ใครมีประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐีบ้างครับ

กินลม · 27 พฤษภาคม 2012

เหรียญ ดร นี่หายากจิงฯ
หาในเน็ทยังม่ายมีเลย T_T

แควใหญ่ · 27 พฤษภาคม 2012

ผมขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ๆทุกๆคนด้วยนะครับ กำลังไล่อ่านมาเรื่อยๆและในกระทู้มีสมาชิกสอบถามเกี่ยวกับวัตถุมงคลแก้วหนุนดวงเนื้อปรอทก้อเลยสนใจจึงได้สอบถามมาในกระทู้ก่อนน่ะครับ สำหรับของหลวงพ่อที่ผมมีอยู่ก้อเป็นพระปิดตาที่ออกให้บูชาเมื่อเร็วๆนี้เท่านั้น อ๋อ....แล้วก้อหนุมานที่เสกในพิธีเดียวกันน่ะครับ

Tey345 · 27 พฤษภาคม 2012

เมื่อวานตอนประมาณ18.30น แวะเข้าไปที่วัดบูชาแม่นางกวัก กับแก้วหนุนดวงเนื้อปรอดมาครับ เพิ่งมีโอกาศพบหลวงพ่อเป็นครั้งแรก ดีใจครับ ได้แต่ยกมือไหว้ท่าน ท่านก็หันมามอง ไอเราก็ว่าจะเข้าไปกราบท่าน แต่ก็เห็นญาติโยมเยอะก็เกรงใจท่าน เพราะเย็นมากแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรครับ แค่ได้ไหว้ท่านพบท่าน สำหรับผมก็โอเคแล้ว เดี๋ยวหาช่วงเหมาะๆถ้ามีวาสนาคงจะได้กราบท่านสักทีครับ สาธุๆๆ

กินลม · 27 พฤษภาคม 2012

เข้ามากราบพ่อคับ

ura · 27 พฤษภาคม 2012

Lukkrok said: ↑

ก่อนจะบอกวิธีใช้พระผงกรรมฐาน เราน่าจะทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อนว่าเรานั่งสมาธิไปเพื่ออะไร แล้วแก้ความเข้าใจผิดบางประการในการทำสมาธิเพื่อเจริญรอยตามพระพุทธองค์ จนเข้าสู่ความหลุดพ้นจริงๆ<o</o
การเจริญรอยตามพระพุทธองค์ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดคือการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร ซึ่งเป็นเป้าหมายของศาสนาพุทธเช่นกัน สิ่งใดก็ตามไม่เป็นไปเพื่อการนี้สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่เป็นคำสอนของพระพุทธองค์ พระองค์ทรงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความสุขมาตลอดจากการที่พระราชบิดาไม่ทรงต้องการให้ออกบวชแต่ทรงต้องการให้เสวยสมบัติจักรพรรดิ แต่วันหนึ่งพระองค์ทรงเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตายและสมณะ จึงคิดได้ว่าความสุขนั้นไม่เที่ยงคนเรามีแต่ความทุกข์และเห็นสมณะน่าเลื่อมใสจึงทรงสละความสุขแสวงหาความหลุดพ้น โดยศึกษาในสำนักต่างๆ เช่นจากอาจารย์ทั้งสอง อาฬารดาบส และอุทกดาบส บำเพ็ญจนได้ฌาน 8 ก็ทรงพบว่านี่ยังไม่ใช่ทางหลุดพ้น จึงทรงหันมาบำเพ็ญทุกขรกิริยาด้วยวิธีต่างๆแม้จะเป็นขั้นอุกฤษฏ์ก็ยังไม่หลุดพ้น จนได้ยินเสียงพิณที่ขึงพอดีที่ทำให้เสียงไพเราะจึงฉุกคิดได้ว่าต้องเดินทางสายกลาง การทรมานกายไม่ใช่ทางที่ถูก จึงหันกลับมาเสวยภัตตาหาร และเน้นบำเพ็ญเพียงทางจิต<o</o
พระองค์ทรงเจริญสมถะภาวนา จนได้ฌาณ จากนั้นแล้วใช้สติปัญญาพิจารณาจนเกิดความรู้แจ้ง (ญาณ) คือ <o</o
1.) เวลาปฐมยาม ทรงได้ปุพเพนิวาสานุสติญาณ คือ ความรู้เป็นเหตุให้ระลึกชาติย้อนหลังได้ นับแต่ก่อนมาสถิตย์บนบัลลังก์ใต้มหาโพธิ์จนถึงพระชาติไกลโพ้น พร้อมรายละเอียดในพระชาตินั้นๆ<o</o
2.) เวลามัชฌิมยาม ทรงได้จุตูปปาตญาณ(ทิพยจักษุญาณ)คือรู้เรื่องเกิด-ตายของสัตว์ทั้งหลายว่า เป็นไปตามกรรมที่ตนกระทำไว้ ตามอำนาจทุจริตกรรมบ้าง ตามอำนาจสุจริตกรรมบ้าง<o</o
3.) เวลาปัจฉิมยาม ทรงได้ อาสวักขยญาณ คือ ความรู้ที่ทำให้สิ้นอาสวะหรือกิเลส หมายถึง ตรัสรู้อริยสัจ4 <o</o
อาสวักขยญาณ ที่ทรงได้ทำให้ทรงพิจารณาถึงขันธ์ 5 และใช่แห่งความเป็นเหตุที่ เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท อันเป็นต้นทางให้เขาถึงอริยสัจ 4 เมื่อพระองค์ทรงรู้เห็นแล้ว จึงละอุปาทานและตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<o</o
ในวันอาสาฬหบูชา ขึ้น ๑๕ เดือน ๘ จึงทรงปฐมเทศนา " ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร (แปลว่าสูตรของการหมุนวงล้อแห่งพระธรรมให้เป็นไป)" ซึ่งมีใจความ ๓ ตอน คือ
1.) ทรงชี้ทางผิดอันได้แก่กามสุขัลลิกานุโยค (การประพฤติโดยหมกมุ่นอยู่ด้วยกาม) และอัตตกิลมถานุโยค(การทรมานตนทางกายให้ลำบาก) ว่าเป็นส่วนสุดทั้งสองที่ไม่ควรดำเนิน แต่เดินทางสายกลางที่เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา คือ มรรคมีองค์แปด เป็นไปเพื่อพระนิพพาน <o</o
2) ทรงแสดงอริยสัจ 4 โดยละเอียด อริยสัจ คือความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ได้แก่<o</o
ทุกข์ คือ ความไม่สบายการ ไม่สบายใจ ... ควรกำหนดรู้<o</o
สมุทัย คือ ความอยากอันเป็นเหตุของทุกข์ ... ควรละ<o</o
นิโรธ คือ ความดับทุกข์ ... ควรทำให้แจ้ง<o</o
มรรค คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์<o</o
๓.) ทรงปฏิญญาว่าทรงตรัสรู้พระองค์เอง และได้บรรลุธรรมวิเศษแล้ว<o</o
<o</o

มรรคที่มีองค์แปดนั้นเป็นข้อพึงปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์นั้นสามารถแบ่งเป็นการปฏิบัติสามขั้นคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ดังนี้<o</o
· การปฏิบัติขั้นต้น “ศีล” ความสำรวมตั้งมั่นในความดี ประกอบด้วย สัมมาวาจา (เจรจาชอบ), สัมมากัมมันตะ (การงานชอบ) และสัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)<o</o
· การปฏิบัติขั้นกลาง “สมาธิ” อนุสติ 10 ประการและการสวดมนต์เจริญจิตตภาวนา ประกอบด้วย สัมมาวายามะ (ความเพียรชอบ), สัมมาสติ (ระลึกชอบ) และสัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ)<o</o
· การปฏิบัติขั้นปลาย “ปัญญา” พิจารณาไตรลักษณ์ ประกอบด้วย สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) และสัมมาสังกัปปะ (ดำริชอบ)<o</o
ทางสายกลางอันเป็นหนทางอันประเสริฐนี้พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทรงค้นพบเหมือนกันและเป็นทางสายเดียวกัน เป็นทางเดียวที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้นอย่างแท้จริง<o</o
สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางธรรมมาก่อนจะทรงเทศน์ เรื่อง คุณของการให้ทาน การรักษาศีล, สวรรค์ (การแสวงสุขเนื่องจากการให้ทาน การให้ศีล), โทษของกามและการปลีกตัวออกจากกาม จากนั้นจึงทรงเทศน์ อริยสัจ 4<o</o
จากความรู้แจ้ง (ญาณ) ที่ได้จากการตรัสรู้นั้นทำให้พระองค์รู้ว่าการเวียนว่ายตายเกิดล้วนเป็นไปตามกรรมทั้งสิ้น การทำกรรมทั้งกาย วาจา ใจ ล้วนส่งผลต่อสัตว์โลกในชาตินี้ ชาติหน้าหรือชาติถัดๆไป ทำกุศลกรรม นำไปสู่สุขคติภูมิ อกุศลกรรมจะนำไปสู่ทุคติภูมิ ทุกคนควรกระทำบุญ (ทาน ศีล ภาวนา) บุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งของสัตว์ในปรโลกเบื้องหน้า ทรงสอนเรื่องสวรรค์ (สุขคติภูมิ) เพราะเป็นการน้อมให้สร้างบุญ เป็นภพภูมิที่เสวยสุขจากการทำกุศลกรรม และทำให้หลีกเลี่ยงการไปสู่ทุคติภูมิ ไม่ว่าจะเป็น นรกภูมิ เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน การหลีกเลี่ยงจากกามซึ่งเป็นตัวขวางในการปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น เป็นหนึ่งในสิ่งที่ขวางการเจริญสมาธิ และให้เข้าใจเรื่องการปฏิบัติตามทางสายกลางก็จะนำให้จิตถึงพร้อมมากขึ้นเพื่อเข้าสู่ความหลุดพ้น
<o</o
สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ควรทำบุญเพื่อหวังบุญ อย่าไปติดบุญเพราะเมื่อเสวยบุญหมดแล้วก็ต้องไปรับกรรมอยู่ดี ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเมื่อเราไปเกิดในสวรรค์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชั้นใดเราจะเป็นเทวดาที่ดีหรือไม่ เราจะบำเพ็ญต่อเพื่อเข้าสู่กระแสนิพพานหรือไม่ การเวียนว่ายตายเกิดจึงไม่ใช่เรื่องที่สนุก<o</o
<o</o

จากความย่อข้างต้นมีหลายสิ่งที่ควรทำความเข้าใจ
<o</o
สติและสมาธินั้น ให้พึงระลึกอยู่เสมอว่าเป็น สัมมาสติและสัมมาสมาธิ ไม่ใช่สติและสมาธิทางโลกียะ (เป้าหมายทางโลกที่ไม่เป็นอกุศลกรรม) และไม่ใช่สติและสมาธิที่เป็นมิจฉาคือ ไม่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นเช่น เพื่อลาภ ยศ สรรเสริญ ทำอกุศลกรรมต่างๆ
<o</o
ภาวนา หมายถึง “ การอบรมจิตให้เจริญ“ <o</o
สมาธิภาวนา หมายถึงการอบรมจิตให้เป็นสัมมาสมาธิ (เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น และไม่ใช่เพื่อทางโลก) กรรมฐานภาวนาโดยสภาวธรรมจัดว่าเป็นสมาธิภาวนา<o</o
กรรมฐานภาวนา แบ่งเป็น 2 ประเภท<o</o
· สมถะกรรมฐานภาวนา – การอบรมจิตเป็นไปเพื่อให้เกิดสภาวธรรมของความสงบจากอกุศลธรรมเพื่อให้เกิดความประณีตของจิตยิ่งขึ้น<o</o
· วิปัสสนากรรมฐานภาวนา - เป็นไปเพื่อบังเกิดขึ้นแห่งปัญญาญาณ (ในทางพุทธศาสนา)<o</o
จิตที่สงบระงับเป็นขณิกะ อุปจาระ อัปปนา ปฐมฌาน ทุติยฌาน ..... ก็คือสมถะ สมถะแห่งจิตคือความละเอียด ประณีตของจิต ซึ่งมีหลายระดับ เมื่อความละเอียดของจิตสูงขึ้นกิเลสจะลดลง และเมื่อบรรลุ รูปฌาน 4 และอรูปฌาน 4 รวมเป็นสมาบัติ 8 เมื่อถึง “สัญญาเวทยิตนิโรธฌาณ” หรือ ฌาน 9 ความดับลงแห่งอาสวะพร้อมบริบูรณ์ จึงบรรลุมรรคผลนิพพาน เรียกว่า “เจโตวิมุติ” ในทางพระพุทธศาสนา ฌาน 9 นี้ผู้ที่บรรลุจะไม่มีเชื้อของอวิชชาที่เป็นเหตุให้เกิดกระแสปฏิจจสมุปบาท ดังนั้นฌานนี้ไม่อาศัยนิมิตอารมณ์กรรมฐาน

<o</o
สิ่งที่มักเข้าใจผิดคือ ซึ่งควรที่จะทำความเข้าใจ<o</o
การบำเพ็ญทางสมถะกรรมฐานนั้น บางคนเข้าใจว่าเป็นสมาธิแข็งทื่อสงบนิ่งไม่เกิดปัญญาไม่หลุดพ้น ต้องใช้วิปัสสนาอย่างเดียว คิดพิจารณาสภาวธรรมพิจารณาไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แต่ในความจริงแล้วถ้าเราใช้ความคิดคือใช้สมองคิดพิจารณาอย่างนั้นไม่ใช่ วิปัสสนากรรมฐานในทางพระพุทธศาสนา ทั้งนี้เพราะวิปัสสนา เป็นการรู้แจ้งโดยมีสภาวธรรมของจิตที่มีปัญญาในทางพระพุทธศาสนาและเกิดความดับลงแห่งอาสวะ วิปัสสนามีหลายระดับเช่นเดียวกับสมถะ และการมองเห็นความจริงต้องเป็นความจริงขั้นสูงสุดในทางพระพุทธศาสนาคือ ในระดับปรมัตถสภาวธรรม จิตที่เกิดปัญญาญาณในทางพระพุทธศาสนาจะเป็นเหตุให้ความดับลงของอาสวะทั้งหลาย การเจริญวิปัสสนาในอดีตคือการกำหนดรู้อุปาทานขันธ์ 5 โดยธรรมธาตุ โดยอาการของอิทัปปัจยตา โดยความเป็นอริยสัจ 4 โดยไตรลักษณ์ นี่คือการเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามรอยพระพุทธเจ้า
<o</o
เราปฏิบัติเพื่ออะไร ก็เพื่อให้เรามีวาระจิตที่เป็น “ผู้รู่ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน” ในทางพุทธศาสนานั้นจะต้องประกอบด้วยสภาวธรรมทั้ง 2 เสมอ คือ 1. ความสงบเป็นสมถะของจิต และ2. มีปัญญาเป็นวิปัสสนาของจิตดังนั้นทั้งสมถะและวิปัสสนา นั้นจะเกื้อกูลกันไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ผู้ที่จะเข้าสู่กระแสความหลุดพ้นต้องปฏิบัติทั้งสองอย่าง
<o</o
วิปัสสนา ไม่ใช่ทำกันโดยอาศัยความคิดพิจารณา อันนั้นเป็น “วิปัสสนึก” ไปเพราะวิปัสสนาต้องใช้จิตรู้ หรือถ้าจะให้จำง่ายๆคือ “ความคิดไม่ใช่การรู้ ถ้าจะรู้ต้องหยุดคิด แต่เมื่อใดที่รู้ จะได้ทั้งรู้ทั้งคิด”
<o</o
ญาณนั้นก็เป็นสภาวธรรมหยั่งรู้ด้วยใจ ไม่ใช่สมอง และต้องเป็นไปเพื่อความดับทุกข์ เช่นบุพเพนิวาสานุญาณ หรือความหยั่งรู้การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ในระดับปรมัตถธรรมเพื่อความดับทุกข์ (ด้วยจิต ไม่ใช่นึกคิดเอา) เป็นต้น<o</o
ฌาน คือสภาวธรรมของจิตที่เสวยอารมณ์ของความสงบระงับจากอกุศลกรรมโดยเป็นสัมมาสมาธิในระดับอัปปนาสมาธิ (ถ้าเป็น ขณิกสมาธิหรืออุปจารสมาธิ ยังไม่ใช่ฌาน) มีรูปฌาน 4 และอรูปฌาน 4 ฌานจึงเป็นส่วนหนึ่งของสมถะ เพราะสมถะนั้นขณะจิตเสวยอารมณ์อาจเป็นได้ทั้ง ขณิก อุปจาระและอัปปนา<o</o
เวลาบำเพ็ญสมถะกรรมฐานนั้นก็เพื่อการบังเกิดของฌาน เพื่อให้สัมมาสติ จิตให้มีกำลังกล้าแข็งไม่สั่นไหวและได้บารมีธรรมที่สามารถติดตัวข้ามภพข้ามชาติได้ เพื่อสามารถแสดงอภิญญาได้ อีกทั้งอรหันต์นั้นดับขันธ์ในฌานทั้งสิ้นเพื่อเข้าสู่นิพพาน
<o</o
ให้เจริญสมถะจนจิตละเอียดยิ่งขั้นจนเกิดตัวรู้ แล้วน้อมเพื่อให้รู้แจ้ง (ญาณ) เมื่อตัวรู้เกิดแล้วน้อมจิตเพื่อพิจารณา กระแสแห่งความรู้จะไหลมาให้เห็นด้วยจิตแต่เราต้องปล่อยให้กระแสนั้นไหลผ่านเราตลอดอย่าไปจดจ่อ เปรียบง่ายๆคือเรามองไปในกระแสน้ำที่ไหลผ่านหน้าจะเห็นสิ่งต่างลอยผ่านมาตลอดเวลา ถ้าเรามองอยู่กับที่จะเห็นสิ่งต่างๆที่ผ่านเราไปทั้งหมดแต่ถ้าเมื่อใดเรามองสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วตามดูสิ่งนั้นไปเรื่อยๆเช่นผักตบชวาลอยผ่านมาเราจะพลาดสิ่งต่างๆที่ลอยตามตามมา <o></o>
สภาวะที่ใช้จิตรู้นั้นจะเร็วมากเราจะเข้าใจและรู้สิ่งต่างๆได้ในเวลาอันสั้นมากเป็นเสี้ยววินาที เมื่อเทียบกับต้องใช้สมองคิดเป็นเวลานานอาจเป็นชม. วัน เดือน ปี ด้วยซ้ำ
<o</o
การเพ่งฌานก็คือสภาวธรรมของจิตที่ตั้งมั่น เป็นการเพ่งด้วยจิต ไม่ใช่เพ่งด้วยสายตา การดูลมหายใจก็ใช้จิตดู การเพ่งกสิณใดๆกก็เป็นการใช้จิตเพ่งดูดวงกสิณต่างๆ ดังนั้นเมื่อนิมิตเกิดจนแนบแน่นแล้ว ยามหลับตาก็เห็น เมื่อลืมตาก็ยังเห็นอยู่ซ้อนกับสิ่งที่ตาเห็น สิ่งที่เราใช้เป็นเครื่องหมายสำหรับให้จิตกำหนเดนั้นเราเรียก “นิมิตอารมณ์กรรมฐาน” ซึ่งมีทั้งรูปธรรม (ลมหายใจ ดิน น้ำ ลม ไป ฯลฯ) และอรูปธรรม (ความว่างเปล่า ฯลฯ) ยังมีนิมิตอารมณ์กรรมฐานอื่นอีกเช่น มรณานุสติ (อาศัยความตายเป็นอารมณ์) พุทธานุสติ (อาศัยพระพุทธเจ้า) ธัมมานุสติ (อาศัยพระธรรม) สังฆานุสติ (อาศัยอริยสาวก) หรือตามสติปัฏฐานสูตร (ใช้กาย เวทนา จิต ธรรม) ฯลฯ เป็นนิมิตอารมณ์เพื่อความตั้งมั่นของสัมมาสติ ซึ่งเราต้องเลือกนิมิตให้เหมาะสม ตามความกล้าแข็งของสัมมาสติ แต่โดยความสะดวกใช้ อานาปานสติ (ลมหายใจ) เพราะคนเราหายใจตลอดเวลา ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ในกรณีฝึกกสิณ 10 จะมีผลพลอยได้คือฤทธิ์ แต่ก็อย่าไปยึดติดในฤทธิ์จะไม่สามารถยกระดับจิตสูงขึ้นต่อไปได้ ถ้าจะฝึกกสิณควรฝึกอานาปานสติให้ได้ ฌาน 4 และคล่องก่อนจึงเริ่ม<o</o

ดังนั้นจงอยู่ในสายบุญหมั่นสร้างบุญ ทาน ศีล ภาวนา) สร้างกุศลกรรม งดอกุศลกรรม เดินตามมรรคที่มีองค์ 8 ขั้น ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อยกระดับจิตจนเข้าสูกระแสนิพพาน
Click to expand...

highskw said: ↑

เหรียญ ดร นี่หายากจิงฯ
หาในเน็ทยังม่ายมีเลย T_T
Click to expand...

เอาเหรียญ50เเทน

oOKongkehaOo said: ↑

ครอบจักรวาลครับ ของได้ทุกเรื่อง เหรียญนี้แรงมากๆ
Click to expand...

เอาเหรียญ50เเทน มีพุทธเพิ่มกว่าดร ด้วย

แควใหญ่ said: ↑

ขอบคุณมากครับที่แจ้งราคาให้ทราบ พอดีผมอยู่ต่างจังหวัด(เมืองกาญฯ)ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าส่งธนาณัติไปบูชาจะยังทันอยู่หรือเปล่าน่ะครับ
Click to expand...

มีคนตอบให้เเล้วนะ ไม่ตอบนะ

มารูโจ้ said: ↑

รบกวนศิษย์พี่คับ อยากทราบว่าพุทธคุณเหรียญดร.เตอร์ นี้ด้านไหนคับและใช้คาถาอะไรกำกับ
Click to expand...

บูชาเหรียญ50 เถอะ ตอนนี้ยังพอมี ดีกว่าวิ่งตามของเก่าให้เหนื่อย

แควใหญ่ · 27 พฤษภาคม 2012

ura said: ↑

มีคนตอบให้เเล้วนะ ไม่ตอบนะ
Click to expand...

ขอบคุณพี่uraครับ ที่ผมอ่านครั้งแรกใจยังนึกว่าเป็นลูกแก้วซะอีก ที่ไหนได้พอเปิดไปดูในกระทู้ย้อนหลังกลายเป็นเหรียญเนื้อปรอทนี่เอง...อิ...อิ

วีระชัยมณี · 28 พฤษภาคม 2012

กราบ หลวงพ่อเณร และ แวะมาทักทาย พี่องครับ...วันนี้ สงสัย ยุ่งๆกัน นะครับ เห็น บอร์ด เงียบๆ......

มารูโจ้ · 28 พฤษภาคม 2012

ตอนนี้มีอยู่แค่นี้คับ พรุ่งนี้จะเอาเหรียญดร.ขึ้นคอแล้ว มีเคล็ดลับการใช้มั้ย และมีคาถาอารธนามั้ย

jumbo_a44 · 28 พฤษภาคม 2012

มารูโจ้ said: ↑

ตอนนี้มีอยู่แค่นี้คับ พรุ่งนี้จะเอาเหรียญดร.ขึ้นคอแล้ว มีเคล็ดลับการใช้มั้ย และมีคาถาอารธนามั้ย
Click to expand...

งามสุดๆเลยครับคุณมารูโจ้....ตั้งจิตอธิฐานและระลึกถึงหลวงพ่อใช้ได้เลยครับ...

ura · 28 พฤษภาคม 2012

โชว์องค์พ่อจตุคามราชันดำครับ กระเเสอาจเสื่อม แต่ความศักดิ์สิทธิ์ไม่มีเสื่อมครับ องค์พ่อไม่เคยทอดทิ้งผู้ศรัธา

jumbo_a44 · 29 พฤษภาคม 2012

ผมก็ยังใช้อยู่ครับคุณตู่...

Hamac · 29 พฤษภาคม 2012

ex_smf said: ↑

ยังมีครับผม แนะนำเนื้อปรอทครับ เหลือน้อยเต็มทีแล้วครับ

โชคดีครับ
Click to expand...

อยากได้มากๆๆ เลยครับ
บูชาเท่าไหร่ครับ

ura · 29 พฤษภาคม 2012

Hamac said: ↑

อยากได้มากๆๆ เลยครับ
บูชาเท่าไหร่ครับ
Click to expand...

ขออนุญาตตอบเเทนพี่เอ็กนะครับ บูชาสี่ร้อยครับที่วัด หรือสั่งจ่ายทางธนานัติครับ

oOKongkehaOo · 29 พฤษภาคม 2012

องค์นี้เรื่องเงินทองดีมากๆครับ จะบอกว่าดีที่สุดตั้งแต่ใช้ของหลวงพ่อก้ว่าได้เลยครับ องค์นี้กลับดำเกือบหมดละครับ ไวมากๆ อิอิ

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/w6zAcExmeGagNYGI" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/d6e/mSVmL7.JPG" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/w6zAciyFX4MMFhDi" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/205/HCxdO8.JPG" /></a>

ura · 29 พฤษภาคม 2012

oOKongkehaOo said: ↑

องค์นี้เรื่องเงินทองดีมากๆครับ จะบอกว่าดีที่สุดตั้งแต่ใช้ของหลวงพ่อก้ว่าได้เลยครับ องค์นี้กลับดำเกือบหมดละครับ ไวมากๆ อิอิ

Click to expand...

จตุคามวัดเราใช้แทนจตุคามปี30ได้เลย

marnburapa · 29 พฤษภาคม 2012

ura said: ↑

โชว์องค์พ่อจตุคามราชันดำครับ กระเเสอาจเสื่อม แต่ความศักดิ์สิทธิ์ไม่มีเสื่อมครับ องค์พ่อไม่เคยทอดทิ้งผู้ศรัธา
Click to expand...

องค์นี้เนื้ออะไรคับพี่ตู่

ura · 29 พฤษภาคม 2012

marnburapa said: ↑

องค์นี้เนื้ออะไรคับพี่ตู่
Click to expand...

เนื้อทองแดงลงยาครับ

Hamac · 30 พฤษภาคม 2012

ตั้งใจว่าอาทิตย์หน้าจะไปที่วัดครับ มีรายการไหน น่าเก็บก่อนหมดครับ

เช่น เหรียญ 50 , ตะกรุดพญากาเผือก , แก้วหนุนดวง(ปรอท)

ชุดนี้ค่าบูชาเท่าไหร่ครับ จะได้เตรียมปัจจัยไปถูกครับ

ปล.ตัวผมมีพญาเขาคำ บูชามาจากในเวปนานแล้ว ไว้ 1 องค์ ตอนนี้ก้อพกในกระเป๋าตลอด

EXXXXXXXXXX · 30 พฤษภาคม 2012

Hamac said: ↑

ตั้งใจว่าอาทิตย์หน้าจะไปที่วัดครับ มีรายการไหน น่าเก็บก่อนหมดครับ

เช่น เหรียญ 50 , ตะกรุดพญากาเผือก , แก้วหนุนดวง(ปรอท)

ชุดนี้ค่าบูชาเท่าไหร่ครับ จะได้เตรียมปัจจัยไปถูกครับ

ปล.ตัวผมมีพญาเขาคำ บูชามาจากในเวปนานแล้ว ไว้ 1 องค์ ตอนนี้ก้อพกในกระเป๋าตลอด
Click to expand...

เหรียญ 50 / แก้วหนุนดวง(ปรอท) เก็บได้ก่อนเลยครับ

เตรียมงบไว้ 2xxx เหลือทำบุญด้วยครับ

ตะกรุดพญากาเผือก หมดจากวัดแล้ว

Noomz · 30 พฤษภาคม 2012

ex_smf said: ↑

เหรียญ 50 / แก้วหนุนดวง(ปรอท) เก็บได้ก่อนเลยครับ

เตรียมงบไว้ 2xxx เหลือทำบุญด้วยครับ

ตะกรุดพญากาเผือก หมดจากวัดแล้ว
Click to expand...

กำลังรอตะกรุดพญากาเผือกอุดเทียนชัย เมื่อไหร่ทางวัดจะออกให้บูชาใครทราบมั่งครับ

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ใครมีประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐีบ้างครับ

กินลม เป็นที่รู้จักกันดี

แควใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

Tey345 สมาชิก

กินลม เป็นที่รู้จักกันดี

ura เป็นที่รู้จักกันดี

แควใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

วีระชัยมณี เป็นที่รู้จักกันดี

มารูโจ้ สมาชิก

ไฟล์ที่แนบมา:

SSCN2214.JPG

SSCN2215.JPG

SSCN2186.JPG

SSCN2188.JPG

SSCN2232.JPG

SSCN2233.JPG

jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

ura เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

รูปถ่าย1771.jpg

รูปถ่าย1772.jpg

jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

DSCF2749.JPG

DSCF2750.JPG

Hamac เป็นที่รู้จักกันดี

ura เป็นที่รู้จักกันดี

oOKongkehaOo เป็นที่รู้จักกันดี

ura เป็นที่รู้จักกันดี

marnburapa เป็นที่รู้จักกันดี

ura เป็นที่รู้จักกันดี

Hamac เป็นที่รู้จักกันดี

EXXXXXXXXXX เป็นที่รู้จักกันดี

Noomz Active Member

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

ใครมีประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐีบ้างครับ

ไฟล์ที่แนบมา:

ไฟล์ที่แนบมา:

ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา