาตลอดชีวิตต่อไปในภายหน้าเขาก็ต้อง ประสบแต่ความทุกข์ยากลำบาก ต้องตกไปอยู่ในสภาพที่ไม่พึงปรารถนา และกรรมนั้นก็ให้ผลไปในรูปลักษณ์ต่างๆ และสามารถพบเห็นได้ในทุกๆ คน ดังเช่นคำ พูดที่ว่า "หว่านพืชเช่นไรก็ได้รับผลเช่นนั้น" หมายความว่า เราปลูกพืชชนิดใด เราปลูกพืชชนิดใด เราก็จะได้รับผลของพืชเช่นนั้น ถ้าเราปลูกฝักทองเราก็ต้องได้ผลเป็นลูกฝักทอง ถ้าเราปลูกมะม่วง เราย่อมจะหวังได้เลยว่าต้องได้ผลเป็นมะม่วงแน่นอน ถ้าหากมิเป็นเช่นนั้นแล้วชีวิตของชาวสวนคงมีแต่ความยุ่งยากวุ่นวายเพราะจะ หวังอะไรไม่ได้เลยว่า เมล็ดที่ตนปลูกลงไปนั้นจะออกลูกเป็นอะไรกันแน่ ! ทุกวันนี้ที่ทุกคน ทั้งหลายทำทุกอย่างตามที่พอใจกันอยากจะทำ แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องเลวร้ายสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น ก็เพราะเขาไม่เชื่อว่าชีวิตหลังความตายมีจริง โลกหน้ามีจริง นรก-สวรรค์ มีจริง และคิดว่าไม่มีใครจะมาพิพากษาตัดสินการกระทำของเขาได้ คนที่คิดอย่างนี้เป็นอันตรายทั้งต่อตนเองและคนรอบข้างเฉพาะความเชื่อที่ผิดๆ การไม่รู้ความจริงอันถูกต้องจะก่อให้เกิดความพินาศแก่ตัวเขาเอง เป็นเรื่องที่น่าสังเวชจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น คนที่อกตัญญูต่อพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณ ไม่รู้จักสำนึกในพระคุณหรือบุญคุณของพ่อแม่ ผลที่ได้รับก็คือ เขาจะถูกคนทั้งหลายรังเกียจและก็จะประสบกับผลของความอกตัญญูต่อตัวเขาเองดังเช่นที่เขาเคยปฏิบัติมาซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องของ "เหตุต้นและผลกรรม" ทั้งสิ้น<o></o>
    <o></o><o></o>
    ซึ่งผลของบุญและกรรมหรือกฎแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องราวหลากหลายของชีวิตมนุษย์ที่ต้องประสบเคราะห์กรรมผจญความทุกข์นานานับประการที่จะต้องเผชิญและมีอยู่บทธรรมบทหนึ่งที่หลวงปู่ทิม อิสริโกแห่งวัดละหารไร่ท่านได้ทรงแสดงธรรมเทศนาสั่งสอนไว้ว่า “บุญและบาปเป็นสิ่งหนึ่งที่คอยควบคุมให้ทุกอย่างเป็นไปได้เช่นกัน เป็นสิ่งที่เป็นวิญญาณคอยควบคุมโชคชะตาของมนุษย์ ฉะนั้นทำความดีไว้เถิด ไม่เสียหายอะไร ทำไปเถิดเดี๋ยวได้ผลตอบแทน ไม่ต้องรอถึงชาติหน้าแล้ว ชาตินี้ก็เห็น แต่ถ้าเราคิดว่า ทำความดีแล้ว ต้องได้ดีอย่างโน้นอย่างนี้ หรือทำบุญ 10 บาท ก็ขอให้ถูกหวย ล้านบาท ก็เป็นไปไม่ได้ เราทำความดี อย่าไปคำนึงถึงผลตอบแทน ทำไปเถิดถ้าคิดว่าสิ่งนั้นทำไปแล้วเราสบายใจ ถึงแม้ว่าเรายังไม่ได้สิ่งตอบแทนในตอนนี้ แต่เราก็ได้ความสบายใจไม่ใช่หรือ? เมื่อใจสงบ นิ่ง เฉย สมาธิก็เกิด ความอิ่มเอมในจิตใจก็ดีขึ้น ปัญญารอบรู้ก็เกิด ทำให้สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ต้นไม้พันธุ์ดี แต่ถ้าปลูกในที่ซึ่งไม่เหมาะกับพันธุ์อย่างนั้น ต้นไม้นั้นก็คงไม่เกิดหรือเกิดแต่ไม่สวยไม่งาม ไม่มีผลมาก เช่นเดียวกับคนดี ถ้าอยู่ผิดที่ก็อาภัพได้ ความดีไม่ให้ผลเท่าที่ควรจะให้ หรือคนดีร่างกายไม่สมประกอบ ก็อาจน้อยใจไม่ประกอบความดีก็ได้ หรือคนดีบางคน ถ้ายังไม่ถึงที่ความดีจะให้ผลดีก็เหมือนต้นไม้ที่ยังไม่ถึงเวลาจะมีผล คนดีนั้นก็อาภัพ หรือนัยหนึ่งคนดีบางคน หากความดีไม่สมบูรณ์เช่นมีแต่ความซื่อ แต่ความฉลาดไม่มี มีแต่ความขยัน แต่ไม่รู้จักกาละเทศะ อะไรต่างๆทำนองนี้คนดีนั้นก็อาจอาภัพได้เช่นกัน เพราะแต่ละคนที่สร้างความดีขึ้นมานั้น ไม่ใช่ว่าเขาจะทำดีทุกครั้ง ส่วนมากคนเวลาทำความดีมักจะแทรกความชั่วลงไปด้วย ทำให้เชื่อไม่ได้ว่า คนที่มีบุญ จำเป็นจะต้องมีร่างกายดีเสมอไป ร่างกายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ ตายแล้วเกิดเอาใหม่ได้ แต่ความดีที่มีอยู่ในวิญญาณนั้น ถ้าหมั่นประกอบความดีอยู่เสมอ ความดีนั้นจะไม่ตาย จะต้องยั่งยืนแน่นอน ถึงไม่ให้ผลตอนนี้ วันหนึ่งก็ต้องให้ผลอย่างแน่นอน ทำไปเถิดความดี คนเราไม่มีใครรู้ความตายได้ ถ้ารู้ความตาย ทุกคนก็ต้องเกรงกลัวต่อบาป หรือถ้ามีใครสามารถฝึกตนเองจนรู้ถึงนรก ไปเห็นความไม่สวยงามในนรก อาจจะเกิดความกลัว ไม่ทำในสิ่งที่ผิดได้ จงทำมันซะเดี๋ยวนี้ซิ ทำมันไปได้ประโยชน์แน่นอน และพยายามฝึกจิตใจให้สงบ แผ่เมตตาไว้ ทำใจให้เป็นสมาธิ สมาธินั้นเราสังเกตุได้ 3 ทาง คือ นิ่ง เฉย เงียบ แต่จะเงียบแบบคนตายแล้วนั้น มักจะเงียบไปเฉพาะชาตินี้ ชาติต่อไปก็ไม่เงียบ มันก็เกิดอีก เพราะจิตมันจะมาเกิดอีก มันอยากได้ อยากดี อยากเป็นอยู่ตลอดเวลา
    เราทุกคนที่ใจกำลังจะคิดทำความดีนั้น ทำไปเถิด ความดีนั่นแหละ ดีแน่ๆ แต่ถ้าใจตอนนี้กำลังคิดจะทำความชั่ว ก็ให้รีบงดเสียเถิด จะปล่อยให้เวลาที่คิดนั้น ล่วงเลยไป อย่าลืมว่า เวลาเป็นสิ่งไม่แน่นอน แต่ความดีหมั่นทำไว้เสมอนั้นแน่นอน ตายแล้วก็พาเอาความดีติดตามไปถึงชาติหน้าได้อีก คนที่ซึ้งในคุณค่าของความดีจริงๆ เขาจะรอคอยจนกว่า จะถึงเวลาที่ความดีจะให้ผลได้เสมอ ตรงกันข้ามคนชั่วที่ฉลาดในการปกปิดความชั่วของตนจนคนอื่นไม่รู้ หรือรู้แต่ทำอะไรเขาไม่ได้ ชีวิตของเขาจะรุ่งเรืองอยู่เสมอ คนอย่างนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยในกลุ่มของคนที่มีการเรียนดี แต่เราอย่าท้อถอย จงเชื่อว่าความชั่วที่สะสมไว้ทุกๆวันนั้น มันก็จะมากขึ้นเป็นอันดับ ซึ่งในวันหนึ่ง ความชั่วนั้นจะต้องปรากฏออกมาให้ผู้อื่นรู้ แต่คนที่มีนิสัยเลวร้ายไม่นึกถึงความดี มัวแต่นึกถึงความชั่วที่คนอื่นกระทำได้ผลดีแล้ว โดยไม่นึกผลร้ายที่จะเดินมาสู่ทีหลัง เวลาเขาจับได้ก็หาว่าเขาโง่ หรือตัวเองฉลาดกว่าเขา หารู้ไม่ว่า ตัวเองหลอกตัวเองอยู่ตลอดเวลา อาตมาขอยืนยันว่า คนที่ไม่ถูกหลอกเลย มีประเภทเดียว คือ คนที่ยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
    คนโดยมาก ถ้าเก่งในทางไหน มักจะพูดถึงตัวเองในทางนั้น ซึ่งบางทีก็พูดมาก จนคนอื่นรำคาญหรือเหตุที่ตัวเด่นในทางนั้นจริงเลยเกิดเข้าใจผิดคิดว่า ความดีของคนอื่นซึ่งไม่เหมือนกับของตนไม่สำคัญ เขาไม่ยอมรับความดีของคนอื่น ไม่ยอมรับนับถือความดีในแง่อื่น มีคนถามว่า ทำไมคนชั่วถึงได้ดีอยู่เสมอ ตัวฉันทำความดีตั้งนานไม่เห็นใครเห็นเลย ขอให้พิจารณาให้ถ่องแท้คนชั่วพวกนี้มักใช้ความดีเป็นฉากกำบังความชั่ว เมื่อตอนที่ทำความดี ความชั่วก็ยังไม่เกอดผล เมื่อความชั่วถูกสะสมบ่อยๆเข้า วันหนึ่งความดีก็อาจไม่คุ้มครองได้ ตอนนั้นแหละความชั่วก็จะต้องให้ผล หรือที่คนมักพูดกันว่า”เพราะบุญเก่ายังมีผลอยู่ ความชั่วในปัจจุบันจึงยังไม่สนอง แต่เมื่อบุญเก่าหมดเมื่อไร บาปที่ทำไว้ก็จะให้ผลทันที” ซึ่งเราจะเห็นว่าหลวงปู่ทิมท่านได้แสดงธรรมเทศนาสั่งสอนของพระพุทธองค์ เพื่อที่ให้มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายสามารถได้นำไปใช้ดำเนินในชีวิตให้ถูกต้องหรือถูกหลักวิธีของการปฎิบัติในสิ่งที่ดีและเป็นกุศลจึงทำให้พุทธศาสนานั้นมีอิทธิพลมากทางด้านจิตใจที่ได้ถือหลักปฎิบัติอันดีกันตลอดมาโดยมีพระพุทธเจ้าซึ่งถือเป็นศาสดาเอกของโลกโดยที่พระองค์ท่านรู้เอง เป็นอนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ คือเป็นเนื้อนาบุญของโลกความหมายคือเป็นผู้ที่สืบทอดพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่และสืบทอดต่อไปไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่านี้อีกแล้ว และคุณของพระพุทธเจ้านั้นซึ่งเราจะระลึกถึงคำว่าพุทโธๆนั้นก็เป็นการภาวนาจิตให้ถึงพระพุทธองค์ซึ่งท่านเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน การหลับตาให้เห็นรูปพระพุทธเจ้าให้อยู่ในใจเราตลอดนั้น ถ้าหากจิตเรายังนึกไปอยู่ในกาม รูป เสียง กลิ่น รส แสดงว่าจิตนั้นยังติดอยู่ในกิเลส สมาธิก็หาเกิดไม่ ความนิ่งเฉยก็ไม่มี เมื่อจิตนั่งเป็นสมาธิแล้วก็ให้คิดซิว่า วันนี้เราทำอะไรไว้บ้าง ดีหรือชั่วอย่างไร ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ความดีความชั่วในใจนั่นเอง ซึ่งเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ที่หลวงปู่ทิม อิสริโกท่านได้แสดงธรรมเทศนาสอนสำหรับพุทธศาสนิกชนทั้งหลายเพื่อให้เป็นประโยชน์และความสุขในสิ่งที่ดีๆที่ได้รับรู้และรับฟังเพื่อการปฎิบัติในภารกิจของชีวิตให้มีคุณค่าที่ดีในสังคมของโลกมนุษย์นี้ได้
    <o></o>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    ยินดีต้อนรับครับผม....อยู่ใน กทม. หรือเปล่าครับเนี่ย
     
  4. Agnostic

    Agnostic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +265
    ครับผม หวัดดีครับ อยู่ใน กทม. ครับ
     
  5. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    สวัสดีนะครับผม ขอน้อมนำบุญมาฝาก อ แก้วสว่าง และ ทุกท่านนะครับ ไปถวายสังฆทานที่ รพ สงฆ์ และหล่อพระสมเด็จทันใจองค์ปฐมที่จังหวัดบุรีรัมย์ อิอิ
     
  6. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    :cool:
    :cool:
    อนุโมทนาบุญ ด้วยครับ :cool:
     
  7. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    ใครจะดี ใครจะชั่ว ก็ตัวเขา ใจของเรา เพียรระวัง ตั้งถนอม อย่าให้บาป อกุศล วนมาตอม ควรถึงพร้อม บุญกุศล ผลสบาย ใจรู้เสื่อม ของตัว พ้นมัวมืด ใจก็จืด สิ้นรส หมดสงสัย ขาดต้นคว้า หาเรื่อง เครื่องนอกใน ความอาลัย ทั้งปวง ก็ร่วงโรย ดีชั่วตามแต่เรื่องของเรื่อง เปลื้องแต่ตัว ไม่พันพัวสังขารเป็นการเย็น ( เทศนาธรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ) [​IMG]
     
  8. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351

    อนุโมทนาด้วยครับคุณ Lee ขอให้ผลบุญที่คุณ Lee เพียรทำอย่างสม่ำเสมอ จงส่งผลให้คุณ Lee และครอบครัวจงประสบแต่ความสุข ความเจริญ ขอรวย รวย รวย นะครับ
     
  9. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    สวัสดียามเย็นก่อนกลับบ้าน หลังจากปล้ำเครื่องคอมมาเกือบบทั้งวันเพราะเครื่อง เปิดไม่ติด ต้องลงวินโดว์ใหม่จนได้
     
  10. pkchalerm

    pkchalerm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,026
    ค่าพลัง:
    +3,171
    สวัสดี คุณโต้ง..คุณแก้วสว่าง ลูกศิษย์หลวงปู่ทุกคนครับ ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของคุณโต้งครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • vPlOxFOOOv.jpg
      vPlOxFOOOv.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.4 KB
      เปิดดู:
      54
    • vPlOxFOExZ.jpg
      vPlOxFOExZ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.3 KB
      เปิดดู:
      52
    • vPlOxFOZxv.jpg
      vPlOxFOZxv.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.9 KB
      เปิดดู:
      55
  11. กอล์ฟชุมพร

    กอล์ฟชุมพร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +8
    เอ่อ พี่ท่านใดอยู่กทม พรุ่งนี้ไปงานของพี่หนุ่มบ้างครับ จะขออาศัยรถไปด้วยครับ pm บอกด้วยครับอยากไป ผมอยุ่แถวหอการค้าครับ
     
  12. kengnaja

    kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,850
    ปรกไตรมาส สวยมากครับ
    ยินดีด้วยครับ:cool:
     
  13. pkchalerm

    pkchalerm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,026
    ค่าพลัง:
    +3,171
    ขอบคุณ คุณเก่งมากครับ ผมหามานานมากในที่สุดก็สมหวังเสียที ได้เหรียญนี้...กับพระผงที่คุณโต้ง คุณแก้วสว่าง มอบให้ด้วยน้ำใจโดยไม่คิดมูลค่า ผมคงพอแล้วครับสำหรับพระหลวงปู่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2012
  14. kengnaja

    kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,850
    เหรียญหลวงปู่เหรียญเดียวหายห่วงครับ
    เรื่องแคล้วคลาดสุดยอดจริงๆครับ:cool::cool::cool:
     
  15. ภณนาวิน

    ภณนาวิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,277
    ค่าพลัง:
    +647
    กราบหลวงปู่ทิม และสวัสดีพี่ๆน้องๆทุกท่านครับ ขอบารมีหลวงปู่ทิมคุ้มครองพวกเราทุกคนครับ
     
  16. กอล์ฟชุมพร

    กอล์ฟชุมพร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +8
    อยากไปร่วมงานด้วยคนครับ คัยรถว่างไปงานพี่หนุ่ม 29 ผมขออาศัยรถไปด้วยได้ไหมเอ่ยนัดเจอที่ไหนก็ได้ กทมครับ pm บอกผมด้วยนะครับ
     
  17. naygood

    naygood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +7,245
    กราบหลวงปู่ทิม ครับ สวัสดีครับ อาจารย์ แก้วสว่าง คำสอนของหลวงปู่ในบทความนี้ ซึ้งครับ
    ช่วงนี้ การดำเนินชีวิตผมกำลังสนุกเลยครับ รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว หนาวๆยังไงไม่รู้ เป็นที่ปรึกษาให้คนอื่นมาบ่อย แต่ตอนนี้น่าจะถึงคราวตัวเองแล้วแหะๆ สถานะตอนนี้เหมือนเดินมาถึงทางแยก ไม่รู้จะไปซ้ายหรือขวาดี ทางไหนก็ผิดเหมือนกันถูกเหมือนกัน หันหลังกลับก็ไม่ได้......อยู่เฉยนานๆก็มีฝ่ายนึงต้องเสียใจ ซ้ายทีขวาทีคนละครึ่งทางแต่ก็เหมือนพยุงปัญหาไปด้วย...เหมือนว่าอีกไม่นานมันก็เกิดปัญหาเดิมอีก....เฮ้อ..คราวนี้เจ้ากรรมนายเวรเล่นกันหนักพอได้......พอหนักๆเข้าผมอธิษฐานเลยจัดมาให้เต็มเอาให้หนักให้สาสมกับที่ผมเคยกับใครไว้ในชาติไหนก็ไม่รู้ ขอให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่เราจะเจอกันผมจะไม่จองเวร ท่านอีก ผมไม่รู้ว่าใครเริ่มก่อนแต่ขอให้มันจบที่ผมในชาตินี้เทอญ....
     
  18. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351
    สวัสดีครับพี่หมอ เหรียญสวยครับ

    สวัสดีครับคุณภณ
     
  19. ภณนาวิน

    ภณนาวิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,277
    ค่าพลัง:
    +647
    วันนี้ไปร่วมหล่อพระสายหลวงปู่เทพโลกอุดรกับพี่รุ่งมา ขออุทิศบุญกุศลที่ทำนี้ให้กับหลวงปู่ทิมและลุงสาย แก้วสว่าง และนำบุญมาฝากทุกคนด้วยครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2012
  20. เม่นจัง

    เม่นจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +401
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...