เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

เมื่อจานบินเหล่านี้ ออกเดินทางจากจุดเริ่มต้น
ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิด หรือภพภูมิของพวกเขา

อะตอมและโมเลกุลของสิ่งมีชีวิต และวัตถุธาตุต่างภพภูมิ
เปลี่ยนแปลงบางส่วน
และคงสภาพบางส่วน ตามความจำเป็น
เพื่อการคงสภาพให้สอดคล้องกับภพภูมิโลกมนุษย์

จาก ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ

 

​

ด้วยความไพเราะของเพลงครับ
เชื่อว่าทำให้หลายท่านอดใจไม่ไหว เล่นบทโจรสลัดเป็นแถว
CD จริงออกเมื่อไหร่รับรองไรท์แจก อุ๊บ..ซื้อแจกเพื่อนๆคับ..++​

Resemble The Moon​

จันทร์ จันทร์หนอจันทร์แรม อ่อนแสงจนดับลับนภา
กายฉันนั้นเป็นเช่นไร ต้องดับลับไป ใยเช่นจันทร์แรม​

จันทร์ จันทร์หนอจันทร์เรื่องรอง สว่างละอองผ่องอำไพ
เหตุใด จันทร์เจ้าจึงศรัทธา หวลสู่ฟ้าสว่างไสว​

จันทร์ จันทร์หนอจันทร์แรม อ่อนแสงจนดับลับนภา
กายฉันนั้นเป็นเช่นไร ต้องดับลับไป ใยเช่นจันทร์แรม​

จันทร์ จันทร์หนอจันทร์เรื่องรอง สว่างละอองผ่องอำไพ
เหตุใด จันทร์เจ้าจึงศรัทธา หวลสู่ฟ้าสว่างไสว​

จันทร์ จันทร์หรือจันทร์จะเตือน ว่าดวงเดือนย่อมอยู่คู่นภา
จิตฉัน นั้นเป็นเหมือนเดือน ไม่ดับลับเลือนคงอยู่คู่เธอ
ไม่ดับลับเลือนคงอยู่คู่เธอ​

ทำนอง เนื้อร้อง เรียบเรียงเสียงประสาน บรรเลงเดี่ยว โดยนักเขียน​

http://www.novaanalai.com/novaanalai/Track1-ResembleTheMoon.html​

เพลงนี้ก้องอยู่ในหัวทุกคึนก่อนนอน
วันไหนกลับเมืองไทยจะชวนกันร้องให้คุณพี่นักเขียนฟังคับ​

 

เมื่อก่อนสมัยเด็ก ณ กลางทุ่งท้องนาตอนเย็นมักจะนอนมองท้องฟ้า บางครั้งรู้สึกกลัว มันเวิ้งว้าง ว่างเปล่า รู้สึกว่าเราตัวนิดเดียว สมัยนั้นเคยคิดอยู่เสมอว่าเราเกิดมาทำไม หากไม่มีการเกิด ไม่มีชีวิต ไม่รู้สึกรู้สมอะไร ไม่รับรู้ความทุกข์ คือไม่มีอะไรเลย คงจะดีไม่น้อย....(อาจเพราะความคิดประสาเด็กๆ ที่ไม่อยากทำงานที่ลำบากมากๆ มั้ง จึงได้สนใจด้านศาสนา)

พอโตขึ้นมาหน่อยมักจะฝันว่าบินได้(แต่ไม่มีปีกนะ) ล่องลอยไปที่นั่นที่นี่ รู้สึกชอบเพราะมันอิสระเสรี ไปได้ตามที่ใจปรารถนา แต่...ขึ้นอยู่กับกำลังใจเราด้วย คือถ้ากำลังใจตกเมื่อไหร่หรืออยากบินขึ้นสูงๆ มากๆๆ กลับรู้สึกว่าเรากำลังตก ที่ล่องลอยอยู่แทนที่จะไปได้อย่างราบรื่นตามใจหวัง กลับลอยได้ช้าลงหรือลดละดับลง ต้องบังคับ รวบรวมกำลังใจใหม่ถึงจะประคองไปได้ไม่ให้ตกลงมา...บางทีก็บังคับได้..บางทีก็ไม่ได้ ฝันในทำนองนี้มาเรื่อยๆ จนเรียนจบมาทำงานก็ค่อยหายไป และจะมีบ้างบางครั้ง แต่ตอนนี้ไม่ฝันแบบนั้นอีกแล้ว เคยหาเหตุผลว่าทำไม? พบคำตอบในทางจิตวิทยาอธิบายว่าที่ฝันแบบนี้เพราะในชีวิตจริงมีปัญหาบางอย่าง หรือหลายอย่าง จึงเก็บมาฝันเพราะต้องการที่จะหลีกเลี่ยงภาวะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น....ถ้าเป็นพี่นักเขียนจะอธิบายความฝันเช่นนี้ว่าอย่างไรครับ?

ต่อมาสามารถบังคับฝันได้ คือส่วนใหญ่จะฝันในทำนองวิ่งหนี หรือกลัวอะไรบางอย่าง พอฝันหลายครั้งเข้า ก็พยายามหลีกเลี่ยงโดยควบคุมมันได้ค่อนข้างดี...

ต่อมาช่วงระยะเวลาหนึ่งไม่ฝันเลย(อาจฝันแต่จำไม่ได้เวลาตื่น) นอนได้สนิทดีตื่นมาสดชื่น...

ต่อมาเมื่อไม่นานมานี้เริ่มมีความฝันอีกครั้งแต่ไม่สามารถบังคับได้ดังเดิม....

ต่อมาเจอหนังสือของพี่นักเขียนเล่มเล็ก ชื่อว่า "ธรรมชาติของชาติภพ" ชอบมาก แม้จะอ่านเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่บางประโยคกินใจมาก แต่ไม่รู้เป็นอะไร...กลับไม่ได้ซื้อ

ต่อมาอีก..เจอหนังสือของพี่นักเขียนออกมาหลายสิบเล่ม ยืนอ่านอยู่หลายเล่ม พลิกๆ ดู ชอบทุกเล่ม ออกแนวคล้ายๆ อ.ปริญญา และคุณแม่เกษร(พลังแสงทิพย์อริยธรรม) ซึ่งอธิบายคล้ายกันแต่คนหนึ่งออกแนววิทยาศาสตร์ แต่อีกคนออกแนวศาสนา แต่ของพี่นักเขียนรู้สึกว่าอธิบายได้ราบรื่นกินใจเป็นธรรมชาติ แม้จะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง จึงซื้อเล่มแรกมาอ่าน....เมื่อซื้อมาแล้วกลับอ่านเข้าใจได้ยากกว่าเวลายืนอ่านในร้านหนังสือ ยกเว้นเวลาใจสงบแต่ยังเข้าไจได้ไม่ครบถ้วนดีนัก

โชคดีที่คุณ Mead เชิญพี่นักเขียนมาสนทนากับพวกเราที่นี่...ขอบพระคุณพี่นักเขียนที่แนะนำวิธีการอ่าน และอีกหลายๆ อย่าง...ตอนนี้ผมกำลังศึกษาตามคำแนะนะครับ...

ปล. ขอโทษด้วยครับที่แนะนำวิธีแบบโจรสลัด แต่ด้วยความบริสุทธิ์ใจอยากจะให้หลายๆ คนได้ฟังเพลงดีแบบมีคุณภาพหน่อย เพราะถ้าอัดแบบจ่อกับลำโพงเสียงจะเพี้ยนไปเยอะครับ...ผมเปิดฟังทุกวันในเวลานอน...แน่นอนครับหาก CD ออกมาต้องอุดหนุนแน่ๆครับ....

 

อ้างอิง Quote

ต้องขอขอบคุณ คุณ Stefa อย่างมากที่ช่วย Quote ข้อมูลความรู้จากหนังสือ ชุดของท่านอาจารย์ โนวา อนาลัย อย่างสม่ำเสมอ รบกวนช่วยอ้างอิงให้เพื่อนๆได้รับทราบด้วยว่า Quote มาจากหนังสือเล่มใด บทใด หัวเรื่องว่าอะไร จะได้ศึกษาค้นคว้ากันต่อไปค่ะ

 

มาแล้วครับ..
ขาประจำเรื่องมะนาวต่างดุ๊ดอีกท่านหนึ่ง
หลังจากห่างหายกันไปนาน....

สมาชิกเก่า (ไม่รู้แก่ด้วยหรือเปล่า) ของเวปพลังจิตครับ

คุณ Zipper มาพร้อมกับสาระที่อ่านแล้ว
แทบจะกระพริบตาไม่ลงทุกทีเลยครับ

 

มีอีกเรื่องที่เชื่อว่าหลายๆท่านสนใจ คือเรื่อง"การกำเนิดของสรรพสิ่งในจักรวาล"
มีเบื้องหลังการก่อกำเนิดอย่างไร? อันถือเป็นเรื่องที่น่ารู้มากที่สุดเรื่องหนึ่งทีเดียวครับ

จะได้รู้ว่าจักรวาลคิดรู้ได้เองหรือไม่?
รู้ว่าเราเป็นใคร?
มาทำอะไรบนโลกใบนี้?
มีหน้าที่อย่างไร?

ซึ่งล้วนเป็นคำถามอมตะ ที่ทุกคนเกิดมาล้วนต้องถามตัวเองทุกคน
เนื้อหาในหนังสือล้วนมีคำตอบอยู่ แต่ผมคงพิมพ์ไม่ไหวแน่ครับคุณพี่นักเขียน
ต้องรบกวนเล่าย่อๆให้เพื่อนๆอ่านอีกแล้วครับ +++

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ]​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>mead, Chayutt, หนูน้อย, MOUNTAIN, nova_analai </TD></TR></TBODY></TABLE>

Good Morning ครับ..เพื่อนๆ คุณชยุตก็มาด้วย
ท่าทางคุณนักเขียนจะเพลิดเพลินติดnet เหมือนพวกเราแล้วว่ามั๊ยพี่เม้าส์ !!
<!-- currently active users -->

 

555+ วันนี้ผมติดอยู่ที่บูธของอาจารย์ตาที่สาม ตั้งเกือบ 5 ชั่วโมง
เพิ่งกลับมาติด net สักเดี๋ยวนี้เอง...ดีครับที่พี่นักเขียนเข้ามาบ่อยๆ พวกเราก็พลอยอบอุ่นใจไปด้วย
(b-smile)

 

เล่าให้ฟังบ้างนะครับพี่เม้าส์..ช่วงนี้มีคุรุหลายท่านได้เข้ามากันเยอะ
น่ายินดีมากครับ ที่เวปนี้เป็นสื่อกลางแบบนี้ ขอบคุณ Websnow และทีมงานทุกๆท่านด้วยครับ

 

วันนี้มันส์มากครับ เดี๋ยวไปเล่าในกระทู้ ชมรมคนตาทิพย์ นะครับ
ขนาดอาจารย์ไม่อยู่ ไปทำธุระนะเนี่ย

 

สวัสดีทุกท่าน เพิ่งรู้ว่าคุนซิปเปอร์อ่านหนังสือหลายแนว อ่านเรื่องที่มีดาวเฟอร์ซาด้วย จำชื่อหนังสือไม่ได้แล้ว แต่อ่านสนุกมากได้ใช้ความคิดด้วย

axzon47 ไม่ได้ไปในวันงาน ยังอดเสียดายอยู่เลย พอมาเปิดเวบ ดู มีคุณพี่นักเขียน มาสนทนาด้วย ดีใจมากๆ จริงๆมีคำถามมากมายที่อยากถาม บัดนี้คำตอบเริ่มคลี่คลายออกมาแล้ว ไม่รบกวนพี่นักเขียนดีกว่า ขอบคุนพี่นักเขียนและจิตวิญญาณความรู้ที่สื่อมาถึงเราน่ะ

 

การจดจ่อของเราเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้สัมฤทธิ์ผล คนส่วนมากจดจ่อกับสิ่งที่ขบคิดไม่ตกยามตื่น แต่ไม่ได้คำตอบจากความฝันอย่างที่คุณน้องทำได้ เพราะเหตุว่า เมื่อเราจดจ่อ เรามักจะเผลอไปจดจ่อกับปัญหา แทนที่จะจดจ่อกับการหาทางแก้ ดังนั้นตื่นขึ้นมา นอกจากจะไม่ได้ download ทางแก้ปัญหามาแล้ว เผลอๆยังไป download เอาปัญหามาเพิ่ม เพราะการจดจ่อกับปัญหาเป็นการเพิ่มพลังให้ตัวปัญหา หรือดึงดูดสิ่งอื่นๆที่คล้องจองกับปัญหาให้มาเพิ่มพูนให้ปัญหามันหนักหน่วงหรือพลังเพิม หากเราใช้ปัญญาแยกแยะตัวปัญหากับทางแก้ เข้านอนด้วยการจดจ่อกับการแก้ปัญหาจะทำให้มันมีพลังเพิ่มขึ้น จนในทีึ่สุดปัญหาก็สลายตัว การจดจ่อกับการแก้ปัญหาจะดึงดูดปัจจัยอื่นๆที่สนับสนุนการแก้ปัญหาให้ผูดขึ้นในประสบการณ์ชีวิต

....................................................................

ขอบคุณพี่นักเขียนมากเลยนะคะ (ขออนุญาตเรียกตามเพื่อนๆ ในห้องนี้นะคะ) ที่ช่วยทำให้ความคิดหนูกระจ่างแจ้งขึ้น.. เรื่องงานคงจริงอย่างที่พี่นักเขียนว่าน่ะค่ะ เพราะช่วงนั้นในหัวสมองคิดเรื่องนี้อยู่เรื่องเดียว คิดแต่ว่าจะทำยังงัย จะแก้ไขปัญหานี้ยังงัย แม้กำลังทำงานตัวอื่นอยู่ใจก็ยังถูกแบ่งไปคิดถึงแต่งานชิ้นนั้น ใจจดจ่อจริงๆ ค่ะ... ตอนนี้เริ่มจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างจากสิ่งที่พี่นักเขียนบอก แม้จะไม่ทั้งหมดแต่ก็คิดว่าถ้าได้พิจารณาจริงๆ จังๆ คงจะเข้าใจได้ดีขึ้น...ส่วนเรื่องยาย บางครั้งลึกๆ รู้สึกผิดและเสียใจอยู่บ้าง แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่า ถึงจะไม่ได้ฝันแบบนั้น สักวันเค้าก็ต้องจากเราไปอยู่ดี คิดแบบนี้แล้วรู้สึกดีขึ้นมาบ้างนิดหน่อย เพราะยังงัยก็ยังเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาติค่ะ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วเราก็ล้วนต้องตายจากกันทั้งนั้น..

สิบปีกว่าที่นั่งสมาธิมานี้ นั่งแบบไม่มีครู แต่ก็ยึดองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสรณะ พร้อมกับศึกษาจากตำราทุกรูปแบบ แต่ทำไม่เคยได้เลย นั่งครั้งแรกเพราะแค่อยากลอง แล้วคิดมาตลอดว่าไม่เห็นเคยเห็นอะไรเหมือนคนอื่นเค้าเลย แต่ก็ไม่เคยคิดเลิกนั่งเลยค่ะ นั่งมาเรื่อยๆ จนเห็นแสงสีม่วงวิ่งไปวิ่งมา คุณ MOUNTAIN บอกว่า "แสงสีม่วงเป็นแสงสีประจำอยู่ที่จักระ 6 อยู่ตรงกลางระหว่างคิ้ว ทางฮินดูเรียกว่าตาพระศิวะ หรือตาที่สาม (The Third Eyes) เมื่อเห็นแสงสีม่วงวิ่งไปวิ่งมา ให้ลองกำหนดมารวมกันที่ตำแหน่งตาที่สาม นิ่งๆ รวมสมาธิเข้าเป็นหนึ่งที่จุดดังกล่าว ร่างกายผ่อนคลายสบายๆ ลมหายใจสบายๆ แสงสีม่วง จะค่อยๆขยายใหญ่ เป็นวง ซ้อนวง ๆๆ ให้กำหนดเห็นเฉยๆ จนกว่าจะหยุดขยาย แล้วน้อมนำแสงสีม่วง ให้แผ่ปกคลุมทั่วร่างกาย ให้แสงม่วงค่อย เปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม สว่างสดใสปกคลุมทั่วร่างกาย แผ่ขยายแสงออกไปรอบตัว รอบบ้าน แผ่คลุมไปทั่วโลก และจักรวาล ให้ตัวเรา บ้านเรา ประเทศเรา โลกของเรา และจักรวาล จงมีแต่ความสุขสงบ" ตอนนี้ยังทำไม่ได้ค่ะ เพราะนั่งมองมันวิ่งไปวิ่งมาซะจนเคยตัว ก็เลยลำบากหน่อย..ที่ว่าไม่ได้อะไรจากสมาธินี้หนูเปลี่ยนความคิดมานานแล้วค่ะ ไม่ใช่เพราะเห็นแสงสีม่วง แต่เป็นเพราะเห็นการทำงานของสมองทางด้านความคิดมากกว่า มีการจัดลำดับความคิดได้ดีขึ้น แล้วก็อะไรอีกหลายๆ อย่างเลยค่ะ...ต่อจากนี้หนูขอลองฝึกจากวิธีของ ท่านอาจารย์โนวา อนาลัย ดูบ้างนะคะ หวังว่าสิบปีกว่าที่ผ่านมาหนูคงยังไม่ได้หลงทางไปไหนไกลที่จะศึกษาเรื่องจริงอีกเรื่องหนึ่งของชีวิต..หากไม่เข้าใจสิ่งใดขออนุญาตเรียนถามอีกครั้งนะคะ...ขอบคุณค่ะ...

 

จากผู้อ่านที่ถูกหนังสือเลือก-อีกราย

--- Pranee Hansukjariya <hpranee@hotmail.com> wrote:
>
> เรียนอาจารย์ที่เคารพ
>
> วันนี้ตื่นเต้นมาก เพราะไป search เจอ
> เรื่องราวของท่านอาจารย์โนวา อนาลัยที่พลังจิตดอทคอม
> เพราะตั้งแต่ซื้อหนังสือเล่มแรกเรื่องธรรมชาติแห่งชาติภพ
> เป็นหนังสือที่ต้องกลับมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายสิบเที่ยว
> บางทีก็ซื้อให้คนอื่นอ่าน การอ่านก็ใช้ปากกาไฮไลท์
> ข้อความที่สนใจเต็มไปหมด จนประหลาดใจตัวเอง
> เพราะแม้จะเป็นคนรักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ
> แต่ก็มีน้อยเล่มมากที่จะอ่านเรื่องเดียวซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จักเบื่อ
> จากนั้นก็เฝ้าติดตามอย่างจดจ่อของเล่มต่อไปตามที่บทสุดท้ายทิ้งบอกไว้
> เฝ้ารอแล้วรอเล่าหลายปีจนคิดว่าคงจะหมดหวังแล้ว
> จนกระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนก่อนไปพบสะดุดตาที่ร้านซีเอ็ด
> ดิฉันรู้สึกดีใจสุดๆ ซื้อมาทุกเล่ม
> ทุกวันนี้ก็ยังอ่านโดยมีความรู้สึกว่าอ่านไม่จบตลอดเวลา
> บางครั้งไม่ทราบว่าอุปาทานหรือเปล่า
> มีความตั้งใจก่อนอ่าน
> แต่เปิดไปได้ไม่กี่หน้าก็ง่วงจัดเหมือนรับพลังบางอย่างเข้าไป
> จนต้องปิดหนังสือหลับก่อน
> แต่ก็ยอมรับว่าบางตอนอ่านเข้าใจยาก
> แต่จะใช้ความพยายามอ่าน เพราะสนใจเนื้อหามาก
> ถ้าอาจารย์จะมีคำแนะนำอะไร ก็ขอน้อมรับนะคะ
>
> ปราณี
>
>
> Pranee Hansukjariya
> _________________________________________________________________
> Express yourself instantly with MSN Messenger!
> Download today it's FREE!
> http://messenger.msn.click-url.com/go/onm00200471ave/direct/01/

ขอต้อนรับคุณปราณีค่ะ
ดีใจมากๆที่ได้พบกับผู้อ่านที่ "ถูกหนังสือเลือก" อีกท่านหนึ่งแล้ว ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า จิตวิญญาณของเราใฝ่รู้และฉลาดล้ำลึก ดังนั้นเมื่อจิตวิญญาณพบความรู้ ก็จะทำให้เรารู้ได้ว่าสิ่งที่เราอ่านหรือรู้เห็น-เป็นเพียงนวนิยายหรือความเป็นจริง

เมื่อคุณปราณีอ่านหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยแล้วรู้สึกเสมือนว่าได้รับพลังและรู้สึกง่วง เป็นอาการที่เกิดกับท่านผู้อ่านหลายท่านที่โทรเข้าไปแจ้งให้ประชาสัมพันธ์ที่โรงพิมพ์ทราบ เพราะตอนนั้นพี่(นักเขียน)ยังไม่มี website และไม่มี Blog ให้ผู้อ่านมาร่วมแสดงความคิดเห็นหรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน และก็เป็นอาการเดียวกันกับที่เกิดขึ้นกับพี่นักเขียนเสมอๆ ระหว่างที่ทำหน้าที่ล่ามและเลขา-พิมพ์และถอดความจากข้อมูลความรู้ที่จดบันทึกไว้มากมายจากความฝัน

หนังสือชุดนี้จะรู้สึกเสมือนว่าอ่านยากหากอ่านตามปกติด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า แต่ถ้าจิตวิญญาณของเราใฝ่รู้และปรารถนาที่จะเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้ เราก็จะพยายามอ่านอย่างที่คุณปราณีกำลังทำอยู่อย่างพากเพียร เพราะจิตวิญญาณเรารู้ถึงคุณค่าของความรู้ที่เรากำลังสัมผัสอยู่ และปรารถนาที่จะรับถ่ายทอดให้เติมเต็ม

พี่นักเขียนขอแนะนำวิธีการอ่านหนังสือชุดนี้ให้ได้ผลนะคะ ให้นั่งลงสงบสติอารมณ์ก่อนจนรู้สึกว่าเป็นสมาธิดีขึ้นแล้วจึงค่อยอ่าน อ่านช้าๆ อย่าอ่านผ่านๆแล้วคิดว่าไม่รู้เรื่องค่อยกลับมาอ่านใหม่ทีหลัง เมื่ออ่านช้าอย่างเป็นสมาธิ จะเกิดการติดต่อสื่อสารกับจิตวิญญาณซึ่งเป็นองค์ความรู้ในระดับจิตใต้สำนึก แม้วางหนังสือลงแล้วอาจคิดว่ายังไม่เข้าใจดี หรือรู้สึกเข้าใจอย่างคลุมเครือ แต่อย่างน้อยที่ได้ เราจะรู้สึกว่ามีอารมณ์เป็นสุขเกิดขึ้น ความรู้เหล่านี้อาจไปผุดขึ้นภายหลัง เมื่อเราเผชิญกับสถานการณ์บางอย่างในชีวิตประจำวัน หรือเมื่อเราไปเผชิญกับเหตุการณ์บางอย่างในความฝัน เราก็จะตระหนักได้ว่า ความรู้ความเข้าใจในประสบการณ์ดังกล่าวได้มาจากการศึกษาจากหนังสือ แม้เราอาจจะปราศจากคำพูดก็ตาม

เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งคือ ให้วางหนังสือไว้ข้างหัวเตียง และก่อนนอนให้ตั้งจิตปรารถนาว่า จะขอรับถ่ายทอดข้อมูลความรู้ในหนังสือจากครูบาอาจารย์โดยตรง ตื่นขึ้นวันต่อมา อ่านหนังสือต่อ จะประหลาดใจว่า นอกจากจะอ่านเข้าใจง่ายขึ้นแล้ว บางตอนยังรู้สึกเสมือนว่าได้เคยอ่านมาแล้ว ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นมาก

ธรรมชาติของคนเรา เมื่อเราเรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง แต่พูดไม่ออก บอกไม่ถูก เรามักคิดและเชื่อว่า เรายังไม่รู้ ไม่เข้าใจ แต่ตามธรรมชาติความเป็นจริงแล้ว ความรู้ที่แท้จริงสถิตย์อยู่ในจิตวิญญาณ และบางความรู้ที่เรากล่าวเป็นคำพูดไม่ได้ - ก็มีอยู่ในส่วนลึก อย่างไรก็ตามหากเราได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กับผู้ที่ศึกษาและใฝ่รู้ร่วมกันกับเรา เราจะพบว่านอกจากการแลกเปลี่ยนสนทนาเหล่านี้จะทำให้เราสดชื่นเสมือนได้รวมญาติมิตรทางจิตวิญญาณแล้ว ยังทำให้ความรู้ที่เคยคลุมเครือ กลายเป็นสิ่งที่คมชัดและกล่าวออกมาเป็นคำพูดได้อย่างมั่นใจ เพราะจิตวิญญาณประสานกันเป็นระบบเครือข่ายเพื่อพัฒนาก้าวหน้าและช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ไม่มีจิตวิญญาณใดๆเรียนรู้อย่างโดดเดี่ยว ร่างเดียว ตัวตนเดียว เราต่างก็เป็นญาติมิตรทางจิตวิญญาณที่มาเรียนรู้และพัฒนาร่วมกันค่ะ

ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ในความฝันว่า เมื่อหนังสือชุดนี้สำเร็จลง พี่-ผู้ซึ่งทำหน้าที่ล่ามและเลขาของท่านอาจารย์ จะได้ความรู้มากมายมหาศาลต่อไปอีก - จากท่านผู้อ่าน พี่นักเขียนเองก็รอคอยวันนี้มานาน และถือว่าเป็นบุญอย่างมหาศาลที่น้องๆและญาติมิตรทางจิตวิญญาณของกลุ่มพลังจิตได้เปิดโอกาสให้พี่ได้ขัดเกลาความรู้อันคลุมเครือบางส่วนให้พัฒนาขึ้นได้ ด้วยการทำหน้าที่ล่ามและเลขาของท่านอาจารย์อนาลัยต่อไปอีก แม้จะเขียนหนังสือจบไป 10 เล่มแล้วก็ตาม คำถามของน้องและเพื่อนๆทำให้ข้อมูลที่ถูกจดไว้มากมายจากความฝันและยังไม่ได้ถอดรหัส ได้ถูกนำมาถอดรหัสรายวัน

จะขอเอาจดหมายของคุณปราณีไป post ที่กระดานสนทนาของกลุ่มพลังจิต และขอเชิญชวนคุณปราณีไปร่วมสนทนากับญาติมิตรทางจิตวิญญาณทั้งหลายอย่างเป็นกันเองได้เสมอค่ะ
ด้วยความปรารถนาดี
พี่นักเขียนฯ

 

จับโจรสลัด

โจรสลัดถูกพี่นักเขียนอุ้มไปแล้ว..........พาไปทานช้อคโกแล้ต

 

โจรสลัด

...ระหว่างถูกคุมขัง

 

ผมคิดว่าการอ่านหนังสือของท่าน อนาลัย ควรอ่านจากฉบับจริงเพราะใช้สีแดงเป็นตัวพิมพ์ น่าจะมีส่วนช่วยในการเก็บไว้ในตัวตนภายนอกและภายในเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน ท่านนักเขียนช่วยตอบหน่อยครับ ผมคิดถูกหรือผิดครับ

 

หนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย - ใช้สีแดงเป็นตัวพิมพ์

มีความคิดสะกิดใจอยู่เหมือนกันเกี่่ยวกับการจัดระบบเพื่อให้พวกเราสะดวกในการหาข้อมูล ซึ่งเห็นพวกเราต่างก็ช่วยกันทำอยู่แล้วอย่างแข็งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง :
คุณ Stefa ขา Quote ประจำของพวกเรา
คุณ Mead_DJ จัด Chart ยอดนิยม และพี่น้อง-ญาติมิตรทุกท่านที่ช่วยกัน Quote และถ่ายทอดให้กัน

ก็พอดีเปิดมาพบความคิดเห็นของคุณประสงค์เข้า เห็นด้วยมากๆเลยค่ะ เรามาช่วยกันจัดระบบหน่อยดีไหม ? พี่นักเขียนเองจะใช้สีแดงเป็นตัวอักษรที่บ่งบอกถึงข้อความที่ได้รับ download มาตอบปัญหา หรือ Copy หรือ Quote มาจากหนังสือชุดของท่านอาจารย์อนาลัย เสมอๆ

หากเราช่วยกันกำหนดใช้สีแดงตามนี้ร่วมกัน จะทำให้ทุกคนค้นหาข้อความได้ง่ายขึ้น โดยรับเอาเป็นสัญญลักษณ์ร่วมกันว่า :

ตัวอักษรสีแดงเป็นข้อมูลความรู้จากท่านอาจารย์อนาลัย
ตัวอักษรสีออื่นๆ เป็นความคิดเห็นหรือข้อมูลจากแหล่งอื่นๆที่พวกเรานำมาแลกเปลี่ยนกัน
ขอความเห็นจากพี่น้องญาติมิตรทางจิตวิญญาณทั้งหลายด้วยค่ะ-ช่วยกันโหวดหน่อย
ขอบคุณ คุณประสงค์-สมองใส แบ่งสมองซีกขวามาให้อีกเรื่อยๆนะคะ ยินดีรับเสมอ ยังมีที่ว่างอีกแยะ

 

เห็นด้วยครับที่จะใช้ สัญญลักษณ์สีแดง จากการ download มาตอบปัญหา หรือ Copy หรือ Quote จากหนังสือ อาจารย์โนวา อนาลัย..จะได้เข้าใจกันตามนี้ รับทราบครับป๋ม++

 

แห๋ม..โจรสลัดของผมใจง่ายจังครับ++

(b-ping)

 

เห็นด้วยอีกคนครับ

หยักเป็งโจงซาหลัดบั้งจัง