ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

พระนารายณ์ เป็นเพียงตำแหน่งครับ เหมือนกับพระอินทร์ก็เป็นเพียงตำแหน่ง ที่เทพผู้มีบุญบารมี สับเปลี่ยนกันเข้ามารับตำแหน่งนี้ เมื่อหมดวาระลงก็จะมีเทพท่านอื่นๆเข้ามารับตำแหน่งแทน ถ้าคุณ gamemaster เคยอ่านพระไตรปิฏกก็จะพบความจริงในข้อนี้ครับ ยกตัวอย่างพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้ ในอดีตก็เคยเสวยพระชาติเป็นพระอินทร์ที่รบกับพวกอสูร ในอดีตเคยเสวยพระชาติเป็นพระนารายณ์ที่อวตาร(จุติ)ลงมาเกิดเป็นพระรามที่ต้องเดินป่าถึง 14 ปี ครับ

ถ้าเปรีบบเทียบกับตำแหน่งในเมืองมนุษย์ ก็คือตำแหน่งประธานาธิปดี หรือตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั่นเองครับ เมื่อคนที่รับตำแหน่งหมดวาระลงก็จะมีคนอื่นมารับตำแหน่งนี้ต่อไป เหมือนกับตอนที่พระสมณโคดมพระพุทธเจ้าเมื่อมาเสวยพระชาติเป็นพระราม(นารายณ์ปางที่ 7)แล้วก็ได้เสวยพระชาติอื่นๆเรื่อยมาจนได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้า แล้วดับขันธ์ปรินิพพานไปในที่สุดครับ ตำแหน่งพระนารายณ์(เทพผู้คุ้มครองโลก)นี้จึงว่างลง พระศรีอาริย์โพธิสัตว์จึงต้องมารับตำแหน่งเทพผู้คุ้มครองโลกนี้แทน และตอนนี้พระองค์ได้จุติลงมาเป็นพระกัลกี(นารายณ์ปางที่ 10)แล้ว รอเวลาที่จะมาปรากฏพระองค์ให้ชาวโลกได้เห็นในไม่ช้านี้ครับ

 

พระโพธิสัตว์ หน่อพุทธภูมิ การแบ่งภาค หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ​

Wisdom สมาชิก

เรื่องที่ ๑ พระโพธิสัตว์ - หน่อพุทธภูมิ - การแบ่งภาค

เนื้อหาทั้งหมดในกระทู้นี้เรียบเรียงจากหนังสือกายสิทธิ์เล่ม 1 สำนักสงฆ์พุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะในปัจจุบัน) ตีพิมพ์เมื่อ 10 กว่าปีก่อน



ช่วงที่ ๑

เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๓ วันหนึ่ง ขณะที่ผู้เขียนกำลังนั่งคุยกับหลวงปู่ ท่านได้ถามผู้เขียนว่า "เคยได้ยินเรื่องการแบ่งภาคไหม" ผู้เขียนเรียนตอบท่านว่า "เคยครับ ในเรื่องรามเกียรติ์ พระรามแบ่งภาคมาจากพระนารายณ์ มีจริงหรือครับหลวงปู่" หลวงปู่ท่านนิ่งอยู่อึดใจหนึ่งแล้วตอบว่า "มีจริงเหมือนกัน อย่างหลวงปู่ทวดแบ่งภาคมาเกิดไงละ" เกี่ยวกับเรื่องนี้ เคยมีนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรียนถามหลวงปู่ ซึ่งหลวงปู่ตอบว่า "มี...แต่ทำได้ในพวกหน่อพุทธภูมิ"

หลวงปู่ท่านเคยบอกผู้เขียนว่า "แก รู้ไหมว่า ในหลวงท่านเป็นใคร ท่านคือผู้ปรารถนาพุทธภูมิ กำลังใจของท่านพวกนี้จะต้องเป็นผู้นำหมู่คณะ ดูอย่างวัวยังมีจ่าฝูง นกก็ต้องมีหัวหน้าฝูง วัดก็ต้องมีเจ้าอาวาส อย่างหลวงพ่อใหญ่ (พระโบราณคณิสร อดีตเจ้าอาวาสวัดสะแก) แต่หน่อพุทธภูมิที่มีบารมีเต็มแล้ว สูงแล้ว เขามักจะไม่เป็นกษัตริย์ เพราะจะมีภาระหนักหน่วง ส่วนใหญ่เขามักเป็นคนธรรมดาแล้วบวชพระ แต่จะบำเพ็ญบารมีจนในที่สุดจะกระเทือนถึงพระราชวงศ์เอง พระเจ้าแผ่นดินองค์นี้ท่านมีบุญมาก และเป็นแบบอย่างให้ข้าราชการผู้ใหญ่ทำตาม"

ผู้เขียนจึงเรียนถามท่านต่อไปว่า "หลวงปู่ครับ หน่อพุทธภูมิที่บารมีเต็มแล้ว ท่านก็ไม่ต้องมาเกิดแล้วใช่ไหม รอการตรัสรู้เลยที่ชั้นดุสิต หรืออย่างหลวงปู่ก็ไม่ต้องมาเกิดแล้วใช่ไหมครับ" หลวงปู่ตอบว่า "กำลัง ของพุทธภูมิมีหน้าที่ที่จะทำให้มหาชนมีความสุข ถ้ามีคนเรียกร้องหรือบ้านเมืองเกิดยุคเข็ญก็ต้องลงมาช่วย จะคิดเอาแต่สบายได้ยังไง นั่นไม่ใช่ความคิดของหน่อพุทธภูมิ อย่างนี้พระอรหันต์สำเร็จแล้ว ท่านก็ไม่ต้องยุ่งกับใคร ไม่ต้องทำอะไรแล้วซิ" หลวงปู่ท่านตอบคำถามของผู้เขียนเสร็จแล้ว ท่านปรารภถึงการจัดการเรื่องศพของท่านต่อไปว่า "ถ้าข้าตายแล้วอย่าเก็บศพไว้นาน เจ็ดวันเผาเลย ไม่เผาก็โยนทิ้ง เดี๋ยวจะกลายเป็นหากินกับศพ"

ผู้เขียนได้แย้งท่านว่า "กลัววัดจะร้าง" หลวงปู่ท่านตอบว่า "เรื่อง เผาไม่เผา ต้องแล้วแต่คำสั่ง ดูอย่างหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ท่านสั่งไม่ให้เผา เพราะกลัวพระเณรจะอดอยาก แต่สำหรับข้าให้เผา เวลาจะเผาให้เผายืน ข้าจะได้ไปไหนได้" ผู้เขียนจึงถามท่านว่า "หลวงปู่ไม่ไปนิพพานหรือ" ท่านตอบว่า "จะ ไปได้อย่างไร คนนี้ก็เรียก คนนั้นก็ร้อง ข้าไปแค่หัวตะพานก็พอ ดูอย่างหลวงปู่ทวดซิ มีคนเรียกร้องท่านมากมาย บารมีท่านเต็มท้องฟ้า อย่างข้าเอง คนไหนคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงเขา คนไหนไม่คิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงเขา เพราะในวันหนึ่งๆ ข้าต้องอธิษฐานไปให้หมู่คณะทุกวันไม่เคยขาด วันละ ๓ ครั้ง เขาจะได้ไม่เป็นอันตรายทั้งเช้ามืด ตอนเย็น ตอนกลางคืน ก่อนนอน เพื่อเป็นการช่วยเหลือหมู่คณะ"

ผู้เขียนฟังจบ พร้อมกับสำนึกในเมตตาของหลวงปู่ที่มีต่อลูกศิษย์อย่างมาก หลวงปู่ท่านได้ย้ำด้วยความเมตตาต่อไปอีกว่า "คิด ถึงพระครั้งหนึ่ง บารมีพระมาถึงเราไปกลับ ๗ เที่ยว รวมแล้ว ๑๔ ครั้ง ได้กำไรดีไหมล่ะ นี่มีในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าบอกกับพระอานนท์ ถ้าเราคิดถึงพระได้เหมือนกับคิดถึงแฟนเมื่อไหร่ แสดงว่าจะดีแล้ว"



ช่วงที่ ๒

ในเรื่องการแบ่งภาค ตามความเห็นของผู้เขียนเข้าใจว่า ท่านลงมาเกิดทั้งองค์ คงจะไม่ใช่เป็นการแบ่งจิตมาเกิด เนื่องจากหน่อพุทธภูมิที่มีบารมีสูงแล้ว ท่านจะมีพลังจิตสามารถตั้งพุทธนิมิต ธรรมนิมิต สังฆนิมิตได้ ซึ่งรวมเรียกว่าเป็นพลังงานหรือบารมีธรรมที่ท่านสร้างมา ซึ่งหลวงปู่เรียกรวมว่า "ภูตพระเจ้า" นั่นเอง สิ่งเหล่านี้จะเป็นบารมีที่คอยติดตาม รักษาคุ้มครองไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางของศาสนา จวบจนกระทั่งท่านได้ปฏิบัติธรรมไปถึงจุดหนึ่ง ทำให้ท่านได้รู้ถึงอดีตที่เคยทำมา

ซึ่งตรงกับมงคล ๓๘ ในข้อที่ว่า "ปุพเพจะกตะ ปุญญะตา" บุญที่เคยทำมาแต่ก่อนนั้นเป็นมงคล ดังนั้น ผู้ที่สนใจทางศาสนาได้ จึงถือว่ามีบุญแต่เก่าก่อน มาค้ำชูอุดหนุน บางคนเคยเป็นโจร เมื่อถึงเวลาผลบุญเก่าเข้ามาเสริม ก็สามารถพลิกจิตให้เกิดปัญญาได้ อาทิเช่น พระองคุลีมาล เป็นต้น



หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ได้เคยอธิบายถึงท่านที่ได้พระโสดาบัน เมื่อมาเกิดใหม่ ไม่ใช่จะรู้ว่าตนเองเป็นพระอริยบุคคลเลยทีเดียว แต่ต้องมาปฏิบัติธรรมอีกระยะหนึ่ง จึงจะรู้อดีตได้ ซึ่งในหน่อพุทธภูมิก็คงเช่นเดียวกัน หลวงพ่อมหาวีระ ท่านเคยกล่าวถึงหน่อพุทธภูมิที่มีบารมีเต็มขั้น ซึ่งเป็นปรมัตถบารมี จึงจะไม่ตกนรกอีก เสมือนพระโสดาบัน ซึ่งไม่ตกไปสู่อบายภูมิอย่างแน่นอน

พระบางองค์อาจบรรลุอรหัตตผล โดยไม่ผ่านขั้นตอนโสดาสกิทาและอนาคามีผล ซึ่งผู้เขียนมีความเห็นว่าเป็นไปได้ ๒ กรณีคือ กรณีที่ ๑ พระองค์นี้เคยเป็นพระโสดาบันมาแล้วในอดีต กรณีที่ ๒ คือ พระองค์นั้นบรรลุอรหัตตผลโดยฉับพลันทันทีตลอดสายเช่น การบรรลุอรหัตตผลของพระสีวลี เริ่มตั้งแต่เป็นเณรได้เป็นพระโสดาบัน เมื่อท่านมาบวชเป็นพระ ในขณะที่ปลงผมจนกระทั่งเป็นพระเรียบร้อย ท่านก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ทันที



ช่วงที่ ๓

หน่อพุทธภูมิที่มีการสร้างบารมีถึง ๓๐ ทัศน์ มีอยู่อย่างหนึ่งคือ ปัญญาบารมีขั้นปรมัตถ์ จึงทำให้ท่านไม่ต้องไปอบายภูมิ เพราะท่านล่วงรู้ถึงสัจจะธรรมต่างๆ ทำให้ไม่หลงตน ผู้เขียนเคยกราบเรียนถามหลวงปู่โดยอ้างพระไตรปิฎก ซึ่งได้กล่าวถึงบุญที่ถวายทานกับพระอริยะขั้นต่างๆ กำลังบุญไม่เสมอกัน แต่ในพระไตรปิฎกไม่ได้กล่าวถึงหน่อพุทธภูมิ

หลวงปู่ท่านได้ตอบผู้เขียนว่า "หน่อ พุทธภูมิ ถ้าเปรียบไปแล้ว ก็คือ พระอนาคามี เพราะกำลังจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า แต่จัดเป็นพระอนาคามีชั้นพิเศษ คือเหมือนกันแต่ท่านยังไม่เอา หลวงปู่ท่านจึงยังไม่สอนใครถึงนิพพาน เพราะถึงไม่ใช่กิจของท่าน แต่ท่านรู้ทั้งนั้น บารมีทั้ง ๑๖ อสงไขย ไม่รู้ได้อย่างไร หลวงปู่ทวด จิตท่านยังมีจุดดำอยู่ แกว่าจริงไหม" ผู้เขียนตอบว่า "ถ้าไม่มีท่านก็สำเร็จแล้วซิครับ แต่จุดดำนั้นเป็นจุดของความเมตตา ที่ท่านจะโปรดสัตว์ เพื่อจะให้สมกับคำว่า ศรีอริยเมตไตรย

ดังนั้น จุดดำนี้ผมถือว่า มีค่าน้อยมากตัดทิ้งไปได้เลย" หลวงปู่ท่านพยักหน้ายิ้มรับ และทำให้ผู้เขียนเข้าใจถึงพระธาตุหลวงปู่ทวด ที่ท่านเสด็จมาเอง สัณฐานค่อนข้างกลม สีน้ำตาลดำ หลวงปู่ท่านบอกว่า คือพระธาตุหลวงปู่ทวด ซึ่งถ้าเราอ่านตามพระไตรปิฎก พระธาตุจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วเท่านั้น ไม่มีการกล่าวถึงพระธาตุจากหน่อพุทธภูมิเลย เพราะท่านก็เปรียบเสมือนพระผู้บริสุทธิ์ การซักฟอกธาตุขันธ์จึงย่อมเป็นไปได้

ทำให้เข้าใจถึงฟันและเกศาของหลวงปู่ที่เป็นพระธาตุเช่นกัน ผู้เขียนนึกถึงคำพูดของหลวงพ่อมหาวีระ ที่กล่าวถึงพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีสูง พระอรหันต์ยังให้ความเคารพ เมื่อผู้เขียนกราบเรียนถามหลวงปู่ ท่านตอบว่า "คงจะจริง ดูอย่างหลวงปู่ทวดนั่นไง เวลาปลุกเสกพระ พระโดยมากก็ร้องขอความช่วยเหลือจากท่าน"



ช่วงที่ ๔

หลวงปู่ท่านเล่าให้ผู้เขียนฟังในวันหนึ่ง ถึงหมอจีนที่มารักษาท่าน โดยการจับชีพจรเพื่อตรวจอาการโรคหรือที่เรียกว่า หมอแมะ หมอบอกว่า หลวงปู่มีพระเต็มไปหมดทั้งตัว ท่านถามเหตุผลกับผู้เขียน ซึ่งผู้เขียนพิจารณาแล้วนึกถึงเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ชนิดหนึ่ง ใช้วัดการเต้นของชีพจร ถ้าเป็นผู้มีสมาธิดี การเต้นของชีพจรจะราบเรียบ การใช้ออกซิเจนจะน้อย

แต่ในกรณีหลวงปู่ หมอใช้วิทยาการทางจิตตรวจสอบพบว่า การเต้นของชีพจรราบเรียบ ทั้งๆ ที่หลวงปู่นั่งอยู่ในอิริยาบทกำลังคุย คือไม่ได้นั่งสมาธิ นั่นแสดงว่า จิตของท่านเป็นสมาธิตลอดเวลา หรือจิตไม่มีความคิดปรุงแต่ง ทางหนังจีนกำลังภายในเรียกว่า ท่าไร้อารมณ์ ลักษณะเช่นนี้ เข้าลักษณะทางพุทธ คือ อารมณ์ของพระอรหันต์ เป็นลักษณะของผู้ที่ได้รับจากการปฏิบัติจิตขั้นสูง ทำให้นึกถึงหลวงปู่ปาน ที่กล่าวไว้ในประวัติของท่าน ในขณะที่ท่านกำลังคุยกับญาติโยม แต่อีกจิตหนึ่งสามารถเสกน้ำมนต์ไปพร้อมกัน

หรือผู้เขียนประสบมาด้วยตัวเองกับหลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี ในขณะที่ท่านนั่งคุยกับผู้เขียนและญาติโยมอยู่นั้น ท่านก็ได้จุดเทียนไว้บนขันน้ำ สักพักหนึ่งก็ได้น้ำมนต์มาพรมให้กับญาติโยมและผู้เขียน โดยท่านไม่ได้นั่งอธิษฐานจิตเลย แม้แต่หลวงปู่เอง ท่านก็ได้ทำอยู่บ่อยๆ เมื่อมีญาติโยมมานิมนต์ท่านไปร่วมพิธีต่างๆ ตั้งแต่พิธีปลุกเสกพระ งานทำบุญบ้าน ฯลฯ



เพื่อนของผู้เขียนคนหนึ่งเรียนถามหลวงปู่ว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าพระองค์ไหนบารมีสูง หลวงปู่มองหน้าผู้เขียนแล้วตอบยิ้มๆ ว่า "อย่างเช่น ท่านนั่งอยู่ที่หนึ่ง แต่อธิษฐานจิตไปช่วยเหลือ ไปได้อีกที่หนึ่ง" เพื่อนของผู้เขียนฟังแล้วรู้สึกงงๆ แต่ผู้เขียนเข้าใจทันที เพราะกำลังพูดคุยอยู่กับท่านพอดี เกี่ยวกับท่านอธิษฐานจิตไปช่วยเหลือในการสร้างรูปหล่อของหลวงปู่ที่กรุงเทพฯ โดยท่านบอกผู้เขียนว่า "ทำมาหลายวันแล้ว อธิษฐานให้หลวงพ่อทวดไปช่วยเหลือ ให้พระไปช่วย เรามีกิจมาก เดี๋ยวลืมจะทำให้เสียงานได้"



ช่วงที่ ๕

เกี่ยวกับเรื่องความปรารถนาของหลวงปู่ ผู้เขียนสรุปได้เลยว่า ท่านปรารถนาพุทธภูมิอย่างแน่นอน ผู้เขียนเคยคุยกับลูกศิษย์ของหลวงปู่หลายคน มีคนหนึ่งชื่อ "เช็ง" อยู่วัดสะแก ได้กล่าวถึงหลวงปู่ว่า "หลวงลุงท่านปรารถนาพุทธภูมิ ไม่อย่างนั้น ท่านไม่มานั่งหลังขดหลังแข็งรับญาติโยมอยู่หรอก" มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกศิษย์หลวงปู่ชื่อ "ปราณี" ได้ถามหลวงปู่เรื่องการไปนิพพานของหลวงปู่ หลวงปู่ตอบว่า "เรื่องอะไรข้าจะไปนิพพาน ข้าหวังเป็นนายร้อย ไม่ใช่หวังเป็นนายสิบ คนอย่างข้าต้องหักยอดฉัตร จึงสมใจ" ซึ่งเป็นการกล่าวจากปากท่านเอง

สำหรับผู้เขียนนั้น ท่านบอกความปรารถนานี้เช่นกัน และท่านยังบอกผู้เขียนอีกว่า "เขาว่ากันว่า ข้าจะสำเร็จระหว่างต้นไม้หนึ่งคู่ ข้าเองยังไม่รู้เมื่อไร" ในตอนนั้น ผู้เขียนยังไม่แน่ใจ ได้แต่มองต้นไม้ในวัดสะแกว่าจะเป็นต้นไหน แต่ก็ไม่มี มาตอนหลังจึงเข้าใจในคำพูดของท่าน จนกระทั่งหลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จังหวัดสิงห์บุรี ท่านมาเยี่ยม เมื่อคราวที่หลวงปู่ไม่สบายก่อนมรณภาพ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่หลวงปู่บุดดาจะกลับ ท่านได้พูดกับหลวงปู่ดู่ว่า "วันนี้ผมนำมงกุฎพระ พุทธเจ้ามามอบให้คุณ นิมนต์อยู่ต่อเถิด ถ้าไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร ที่คุณปรารถนานั้นน่ะ สำเร็จแน่ ต่อไปคุณจะได้เป็นพระพุทธเจ้า" หลวงปู่บุดดาก็ลากลับ ในวันนั้น ผู้ได้ยินหลายคน ลูกศิษย์คนหนึ่งได้เรียนถามหลวงปู่ ถึงความหมายที่หลวงปู่บุดดาพูด ท่านตอบว่า "พระอรหันต์ให้พร เราก็รับไว้ไม่เสียหายอะไร"

ผู้เขียนเคยปรารภกับหมู่คณะหลายๆ ท่าน ถึงความโชคดีที่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับพระผู้บริสุทธิ์ และมีเมตตาจนเรากล่าวคำนมัสการได้สนิทใจว่า

นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ สัมมาสัมพุทโธ อนาคตกาเล

- จบเรื่องที่ ๑ -

ท่านที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

http://palungjit.org/threads/พระโพธิสัตว์-หน่อพุทธภูมิ-การแบ่งภาค-หลวงปู่ดู่-พรหมปัญโญ.326703/

 

ชัดเจนครับ ผมนึกว่าอรหันต์แล้วกลับมาได้อีก ไม่รู้จะอรหันต์ไปทำไม ถ้ายังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก สรุปไม่มีการแบ่งภาค เอาภาคนึงไปอรหันต์ เอาภาคนึงไปรับตำแหน่งต่อนะครับ
ขอบคุณครับ

 

22 ก.ค. 55 เครื่องสีข้าวสองระบบ

ท่านใดพอจะทราบแหล่งผลิตหรือจำหน่ายเครื่องสีข้าวสองระบบคือไฟฟ้าและใช้มือหมุน ผมอยากจะขอทราบที่อยู่ ที่จำหน่าย

เมื่อวานไปดูแถววงเวียนโอเดี่ยนและสะพานเหล็กจะมีแต่ระบบไฟฟ้าอย่างเดียว

ที่เคยพบเห็นคืองานเกษตรแฟร์ปีที่แล้วที่ ม.เกษตร บางเขน

ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

เคอิสรา

 

สงครามเทพกับอสูร ยังคงมีอยู่บนสวรรค์ !!!​

​

ผมได้เป็นตัวแทนของพ่อคเณศ มาประกาศสาส์นจากสรวงสวรรค์ทั้ง 9 ฉบับนี้ ขอให้ท่านช่วยกันอ่าน และส่งต่อไปด้วยเถิด...

ขอให้ช่วยส่งลิงค์ ทั้ง 9 สาส์นไปให้โดยทั่วถ้วนกัน ตามสื่อเว็บต่างๆ ที่ตนรู้จัก พ่อต้องการให้ทุกคนช่วยครับ บทความทั้งหมดจากทั้ง 9 สาส์นจากองค์พระพิฆเนศ จารขึ้น 9 ราตรี ตามคำสั่งของพ่อคเณศ ใครจะหาว่าผมเพี้ยนก็ช่าง แต่คือสิ่งที่ผมสัมผัสได้ ผมใช้เวลาตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีสาม ติดต่อกัน 9 คืนในการเขียน ตอนเขียนช่างลื่นไหล แม้สมองจะเบลอและง่วงมากแค่ไหน เมื่อเขียนเสร็จมาอ่านดู ก็ตกใจตัวเองที่เขียนได้มากมาย และเป็นเรื่องราวที่เข้ากับเหตุการณ์ ในขณะนี้ของบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติจากน้ำ และภัยพิบัติจากคนในประเทศ ผมถึงอุทาน... โอ้ นี่หรือที่เราเขียน เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

คืนหนึ่ง ที่ผมหลับใหล พร้อมกับหนังสือบนหัวเตียงที่เขียนเสร็จไปหนึ่งสาส์น ก็เหมือนมีแรงหนักๆ ของน้ำหนักใครบางคน มานอนข้างๆ (รู้สึกได้ว่าเตียงมันยุบฮวบลงไปข้างตัวเรา จะกระดิกตัวหันกลับไปมองก็ไม่ได้ ราวถูกสะกด) ทันใดนั้น ผมก็ได้ยินเสียงเปิดสมุด ดังพรึ่บๆ ข้างๆ ตัวผม เหมือนคนบางคนนั้น กำลังเปิดสาส์นจาก พ่อคเณศที่ผมเขียนไว้ อ่านอย่างตั้งใจ เสียงเปิดพลิก หน้าแล้วหน้าเล่า เป็นเสียงของมือพลิกหน้า กระดาษจริงๆ

ไม่ใช้เสียงลมพัดหน้ากระดาษเปิด เพราะไม่ได้เปิดพัดลม ผมเปิดแอร์ ลมไม่น่าแรงปานนั้น และเสียงลมพัดหน้ากระดาษ กับเสียงมือคนเปิดอ่าน มันต่างกัน ผมแยกออก ลองดูสิครับ แล้วใครกันนะที่อ่านสาส์นจากองค์พ่อที่ผมเขียนใกล้เสร็จแล้ว พอได้สติตื่นขึ้นมา ก็หันกลับไปมองที่หนังสือที่ตนวางไว้ ก็ไม่พบว่ามันจะเลื่อนไปจากตำแหน่งเดิมเลย หน้าสมุดก็ปิดไว้เช่นเดิม ที่สำคัญไม่มีใครนอนอยู่ข้างผมด้วย ก็แปลกดี แล้วเมื่อกี้ใครเป็นคนเปิดอ่าน !! หากไม่ใช่พ่อคเณศ

สาส์นทั้ง 9 ฉบับ ท่านพ่อไม่อนุญาตให้ตีพิมพ์เพื่อพาณิชย์เด็ดขาด!! อย่าเอาคำพ่อมาหากิน พ่อสาปแช่งมา! แต่ครั้นเราจะตีพิมพ์แจกฟรี ทุนทรัพย์ก็ไม่มากพอ จึงนำมาเผยแพร่ที่นี่ และขอความช่วยเหลือ จากทุกคนที่เข้ามาอ่าน ช่วยส่งต่อๆ กันไป ก็อปปี้ได้ ไม่สงวนสิทธิ์ เวลานี้เราต้องช่วยกัน ส่งสาส์นจากสวรรค์ นี่คือคำขอร้องจากเทพเบื้องบนให้ช่วย แล้วสถานการณ์วุ่นวายบนโลกเราจะเบาบางลงในทุกเรื่องครับ ขอบคุณครับ

สาส์นฉบับ 1
http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322168

สาส์นฉบับ 2
http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322169

สาส์นฉบับ 3
http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322170

สาส์นฉบับ 4
http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322171

สาส์นฉบับ 5
http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322172

สาส์นฉบับ 6
http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322173

สาส์นฉบับ 7
http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322174

สาส์นฉบับ 8
http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322175

สาส์นฉบับ 9 (สุดท้าย)
http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322176

โปรดช่วยกันส่งต่อไปให้รวดเร็ว ขออนุโมทนาครับ แบงค์สเกตช์กรรม
**************************************************************
ปล.ถ้าอยากรู้ว่าบทความนี้เกี่ยวอะไรกับสถานการณ์โลกของเราปัจจุบันนี้ ท่านต้องอ่านนะครับ และท่านจะรู้กระจ่างเลยครับว่ามันเกี่ยวโดยตรงเลยล่ะครับ แต่สิ่งเหล่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ สวัสดี..

แบงค์สเกตช์กรรม

ที่มา 2012 Doomsday 2555: สาส์นจากพ่อคเณศ (โดยแบงค์สเกตช์กรรม)

 

<TABLE style="WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; TEXT-INDENT: 0px; FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt; WORD-SPACING: 0px; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px" border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" bgColor=#ffcae3><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"> กรมอุตุฯประกาศเตือนภัยพายุโซนร้อน"วีเซนเต" ทั่วประเทศฝนเพิ่ม</TD></TR><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"> </TD></TR><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" vAlign=top align=middle><TABLE style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: 'MS Sans Serif', CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 13pt" class=A2 vAlign=top><TABLE style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt">

อ่านเนื้อหาข่าวเพิ่มเติมจาก อุตุฯประกาศเตือนภัยพายุโซนร้อน"วีเซนเต" ทั่วประเทศฝนเพิ่ม​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE style="WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; TEXT-INDENT: 0px; FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt; WORD-SPACING: 0px; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px" border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" bgColor=#ffcae3><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt">สยบคลั่งลูกทรพี ขู่ฆ่าพ่อไม่ยอมให้ออกรถป้ายแดง</TD></TR><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"> </TD></TR><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" vAlign=top align=middle><TABLE style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: 'MS Sans Serif', CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 13pt" class=A2 vAlign=top><TABLE style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt">

อ่านเนื้อหาข่าวเพิ่มเติมจาก รวบหนุ่มขี้ยาทรพีขู่ฆ่าพ่อ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE style="WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; TEXT-INDENT: 0px; FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt; WORD-SPACING: 0px; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px" border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" bgColor=#ffcae3><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt">ลูกทรพี!! หลอนกัญชาข่มขืนแม่บังเกิดเกล้า วัย 61 ปี</TD></TR><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"> </TD></TR><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" vAlign=top align=middle><TABLE style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: 'MS Sans Serif', CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 13pt" class=A2 vAlign=top><TABLE style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><img src="http://tnews.teenee.com/crime/img1/204203.jpg" '="" align="center" alt=""></TD></TR><TR style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt"><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma, CordiaUPC; COLOR: rgb(0,0,0); FONT-SIZE: 10pt" align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้นำตัว ลูกบ้านหญิงอายุ 61 ปี

เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าแซะ ว่า ถูกลูกชายแท้ ๆ อายุ 21 ปี ใช้กำลังข่มขืน เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ตั้งอยู่กลางไร่กาแฟเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ โดยเจ้าหน้าที่พบลูกชายของหญิงคนดังกล่าวอยู่ภายในบ้าน จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ท่าแซะ


เบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้การวกไปวนมา และปฏิเสธว่า ไม่ได้ข่มขืนแม่ของตัวเอง

เพียงแต่ใช้กำลังจับมือแม่ไขว้หลังแล้วกดหัวแม่ลงบนที่นอน แต่ตำรวจไม่เชื่อ จึงเค้นถาม จนในที่สุดผู้ต้องหาได้ยอมรับสารภาพ โดยให้การว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้ลงมือข่มขืนแม่จริง แต่ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป คล้ายกับมีคนมากระซิบข้างหูให้ทำอย่างนั้น ตำรวจจึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย


ผู้ใหญ่บ้าน ให้การเพิ่มเติมว่า สองแม่ลูกอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง เนื่องจากสามีไปบวชแล้วไม่ยอมสึก

ซึ่งลูกชายไม่ยอมทำงาน ได้แต่แบมือขอเงินแม่ และระยะหลังเพิ่งทราบข่าวมาว่าติดยาเสพติดงอมแงม โดยเฉพาะกัญชา และน้ำต้มใบกระท่อม ทำให้มีอาการเหม่อลอย และมีนิสัยก้าวร้าว จนก่อเหตุลงมือข่มขืนแม่ตัวเอง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><EMBED style="TEXT-ALIGN: center; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-INDENT: 0px; FONT: 17px 'MS Sans Serif', CordiaUPC; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: rgb(0,0,0); WORD-SPACING: 0px; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px" height=315 type=application/x-shockwave-flash width=420 src=http://www.youtube.com/v/oyid_0mf_z8?version=3&hl=th_TH allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">

 

22 ก.ค. 55

ฟังคำ คเณศวร กล่าวจบ
สุดสลด แม้ฟ้า ยังพ่าย
คงต้อง พึ่งดิน หนุนให้
ช่วยไว้ เร่งทำ ความดี

ขอเชิญ พี่น้อง ผองไทย
ร่วมใจ กันทำ ความดี
จะได้ พ้นภัย ทุกที่
เร่งรี่ รีบทำ กันไว

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน
<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>Last edited by k_97; วันนี้ at 04:49 PM

 

- แบบมือหมุน เคยเห็นที่สกลและร้อยเอ็ด หรือบางครั้งเห็นขายแถวตลาดรถไฟแถวขายของแบบแปลก ขอนแก่น
-แบบไฟฟ้า และแบบเครื่องคูโบต้า9.5แรง เห็นที่ ต.บ้านใหม่ บ้านหนองโก ต.หนองแดง และบ้านหนองตาใกล้ ต.ภูห่าน(ช่างจอม) อำเภอ สีชมพู จ.ขอนแก่น ห่างจากฐานผาแบ่นประมาณ150 กม.สั่งส่งถึงที่พร้อมติดตั้ง บอกสถานที่เฉยๆนะครับกรุณามาติดต่อและต่อราคาเอาเอง มีหลายขนาดและหลายแบบหลายราคา ผลิตได้ตามสั่งครับ

 

เรื่องนี้ก็เห็นด้วยเช่นกัน อนุโมทนาสาธุครับ[/QUOTE]
ผมเองก็เชื่อแต่ หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุงครับ ที่หลายๆคนบอกว่า ครูบาอาจารย์ท่านนั้นท่านนี้ รบกวนช่วยบอกชื่อเลยครับ อย่าเอาแต่แต่งนิยาย คนที่เขาเครียดเพราะเรื่องนี้เยอะนะครับ เพื่อนผมเคยไม่เรียนต่อปริญญา เพราะเรื่องโลกจะแตกปี 2000 จนทุกวันนี้ไม่มีอนาคต นี่เรื่องจริงนะครับ กำลังใจของคนอ่านไม่เท่ากัน เลิกแต่งนิยายเถอะครับ เมืองไทย แผ่นดินไหวเต็มที่แค่ต้นอ้อยหักครับ ไม่เกินนั้น ไม่อย่างนั้น ในหลวงท่านให้ย้ายเมืองหลวงแล้วครับ ทุกวันนี้มีแต่นักการเมืองจะย้ายรัฐสภาไปในที่ ที่ดินของกลุ่มทุนตัวเอง ทำความดีเอาไว้ ดูแลครอบครัวให้มีความสุขเถอะครับ ขอให้ทุกๆท่านที่เครียดที่กังวลกับเรื่องพวกนี้ วางใจ ทำชีวิตให้ปรกติ ทำดีเอาไว้เถอะครับเมืองไทยเรา ร่มเย็นแน่นอนครับ เดินตามพ่อหลวง ใครมีที่ดินว่างเปล่า ก็ทำเกษตรพอเพียงตามพ่อเราเอาไว้ เหลือก็แบ่งปันคนอื่นครับ ไม่มีที่ไหนสมบูณณืแบบเท่าเมืองไทยครับ ผมไปเดนมาร์กมาบ้านเมืองเขาปลูกได้แค่ข้าวโพด กับข้าวสาลี ที่เหลือนำเข้าหมดทุกอย่าง นึกภาพดูว่าวันใดเศรษฐกิจเขาไม่ดี รัฐบาลไม่มีเงินซื้อของมาขายให้พลเมืองเขาจะเกิดอะไรขึ้น เมืองไทยเราขว้างเม็ดอะไรทิ้งไปก็ขึ้น ก้มีกิน รัก และหวงแหนแผ่นดินไทยเอาไว้ อย่ากังวลกับภัยพิบัติครับ เอื้อเฝื้อเผื่อแผ่กันให้มากครับ แดงเหลืองเดี่ยวมันก็จบครับ ผมเห็นใครได้เป้นรัฐบาล ก็ไปโกงกินเหมือนเดิม

 

โลกจะแสดงอาการทนไม่ไหวแล้วในวันที่ 21/12/12
เชิญฟังการสื่อพระโอวาทสดๆ จากจิตจักรวาล
เราต้องรักกันให้อภัยกันได้แล้ว

TV Online การสื่อพระโอวาทจากองค์จิตจักรวาล

 

23 ก.ค. 55

ที่กล่าวมานี้ ระบบมือหมุนและไฟฟ้าอยู่ในเครื่องเดียวกันถูกต้องไหมครับ?

ขอบคุณครับ

เคอสรา

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เกษม
เรียนคุณ K-อิสรา ที่เคารพ

ได้อ่านสาส์นจากองค์พระพิฆเนศ แล้วรู้สึกเป็นห่วงพระอินทร์และเหล่าทวยเทพในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลกมาก ไม่ทราบว่าทางหน่วยเหนือได้แจ้งข่าวความคืบหน้าในเรื่องนี้ให้คุณ K-อิสรา ทราบบ้างหรือไม่ครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
23 ก.ค. 55

เมื่อได้อ่านสาส์นจากพ่อคเณศวรแล้วมาสรุปตรงมนุษย์บนโลกต้องเร่งทำความดี

เช้านี้ความจริงก็ไม่อยากเขียนเรื่องนี้ พอมาเห็นข้อความของคุณเกษมเข้าก็ขอเขียนให้อ่านและให้คิดโดยจะไม่เปิดเผยมากนัก

ทุกเรื่องที่ได้เกิด เกิดจากน้ำมือของคนทั้งสิ้น ท่านจึงเน้นมาที่คนให้สร้างความดี

ส่วนอื่นๆที่เกิดก็เกิดจากการเขียนบทที่ทุกที่ต้องแสดงในเหตุการณ์จริง ไม่ว่าบนโลกหรือสวรรค์

สุดท้ายธรรมย่อมชนะอธรรมเพราะผู้กำกับ ผู้เขียนและผู้แสดงคือกลุ่มเดียวกัน

หวังว่าคุณเกษมอ่านแล้วคงเข้าใจ

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน<!-- google_ad_section_end -->

 

ไม่ได้สงสัย เรื่องเทวดาอินทร์พรหม

ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องพระพิฆเนศ

หลวงพ่อพระราชพรหมญาณเคยบอกว่า
พระพิฆเนศ เป็นเทวดาองค์หนึ่งบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ถ้าจำไม่ผิดชื่อปิยะสิขาหรือปัญจะสิกขา ทำนองนี้แหล่ะครับ

แต่สงสัยว่า

ทำไมไปเชื่อหมอดูคนนึง

ที่ทำมาหากินกับขยำกระดาษ และเรียกค่าดูครั้งละ 1500

 

เหล่าทวยเทพต้องอพยพลี้ภัย

ถึงขนาดพระอินทร์
ที่ศิษย์สายหลวงพ่อพระราชพรหมญาณเรียกกันว่าท่านปู่ก็ต้องหลบลี้หนีหน้ากับเขาไปด้วย

ชักมั่วมากไปแล้วไอ้พวกหมอดูพวกนี้

 

คิดติดลบบ่อยๆ...
เดี๋ยว..หลงกลมารนะจะบอกให้..

 

คนไทยอย่าใจโหด อย่างประเทศอื่น ที่โหดกับสัตว์ รึว่าโหดกับคนด้วยกันเอง ไม่อย่างนั้น กรรมดำที่เป็นคะแนนติดลบสะสม จะทำให้ถูกล้างด้วยมหาพิบัติภัยธรรมชาติ

อย่างตอนนี้ หลายประเทศ ที่ชอบฆ่า ชอบทารุณกรรม สรุปว่า มีพฤติกรรมเบียดเบียนเพื่อนร่วมโลก ทั้งคน ทั้งสัตว์ มาตั้งกะสมัยไหนๆ

ทั้งพวกชอบฆ่าคนล้างเผ่าพันธุ์ ทั้งฆ่าคนตอนทำสงครามกลางเมือง ทั้งทำร้ายนักบวช อย่างประเทศในเอเชีย 2 - 3 ประเทศ

รึพวกที่อ้างว่า ฆ่าสัตว์ป่า เพื่อกินเป็นยาโป๊ว สารพัดจะฆ่าๆๆ แล้วก็ฆ่า กำลังถูกระบบธรรมชาติเช็คบิลอยู่ ในลักษณะของการทะยอยทำทีละส่วน

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พวกเขาทำผิดอะไร จึงโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้?</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>23 กรกฎาคม 2555 </TD><TD vAlign=middle align=left>




<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700><TBODY><TR><TD vAlign=top width=700 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
อีเห็นชนิดหายากตัวนี้ตายคากับดักที่ทำจากยางในรถจักรยานยนต์ เจ้าตัวเล็กตัวนี้ติดกับของพรานนักล่าขณะออกหาอาหารบริเวณริมธารน้ำใกล้กับถิ่นอาศัยในป่าโด่งซยาง (Dong Giang) จ.กว่างนาม (Quang Nam) ในภาคกลางเวียดนาม.-- ภาพ : Tuoi Tre Online. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>คำเตือน: ภาพถ่ายจากเหตุการณ์จริงอาจทำให้เป็นทุกข์ และป่วยได้ </CENTER>


ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สัปดาห์ที่แล้ว ประชาคมออนไลน์ในเวียดนามพากันสาปแช่งก่นประณามทหารกลุ่มหนึ่งที่กระทำทารุณค่างป่า ใน จ.กว๋างนาม ซึ่งหนึ่งในนั้นมีอยู่ 1 ตัวเป็นค่างเพศเมียที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอด แต่ดูๆ แล้ว ค่างหายากครอบครัวนั้นก็ยังนับว่าโชคดีกว่าสัตว์ป่าอีกหลายตัวที่ติดกับดัก และทุกข์ทรมานยิ่งกว่าก่อนจะสิ้นใจ

สาธารณชนได้เรียกร้องให้ทางการนำทหารกลุ่มนั้นไปขึ้นศาล เพื่อไต่สวนเอาความผิดตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำความผิดเหล่านั้นนับว่าโชคร้าย หากเทียบกับพรานป่า นักล่าที่ยังคงลอยนวล หลังจากพวกเขาวางกับดักในป่าใหญ่แบบทิ้งขว้างแล้วหายตัวไป โดยไม่ได้กลับไปดูอีกว่า มีกี่ชีวิตที่ทนทุกทรมานอย่างแสนสาหัส ก่อนจะสิ้นชีพลงด้วยน้ำมือของพวกขา

หนังสือพิมพ์ “เตื่อยแจ๋” ได้นำภาพสัตว์ป่าที่ถูกกับดัก และสิ้นชีพอยู่กลางป่าอย่างไร้ค่าไร้ประโยชน์จำนวนหนึ่งออกเผยแพร่ เพื่อกระตุ้นสำนึกของทุกคนให้หันมาให้ความเมตตา ไม่ขมเหงรังแก เลิกบริโภค และให้ความช่วยเหลือแกเพื่อนร่วมโลกเหล่านั้น

แท้จริงแล้ว สัตว์ป่าทุกชีวิตล้วนมีความหมาย มีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อสภาพแวดล้อม ต่อระบบนิเวศ ซึ่งก็คือ ประโยชน์ที่มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ หรือในชนบทห่างไกล ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากไร้ ต่างก็ได้รับประโยชน์เหล่านี้ตกไปเป็นทอดๆ

สัตว์ป่าเคราะห์ร้ายเหล่านั้นทำอะไรผิดหรือ? นี่คือคำถามใหญ่ๆ สำหรับทุกคน.
.

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ข้อเท้าของกวางตัวนี้เกือบจะขาดออกจากกัน หลังติดกับดักชนิดหนีบที่ทำจากเหล็กฟันหยัก ภาพนี้ทำให้ไม่ยากที่จะรับรู้ความเจ็บปวดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำเคราะห์ร้ายตัวนี้ ก่อนที่จะสิ้นใจในป่าลึกของ จ.กว๋างนาม.</B> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]2 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
เจ้าตัวนี้ดิ้นรนจนหมดเรี่ยวแรงเคลื่อนไหว มันนอนรอความตายอยู่ริมธารน้ำในป่า จ.กว๋างนาม แต่นับว่าโชคดีกว่าเพื่อนร่วมป่าอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ซาวลา (Saola) กวางป่าหายากที่ใกล้สูญพันธุ์ ไปพบเข้าและนำมันกลับไปรักษาที่ศูนย์ฯ และต่อมาได้กลับคืนสู่ป่าอีกครั้ง. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]3 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ซาวลาใน จ.กว๋างนาม พบหัวกระโหลกของกวางนานาชนิดในกระท่อมกลางป่า ที่นักล่าผิดกฎหมายสร้างขึ้นเป็นที่พักพิงกลางป่าตอนที่แอบเข้าไปล่าสัตว์ จะยังมีกระท่อมแห่งความป่าเถื่อนเช่นนี้อีกกี่แห่ง?.</B> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]4 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ซากของค่างป่าที่ติดกับดัก นอนตายในสภาพเน่าเปื่อย ทำไมจึงต้องตามไปรังควานถิ่นที่อยู่ของพวกเขาเหล่านี้ ซึ่งเป็นญาติที่ใกลช้ชิดที่สุดของมวลมนุษย์อีกด้วย.</B> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]5 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ไม่มีผู้ใดดูออกว่ามันเป็นสัตว์ชนิดไหน เจ้าหน้าที่ไปพบกลายเป็นซากที่เน่าจนแห้งคากับดักในป่าสงวน จ.กว๋างนาม. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]6 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
เจ้าตัวเล็กเคราะห์ร้าย ขณะออกหาอาหารได้เดิน "ข้ามสะพาน" ที่พรานป่าทำเอาไว้ โดยไม่รู้ว่าที่นั่นมีบ่วงรออยู่ มันไม่มีโอกาสได้กลับไปอยู่ร่วมโพรงกับครอบครัวในป่า จ.กว๋างนาม อีก. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]7 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=490><TBODY><TR><TD vAlign=top width=490 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ที่เห็นในภาพนี้เป็นซากของค่างเคราดำที่ใกล้สูญพันธุ์ จากทั้งหมด 21 ตัว ที่นักล่าในท้องถิ่นจับในเขตป่าสงวน จ.นีงทวน ควักเครื่องในทิ้งก่อนจะนำออกจากป่าไปแต่ถูกเจ้าหน้าที่จับได้ คนเหล่านี้ควรจะถูกตั้งข้อกล่าวหา "ฆาตรกรรม" เสียด้วยซ้ำ. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]8 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
กับดักของพรานป่าไม่ปราณีผู้ใด แม้กระทั่งเต่าเดินช้า ที่ไม่ควรจะตกเป็นเหยื่อตัวนี้.

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ภาพเชือดลิงในเวียดนาม ชาวโลกอึ้ง ชาวเน็ตอึดอัด</TD><TD vAlign=baseline width=102 align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>19 กรกฎาคม 2555 </TD><TD vAlign=middle align=left>




<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750><TBODY><TR><TD vAlign=top width=750 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ทรมานจนตายไปแล้วก็ยังกระทำทารุณอย่างโหดเหี้ยมและไร้เมตตาธรรมพื้นฐานอันเป็นสิ่งที่สามัญชนทั่วไปพึงมี ภาพการทรมาน และชำแหละค่างอย่างป่าเถื่อนชุดนี้ แพร่สะพัดไปทั่วโลกในขณะที่เจ้าหน้าที่เวียดนามกำลังเร่งสอบสวนหาตัวกลุ่มบุคคลผู้ก่อกรรมทำเข็ญสัตว์ป่าหายากเพื่อนำไปลงโทษตามกฎหมาย. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>คำเตือน: ภาพประกอบข่าวนี้อาจทำให้รู้สึกเป็นทุกข์และป่วยได้ </CENTER>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ตำรวจใน จ.กว๋างนาม กำลังสอบสวนหาตัวกลุ่มบุคคลที่พากันกระทำทารุณลิงที่สะพัดอยู่บนโลกออนไลน์ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งชาวเน็ตกล่าวว่า เป็นการแสดงออกถึงความป่าเถื่อน ไร้จิตสำนึก ไร้ศีลธรรม และไร้เมตตา อันเป็นสิ่งพื้นฐานที่สามัญชนทั่วไปพึงมีในจิตใจ

สัปดาห์เดียวกันนี้ หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ Der Speigel ในเยอรมนี ได้นำภาพการล่าลิงป่าอย่างโหดร้ายที่ชายแดนเวียดนาม-ลาวด้าน จ.แท้งฮวา (Thanh Hoa) รวมทั้งภาพจากก้นครัวภัตตาคารที่เสิร์ฟเนื้อสัตว์ป่าแห่งหนึ่งในกรุงฮานอย ที่เชือดลิงอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ในขณะที่รัฐบาลเยอรมนี กำลังให้ความช่วยเหลือทางการเวียดนามในการอนุรักษ์ลิงหลายชนิดกับค่างป่าพันธุ์หายากที่ใกล้สูญพันธุ์เต็มที

ภาพหนึ่งที่หลุดออกมาจากก้นครัวภัตตาคารในกรุงฮานอย แสดงให้เห็นวิธีการฆ่าลิงก่อนนำไปประกอบอาหาร ด้วยการมัดมือไขว้หลัง และเทน้ำร้อนราดลงบนลิง ซึ่งเป็นความตายที่กะทันหัน ความร้อนทำให้ลิงช็อกสิ้นใจในทันที ไม่มีโอกาสแม้แต่จะส่งเสียงร้องเป็นคำสุดท้าย ก่อนที่พ่อครัวจะใช้มีดกรีดพุง นำเครื่องในออก ถลกหนัง เพื่อนำไปจำหน่ายในตลาดมืดอีกทอดหนึ่ง

“เราไม่อาจจะทนดูภาพเหล่านี้ได้” นักท่องเน็ตคนหนึ่งเขียนลงในเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ “เดิ๊ตเหวียด” ในขณะที่อีกหลายร้อยคนต่างร่วมความรู้สึกเดียวกัน สาปแช่ง และประณามการกระทำทารุณต่อสัตว์โลก ญาติที่ใกล้ชิดของมนุษย์อย่างโหดร้ายเช่นนี้

ส่วนภาพสะเทือนจิตใจของผู้คน ที่ถ่ายจากชายป่า จ.กว๋างนาม แสดงให้เห็นการกระทำทารุณกรรมค่างหายาก และอยู่ใน “บัญชีแดง” สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์อีกชนิดหนึ่ง ภาพชุดนี้เผยแพร่ในเฟชบุ๊กตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ใช้ว่า Quang Nguyen Van (หรือ Nguyen Van Quang) และในชั่วเวลาเพียงข้ามวัน ภาพก็กระฉ่อนไปทั่วโลก

ชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งได้ทรมาน ค่างเคราแดง (Duoc Languar- Pygathrix) ด้วยความสนุกมือ และด้วยหลากหลายวิธี ก่อนจะนำไปต้มทั้งตัว อีกภาพหนึ่งแสดงให้เห็นการย่างค่างทั้งตัวบนกองไฟ เด็กหนุ่มกลุ่มนี้หลายคนแต่งกายเลียนแบบทหาร หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงาน

เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่นำภาพ และข่าวขึ้นเผยแพร่ในเว็บไซต์ Tuoitre.vn ก็มีผู้อ่านกว่า 1,000 คน เข้าไปร่วมแสดงความเห็น และกล่าวประณามบุคคลเหล่านี้ เรียกร้องให้ทางการเร่งสืบสวน และนำตัวไปลงโทษหนักตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม นายฟานต๋วน (Phan Tuan) หัวหน้าสำนักงานป่าไม้ จ.กว๋างนาม กล่าวกับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ว่า ได้แจ้งให้ฝ่ายตำรวจทำการสอบสวนกรณีสะเทือนอารมณ์ และจิตใจของผู้คนนี้แล้ว

“ถ้าหากการทารุณกรรมนี้เกิดขึ้นใน จ.กว๋างนาม กลุ่มบุคคลในภาพจะถูกลงโทษอย่างหนัก” นายต๋วนบอกกับหนังสือพิมพ์ของทางการอย่างหนักแน่น.

<CENTER>โหดร้ายผิดมนุษย์ </CENTER><CENTER>ภาพจากเฟซบุ๊ก</CENTER>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750><TBODY><TR><TD vAlign=top width=750 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]2 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750><TBODY><TR><TD vAlign=top width=750 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]3 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750><TBODY><TR><TD vAlign=top width=750 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]4 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750><TBODY><TR><TD vAlign=top width=750 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]5 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750><TBODY><TR><TD vAlign=top width=750 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]6 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750><TBODY><TR><TD vAlign=top width=750 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]7 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750><TBODY><TR><TD vAlign=top width=750 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]8 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750><TBODY><TR><TD vAlign=top width=750 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]9 </CENTER>

[/SIZE]</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=750><TBODY><TR><TD vAlign=top width=750 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><CENTER>[SIZE=+0]10 </CENTER>[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ส่วนจะเป็นประเทศไหนบ้าง ก็ติดตามจากข่าวประจำวัน ตามนั้นแหละ

 

เพราะมีคนใจบาปหยาบช้าจำพวกนี้อยู่เยอะงัย. โลกจึงจำเป็นต้องรีเซ็ตตัวเองเป็นการด่วน

 

ใจเราเป็นธรรมและเป็นคนธรรมจริงหรือ?
เราเป็นคนดีที่ชี้หน้าด่าคนอื่นว่าเลวหรือเปล่า?
แท้จริงเเล้วเราคิดเราทำและจะพูดสิ่งใดเราได้ ตั้งสติก่อนแล้วใช่ไหม?

เตือนด้วยหวังดีจากผู้ร่วมทุกข์สุขบนโลกใบนี้ ขอให้เจริญสติให้มาก
สวัสดี

 

ความเป็นจริงของสังคมปัจจุบันครับ
คนอื่นผิดหมด ข้าถูกอยู่คนเดียว
ไม่งั้นคงไม่วุ่นวายกันอย่างเห็นทุกวันนี้
ไม่ได้ว่าใครเจาะจงนะครับ...แต่ว่าทุกคน (การเมืองเข้มข้น)