นิทาน เรื่อง "พญานาค"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 31 ธันวาคม 2011.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    :cool::cool::cool:
    555 ขอโทษนะคะ ไม่ได้หัวเราเยาะ (แต่มันขำอ่ะ)
    คะรุทา หายไปนานเลย เราแอบคิดถึงอยู่ กลับมาก็มาใบ้หวยเลยนะ
    แล้ววันนี้ มีัอะไรมาฝากหรือเปล่าจ๊ะ เรื่องตื่นเต้น หรืออึ้งๆ อึ้งกิมกี่ อะไรแบบเนี้ย
     
  2. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    โห........(ตำตาโตๆ) เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย (เงินไม่น้อยนะนั่น แอบเสียดายอ่ะ)
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    มิกกี้...นึกถึงหน้าเราไว้นะ รับรองไม่หลง ชัวร์ป้าบ
     
  4. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    รอจ่ายอีก 6หมื่นห้า คงอีก 2สัปดาห์ข้างหน้า ค่าอุปกรณ์งานตัวใหม่
    555 บอกแล้วบททดสอบที่สาหัส 555 มาพร้อมกันเลย เรื่องงานน่ะ
    แต่ไม่เป็นไร เพราะ .....เราสอบผ่าน ปล..ฝันเมื่อเช้าเรื่องทำข้อสอบ และเราสอบผ่านด้วย จะขอดูคะแนน เขาก็ไม่ให้ดู
     
  5. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    เรื่องอึ้งๆๆ นอกจอ
    คือเมื่อเช้าที่หมู่บ้านที่เราอยู่ เขาทำบุญหมู่บ้านกัน ก็เลยรวมตัวกันเยอะมาก
    เราเจอ คนที่ลีลาการพูด การจาคล้ายคุณบางลีลา นอกจอด้วยล่ะ ..
    ข้ออรรถ ข้อธรรมคุยไปคุยมา ก็ยาว จนคนอื่นกลับกันหมดเหลืออยู่ 2 คนยังคุยกันไม่เสร็จ 5555 555
    ลีลาเราแบบคะรุทา ผสมบางลีลาแบบคุณนุ๊ก อะฮ๊า อะฮ๊า...
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    :cool::cool::cool: ชอบอ่ะ กระทืบ like ให้ล้่านครั้งแลย
     
  7. แหมบศรี

    แหมบศรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,067
    รับๆๆ ค่ะ รับทุกเพศทุกวัยคะ แปดสิบเพิ่งจบปริญญาไปก็มีคะ :cool::cool:
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    รู้สึกมั้ยว่าเพื่อนเราหายไปหนึ่งคน นานมากแล้ว
    เข้าบ้านไม่ถูกหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ
    รออ่านนิทานโกมาริกะ นานมากแล้ว
    เธออยู่หนายยยยย?????
     
  9. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ว่าแล้วก็ เอก เข นก รอฟังเรื่องมณีเพชรต่อดีก่า...
    ท่านประธานลืมหนูอ๊ะยังค่ะ...
    จะได้มีกำลังใจ รบ ต่อ...
     
  10. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    โฮ๋ย..ยย ทดสอบแรงเหมือนกันเน้อะ... พี่เป็นฝ่ายสนับสนุนกำลัง(ใจ)ให้นะจ๊ะ..
    เมื่อเช้าน้องวรรธน์ เค้าไปตาก ผ่านอุทัยแล้วโทรหาพี่ จะชวนนั่งรถไปเที่ยวด้วยกัน แต่พี่มัวโม้อยู่ เลยไม่ได้ยินโทรศัพท์ แต่ก็โทรไปฝากผู้ใหญ่ที่วัดดอยข่อยเขาแก้ว แล้ว เห็นว่ามีโปรแกรมจะไปทางตะวันออกด้วย พี่ก็เลยฝากให้ไปแนะนำตัวกับหลวงพ่อวัดลุ่ม แล้วช่วยเล่าให้ท่านฟังด้วย เรื่องหล่อพระบรมรูปพระเจ้าตาก กำหนดวันที่ ๖ พ.ย. นี้แหละ (วันตีค่ายโพธิ์สามต้น) พลับพลาต้องสร้างให้เสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคม...พี่ตั้งใจว่าจะนิมนต์ท่านมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์...
     
  11. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ดีจังค่ะศิษย์พี่ดาว... สาธุ
    วัดดอยข่อยเขาแก้ว นู๋ไปมาแล้วเช่นกัน *-*
    เห้นคุณวรรธน์ก็บอกว่าจะมาระยอง อาจปลายเดือนนี้ล่ะค่ะ..
    เริ่มสะสมทรัพย์ก่อนนะคะ จะร่วมด้วยช่วยกันแน่นอนค่ะ..
     
  12. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    เรื่องเงินไม่เดือดร้อนจ้ะ...ชาวบ้านร่วมด้วยช่วยกันหลายแรง พี่ตั้งใจจะทำให้เป็นพิธีแบบโบราณ ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ไม่เน้นเรื่องเงิน (ไม่ได้หยิ่งนะจ๊ะ) แต่อยากให้เป็นกิจกรรมที่รวมใจ เพื่อแสดงถึงพลังความสามัคคีมากกว่า วันนั้นถ้าว่าง ก็เชิญมาร่วมงานนะจ๊ะ.. พี่ทำพิธีหล่อที่วัดเลย ขอบคุณสำหรับ ความมีน้ำใจนะจ๊ะ.. ก็ขอให้สิ่งดีงามที่หนูคิดและตั้งใจทำ ส่งผลให้หนูผ่านอุปสรรคต่างๆ นาๆ ไปได้โดยง่าย...นะจ๊ะ คุณหนูคะรุทา...
     
  13. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ขอบพระคุณค่ะศิษย์พี่ดาว..
    นู๋สู้ๆๆค่ะ มองพ่อเป็นกำลังใจวันนี้หนูคงเหมือนวันที่พ่อ มุ่งมาระยองก่อนตีจันทร์
    ศึกมาหลายด้าน พร้อมปัญหาให้แก้..มีแผ่นดินเป็นเดิมพัน
    เรื่องของหนูเลยเล็กไปถนัดตาเลยค่ะ..
    หนูลูกพ่อค่ะ....กำลังใจต้องได้เหมือนพ่อ..
    ขอบพระคุณศิษย์พี่ดาวค่ะ *-*
     
  14. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    สุดยอดเลยน้องพี่.. พระเจ้าตากคงยินดีที่ลูกของท่านเข้มแข็ง และแข็งแกร่ง..ไม่ต่างไปจากท่าน เท่าใดนัก..พี่ขอนับถือในน้ำใจ..พี่ดาว *
     
  15. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    โกมาริกะกำลังไปลาดตระเวณอยู่ห้องวิทย์จร้า..ไปแอบดูมังกรคายนาคอยู่อ่ะ
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แล้วเมื่อไหร่จะกลับบ้านถูกเนี่ย...
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นิทานวันนี้ ขอเสนอ

    เทวตำนานการกวนเกษียรสมุทร

    เรื่องมันมีอยู่ว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว "สวรรค์" ที่พวกเรารู้จักกันดีนั้น ไม่ได้เป็นที่อยู่ของเหล่าเทวดานางฟ้าหรอกนะ แต่เป็นที่อยู่ของพวก "ยักษ์" หรือเรียกว่า "อสูร" ต่างหากล่ะ

    มีอยู่วันนึงเหล่าเทวดาก็ออกอุบาย รวมตัวกันใส่เสื้อสีทองแล้วไปยึดสวรรค์ ไม่ได้ยึดเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยนะ แต่ยึดสวรรค์เพื่อเอามาเป็นที่อยู่ของตน ทำให้พวกยักษ์อสูรโกรธแค้นมาก เจอเทวดาเมื่อไร ซัดกันนัวเมื่อนั้น

    วันนึงพระอินทร์ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่ของเหล่าเทวดาก็ดันไปทำให้ฤาษีท่านนึงโกรธ ฤาษีหยิบไม้เท้ามาร่ายคาถา "วิงกาเดียมลาลีโอซา" แปลเป็นไทยได้ว่า "พวกเทวดาจะต้องต้องรบแพ้พวกยักษ์ทุกครั้งตลอดไป"

    เมื่อโดนสาปอย่างนี้ งานเลยเข้าเหล่าเทวดาเลย รบร้อยครั้งแพ้ทั้งร้อยครั้งอย่างนี้ก็ไม่ไหว พระอินทร์เลยโทรไปปรึกษาพระนารายณ์ว่าทำยังไงกันดี

    พระนารายณ์แนะนำว่า บนสวรรค์มีทะเลแห่งหนึ่ง ซึ่งถ้ากวนน้ำทะเลแห่งนี้จะได้น้ำนมซึ่งเป็นน้ำอมฤตที่กินแล้วทำให้มีชีวิตเป็นอมตะ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องกลัวพวกยักษ์แระ แต่พิธีการนี้ยุ่งยากมาก ต้องไปนำภูเขามันทรคีรีมาปักกลางทะเลน้ำนม ใส่สมุนไพรสวรรค์ แถมยังต้องไปขอร้องพญานาควาสุกรีมาขดรอบภูเขาเป็นสายชักแล้วออกแรงกวน ดึงไปดึงมาเคี่ยวจนได้น้ำอมฤต

    เหล่าเทวดาปรึกษากันแล้วว่าทำกันเองไม่ไหวแน่ๆ เลยไปหลอกพวกยักษ์ว่า ให้มาช่วยกันกวน แล้วจะแบ่งน้ำอมฤตให้กิน ยักษ์ก็แอ๊บแบ๊วหลงเชื่ออย่างง่ายดายมาช่วยกันกวนกันใหญ่

    จะสังเกตได้ว่าพวกยักษ์ดึงทางหัวของพญานาค นี่ก็มีที่มาเหมือนกัน อย่างที่เรารู้ๆกันว่า พญานาคมีพิษสามารถพ่นไฟได้ เหล่าเทวดากลัวว่าขณะที่กำลังดึงๆกันอยู่ พญานาคจะพ่นพิษใส่ เลยออกอุบายให้พวกยักษ์ไปดึงทางหัวนั้น โดยหลอกว่า "ใครเก่งให้ไปดึงทางหัว" พวกยักษ์ก็แอ๊บแบ๊วอีก มั่นใจว่าตัวเองเก่งก็เลยไปดึงทางหัวกันใหญ่ เหล่าเทวดาก็แอบยิ้มที่มุมปากแล้วไปดึงทางหางอย่างสบายใจ (ตัวร้ายใช้กลโกงเรียกว่า "เจ้าเล่ห์" พระเอกใช้กลโกงเรียกว่า "มีไหวพริบ")

    หลายพันปีผ่านไป เทวดาและยักษ์ต่างก็ช่วยกันกวนทะเลน้ำนมให้เข้ากับสมุนไพรสวรรค์ นานๆพญานาคเวียนหัวก็พ่นพิษพ่นไฟใส่พวกยักษ์บ้าง หมดเรี่ยวหมดแรงไปตามๆกัน

    เทพสีม่วงที่ยืนอยู่นี้คือ "พระอิศวร" เล่ากันว่าครั้งนึงพญานาคเวียนหัวจัดจึงพ่นพิษครั้งใหญ่ซึ่งอาจทำร้ายสรรพสัตว์บนโลก ร้อนถึงพระอิศวรที่ต้องลงมาช่วยดูดซับพิษครั้งนี้ พิษครั้งนี้รุนแรงมาจนเผาพระศอ (คอ) พระอิศวรจนเป็นสีดำ สีดำเลยกลายเป็นสีของความรักในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ส่วนพิษกระเด็นไปโดนพวกงูทำให้งูเป็นเป็นสัตว์ที่มีพิษจนทุกวันนี้

    ส่วนที่ใต้ของขดพญานาคจะเห็นว่ามีเต่ายักษ์อยู่ตัวนึง (เห็นมั้ย สีเหลืองๆ) เล่ากันว่าเหล่าเทวดากับยักษ์ดึงกันไปดึงกันมาจนภูเขาลูกนี้แทบทะลุพื้นสวรรค์ พระอินทร์ในฐานะที่เป็นต้นคิดจึงออกมาแสดงสปิริตโดยการอวตารเป็นเต่ายักษ์รองรับภูเขาลูกนี้ไว้ไม่ให้ทะลุไปยังพื้นโลก

    อีกหลายพันปีผ่านไป เหล่าเทวดากับยักษ์ก็กวนน้ำทะเลให้เข้ากับสมุนไพรสวรรค์จนเป็นสีขาวข้นๆเหมือนน้ำนม เย้ๆ ในที่สุดก็ได้น้ำอมฤตที่ต้องการแล้ว

    พวกยักษ์เหนื่อยอ่อนกว่าเหล่าเทวดาหลายเท่าเพราะว่านอกจากต้องออกแรงฉุดแล้วยังต้องเผชิญกับพิษของพญานาค (เล่นไปดึงตรงหัวเค้านี่ มีตั้ง 3 หัวแน่ะ) ส่วนเหล่าเทวดาดึงตรงหางเลยไม่ค่อยเหนื่อยซักเท่าไร ตอนที่น้ำอมฤตนี้แล้วเสร็จ ได้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือเหล่านางฟ้าแสนสวย

    พวกยักษ์เห็นเหล่านางฟ้า ก็รีบวิ่งไปไล่จับกันอย่างเมามัน (น่าจะเป็นที่มาของคำว่า "เจ้าชู้ยักษ์") ส่วนเทวดาก็ย่องมาต่อแถวกินน้ำอมฤตกัน

    อย่างไรก็ตามมียักษ์ตนหนึ่งที่ไม่ได้สนใจกับเหล่านางฟ้าคนสวย เลยปลอมเป็นเทวดามาเนียนร่วมกินน้ำอมฤตด้วย ยักษ์ตนนั้นชื่อว่า "อสุรินทร์ราหู" เป็นยักษ์ตนเดียวที่กินน้ำอมฤตอย่างสบายอกสบายใจ

    ตอนนั้นเองพระอาทิตย์กับพระจันทร์ผ่านมาเห็นเข้า เลยไปฟ้องพระนารายณ์ว่า เจ้ายักษ์ราหูเนี่ยมาเนียนกินน้ำด้วย พระนารายณ์จึงขว้างจักรใส่เจ้ายักษ์ราหูจนตัวขาดเป็นสองท่อน แต่เนื่องจากเจ้ายักษ์ราหูกินน้ำอมฤตไปแล้วเลยไม่ตาย จึงพาร่างครึ่งท่อนบนหนีไป

    ราหูโกรธพระอาทิตย์กับพระจันทร์มาก ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ราหูเจอทั้งสองนี้ก็จะจับกินทันที แต่เพราะว่าราหูมีแค่ครึ่งท่อนบนพอกินทางปากเสร็จ พระอาทิตย์กับพระจันทร์ก็ออกทางท้องได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นที่มาของตำนาน "ราหูอมจันทร์" หรือจันทรคราสและสุริยคราสนั่นเอง

    น้ำอมฤตที่เหลือ พระอินทร์ได้นำไปเก็บรักษาไว้บนสวรรค์และไม่มีผู้ใดได้แตะต้องมันอีกเลย (อุตส่าห์กวนกันตั้งนานนะ สุดท้ายรู้สึกไม่ค่อยได้อะไรเลยแฮะ 55+) สงสารพวกยักษ์จริงๆ ไปช่วยกวนตั้งนานสุดท้ายไม่ได้อะไรเลย เกิดเป็นตัวร้ายก็อย่างนี้แหละ ต้องทำใจ

    ***********************

    ปัญจชันยสังข์ (Pancajanya Sankha)

    คือ หอยสังข์ที่ใช้เป่าเพื่อให้เกิดชัยชนะ ในมหากาพย์มหาภารตะกล่าวว่า พระกฤษณะ ซึ่งเป็นอวตารปางหนึ่งของพระวิษณุเป่าสังข์นี้ระหว่างการรบ ณ ทุ่งกุรุเกษตร ซึ่งเป็นสงครามของตระกูลปาณฑพกับเการพ

    เช่นเดียว กับหริธนู กำเนิดของปัญจชันยสังข์ค่อนข้างสับสน ไม่มีปรากฏในมหากาพย์มหาภารตะ มหากาพย์รามายณะและวิษณุปุราณะ ว่ากำเนิดมาจากการกวนเกษียรสมุทร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2012
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นิทานเรื่องต่อไปนี้ (มิกกี้โดยเฉพาะ)

    พระนางมาริษาเทวี ( มนสาเทวี )...บุตรีแห่งองค์ศิวะเทพ...

    เทพเทวีแห่งงู....

    บางคัมภีร์ระบุว่าพระศิวะมีลูกสาวองค์เดียวคือพระนางมาริษาหรือมนสาเทวีอิตถีเทพผู้เป็นที่กล่าวขวัญกันว่างดงามเป็นยิ่งนัก

    แต่ทว่าในคัมภีร์ก็กล่าวว่าพระธิดาองค์นี้จะประสูติจากพระมเหสีองค์ใดของพระศิวะก็มิอาจทราบได้เพราะมิได้ปรากฏหลักฐานอันใด

    จึงมีการสันนิษฐานกันว่าอาจจุติมาจากการที่พระศิวะทรงนิรมิตเสกสรรขึ้นมาเองก็เป็นได้และไม่มีทางที่พระนางมาริษาจะเป็นธิดาของพระศิวะที่ประสูติจากพระนางปาราวตีหรือพระแม่อุมาเพราะมีเรื่องร่ำลือกันว่าพระนางมาริษาไม่ค่อยถูกชะตากับพระอัครมเหสีของผู้เป็นพระบิดาเท่าใดนัก

    พระนางมาริษากับพระนางปาราวตีมีเรื่องขัดแย้งกันบ่อยๆจนฝ่ายอ่อนเยาว์กว่าได้ตัดสินใจเสด็จลงมาประทับบนโลกและสถิตย์อยู่ในฐานะเทพนารีที่ประทานพรต่อมนุษย์จึงมีผู้คนนิยมสักการะบูชากันไม่น้อยในเวลาต่อมา

    ในบางคัมภีร์ก็ยังระบุว่า พระศิวะมีลูกสาวอีกองค์หนึ่งคือพระนางเนตาเทวีและก็มิได้บ่งบอกไว้เช่นกันว่าพระมารดาของพระนางเนตาเทวีคือใครกันแน่แต่ถึงอย่างไรเรื่องราวของพระนางเนตาเทวีก็มิค่อยปรากฏบทบาทใด ๆ มากนักในแวดวงเทพเทวะ...

    ตามประวัติเดิมนั้น นางมนสาเทวี ไม่เป็นที่โปรดปราณของพระนางปราวตีนักด้วยเหตุนี้เธอจึงเสด็จสู่พื้นล่างบนโลกมนุษย์กับลูกสาวพระศิวะอีกพระองค์หนึ่งคือนาง เนตา เมื่อลงมาสู่โลกมนุษย์พระนางมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะให้โลกได้บูชาพระนางเหมือนกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2012
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เรื่องเล่าสืบกันมาว่า จานนท์ ซึ่งเป็นนายพานิชน์แห่งจำปาก เป็นผู้ซึ่งนับถือพระศิวะและพระนางปราวตีเป็นที่สุด พระนางมนสาเทวี พยายามทุกวิถีทางที่จะเปลื่ยนความตั้งใจของจานนท์ แต่ก็ไม่สำเร็จ ด้วยความร่ำรวยของจานนท์ได้สร้างสวนดอกไม้ขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อน นางมนสาเทวีได้สั่งให้งูบริวารทั้งหลายเข้าไปทำลายสวนดอกไม้นั้นเสีย ด้วยผลบุญที่จานนท์มั่นคงในพระศิวะเทพจนเป็นที่โปรดปราณพระเป็นเจ้าจึงได้ประทานมนตราลึกลับให้บทหนึ่งเพื่อใช้ในการชุบสิ่งที่ตายแล้วให้ฟื้นได้และด้วยมนตร์บทนี้เองที่ทำให้ดอกไม้ทั้งหลายเบ่งบานในสวนอีกครั้ง

    นางมนสาเทวีไม่สิ้นความตั้งใจ ใช้มายาและมนตราแปลงร่างเป็นหญิงสาวสวยเพื่อให้จานนท์หลงรัก จนในที่สุดนางก็ล้วงเอาความลับแห่งมนตราในการชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นได้สำเร็จและคืนร่างเดมบอกกับจานนท์ว่า ให้กลับใจมาบูชานางเสีย แล้วจะประสบความสำเร็จและได้จากจานนท์ไปในที่สุด

    เมื่อมนตราลึกลับได้หลุดจากปากจานนท์ไปแล้วย่อมใช้กับจานนท์ไม่ได้ผลอีกต่อไปการดื้อรั้นของจานนท์ เป็นเหตุให้ลูกชายทั้ง 6 ถูกงูกัดตาย และทุกครั้งก่อนลูกแต่ละคนจะตาย จานนท์ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า ให้กลับใจมานับถือนางเสีย แต่เขาก็ยังดื้อรั้น

    ครั้งหนึ่งจานนท์ได้อาศัยเรือสินค้าเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางนั้น นางมนสาเทวีได้บัดาลให้เกิดมรสุมใหญ่ เรือแตกอับปางจานนท์ได้สวดมนตร์ถึงพระนางปราวตี พระเทวีได้เสด็จมาช่วยเหลือจานนท์ นางมนสาเทวีได้ตัดพ้อกับพระศิวะเทพผู้เป็นบิดาว่าการที่พระมหาเทวีมาช่วยเหลือนั้นไม่ยุติธรรมต่อนาง และขอให้พระศิวะนำพระนางปราวตีกลับวิมานเสีย อย่าได้มาเกี่ยวข้องกับนางเลย พระศิวะเลยต้องทำตามคำขอร้องของพระธิดา

    อันที่จริงนางมนสาเทวีไม่มีเจตนาจะฆ่าจานนท์ จึงเนรมิตปัทมอาสน์บัลลังก์ดอกบัวรับเอาจานนท์ไว้แต่จานนท์รู้ว่าเป็นของนางมนสาเทวีจึงไม่ยอมรับไว้ แต่นางก็บันดาลให้จานนท์ถึงฝั่งโดยปลอดภัย จานนท์สูญเสียทรัพย์สินทุกอย่างจากเหตุเรือล่มครั้งนั้นได้เดินทางไปอาศัยอยู่กับเพื่อน แต่พอรู้ว่าเพื่อนบูชานางมนสาเทวีก็ออกจากบ้านของเพื่อนไปโดยไม่ได้ร่ำลา ชีวิตพเนจรของจานนท์ลำบากมาก อดอยากจนถึงต้องกินกาบกล้วยเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆหนึ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2012
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แม้ว่านางมนสาเทวีจะเสด็จมาสู่ภาคพื้นดิน แต่ก็ยังมีฤทธิ์สามารถขึ้นสวรรค์เหมือนเดิมทุกประการ วันหนึ่งนางไปเยี่ยมเพื่อนที่เป็นชาวสวรรค์ด้วยกัน เพื่อนทั้ง 2 ของนางมนสาเทวีบอกว่าจะลงไปจุติเพื่อช่วยให้การกิจของนางได้สำเร็จ คนหนึ่งจะไปถือกำเนิดเป็นบุตรชายของจานนท์ชื่อ ลักษมินทร อีกคนหนึ่งจะไปเกิดเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อค้าของจานนท์ชื่อว่า นาง เพลุหา และเมื่อทั้ง 2 เติบโตจะได้แต่งงานกัน

    โหรทำนายไว้ว่า วันแต่งงาน ลักษมินทรจะถูกงูกัดตาย ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทจานนท์ได้สั่งให้ช่างสร้างบ้านขึ้นหลังหนึ่งซึ่งไม่มีรูในบ้านเลยแต่ช่างถูกนางมนสาเทวีข่มขู่ จึงได้สร้างบ้านเปิดรูเท่าเส้นผมไว้และเอาผงถ่านอุดไว้ พร้อมกันนั้นได้กำชับเวรยามตรวจตราเหนียวแน่นและโรยผงพิษหมายเด็ดชีพงูไว้รอบๆบริเวณบ้าน และด้วยรูนี้เองทำให้งูบริวารของนางมนสาเทวีแทรกเข้ามาในบ้านหลังดังกล่าว ขณะที่ ลักษมินทรหลับอยู่ นางเพลุหา เห็นงูเข้ามาในห้องก็ทำทีเป็นป้อนนมและอาหารให้กับงู

    เมื่องูเผลอก็เลื่อนบ่วงกระตุกงูขึ้นแขวนกับขื่อคา 2-3ตัวแต่นางโดนพิษงูเข้าไปเลยทำให้นัยน์ตามัวเลยหลับไปในที่สุด ดังนั้นลักษมินทรก็เลยถูกงูเด็ดชีพตามที่โหรทำนายไว้ทุกอย่าง

    คนที่ถูกงูกัดตายนั้นไม่นิยมเผา แต่นิยมเอาใส่แพลอยน้ำไป และด้วยความที่นางรักลักษมินทรมาก นางตัดสินใจที่จะนั่งอยู่ในแพกับสามีด้วย ไม่ว่าญาติผู้ใหญ่ เพื่่อนฝูง พี่น้องจะทัดทานเท่าไรก็ไม่เป็นผล

    ก่อนที่แพจะออกจากฝั่ง นางได้สั่งให้แม่จุดตะเกียงขึ้นที่ห้องพักและปิดประตูห้องให้มิดชิด ตราปใดที่ตะเกียงยังสว่างอยู่ย่อมมีความหวังว่า ลักษมินทรจะฟื้นขึ้นมาแพศพของลักษมินทรล่องลอยไปตามลำน้ำนานถึง 6 เดือน โดยที่สภาพศพไม่เน่าเปื่อย วันหนึ่งแพได้มาจอดที่ริมตลิ่งแห่งหนึ่ง หล่อนเห็นสาวคนหนึ่งกำลังซักผ้า แต่ลูกชายร้องไห้งอแงห้ามปรามเท่าไรก็ไม่ยอมหยุด นางก็เลยเค้นคอลูกชายจนแน่นิ่งและหมดสติไป นางไม่ได้แสดงอาการสะทกสะท้านใดๆจนกระทั่งงานเสร็จ นางได้เอาน้ำพรมลงบนตัวลูกชายและพร่ำบ่นมนตราไม่กี่คำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...