สนทนาสบายๆ ตามประสา

มาดูรายละเอียดปลีกย่อย ( เมื่อก่อนยานำเสนอที่ห้องคุณ ธรรมพล แล้ว เนื่องจากกลัวเจ้าของก้อนมวลสารพบเห็นแล้วจะเคืองที่ยานำมาเผยแพร่ แต่ตอนนี้ยาได้ขออนุญาติท่านเรียบร้อยแล้ว ) สาเหตุของการหยุดพูดเรื่องพระสมเด็จของยา และ วิเคราะห์พระสมเด็จนั้น เนื่องจากเกิดมุมมองที่แตกต่าง เลยหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในระหว่างมิตรภาพ ดังนั้น ยาจะสะสมหาข้อมูลลำพังเรื่อยมา ดังนั้น ไม่ว่าข้อมูลรูปภาพหรือรายละเอียดความเข้าใจของยา หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ





]

 

จุดคร่ำที่เกิดบนพื้นผิวก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นหลุมบ่อน้ำตา จะสังเกตุเห็นว่า ปากหลุมบ่อน้ำตาจะมีคราบเขียว และ ปากหลุมกว้างด้านในเล็กลง ขอบหลุมไม่แหลมคม นั่นคงอธิบายอะไรบางอย่างให้ท่านเข้าใจได้ยิ่งขึ้น รายละเอียดปลีกย่อย แบบซูมละเอียดยาก็หวังในใจว่า ยาคงได้ไปถ่ายรูปเก็บรายละเอียดแบบละเอียดทุกอณูของเนื้อหาก้อนมวลสารท่านอีกครั้ง หากคุณลุงเจ้าของพระอนุญาติ ก็คงได้เห็นยานำเสนอในเวปส่วนตัวคะ แต่สำหรับเนื้อหาเหล่านี้ยาทำได้เพียงเท่านี้ เนื่องจากไม่มีภาพขยายมากกว่านี้แล้ว

ผลไม้ที่วางทิ้งไว้ หากเราสังเกตุจะเห็นรอยช้ำบนพื้นผิว ก่อนเกิดการเน่าเสียแล้วมีน้ำไหลออกมา ยามองเปรียบเทียบคงไม่ต่างจากภาพที่ยาวงกลมไว้นะคะ และ หวังว่ารูปภาพเหล่านี้จะเป็นเนื้อหาการค้นคว้าสร้างความเข้าใจให้เพื่อนสมาชิกที่สนใจศึกษาพระสมเด็จยิ่งๆขึ้นคะ





ปล. ยาไม่ใช่คนหวงวิชา แต่ในบางกรณีหากเกิดความขัดแย้งยาจะเลี่ยงที่จะไม่พูดมาก เพื่อมิตรภาพระหว่างฝุงชน หากสังคมเปิดกว้างที่จะให้ยาพูด ยาก็จะอธิบายบางอย่างที่เข้าใจ ถึงอย่างไรเสีย ใช่ว่าก้อนกลมๆเหล่านี้จะทำให้เราเรียนรู้ได้หมดทุกเรื่องของพระสมเด็จ แต่ก็เป็นเพียงข้อมูลให้เราได้ศึกษากันแบบถูกทาง หวังว่าคงเข้าใจในการนำเสนอภาพของยานะคะ
และ สุดท้ายนี้ ยาต้องขอขอบพระคุณ คุณลุง PY.amulets ที่ได้ให้ความรู้และให้ยาและเพื่อนสมาชิกได้ศึกษาค้นคว้า จากก้อนมวลสารพระสมเด็จ หากวันใดที่ท่านเปิดอ่านเจอ ยาอยากบอกว่า ยาและ เพื่อนสมาชิกขอบพระคุณมากคะ

 

เอามาซะละเอียดเชียวนะคุณยา ผมก็พยายามเลี่ยงพระสมเด็จเหมือนกัน

ก็ขอรับข้อมูลคุณยาไว้ก่อน ยอมรับว่ายังไม่ได้อ่านเเบบละเอียดมากนัก เพราะเรื่องเนื้อหาที่เป็นสาระต้องค่อยๆอ่านเเล้วนึกตามเเละทำความเข้าใจไปด้วย

เรื่องคราบเขียวค่อยคุยกันครับ

ขอบคุณครับ

 

คุณยามาเป็นชุดๆเชียว ไม่ทราบว่าก้อนๆที่นำมาลงให้ชมคือก้อนอะไรครับ

 

เจอปิดตาองค์นึง บ้านคุณลุงครับ ทำไมทองดูแปลก เหมือนนำมาทา แล้วพระแบบนี้น่าจะของที่ไหนครับ น่าจะเก่ามั้ยครับพี่ๆ

 

ถ้าจะเป็นวัดเครือวัลย์นะครับ ผมว่าอาจจะเป็นหลวงพ่อปานนะ แต่รักที่ลอกออกเห็นเนื้อในสีเข้มด้วย (ลักษณะเด่นของหลวงพ่อแก้ว) แต่รักสีแดง แม้เค้าว่าหลวงพ่อแก้วใช้รักแดง แต่ที่เคยเห็นองค์แท้ ๆ ก็ไม่ค่อยแดงนะครับ ดำแต่ไม่สนิท แต่ของหลวงพ่อปานมีรักแดงที่ออกแดงชัดแบบนี้ครับ ลักษณะของทองเป็นคล้ายหยดลงไปด้านหน้าครับ (หรือจุ่มทอง) ผมว่าสวยดีเหมือนกันอาจจะเป็นหลวงพ่อปาน วัดเครือวัลย์ ยุคต้น (เป็นยุคต้นรักสีประมาณนี้ครับ)

 

ผมดูรักมันสีแปลกๆนะครับ แบบนี้ไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไหร่ครับพี่กวิน ส่วนจะเป็นของที่ไหนผมไม่รู้อีกเหมือนเดิมครับ รอพี่ธณต หัวหน้าใหญ่มาเคลียร์อีกตามเคยครับ

 

คุณธณต ตอนนี้กำลังใจจดใจจ่อกับกรุวัดพระแก้วครับ :boo:

 

สวยดีนะครับพี่ ส่วนตัวผมว่าดูเก่าดีครับ แล้วมีมวลสารอะไรบ้างไหมครับพี่

 

ผมไม่คิดว่าเป็นหลวงพ่อแก้วหรอกครับ องค์นี้ใหญ่ๆหน่อยด้วย
หลวงพ่อแก้วของจริง พิมพ์เล็ก ผมเคยเห็น เคยส่องแล้ว ครับ อยากทราบความเห็นพี่ๆ เผื่อเข้าหลวงพ่อไหนได้บ้าง ถ้าไม่ได้เรื่อง ดูไม่เข้าท่า ไอ้ผมก็ดูไม่ค่อยจะเป็นจะได้แยกไว้ครับ ผมไม่ค่อยได้เดินสนาม

หัวหน้าแก๊งค์ตอนนี้นำกำลังไปตีโอบ เปรตทะยานฟ้าอยู่แหงๆ โชคดีผมไม่ติดโผ :boo:
ปล. ผมว่าพี่ธณิตลืมแล้วแหงเลยที่บอกจะหาวัด พระของคุณตาให้ผม

 

ไม่เห็นอะไรเลยครับ นอกจากผงขาวๆ ในเนื้อเป็นเม็ดๆแต่ก็เห็นไม่ค่อยชัด ถ่ายได้แค่นี้ครับ พระแบบนี้ผมก็ไม่กล้าทะลึ่งล้างหรือลอกรัก มายังไงก็ยังงั้นเลยครับ

จะว่าไปองค์หลวงพ่อปานที่ผมมีเนื้ออกมันๆกว่านี้หน่อย ผงจัดกว่าเห็นเป็นจุดๆเลย

ฝากพี่ๆ ดูองค์นี้ด้วยดีกว่า

พระอะไรไม่ทราบองค์จิ๋วมากๆ ไม่แน่ใจว่าออกวัดไหน :boo:

 

ขนาดครับ องค์เล็กเนื้อจัดก็วัดประสาทเลย ที่ผมพลาดไปเหมือนกัน เพราะวัดประสาทมีหลายพิมพ์มากครับจนงงเลย แต่ดูคราบจะว่าไปหลวงปู่นาคก็ได้นะครับ (เพราะอย่างสมเด็จพิมพ์ใหญ่นี่ ผมดูแล้วบางองค์นี่เค้าน่าจะเอาวัดประสาทมาทำให้เก่า ให้ดูเป็นวัดระฆังให้ถึงยุคสมเด็จโตนะครับ)

ส่วนปิดตานี่ดูยากพอกับสมเด็จเลยครับ พิมพ์ค่อนไปวัดเครือวัลย์ ถ้าพิมพ์ใหญ่องค์ใหญ่นะครับ แต่พิมพ์กลางนี่เล็กเลย ยิ่งพิมพ์เล็กยิ่งเล็กจิ๋วเลยครับ แต่รักนี่อย่างที่บอกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ (เหมือนที่คุณหนุ่มว่า) เพราะออกแดง แต่ผมเคยเห็นสีแดงประมาณนี้เป็นของหลวงพ่อปาน (ขนาดผมมีของเจ้าคุณวิเชียร สร้างปี 2483 อยู่ 2 องค์รักก็ไม่เหมือนกัน องค์นึงออกด้าน ๆ เหมือนผงยา อีกองค์นี้ออกช่ำ ๆ และย่น ๆ ครับ)

 

เดาว่าพอโพสพระสมเดช พี่หนุ่มจะหนีไปนอน +_+

ปิดตาที่ลงถามพี่ๆล่าสุดนี่ อยากทราบในสนามมีเกลื่อนเลยไหมครับ ผมไม่ค่อยได้เดิน จะมีก็น่าจะเป็นพี่หนุ่ม พี่ธณิต น่าจะเห็นของมาเยอะ

ขอบคุณครับ

 

ถ้าพี่เห็นเป็นเม็ดสีขาว ในเนื้อพระ ก็ต้องเป็นของหลวงพ่อปานแล้วหล่ะครับ

 

องค์นี้ไม่มีอ่ะสิครับ -_-"

คือมีผงแต่เล็กมาก เล็กกว่าหลวงพ่อปาน อืมมม เท่าที่เห็นมีจุดสีน้ำตาล จุดดำ กับเม็ดใสๆที่ใหญ่หน่อย ใหญ่ประมาณจุดขาวๆที่เห็นในพระหลวงพ่อปาน

ยืนยันอีกรอบว่าดูไม่เป็นครับ 555+ อธิบายลำบาก ผมว่าดูตามภาพดีกว่านะครับ

รอพี่ธณิตมาฟันธง :boo:

 

ผมก็มีองค์หนึ่งครับ ไม่ทราบวัด พี่ๆพอจะผ่านตามาบ้างไหมครับ

 

เอ่อ เอ่อ ก้อนสารพัดนึกคะ หุหุหุหุหุ ล้อเล่นเจ้าคร้าา เป็นก้อนมวลสารพระสมเด็จก่อนที่จะนำไปผสมกับมวลสารชนิดอื่นๆ ถามถึงที่มา มีคำตอบชัดเจนแต่ไม่สามารถบอกได้เจ้าคร้า ฟามลับ อุ้ย ไม่ใช่คะ ความลับ

เฮ้อ เซ็งจริงๆวันนี้เช่าพระมาทำพระหล่นหายไปไหนไม่รู้ เฮ้อ เฮ้อ ๆๆๆๆ เซ็งๆๆๆๆ เลยยา เซ็งเป็ดมักมัก ว่าแต่ว่าคุณ ธณตสนใจพระสมเด็จวัดพระแก้วหรือคะ ยามีนำเสนอนะคะ แต่ไม่รู้ใช่ไหมนะคะ แต่บางท่านบอกว่าที่วัดพระแก้ว แต่บางท่านว่าวัดระฆังยุคหลัง สำหรับยาคงบอกว่า วัดวากระมังคะ อิอิอิอิอิอิ เอ่อ มีเรื่องเล่านะคะ หากดูภาพจะเห็นคราบขาวๆขึ้นจับบนผิวพระ เป็นคราบขึ้นเองทางธรรมชาติคะ แต่ไม่แค่นั้นนะคะ พอคราบขาวขึ้นมา คราบขุยเหลืองๆดันทองเป็นเม็ดผุดขึ้นมาในเนื้อพระด้วย บ้างก็เม็ดเงินผุด ต้องส่องกับองค์จริงเองถึงจะเห็นคะ

 

คราบๆขาวๆ นี้มักจะขึ้นเมื่อนำพระที่ยังไม่แห้้งสนิทไปอบมะลิครับคุณยา

 

ไม่ได้หนีไปนอนครับ แต่เนทมันไม่เอื้ออำนวยครับ เพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่ครับ ช่วงนี้ต้องมาสะสางงานที่ค้างเอาไว้ครับ
ไม่ได้ลงให้ชมนาน วันนี้ขอสักองค์นะครับ
ดูกันขำๆ เหมือนเดิม ไม่รู้ที่ ไม่รู้วัดครับ

 

คราบขาวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการอบมะลิคะ เนื่องจากว่าพระองค์นี้อยู่กับยามา เกือบ เจ็ดปีเห็นจะได้ ยาไม่เคยทำอะไรองค์พระเลยคะ นอกจากไว้ที่หิ้งเท่านั้น แบบวางจนลืมคะ ไม่รู้จะใส่องค์ไหนดี กำลังคิดว่าจะหาสร้อยแบบคล้องได้เป็นสิบๆองค์เลยดีไหม คือ องค์ไหนก็รัก หุหุหุหุหุ แขวนให้หมดเลย ห้าห้าห้า เอิ๊กกก แต่ขอบคุณมากคะที่ชี้แนะ