ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่อง"กฏแห่งกรรม"แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่อาจจะต้านทานขัดขวางได้ !!!

    [​IMG]

    พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรวจดูสัตวโลกเวลาใกล้รุ่ง ทรงเห็นความพินาศ จะมาถึงหมู่พระญาติ มีพระพุทธประสงค์จะทรงบำเพ็ญญาตัตถจริยา คือการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อพระญาติ จึงเสด็จไปประทับ ณ พรมแดนระหว่างโกศลกับศากยะ ประทับ ณใต้ต้นไม้มีใบ้น้อยต้นหนึ่งทางแดนศากยะ ถัดมาอีกเล็กน้อยเป็นเขตแดนแคว้นโกศลมีต้นไทรใหญ่ใบหนาร่มครึ้มขึ้นอยู่ พระเจ้าวิฑูฑภะยกกองทัพผ่านมาทางนั้น ทอดพระเนตรเห็นพระศาสดาจึงเสด็จเข้าไปเฝ้า ถวายบังคมแล้วทูลว่า

    "พระองค์ผู้เจริญ! เพราะเหตุไร จึงประทับใต้ต้นไม้อันมีใบน้อยในเวลาร้อนถึงปานนี้ ขอพระองค์โปรดประทับนั่ง ณ โคนต้นไทรอันมีร่มครึ้ม มีเงาเย็นสนิทดีทางแดนโกศลเถิด"

    "ขอถวายพระพร มหาบพิตร! ร่มเงาของพระญาติร่มเย็นดี"

    พระเจ้าวิฑูฑภะ ทรงทราบทันทีว่า พระศาสดาเสด็จมาป้องกันพระญาติ อนึ่งพระเจ้าวิฑูฑภะทรงระลึกได้อยู่ว่า การได้รับตำแหน่งมเหสีของพระมารดา และตำแหน่งราชโอรสของพระองค์เองคืนมานั้น เพราะการช่วยเหลือของพระบรมศาสดา พระคุณนั้นยังฝังอยู่ในพระทัย คนที่มีความพยาบาทมาก มักเป็นคนมีความกตัญญูด้วยเหมือนกัน คือ จำได้ทั้งความร้ายและความดีที่ผู้อื่นกระทำแก่ตน ด้วยประการฉะนี้ พระเจ้าวิฑูฑภะจึงยกทัพกลับเมืองสาวัตถี แต่ความแค้นในพระทัยยังคงคุกรุ่นอยู่ พระองค์จึงทรงกรีธาทัพไปอีก 2 ครั้ง ได้พบพระศาสดาในที่เดียวกัน และเสด็จกลับเหมือนครั้งก่อน

    พอถึงครั้งที่ 4 พระศาสดาทรงพิจารณาเห็นบุพกรรมของพวกศากยะ ที่เคยเอายาพิษโปรยลงในแม่น้ำ ทำให้สัตว์น้ำตายหมู่เป็นอันมาก กรรมนั้นกำลังจะมาให้ผล พระองค์ไม่สามารถต้านทานขัดขวางได้ จึงมิได้เสด็จไปในครั้งที่ 4

    พระเจ้าวิฑูฑภะเสด็จมาถึงพรมแดนนั้น ไม่ทอดพระเนตรเห็นพระศาสดาจึงเสด็จเข้ากบิลพัสดุ์ จับพวกศากยะฆ่าเสียมากมายไม่เว้นแม้แต่เด็กที่กำลังดื่มนม ยังธารโลหิตให้หลั่งไหลแล้ว รับสั่งให้เอาโลหิตในลำคอของพวกศากยะล้างแผ่นกระดานที่เคยประทับนั่ง แล้วเสด็จกลับสาวัตถี เสด็จมาถึงฝั่งแม่น้ำอจิรวดีในเวลาค่ำ จึงให้ตั้งค่ายพัก ณ ที่นั้น

    ไพร่พลของพระองค์เลือกนอนได้ตามใจชอบ บางพวกนอนที่หาดทรายในแม่น้ำ (น้ำลง หาดทรายในแม่น้ำนอนได้สบาย แม่น้ำคงคาก็เหมือนกัน) บางพวกก็นอนบนบกเหนือริมฝั่งขึ้นไป พอตกดึก น้ำจะท่วมหลาก พวกที่นอนบนบกแต่ได้ทำกรรมไว้ร่วมกันมาก็ถูกมดแดงกัดลงไปนอนที่ชายหาด ส่วนพวกนอนที่ชายหาดก็ถูกมดแดงกัด จึงเปลี่ยนที่นอนขึ้นไปนอนข้างบน มหาเมฆตั้งเค้าทางเหนือน้ำ ฝนตกใหญ่ น้ำหลากอย่างรวดเร็วพัดพาเอาพระเจ้าวิฑูฑภะและบริวารบางพวก ลงสู่มหาสมุทรตายกันหมด

    ในวันรุ่งขึ้น ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในธรรมสภาเรื่องพระเจ้าวิฑูฑภะว่า เมื่อความปรารถนาของพระองค์ไม่ถึงที่สุด ก็สิ้นพระชนม์พร้อมด้วยบริวารเป็นอันมาก คือสิ้นพระชนม์ในขณะที่ยังมีความปรารถนาอื่น ๆ อยู่อีกมาก

    พระศาสดาเสด็จมาสู่ธรรมสภา ตรัสว่า

    "ภิกษุทั้งหลาย เมื่อมโนรถของสัตว์ทั้งหลาย ยังไม่ถึงที่สุดนั่นเองมัจจุราชก็เข้ามาตัดชีวิตอินทรีย์แล้วให้จมลงในสมุทรคืออบาย 4 ดุจห้วงน้ำใหญ่หลากมาท่วมชาวบ้านผู้หลับอยู่ฉะนั้น"

    ดังนี้แล้วตรัสพระคาถาว่า

    "ปุปฺผานิเหว ปจินนฺตํ" เป็นอาทิ มีนัยดังได้พรรณนามาแล้วแต่ต้น

    ที่มา http://palungjit.org/threads/กรรม-เจ้าชายวิฑูฑภะชำระแค้นฆ่าล้างศากยตระกูล.150359/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2012
  2. ตาลเดี่ยว

    ตาลเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +425
    ยังมีผมด้วยอีกหนึ่งคน ที่มีความคิดเห็นเช่นเดียวกับท่านครับคุณบวรทัต และจะไม่มีสิ่งใดมาทำให้ผมเปลี่ยนความคิดนี้ได้ เพราะผมรักเคารพเทิดทูลพ่อหลวงที่สุดครับ:cool:
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปี 2012 ไทย“ดวงเมืองแตก”ได้เวลากดปุ่ม“รีเซต”

    [​IMG]

    ปี 2012 เป็นปีที่เมืองไทยเข้าสู่ยุค ”ดวงเมืองแตก” เป็นจุดอุบาทว์ แรงและน่ากลัวที่สุดในรอบ 30 ปี จับตาทั้งภัยธรรมชาติ และที่สำคัญ “ภัยจากมนุษย์” นำไปสู่การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแรงกันอีกรอบ ขณะที่โลกโดนมหาภัยพิบัติทางธรรมชาติถล่ม พบการเมือง เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ หลังโลกถูก ”รีเซต”

    เป็นบทสรุปชะตาโลกและเมืองไทยในปี 2012 หลังคำณวนการเคลื่อนตัวดวงดาว บวกกับการวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมปัจจุบัน โดย ”หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา” หรือซินแสไฮโซแห่งยุค

    --- 7 ธ.ค. 2011 แกรนด์โอเพนนิ่งดวงเมืองแตก ---

    ดวงเมืองประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2011 เป็นต้นไป คือเวลาของการเริ่มต้น ”แกรนด์ โอเพนนิ่ง” สู่สถานการณ์ ”ดวงเมืองแตก” และปลายปี 2012 คือช่วงเวลาที่เมืองไทยต้องเจอกับสภาพ ”ดวงเมืองแตกแบบดับเบิ้ล” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


    ดวงเมืองแตกจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? “หมอช้าง” บอกว่าสิ่งที่ต้องเผชิญคือความเปลี่ยนแปลง เกิดสิ่งที่มีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้เป็นผลมาจากดวงดาวขนาดใหญ่หลายดวงมีการโยกย้าย เกี่ยวโยง และหนุนกันแรง คือดาวเสาร์ ดาวพฤหัส และดาวราหู ความเปลี่ยนแปลงของดาวเสาร์น่ากลัวที่สุดในรอบนี้ เกิดจากการเคลื่อนเข้าสู่ราศีตุลย์ และพบกับดาวพฤหัสบดี

    โดยปกติดาวเสาร์มีการเปลี่ยนแปลงทุก 2 ปีครึ่งอยู่แล้ว โดยครั้งนี้เปลี่ยนตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2011 เป็นการเปลี่ยนในสเต็ปที่แรงของดาวเสาร์ คือการเปลี่ยนเข้ามาอยู่ในราศีตุลย์ ทำให้มีพลังมากสุดในรอบ 30 ปี เป็นรอบที่แรงและน่ากลัว

    เป็นช่วงที่ทุกสำนักทำนายดวงเมืองเหมือนกันหมดว่าเป็นช่วง ”ดวงแตก” ภาษาทางโหราศาสตร์เรียกว่า พินทุบาทว์ (พินท+อุบาทว์ เป็นจุดอุบาทว์) ถ้าเป็นดวงมนุษย์ คือใครที่มีดาวแบบนี้เกิดขึ้นคือทำให้เป็นดวงที่อันตราย เป็นดวงที่แรง อย่างไรก็ตาม ดาวเสาร์ไม่ได้อยู่ที่เดิมตลอดในช่วงปี 2012 นี้ เพราะมีช่วงเวลาที่ดาวเสาร์ย้ายกลับไปในราศีกันย์ ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2012 จากนั้นก็จะย้ายกลับมาในจุดพินทุบาทว์ในวันที่ 7 กันยายน 2012

    แต่ใช่ว่าระหว่างดาวเสาร์ย้ายออกไปนั้น สถานการณ์จะดีอย่าง 100% เพราะดาวที่เคยช่วยหรือดาวที่อุปถัมภ์ดวงเมืองไทยมาตลอดตั้งแต่ปี 2011 ที่ทำให้ดวงเมืองอยู่ในสถานะ ”ดวงดี” นั้นจะย้ายออกไปหลังวันที่ 15 พฤษภาคม 2012 ดังนั้นหากมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก่อนหน้าวันที่ 15 พฤษภาคม 2012 ก็อาจมีการเลือกตั้งอีกเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2011

    แต่หากการเมืองมีความเปลี่ยนแปลงระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 7 กันยายน 2012 ความเปลี่ยนแปลงนั้นอาจไม่ใช่การเลือกตั้ง และหลังจากนั้นเมื่อดาวเสาร์กลับมาในราศีตุลย์ หรือพินทุบาทว์ จะยิ่งน่าเป็นห่วงเพราะดวงเมืองไม่มีตัวช่วยแล้ว

    --- มี.ค. - เม.ย. 2012 เสี่ยงอีเวนต์ล่ม ---

    การเคลื่อนตัวของดวงดาวที่มีผลต่อผู้คนและดวงเมือง ต้องพิจารณาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าประมาณ 1-2 เดือน อย่างเช่นเมื่อพูดถึงดวงเมืองแตกระหว่าง 7 ธันวาคม 2011 - 5 เมษายน 2012 เมืองไทยได้เกิดเหตุการณ์มหาอุทกภัยไปแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน 2011 แต่หลังจากนี้มกราคม - กุมภาพันธ์ 2012 ยังมีดวงดาวอุปถัมภ์อยู่ จึงสามารถจัดอีเวนต์ รื่นเริงได้

    และหลังวันที่ 15 พฤษภาคม 2012 ที่ดวงดาวอุปถัมภ์ย้ายออกไป จึงอาจทำให้เกิดสถานการณ์วุ่นวาย หรือภัยพิบัติได้ “หมอช้าง” จึงแนะนำว่าระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2012 ใครที่ต้องการจัดอีเวนต์ กิจกรรมการตลาด หากบรรยากาศไม่พร้อม ต้องวางแผนสำรองเพื่อความเปลี่ยนแปลงไว้บ้าง

    --- 10 ธ.ค. 2012 เริ่มสาหัสแบบดับเบิ้ล ---

    หลังวันที่ 7 กันยายน 2012 ดาวเสาร์กลับมาเป็นที่จุด ”พินทุบาทว์” ยาวถึงสิ้นปี และที่สำคัญกว่านั้นคือ มีดาวราหูย้ายมาเล็งกับดวงเมืองตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2012 เป็นดวงแตกอีก ซึ่งตามตำรามีคำกลอนเขียนขึ้นมาว่า “เสาร์เพ่ง เล็งลัคนา แล้วอสุรา”

    มีความหมายว่า ดาวเสาร์เล็งลัค คือลัคนาของดวงเมืองซึ่งเป็นราศีเมษ “แล้ว” คือ ”และ” “อสุรา” คือ ”พระราหู” เมื่อดาวเสาร์เล็งลัคนา ราหูเล็งลัคนา ความหนักคือดวงเมืองมีดาวเสาร์โคจรมาในราศีตุลย์เป็นดวงแตก แล้วสิ้นปีมีราหูมาเล็งดวงเมืองอีก จึงเป็นดวงแตกแบบดับเบิ้ลเลยทีเดียว

    นอกจากนี้ดาวเสาร์ยังโคจรไปเจอกับดาวพฤหัสบดีที่ไม่ถูกกัน ทำให้เมืองไทยมีผลกระทบโดยตรง เพราะมีผลกับดวงเมือง โดยเฉพาะการมีภัยจากคน หรือภัยจากมนุษย์ที่หนัก เพราะดวงดาวที่ไม่ถูกกันมาเจอกัน ก็หมายถึงการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันรุนแรง

    --- ถึงเวลา “รีเซต” โลก ---

    จากความเปลี่ยนแปลงของดวงดาวชุดใหม่ และดาวเสาร์กับพฤหัสบดีมาเจอกันเป็นวงจรที่ ”หมอช้าง” บอกว่าเป็นวงจรที่น่ากลัว คือจะมีความเปลี่ยนแปลงระดับโลก ที่ไม่ใช่เฉพาะเมืองไทย เช่น มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ วงรอบใหม่

    สิ่งเหล่านี้ยังไม่นับรวมถึงภัยธรรมชาติ ซึ่งปีมังกรถือว่าเป็นปีแห่งความยิ่งใหญ่ และเมื่อดวงดาวในปี 2012 เป็นปีที่เปลี่ยนแปลงแรงมาก ก็จะมีความยิ่งใหญ่ของความแรงของภัยธรรมชาติเหมือนกัน อย่างในประเทศไทยปัญหาเรื่อง ”น้ำท่วม” ยังคงมี แต่จะมากหรือหนักกว่าเดิมหรือไม่ก็อยู่ที่การวางแผนป้องกัน

    ดาวชุดนี้คือระบบใหม่ เหมือนกับว่าปี 2012 เป็นปีที่ทุกอย่างถูกล้าง ถูกรีเซตเข้าไปสู่สิ่งใหม่

    อย่างไรก็ตาม ดาวเสาร์กับดาวพฤหัสหัสที่มาเจอกันก็สามารถเกิดผลในแง่บวกได้ เหมือนที่เกิดในอดีตตั้งแต่การประสูติพระเยซู เกิดศาสดาใหม่ มียุคดอทคอมเฟื่องฟู หรืออาจเป็นระบบการเงินใหม่ นวัตกรรม ความรู้ใหม่ การรักษาโรคแบบใหม่ โรคที่เคยรักษาไม่ได้อาจพบการรักษาใหม่ เหมือนกับได้เฉลยบางอย่างของโลกมนุษย์ที่เกิดขึ้น

    “หมอช้าง” ให้ข้อคิดปิดท้ายว่า เชื่อว่าทุกคนก็พอรู้แล้วโดยเฉพาะเรื่องดวงเมืองแตก ซึ่งดวงมีให้รู้ เพื่อทันเกม เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงและเดินหมากไปทางอื่น แต่ไม่ใช่รู้แล้วจะเปลี่ยนได้หมด 100% เพราะยังคงอยู่ในโหมดแห่งความแรง เราต้องรู้เท่าทันเพราะ “สวรรค์ไม่ได้ให้เกมง่ายกับเรา”
    <TABLE style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WORD-SPACING: 0px; FONT: 14px Tahoma, 'Lucida Grande', 'Microsoft Sans Serif', Thonburi, Loma, Umpush, sans-serif, 'Arial Unicode MS'; TEXT-TRANSFORM: none; WIDTH: 587px; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; PADDING-TOP: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=2 cellPadding=2 border=1><TBODY style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-TOP: 0px"><TR style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; FONT-WEIGHT: bold; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-TOP: 0px" align=middle><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px" colSpan=2>บทสรุป</TD></TR><TR style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-TOP: 0px"><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; FONT-WEIGHT: bold; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">7 ธันวาคม 2011 - 5 เมษายน 2012</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">ดวงเมืองแรง เริ่มสู่ดวงแตก (ดาวเสาร์เข้าสู่ราศีตุลย์ระยะเวลานาน 2 ปีครึ่ง) แต่ยังมีสิ่งดีอยู่บ้าง</TD></TR><TR style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-TOP: 0px"><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; FONT-WEIGHT: bold; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">5 เมษายน - 15 พฤษภาคม 2012</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">ดาวเสาร์ย้ายออกจากราศีตุลย์ชั่วคราว และยังมีดาวอุปถัมภ์ดวงเมืองอยู่ จะเป็นช่วงปลอดภัย บ้านเมือง สังคมยังมีระบบ กฎเกณฑ์</TD></TR><TR style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-TOP: 0px"><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; FONT-WEIGHT: bold; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">15 พฤษภาคม - 7 กันยายน 2012</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">ยังไม่มีอะไรร้ายแรง</TD></TR><TR style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-TOP: 0px"><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; FONT-WEIGHT: bold; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">7 กันยายน 2012 เป็นต้นไป</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">ดาวเสาร์กลับเข้าสู่ราศีตุลย์ ทำให้เกิด ”ดวงเมืองแตก”</TD></TR><TR style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-TOP: 0px"><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; FONT-WEIGHT: bold; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">10 ธันวาคม 2012 เป็นต้นไป</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">ราหูเล็งดวงเมือง (นาน1 ปีครึ่ง) ทำให้เกิด ”ดวงเมืองแตก”</TD></TR><TR style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-TOP: 0px"><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; FONT-WEIGHT: bold; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">หลังปี 2013</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0px">ความวุ่นวายและความไม่แน่นอน จบลง</TD></TR></TBODY></TABLE>​

    ทีมา http://www.positioningmag.com/magazine/details.aspx?id=93805
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2012
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ความหมายของ"กงเล็บทั้ง 7 ทั้งจิกทั้งขยุ้มทั้งวันทั้งคืน"

    [​IMG]

    "กงเล็บทั้ง 7 ทั้งจิกทั้งขยุ้มทั้งวันทั้งคืน" หมายถึง มหันตภัยในปฏิบัติการชำระโลก อันเป็นภัยพิบัติ ที่เกิดจาก 7 ปัจจัยต่อไปนี้

    (1) ธรณีพิโรธ
    (2) มหาอุทกภัยแบบฉับพลัน เพราะฟ้าถล่ม ดินทลาย แกนโลกเอียงเสียศูนย์
    (3) มหาวาตภัย ระดับไต้ฝุ่น และทอร์นาโด
    (4) มหาอัคคีภัยประลัยกัลป์ (ภูเขาไฟระเบิดแล้วมีลูกไฟนรกจากลาว่าตกลงมาจากฟ้า ทำให้เกิดไฟไหม้บ้านเรือนและแนวป่าพร้อมกันทั่วโลก รวมทั้งอัคคีภัยที่เกิดจากฟ้าผ่า)
    (5) ควันพิษจากสารเคมี-เถ้าถ่าน-แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และภัยจากออกซิเจนเจือจางสุดๆ จนต้องแย่งกันหายใจ
    (6) ภัยจากอากาศหนาวเย็นสุดๆจนโลกทั้งใบและทุกสรรพสิ่งแทบจะเป็นน้ำแข็ง
    (7) เทหวัตถุและอุกกาบาตจะพุ่งลงมาจากฟ้า ก่อคลื่นยักษ์สึนามิและทำให้โลกเสียการทรงตัว (แกว่ง)

    *****สิ่งเหล่านี้ คือ ภัย 7 สิ่งที่พวกเธอต้องเผชิญ*****


    อ.ปริญญา ตันสกุล (ป.วิสุทธิปัญญา)
    25-11-2011


    ที่มา http://www.facebook.com/Visudhipunya/posts/233404156725417
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2012
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภัยจากออกซิเจนเจือจางสุดๆ แก้ได้ด้วยการเจริญอานาปานุสสติกรรมฐาน !!!

    [​IMG]

    ในมหาสติปัฎฐานสูตร อันดับแรกที่องค์พระพุทธเจ้าทรงหยิบเอาอานาปานุสสติกรรมฐานขึ้นมาก่อน ถ้าไม่ดีแล้วก็คงไม่ยกนำมาเป็นอันดับแรกก่อนกรรมฐานกองอื่น สำหรับอานาปานุสสติกรรมฐาน หมายถึงการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ใช้ทุกอิริยาบถที่ทรงอยู่ ให้เอาใจกำหนดจับอานาปานุสสติกรรมฐานเป็นปกติ จิตไม่มีเวลาว่างจากการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออก ไม่มีอารมณ์เลวเกิดขึ้น ไม่มีอกุศลใด ๆ แทรกเข้ามาได้

    ขณะใดที่ใจยังตื่นอยู่ แม้ตาจะหลับให้กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกเสมอ เวลาหายใจเข้ารู้อยู่ว่าหายใจเข้า เวลาหายใจออกรู้อยู่ว่าหายใจออกในด้านของสติปัฏฐานสี่ แม้เวลาพูดคุยกัน จิตใจก็กำหนดลมหายใจเข้าออกไปด้วย แม้ใหม่ ๆ อาจจะลืมบ้าง แต่ต้องตั้งใจไว้ทรงสติไว้ว่าเราจะหายใจเข้าหายใจออก หายใจเข้ายาวหรือสั้น หายใจออกยาวก็รู้อยู่ แม้พระอรหันต์ก็ไม่ทิ้งลมหายใจ

    แม้พระพุทธเจ้าก็ตรัสแก่พระสารีบุตรว่า "สารีบุตรดูก่อน สารีบุตรเราเองก็เป็นผู้มากไปด้วยอานาปานุสสติกรรมฐาน" คำว่า "มาก" ก็หมายความว่า พระพุทธเจ้าทรงกำหนดลมหายใจเข้าออกเป็นปกติ ทั้งนี้เพราะอานาปานุสสติกรรมฐาน เป็นกรรมฐานระงับกายสังขาร คือเป็นกรรมฐานคลายอารมณ์เครียดของจิตใจ และเป็นกรรมฐานคลายอารมณ์เครียดทางร่างกาย มีทุกขเวทนา เป็นต้น

    เราทรงอานาปานุสสติกรรมฐานได้ ก็เหมือนกับคนฉีดมอร์ฟีน เป็นยาระงับ ระงับเวทนา อานาปานุสติกรรมฐานจงทำให้มาก จงอย่าละ ถ้าใครแสดงอาการเลว แสดงว่าคนนั้นทิ้งกำหนดลมหายใจเข้าออก

    บางส่วนของพระธรรมเทศนาของพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    ที่มา http://www.larnbuddhism.com/grammathan/anapana.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2012
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ไขรหัส ภัยธรรมชาติ" (เพื่อประชาชน)

    [​IMG]

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2554 ชมรมจิตจักรวาลศึกษาแห่งโลก ได้จัดให้มีการถ่ายทอดคลื่นความคิด จากองค์จิตจักรวาลโดยอาจารย์ปริญญา ตันสกุล ในเรื่อง"ไขรหัสลับจากฟ้า ปี 54" ซึ่งเป็นการเตือนภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในปีนี้และปีต่อๆไป ด้วยการศึกษาสังเคราะห์จากสัตว์ปีก เช่น นก สัตว์น้ำเช่นปลา ปู จากสิ่งบอกเหตุบนแผ่นดิน เช่น ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว แผ่นดินทรุด แผ่นดินแยก และจากเจ้ากรรมนายเวร

    บรรดาสัตว์ต่างๆและสรรพสิ่งทั้งหลายที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยมนุษย์บนโลกใบนี้ ให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่มาจากท้องฟ้า ทะเล แม่น้ำ แผ่นดิน และแรงกรรมเวรที่มนุษย์ก่อต่อกันและกัน โดยเฉพาะเป็นสัญญาณเตือนภัยที่เกิดขึ้นในปี 2554 ที่ผ่านมาในเร็วๆนี้บ้าง ปลายปี 2553 บ้าง และย้อนหลังไปไกลกว่านั้นเล็กน้อยบ้าง อันเป็นเรื่องที่มนุษย์โดยทั่วไป ไม่ได้ใช้ความสังเกตและขาดการพิจารณา

    อาจารย์ปริญญา ตันสกุล ได้ถ่ายทอดความจริงที่จริงแท้ว่า โลกใบนี้มีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของมวลมนุษยชาติ ต้นไม้ สัตว์ และสรรพสิ่งต่างๆบนโลกอย่างที่สุด โลกต้องใช้พลังงานที่เกิดจากการระเบิดของแก๊ซออกซิเจน ที่เป็นแท่งมหึมาอยู่ในใจกลางโลก แรงระเบิดทำให้แกนโลกบิดตัว ทำให้โลกหมุนรอบตัวเอง ทุกสรรพสิ่งทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิตหมุนตามไปด้วย ขณะเดียวกันแรงหมุนรอบตัวเอง ก็ทำให้เกิดมีแรงแม่เหล็กโลก มีโครงข่ายแม่เหล็กโลก คอยป้องกันมิให้เทหวัตถุ อุกกาบาต และสิ่งต่างๆนอกโลก วิ่งเข้ามาชนโลก หรือรุกล้ำมาสู่โลกมนุษย์ได้เลย ขณะเดียวกันก็ให้ก๊าซอ๊อกซิเจน แก่ มนุษย์ พืช สัตว์ ได้อาศัยดำรงชีวิต และสร้างความเจริญเติบโตต่าง ๆ

    โลกรักมนุษย์ ให้ความรักแก่มนุษย์อย่างเสมอต้นเสมอปลายมาช้านาน มนุษย์ได้รับประโยชน์จากโลก ทั้งการอยู่อาศัย การดำรงชีวิต การประกอบกิจการการต่างๆ แต่ทุกวันนี้มนุษย์กลับไม่รักโลก ไม่ทำหน้าที่ในการเป็นมนุษย์ของตนในการเพิ่มพลังงานความรักให้แก่โลก กลับทำลายโลกมากขึ้น ทั้งด้านน้ำหนัก มวลรวมและพลังเหวี่ยงหมุนของโลก ด้วยการขุดย้ายภูเขา สร้างเขื่อนกั้นน้ำ ทำให้การทรงตัวในการหมุนรอบตัวเองของโลกเสียความสมดุลย์ไป

    การที่มนุษย์ไม่รักโลก หรือให้ความรักแก่โลกน้อยลง เพราะมนุษย์เกิดความหลงงมงายกับกิเลสตัณหา ทำการเคลื่อนย้ายและทำลายสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ตลอดจนพยายามเอาชนะโลกใบนี้ ขุดค้นทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนดิน ใต้ดิน ในอากาศ ออกมาสนองความโลภของตนเองอย่างไม่ยั้งคิด ทำให้โลกหมุนรอบตัวเองช้าลง แกนโลกเอียงมากขึ้น การหมุนของโลกไม่สม่ำเสมอสมดุล โลกเกิดอาการส่าย และเสียความสมดุลย์

    ความรักที่มนุษย์ให้ต่อโลกน้อยลง ทำให้อนุภาคของคลื่นความถี่แม่เหล็กไฟฟ้าด้านบวกที่ลงไปทำปฏิกิริยากับแท่งออกซิเจนมีน้อย และไม่พอเพียงที่จะเกิดการระเบิดในการทำให้แกนโลกบิดตัว ปล่อยแก๊ซออกซิเจนลอยตัวขึ้นมาสู่ผิวโลกน้อยลง ประกอบกับมนุษย์ผลิตก๊าซมวลหนักให้โลกด้วยโรงงานอุตสาหกรรม ท่อไอเสีย ตัวมนุษย์เอง ก๊าซมวลหนักได้ห่อหุ้มโลกไว้อย่างแน่นหนา ทำให้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ ไม่อาจลอยหายไปในชั้นบรรยากาศได้

    ก๊าซออกซิเจนที่ลอยขึ้นมาจากใจกลางโลกอย่างเบาบาง จึงมีกำลังไม่มากพอให้มนุษย์ สัตว์ พืช ได้หายใจ และเหลือไม่มากพอจะผลักดันก๊าซมวลหนัก ให้ลอยหลุดพ้นไปจากชั้นบรรยากาศของโลกได้

    ภาวะโลกร้อน ล้วนเกิดจากการกระทำของมนุษย์ และการไม่ทำหน้าที่ของมนุษย์ในการให้พลังแห่งความรักแก่โลกใบนี้ ภัยธรรมชาติต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นอย่างมากมาย บนโลกใบนี้ แต่เหล่ามนุษย์ทั้งหลายกลับไม่รู้สำนึก ในการปฏิบัติของตนที่เลวร้าย และอันตรายต่อโลกและตัวเอง โลกใบนี้จึงป่วยตามจิตของมนุษย์และเป็นอันตรายต่อมนุษย์ภัยธรรมชาติ และเวรกรรมที่มนุษย์กระทำขึ้น กำลังรอชำระมนุษย์และโลกใบนี้ให้คืนสู่ความสมดุลย์

    รหัสจากฟ้าที่บอกมนุษย์ให้รู้ตัว ตั้งสติ ปลูกจิตสำนึกเสียใหม่ มีมาให้เห็นเป็นระยะๆตลอดเวลากว่า 14 ปีที่ผ่านมา คือ รหัสสัญญาณผ่านอาจารย์ปริญญา ตันสกุล ในรูปของการเขียนหนังสือชุดจิตจักรวาล การบรรยาย การฝึกอบรม แต่มนุษย์ก็มิได้สนใจ ใส่ใจ นำมาเป็นเครื่องประเทืองสติปัญญา และประพฤติปฏิบัติ ปรับจิตสำนึกตนเองเสียใหม่ กลับเยาะเย้ย ถากถาง ไม่รับฟัง ไม่รับพิจารณา

    นอกจากรหัสสัญญาณนี้แล้ว มนุษย์ยังได้รับรหัสสัญญาณที่มาจากฟ้า คือ หมู่นกต่าง ๆ รหัสสัญญาณที่มาจากน้ำ คือ หมู่ปลา หมู่ปู หมู่สัตว์น้ำ รหัสสัญญาณที่มาจากดิน คือ ภูเขาไฟ แผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ แผ่นดินแยก รหัสสัญญาณที่มาจากเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์เอง

    การส่งรหัสสัญญาณ ทั้งห้าช่องทางดังกล่าว ต้องถือว่า รหัสสัญญาณ ที่อาจารย์ปริญญา ตันสกุล นำมาบอกกล่าวด้วยงานพูด งานเขียน เป็นเรื่องชัดเจน สามารถศึกษาทำความเข้าใจได้ดีที่สุด ไม่ต้องแปลความ หรือตีความหมาย และง่ายต่อการพิจารณานำไปปฏิบัติให้เกิดผลดี ต่อ มนุษย์และโลกใบนี้โดยตรง รหัสสัญญาณตามช่องทางอื่นที่เหลือยังต้องใช้ความคิด การพิจารณา และการตีความ และเผชิญภัยเสียก่อน เกิดความตระหนก ตกใจเสียก่อน มนุษย์ทั้งหลายจึงจะได้สติ

    ฤาว่าบทเรียนที่เกิดจากการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติ จะเป็นบทเรียนที่มวลมนุษย์กลับมาให้ความสนใจ รหัสสัญญาณต่าง ๆ อย่างจริงจัง งั้นลองพิจารณารหัสสัญญาณ ต่อไปนี้

    รหัสสัญญาณจากฟ้า คือ หมู่นกต่างๆเป็นผู้ส่งข่าวสารมาสู่มนุษย์ ดังเช่น นก Jack Daws จำนวนมากบินตกมาตายที่ Rookwell Texas สหรัฐ

    6 ม.ค. 54 นกเขา จำนวนมาบินตกมาตายที่รัฐ อาร์เคนซอ สหรัฐ
    8 ม.ค. 54 นกเขานับหมื่นตัวบินตกมาตายที่เมืองราแวนนา ตอนเหนือของอีตาลี
    10 ม.ค. 54 อีกา จำนวนมากบินตกมาตายที่ สวีเดน
    11 ม.ค. 54 อีกา จำนวนมากบินตกมาตายที่โรมาเนีย ฝูงนกเป็ดน้ำสีดำมากมายบินตกมาตายที่เทคซัส

    ปรากฏการหมู่นกจำนวนมากบินมาตายหมู่เช่นนี้ เมื่อพิจารณาชนิดของนก ก็ต้องรู้ว่า นกเหล่านี้บินไปส่งสัญญาณจากตะวันออกไกล เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ก็หมดแรง ประกอบกับออกซิเจนเบาบาง บ่งบอกบริเวณที่เกิดเหตุหรือใกล้เคียงต้องเผชิญภัยธรรมชาติอย่างใดอย่างหนึ่งในเวลาไม่นานนัก

    รหัสสัญญาณจากน้ำ คือ หมู่ปลา หมู่ปู หมู่สัตว์น้ำต่าง ๆ พากันมาตายหมู่ดังนี้

    - พบซากปลาซาดิน 300 ตัน พร้อมซากนกแพนกวิน 1,200 ตัว ในทะเลตอนใต้ของชิลี
    - พบซากปลาตายนับแสนตัว ริมฝั่งแม่น้ำสายใหญ่ใน นิวซีแลนด์
    - พบซากปลา Drum Fish นับพันตัวริมฝั่งแม่น้ำในรัฐ อาร์คัมซอ สหรัฐ
    - พบ จระเข้ เต่า และปลาตายนับหมื่นตัวในทะเลสาบประเทศโบลิเวีย
    - พบปลาในทะเลสาบซุยฮี ประเทศเฮติ ตายเป็นจำนวนมาก
    - พบปลาซารัมย์ ปลาดุกทะเล ร่วมแสนตัวตายเกยหาดปารานากัว ประเทศบราซิล
    - พบซากปู Devil Crab นับแสนตัวตายเกลื่อนริมทะเลอังกฤษ

    หมู่สัตว์น้ำที่พากันมาตายครั้งละมาก ๆ เช่นนี้ พิจารณาได้ว่าแหล่งน้ำเป็นพิษจากก๊าซในใจกลางโลกลอยขึ้นมาจากการที่เปลือกโลกเคลื่อนตัว และออกซิเจนในน้ำไม่เพียงพอ โลกให้อ๊อกซิเจนแก่ระบบสิ่งมีชีวิตลดลงและไม่เพียงพอ เมืองที่เกิดปรากฏการเหล่านี้จะต้องระมัดระวังภัยธรรมชาติ

    รหัสสัญญาณจากแผ่นดิน ได้แก่

    - ภูเขาไฟสตรอมโบลี ชิชิลี อิตาลี (ที่อยู่ใกล้กับ ภูเขาไฟใต้น้ำ มาซารีซึ่งใหญ่ที่สุด) พบลาวา แรงสั่นสะเทือนครั้งนี้อาจทำให้ภูเขาไฟมาซารี ระเบิดได้
    - ภูเขาไฟ เมรามี อินโดนีเซีย พ่นลาวา
    - แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย - เวียดนาม - ไทย - พม่า - ลาว
    - แผ่นดินแยกที่มาเลเซีย
    - แผ่นดินยุบขนาดหลุมใหญ่ที่ เมืองซานอิดิโก กัวเตมาลา
    - ดินถล่ม น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่บราซิล

    สัญญาณเตือนภัย ก็คือ วันใดที่ภูเขาไฟทั่วโลกระเบิดพร้อมกัน จะทำให้โลกมืดมิดไปนาน 49 วัน 7 ราตรี

    รหัสสัญญาณจากเจ้ากรรมนายเวร ซึ่งเกิดจากดวงวิญญาณที่จองเวรจองกรรมพุ่งเข้าชนสิ่งต่าง ๆ ทำลายตนเองและทำลายคู่เวรคู่กรรมด้วย ในรูปของ ฟ้าผ่า ฟ้าแลบ ฝนตกหนักอย่างรุนแรงติดต่อกันหลายวัน หิมะถล่ม ฝนน้ำแข็ง พายุใหญ่ โรคภัยต่าง ๆ

    รหัสเตือนภัยเหล่านี้ มีให้เห็นอีกรูปแบบหนึ่ง คือ นกหลงฟ้า ปลาหลงน้ำ คูณธรรมเสื่อมสลาย คนไร้ปัญญา ฆ่าตัวตายกันง่าย ตายหมู่ไม่รู้จบ ภัยพิบัติรุนแรงขึ้น เกิดถี่ขึ้น เกิดทั่วถึงขึ้น จากแดนไกลแล้วค่อย ๆ เข้ามาใกล้ตัวเรา - คนไทย - ประเทศไทย

    ปี 2554 นี้ คนไทยจะเผชิญกับทุพพิกภัย ข้าวยากหมากแพง ภัยจากการแย่ง ชิงอำนาจกันเอง ฝนแล้ง น้ำท่วม แผ่นดินยุบ วาตะภัยที่รุนแรงขึ้น ๆ

    ในฐานะคนไทย อยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่จะเป็นศูนย์กลางของโลกในอนาคต ภัยพิบัติทางธรรมชาตินี้จะเบาบางลงได้ เพียงแต่คนไทย ปรับจิตสำนึกให้อยู่ในครรลอง ของความถูกต้องดีงาม ทั้งการคิด การพูด การกระทำ อยู่บนรากฐานของความรักที่บริสุทธิ์ ต่อเพื่อนมนุษย์ ต่อสัตว์ ต่อต้นไม้ และต่อทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ พลังแห่งความรักอันบริสุทธิ์ของคนไทยทั้งแผ่นดิน จะช่วยปกป้องพิทักษ์คุ้มภัยแผ่นดิน อันศักดิ์สิทธิ์นี้ไว้ได้ แผ่นดินของเราจึงจะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติน้อยลง คนไทยก็เผชิญภัยธรรมชาติน้อยลงด้วย

    ประมวล รุจนเสรี

    ที่มา http://pad.fix.gs/index.php?topic=1384.0;wap2
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2012
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,823
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,038
  8. สิงห์สมุทร

    สิงห์สมุทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +182
    ก่อนทำการใดๆควรคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน..ความคิดอาจจะไม่ทำให้สมหวัง สมปรารถนา ตลอดไป..อาจก่อให้เกิดอันตรายมากมาย อย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน..ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใดๆก็ตาม สิ่งตามมาจะเกิดความสับสน ความไม่เข้าใจ เมื่อถึงเวลานั้นความตาย ความพิการ ความเจ็บปวด จะเยือนเข้ามาหาทันที..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • s2.jpg
      s2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.9 KB
      เปิดดู:
      45
    • ATT00004_.jpg
      ATT00004_.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.7 KB
      เปิดดู:
      44
  9. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    มีเมืองสารขันธ์ ขุนนางทรราชเรืองอำนาจ พลพรรคแสวงหาแต่ลาภยศ เอาทรัพย์สินแผ่นดินไปเป็นของตน ต่อต้านพระมหาจักรพรรดิ์ผู้ทรงธรรม จะก่อให้ภัยพิบัตินานๆ หลายประการ ชาวผู้สนับสนุนทรราชย์เพราะเล่ห๋เพทุบาย หลอกลวงปกปิดความผิด แต่มุ่งล้มล้างพระมหาจักรพรรดิ์ จะต้องได้รับผลกรรมนั้น ใกล้เวลาแห่งการสะสางบัญชีผลกรรมกันแล้ว ผู้ที่เร่งรัดบำเพ็ญศิล ภาวนาธรรม ยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ก็จะมีโอกาส ที่จะรอดจากภัยพิบัติที่จะเกิดต่อไปในภายภาคหน้า ไตรมาสท้ายปี
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ไม่มีที่ไหน ที่มันตามไปไม่ได้ !!!

    [​IMG]
    4+0+7=11
    [​IMG]
    ภาพยนต์ที่สื่อถึงเรื่องเจ้ากรรมนายเวร และภัยจากออกซิเจนเจือจางสุดๆ ?

    เจ้ากรรม กับ นายเวร แตกต่างกันอย่างไร ?

    เจ้ากรรม หมายถึง ดวงจิตธรรมญาณ หรือดวงจิตวิญญาณของสัตว์และมนุษย์ทั้งหลายที่ก่อนตาย ถูกมนุษย์ทำร้ายอย่างทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวด จนก่อให้เกิดความอาฆาตโกรธแค้นอย่างรุนแรง

    เพราะคลื่นการสั่นสะเทือนภายในรูปธรรมของตนเอง เป็นด้านลบที่รุนแรงมาก จึงไม่อาจไปผุดไปเกิดใหม่ หรือไปซ่อมแซมตนเองที่นรก หรือว่าไปสู่สุคติได้ จึงได้แต่คอยติดตามตัวมนุษย์ผู้ทำร้ายตนเองไปอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพื่อคอยหาจังหวะโอกาสแก้แค้นเอาคืน ในอันที่จะทำให้การสั่นสะเทือนด้านลบรุนแรงภายในตนเองเบาบางลงจนกลับคืนสู่สภาวะสมดุลเป็นปกติ คือ "จิตสงบ" ได้ดังเดิม ไม่ว่ามนุษย์ผู้ทำร้ายตนนั้นจะเวียนตายเวียนเกิดมาแล้วสักกี่ภพชาติ พวกเขาก็จะคอยเฝ้าตามติดเสมือนเงาตามตัวอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะสบโอกาสแก้แค้น โดยไม่มีแผนการเกิดใหม่สอดแทรกเข้าไปในสภาวะจิตได้เลย เพราะไม่มีที่ว่างให้สอดแทรก

    "นายเวร" นั้น หมายถึง กลุ่มมวลพลังงานกรรมของมนุษย์ ที่สั่นสะเทือนจิตสำนึกด้านลบแล้วกระทำลบต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์อื่นๆ จนทำให้ผู้ถูกกระทำลบเกิดความอาฆาตโกรธแค้น จะยังผลให้จิตของผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ เหวี่ยงพลังงานด้านลบออกมาทำปฏิสัมพันธ์กัน เกิดเป็นผลกรรมที่เป็นอนุภาคทางไฟฟ้าด้านลบซึ่งเป็นมวลหยาบๆ หนึ่งผลกรรมเท่ากับมวลหนึ่งมวล ซึ่งมันจะสั่งสมอยู่บนระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกนี่เอง ลักษณะคล้ายหยดน้ำที่เกาะติดอยู่บนใยแมงมุมอย่างไรอย่างนั้น

    มนุษย์คนไหนก่อกรรมทำเข็ญ มีเจ้ากรรมเยอะๆ คนนั้นก็จะมีมวลกรรมด้านลบที่เรียกว่า "นายเวร" ที่วานี้เยอะตามไปด้วย โดยมันจะจับกลุ่มรวมตัวกันเป็นก้อนคล้ายพวงองุ่นหรือพวงสละที่พวกเธอชอบทานกันนั่นแหละ แต่ทว่ามันจะมีสีดำสนิทเลย ไม่ว่าเจ้าของมันคือมนุษย์คนนั้น จะเดินทางไปทิศไหน นายเวรเหล่านี้มันก็จะเคลื่อนที่ตามไปด้วยเสมอ เพื่อรอโอกาสให้เจ้าของมันทำให้เป็นโมฆะให้ได้ ในขณะที่บรรดาเจ้ากรรมทั้งหลายก็จะใช้นายเวรเหล่านี้เป็นที่สังเกตว่า ใครคือบุคคลที่ตนต้องการแก้แค้นเอาคืนไม่ให้ผิดตัว ดังนั้น ต่อให้ใครตายแล้วเกิดใหม่ไปเป็นคนอื่นอย่างไร เจ้ากรรมก็รู้ได้ว่าคนไหนมีจิตวิญญาณแก่นแท้เป็นคู่อาฆาตของตนบ้าง

    (ป.วิสุทธิปัญญา)

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 407-poster.jpg
      407-poster.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.1 KB
      เปิดดู:
      1,353
    • 19903_007.jpg
      19903_007.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.1 KB
      เปิดดู:
      1,281
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2012
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ท่านก็เป็นอีกคนหนึ่งใช่ไหมที่เห็นเลข 11:11 อยู่บ่อยครั้ง ?

    [​IMG]

    ความหมายของตัวเลข 11:11

    11:11 is the word GOD
    คงมีหลายๆคน ที่มีโอกาส เห็นหมายเลข 11.11 อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เห็นเลขนี้ ความหมายของเลขนี้ เกี่ยวกับความทรงจำในสมอง เเละเกี่ยวเนื่องกับปี 2012 เพราะเป็นการเริ่มต้นใหม่ของ การตื่นทางจิตวิญญาณของทั้งสากลจักรวาล วันเริ่มต้นการเดินทางของจิตวิญญาณเพื่อเข้าสู่ปี 2012 คือ วันที่ 1/1/11 เเละ 11/11/11

    คนที่เห็นหมายเลข 11.11 มักจะเป็นคนที่มีสัมผัสที่ 6, รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับปฏิทินมายัน,ปี 2012, เกมส์ อิลูมิเนติ, และเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับเหนือปรากฎการณ์ธรรมชาิติเป็นอย่างดี การที่คนธรรมดาเห็นหมายเลข 11.11 เหมือนกับ คำใบ้ เเละ การติดต่อสื่อสารจากพระเจ้า หรือ เทพเทวานั่นเอง หรือ การเรียกร้องความสนใจให้เราได้รับรู้ว่า ถึงเวลาที่เราต้องติดต่อกับจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์เเล้วนั่นเอง

    เเล้วหมายเลขนี้ คือ อะไร?
    หมายเลขนี้ไม่ว่าจะเห็นที่ใด ไม่ว่าจะเป็นเวลาในนาฬิกา,ปฏิทิน และ สิ่งรอบๆตัว หมายเลข 11 คือ หมายถึง การรวมกันเป็นหนึ่ง เป็น สัญลักษณ์ เเห่ง เเสงสว่าง ตัวเเทนของ เทพเจ้า หรือ พระเจ้านั้นเอง ดังนั้น ผู้ใดก็ตามที่เห็น หมายเลขดังกล่าวอยู่เป็นประจำ หมายความว่า ร่างกายของท่านกำลังปรับสภาวะ คืนสู่ ความบริสุทธิ์เเห่งจิตวิญญาณ หรือ ที่เรียกว่า ปรับสภาวะ DNA เตรียมเข้าสู่ยุคเเห่งโลกใหม่ เชื่อมโยงตนเองเข้าสู่ จุดเดียวกับพระเจ้า

    ที่มา http://secret-2012.blogspot.com/2010/09/blog-post_4589.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11-11-11-date-meaning_1.jpg
      11-11-11-date-meaning_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10.8 KB
      เปิดดู:
      47
    • 11.11.JPG
      11.11.JPG
      ขนาดไฟล์:
      24.8 KB
      เปิดดู:
      1,161
    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.1 KB
      เปิดดู:
      32
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2012
  12. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    เพิ่งเห็น หยกๆ ก็วันนี้ หน่ะแระค่ะ ยังคิดในใจว่า ช่วงนี้จะมีอะไร น้า 11:11 อ่ะ เฮ้อไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นเลย

    เพิ่งฝันเห็นดาบ พอดีก็มีข่าวเรื่อง ดาบพระนเรศวร ทำให้นึกถึง พระนเรศวรขึ้นมา พระองค์ทรงรักแผ่นดิน ขอพวกเรารักสามัคคี ให้สมกับพระองค์สละชีวิตแลกมา..
     
  13. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    เห็นด้วยนะ เพิ่งฝันเรื่องนี้ ไม่รู้จะเกี่ยวกันด้วยมั้ยเนี่ย

    http://palungjit.org/threads/ความฝัน-เทพสังหรณ์-สัญญานเตือนจากเบื้องบน.79471/page-166
     
  14. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    เห็นบ่อยจริงแหละ ทั้ง 11:11 แล้วก็เลขเบิ้ลอื่น อย่าง 21:12 มั่งไรมั่ง แบบว่าบังเอิญเห็น
     
  15. จันทลักษณ์

    จันทลักษณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +412
    เห็นชัดทุกปีเลย...ก็วันเกิดวันที่ 11
     
  16. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ล่าง ก็ออก 11 นะซิ......555
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อัฟเดทข่าวสารเรื่องของดาวเนบิรุ !!!

    <TABLE class=tborder id=post6399133 style="BORDER-RIGHT: rgb(239,239,239) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(239,239,239) 1px solid; WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px arial, verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; BORDER-LEFT: rgb(239,239,239) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; BORDER-BOTTOM: rgb(239,239,239) 1px solid; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: rgb(255,255,255) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)" width=175>Nirvana
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Feb 2005
    สถานที่: Nirvana
    ข้อความ: 5,850
    ได้ให้อนุโมทนา: 2,388
    ได้รับอนุโมทนา 16,094 ครั้ง ใน 2,883 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1632[​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_6399133 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239)">อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: 1px inset; COLOR: rgb(0,0,0); BORDER-BOTTOM: 1px inset; BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman [​IMG]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=rl7PY2Bd9tQ&feature=em-uploademail"]83 - ANSWERS OF AN ALIEN FROM ANDROMEDA - Nibiru and Events - YouTube[/ame]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ท่านสมาชิกชาวเวปพลังจิตไปคลิปที่ 83 นี้ ดูนะครับ

    เพราะขณะนี้โลกใกล้ถึงจุดวิกฤตเข้าไปทุกขณะแล้ว

    ชาวพลีอาดีนได้ถอนกำลังที่อยู่บนพื้นโลกขึ้นไปหมดแล้ว พวกอาร์คอเรียนก็เช่นกัน ชาวคลูเลี่ยนที่ดึงดาวเนบิรุเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว ก็ปล่อยให้โคจรมาตามปกติแล้ว

    เข้าไปอ่านแล้วก็พิจารณากันเองแล้วกัน นะครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://palungjit.org/threads/ดาวหาง-elenin-nibiru-planet-x-elenin-events.281795/page-54
     
  18. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ข่าวยายทุบหัวหลาน ไม่ใช่กรณีแรก ที่คนครอบครัวเดียวกัน ฆ่าแกงกันอย่างนี้ ยังไม่นับเรื่องบัดสีอย่างอื่น เช่น พ่อข่มขืนลูก

    ก็ต้องบอกว่า ยิ่งใกล้วันทำความสะอาดครั้งใหญ่ รึใกล้สิ้นยุค จะเห็นคนทำเรื่องทำนองนี้ได้มาก ได้เรื่อยๆ เพราะว่าถูกครอบงำโดยอำนาจฝ่ายต่ำดำมืด

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รวบยายโหด ฆ่าทุบหัว “น้องเบิร์ด” อ้างโมโห </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>16 กรกฎาคม 2555 </TD><TD vAlign=middle align=left>



    <TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=center><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=center>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=center>นางสมจิต จำปาดี อายุ 55 ปี ยาย"น้องเบิร์ด"ผู้ต้องหาฆ่าทุบหัว</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=middle width=165 align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>รวบแล้วคดีฆ่าทุบหัว “น้องเบิร์ด” บริเวณบันไดหนีไฟ ภายในอาคารยงเจริญคอมเพล็กซ์ ตึกดี ที่แท้ฆาตกรเป็นยายวัย 55 ปี สารภาพทำไปเพราะความโมโห

    เนื่องจากหลานชายทำความผิดจนถูกเรียกผู้ปกครอง จึงใช้ไม้ตีที่ศีรษะของน้องเบิร์ด จนมีอาการชักและเสียชีวิต แล้วนำไปทิ้งไว้ที่บันไดหนีไฟในจุดที่พบศพ

    วันนี้ (16 ก.ค.) พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ รองผบก.น.5 เปิดเผยความคืบหน้าจากกรณีพบศพ ด.ช.อรรถสิทธิ์ หรือ “น้องเบิร์ด” ลีเลิศยุทธ์ เสียชีวิตอยู่ภายในอาคารยงเจริญคอมเพล็กซ์ ตึกดี ตั้งอยู่เลขที่ 80-80/207 ซอยสุภาพงษ์ 1 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ

    สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อฟุตบอลสีเขียวทีมบาร์เซโลนา เบอร์ 8 นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกของแข็งทุบที่คิ้วซ้าย ศีรษะด้านหลัง คอ และท้ายทอย จนเขียวช้ำ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นว่า

    ตามที่ทาง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ออกมาเปิดเผยว่า สาเหตุของการเสียชีวิตของน้องเบิร์ด เกิดจากการฆาตกรรม และพุ่งเป้าไปที่ผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารดังกล่าว

    เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น. กก.สส.น.5 และ สน.พระโขนง เข้าตรวจสอบอาคารดังกล่าวอีกครั้ง โดยการเข้าตรวจสอบทุกห้องพัก

    พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ผู้ตายมีความข้องเกี่ยวกับยาเสพติด และประเด็นที่ผู้ตายไปพบเห็นเกี่ยวกับการส่งยาเสพติดภายในบันไดหนีไฟ จนทำให้ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตนั้น เป็นเพียงข้อการสันนิษฐานเท่านั้น

    ยังไม่พบหลักฐานที่แน่ชัดแต่อย่างใด ทั้งนี้ ประเด็นการเสียชีวิตเป็นไปได้หลายอย่าง ซึ่งทางญาติก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเท่าที่ควร จึงต้องเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งต่อไป

    ด้าน พ.ต.ท.รุ่งชาติ รุ่งทอง รองผกก.สน.พระโขนง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางชุดสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าวต้องทำการประชุมหารือกำหนดทิศทางการสืบสวนใหม่อีกครั้ง เนื่องด้วยทิศทางของการสืบสวนที่ผ่านมา ไม่ได้ไปในแนวทางเดียวกัน

    เบื้องต้นได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนของ สน.ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ที่อยู่อาศัยของอาคารดังกล่าว ที่มีความเป็นไปได้ หรือไม่ว่าใครเป็นผู้ฆาตกรรมเด็กได้มากที่สุด

    ส่วนด้านเทคนิคนั้น ได้ประสานทางสถาบันนิติวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อรอผลการตรวจเลือด อาหาร และบาดแผลอีกครั้ง เพื่อระบุเวลาว่า ผู้ตายได้เสียชีวิตเวลาเท่าไหร่ เพื่อนำไปประกอบการตรวจสอบกล้องวงจรปิด

    ว่าช่วงเวลาดังกล่าวพบผู้ต้องสงสัยเข้าออกเวลานั้นบ้างหรือไม่ เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป และจะต้องเรียกพยานแวดล้อมรวมไปถึงญาติของผู้ตายมาสอบปากคำใหม่อีกครั้ง

    ในช่วงบ่ายพนักงานสอบสวนได้ น.ส.วราภรณ์ คำแสน อายุ 38 ปี แม่ผู้ตาย พร้อมด้วย นางสมจิตร จำปาดี อายุ 55 ปี ยายผู้ตาย มาสอบปากคำในส่วนของรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการฆาตกรรม

    ภายหลังจากทางพนักงานสอบสวนที่สอบปากคำยายของผู้ตาย ก็คงยังให้การเหมือนเดิม คือ ก่อนเกิดเหตุยายได้ตักเตือนน้องเบิร์ด จนทำให้หลานชายแสดงอาการไม่พอใจ เดินออกจากห้อง โดยไม่ได้บอกว่าไปไหน

    ส่วนเพื่อนภายในอาคารยายให้การว่า ไม่ทราบว่า น้องเบิรด์คบเพื่อนคนไหน หรือเคยไปมีปัญหากับใครบ้าง ซึ่งในประเด็นนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง กำลังทำการตรวจสอบอยู่ด้วย

    พ.ต.ท.รุ่งชาติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีวัยรุ่นเข้ามา 3 คน ในเวลาใกล้เคียงกันกับที่ผู้ตายได้ออกจากห้องนั้น จากการตรวจสอบแล้วความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้ลงมือ ทางเจ้าหน้าที่ยังให้ความสำคัญน้อยอยู่ แต่ก็ไม่ได้ตัดทิ้ง

    อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายได้ถูกฆาตกรรมภายในอาคารดังกล่าวอย่างแน่นอน แต่จะเป็นจุดใดนั้นฝ่ายสืบสวนกำลังทำการตรวจสอบอยู่อย่างละเอียด

    ล่าสุด นางสมจิตร ยายของน้องเบิร์ด ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายน้องเบิร์ดจริง เพราะความโมโห เนื่องจากว่าทะเลาะกับน้องเบิร์ด เพราะทำความผิดจนถูกเรียกผู้ปกครอง ในวันเกิดเหตุ

    ด้วยความโมโห จึงใช้ไม้ตีที่ศีรษะของน้องเบิร์ด จนมีอาการชัก แล้วนำไปทิ้งไว้ที่บันไดหนีไฟในจุดที่พบศพ และทราบภายหลังว่า หลานได้เสียชีวิตแล้ว

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวน นางสมจิตร อยู่ที่ สน.พระโขนง อย่างไรก็ตาม จะมีการแถลงข่าวที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. ice_jade

    ice_jade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2005
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +311

    ไม่ค่อยเห็น 11.11 จะเห็น 23.23 ซะมากกว่าค่ะ

    เลขอื่นก็มี 12.12, 17.17, 14.14 ปล่าวใบ้หวยนะจ้ะ :boo:
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คนที่ได้อภิญญา จะออกมาช่วยคนดีให้ปลอดภัย !!!

    [​IMG]

    ทีนี้มาพูดถึงพุทธศาสนาบ้าง ทางพุทธศาสนาถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้นจริงๆ ทางพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองขึ้น ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองได้ จะมีความอุดมสมบูรณ์ได้เพราะ คนเห็นทุกข์ ในเมื่อคนเห็นทุกข์ ก็ยอมรับนับถือศีลธรรมมากขึ้น เฉพาะอย่างยิ่งนับบวชฝ่ายปฏิบัติ สำหรับฝ่ายปริยัตินั้นก็อีกฝ่ายหนึ่งต่างหาก คือท่านเรียน แต่ท่านยังไม่ได้ทำ เรียนรู้ จะถือว่าไม่ดีไม่ได้ ท่านก็ดี ท่านมีความรู้ ความรู้ในด้านปริยัติก็จะเจริญขึ้น ในช่วงนั้นอาจจะมีพระที่ได้อภิญญา หรือว่านักปฏิบัติที่เป็นฆราวาสที่ได้อภิญญาเกิดขึ้น ถ้ามีนักอภิญญาเกิดขึ้น บรรดาท่านพุทธบริษัท อันตรายต่างๆ จะเกิดขึ้นได้น้อยเต็มที เพราะอาศัยอภิญญาช่วย....

    ทีนี้ถ้าสงครามเกิดขึ้น ข่าวคราวก็ย่อมถึงกันเวลานี้มีทั้งวิทยุ มีทั้งโทรทัศน์ถ่ายทอดจากดาวเทียมเราสามารถจะเห็นภาพได้ ในเมื่อเห็นการสูญเสียความตายเกิดขึ้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้น จิตใจก็เริ่มเป็นกุศล เวลานั้นบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนก็จะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น เพราะกลัวตาย

    สำหรับอีกด้านหนึ่ง ท่านนัก ปฏิบัติที่เจริญสมาธิจิต ก็จะเร่งรัดตัวเอง ให้ทำสมาธิให้ดีขึ้น โดยหวังอย่างเดียวว่า ถ้าตายแล้วไม่ขอเกิดใหม่ อย่างเลวที่สุด ตายจากความเป็นคน ไปสวรรค์ก็เอาหรือถ้าดีกว่านั้นไปพรหมก็ดี ถ้าดีกว่านั้น ไปนิพพานก็ดี ท่านจะเร่งรัดตัวเอง การเร่งรัดตัวเองประเภทนี้กำลังใจจะมีสมาธิ ในที่สุดอภิญญาก็จะเกิดในเมื่ออภิญญาเกิด ก็จะใช้ผลของอภิญญาและญาณต่างๆ ที่ได้จากสมาธิ และวิปัสสนาญาณ เอามาช่วยบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให้มีความสุขปลอดภัย

    บางส่วนของพระธรรมเทศนา เรื่องไทยจะเป็นมหาเศรษฐี ของพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    ที่มา https://sites.google.com/site/snimnon/phuthth-phyakrn
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...