เกิดก่อนเกิด..พรแปดประการ...

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย หัวใจ!, 18 กรกฎาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    สถานที่ขอนแก่น ดี

    เราก่อยู่ขอนแก่น

    เป็นพลังอันบริสุทธิ์ แห่งหนึ่ง ในอดีต เป็นที่มหาบุรุษเอกเคยมา

    แต่ปัจจุบันทำไมต้องที่ขอนแก่น สำคัญ ไฉน

    ทำไมต้อง 11
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2012
  2. หัวใจ!

    หัวใจ! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2009
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +1,113
    ...........

    ...คืนนี้อย่าลืมมาหาเรานะ.."ต้นตะกุลควาย"...และช่วยพาตะกุลควายบ้านเธอมาทั้งหมดก็ได้นะ ทั้งเผ่าพันธ์ก็ดีนะ ..เพราะเราคิดว่านะเปลี่ยนใจละ เราขอ..กินเลือด.."ต้นตะกูลควาย"อย่างคุณดีกว่านะ...

    ...เพราะเรารู้ระบบร่างกายเรานะไม่ รับข้าว แต่ร่างกายเราตอนนี้เป็น องค์พระแม่กาลี และก็ชอบกินเลือด .."ต้นตะกุลควาย"อย่่างคุณอย่าลืมพาเผ่าพันธ์มาเยอะนะ เพราะ "ต้นตะกูลควาย" เช่นคุณนะ เลือดก็คงจะเหม็นหื่น เพราะเป็นควายแก่ และเหี่ยว แถว มีทั้งปิง แมงวันหอมหึงเลย และแถมมีพยาดติดก้นอีก...อะจุ๊ย...

    ....เป็นถึง "ต้นตะกูลควาย" ทำไมหนอ เจ้าของสงสัยไม่มีเวลาพาไปรักษาหาหมอ ปล่อยให้"ต้นตะกูลควาย"มีอาการเช่นนี้...อะจึ๊ย...

    ....ในอดีตเรานะอยู่บ้านนอก เราไม่เคยเจอเลย ควายเช่นคุณ ..ทั้งเหี่ยว ทั้งปิงเกาะ ทั้งพยาดติดก้น และแมลงตอมอีกนะ.."เราสันนิฐานว่า เตรียมตัวลงหลุมได้แล้ว ถ้าหาก "ต้นตะกูลควาย"อย่างคุณเป็นเช่นนี้

    ....เปลี่ยนควายรุ่นใหม่มาแทนที่ได้แล้ว..ปล.อย่าไปยุ่งกับเด็กๆ ผู้ชายมากนะ เดี่ยวจะถูกหลอกเหมือนที่ผ่านมา เก็บเงินไว้รักษาตัวดีกว่านะ "ต้นตะกูลควาย"

    ...ถ้าหากคืนนี้ไม่มา ก็ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเราไปหาเองก็ได้ เพราะเรานะอยากเห็นเจ้าของ"ต้นตะกูลควาย"อย่างคุณว่า ทำไมหนอเจ้าของถึงใจดำ ปล่อยให้"ต้นตะกุลควาย" อดอยากและเป็นโรค เช่นนี้..(สงสัยเพราะ"ต้นตะกูลควายเช่นคุณ คงแก่ และเหี่ยวไปหน่อย..นี่แหละน่า ยุ่งกับเด็กผุ้ชายมากๆไปหน่อยเลยเป็นเช่นนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 กรกฎาคม 2012
  3. หัวใจ!

    หัวใจ! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2009
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +1,113
    (เป็นนิทาน และความเชื่อ โปรดพิจารณา)

    เฮ้อ..แปลกจังเพื่อน๐สังเกตุุสิ พวกที่"มือไม่พายเอาเท้าลาน้ำ"นะ ..ส่วนใหญ่จะชอบใช้ชื่อ ..นำหน้าเป็นบรรดาสัตว์ทั้งหลาย หรือก็ชอบใช้ เป็นรูปสัตว์ เท่ากับไม่ต้อง มองจิตข้างใน ดุแค่รูปภาพ กับ ชื่อที่โพสก็พอ....

    ...สงสัย คงจะหนีออกมาจากสวนสัตว์เขาดิน

    (ปล. โปรดอ่านคำเตือนก่อนวันละ ๕ รอบ)
     
  4. หัวใจ!

    หัวใจ! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2009
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +1,113
    ...


    ....(เป็นนิทาน และความเชื่อส่วนตัว โปรดพิจารณา)

    ...ปากดีเป็นสีแก่ปาก

    ...แต่ถ้าหากพูดมาก ปากก็มีสี

    (ปล.โปรดอ่านนิทานวันละ ๕ รอบ..จะได้ไปเกิด)
     
  5. หัวใจ!

    หัวใจ! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2009
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +1,113
    .............ง

    (เป็นนิทาน และความเชื่อ โปรดพิจารณา)


    ...ปากนั้นสำคัญไฉน...

    ...ถ้าหากปากคนนั้นไม่เคยพูดตรงกับใจ...

    (ปล.โปรดอ่านนิทานวันละ ๕ รอบ จะได้ไปเกิด)
     
  6. หัวใจ!

    หัวใจ! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2009
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +1,113
    (เป็นนิทาน และความเชื่อโปรดพิจาณา)

    ..เพื่อนสังเกตไหมคะ เวลาที่เราโพส หรือเอ่ยคำถึงพ่อหลวงเรานั้นเมื่อไร..


    ...ก็จะมีสิ่งที่เราเรียกว่า "สัมภเวสี" ออกมาเร่ร่อนออกมาทุกที..เพราะอะไรรู้ไหม เพราะ

    พวกนี้นะ .."ร้อนตัว"ไง

    ...ก็คงไม่ต่างที่ "ผี" หรือจิตวิญญาณเร่รอน ต้องถูก ข้าวสาร เสก นะ..และก็ต้องรีบออก

    มา โชว์ และร้อง กรี๊สๆ ออกแสบออกร้อนทันที


    (คำเตือน..เหล่าบรรดาผีไร้ญาติ ทั้งหลาย ถ้าหากไม่มีที่อยู่ก็ไปอยู่ที่สุสานปะป๋าก็ได้

    เพราะยังว่างอยู่นะ..แต่อย่าเวียนมาที่นี้ เพราะผีอย่างนี้เป็นผีนอกคอก เราไม่ต้องการนะ)
     
  7. แมลงแต่งสี

    แมลงแต่งสี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +2
    วาจาเหมือนคนกำลังเข้าสู่วัยทอง ประจำเดือนใกล้หมด มดลูกหย่อนเลยนะตัวเธอ อยากกินเลือดหรอจ๊ะ เดี๋ยว ควาย อย่าง ควายมณี จะสูญพันธุ์เอานะ

    ไม่เอาน่า.....ควายมณี.....คุยกันดี ๆ ก็ได้ เล่านิทานให้ ควายมณี...ฟังต่อเถอะนะๆๆๆ
     
  8. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    แผนล่อซื้อ ได้ผลไง
     
  9. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    55555 จะเปลี่ยนชื่อยังไงก็เหมือนเดิมแระ มณีส่องแสง=นารีออกดอก เป็นคนดีศรีสังคม เดี่ยวเขาจะชวนเล่นเกม ใจถึงใจ รับรหัส แล้วพอท่องรหัสที่เขาให้ แล้วจะได้ไปสู่สุขคติเร็วๆ ใครมีตาทิพย์อย่าไปแอบมองจิตเขานะ จิตเขาไม่ดำเท่าไหร่หรอก แค่ไม่มีสีขาว เอง อย่าไปตอแยเธอนะเดี่ยวจะโดนคุณไสย เมื่อเร็วๆนี้ ก็โดนพวกเดี่ยวกันออกมาแฉ เธอแค่มาเล่านิทาน นะ แต่พวกคุณจะซวยกันหมด ถ้าไม่รีบสวด บท พระจักรพรรดิ์ รีบว่าตามข้าพเจ้าทุกคนเลยนะ นะโมพุทธายะ พระพุทธะไตยรัตนะยาน มณีนพรัต ศรีสะหัสสะสุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธรรมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีธานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ทาตุโย อะหังวันธามิ สัพพะโส พุทธะ ธรรมมะ สังฆะ ปูเชมิ
     
  10. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488

    เป็นงั้นไป ...... .......
     
  11. HLC

    HLC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +259
    ก๊ากกกก จาว่า !!!!!!

    โผล่มาโชว์พลัง คุยอวดตัวเอง เรียกร้องความสนใจที่นี่อีกแล้ว

    เพ้อฝันมั่วไปเรื่อยเปื่อย พยายามสร้างภาพให้ตัวเองดูมีพลังวิเศษจริง

    มีเรื่องคุณไสยอีกแล้ว เรื่องเก่ายังไม่ยอมเคลียร์ วื่งหนีไข่ขวิด


    http://palungjit.org/threads/[b]แรงมากทำใจก่อนอ่าน[-b].348654/

    เอาเวลาไปเสกเซลล์มะเร็ง ถ่ายรูปออร่ามาพิสูจน์ตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ

    ประเด็นคือ จะคุยว่ากรูมีตาทิพย์อีกล่ะสิ บ้าไม่เลิก
    555555


    :cool:

    (||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)
     
  12. แมลงแต่งสี

    แมลงแต่งสี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +2
    คาถาจักรพรรดิ์ช่วย ควายมณี ได้ด้วยรึเปล่าท่าน อมนุษย์(มนุษย์)ต่างดาว ?
     
  13. MissP

    MissP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +951
    (เป็นนิทานและความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจาณา)

    ...และความลับสุดยอดที่เพื่อนได้รับรุ้จะอิ้งก็คือ.....

    ....เพื่อนๆ ทราบหรือไม่ว่า "จิตของพ่อ" ท่านนะ แบ่งภาคจิตส่วนหนึ่งมาจากไหน...???

    ....ความจริง ก็คือ "องค์สมณโคดม "

    ....เพื่อนก็ต้องงงละสิ ว่า ในเมื่อนิพพานแล้วจะกลับมาได้รึ...นั้นไงเราถึงเขียนเล่านิทานไว้ตั้งแต่ต้น ไงลองไปอ่านนิทานที่เราเขียนไว้ก่อนหน้านี้นะ...

    .....และทำไมท่านต้องลงมาอีก จบกิจของพระพุทธเจ้าสมณโคดมแล้วมิใช่เหรอ..

    ....นี่แหละคือความลับสุดยอด(เรามิเคยคิดจะจาบจ้วงเลย) ด้วยความสัตย์จริง แต่ตัวตนเรามาเพื่อเปิด (ดวงตาสวรรค์ ผุ้รู้ ผุ้ตื่น ผุ้เปิดเผย)

    ....ความจริงเพราะท่านต้องมีสิ่งที่ต้องมาเครียร์และมาแก้ไงคะ(ภพนี้ท่าน ต้องลงมาเพื่อมาแก้ และมาสานและวางระบบและ..ส่งไม้ต่อ ให้กับ..องค์พระศรีฯ เพื่อองค์พระศรีฯ ทำหน้าที่ต่อแทนท่านไงคะ

    ....และสิ่งสำคัญที่ต้องเครียร์ให้จบก็คือ...สิ่งที่ท่านยังติดช่วงที่ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ และก็ได้หนีออกบวช

    ....และพอตรัสรุ้ และทุกหมู่เหล่า ที่อยู่ในวัง ก็ออกตามบวชตามองค์สมณโคดมกันหมด คงเหลือแต่ พระบิดาที่ยังทรงปกครองประชาชน


    ....และพอสิ้น พระบิดา ก็ไม่มีใครได้ขึ้นครองและดุแลประชาชน ..กลายเป็นพวกอำมาตรย์และพวกบ้าอำนาจปกครองประชาชนกันเอง


    ....ก็เลยทำให้ประชาชนนั้นเดือดร้อนและทุกข์กันสุดๆ เพราะผู้ที่ต้องทำหน้าที่เป็นพระมหากษัตริย์ หลที่พวกเขายึดเหนี่ยวออกบวชไปหมดนั้นเอง
    (ยุคศิวิไลย์ ก็เลย บอกว่าต่อจากนี้ "บวชใจ" ก็ได้คะ)

    ....และนี่แหละจุดพิกัดสำคัญที่องค์ท่าน ต้องลงมาแก้ ไข สิ่งที่ทำและติดในอดีต...ก็คือ กลับมาเกิดเป็นพระมหากษัตริย์

    ....และจุดที่จะทำให้องค์ท่านหลุดและมีอิสระ ก็คือ การทำให้ ประชาชน รากหญ้าอยู่ดีมีสุข และการปกครองเหล่าอำมาตรส์ก็มีศีลและธรรมมากกว่าเดิม

    ...และจะต้องใช้หลัก ธรรมะ จรรโลงในการปกครอง

    ...นี่แหละ มี ๒ ข้อหลักที่องค์ท่านต้องลงมา ก็คือ

    ๑ ต้องมาเครียร์แก้ ให้รากหญ้าอยู่ดีมีสุข

    ๒ เพื่อส่งไม้ต่อพระพุทธศาสนาและอีกหลายอย่างเพื่อให้บุคคลที่เรียกว่า .."พระศรีฯ "รับหน้าที่ต่อ

    (นี่แหละถือว่า เป็นอิสระ และหลุดพ้น โดยแท้จริง)

    ...เราถามเพื่อนๆหน่อยสิ ว่า พวกที่จาบจ้วงพ่อท่าน จะได้รับผลเช่นไรรึ...????

    ....และถ้าหากเพื่อนบอกว่า มัสัจจะ ก็คือ มีธรรมะ..ถามหน่อยสิ และเพื่อนจะไม่มาช่วยกันให้องค์ท่านที่พวกเพื่อนบอกว่าเป็นสิ่งที่ยึด เหนี่ยวสุดยอดในจักรวาลแล้ว เพื่อนจะไม่ร่วมกันทำ ในเมือรู้ความจริงแล้ว

    ...เพื่อนๆไม่ภูมิใจหรือ พอใจหรือ ที่เพื่อนได้เกิดมาทันยุค ที่่ มีพระพุทธเจ้า ถึง ๒ องค์เลยนะ


    (นี่แหละความจริงและลับสุดยอด)...."ตื่นรู้กันได้แล้วนะคะเพื่อนๆ"

    *************************

    ผู้ที่ครองราชสมบัติต่อจากพระเจ้าสุทโธทนะ คือ พระเจ้ามหานามะ ค่ะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า..ตามรายละเอียดด้านล่างนี้
    ก่อนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะอุบัติ ท่านก็มาถือปฏิสนธิเป็น พระโอรสแห่งเจ้าอมิโตทนะศากยะ <sup> *</sup> ผู้เป็นพระอนุชาแห่งพระพุทธบิดา คือพระเจ้าสุทโธทนศากยะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ทรงพระนามว่า เจ้ามหานามะ เจ้ามหานามะ มีพระอนุชาคือ เจ้าอนุรุทธ ซึ่งต่อมาได้ทรงออกผนวชเป็นพระอนุรุทธเถระ เอตทัคคะผู้มีทิพยจักษุ และมีพระกนิษฐา พระนามว่า พระนางโรหิณี รวมเป็น ๓ พระองค์ด้วยกัน
    <sup> *</sup>
    ในเรื่องพระบิดาของท่าน มีหลักฐานหลายแห่งคัดค้านกันอยู่ เช่น อรรถกถาอังคุตตรนิกาย อรรถกถาธรรมบท อรรถกถาพุทธวงศ์ ในมหาวัสตุ และในพุทธประวัติของพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส กล่าวว่าท่านเป็นพระโอรสของพระเจ้าอมิโตทนะ
    แต่ในอรรถกถามัชฌิมนิกาย กล่าวว่า ท่านเป็นพระโอรสของพระเจ้าสุกโกทนะ
    ส่วน เจ้าชายสิทธัตถะก็ทรงเจริญวัยโดยลำดับ ทรงครองเรือนอยู่ ๒๙ ปี แล้วทรงเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ ทรงแทงตลอดพระสัพพัญญุตญาณโดยลำดับ ทรงยับยั้งที่โพธิมัณฑสถาน ๗ สัปดาห์ ประกาศพระธรรมจักร ณ ป่าอิสิปตนมิคทายวัน ทรงกระทำการอนุเคราะห์โลก ครั้นเมื่อพระเจ้าสุทโธทนทรงสดับข่าวว่าพระบรมศาสดามายังกรุงราชคฤห์ จึงทรงรับสั่งให้อำมาตย์กาฬุทายี ไปนิมนต์พระบรมศาสดา อำมาตย์กาฬุทายีก็ได้บวชด้วยเอหิภิกขุบรรพชาแล้วพระกาฬุทายีเถระทูลวิงวอน ให้เสด็จไปโปรดพระพุทธบิดายัง ณ กรุงกบิลพัสดุ์ ในครั้งนั้นทรงทำพระธรรมเทศนาอันวิจิตรแก่พระพุทธบิดาและพระประยูรญาติ และในการเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาเพียงครั้งแรก ได้ฟังพระธรรมเทศนาก็ดำรงอยู่ในพระโสดาปัตติผล
    พระผู้มีพระภาคเมื่อทรงอนุเคราะห์พระญาติแล้ว ทรงให้ราหุลกุมารบรรพชาแล้ว ไม่นานนัก ก็เสด็จจากกรุงกบิลพัสดุ์ไปจาริกในมัลลรัฐแล้วเสด็จกลับมายังอนุปิยอัมพวัน
    ขัติยศากยกุมารออกบวชตามเสด็จ
    สมัยนั้น พระเจ้าสุทโธทนมหาราช ทรงประชุมศากยะสกุลทั้งหลายตรัสให้แต่ละตระกูลในศากยราชวงศ์ส่งขัตติยกุมารออกบวชตามเสด็จ ในครั้งนั้นเล่ากันว่า ขัตติยกุมารถึงพันองค์จึงออกผนวชโดยพระดำรัสครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อขัตติยกุมารโดยมากเหล่านั้นผนวชแล้ว เหล่าพระญาติเห็นศากยะ ๖ พระองค์นี้ คือ ภัททิยราชา อนุรุทธ อานันทะ ภคุ กิมพิละ เทวทัต ยังมิได้ผนวชจึงสนทนากันว่า พวกเรายังให้ลูก ๆ ของตนบวชได้ ศากยะทั้ง ๖ นี้ มิใช่พระญาติหรือจึงมิได้ทรงผนวช
    เมื่อเป็นดังนั้นเจ้ามหานามศากยะจึงเข้าไปหาเจ้าอนุรุทธศากยะผู้เป็นน้อง และกล่าวว่า บัดนี้ ศากยะกุมารที่มีชื่อเสียงเป็นอันมากได้ออกผนวชตามเสด็จ แต่ผู้ออกบวชจากตระกูลของเรายังไม่มี น้องจักบวช หรือว่า พี่จักบวชพระอนุรุทธราชกุมารจึงทูลถามว่าการบวชนี้เป็นอย่างไร ? ” เจ้ามหานามจึงตรัสว่า ผู้บวช ก็ต้องโกนผมและหนวด ต้องนุ่งห่มผ้ากาสายะ ต้องนอนบนเครื่องลาดด้วยไม้ หรือบนเตียงที่ถักด้วยหวาย เที่ยวบิณฑบาตอยู่ นี้ชื่อว่าการบวช. เจ้าอนุรุทธศากยะจึงทูลว่าเจ้าพี่ หม่อมฉันเป็นสุขุมาลชาติ หม่อมฉันจักไม่สามารถบวชได้ เจ้าอนุรุทธกุมารนั้น ทรงเป็นกษัตริย์ผู้สุขุมาล มีโภคะสมบูรณ์ แม้คำว่าไม่มี ก็ไม่เคยได้ยิน จึงไม่ยินดีในการบวช
    เจ้ามหานามจึงตรัสว่า อย่างนั้น ท่านจงเรียนรู้การงานสำหรับอยู่เป็นฆราวาสเถิด ในระหว่างเราทั้งสองจะไม่บวชเลยสักคนก็เป็นเรื่องไม่ควร
    อนุรุทธกุมารผู้ซึ่งไม่รู้แม้กระทั่งว่าอาหารที่ตนบริโภคนั้นเกิดขึ้นที่ไหน ได้มาอย่างไร จะรู้จักการงานได้อย่างไร ?
    เจ้าศากยะทั้ง ๓ สนทนากันถึงที่เกิดแห่งข้าว
    ก็วันหนึ่ง ยุวกษัตริย์ ๓ องค์ คือ เจ้ากิมพิละ เจ้าอนุรุทธ และเจ้าภัททิยะ ทรงสนทนากันด้วยเรื่องว่า ข้าวที่เราบริโภคเกิดขึ้นที่ไหน ? ” กิมพิลกุมารรับสั่งว่า เกิดขึ้นในฉาง ครั้งนั้นภัททิยกุมาร ตรัสค้านกิมพิลกุมารนั้นว่า ท่านยังไม่ทราบที่เกิดแห่งข้าว ชื่อว่าข้าว ย่อมเกิดขึ้นที่หม้อข้าว เจ้าอนุรุทธตรัสแย้งว่า ถึงท่านทั้งสองก็ยังไม่ทรงทราบ ธรรมดาข้าว ย่อมเกิดขึ้นในถาดทองคำ
    ได้ยินว่า บรรดากษัตริย์ ๓ องค์นั้น วันหนึ่ง กิมพิลกุมาร ทรงเห็นเขาขนข้าวเปลือกลงจากฉาง ก็เข้าพระทัยว่าข้าวเปลือกเหล่านี้เกิดขึ้นในฉางนั่นเอง
    ฝ่ายพระภัททิยกุมาร ทรงเห็นเขาคดข้าวออกจากหม้อข้าวก็เข้าพระทัยว่า ข้าวเกิดขึ้นในหม้อข้าวนั่นเอง
    ส่วนอนุรุทธกุมาร ยังไม่เคยทรงเห็นคนซ้อมข้าว คนหุงข้าว หรือคนคดข้าว ทรงเห็นแต่ข้าวที่เขาคดแล้วตั้งไว้ เฉพาะพระพักตร์เท่านั้น.ท่านจึงทรงเข้าพระทัยว่า ภัตเกิดในถาด ในเวลาที่ต้องการบริโภค
    ยุวกษัตริย์ทั้ง ๓ พระองค์นั้น ย่อมไม่ทรงทราบแม้ที่เกิดแห่งข้าวตามเรื่องที่เล่ามาข้างต้น เพราะฉะนั้น อนุรุทธกุมารนี้จึงทูลถามว่า การทำงานนี้เป็นอย่างไร ? เจ้ามหานามศากยะ จึงสอนเรื่องการครองเรือนแก่อนุรุทธกุมารผู้น้องว่า ผู้อยู่ครองเรือน ชั้นต้นต้องให้ไถนา ครั้นแล้วให้หว่าน ให้ไขน้ำเข้า ครั้นไขน้ำเข้ามากเกินไป ต้องให้ระบายน้ำออก ครั้นให้ระบายน้ำออกแล้ว ต้องให้ถอนหญ้า ครั้นแล้วต้องให้เกี่ยว ให้ขน ให้ตั้งลอม ให้นวด ให้สงฟางออก ให้ฝัดข้าวลีบออก ให้โปรยละออง ให้ขนขึ้นฉาง ครั้นถึงฤดูฝนก็ต้องทำอย่างนี้อีก เป็นอย่างนี้ทุกปี
    ครั้นอนุรุทธกุมารได้ทรงฟังกิจการที่ฆราวาสจะพึงทำเป็นประจำทุกปีเช่นนั้น ทรงมองไม่เห็นว่า การงานสำหรับเพศฆราวาสทั้งหลายจะมีที่สิ้นสุดเมื่อไร จึงทูลให้เจ้ามหานามทรงครองฆราวาส ส่วนตนเองจะเป็นผู้ออกบวช
    ทรงครองกรุงกบิลพัสดุ์สืบต่อจากพระเจ้าสุทโธทนะ


    ในสมัยนั้น พระญาติพระวงศ์ชั้นสูงเกือบทั้งหมดก็ได้เสด็จออกผนวชโดยเสด็จพระบรมศาสดา คงเหลือแต่เจ้าชายมหานามะ เท่านั้นที่เป็นพระญาติมีลำดับอาวุโสสูงสุดในการสืบราชสมบัติเหลืออยู่ ดังนั้นเมื่อ พระเจ้า สุทโธทนะสิ้นพระชนม์ลง เจ้าชายมหานามะจึงได้ครองราชสมบัติในกรุงกบิลพัสดุ์สืบต่อไป
    ที่มา:
    http://www.dharma-gateway.com/ubasok/ubasok_hist/ubasok-mahanama-sakkaya.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2012
  14. แมลงแต่งสี

    แมลงแต่งสี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +2
    รหัส อะละสะมะกะโต้ยยยย อะไรกันโว้ย กะดุ๊กกะดิ๊ก

    คอ ควาย เรียก วอ แหวน ทราบแล้วเปลี่ยน.........พร้อมรบ

    เรียกเหล่าทัพ.....อาวุธครบมือ......

    .เหยี่ยวเหิรเวหา......กระรอกชักว่าว...เตรียมพร้อมยิงกระต่าย !


    อย่าพึงฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดนะตัวเธอ

    เราแค่เรียกพวกมาฟังนิทานเรื่อง โลกทั้งใบให้เธอเล่าคนเดียว
     
  15. MissP

    MissP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +951
    ..[FONT=&quot]และรู้อะไรหรือไม่ว่า จริงแท้แน่จริงแล้ว[/FONT] "[FONT=&quot]ผุ้ที่เป็นมเหสีของเจ้าชายสิทธัตถะนะ สำเร็จ ..นิพพานหรือหลุดพ้น ก่อน[/FONT] [FONT=&quot]เจ้าชายสิทธัตถะ หรือพระพุทรเจ้าสมณโคดมเสียอีก[/FONT]
    ***********************


    พระภัททากัจจานาเถรี (ยโสธา) บรรลุอรหัต เมื่อพระชนมายุไ้ด้40 พรรษา หลังจากออกบวชและ รับกรรมฐานจากพระพุทธเจ้าและเจริญวิปัสสนายังไม่ทันถึง 15 วัน ก็บรรลุพระอรหัต..ตามลิ้งค์นี้ค่ะ


    พระนางยโสธรา (พระนางพิมพา หรือพระนางยโสธราพิมพา) ประสูติวันเดียวกันกับเจ้าชายสิทธัตถะ (พระโคตมพุทธเจ้า) ซึ่งพระนาง จึงนับเป็น 1 ในสหชาติทั้ง 7 ของพระพุทธเจ้าซึ่งประกอบด้วย พระนางพิมพา พระอานนท์ นายฉันนะ กาฬุทายีอำมาตย์ ม้ากัณฑกะ ต้นมหาโพธิ และขุมทรัพย์ทั้งสี่


    พระนางยโสธราเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าสุปปพุทธะ และพระมารดามีพระนามว่า พระนางอมิตาเทวี เกิดในในตระกูลศากยะแห่งโกลิยวงศ์ เมืองเทวทหะ เมื่อแรกประสูติญาติทั้งหลายได้ทรงถวายนามว่า "ภัททากัจจานา" เพราะพระสรีระของพระนาง มีพระฉวีวรรณสีเหมือนทองคำอันบริสุทธิ์ พอมีพระชนม์ 16 พรรษา ได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายสิทธัตถะ(พระพุทธเจ้า) เมื่อมีพระชนม์ 29 พรรษาได้ ประสูติราชโอรส โดยพระเจ้าสุทโธทนะให้พระนามว่า พระราหุล


    ครั้นเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช พระนางยโสธราเกิดความเศร้าโศกพระทัยยิ่งนัก ได้ทรงละเว้นการตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับนานาประการ ทรงมีจิตผูกพัน และมีความรักอันลึกซึ้งต่อพระองค์ แม้วัฒนธรรมอินเดีย ในยุคนั้นจะถือว่า หญิงไม่มีสามีจะถือว่าไม่มีเกียรติ และหญิงนั้นสามารถมีสามีใหม่ได้ แต่พระนางพิมพาก็ไม่สนใจชายอื่นเลย พระนางยังคงเฝ้ารอพระสวามีของพระนางเพียงพระองค์เดียว จนกล่าวได้ว่า
    "ครา ใดที่พระนางได้ยินข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะนุ่งห่มผ้าย้อมฝาด พระนางก็เปลี่ยนชุดทรงมานุ่งห่มผ้าย้อมฝาดด้วย คราใดที่พระนางได้ยินข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะทรงบรรทมบนพื้นไม้ พระนางก็บรรทมบนพื้นไม้ได้วย คราใดที่พระนางได้ยินข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะทรงอดพระกระยาหาร พระนางก็ทรงอดพระกระยาหารด้วย ไม่ว่าจะได้ข่าวว่าพระสวามีปฏิบัติตนอย่างไร พระนางพิมพาก็ปฏิบัติตนเยี่ยงนั้น"


    และเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จ มากรุงกบิลพัสดุ์เพื่อ โปรดพระประยูรญาติ ในวันแรกพระนางมิได้ออกไปต้อนรับ แต่ในวันที่สอง ขณะที่พระพุทธองค์เสด็จออกทรงรับบาตร พระนางยโสธราชี้ให้พระราหุลได้ทอดพระเนตรพระบิดาของพระองค์แต่มิได้ออกไปทรง บาตร ทรงเก็บตัวอยู่ในตำหนัก และในวันที่สอง เมื่อพระพุทธเจ้ารับภัตตาหารในพระราชวังเสร็จ พระองค์จึงเสด็จไปโปรดพระนางพิมพาในตำหนัก เมื่อพระนางได้พบถึงกับเข้ามากอดพระบาทร่ำไห้รำพันอย่างน่าสงสาร แต่พระพุทธองค์ก็ทรงเทศนาให้พระนางดำรงสติไว้ได้ และเมื่อพระพุทธเจ้าทรงเทศนาพระประยูรญาติแล้ว พระนางพิมพาก็รับสั่งให้ราหุลราชโอรสตามเสด็จพระพุทธเจ้าเพื่อทูลขอราช สมบัติ พระพุทธเจ้าจึงทรงบรรพชาราหุลเป็นสามเณรและให้เสด็จติดตามพระองค์ไปด้วย


    หลัง จากที่พระนางอยู่ในตำหนัก 3 ปี พระเจ้าสุทโธทนะก็เสด็จสวรรคต และได้ทำพิธีให้เจ้าชายมหานามะขึ้นครองราชย์สมบัติสืบแทน พระนางยโสธราพิมพาจึงออกบวชกับมาตุคาม 1,100 คน ประมาณพรรษาที่ 5 แห่งพระผู้มีพระภาค ขอบรรพชาในสำนักของพระศาสดา พระนางยโสธราพิมพา ไปยังสำนักของพระเถรี ได้รับคุรุธรรม 8 บวชแล้ว เมื่อมีพระชนมายุ 40 พรรษา มีพระนามว่า "ภัททากัจจานา"

    พระภัททากัจจานาเถรี (ยโสธา) บรรลุอรหัต


    ต่อมา รับกรรมฐานจากพระพุทธเจ้าและเจริญวิปัสสนายังไม่ทันถึง 15 วัน ก็บรรลุพระอรหัต พระนางเป็นผู้ช่ำชองชำนาญในอภิญญาทั้งหลายระลึกชาติได้ถึงอสงไขยหนึ่งยิ่ง ด้วยแสนกัปโดยการระลึกถึงเพียงครั้งเดียว เมื่อทรงสถาปนาภิกษุณีทั้งหลายไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะต่าง ๆ ตามลำดับ จึงทรงสถาปนาพระเถรีนี้ไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าภิกษุณีสาวิกาผู้ บรรลุอภิญญาใหญ่


    พระนางภัททากัจจานาเถรีนิพพานในพรรษาที่ 43 แห่งพระผู้มีพระภาค มีพระชนมายุได้ 78 พรรษา


    [FONT=&quot][/FONT]
     
  16. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    การจะสืบต่อพุทธศาสนา

    เป็นหน้าที่ขององค์พระศรีฯ

    อันสืบเนื่องมีกรรมบางอย่าง

    ขององค์ศาสดา ที่องค์พระศรีฯ

    จักต้องมาแก้กรรมให้องค์พุทธะ

    องค์นั้นให้สำเร็จก่อน ศาสนาพุทธ

    จึงจะยืนยาวต่อไปได้

    และปัจจุบัน เหตุการณ์หรือศรัทธา

    ในบวรพุทธศาสนาเสื่อมถอยมาก

    เพราะมีเหล่าอมนุษย์อาศัยอยู่มาก

    หากเป็นเช่นนี้ไม่เกิน 100 ปี

    ทำไมต้ององค์พระศรีฯ

    เพราะองค์พระศรีฯ มีประวัติเชื่อมโยง

    กับองค์พุทธะมากก่อน

    หรือเรียกว่า บุรุษผู้ได้ถูกพยากรณ์

    โดยองค์พุทธะ
     
  17. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    อ่านตัวสีแดงข้างบน 2 บรรทัดแรกสรุป หมดทุกอย่าง

    วอนคนอ่าน พิจรณา อ่านมาตั้งแต่ต้นมีความรู้สึก มีความเห็นอย่างไร

    พุทธังสรณังคัจฉามิ ธรรมมังสรณังคัจฉามิ สังคังสรณังคัจฉามิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2012
  18. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    จะพูดให้ผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้หญิงให้ได้ ผู้หญิงเป็นใหญ่ไปหมด เน้นมากๆ ว่าผู้หญิงดี ผู้หญิงใหญ่ คือพระแม่ คือที่สุด


    หลายๆ สิ่ง ขัดกับพระไตรปิฏก ก็คงจะบอกว่าพระไตรปิฏกผิด ต้องแก้พระไตรปิฏก

    ผมยอมรับว่าแรกๆ ผมอ่านเหมือนชาไม่เต็มถ้วย อ่านด้วยใจกว้าง เพื่อจะได้สิ่งใหม่ๆ แต่ยิ่งอ่านยิ่งไปกันใหญ่ ผมขอออกตัวไม่สนับสนุนสิ่งเหล่านี้

    วอนพุทธศาสนิกชนไตร่ตรองสิ่งที่คุณอ่าน มันคืออะไร มันคืออะไร พระศาสดาของเราคือพระพุทธเจ้า ไม่ใช่เจ้าหญิงอันโดรเมด้า พระธรรมได้มาอย่างยากยิ่ง ทรงลำบากอย่างมากกว่าจะตรัสรู้ ได้บังเกิดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่เป็นสารณะของชาวพุทธทุกท่าน

    ผมไม่กลัวพลังคุณไสยพลังมืด ของใคร และไม่กลัวพลังของค์หญิง ผมเชื่อมั่นในพลังแห่งพุทธะ พลังแห่งความดี ผมเป็นชาวพุทธ ไม่กลัวพลังลึกลับอะไร หากทำได้ จะเอาให้ผมตาย เห็นว่ากำหนดตายได้ หากคิดว่าทำได้ก็ลองทำดู

    ผมไม่กลัว จัดมาเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2012
  19. MissP

    MissP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +951
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ...[FONT=&quot]และโปรดจำไว้...(แผ่นดินนี้เป็นของพ่อใครห้ามแตะ)..เพราะกฎ พระมหากษัตริย์คือเจ้าแผ่นดินทั้งหมดโดยแท้จริง[/FONT]
    ...
    [FONT=&quot]และโปรดจำไว้ ว่า ..พ่อที่อยู่เหนือเศียรเกล้าของเราและประชาชนอีกมากมาย ใครๆก็ห้ามแตะ...[/FONT]
    ...
    [FONT=&quot]คำสั่ง...ในนาม "ดวงตาสวรรค์".[/FONT] "[FONT=&quot]ดาบประกาศิต....เราขอสั่งและประกาศต่อจากวันนี้วินาทีนี้เป็นต้นไป[/FONT] [FONT=&quot]เราขอให้ผุ้ที่มีหน้าที่ทั้งหลาย ทั้งสามภพ จัดหนักและจัดเต็มสำหรับพวกที่[/FONT] [FONT=&quot]หมิ่น พ่อท่านและทำร้ายแผ่นดินไทย[/FONT] [FONT=&quot]อย่าได้ปราณีอีกต่อไป...[/FONT]
    ...
    [FONT=&quot]เราขอบมอบดอกไม้ ความรักความสุขสติสละ ให้กับผุ้ที่มีหน้าที่และได้ปฎิบัติหน้าที่โดยชอบธรรม..[/FONT]
    ...
    [FONT=&quot]เพราะหมดเวลาโปรดแล้ว..สัจจะ อโหสิกรรม...[/FONT]

    ...
    [FONT=&quot]จริงดังปากว่า ทุกอย่างสำเร็จแค่เพียงใจคิด สาธุ...[/FONT]
    **********************************

    จากอดีตจนถึงปัจจุบัน คนไทยเราอยู่และคุ้นเคยกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอย่างมาก พระมหากษัตริย์ ไทยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อให้พสกนิกรอยู่เย็นเป็นสุข สถาบันพระมหากษัตริย์จึงหมายถึงสถาบันสูงสุด โดยทรงเป็นพระประมุขของชาติ ทรงเป็นศูนย์รวมแห่งความจงรักภักดี ทรงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทยทั้งชาติ ทรงไว้ซึ่งคุณธรรมอันประเสริฐ และทรงเป็นที่เคารพรักเทิดทูนอย่างสูงยิ่งของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ....แต่

    ไม่ได้หมายความว่า [FONT=&quot]พระมหากษัตริย์คือเจ้าแผ่นดินทั้งหมดโดยแท้จริง หรอกนะคะ
    [/FONT]
    อดีตที่ผ่านมาหลายยุคหลายสมัยมีการรบราฆ่าฟันแย่งชิงอำนาจ เผยแผ่อำนาจของบรรดาเหล่ากษัตริย์เสมอมา ก่อกรรมสืบภพ ต่อชาติกันมา จนกระทั่งท่านๆ เหล่านั้นจะมีดวงตาเห็นธรรม...จากนั้นก็ค่อยมาเริ่มสร้างบารมีทางธรรมกันใหม่ วนอยู่ในวัฎฏะสงสารกระทั่งจะบรรลุมรรคผล หรือ ตามการตั้งสัตย์อธิฐานของตน เช่น ปรารถนาพุทธภูมิ พระปัจเจกฯ พระอรหันต์ สาวกภูมิ ต่างๆ เป็นต้น

    กษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรม ปกครองบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข ไพร่ฟ้าหน้าใส ก็จะได้รับการยกย่องพระเกียรติยศ เสมอมา เคารพเทิดทูนพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม ทุกๆพระองค์ค่ะ

     
  20. หัวใจ!

    หัวใจ! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2009
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +1,113
    ...............

    (ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย)...(เป็นนิทาน และความเชื่อส่วนตัว โปรดพิจารณา)

    ...ดวงตาสวรรค์ ผุ้รู้ ผุ้ตื่น ผุ้เปิดเผย....



    ...ปล. แล้วคุณรู้หรือไม่ ว่าจริงแล้ว พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๖ ที่ต่อจากพระศรีฯนะเป็นท่านใด

    ....แต่นิทานของเรานั้นท่านมีพระนามว่า..."พระเจ้ากัสปะ"..ถามหน่อย มีเขียนในไตรปิกฎหรือไม่..

    ...และท่านอ่านในหนังสือ ที่ท่านนำมาลงนะ ท่านคิดว่า เขาเขียนตรงหรือไม่ละ..

    ...ไม่ต้องอะไรมากหรอกนะคะ เอาแค่ประวัติของ พระเจ้าตากสิน ตรงหรือไม่


    ....และประวัติของพระนเรศวรก็ยังไม่ตรงเลย


    ...เราถึงบอกไงว่า หลังเปลี่ยนยุค สงคราม..สิ่งไหนที่เขียนและไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นคำสอนหรืออะไรต่างๆ นะ ถูกโละ และก็ทำการรื้อใหม่หมดนะ...

    ..ในโลกนี้ และจักรวาลนี้ จะมีใครบ้างที่รู้แบบจริงแท้มิใช่แค่เพียงกล่าวอ้างคะ...


    ..และที่แน่ ยิ่งกว่าแช่แป้งก็คือ..ประวัติตัวตนขององค์พระศรีฯ ไม่ว่าเล่มไหนๆ ที่เราอ่านมาทั้งหมด มิมีอะไรจะตรง อย่างมากก็ตรงแค่...๕ เปอร์เซ้นต์เอง...

    ...ไม่ต้องเชื่อเราหรอกนะคะ ว่าเราพูดจริงหรือไม่ ก็แค่รอ แบบเห็นชัดๆ ว่า ผุ้ใดคือ องค์พระศรีฯ ตัวจริงก็คงไม่เกินต้นปีหน้าแน่นอนคะ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 กรกฎาคม 2012
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...