สนทนาสบายๆ ตามประสา

สวัสดี ครับพี่ธณต พี่ๆน้อง สบายดีกันนะครับ

 

มาถึงก็เล่านิทานอ่านกันเล่นๆเพลินดีกว่านะครับ

เล่าเรื่องการทำพระเบ้าทุบดีกว่า

การทำพระเย้าทุบในสมัยก่อนนิยมทำกันแบบองค์ต่อองค์มากกว่า ส่วนสำคัญก้จะเป็นขี้ผึ้ง เมื่อเกะเเม่พิมพ์แล้วก็จะเทขี้ผึ้งลงไป แล้วนำออกมาเป็นต้นเเบ และนำมาตบเเต่งความเรียบร้อยอีกที แล้วก็นำดินที่เรียกว่าดินนวล คืออะไร ก็คือดินที่ผสมระหว่างดินเหนียวตากแห้งแล้วนำมาป่นผสมกับน้ำดินขี้วัว ซึ้งจะมาพอกทาทับลงบนแบบจนได้ความหนา แต่จะเปิดล่วงเทโหละลงไป นิยมเปิดส่วนล่างหรือฐานมากกว่า นำไปตอกทอย คีอการนำแบบไปตอกยึดนะครับ เอาเหล็กแหลมตอกผ่านหุ่นขี้ผึ้ง เพื่อยึดแม่พิมพ์ไว้ ผมลืมไปอย่างการขึ้นหุ่นในตอนแรกหลังจากแต่งแล้วส่วนใหญ่จะมีการติดชนวนเพื่อทำการเปิดทางให้เทียนออกเวลาไล่เทียนจากแม่พิมพ์ ส่วนใหญ่ก็จะติดที่ไหล่นะครับ หลังจากนั้น ก็นำมาเข้าดินอ่อน คือดินละเอียดผสมทรายละเอียด โดยมีน้ำขี้วัวผสมกาวเป็นตัวประสาน อันนี้เป็นแม่พิมพ์ชั้นแรก จากนั้นนำดินเหนียวผสมทรายกรวดผสมน้ำผสมพอกอีกชั้น เเล้วมัดลวดกันพิมพ์แตกอีกที แล้วพอกดินอีกครั้ง จากนั้นก็ทำการไล่แบบโดยสำรอกขี้ผึ้งออกจากแบบด้วยความร้อน จากนั้นก็จะเทฉาบหรือผิวด้านนอกของพิมพ์ก่อน แล้วจึงเทแม่พิมพ์อีกทีเมื่อเย็นจึงทุบเบ้าออก แล้วจึงนำมาแต่งตัดชนวนอีกที

เล่าทำไม ลองนึกถึงรูปหล่อพระหลายๆองค์ที่ทำโดยการหล่อเบ้าทุบ แบบหลวงพ่อเงินพิม์นิยมดูนะครับจะเห็นอะไรบ้างนะครับ สงสัยมัยครับว่าทำไมจึงมีเดือยชนวนที่ฐาน

 

เหนื่อยครับช่วงนี้..........

 

สวัสดีครับพี่ธณต
ไปเที่ยวเหนื่อยเหรอครับ

 

ทำงานเต็มเทศกาลเลยน้องหนุ่ม

 

พี่ธณต ลืมผมแล้วแหงๆ :boo:

ตกลงได้โดดงานไปสาดน้ำสาวๆ แถวข้าวสารบ้างมั้ยครับ

 

เปล่าครับเล่นกะงานจนตัวเปียกละครับ

 

การเหวี่ยงพระ

คือการที่นำแม่แบบพระซึ่งโดยใกจะทำจากยางพิมพ์ฟัน เเล้วนำมาฉีดโลหะเข้าตามท่อลงแม่พิมพ์ด้วยการเหวี่ยงด้วยความเร็วสูง งานออกมาละเอียดสูงผิวเรียบตึง ซึ่งถ้าเห็นบ่อยก็แยกออกจากการหล่อไม่ยากครับสังเกตุได้จากผิวและก็หลุมรอยการฉาบผิวและการเทกระบวย มันต่างที่ผิวจริงๆ

เอามาเล่าเพราะฃ่วงหลังเห็นพระแบบนี้เยอะจริงๆระวังๆหน่อยนะครับ

 

สวัสดีตาหนุ่ม ได้ข่าวว่ามีพระใหม่มาเยอะนะ

 

สวัสดีครับพี่ ธณต
ไปเช่าจากวัดมาใหม่ๆ หลายองค์เลยครับ
:boo::boo::boo:

 

สวัสดีทุก ๆ คนครับ เงียบไปหลายวันเลยครับ (deejai)
รอชมเลยครับผม :boo::boo::boo:

 

ไหนๆๆๆ มุงด้วยคนครับ (one-eye)

 

รักษาสุขภาพด้วยครับพี่ :boo:

 

ไหนละหมอเอามาดูหน่อย

 

ขอบคุณครับพี่ทิพย์ ผมมันพวกหนังเหี่ยวกระดูกพรุนอยู่ด้วย

 

ผมยังไม่มีอะไรใหม่ เข้าวัดทำบุญ ถ้าเช่าก็เช่าแต่พระใหม่ ๆ ครับ แต่องค์เก่านซิครับ ที่เคยลงไปแล้ว ที่เนื้อแห้ง ๆ ครับ ลองอบมะลิดู 1 รอบ แล้วใส่ดูแค่ 1 อาทิตย์ ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดครับ แต่ไม่รู้ที่อยู่ดีครับ
รูปแรกเดิม ๆ จากกล่อง รูปที่สองหลังจากที่บอกครับ
(ให้ดูแต่ด้านหลังนะครับ เดียวไปพิจารณาพิมพ์ทรงกัน แทนที่จะดูเนื้อ (deejai))

 

ลองปัดด้วยภุกันชุบน้ำอุ่นซักรอบครับหมอ

 

น้ำอุ่นหรอครับ นานไหมครับ

 

นานนี้หมายถึงอะไรครับปัดนานมั้ยใช่มั้ย ก็ เอาแค่ทั่วองค์นะครับ แต่ดูอย่าให้น้ำร้อนไปเอาแบบนิ้วจุ่มได้นะครับ ภูกันอ่อนนะครับปัดธรรมดานะอย่าถู ให้พระพอขึ้นนวลนะครับทำซัก3-4รอบครับแล้วปล่อยแห้งแล้วมาดูกัน

 

คือตอนแรกเข้าใจว่าปัดภูกันแล้ว แช่น้ำอุ่น (มัวแต่ดูหนังไปด้วย) ตอนแรกอ่านใหม่แล้วเข้าใจว่า เอาภูกันชุบน้ำอุ่น (หรือแช่น้ำอุ่น) แล้วมันปัดพระใช่ไหมครับ