หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

ขอบคุณมากครับพี่เสือ.. ตอนนี้ผมพยายามจะนำเรื่องราวที่เกี่ยวกับองค์หลวงปู่ในมุมอื่นๆมาลงเผยแพร่ให้ทราบกันบ้าง เพื่อที่ทุกท่านจะได้รู้จักองค์หลวงปู่ดีมากขึ้นอีกครับ เพราะคนส่วนมากเขาอาจจะชื่นชมองค์หลวงปู่ในมุมใดมุมหนึ่งเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วเรื่องราวปฏิปทาในองค์หลวงปู่ยังมีสิ่งที่น่าศึกษาอีกมาก บอกตามตรงครับว่าถ้าพวกเราไม่เป็นคนเขียนเผยแพร่ เรื่องราวของท่านก็จะค่อยไม่มีใครรู้ และจะเลือนหายไปตามกาลเวลา
ส่วนเรื่องรายละเอียดในด้านวัตถุมงคลก็ยังมีอีกมากเช่นกัน หากใครชอบแนวนี้ก็คอยติดตามต่อไปนะครับ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับผม



.

 

มีผู้ฝากแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ด่วน..ครับ<!-- google_ad_section_end --> <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>

ขอเชิญร่วมงานบุญสรงน้ำ ฉลองอายุวัฒนมงคล เนื่องในวันเกิด ครบ 7 รอบ
หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย
ในวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2555 ​

ซึ่งในงานนี้หลังจากท่านผู้ร่วมงานได้สรงน้ำองค์หลวงปู่แล้ว จะได้ รับแจกเหรียญ เจริญพร เนื้อสัมฤทธิ์เดช ฟรี..!! ซึ่งเหรียญเจริญพรชุดนี้ สร้าง และออกแบบได้สวยงาม และแกะแม่พิมพ์ได้เหมือนหลวงปู่ท่อนมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาอีกด้วย..
โดยมี ท่าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ เป็นประธานจัดสร้าง

พิธีสรงน้ำองค์หลวงปู่ท่อน ในวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม เริ่มตั้งแต่เวลา 9.30 น.เป็นต้นไป
จึงขอเรียนเชิญคณะศิษยานุศิษย์ และท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญพิธีดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน..

​

​

อยากให้ทุกท่านได้ไปครับ งานบุญใหญ่ เพื่อมุทิตาพ่อแม่ครูอาจารย์องค์สำคัญของสายป่า ในงานนี้จะมีพ่อแม่ครูอาจารย์มากันเพียบแน่นอนครับ ถ้ามีโอกาสไม่อยากให้ทุกท่านพลาด ผมเองแม้ไม่ได้ไป แต่ก็รวบรวมปัจจัยส่วนตัวและญาติสนิทมิตรสหายส่งไปทำบุญแทนครับ​

.​

 

หวัดดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ คุณกวาวชไมจองเหรียญหลวงปู่บัวสีม่วงมาได้ด้วยหรือครับ อยู่ในกล่องชุดกรรมการ9เหรียญใช่มั้ยครับ อยากได้เหมือนกันแต่ไม่ทัน:'(

 

สวัสดีทุกท่านครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ

 

ด้านข้างพระมหาเจดีย์นั้น ประดิษฐานพระพุทธพักตร์ หรือที่เรียกกันว่า พระผุด ซึ่งพระองค์นี้มีประวัติความเป็นมาอยู่พอสมควร..

ผมได้สอบถามกับศิษย์รุ่นเก่าขององค์หลวงปู่ได้ความมาว่า เมื่อหลายปีก่อนทางวัดได้ขุดบ่อน้ำบริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยขุดไปได้ไม่ลึกเท่าไหร่ ก็พบหินขนาดใหญ่อยู่หนึ่งก้อนซึ่งมีลักษณะคล้ายเศียรพระ บางท่านก็บอกว่าหินก้อนนี้เป็นหินที่ถูกแกะสลักรูปเศียรพระอยู่ก่อนแล้ว สันนิจฐานว่าสมัยเมื่อหลายร้อยปีก่อน บริเวณนี้อาจเคยเป็นที่พักสงฆ์มาก่อน คนในยุคนั้นอาจสลักรูปพระนี้ไว้แต่ยังไม่แล้วเสร็จ แต่จะอย่างไรก็ตามเมื่อมีการขุดพบหินที่มีลักษณะคล้ายเศียรพระพุทธรูปก้อนนี้ จึงได้ถูกยกวางไว้ในบริเวณใกล้ๆกับบ่อน้ำนั้น แล้วก็มีการตั้งศาลเล็กๆเอาไว้ในบริเวณนั้นด้วย ต่อมามีผู้มาอธิษฐานขอพรจึงได้เห็นความอัศจรรย์ จึงพากันขออนุญาติองค์หลวงปู่ทำการปั้นปูนพอกหินก้อนนี้และทำให้เป็นรูปเศียรพระโดยสมบูรณ์และสวยงามขึ้น เศียรพระนี้ก็อยู่ตากแดดตากฝนมาหลายปี ต่อมามีผู้ศรัทธาเห็นว่าบริเวณที่ตั้งพระนี้ยังไม่เหมาะสม จึงได้ขออนุญาติองค์หลวงปู่อัญเชิญเศียรพระนี้มาประดิษฐานไว้โคนต้นโพธิ์ใหญ่ประจำวัดบริเวณหลังกุฏิเก่าองค์หลวงปู่ ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีการสร้างพระมหาเจดีย์ใหญ่ และมีการสร้างเพิงพักให้เพื่อกันแดดกันฝน และเพิงพักนี้ก็ได้ถูกพัฒนาให้มีความเหมาะสม ลงตัวขึ้นโดยลำดับ..
ต่อมามีการก่อสร้างพระมหาเจดีย์ ธัมมะจารี สุขังเสติ ขึ้น ทางวัดจึงต้องถมดินเพื่อก่อสร้างฐานพระมหาเจดีย์ จึงทำให้เศียรพระผุดนี้ อยู่ต่ำกว่าพื้นพระมหาเจดีย์เพราะตั้งอยู่ที่พื้นเฉยๆ ต่อมาก็มีผู้ฝันว่า ให้ปรับพื้นที่และปรับตำแหน่งของพระผุดนี้ให้อยู่ในทิศทางที่เหมาะสม ก็พอดีเป็นจังหวะที่องค์หลวงปู่ท่านสั่งการให้นายช่างวิโรจน์ เป็นผู้จัดการยกองค์พระผุดขึ้นสูงกว่าพื้นพระมหาเจดีย์โดยให้หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ และก่อสร้างเพิงพักให้แข็งแรงกว่าที่เป็นอยู่ โดยองค์หลวงปู่บอกว่า " ของเก่ามันไม่แข็งแรง ให้รื้อออกเลย " พอนายช่างวิโรจน์รับคำสั่งจากองค์หลวงปู่แล้ว ประกอบกับมีผู้ฝันตรงกัน ทางนายช่างวิโรจน์ก็กำลังคิดแผนที่จะรื้อเพิงพักเก่าออกและจะตัดทอนกิ่งไม้โพธิ์ที่ยื่นออกมาคล่อมตรงเศียรของพระผุดพอดี(แต่ก็ยังไม่กล้าเสี่ยงตัดทอนกิ่งโพธิ์นั้นออก เพราะเห็นเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และถ้าตัดไม่ดีกิ่งโพธิ์กิ่งใหญ่ที่พาดออกมานั้น ก็จะหักมาทับเศียรของพระผุดได้พอดีอีกด้วย) ก็เป็นจังหวะว่าอีกไม่กี่วันต่อมา ได้เกิดพายุลมแรงพัดเอากิ่งโพธิ์กิ่งใหญ่นั้นหักลงมา 2 กิ่ง(ไม้โพธิ์นิพพาน..) โดยกิ่งหนึ่งนั้นพาดทับไปทางทิศตะวันออก ทำให้หลังคาและต้นเสาเพิ่งพักนั้นเกิดความเสียหาย(ยังไงๆ ก็ต้องรื้อถอนออกทั้งหมดอยู่แล้ว) ส่วนกิ่งโพธิ์อีกกิ่งหนึ่งที่พาดมาทางเศียรของพระผุดซึ่งเป็นกิ่งใหญ่มากๆ ก็ได้หักลงในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่เหมือนปาฏิหาริย์จริงๆ ก็แทนที่จะต้องหักมาทับเศียรพระผุดแบบเลี่ยงไม่ได้แน่นอน เพราะกิ่งโพธิ์นั้นโน้มเอียงอยู่บนเสียงพระผุดพอดี แต่กิ่งโพธิ์ใหญ่กิ่งนั้นกลับเบนตัวเองออกไปทางด้านขวามือแทน โดยที่เศียรพระผุดไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่รอยขีดข่วนเพียงนิดก็ไม่ปรากฏ ใครมามองก็ต้องร้อง และต้อง งง..งง กันหมดทุกคน และหากใครได้เห็นก็ต้องเขื่อว่า เป็นปาฏิหาริย์แน่นอนไม่ต้องสงสัย.. ต่อจากนั้นมา นายช่างวิโรจน์จึงได้ปรับปรุงพัฒนาเพิ่งพักของพระผุดได้อย่างสบายใจ ไร้อุปสรรค และสวยงาม.... จึงเป็นอีกหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัด ที่ผู้คนต่างมากราบไว้กันครับ



..ด้วยความที่มองลักษณะดูคล้ายกับเศียรพระที่ผุดขึ้นมาจากพื้น จึงเรียกพระพุทธพักตร์ หรือเศียรพระนี้กันจนติดปากว่า " พระผุด " นั่นเองครับ



.

 

ขอเดาเอาว่ากิ่งไม่โพธิ์นิพพานที่ หักลงนั้นนำไปทำพระเศรษฐีนวโกฏ ใช่ไหมครับ

 

ตอนนี้เหลืออยู่ของต้วเองแค่3สีเองครับพี่บัติ เขียว เหลือง ส้ม นอกนั้นโดนแบ่งไปหมด

 

ขออนุญาติพี่ทุเรียนทอดด้วยครับ
รบกวนสอบถามพี่ๆเพื่อนๆ ทุกท่านครับ
ใครพอทราบประวัติ พระพุทธรูป ที่ท่าน ลอยน้ำมา บ้างครับ (เหมือนประวัติหลวงพ่อโสธร) อยากได้ทางจังหวัด ชลบุรี หรือ ระยอง หรือ จันทบุรี ครับ
ขอบพระคุณมากๆครับ

 

หวัดดีท่านทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ น่าเสียดายครับคุณกวาวชไม สีม่วงเป็นสีประจำองค์หลวงปู่บัวครับ ท่านเกิดวันเสาร์ ชุดนี้สีม่วงน่าจะมีน้อยที่สุด

 

ประวัติหลวงพ่อลอย
หลวงพ่อลอยเป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสง เนื้อทองสัมฤทธิ์ อายุประมาณ 1,300 กว่าปี เป็นพระพุทธรูปลอยน้ำมาติดที่กอไผ่ในแม่น้ำยม (ขอแก้ไข น่าจะเป็นแม่น้ำน่านครับ )จังหวัดอุตรดิตถ์ได้เข้าฝันสองตายายที่มีอาชีพค้าขายทางเรือให้นำท่านขึ้นมาจากน้ำที และเป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ทั้งสองฝันเหมือนกันถึงสามครั้งจนทั้งสองแปลกในที่ฝันเห็นหลวงพ่อเหมือนกันทั้งสองจึงตัดสินใจไปดูตามที่ฝันเห็น และก็ได้เห็นหลวงพ่อซึ่งลอยมาติดอยู่ ทั้งสองตายายได้นำหลวงพ่อขึ้นเรือ เมื่อได้หลวงพ่อมาทั้งสองก็ทำมาค้าขายดีวันดีขึ้น ต่อมาทั้งสองได้รู้จักนายเสริมและแม่นิดซึ่งเป็นคนอำเภอขลุง ได้ไปทำป่าไม้อยู่ที่อุตรดิตถ์ทั้งสองตายายเห็นว่าเป็นคนดีจึงได้มอบหลวงพ่อให้ ระหว่างที่หลวงพ่ออยู่กับนายเสริมและแม่นิดนั้น ท่านได้แสดงปาฏิหาริย์หลายอย่าง ช่วยให้พ้นจากโจรปล้นด้วยการเรียกให้รู้ตัวหลายครั้ง และต่อมานายเสริมกับแม่นิดก็กลับมาอยู่อำเภอขลุง วันเวลาผ่านไป นายเสริมก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคชรา เมื่อนายเสริมจากไปแม่นิดก็อยากจะนำหลวงพ่อไปไว้ที่วัด แต่เมื่อนำหลวงพ่อไปไว้ตามวัดต่าง ๆ จนทั่วจังหวัดจันทบุรี หลวงพ่อไม่ยอมอยู่ เกิดอาเพศต่าง ๆ นา ๆ ยกไม่ขึ้นบ้าง ฝนตกไม่หยุดบ้าง จนแม่นิดอ่อนใจ ต่อมาแม่นิดได้รู้จักกับแม่วาดซึ่งเป็นคนบ้านท่าขาหยางได้พาลูกชายไปบวชเป็นพระพร้อมเพื่อนลูกชายอีกสองคนที่อำเภอขลุง แม่วาดคนนี้เป็นคนสร้างวัดท่าขาหย่าง แม่นิดรู้เข้าจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่วาดฟัง และมอบหลวงพ่อให้แม่วาดมาไว้ยังวัดท่าขาหย่าง แม่วาดจึงทำพิธีเสี่ยงทายถามหลวงพ่อจนแน่ใจว่าหลวงพ่อจะมาอยู่ที่วัดท่าขาหย่างแน่ ๆ จึงได้หาเรือแห่อย่างใหญ่โต นำหลวงพ่อกลับมายังวัดท่าขาหย่างพร้อมพระบวชใหม่อีกสามรูป เมื่อปี พ.ศ. 2489 ระหว่างทางก็เกิดอาเพศมืดฟ้ามัวดินไปหมด ฟ้าร้องน่าหวาดกลัว เพราะเป็นทางเรือแต่แปลกฝนไม่ตก ลมไม่มี พอมาถึงวัดท่าหย่างนำหลวงพ่อประดิษฐานเสร็จเรียบร้อยแล้งฝนจึงตกลงมา
( หมายเหตุ วัดเทพขาหยั่ง ชื่อเดิมคือ วัดท่าขาหย่างตามชื่อหมู่บ้าน)

 

ขอบคุณมากๆครับพี่ ขอบคุณมากๆครับ

 

ใช่ครับผม.. แต่กิ่งโพธิ์นิพพานที่นำมาสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏินั้น เป็นคนละต้นกันกับต้นที่วางเศียรพระผุดครับ

ก่อนหน้านี้ประมาณ 3 ปี ก็มีกิ่งโพธินิพพานหักลงมาก่อนแล้วครับ โดยโพธิ์ต้นดังกล่าวนี้เป็นโพธิ์อินเดีย แขนงของต้นตรัสรู้ และนำมาปลูกไว้ที่วัดเทธารทอง ในวันที่ 9 เดือน 9 เวลา 9 โมงเช้า และหักลงในวันที่ 9 ซึ่งเป็นวันพระด้วยครับ องค์หลวงปู่จึงสั่งให้แกะเป็น.. ไม้เท้าถวายท่านได้ 4 ด้าม , และนำมาแกะเป็นพระมหาเศรษฐีนวะโกฏิขนาดห้อยคอ 12 องค์ , และพระปัจเจกโพธิ์ขนาดบูชาอีก 4 องค์ ฯลฯ

รวมความแล้วกิ่งโพธิ์นิพานที่วัดเทพธารทองนี้หักลงมาอยู่ 2 ต้นครับ

ขอบคุณมากสำหรับคำถามที่คุณกัปตันถามมาครับ



.

 

ตามสบายเลยครับท่านเอกกร ผมรู้สึกว่าทาง จ.นนทบุรี จะมีวัดหนึ่งนะครับที่ท่านลอยน้ำมาเหมือนกัน นั่นคือ หลวงพ่อใหญ่ วัดไทรม้าใต้ ลองค้นประวัติดูนะครับ ไม่ธรรมดาเลยครับ..

 

ขอบพระคุณมากๆครับพี่

 

สวัสดีครับพี่X และสมาชิกทุกท่าน ตอนนี้อยู่ชลบุรีแล้วครับ กำลังมุ่งหน้าไปอยุธยาต่อ ช่วงนี้ฝนตกบ่อยดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ผู้เขียนเอง ก็พิมพ์ไปจามไปครับ 55

 

หวัดดีท่านทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ

 

สวัสดีทุกท่านครับ ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่หน้าฝนแล้ว รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ

 

สวัสดีครับ เมื่อวานฝนตกทั้งวัน เช้านี้ยังตกอยู่
คุณทุเรียนทอดก็ต้องรักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะครับ

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา เชื่อกันว่าเป็นวันที่แข็งมาก เพราะเป็นวันที่ 5 เดือน 5 ปี 55 ปีมะโรง(5) และยังเป็นวันพระขึ้น 15 ค่ำ แถมยังเป็นวันฉัตรมงคลด้วย หลายที่จัดพิธีพุทธาภิเษก ส่วนที่วัดเขาน้ำซับ อ.แก่งหางแมว อันเป็นวัดในเครือวัดเทพธารทอง ที่องค์หลวงปู่มาร่วมสร้างไว้ ก็ได้จัดพิธีวางศิลาฤกดิ์รากฐานพระเจดีย์สุขังเสติ เจดีย์เพื่อน้อมถวายบูชาแด่องค์หลวงปู่พิศดู พร้อมทั้งจัดพิธีพุทธาภิเษกชนวนมวลสารในการที่จะนำไปหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมปางสมาธิทรงเครื่อง พระประธานอันจะประดิษฐานไว้ในพระเจดีย์ (ซึ่งจะทำการหล่อในอีกไม่ช้า) และทอดผ้าป่าสามัคคี บรรยากาศเรียบง่ายมีผู้ร่วมงานหลายร้อยคน เสียดายที่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา เพียงแต่เขียนบอกไว้คร่าวๆเท่านั้นครับ..

 

ขอบคุณมากครับ คุณnuamnim1ก็เช่นกันนะครับ

หายไปไหนมานาน หลายคนถามถึงครับ