ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    <BIG><BIG><BIG>DREAMS</BIG></BIG></BIG>
    <BIG><BIG><BIG>OF THE </BIG></BIG><BIG><BIG>
    GREAT EARTH CHANGES
    </BIG></BIG></BIG>
    [​IMG]

    ~~~~~

    "Sometimes dreams are wiser than waking"
    - Black Elk -
    holy man of the Oglala Lakota Sioux
    <BIG>ITS A GREAT DAY TO BE ALIVE! </BIG>​
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ภูเขาน้ำแข็งก้อนใหญ่ในมหาสมุทรอาร์กติก พังถล่ม

    [12 ส.ค. 50 - 05:22]


    [​IMG]สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุระทึกขวัญ ระหว่างที่เรืออาแล็กซี่ มารีเชฟ อดีตเรือประมงรัสเซีย ซึ่งถูกดัดแปลงมาเป็นเรือแล่นท่องชมภูเขาน้ำแข็ง ในประเทศนอร์เวย์ กำลังแล่นอยู่บริเวณภูเขาน้ำแข็งสูงประมาณ 30 เมตร ในระยะห่างประมาณ 70 เมตร ทันใดนั้นภูเขาน้ำแข็งชิ้นใหญ่เกิดแตกลงทะเล ก่อให้เกิดคลื่นกระแทกเรือ ทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 17 คน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากอังกฤษทั้งหมด โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=57187
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    BLUElink ระบบพยากรณ์มหาสมุทร

    หุ่นยนต์ออสซี่ใต้น้ำช่วยการพยากรณ์การเคลื่อนไหวของคลื่นน้ำในมหาสมุทรผ่านดาวเทียมได้ล่วงหน้าถึง 1 สัปดาห์ รวดเร็วล่วงหน้าเช่นเดียวกับระบบพยากรณ์อากาศ

    ระบบ BLUElink จากกรมอุตุนิยมวิทยา (The Bureau of Meteorology) ราคาประมาณ 15 ล้านเหรีญญออสเตรเลีย ถูกเปิดตัวในซิดนีย์วันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยความสามารถพิเศษในการทำงานร่วมกับดาวเทียมและหุ่นยนต์ Argo ในการสำรวจอุณหภูมิน้ำทะเล ระดับน้ำทะเลและความเค็มของน้ำทะเล โดยให้ข้อมูลทั้งหมดแทบจะเป็นแบบเรียลไทม์ (real-time) ระบบ BLUElink ได้รับการออกแบบร่วมกันระหว่างกรมอุตุนิยมวิทยา และ CSIRO ร่วมกับกองทัพเรือ ในระยะเวลาทั้งสิ้น 7 ปีในการพัฒนา

    หุ่นยนต์เกือบ 3000 ตัวจะลอยตัวอยู่บนผิวน้ำนาน 5 ชั่วโมง แล้วจะดำน้ำลงไปประมาณ 2 กิโลเมตรแล้วปักหลักอยู่บริเวณนั้น 10 วันเพื่อทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูล (อุณหภูมิและระดับความเค็มของน้ำทะเล) แล้วส่งข้อมูลที่ได้ไปยังดาวเทียม เพื่อที่จะถูกส่งต่อไปยังสถานีเพื่อทำการแปลผลโดยระบบคอมพิวเตอร์ศักยภาพสูงที่ชื่อ BLUElink

    ระบบ BLUElink จะเป็นประโยชน์อย่างสูงต่อการวางแผนการช่วยเหลือทางทะเลเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ การป้องกันประเทศ การขนส่งทางทะเลเพื่อการค้า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นายจอห์น กัน (John Gunn) จาก CSIRO ผู้ให้ข้อมูลเรื่องระบบ BLUElink กล่าว

    ทีมผู้พัฒนาคาดว่าระบบจะให้ประโยชน์ต่อกองทัพเรือ ในการคาดการณ์ว่าเมื่อไหร่ระบบโซนาร์และเรดาร์จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนเรือขนส่งสินค้าทางทะเลจะได้รับประโยชน์โดยการสามารถเข้าถึงข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อกำหนดเส้นทางการเดินเรือที่ใกล้กว่าเพื่อช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้ทีมหน่วยค้นหาและกู้ภัยก็สามารถที่จะบอกตำแหน่งที่เรืออับปางเพื่อช่วยเหลือลูกเรือ รวมถึงทีมทำความสะอาดก็สามารถคาดการณ์และคาดคะเนบริเวณที่คราบน้ำมันและสารเคมีจะกระจายไปบนผิวน้ำ เพื่อจะได้รับมือได้ทันเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ทันท่วงที

    “ระบบนี้สามารถบอกข้อมูลเรื่องการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ (Climate Change) ได้ดีอีกด้วย เพราะเมื่อความเค็มของน้ำทะเลเปลี่ยนแปลง นั่นหมายถึงระดับน้ำทะเลย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น อาทิ หากน้ำทะเลเค็มมากขึ้นกว่าแกติ นั่นหมายถึงปริมาณน้ำทะเลลดลงกว่าปกติ เราจำเป็นที่จะต้องติดตามเพื่อทำความเข้าใจว่า น้ำในมหาสมุทรจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอีก 10 หรือ 20 หรือ 50 ปีข้างหน้า” ดร.เนฝวิล สมิธ (Dr. Neville Smith) จากกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าว
    ดูพยากรณ์จากระบบ BLUElink ได้ที่ www.bom.gov.au/oceanography/forecasts

    อ้างอิง
    Catherine Clifford. “BLUElink uncovers ocean secrets”.
    Accessed from: http://www.abc.net.au/rural/wa/content/2006/s1995191.htm
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    nova_analai<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_649481", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    ภัยพิบัติ กับ อดีต-ปัจจุบัน-อนาคตของโลก


    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ต่ออีกนิดครับ
    มีเรื่องนึงครับ ที่อยากขอถามเป็นพิเศษ เพื่อนๆหลายคนที่นี่ก็สนใจมาก
    คือเรื่องภัยพิบัติโลก ที่กำลังคืบคลาบเข้ามาในช่วงนี้
    ขณะนี้กลไกดังกล่าวก็ดำเนินอยู่ตลอดเวลา
    มีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ?
    อาจารย์อนาลัยเคยบอกเงื่อนงำบางอย่างกับคุณ_หรือไม่ครับ?
    หรือสาเหตุที่ท่านมาบอกกล่าวนี้ที่นอกเหนือจากความรู้ในหนังสือทั้ง 10 เล่ม
    เพื่อมาเตือนให้มนุษย์กลับมาใส่ใจจิตวิญญาณกันได้โดยเร็ว ถูกหรือไม่ครับ?
    คำถามนี้ เชื่อว่าคุณ_ทราบดีอยู่แล้ว บางทีต้องฝันถึงบ้าง
    ช่วยเล่าให้ฟังสักหน่อยนะครับ
    ที่ผมทราบมาคือเราอยู่ในช่วงปลายยุค (ในรอบหกหมื่นปี)
    แต่โลกยังสามารถผ่านไปสู่ยุคใหม่ เป็นห้องเรียนธรรมชาติต่อไปได้ครับ
    หลังจากผ่านวิกฤตไปแล้ว
    คนรุ่นใหม่ๆ จะมีความสามารถทางจิตวิญญาณสูงมาก

    ว่างๆค่อยตอบก็ได้ครับ
    Mead

    จักรวาลตั้งอยู่บนรากฐานแห่งการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน จักรวาลเต็มไปด้วยความสมบูรณ์พูนสุข วิวัฒนาการเป็นกระบวนการที่ดำเนินไปอย่างไม่มีวันหยุดยั้งและไม่มีวันจบสิ้น โลกของเธอเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลซึ่งตั้งอยู่และดำเนินไปภายใต้รากฐานเดียวกันกับจักรวาล โลกของเธอจึงได้รับพลังงานใหม่ๆจากต้นกำเนิดซึ่งขยายตัวออกไปอย่างไร้ขอบเขตต่อไปอย่างสม่ำเสมอและไม่มีวันจบสิ้น โลกไม่ได้ถูกสร้างขึ้นพร้อมด้วยพลังงานและภาวะอันจำกัดที่จะถูกใช้ไปจนกระทั้งหมดสิ้นและแตกสลายหรือดับลงไปในที่สุด

    นักวิทยาศาสตร์ของเธอคิดว่าพวกเขาค้นพบการเกิดของโลกและอายุของโลก แต่พวกเขาก็รู้เห็นความเป็นไปของโลกจากมุมมมองอันจำกัดเพียงระนาบเดียว เขาไม่ได้รู้เห็นถึงพลังงานใหม่ๆที่มาสู่โลกอยู่ตลอดวันเวลา พวกเขาจึงบอกเธอว่า พลังงานของโลกกำลังจะหมดลง และโลกจะถึงจุดจบ ไม่ว่าการคำนวณของพวกเขาจะพบบทสรุปเช่นไร มันก็เป็นเพียงการคำนวณจากข้อมูลเพียงมิติเดียว โลกมีจิตวิญญาณไม่ต่างไปจากสรรพสิ่งทั้งหลายในจักรวาลรวมทั้งตัวตนของเธอ โลกจึงมีชิีวิตทางกายภาพที่เกิดจากการสนับสนุนหลากมิติเช่่นเดียวกันกับที่ร่างกายเนื้อหนังและตัวตนทางกายภาพของเธอได้รับการสนับสนุนจากตัวตนต่างร่าง หรือเสมือนร่วมร่าง ต่างชาติภพ ต่างมิติอยู่ตลอดวันเวลา มีการให้-การรับและการถ่ายทอดพลังงานและความรู้อย่างไม่มีวันจบสิ้น

    ฉันไม่ได่้มาเตือนความจำให้พวกเธอทั้งหลายระลึกรู้ถึงการเป็นจิตวิญญาณอันเป็นอมตะ และให้ตระหนักถึงการมาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังในโลกทางกายภาพเพื่อแสวงหาประสบการณ์และการเติมเต็มคุณค่าชีวิต เพียงเพื่อจะบอกเธอว่า โลกของเธอจะถึงจุดจบ และทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเรียนรู้และสะสมมาจะสูญสิ้น เพราะมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น

    โลกของเธอไม่มีวันถึงจุดจบ แต่โลกจะแปลงสภาพต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด โลกของเธอจะถูกใช้เป็นภพภูมิต่อไปในลักษณะที่แตกต่างไป เช่นที่มันได้เป็นมาแล้วหลายยุคหลายสมัยก่อนหน้าที่จิตวิญญาณจะมาถือกำเนิดเป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเธอทั้งหลายและอาศัยโลกเป็นภพภูมิเพื่อการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์

    เธอต้องเข้าใจต่อไปอีกว่าเมื่อฉันกล่าวถึงอดีตของการใช้โลกเป็นภพภูมิหนึ่ง หรืออนาคตของการแปลงสภาพของโลกกลายเป็นอีกภพภูมิหนึ่ง ฉันกำลังพูดให้ง่ายลงตามเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เธอรู้จัก เพราะตามธรรมชาติแห่งความเป็นจริงแล้ว ทุกภพภูมิ ทุกกาลสมัย มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน

    ไม่ว่าเธอทั้งหลายจะดำเนินชีวิตอยู่ในภพภูมิใด ฉันก็ติดต่อสื่อสารกับเธอเสมอ เพราะมันเป็นหน้าที่การงานของฉัน ฉันเปรียบเสมือนนักพูด ผู้ท่องเที่ยวไปทั่วจักรวาลเพื่อรับและถ่ายทอดข้อมูลความรู้ที่ฉันได้รับจากโลกหนึ่ง มิติหนึ่ง ไปยังอีกโลกหนึ่งมิติหนึ่ง เพื่อเตือนใจให้เธอทั้งหลายรู้ถึงธรรมชาติที่แท้จริงของเธอว่า เธอเป็นจิตวิญญาณที่มีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปหลากมิติและเตือนใจให้เธอรู้จักใช้พลังงอำนาจตามธรรมชาติที่แท้จริงพื่อเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิตในภพภูมินั้นๆด้วยข้อมูลความรู้หลากมิติ-หลากภพภูมิ

    หากเปรียบกับภาวะทางโลกกายภาพของเธอ เธอก็อาจเปรียบฉันกับ Professor ต่างชาติผู้ท่องโลกและนำข้อมูลความรู้จากประเทศต่างๆทั่วโลกมาถ่ายทอดให้เธอรู้ว่า ธรรมชาติที่แท้จริงแห่งจิตวิญญาณของเธอนั้นสามารถเรียนรู้ที่จะใช้พลังอำนาจตามธรรมชาติของตนเองที่จะรับรู้เรียนรู้และถ่ายทอดระหว่างประเเทศได้ด้วยตนเอง เสมือนการใช้ระบบ Internet เพื่อแสวงหาความรู้ ด้วยการฝึกฝนให้สติสัมปชัญญะของเธอขยายตัว-รู้เห็นได้คมชัดกว้างไกลกว่าที่เธอกำลังเป็นอยู่

    ความรู้ในระดับเซลล์ของเธอทั้งหลาย ซึ่งคาบอยู่หลายมิติ ทำให้เธอรู้เห็นภาวะของโลกในภพภูมิอื่นๆ มิติอื่นๆ ซึ่งอาจปรากฏต่อสติสัมปชัญญะของตัวตนภายนอกหรือสติสัมปชัญญะที่เธอคุ้นเคย เป็นเสมือนการสูญสิ้นของสภาวะในปัจจุบันที่เธอรู้จัก ยกตัวอย่าง เช่น ดาวอังคารเคยเป็นดาวเคราะห์ซึ่งเคยมีสภาวะที่เหมาะสมและเอื้ออำนวยให้จิตวิญญาณที่มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์หนึ่งๆพัฒนาหรือเผชิญกับความท้าทายในลักษณะจำเพาะหนึ่งๆ จนกระทั้งเผ่าพันธุ์นั้นๆได้มีวิวัฒนาการไปจนพ้นสภาวะนั้นและไม่จำเป็นต้องมีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปในภาวะนั้นๆอีกต่อไปแล้ว ดาวอังคารก็จะแปลงสภาวะไปเพื่อเอื้ออำนวยต่อเผ่าพันธุ์อื่นๆที่จะมาถือกำเนิดและอาศัยดาวอังคารต่อไปในสภาวะที่แตกต่างไป สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ก่อนหน้านั้น จะมองเห็น ดาวอังคารกลายเป็นภาวะล่มสลาย เพราะสภาวะที่แปลงสภาพไปนั้นไม่อาจเอื้ออำนวยให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกในภาวะเดิมที่เขารู้จัก เมื่อพวกเขากลับไปเยี่ยมเยือนดาวอังคารซึ่งเป็นเสมือนบ้านเก่า มันจึงดูราวกับว่าเป็นบ้านร้างที่ขาดการทะนุบำรุง แต่สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นก็ไม่ได้ตระหนักว่า เมื่อเขาย่างก้าวกลับไปเยี่ยมบ้านเก่าของเขา มันมีเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่ซ้อนกันอยู่ หรือมีมิติที่ซ้อนกันอยู่คือ:
    - ในเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นหนึ่งหรือมิติหนึ่ง-พวกเขายังคงดำเนินชีวิตต่อไปในดาวอังคารเช่นเดิม ด้วยสภาพแวดล้อมเดิมที่เอื้ออำนวยพวกเขาอยู่ และในขณะเดียวกัน
    - ในอีกเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่พวกเขาพบว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆหลงเหลืออยู่บนดาวอังคารที่ดูเสมือนล่มสลาย แท้จริงแล้วมีสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นอีกมากมายที่สถิตย์อยู่และดำเนินชีวิตไปในวิถีทางที่แตกต่างไป โดยที่พวกเขาไม่สามารถจะรู้เห็นได้ด้วยประสาทการรับรู้ที่ได้แปลงสภาวะไปแล้วตามวิวัฒนาการของพวกเขา

    แต่เมื่อเธอรู้เห็นสภาวะที่แตกต่างไปของโลก(ในอนาคต-ตามเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เธอรู้จัก) หรือการปรากฏของดาวอังคารตามที่ฉันได้ยกตัวอย่างมานี้ สติสัมปชัญญะของเธอก็ไม่ได้ตระหนักว่า มันเป็นข้อมูลความรู้ที่มีอยู่เป็นปัจจุบัน

    เธอไม่ได้รู้เห็นการล่มสลายของโลกในอนาคต แต่รู้เห็นสภาวะของโลกที่แตกต่างไป หรือกล่าวได้ว่า เธอรู้เห็นอีกชาติภพหนึ่งของโลก นักวิทยาศาสตร์ทำการค้นคว้าและจดจ่อกับข้อมูลเหล่านี้ จิตวิญญาณของพวกเขาจึงเปลี่่่่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะไปรู้เห็นโลกหลากมิติ-ของโลก ได้เช่นเดียวกันกับที่เธอทั้งหลายสามารถรู้เห็นโลกหลากมิติ-ของตนเองได้เสมอในความฝัน

    ไม่ว่าเธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อว่าโลกของเธอจะถึงจุดจบ จิตวิญญาณของเธอก็ตระหนักดีว่า มันเป็นอมตะ และจะดำเนินชีวิตต่อไปในวงจรของชาติภพจนการเรียนรู้ของเธอเพียงพอแล้ว จิตวิญญาณก็จะดำเนินชีวิตต่อไปอีกในวงจรชีวิตนอกเหนือชาติภพ ซึ่งจะเป็นโลกในมิติใหม่ ในสภาพแวดล้อมใหม่ ที่เธออาจเรียกว่า เป็นโลกที่ล่มสลายเมื่อเปรียบเทียบกับโลกในวันนี้ เพราะมันปราศจากพืชพันธุ์ ธัญญาหาร เพียงเพราะจิตวิญญาณที่ดำเนินชีวิตในรูปแบบที่แตกต่างสภาวะไปจากร่างกายเนื้อหนังและสภาวะทางกายภาพที่เธอรู้จัก ไม่ได้ต้องการสภาวะที่เอื้ออำนวยในลักษณะเดิมอีกต่อไป

    ต่อไปในอนาคตอันใกล้ วิทยาศาสตร์ที่แท้จริงจะเป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ในที่นี้ฉันไม่ได้หมายถึงว่า นักวิทยาศาสตร์ที่ใส่ชุดพิเศษของเขาจะเปลี่ยนหน้าที่ แต่ฉันหมายถึงว่า เธอทั้งหลายผู้ใฝ่รู้ตามธรรมชาติของจิตวิญญาณ จะกลายเป็นนักฟิสิกส์สาขาจิตวิญญาณ ผู้ค้นพบพลังงานที่แท้จริง คันพบการเคลื่อนไหวและความเป็นไปของพลังงานเหล่านี้ ซึงคือจิตวิญญาณของตนเองและสรรพสิ่งทั้งหลาย และกลายเป็นแพทย์ที่แท้จริงผู้รูัจักรักษาร่างกายเนื้อหนังและจิตวิญญาณ รักษาชีวิต-สุขภาพและรักษาความตายของตนเองและผุ้อื่นได้ และกลายเป็นศิลปินผู้ฝันอย่างเป็นวิทยาศาสตร์

    เมื่อเธอทั้งหลายมีคำถามและต้องการคำตอบ เธอตั้งคำถามกับนักเขียน เขามารับถ่ายทอดเอาคำตอบจากฉันได้อย่างไร เป็นสิ่งที่เธอทั้งหลายต้องตั้งคำถาม-กับเขาและเอาคำตอบ และฝีกฝนที่จะรับถ่ายทอดข้อมูลความรู้ให้ได้ด้วยตนเอง นักเขียนแทบจะอธิบายเป็นคำพูดด้วยตนเองไม่ได้ เพราะประสบการณ์หลากมิติมักเป็นสิ่งที่ปราศจากคำพูด แต่ฉันก็พูดผ่านนิ้วมือของเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เพราะเธอทั้งหลายปรารถนาที่จะเรียนรู้-ฝึกฝนและทำให้ได้ด้วยตนเองอย่างเป็นธรรมชาติ

    หากอุปมาอุปมัยข้อมูลความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงหลากมิติ เป็นปริมาตรหรือปริมาณ ก็กล่าวได้ว่า มันมีขนาดและจำนวนมหาศาลเหลือล้น เกินกว่าที่สมองของเธอจะบรรจุได้ หากความปรารถนาและเจตนาของเธอ คือการรับเอาข้อมูลความรู้เหล่านี้ไปเป็นของส่วนตน มันก็ไม่ต่างอะไรกับการพยายาม download ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอพบเห็นใน Internet ไปเป็นของส่วนตัวที่เธอจะเก็บไว้ได้ด้วยเครือง computer ส่วนตัวของเธอ เธอจะถูกจำกัดด้วยขนาดความจำและความจุของเครื่อง computer ของเธอ เธอจะทำได้อย่างมากที่สุดก็คือ download ข้อมูลต่างๆจนกระทั่งเครื่องของเธอไม่มีเนื้อที่และความจำที่จะรับได้อีก ซึ่งเมื่อเปรียบกับข้อมูลความรู้ที่ยังคงมีอยู่อีกมากมายมหาศาลในระบบเครือข่ายของ Internet แล้วเธอก็ download ไปได้เพียงจิบจ้อยเท่านั้น และข้อมูลความรู้ใหม่ๆก็เกิดขึ้นใน Internet อีกมากมาย อย่างไม่มีวันจบสิ้น

    นักเขียนมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าและเจตนาที่จะรับข้อมูลความรู้จากระบบเครือข่ายแห่งจิตวิญญาณ "เพื่อถ่ายทอด" ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ download ไปเก็บไว้จนกระทั่งหมดเนื้อที่และความจำที่จะรับได้อีก หากแต่การรับและถ่ายทอดต่อของเขาเป็นไปเรื่อยๆ ทำให้รับข้อมูลใหม่ๆที่เกิดขึ้นในระบบไปด้วย มันทำให้สติสัมปชัญญะของเขากลายส่วนหนึ่งของระบบการจัดการข้อมูลที่ปราศจากขนาดและปริมาณจำกัด ข้อมูลความรู้นอกจากจะผ่านเข้า-ออกจากระบบแล้ว ยังทำให้ระบบขยายตัว webiste ที่เติบโตขึ้นทุกวันเวลาด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างเปิดเผยและไร้ข้อจำกัด เปรียบได้กับสติสัมปชัญญะซึ่งขยายตัวออกไป ทำให้การถ่ายทอด-รู้เห็นเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ

    การให้เป็นการขยายความเป็นไปได้ในการรับ อารมณ์ปรารถนาที่จะให้ทำให้การรับเป็นไปได้มากและฉับพลันยิ่งขึ้น เธอทั้งหลายเป็นผู้ร่วมให้และร่วมรับที่ไม่ต่างไปจากนักเขียน ความปรารถนาอย่างแรงกล้าและเจตนาของเธอจึงเป็นปัจจัยหลักที่นำไปสู่ความสำเร็จเสมอ

    จักรวาลเต็มไปด้วย "ความรัก" ความสมบูรณ์พูนสุขและการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ความเชื่อถือในธรรมชาติของจักรวาลจะทำให้เธอดำเนินชีวิตได้อย่างสงบสุข เพื่อเรียนรู้ เพื่อให้ เพื่อรับ และ เป็นจิตวิญญาณที่เป็นร่างกายเนื้อหนังให้สุขสมหวังที่สุดในสภาพแวดล้อมของโลกอันสดสวยที่เธอเลือกมาถือกำเนิด

    เธอจะไม่มีวันได้มาถือกำเนิดในโลก หากเธอไม่ได้เลือกและปรารถนาที่จะมาแสวงหาประสบการณ์บนโลกมนุษย์ ความเชื่อของเธอสร้างโลกและประสบการณ์ชีวิตทั้งหมด ตลอดจนสุขภาพร่างกายเนื้อหนังของเธอ หากเธอปรารถนาโลกอันเต็มไปด้วยความรักและความสมบูรณ์พูนสุข เธอก็ต้องรู้จักใช้ความเชื่อของเธอไปในทิศทางที่คล้องจองกับความปรารถนา ไม่ใช่ใช้ความเชื่อไปในทิศทางของความกลัวหรือความหวาดหวั่น โลกคือภพภูมิที่เธอเลือกมาถือกำเนิด เธอสร้างโลกและสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกของเธอ ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดความเชื่อของตนเอง ทางเลือกทั้งหมดจึงเป็นของเธอ

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=86527&page=21

    ขอบคุณครับ อาจารย์อนาลัยตอบแบบไม่มีเงื่อนงำเลยครับ ที่บอกว่า "ทางเลือกทั้งหมดจึงเป็นของเธอ" ทุกอย่างอยู่ที่มนุษย์ว่าได้สร้างสัมพันธ์ภาพอันสอดคล้องกับคลื่นพลังงานอันสูงสุดของสากลจักรวาล ที่เรียกว่า"ความรัก"เพียงใด..
    จักรวาลย่อมขยายตัวออกไป มนุษย์ก็เป็นส่วนขยายของจิตวิญญาณ..จึงเกิดกระบวนการแห่งการสร้างสรรค์ ดำรงอยู่ เปลื่ยนแปลง และสร้างใหม่ตลอดเวลา ความเปลื่ยนแปลง[ความเชื่อ] ย่อมเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ โลกทางกายภาพในอนาคตจึงเป็นเรื่องเหตุการณ์ตามธรรมชาติ จิตวิญญาณก็ดำเนินต่อไปในวงจรของชาติภพจนกว่าการเรียนรู้ของเราจะเพียงพอแล้ว:-

    ในหนังสือ"ประวัติศาตร์ของจิตวิญญาณ" อาจารย์อนาลัยได้กล่าวว่า หากมนุษย์กำลังคิดว่าตนเองก้าวหน้า แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่เพียงอย่างเดียว เป็นการแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าแบบตื้นๆ หากความก้าวหน้านั้นไม่เป็นอันหนี่งอันเดียวกับตนเองและโลกตามธรรมชาติ เธอทั้งหลายจะลงเอยด้วยเหตุการณ์อันได้แก่ อุบัติเหตุที่เกี่ยวกับ"นิวเคลียร์"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2007
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    226 วันอันตราย โดยโหรพิรฌาน
    (ฟังหูไว้หูครับอย่าเพิ่งเชื่อไปเสียทั้งหมด)

    [​IMG]

    ฉากสงครามเมืองแครง (Kang War)

    กบฏผีบุญประชานิยม-ปฏิวัติซ้ำซ้อน ไทยรบกับมาเลเซีย สหรัฐฯบุกอิหร่านอุ่นเครื่องสงครามนิวเคลียร์ .. เมื่ออสูรสงครามผงาดฟ้า พระอังคาร()โคจรวิปริตในราศีเมถุน 226 วัน

    ดวงเมืองบางกอกครึ่งปีหลังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพระอังคาร() ,ตนุลัคน์ และ เจ้าเรือนมรณะ โคจรวิปริตในราศีเมถุน,เรือนสหัชชะ 226 วัน จาก 15 กย.2550 - 29 เมษา.2551 ศึกในและศึกนอกปะทุ ทหารและตำรวจแตกความสามัคคีทำการปฏิวัติช่วงชิงอำนาจ ขณะที่เกิดสงครามเต็มรูปแบบกับประเทศเพื่อนบ้าน จะไม่มีเลือกตั้ง !

    กลุ่มขั้วอำนาจเก่า-โจรการเมืองที่ไม่ยอมรับคำพิพากษาคดียุบพรรค,การตกเป็นจำเลยคดีทุจริตคอรัปชั่น ทิ้งไพ่ตายก่อกวนเมืองในทุกรูปแบบ คมช.ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ผู้พิพากษา,อัยการ,ครู,แพทย์ตกเป็นเหยื่อความขัดแย้ง ล้มตายระนาว ผู้ชนะคือกลุ่มนายทหารยังเติร์กที่สถาปนาอำนาจใหม่ แม้จะไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศแต่บ้านเมืองจะเป็นหนึ่งเดียว


    เทพอสูรแห่งสงครามแผ่วงกว้างไปถึงสหรัฐฯบุกอิหร่าน ญี่ปุ่นเปิดศึกย่อยกับจีนและเกาหลีเหนือ .. หุ้นตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทองคำราคาสูงลิบลิ่ว ผู้คนหวาดผวาหันไปนับถืออลัชชี ศาสนาเสื่อมทรามลงจนคนสิ้นศรัทธา


    ที่มา http://pirachan.exteen.com/20070201/entry
     
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post649641 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ตลับนาค<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_649641", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:47 AM
    วันที่สมัคร: Jun 2006
    ข้อความ: 58 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 6,667 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 563 ครั้ง ใน 57 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 75 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_649641 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อันนี้เอามาจาก BBC documentary ปี 2005 ชื่อ Hiroshima ครับ
    ครบรอบ 60 ปีระเบิดนิวเคลียร์

    ระเบิดหลังจากปล่อยออกมา ก็ระเบิดออกที่ความสูง 580 เมตร เหนือพื้น
    เพื่อให้เกิดการทำลายเป็นบริเวณกว้าง

    ผู้รอดชีวิตเขาไปสัมภาษณ์มาสามท่าน คนนึงเป็นผู้หญิง คงจะแปดสิบแล้ว
    ตอนนี้ครับ ตอนนั้นเธออยู่ในอาคารกับเพื่อน ตรงนั้นห่างจาก จุดระเบิด
    ประมาณ 260 เมตร เธอบอกว่า เห็นแสงสีขาวมากๆ ตอนระเบิด เหมือนกับ
    เผาลวดแมกนีเซียม หลังจากทุกอย่างสงบลงเธอเดินออกมากับเพื่อน เมือง
    มืดทึบไปด้วยควัน ผู้คน ถูกเผาไม่ใส่เสื้อผ้า บ้านเรือนที่เหลือก็ไหม้

    ถัดออกไปไมล์หนึ่ง เป็นโรงพยาบาลที่คุณ Kinuko เป็นพยาบาลอยู่ เธอบอกว่า
    เธอถูกแรงผลักไปยังอีกฟากนึงของห้อง พร้อมๆกับเศษแก้วจากหน้าต่าง
    เต็มตัวเธอไปหมด พออะไรสงบลงเธอ เดินออกไปข้างนอก ผู้คนเดินไร้ทิศ
    ไร้ทาง แล้วมองหาน้ำกัน เธอจำได้ว่าที่หลังโรงพยาบาลมีธารน้ำ ก็เลยเดินไปที่นั่น
    แต่สักพักไม่นาน ก็มีฝนหล่นลงมา แต่ว่าฝนที่ตกมาเป็นเม็ดสีดำล้วน หนืด
    แล้วก็หนัก เธอว่าแทบจะรู้สึกหนักได้จากที่มันตกใส่ ผู้คนที่ถูกไฟไม้ ก็รองน้ำ
    ฝนดำๆนี้ดื่มเอา

    อีกรายคือคุณหมอ Shuntaro Hida เขาเป็นหมอทหารครับ พอดีว่า
    เขาโชคดีอยู่หน่อย คือคืนก่อนที่ระเบิดจะลงตอนตีสอง มีคนมาเรียกให้เขา
    ไปดูไข้เด็กนอกเมือง เขาเลยขี่รถไปอยู่ที่บ้านนั้น ซึ่งห่างจากตัวเมืองสัก 6 กิโล
    ตอนเช้าเขากำลังจะฉีดยาเด็ก ก็ไล่อากาศออกจากเข็ม พอดีมันมองไปที่อากาศ
    เห็นมีเครื่องบินลำนึงบินสูง เขารู้ทันทีว่าเป็นเครื่องบินอเมริกัน เพราะของญี่ปุ่น
    ไม่บินสูงอย่างนั้น แต่ว่าไม่น่ามาทิ้งระเบิดเพราะมาลำเดียว ก็ไม่ได้สนใจอะไร
    ให้ยาเด็กต่อ แล้วจู่ๆก็มีแสงขาววาบเข้ามา เขาว่าพอมันโดนตัวก็ร้อนวูบเข้าไป
    ข้างใน พออันนั้นหายไปก็มองไปทางเดิมเห็นรูปดอกเห็ดสีขาวเป็นเมฆ พอมองๆ
    อยู่ก็เกิดมี ควันสีดำม้วนๆๆแล้ววิ่งเข้ามาหาตัวเขาเร็วมาก พอมาถึงบ้านคราวนี้
    เขากระเด็นไปอีกฟากนึงของห้อง พอมันผ่านไปหลังคาก็หายไปด้วย เขาเช็คว่า
    เด็กยังอยู่ดี แล้วก็คว้าจักรยานแถวนั้นปั่นกลับเข้าไปในเมือง พอไปได้สักครึ่งทาง
    ก็เห็นอะไรไม่รู้ไม่เคยเห็นกำลังเดินมาหาเขา ดำสนิททั้งตัว ไม่มีจมูก ปากก็แยก
    ไปจนถึงขากรรไกร เขาคิดว่าผี ลงจักรยานแล้วเริ่มจะวิ่งหนี อะไรนั่นก็คว้าจักรยาน
    เขาทำท่าจะขี่แล้วล้มลง เขาก็เลยเดินกลับไปดูเริ่มคิดว่าเป็นคน เขาว่าจับตรงไหน
    ก็ไม่มี pulse เนื้อมันยุ่ยไปหมด

    ข้างล่างนี้เป็นสัมภาษณ์คุณลุงนี้เมื่อปีที่แล้วครับ
    http://www.kaboommovie.com/temp/video.php

    ทางผู้ทำสารคดีบอกว่า ขณะที่กำลังเกิดการระเบิด จะมีการปล่อยคลื่นย่าน
    อินฟราเรด ไปจนถึงรังสีแกมม่า เป็นแสงสีขาวที่เขาเห็นกันตอนแรก หลังจากนั้น
    จะเกิด shock wave ตามมา ซึ่งมีแรงอัดมหาศาล นอกจากความร้อนในตอน
    แรกแล้ว ปนมากับฝุ่นเถ้า ขนาดอยู่ห่าง 6 กิโลยังกระเด็นเลย หลังจากนั้น
    พอมีเขม่า + ความร้อนมากๆ ก็จะเกิดฝนตก แต่ให้ระวังมากๆครับ ฝนที่ตกมา
    ตอนนั้น เป็นเขม่าที่มีกัมมันตภาพรังสีมากๆ หลังจากนั้น 3-4 วันผู้คนจะเริ่ม
    แสดงอาการของการถูกรังสีออกมาอย่างชัดเจน ผมหลุดร่วง จะหวีผมคนไข้
    ผมหลุดมาทั้งแถบ แผลไม่หาย ตอนเจาะเลือดๆก็ไม่หยุดไหล อาการที่ชัดมาก
    จะเกิดกับผู้โดนระเบิดตรงๆ หรือว่ารองฝนดำมาทานเพราะกระหาย

    ===

    ระเบิดที่ฮิโรชิมา เทียบความแรงได้ประมาณ 15 KT (Kilo Ton) ปัจจุบันนี้
    ขนาดของระเบิดที่มีการทดลองแรงที่สุดคือ 50 Mega Ton หรือ 50,000 KT
    เทียบดูแล้วกันครับ มันจะกี่เท่า แล้วจะเหลือมั้ยเนี่ย รูปข้างล่างนี้เป็นขนาดเปรียบ
    เทียบของลูกไฟ ที่เกิดขึ้นจากการระเบิด (เส้นผ่านศูนย์กลาง) ส่วนระยะทางที่
    เกิดความเสียหายจริงๆจะเป็นหลายเท่าของขนาดนี้

    [​IMG]

    Tsar Bomba ของรัสเซีย 50 MegaTon ทดลองเมื่อปี 1961
    Castle Bravo ของอเมริกา 15 MegaTon ทดลองเมื่อปี 1954
    Fat Man ของอเมริกา 20 KiloTon ระเบิดเมื่อปี 1945

    สังเกตุว่า Fat Man ที่ถล่มนางาซากิ มีความแรงของระเบิดสูงกว่า
    แต่มีผู้เสียชีวิตน้อยกว่าที่ฮิโรชิม่า เพราะเมืองนางาซากิ มีสภาพเป็นหุบเขา
    แต่ฮิโรชิมาเป็นที่ราบ

    ช่วงไม่กี่วันนี้ รู้สึกว่าจะมี สารคดีออกมาอีกเรื่องนึงครับเป็น DVD ชื่อว่า
    White Light / Black Rain เห็นว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนทำ
    ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนมันระเบิด และก็มีการสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิต
    ที่ยังอยู่ ผู้สร้างเองตอนนั้นอายุ 13 ปี ตอนนี้ก็ 75 แล้ว
    ใครได้ดูแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ

    (( ขออภัย โหลดภาพไม่สำเร็จ ))
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post646604 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>สุดใจเขากะลา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_646604", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:58 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 49 ปี
    ข้อความ: 1 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 92 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนาบุญ 27 ครั้ง ใน [ARG:2 UNDEFINED] โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_646604 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->-ขอขอบคุณ webmaster.palungjit.org ที่ตอบรับพี่สุดใจ จากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เป็นสมาชิกใหม่ในวันนี้
    -และขอขอบคุณท่านที่สนใจติดตามข้อมูลข่าวสารของกลุ่มเขากะลา(เดิม) อย่างต่อเนื่องตลอดมา ซึ่งกลุ่มเขากะลา ได้เสร็จสิ้นการฝึกจิต และฝึกสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวแล้ว และได้เข้าสู่ระบบประสานงานเพื่อการเตือนภัย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2547 โดยเปลี่ยนชื่อกลุ่มเขากะลา เป็นชื่อ......กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
    -เรื่องราวการประสานงาน ข้อมูลใหม่ ๆ และภาพ UFO ที่บันทึกได้ในประเทศไทย จำนวนมากที่ยังไม่ได้เผยแพร่ กำลังรวบรวมจัดทำเพื่อนำเสนอให้ท่านที่สนใจรับทราบต่อไป
    -จะนำข้อมูลเกี่ยวกับ "เครื่องมือของมนุษย์ต่างดาว" ที่ได้รับการสื่อสารข้อความผ่านมา และนำมาให้เห็นในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเรื่องของมิติ เรื่องของอุปกรณ์ต่อเชื่อมกับสมองซึ่งเป็นเทคโนโลยีคล้ายกับโทรศัพท์มือถือของเราแต่ไม่เป็นวัตถุ เป็นกลุ่มพลังงานติดตั้งไว้แทน เป็นเทคโนโลยี่ มีหน้าที่รับการสื่อสารเหมือนกัน รับรู้เรื่องราวข้อความต่าง ๆ แม่นยำเหมือนเราคุยกันทางโทรศัพท์ ซึ่งผู้ผ่านการฝึกได้รับการติดตั้งแต่ละบุคคล จึงรับข้อมูลแตกต่างกันตามลักษณะการประสานงานของแต่ละบุคคล ซึ่งในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ จะมีการใช้อุปกรณ์เช่นนี้ติดตั้งให้กับบุคคลอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ผู้ฝึกแต่มีพื้นฐานต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในคราววิกฤต เพื่อใช้สื่อสารกันเพราะโทรศัพท์ไม่สามารถใช้การได้
    -จะนำเรื่องราวต่าง ๆ มาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปหากท่านสนใจข้อมูลขอขอบคุณ และสวัสดีค่ะ
    - จากพี่สุดใจเขากะลา
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post649864 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_649864 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">ข้อความจากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(2)
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->-ขอขอบคุณทุกท่านที่ยังให้ความสนใจกับข้อมูลของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)อย่างต่อเนื่องตลอดมา และขอขอบคุณ websnow ที่ยังคงดำรงข้อมูลเรื่องของการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวในประเทศไทยไว้ในเวปไซด์จนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งหากจะอนุเคราะห์ให้เผยแพร่ข้อมูลของมนุษย์ต่างดาวผ่านทางเวปไซด์นี้ ก็ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ



    -ภาพ UFO ที่ทั้งคนไทย และชาวต่างชาติที่บันทึกไว้ได้ที่เขากะลา ส่วนมากจะเป็นการบันทึกด้วยกล้องวีดีโอ ซึ่งไม่สามารถตัดแต่งภาพได้มีจำนวนมาก ข้อมูลการฝึกฯ กับมนุษย์ต่างดาว เขาสอนอะไร? ฝึกอะไร? และผู้รับการฝึกได้อะไร? ทำไมต้องประสานงานกับกลุ่มต่าง ๆ และประสบการณ์เกี่ยวกับการรับข้อมูลของมนุษย์ต่างดาวโดยใช้เครื่องมือสื่อสารของมนุษย์ต่างดาวแทนการใช้การสื่อสารด้วยจิตนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้หลายท่านเคยประสบด้วยตนเองมาแล้วแต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไรเท่านั้นเอง



    -สิ่งที่กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) จะแจ้งข้อมูลต่อจากนี้ จะเป็นการ.....แจ้งเพื่อทราบ....เท่านั้น เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นเรื่องใหม่ เป็นวิทยาศาสตร์ ที่สามารถพิสูจน์ ทดสอบ ทดลองได้ ไม่ใช่ปาฏิหารย์ ไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ใด ๆ แต่เป็นกลไกทางวิทยาศาสตร์ ที่มนุษย์ต่างดาว นำมาให้เห็น และจำเป็นต้องใช้ในช่วงวิกฤตของโลกใบนี้ ไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ทุกอย่างก็ยังคงดำเนินต่อไปอยู่นั่นเอง



    -ข้อความสำคัญ....แจ้งเพื่อทราบ.....เท่านั้น (มนุษย์ต่างดาวให้แจ้งไปก่อน เชื่อไม่เชื่อให้แจ้งไป...นี่คือหลักการการแจ้งข้อมูลของมนุษย์ต่างดาวผ่านไปยังสื่อต่าง ๆ)



    - การติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว เริ่มจาก จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ... แจ้งเพื่อทราบ....ไปแล้วตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา ซึ่งในระยะแรกไม่สามารถเชื่อถือได้เป็นธรรมดา เป็นกลุ่มคนบ้ากลุ่มหนึ่งที่มาทำเรื่องไร้สาระ เมื่อเวลาผ่านไปจึงจะมีหลักฐานต่าง ๆ ทั้งพยานบุคคล และภาพถ่ายต่าง ๆ มายืนยัน จึงพอที่จะเชื่อถือได้



    - การฝึกฯสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว ...... แจ้งเพื่อทราบ....ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2542 รวมระยะเวลาการฝึกฯ 1 ปี ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่บุคคลต่างๆ ก็เห็นว่ากลุ่มนี้ทำอะไรไม่เข้าเรื่อง ซึ่งจากวันที่ 1 เมษายน 2547 เป็นต้นมา ก็เข้าสู่ระบบการทำงานกับมนุษย์ต่างดาวเต็มรูปแบบ ซึ่งได้มีการ...แจ้งเพื่อทราบ...ไปแล้ว ผ่านทางสื่อทีวี..รายการวีไอพี ช่อง 7(ไปบันทึกรายการวันที่ 16 ธันวาคม 2547ก่อนเกิดสึนามิ 10 วัน), รายการสารคดี UFO ในประเทศไทย , รายการย้อนรอย ITV, รายการชั่วโมงพิศวง ช่อง 7, แจ้งเพื่อทราบ...ผ่านทางหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 8, 10, 12, พฤศจิกายน 2548 และ แจ้งเพื่อทราบ...ผ่านทางบูธนิทรรศการ UFO ในประเทศไทย ซึ่งจัดร่วมกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาติครั้งที่ 11 วันที่ 8-11ธันวาคม 2549 .....เรามีหน้าที่แค่แจ้งเพื่อทราบ การมาปรากฏให้บุคคลต่าง ๆ ได้เห็นเป็นเรื่องของมนุษย์ต่างดาว ไม่ใช่หน้าที่ของเรา แต่จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเราจึงทราบว่า เมื่อรายการทีวีทุกรายการก่อนการนำเสนออะไรสักอย่างหนึ่ง จะมีการส่งทีมงานเดินทางไปบนเขากะลาก่อนเพื่อสังเกตุการณ์ว่ามีมูลความจริงหรือไม่ และต้องได้เห็นวัตถุบิน หรือลูกไฟวิ่งได้ หรือสิ่งอื่น ๆ ที่มาปรากฏแล้วเชื่อได้ว่าไม่ได้มีการหลอกลวงประชน หัวหน้าทีมงานจะต้องได้เห็นเองจนแน่ใจ จึงจะข้อมูลเสนอต่อทางรายการขออนุมัติถ่ายทำ แล้วจึงจะนำทีมงานมาถ่ายทำได้ และนำออกอากาศต่อไป จึงเป็นหน้าที่ของมนุษย์ต่างดาวต้องนำวัตถุบินมาปรากฏให้ทีมงานเห็นเอง ... ซึ่งเป็นการยืนยันได้ว่า สิ่งที่แจ้งเพื่อทราบ....ก่อนหน้านี้เริ่มมีการปรากฏชัดเจนมากขึ้น และเริ่มออกสู่สาธารณชนเพื่อให้รับทราบทางช่องทางอื่น ๆ ได้มากขึ้น

    - และครั้งนี้ การถ่ายทอดข้อมูลเรื่องของ เครื่องมือของมนุษย์ต่างดาว เป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อได้ และเป็นรูปแบบเทคโนโลยีที่มนุษย์ยังค้นคว้าไปไม่ถึง แต่ก็จะเป็นการ..แจ้งเพื่อทราบ...เช่นกัน เป็นเรื่องบอกไว้ก่อนเพื่อทราบเช่นเดิม แต่ขณะนี้ได้มีพยานบุคคลต่าง ๆ ได้มีโอกาสเห็นเครื่องมือของมนุษย์ต่างดาวมากขึ้นทุกขณะ ไม่ว่าจะเป็นเข้า-ออกมิติโดยไม่รู้ตัว การเห็นสถานที่ต่างมิติ เห็นการย้ายสิ่งของจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง หรือ แม้แต่การcopy รูปร่างเดียวกันไปอยู่อีกสถานที่
    หนึ่งในเวลาเดียวกัน และพูดคุยสนทนาเหมือนกับเป็นบุคคลเดียวกัน มีผู้ถูก copy เช่นนี้แล้วหลายบุคคล ซึ่งได้มาเล่าให้กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ได้ฟัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ใด ๆ เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นเทคโนโลยีของต่างดาว เขาบอกว่าก็เหมือนเครื่องถ่ายเอกสารของเราเมื่อ copy จากเครื่องถ่ายเอกสารอย่างดี ต้นฉบับกับสำเนาแทบไม่ต่างกันเลยจะ copy อีกสักกี่แผ่นก็เหมือนต้นฉบับ (เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีของเราเพื่อเทียบเคียง)แต่เขามีความเจริญกว่าเรามากนัก การ copy จึงยกไปได้ทั้งมวลสาร ซึ่งต่อไปข้างหน้าจะต้องใช้เทคโนโลยีแบบนี้ เพื่อที่บุคคลที่ทำงานเรื่องของภัยพิบัติ จะไปปรากฏตัวในหลาย ๆ ที่ในเวลาเดียวกันเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น (อย่าลืมว่าในการเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ การสื่อสารจะไม่สามารถติดต่อกันได้ คุณจะไปอยู่กี่สถานที่จะไม่มีใครทราบได้เลย แต่ทุกอย่างทำเพื่อประโยชน์ผู้อื่นทั้งสิ้น)



    - วันนี้ขอบอกเล่าเพียงเท่านี้ก่อนด้วยข้อความสำคัญคือคำว่า ....แจ้งเพื่อทราบ... แล้วจะนำภาพต่าง ๆ มาเพิ่มเติมในเวปไซด์นี้ ถ้าเวปมาสเตอร์อนุญาตค่ะ
    <!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("649864")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +4,622
    อเมริกากล่าวหาเรดาห์จีนทำลายดาวเทียมจารกรรม
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ภาพแสดงประสิทธิภาพกรทำสงครามด้วยเครื่องบินใช้อาวุธแสงเลเซอร์ของอเมริกา

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เครื่องบินที่ใช้อาวุธแสงเลเซอร์ของกองทัพอากาศอเมริกา
    สถานีทดลองทางวิทยาศาสตร์ของจีนที่จงซาน 中山 หลังจากที่โครงการก่อสร้างสถานี
    เรดาห์ความถี่สูง เพื่อใช้ในการสำรวจและทดลองสิ่งแวดล้อมทางพื้นดินและอากาสใน
    บริเวณดังกล่าว ได้เป็นที่เพ่งเล็งและก่อความไม่สบายใจแก่อเมริกาที่เกร็งจะกระทบด่อ
    ด้าน “ความปลอดภัย”

    ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของอเมริกา ได้ยกเอาประเด็นของสถานีเรดาห์ความถี่สูงของ
    จีนว่า อาจนำไปสู่การพัฒนาความสามารถในการต่อต้านเลเซอร์ของดาวเทียม ซึ่งจะไป
    ขัดขวางและทำลายการจารกรรมทางดาวเทียมของอเมริกา โดยทางการจีนได้ออกมา
    กล่าวถึงการกล่าวหาของกลุ่ม “ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง”ว่า เป็นการกล่าวหาที่เลื่อน
    ลอย “วัตถุประสงค์ในการพัฒนาทางอากาศระหว่างจีนกับสหรัฐแตกต่างกัน โดยทางจีน
    กระทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ”

    สถานีเรดาห์นีจะมีเสาสัญญาณทั้งหมด 20 กลุ่ม ความสูงทั้งหมด 230 เมตร เพื่อสำรวจ
    ตรวจสอบชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟีย (Ionosphere) เพื่อยกระดับการสำรวจทางสภาพ
    แวดล้อมทางอากาศของจีนสูงระดับสากล โดยริเริ่มขึ้นในปี 1995 โดย 5 หน่วยงานของ
    จีนคือ หน่วยงานวิทยาศาสตร์ หน่วยงานด้านการสื่อสาร หน่วยงานด้านการศึกษา หน่วย
    งานด้านแผ่นดินไหว และหน่วยงานด้านทะเลแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำความเข้า
    ใจด้านมูลภาวะทางอากาศที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติต่าง ๆ และเพื่อพิิทักษ์การ
    สื่อสารทางดาวเทียมไม่ให้ถูกกระทบ ฉะนั้น โครงการนี้จึงเ็ป็นการปกป้องดาวเทียมแทน
    ที่จะไปทำลายดามที่สหรัฐกล่าวหา

    ทางด้านกองทัพจีนกล่าวว่า ภาวะวิตกของ “ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง”ได้เผยโฉมหน้า
    อันแท้จริงของสหรัฐที่ใช้ดาวเทียมเพื่อการจารกรรม และใช้ในด้านการทำลายแทนที่จะ
    ใช้ในทางสร้างสรรค์

    ข่าว: ซีน่า 13/02/2006
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญาณเตือนภัยจากเบื้องบน โดยคุณ f12345<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_649847", true); </SCRIPT>

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

    เมื่อสองวันก่อน เราฝันว่า เรานั่งคุยกับพ่ออยู่ข้างบน สักพัก เห็นอีตา จอร์จบุช ออกมาประกาศสงครามกับอิหร่าน แต่เที่ยวนี้ อาหรับไม่ยอม มันกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ ในฝันบอกไว้ด้วยว่า มีเวลาอีก 75 วัน ถ้าจริงก็ก่อนออกพรรษา 1 วัน อเมริกาจะประกาศสงครามกับอิหร่าน

    เรามานั่งนึกๆดู มันมีความเป็นไปได้มาก เพราะอเมริกา ตอนนี้ เศรษฐกิจตกต่ำมาก ปัญหาสินเชื่อซับไพร์ม ถ้ามีคนในนี้ติดตามดู ตอนนี้ภาคการเงิน ในประเทศใหญ่ๆต้องอัดเงิน เข้าตลาดการเงิน จำนวนมหาศาล เพื่อพยุงระบบและความเชื่อมั่น และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของอเมริกาที่ผ่านมา ใช้วิธีทำสงครามมาโดยตลอด การทำสงครามจะทำให้ ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นทันที การที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น จะทำให้ธุรกิจการเงินของอเมริการสะพัด ธุรกิจการเงินส่วนใหญ่อาศัยการเก็งกำไรล่วงหน้า เช่นตลาดไนเม็ก ก็เป็นตลาดค้าน้ำมันล่วงหน้า ตลาดหุ้นของอเมริกา ก็ทำช็อตเซลล์ได้ เพราะฉะนั้นเราลองมาดูกันดีกว่า ว่าอีก 75 วัน อเมริกาจะประกาศสงครามกับอิหร่านจริงไหม

    ถ้าจริงผมจะได้เตรียมเสบียง ถ้าไม่จริงก็คิดว่า อ่านเรื่องที่ผมฝันแล้วกัน

    ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=79471&page=28
    <!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2007
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    โลกจะถูกใช้เป็นอาวุธสงครามทำลายล้างในศตวรรษที่ 21
    (The Earth As A Weapon In 21st Century of Wars )



    <table class="blog_center_data"><tbody><tr><td><dd>ในขณะที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ รัฐบาลและกลุ่มต่างๆที่เกี่ยวข้องกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาเพิ่มขึ้นและผลของมันที่จะมีต่อโลกนั้น ปรากฏว่าทุกฝ่ายต่างเมินเฉยต่อบทบาทของทหารในการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศของโลก </dd><dd>?เมื่อวิกฤติทางด้านสิ่งแวดล้อมปรากฏขึ้น มีแต่เศรษฐกิจภาคพลเรือนเท่านั้นที่ถูกเรียกร้องให้แก้ไขสมดุลในขณะที่แผนการต่างๆทางด้านการทหารแทบไม่ต้องรับผิดชอบเลย? ดร.โรซาลี เบอร์เทล
    </dd><dd>นักวิทยาศาสตร์และนักนิวเคลียร์ผู้มีชื่อเสียงกล่าว เธอกล่าวว่ากองทัพถูกปล่อยให้รอดไปจากความรับผิดชอบในการสร้างมลภาวะแก่สิ่งแวดล้อมและความหายนะทางด้านนิเวศน์ </dd><dd>ในหนังสือเรื่อง Planet Earth : The Latest Weapon of War (2000) เธอได้ยกตัวอย่างสงครามเวียตนาม สงครามอ่าวและการทิ้งระเบิดของกลุ่มประเทศนาโต้ในโคโซโว </dd><dd>สงครามเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะทำลายชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้น แต่มันยังได้ทำให้ผืนดินบริเวณกว้างขวางแปดเปื้อนไปเป็นเวลาหลายปี </dd><dd>ดร.เบอร์เทล กล่าวว่า ไฟน้ำมันที่ลุกไหม้เป็นจำนวนหลายร้อยบ่อในระหว่างสงครามอ่าวคือ ?เหตุการณ์มลภาวะที่เลวร้ายที่สุดที่มนุษย์สร้างขึ้นในประวัติศาสตร์? และมันนำไปสู่หายนะทางด้านสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศทั่วโลก </dd><dd>นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้ทำนายถึงลมมรสุมรุนแรงอันเนื่องจากการเกิดภาวะโลกร้อนขึ้น ฝนกรด พายุหนักและน้ำท่วมรุนแรงทั่วโลก </dd><dd>?ในเวลาที่ผ่านมา ไต้ฝุ่นขนาดใหญ่ได้ถล่มบังคลาเทศเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม คร่าชีวิตคนไปมากกว่า 100,000 คน...นักวิทยาศาสตร์โซเวียตได้รายงานถึงฝนกรดระดับสูงในรัสเซียตอนใต้ ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นถึงควันและหิมะทึบในปากีสถานและอินเดียตอนเหนือ? เธอกล่าว ?นักบินอวกาศบนยานกระสวยแอตแลนติสได้รายงานว่าโลกถูกปกคลุมด้วยหมอกควันเป็นจำนวนมาก...นักศึกษาวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์ของจีนได้อ้างว่าเมฆหนาทึบจากตะวันออกกลางก็มีส่วน</dd><dd>รับผิดชอบต่อน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศเหล่านั้น? ดร.เบอร์เทล กล่าวไว้ในหนังสือของเธอ </dd><dd>ในยุโรปก็มีรายงานว่าถูกพายุหนักพัดกระหน่ำ ?มีน้ำท่วมหนักจากบาวาเรียไปจนถึงเชคโกสโลวาเกียโดยมีผู้เสียชีวิตหลายคน ฟาร์มหลายแห่งถูกทำลายและสะพานหลายแห่งถูกน้ำพัดทำลายไป เส้นทางรถไฟทั่วออสเตรเลียจมอยู่ใต้น้ำและแม่น้ำดานูบมีระดับสูงสุดเท่าที่เคยบันทึกไว้? เธอกล่าว </dd><dd>ในทั้งสองครามอ่าวและสงครามในโคโซโว กระสุนปืนใหญ่เคลือบยูเรเนียมได้ถูกกองกำลังสหรัฐและนาโต้ใช้เป็นจำนวนมากมายมหาศาลซึ่งทำให้แผ่นดิน อากาศ และน้ำแปดเปื้อน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ในระยะยาว เช่นเดียวกับในเวียตนามที่กองทัพสหรัฐจงใจทำลายสิ่งแวดล้อมและทำให้ผืนดินนับล้านเอเคอร์ต้องเปรอะเปื้อนไปด้วย ?สารสีส้ม? และสารพิษอื่นๆ </dd><dd>แต่ขอบเขตของความเสียหายนี้ก็ไม่อาจเปรียบเทียบได้กับความหายนะที่กองทัพสามารถทำลายโลกใบนี้ได้ การทดลองอย่างกว้างขวางที่กองทัพโดยเฉพาะสหรัฐได้กระทำมาในช่วงหลายทศวรรษนี้รวมถึงการทดลองกับชั้นโอโซน การเปลี่ยนแปลงอากาศและการใช้เทคโนโลยีคลื่นเพื่อตรวจสอบภายใต้โลกล้วนแล้วแต่เป็นการเตรียมตัวเพื่อทำสงครามที่จะมีขึ้นในศตวรรษที่ 21 นี้ทั้งสิ้น </dd><dd>การทดลองและการศึกษาวิจัยทางด้านบรรยากาศเหล่านี้ ?มิใช่เป็นแค่เพียงการค้นคว้าทางด้านวิทยาศาสตร์อันน่าตื่นเต้น อวกาศจะเป็นสมรภูมิต่อไปในวันข้างหน้า? หมายความว่าทหารกำลังนำสงครามขึ้นสู่อวกาศ ?พวกเขาจะสู้กันในอวกาศ? เธอกล่าว </dd><dd>?เนื่องจากการศึกษาวิจัยทางทหารเป็นความลับ มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนทั่วไปที่จะเข้าใจผลที่จะติดตามมา? ดร.เบอร์เทล กล่าว ในตอนต้นปี 1946 ในมหาสมุทรแปซิฟิก การทดสอบทางด้านบรรยากาศนิวเคลียร์โดยสหรัฐและต่อมาโดยสหภาพโซเวียตและอังกฤษได้ทำลายสภาพแวดล้อมเสียหายอย่างหนัก </dd><dd>ดร.เบอร์เทล กล่าวว่า ?การระเบิดของนิวเคลียร์ขนาด 300 เมกะตันระหว่างปี 1945 และ 1963 ได้ทำลายชั้นโอโซนไปประมาณ 4% </dd><dd>ถึงแม้ว่าช่องโหว่โอโซนแรกเริ่มที่จะดีขึ้นในปี 1980 แต่ในปี 1986 นักวิทยาศาสตร์พลเรือนก็ได้ออกมาพิสูจน์ยืนยันถึงการเกิดช่องโหว่โอโซนที่สองในแอนตาร์กติก </dd><dd>?นักวิทยาศาสตร์ได้ประมาณว่าการสูญเสียโอโซนไป 1% จะทำให้รังสีอุลตราไวโอเลตสามารถหลุดมาถึงโลกมากกว่า 1-3% ซึ่งจะทำให้อัตราการเป็นมะเร็งที่ผิวหนังเพิ่มขึ้นและมีผลต่อรูปแบบของชีวิตทั้งหมด? เธอกล่าว </dd><dd>ในปี 1990 การทดลองทางทหารของสหรัฐด้วยจรวดพลังงานนิวเคลียร์ได้เพิ่มขึ้นและการปล่อยพลูโตเนียมขึ้นสู่อวกาศได้กลายเป็นกิจกรรมประจำ ภารกิจทางด้านอวกาศที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์เหล่านี้เป็นอันตรายอย่างสูงเพราะพลูโตเนียมสามารถกระจายไปทั่วพื้นที่อันกว้างขวางของโลกหากเกิดอุบัติเหตุเพียงครั้งเดียว ดร.เบอร์เทลกล่าวว่าอุบัติเหตุครั้งใหญ่ทางอวกาศและเป็นครั้งแรกซึ่งมีผลต่อโลกเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 1964 เมื่อจรวด SNAP-9A ของสหรัฐถูกสั่งทำลายและพลูโตเนียมจำนวน 17,000 คูรีที่ถูกนำขึ้นไปได้กระจายไปทั่วขั้วโลก พลูโตเนียมเหล่านี้ยังคงสามารถมีให้เห็นได้ในดินและในกระดูกของคนและสัตว์ </dd><dd>?ใน ค.ศ.1997 มีจรวด SNAP-9A อยู่ในวงโคจร แต่ละลูกมีพลูโตเนียมอยู่ 17,000 คูรีและจรวดแต่ละลูกก็มีแผนที่จะปล่อยพลูโตเนียมเหล่านี้ออกมาเมื่อเสร็จภารกิจแล้วเหมือนกับในกรณีของจรวดเมื่อปี 1964? เธอกล่าวเตือน </dd><dd>เนื่องจากแผนการอวกาศเหล่านี้ถูกปกปิดไว้เป็นความลับ คนทั่วไปจึงไม่รู้ถึงอันตรายของโครงการนี้โดยเฉพาะเมื่อ ?ประวัติศาสตร์ของแผนการอวกาศนี้ถูกเริ่มขึ้นมาด้วยความหายนะ? อาวุธสงครามในสหัสวรรศใหม่นี้จะรวมถึงการใช้โลกใบนี้เป็นอาวุธอย่างหนึ่งโดยการควบคุมอำนาจของกระบวนการทางธรรมชาติเพื่อสงคราม </dd><dd>ในที่ประชุมสาธารณสุขของประชาชนในเดือนธันวาคมปี 2000 ที่กรุงดาคา บังคลาเทศ ดร.เบอร์เทลได้เปิดให้ผู้ฟังต้องตกใจและแทบไม่เชื่อว่า ?อาวุธล่าสุดของกองทัพสหรัฐคือโลกใบนี้เอง...</dd><dd>และอากาศจะเป็นหนึ่งในอาวุธทำลายร้ายแรงที่สุดในปี 2025? </dd><dd>ดร.เบอร์เทล กำลังอ้างถึงวิธีการที่แผ่นดินไหวและเกิดพายุทอร์นาโดที่ถูกสร้างขึ้นสามารถสร้างความหายนะให้แก่ประชาชนและชาติต่างๆได้อย่างไร ตามหนังสือของเธอ อาวุธแม่เหล็กไฟฟ้า ?</dd><dd>มีความสามารถที่จะส่งการระเบิดและผลกระทบอื่นๆ เช่น การก่อให้เกิดแผ่นดินไหวข้ามทวีปไปยังเป้าหมายที่ถูกคัดเลือกไว้บนโลกใบนี้ได้ด้วยระดับพลังที่เท่ากับการระเบิดนิวเคลียร์ครั้งใหญ่? </dd><dd>ใน 40 ปีที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐได้ทำการทดลองบนชั้นบรรยากาศของโลกหลายครั้งโดยการใช้คลื่นและสารเคมี ความพยายามที่จะควบคุมอากาศโดยการควบคุมทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการทดลองนี้รวมถึงการใช้แสงเลเซอร์และสารเคมีเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะสามารถทำลายชั้นบรรยากาศเหนือศัตรูได้หรือไม่ สามารถที่จะสร้างความเสียหายให้แก่พืชผลและสุขภาพของมนุษย์โดยรังสีอุลตราไวโอเลตของดวงอาทิตย์ได้หรือไม่ ทั้งหมดนี้กองทัพสหรัฐได้ทดลองมาแล้ว สารเคมีอย่างเช่นแบเรียมและลิเธียมได้ถูกปล่อยออกมาเหนือชั้นโอโซนซึ่งสร้างแสงที่สามารถมองเห็นและเมฆเทียมที่สว่างขึ้นมาให้เห็นได้ในอเมริกาเหนือระหว่างทศวรรษ 1980 และในตอนต้นทศวรรษ 1990 </dd><dd>สารเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายที่สุดต่อ ?ชั้นโอโซน? และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีต่อบรรยากาศของโลก ดร.เบอร์เทลกล่าวว่า ?การเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศของโลกจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอากาศและสภาพอากาศ? อีกวิธีการหนึ่งก็คือการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำในการทดลองเปลี่ยนแปลงอากาศ คลื่นเหล่านี้สามารถผ่านเข้าไปยังผืนโลกที่แข็งและในมหาสมุทรและได้ถูกกองทัพใช้เพื่อตรวจสอบบรรยากาศเบื้องบนและโครงสร้างภายในของโลก คลื่นความถี่ต่ำเหล่านี้สามารถที่จะนำมาใช้เพื่อก่อให้เกิดผลทางด้านกลไกและความสั่นในระยะไกลทั่วโลก พวกเขาสามารถที่จะควบคุมอากาศ สร้างพายุและฝนตกหนักเหนือพื้นที่ใดก็ได้ </dd><dd>คลื่นเหล่านี้มีศักยภาพที่จะทำให้เกิดการเคลื่อนของแผ่นดิน ?มันสามารถที่จะไปรบกวนภูเขาไฟและแผ่นเปลือกโลกซึ่งจะย้อนกลับมามีผลต่อสภาพอากาศได้? เธอกล่าว ตัวอย่างเช่น เป็นที่รู้กันว่าแผ่นดินไหวมีปฏิสัมพันธ์กับบรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟียร์ (บรรยากาศที่อยู่สูงขึ้นไปจากพื้นโลกประมาณ 50-373 ไมล์) ความจริงแล้ว แผ่นดินไหวหลายครั้งที่เกิดขึ้นในปีหลังๆนี้เกิดขึ้นหลังจากปรากฏการณ์บางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้? ดร.เบอร์เทลกล่าว </dd><dd>บางตัวอย่างในหนังสือของเธอมีทั้งแผ่นดินไหวที่ถังชานในจีนซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 1976 และทำให้มีคนเสียชีวิตถึง 650,000 คน เหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนั้นเกิดขึ้นหลังการทดลองคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำเพื่อทำให้บรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟียร์ร้อนขึ้นมาโดยสหภาพโซเวียต อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือแผ่นดินไหวที่ซานฟรานซิสโก ดร.เบอร์เทลกล่าวว่าในวันที่ 12 กันยายน 1989 มีการตรวจจับคลื่นอุลตราความถี่ต่ำได้ในแคลิฟอร์เนีย คลื่นเหล่านี้เพิ่มความแรงขึ้นและในที่สุดก็หายไปในวันที่ 5 ตุลาคม แต่ต่อมาในวันที่ 17 ตุลาคมก็ปรากฏขึ้นอีกด้วยสัญญาณที่แรงจนเลยมาตรวัดไป หลังจากนั้นอีกสามชั่วโมงก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้น </dd><dd>ความจริงแล้ว หนังสือพิมพ์วอชิงตันไทม์สในเดือนมีนาคม 1992 ได้กล่าวว่าตัวเซนเซอร์ดาวเทียมและที่ภาคพื้นดินได้ตรวจจับคลื่นวิทยุลึกลับหรือกิจกรรมทางไฟฟ้าและแม่เหล็กได้ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในแคลิฟอร์เนียนตอนใต้ อาร์มีเนีย ญี่ปุ่นและแคลิฟอร์เนียเหนือระหว่างปี 1986 และ 1989 </dd><dd>แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในลอสแองเจลิสเมื่อวันที่ 17 มกราคม 1994 ก็เกิดขึ้นหลังจากที่มีคลื่นวิทยุผิดปกติและเสียงโซนิกบูมสองครั้ง ?ความบังเอิญอันแปลกประหลาดเหล่านี้ยังไม่ได้มีการอธิบาย....มันดูเหมือนมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่แผ่นดินไหวเหล่านี้บางครั้งจะเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ ไม่ใช่พลังทางธรรมชาติ? ดร.เบอร์เทล กล่าว </dd><dd>ในปี 1997 รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการที่องค์การก่อการร้ายได้ข่มขู่ว่าจะใช้วิธีการแบบธรรมชาติที่พวกตนสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การสร้างแผ่นดินไหวและการทำให้ภูเขาไฟระเบิดจากทางไกลโดยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า </dd><dd>แต่ ดร.เบอร์เทล กล่าวว่า ?กองทัพมีนิสัยชอบกล่าวหาคนอื่นว่ามีความสามารถที่ตนเองมีอยู่? ดร.เบอร์เทลบอกว่าการทดลองของหทารในบรรยากาศของโลกนี้มีให้เห็นเพิ่มขึ้นในอากาศแปรปวนทั่วโลก ระหว่างทศวรรษ 1960 และ 1990 อัตราหายนะภัยทางธรรมชาติครั้งใหญ่ได้เพิ่มขึ้นถึง 10% เธอบอกว่าปรากฏการณ์เอลนิโนในปี 1997-1998 ซึ่งถูกมองว่าเป็นสภาพอากาศผิดปกติทั่วโลกนั้นเกิดขึ้นหลังจากการรบกวนอย่างรุนแรงและความไม่สมดุลทางด้านบรรยากาศปีหนึ่งก่อนหน้านั้น </dd><dd>ในปี 1996 ดร.เบอร์เทล ได้อธิบายว่าการเกิดน้ำท่วมอย่างหนักในอนุทวีปอินเดียมีผลต่อเนปาล อินเดียและบังคลาเทศซึ่งส่งผลให้คนนับล้านต้องไร้ที่อยู่ ในจีน น้ำท่วมได้ฆ่าคนไปหลายร้อยคนในขณะที่อีกหลายหมื่นคนต้องสูญเสียบ้านและทรัพย์สินของตน ขณะเดียวกัน แคนาดาก็ต้องประสบภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วม ทอร์นาโด พายุลูกเห็บและพายุฟ้าผ่า สภาพอากาศที่ผิดปกติเหล่านี้ทั้งหมดล้วนทำลายทรัพย์สิน ปศุสัตว์และชีวิต หิมะตกหนักที่ไม่เคยเห็นในหลายศตวรรษก็เกิดขึ้นในอาฟริกาใต้ซึ่งทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารอย่างหนักและทำให้หลายคนต้องเสียชีวิตเนื่องจากความหนาวอย่างรุนแรง </dd><dd>ระหว่างวันที่ 19 กรกฎาคม แผ่นดินไหวได้เกิดขึ้นที่เทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศส ออสเตรีย อิตาลีตอนใต้ อินเดียตะวันออกเฉียงเหนือ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย คาบสมุทรคัมชัทกาและเมกซิโกตอนใต้ ส่วนในนิวซีแลนด์ได้มีภูเขาไฟระเบิดเกิดขึ้น มีรายงานแผ่นดินไหวในเคนยา เยอรมัน เกาะกรีก ตุรกี สุมาตรตอนเหนือ บาหลี ฟิลิปปินส์ตอนกลาง เกาะเหนือของนิวซีแลนด์ ญี่ปุ่นตะวันออก ชิลีตอนกลาง เอลซัลวาดอร์และหมู่เกาะอาเลนเทียน ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในวันที่ 26 กรกฎาคม เธอรายงาน </dd><dd>?ขณะที่บางเหตุการณ์ในปี 1996 อาจเป็น ?การกระทำของพระเจ้า? แน่นอน ปริมาณและความรุนแรงของมันเป็นสิ่งปกติ? เธอกล่าว ?เนื่องจากบรรยากาศของโลกมีความสัมพันธ์กับสภาพอากาศ มันจึงไม่น่าประหลาดใจที่จะพบว่ากิจกรรมทางทหารมีผลต่อรูปแบบอากาศของท้องถิ่นและภูมิภาค? ดร.เบอร์เทลเขียนไว้ </dd><dd>ความจริงแล้ว การที่กิจกรรมทางทหารสามารถทำให้อากาศแปรปวนได้โดยอุบัติเหตุหรือโดยเจตนาในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสงครามทางธรณีวิทยานั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับโลกใบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรามีความรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับ?วัฏจักรทางธรรมชาติของโลกและผลของกิจกรรมที่มนุษย์ทำขึ้นบนโลกเพื่อคาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมนุษย์ไปแทรกแซงมัน? ?ยิ่งไปกว่านั้น การคาดการณ์ดังกล่าวก็อาศัยประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติของโลกเราและไม่มีความหมายอะไรต่อการทดลองอันสุ่มเสี่ยงบนระบบโลกส่วนใหญ่ในบรรยากาศชั้นบนและใต้โลก? เธอกล่าว </dd><dd>เป็นที่ชัดเจนว่า ?กองทัพก็มีส่วนต่อปัญหาการอยู่รอดของศตวรรษที่ 21? เธอเน้น</dd>
    โดย เราะฮับ ฮาวา จาก The Earth As A Weapon In 21st Century of Wars<!-- body_text_eof //--><!-- body_eof //--><!-- footer //-->
    แปลโดย อาจารย์บรรจง บินกาซัน

    </td></tr></tbody></table>
     
  12. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    http://www.americanthinker.com/blog/2007/08/the_usiran_war_continues.html

    มันเริ่มแล้วอย่างไม่เป็นทางการ ???

    August 10, 2007
    The US-Iran War Continues

    Rick Moran
    [FONT=times new roman,times]Even if you've been following the news closely, you'd never know it but the United States of America and the Islamic Republic of Iran have been at war for months.

    This sobering dispatch from embed Bill Roggio clearly shows one of the enemies we are fighting in Iraq are the Iranian backed and Iranian trained militia groups - specifically, those belonging to the radical cleric Muqtada al-Sadr:
    [/FONT]
    [FONT=times new roman,times]Iraqi and US security forces maintain the pressure on the Shia terror groups while continuing the hunt for al Qaeda in Iraq. A joint Iraqi and US force conducted a raid inside Sadr City on Wednesday, killing 30 members of the Iranian-backed Special Groups cells and capturing 12.

    The strike force was targeting a "cell of a Special Groups terrorist network known for facilitating the transport of weapons and explosively formed penetrators, or EFPs, from Iran to Iraq, as well as bringing militants from Iraq into Iran for terrorist training," according to the Multinational Forces Iraq press release. "The targeted individual in last night’s raid acts as a proxy between the Iranian Revolutionary Guard Corps-Qods Force and the Iraqi EFP network," and "assists with the facilitation of weapons and EFP shipments into Iraq as well as the transfer of militant extremists to Iran for training."

    Two Special Groups operatives were killed and 12 captured during the initial raid, and Coalition air power was called in to strike at a large group of fighters moving in "on foot attempting an assault on the ground forces." Thirty Special Groups fighters, who are closely affiliated with the "rogue Mahdi Army" factions, were estimated to be killed in the airstrike.
    [/FONT]​
    [FONT=times new roman,times]The Qods Force has been operating with impunity in Iraq until just recently when US forces ignored Prime Minister Malikis strictures against attacking them (Maliki refers to them as "guests") and has begun to systematically hunt them down. In addition to the Qods Force, Hezb'Allah is also in Iraq, facilitating the activities on behalf of Iran of these "Special Groups" as Roggio points out: [/FONT]
    [FONT=times new roman,times]The US subsequently captured Ali Mussa Daqduq, a senior Hezbollah operative with close links to Iran's Qods Force. Daqduq is a 24-year veteran of Hezbollah, who has commanded both a Hezbollah special operations unit and Hezbollah leader Hassan Nasrallah’s security detail. Daqduq admitted to establishing the Special Groups network along the lines of Hezbollah, at the behest of Iran's Qods Force. The Special Groups cells are essentially the Iraqi version of Hezbollah. [/FONT]​
    [FONT=times new roman,times]Make no mistake. We are already at war with Iran and have been for months. They are helping to kill American soldiers while assisting the enemies of the Iraqi government in order to destablize it and bring it down. It is doubtful this conflict can be confined to the streets and back alleys of Sadr City. Sooner or later, it is likely that Vice President Cheney's argument will win out and there will be a direct clash between the two countries.[/FONT]

    http://www.americanthinker.com/blog/...continues.html
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  13. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>ประจำวันที่ 12 สิงหาคม 2550
    [​IMG]

    ไฟไหม้คลังแสงที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย อพยพยคน2หมื่น
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>[​IMG] 20:14 น. เกิดเหตุไฟไหม้คลังแสงที่ใหญ่ที่สุดในเมืองศรีนคร แคว้นแคชเมียร์ ของอินเดีย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิต 2 คน และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 35 คน และขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้โดยโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกองทัพ 2 คน เสียชีวิต หลังจากได้รับบาดเจ็บในระหว่างพยายามเข้าดับไฟ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดการระเบิดของกระสุนปืน และกลุ่มควันดำหนาทึบครอบคลุมสถานที่เกิดเหตุบริเวณภูเขาหิมาลัย
    ตำรวจเปิดเผยว่า ต้องอพยพประชาชน 27,000 คน ออกจากหมู่บ้าน 9 แห่งในรัศมี 5 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับคลังแสง คานดรู ที่อยู่ห่างไปทางใต้ของเมืองศรีนคร ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคว้นจามมู-แคชเมียร์ ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย ประมาณ 70 กิโลเมตร และอาจต้องใช้เวลา 2 วัน ในการดับเพลิง ที่ยิ่งลุกลาามเพราะแรงระเบิดที่มีความรุนแรงสูง ส่งผลให้เกิดเปลวไฟสีส้มและทำให้กระสุนระเบิดกระจายขึ้นไปในอากาศ และแม้เวลาจะผ่านมาแล้ว ก็ยังคงมีเสียงระเบิดอย่างต่อเนื่อง ทางการอินเดียยังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ แต่ปฏิเสธว่าไม่ใช่การโจมตีจากกลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านการปกครองของอินเดียในแคชเมียร์ แต่มีรายงานว่า กลุ่ม จามิอัต-อัล-มูญาฮีดีน ที่ต่อต้านอินเดีย ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังส่งโทรสารยืนยันไปที่สำนักข่าวเพรสส์ ทรัสต์ ของอินเดียอีกด้วย โดยอ้างว่า ได้ยิงจรวด 2 ลูก โจมตีคลังแสงจนเกิดไฟไหม้และการระเบิดขึ้น
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับภัยสงครามและภัยทางธรรมชาติ โดย Kananun

    [​IMG]

    สำหรับสถานที่หลบภัยผมแยกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

    1.เป็นวัดหรือถ้ำหรือสำนักปฏิบัติธรรม ที่ทราบและมีการเตรียมตัวรับเรื่องนี้ไว้แล้ว
    2.วัดหรือสำนักปฏิบัติธรรมที่ไม่ทราบเรื่อง แต่ปรับตัวตามสถานการณ์มีผู้คนมาขอพักอาศัยเพื่อความปลอดภัย แต่จะปรากฏปัญหาความขาดแคลน ปัจจัยสี่
    3.เป็นหมู่บ้านหรือชุมชน หรือ โรงแรม รีสอร์ทที่ ทราบเรื่องนี้และปรับตัวเปลี่ยนเป็นสถานที่หลบภัยเมื่อเกิดเหตุการณ์
    4.เป็นหมู่บ้านหรือชุมชนที่ไม่ทราบเรื่องแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็มีการรวมตัวเป็นหมู่คณะเพื่อความปลอดภัย แต่อาจมีปัญหาขาดองค์ความรู้ในทางธรรมทางพลังสมาธิ และการเอาชีวิตรอด
    5.ที่หลบภัยที่ชาวบ้านซึ่งอยู่ในที่ห่างไกลอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องย้ายไปไหน แต่ต้องปรับตัวเองตามสถานการณ์ที่เกิดเอง
    6.ที่หลบภัยส่วนตัวที่ ผู้มีทุนทรัพย์ไปจัดสร้างเตรียมไว้ในรูปของบ้านตากอากาศ
    7.ที่หลบภัยที่พระผู้มีอภิญญาในป่าท่านมาสงเคราะห์พาไป เนื่องจากมีหน้าที่และความเกี่ยวพันในอดีตชาติ
    8.ที่หลบภัยที่เป็นสถานที่ต่างมิติเช่น เมืองลับแล และเมืองบาดาล ของพญานาค ผู้ที่เข้าได้ต้องมีศีลธรรมและเกี่ยวพันกันมา
    9.ที่หลบภัยที่มนุษย์ต่างดาวได้มาช่วย โดยการส่งยานแม่มารับและพาออกไปนอกอวกาศ

    ทั้ง สามประเภทหลัง ผมว่าเราอย่าเพิ่งหวังเลยครับ ถ้าท่านมาช่วยจริงถือว่าเป็นโบนัสแห่งความดีที่เราได้ทำมาครับ เราควรไม่ประมาท มีสติ และช่วยตัวเองก่อน ทำตัวเองให้มีจิตใจที่ดี ที่บริสุทธ์ให้ได้ก่อนครับ ส่วนจะเลือกสถานที่แบบไหนลองใช้ปัญญาไตร่ตรองดูครับ ไม่ใช่เกิดเหตุการณ์แล้วไม่รู้จะอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร อยู่เพื่ออะไรครับ

    ต่อไปผมขอจำแนก หมู่คนในเหตุการณ์ภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดไว้ดังนี้

    1.ตาย โดยมีจิตใจเป็นอวิชชา เพราะตอนมีชีวิตมัวเมาในชีวิต ไม่มีศีลไม่มีธรรมมะประจำใจ เมื่อตายลงสู่อบายภูมิส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งหลงในโลกตกค้างเป็นสัมพเวสีอยู่โลก รอพระอริยโพธิสัตว์และพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณท่านมาโปรด ขณะยังมีชีวิตไม่อาจสงเคราะห์ได้
    2.ตาย โดยที่เป็นผู้ที่มีศีลมีธรรม แต่เป็นวาระที่ถึงอายุขัยพอดีเนื่องจากกรรมในอดีต เมื่อตาย กลับสู่ สวรรค์ พรหม บางท่านบรรลุธรรมขณะจิตดับและเข้าสู่พระนิพพาน เมื่อยังมีชีวิตถ้าได้ฝึกจิตเตรียมตัวตายและอธิฐานขอจุติในจุดที่ต้องการจะเป็นประโยชน์มาก
    3.รอดตาย แต่วิกลจริต เนื่องจากความกลัว และความยึดติดในความมี ความเป็น ไม่เข้าใจเรื่องอนิจจังความไม่เที่ยง บางคนรักษาได้ บางคนไม่ได้
    4.รอดตายจากภัยพิบัติ แต่มาฆ่ากันตายเพื่อแย่งชิง น้ำ อาหาร ที่อยู่อาศัย ปัจจัยสี่
    5.รอดตายจากภัยพิบัติ แต่มาฆ่ากันตายเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่
    6.รอดตายจากภัยพิบัติ อยู่รอดปลอดภัย เพื่อรักษาสืบต่อพระศาสนา
    7.รอดตายจากภัยพิบัติ และอยู่รอดเพื่อทำหน้าที่บำเพ็ญบารมีช่วยเหลือผู้คนและสรรพสัตว์ต่อไป

    ในหมู่ที่ 5. นี้น่าสลดสังเวชใจที่สุดเพราะบางคนมีวิชา และสมาธิสูงแต่ถูกมิจฉาทิษิฐิครอบงำจนลืมอุดมการณ์ความดีงามที่ได้เคยทำมา ทั้งที่ควรได้ใช้วิชาความรู้ที่มีมาเป็นกำลังช่วยเหลือผู้อื่น ขอให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยครับ และตั้งใจเป็นประเภทที่ 6 และ 7 ครับ

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ครับ เป็นเรื่องของกฏแห่งกรรม และพลังงานของกรรมชั่วที่มนุษย์บนโลกได้กระทำสืบทอดสะสมกันมา เมื่อพลังงานของกรรมชั่วได้เพิ่มมากขึ้นจนเกินสมดุลของโลกจะทานไว้ได้ ก็มีการชำระล้างกันอีกรอบหนึ่งครับ เหตุที่มีการรู้สึกว่ามีการเลื่อนมา หลายปีนั้น ท่านบอกว่า มีมนุษย์เท่านั้นที่ติดสมมติเรื่องเวลา และภาษา ในโลกของจิตวิญญาน มีเพียงเหตุเป็นตัวกำหนดผลที่จะตามมาครับ นั้นคือกฏแห่งกรรมครับ

    ครั้งนี้มนุษย์โลภโมโทสัน และทำลายธรรมชาติยิ่งกว่ายุคสมัยใด ผมบอกได้เต็มปากเลยว่า เป็นความผิดของทุกคนบนโลก รวมทั้งตัวผมเองด้วย ในความเลวความชั่วแม้เพียงเล็กน้อยของเรา มันกลายมาเป็นผลของกรรมที่มาทำให้ต้องมาเผชิญในอนาคตอันใกล้นี้ครับ เรามาทำจิตของพวกเราให้บริสุทธ์และมีพลังเพื่ออย่างน้อยก็ให้มีโลกใบนี้หลงเหลืออยู่ มีประเทศไทยไว้สืบต่อพระศาสนาให้ครบ 5,000 ปีครับ แล้วก็เก็บประสบการณ์ที่ผิดพลาดนี้ไว้เล่าให้ลูกหลานของเราได้ฟังครับ

    เมื่อคืนวันจันทร์(2/08/2006) ผมฝันครับว่า เห็นภาพซากทารกจากการทำแท้ง เป็นภาพสีสดๆ ชัดเจน จากนั้นพอตื่นพอจะเคลิ้มๆ ก็มีนิมิตเห็นเด็กเล็กๆ คลานเต็มไปหมด แล้วได้ยินเสียงเด็กเล็กๆ ร้องว่า"โอ้ย ลำบากจัง ลำบากจัง" ก็เลยนึกได้ว่าพวกเค้าลำบากมีทุกข์กัน แสดงภาพในฝันอย่างเดียวกลัวผมลืม เลยมาคอนเฟิร์มในนิมิตอีกรอบ ผมเลย แผ่เมตตาให้ตามระเบียบ ที่ควรปฏิบัติ ในนิมิตก็เห็นพวกเค้าสบายขึ้น พอกลางคืนมาสวดมนต์นั่งสมาธิ ลองใช้จิต ดูก็ พบว่า ในปัจจุบันในเวลาไม่กี่ปีมานี้ เฉพาะในประเทศไทยมีการทำแท้งไปไม่น้อยกว่าแสนรายแล้ว ภาวะของกรรมมีการสะสมตัวมากจน Overload แล้ว ดังนั้นทางหนึ่งที่จะช่วยได้ก้คือ พวกเราพยายามแผ่เมตตาเพื่อช่วยสลายแรงกรรมแรงพยาบาทให้เบาบางลง ทำความดี สร้างบุญกุศล บารมี ทำจิตใจของเราให้บริสุทธิ์เพื่อช่วยสร้างสมดุลของพลัง และเพื่อการเร่งการปฏิบัติเพื่อความดีของตัวเราเองครับ

    สำหรับการเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อรับมือกับภัยพิบัตินี้ เราควรทำตัวอยู่ในสองมิติให้สมดุลครับ คือ ในฐานะของคนปกติใช้ชีวิต ทำอาชีพการงานตามปกติไม่ตื่นตระหนก บอกคนอื่นเรื่องนี้บ้าง เตือนบ้างตามโอกาสและกาลเทศะที่เหมาะสม ถ้าคนเค้าเชื่อเราค่อยแนะนำต่อ ถ้าเค้าไม่เชื่อก็เฉยๆ ให้วางใจเป็นอุเบกขาอย่าไปเดือดเนื้อร้อนใจกับพวกเขา กรรมใครกรรมมัน ให้เราระลึกไว้ว่าพวกเราไม่สามารถช่วยทุกคนบนโลกนี้ได้(ถึงแม้เราอยากจะทำอย่างนั้นก็ตาม) เพราะ กฏแห่งกรรม และพวกเขาเหล่านั้นต้องช่วยตัวเองด้วยครับ

    ส่วนในอีกมิติของพวกเราก็จงเป็นผู้ฝึกฝนตนเอง ทั้งร่างกาย และจิตใจ ให้มีพลังขึ้น มีความตั้งมั่นขึ้น มีความบริสุทธิ์สูงขึ้น อย่าลืมว่าเกณฑ์ในการสงเคราะห์ของเบื้องบนนั้นท่าน เลือกผู้มีความเมตตา มีคุณธรรม มีจิตใจที่บริสุทธิ์ครับ เพราะโลกในยุคสมัยหลังมีหลงเหลือแต่คนดี คนมีศีลธรรมครับ ยุคนั้น พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองคล้ายสมัยพุทธกาล มากด้วยผู้บรรลุธรรมและพระอริยเจ้าครับ น่าชื่นใจจัง

    ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=42069&page=13
    <!-- / message -->
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภาพมหัศจรรย์ของพระแม่มารีย์

    [​IMG]

    รูปนี้ถ่ายดวงอาทิตย์บริเวณด้านหน้าโบสถ์ของคุณพ่อ โจโซ เวลา 12.30 น. เป็นวันที่พระอาทิตย์ส่องแสงจ้า จะสังเกตุเห็นรูปแม่พระอยู่ใต้พระอาทิตย์ เราเชื่อว่านี่เป็นของขวัญจากพระเป็นเจ้า"
    With love, Don and Mary Lou Clark
    239 Van Evera road Tallmadge, OH 44278


    [​IMG]

    เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2007
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภาพล้อเลียนการเมืองของคนอเมริกา

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพจากทางอินเตอร์เน็ต
     
  17. tommytommy

    tommytommy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +28
    http://hiptv.mcot.net/hipPlay.php?id=11180

    คุณ สมิทธ ธรรมสโรช ในรายการ The Icon หัวข้อ ภัยพิบัติคุกคามโลก เมื่อ 29/06/50
     
  18. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วันนี้ได้มีเพื่อนทางธรรมในเวบพลังจิตท่านหนึ่งได้โทรมาหาผม เพื่อให้ข่าวสารมาถึงพวกเราทุกท่านว่า


    "ครูบาอาจารย์ของท่านได้มาบอกว่า ตอนนี้เบื้องบนท่านได้เดินผังตามความเป็นไปของกฏแห่งกรรมไปแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่า

    ใครจะอยู่ ใครจะตายล้วนเป็นไปตามกฏของกรรมที่ตนเองได้ทำเอาไว้ ภัยพิบัติต่างๆ ไม่มีการ เลื่อน ไม่มีการต่อรองใดๆแบบในอดีตที่ผ่านมาอีกแล้ว การทำลายล้างจะดำเนินไปตามธรรมชาติของมันเอง

    และในไม่ช้า ในทุกสายการปฏิบัติ รวมไปถึงในทุกศาสนา ก็จะได้รับทราบ แมสเสจหรือคำเตือนนี้ใน ทำนองเดียวกัน

    สิ่งที่จะสื่อถึงผู้ปฏิบัติ ก็คืออย่าได้ละเลยในความดี ในกุศล ให้ บุญกุศลแนบจิต แนบใจของเราทุกคนเอาไว้ ในจิตติดบุญเป็นสำคัญ

    หากพลาด รอบนี้เขาเก็บลง ข้างล่างที่ค่อนข้างลึกและจะเก็บยาวครับ เพราะเป็นช่วงเวลาการคาบเกี่ยวแห่งยุคสมัยที่สำคัญยุคหนึ่ง"


    ก็คล้ายกับที่ผมเคยได้แมสเสจมาว่า ข้างบนเขาปล่อยให้เป็นไปตามกฏของกรรม พระและเทวดาท่านหยุดและถอนกำลัง ไปหลายๆจุด หลายๆส่วนแล้ว

    ดังนั้น ให้จิตแนบในกุศลเอาไว้เป็นสำคัญครับ
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิสัชชนาว่าด้วยการรวมศาสนาเป็นหนึ่งเดียวโดยมีพุทธศาสนาเป็นศาสนาสากล
    โดยคุณเอกอิสโร วรุณศรี

    [​IMG]


    <TABLE width="100%" bgColor=#bbddff border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>
    พอดีว่าได้ไปตอบกระทู้ในพันธ์ทิพย์มา แล้วจึงได้คัดลอกมาให้ท่านที่ไม่อยากไปพันธ์ทิพย์ได้อ่านกันตรงนี้...
    สืบเนื่องจากมีผู้ตั้งตอบในกระทู้ที่ผ่านมาว่า ในอนาคตหลังจากเกิดสงครามใหญ่จนแต่ละฝ่ายล้มตายไปฝ่ายละครึ่ง สงครามจะยุติ และศาสนาจะรวมกันเป็นหนึ่งโดยมีพุทธศาสนาเป็นศาสนาสากล โดยจะมีพระเอกที่อายุไม่เกิน 40 ปี มีอภิญญา เหาะเหินเดินอากาศได้นั้น เมื่อคืนนี้กลางดึก จิตก็แว้บถึงกระทู้นี้จึงได้คำตอบที่จะมาวิสัชชนาเป็นดังนี้
    1.ความเป็นไปได้ที่ศาสนาทุกศาสนาจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ข้อนี้หากจะเกิดขึ้นได้ ท่านว่าให้ดูว่าเมื่อไหร่ที่ศาสนาพุทธสามารถรวมกันได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้นั่นหล่ะจึงจะส่อเค้าให้เห็นว่าศาสนาทั้งหลายจักรวมกันได้เป็นหนึ่ง เพราะในปัจจุบันในศาสนาพุทธก็แบ่งแยกออกเป็นนิกาย ลัทธิต่างต่าง ๆ มากมาย เอาแค่ใหญ่ ๆ คือมหายาน กับ หินยาน ก็มีข้อเปรียบเทียบกันแล้วว่าของข้าดีกว่า ของท่านดีน้อยกว่า ลองมาดูในส่วนของหินยานหรือเถรวาทในประเทศไทยเรา ซึ่งก็แบ่งเป็นฝ่ายมหานิกาย และธรรมยุต พิจารณาลงไปถึงขั้นปฏิบัติ ก็แยกลงไปอีกเป็น สมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ต่างฝ่ายก็อ้างว่าของตนดีกว่าเหนือกว่า ฝ่ายวิปัสสนาที่เน้น พองหนอ ยุบหนอ ปวดหนอ ร้อนหนอ ก็ว่าแนวทางของตนคือทางสายเอก ส่วนที่ภาวนา พุท-โธ พุท-โธ หรือ สัมมาอะระหัง หรือ นะมะ พะธะ เป็นได้แค่อุบายทำใจให้สงบ ไปไม่ถึงพระนิพพาน จนทำให้พุทธศาสนิกชนที่ใฝ่ปฏิบัติงงไปตาม ๆ กัน ว่า ตกลงจะไปสายไหนดี ผมจึงว่าให้ดูจุดนี้ก่อน ถ้าศาสนาพุทธรวมกันได้เป็นหนึ่งเมื่อใด ความคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ที่ศาสนาอื่นจะมารวมกันจึงจะเกิดขึ้น แต่จะต้องมีเหตุมีปัจจัย..
    2.เหตุปัจจัยที่จะทำให้แต่ละศาสนาซึ่งมีความศรัทธา ความเชื่อของเขามาเป็นเวลาช้านานจะยอมหันเห มาสู่พระพุทธศาสนานั้น แสดงว่าจะต้องพลังอำนาจมหาศาลในทางฟิสิกส์เรียกว่าโมเมนตัมที่มากพอ ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันนี้ โมเมนตัมอธิบายด้วยสูตรทางวิทยาศาสตร์คือ
    โมเมนตัม = มวล x ความเร็ว ; ความเร็ว = ความเร่ง x เวลา ; มวล = แรง /ความเร่ง ดังนั้น
    โมเมนตัม = แรง/ความเร่ง x ความเร่ง x เวลา หรือ โมเมนตัม = แรง x เวลา
    เมื่อพิจารณาจากผู้ตอบกระทู้ที่ยกคำทำนายของพระอริยเจ้าว่าเหตุการณ์จะเกิดในเร็ววันนี้ ก็แสดงว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2007
  20. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post651187 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>madastro<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_651187", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:21 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: กามาวจรภพ
    ข้อความ: 4 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนาบุญ 14 ครั้ง ใน [ARG:2 UNDEFINED] โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_651187 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->คำตอบในเรื่องภัยพิบัติ จากหลวงพ่อสิริ
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->สวัสดีครับชาวพลังจิตทุกท่าน

    ผมเป็นสมาชิกบอร์ดนี้มานานแล้ว แต่ไม่เคยโพสอะไรเลย ได้แต่ตามอ่านอย่างเงียบๆครับ
    ผมได้รับรู้เรื่องภัยพิบัตินี้ครั้งแรกก็ที่นี่แหละครับ หลังจากนั้นก็ได้รู้เรื่องคำทำนายต่างๆมาเป็นระยะๆ รวมถึงหนังสือเรื่องคำทำนายภัยพิบัติที่หลวงพ่อสิริ (กนฺตสิริ ภิกฺขุ วัดถ้ำชี จ.เพชรบุรี) นำมาพิมพ์แจกเป็นธรรมทานด้วยครับ ในนั้นก็มีใจความเหมือนกับที่ได้อ่านจากในบอร์ดนี้ล่ะครับ

    ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้กลับบ้านที่เพชรบุรี และได้ขึ้นไปกราบหลวงพ่อสิริบนเขากิ่วด้วย หลังจากฟังเทศน์เสร็จและคนที่เข้าไปกราบหลวงพ่อเริ่มทยอยกลับกันไปแล้ว หลวงพ่อก็หันมาทางผม แม่ และญาติอีก2คนที่ขึ้นไปด้วย และถามว่า "มีอะไรสงสัยหรือ"
    หลังจากที่ผมนั่งเรียบเรียงคำพูดอยู่สักพัก ผมก็ตัดสินใจถามว่า
    "เมื่อไหร่จะเกิดภัยพิบัติดังที่คำทำนายเขาว่าไว้หรือครับ"

    ธรรมดาหลวงพ่อจะไม่ตอบคำถามแบบนี้นัก และมักจะตอบกลับมาในใจความว่า "ไม่ใช่กิจของเราซะหน่อย รู้ไปทำไม" แต่ครั้งนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด หลวงพ่อจึงยอมตอบคำถามไร้สาระของผม
    คำตอบของหลวงพ่อ จากเท่าที่ผมพอจะเรียบเรียงออกมาได้ก็มีใจความประมาณนี้ครับ


    ---------------------------------------------------------------------



    "เรื่องภัยพิบัติในคำทำนายน่ะ ไม่ต้องรอให้มันเกิดหรอก ตอนนี้ล่ะมันกำลังเกิดอยู่เลยล่ะ ก็ดูอย่างที่เมืองนอก ก็มีภัยธรรมชาิติแรง เขาร้อนตายกันประเทศละเป็นร้อยเป็นพันคน ไหนยังจะมีน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม พายุเข้า เดือดร้อนกันไปทั่ว ทุกอย่างแปรปรวนหมด เราก็เห็นกันเห็นประจำ
    เราก็เห็นแล้วก็รู้กันอยู่ว่ามันรุนแรงกว่าที่เคยเกิดขึ้นเยอะ แต่ที่หลายคนไม่รู้ว่ามันกำลังเกิด เพราะว่าในหนังสือ (คำทำนาย) มีเรื่องน่าเหลือเชื่อและคำบรรยายที่รุนแรงอะไรมากมาย แต่พอมันเกิดจริงๆแล้วก็เป็นอย่างที่เห็น
    ส่วนของเมืองไทยที่ดูเหมือนไม่โดนอะไร ที่เห็นว่ามันไม่รุนแรงอย่างที่คิด ก็เพราะว่าคนบนโลกไม่ได้ชั่วกัน100%
    บารมีของคนดีเขาช่วยกันต้านไว้ บารมีของพระอริยเจ้าไปจนถึงพระโพธิสัตว์ก็ช่วยด้วย โดยเฉพาะตอนนี้มีคนที่กำลังช่วยเรื่องนี้กันอยู่อย่างจริงจัง ในไทยก็มีเยอะ ถึงคนชั่วจะมี7ส่วน คนดีมี3ส่วน อย่างที่เขาว่ากัน แต่ความดีของคนดี3ส่วนนั้นน่ะมันต้านภัยร้ายที่จะมาถึงได้50-50เลย เขาส่งความดีไปต้านเอาไว้ มันหักล้างกันไปบ้าง มันเลยดูเหมือนไม่มีอะไร
    ไอ้ที่เห็นว่ามีภัยรุนแรงแล้วตายกันเยอะนั่นคือมันต้านกันไว้ไม่ค่อยอยู่ มันก็เลยมีหลุดๆมาบ้าง เช่นสึนามิตอนปี48นั่น ถือเป็นสิ่งที่ทำให้รู้ว่ามันกำลังเกิดขึ้นจริงๆ
    ซึ่งจริงๆแล้วมันต้องเสียหายมากกว่านี้แล้ว ถ้าไม่มีความดีมาช่วยไว้ก็เละไปแล้ว
    อย่าชะล่าใจว่ามันยังไม่เกิด ช่วยกันทำความดีเอาไว้ ไม่ใช่เพื่อตัวเองอย่างเดียว แต่เพื่อส่วนรวมด้วยนั่นแหละ
    อย่าประมาทในการทำความดี ก็ดีแล้ว ดีแล้วที่ถาม นะ"



    --------------------------------------------------------------------

    ก็อย่างที่เห็นกันอยู่ในข่าวตอนนี้ล่ะครับ ว่ามันรุนแรงแค่ไหน คงจะจริงอย่างที่หลวงพ่อท่านว่า มันกำลังเกิดอยู่เลยล่ะครับ ทั้งพายุ3ลูกที่เกิดพร้อมๆกันในทะเลจีนใต้ในตอนนี้ก็พอจะบอกได้ ที่เห็นว่าไม่รุนแรงนั้น ตอนนี้ก็คงเรียกได้ว่า กำลังผ่อนส่งกันอยู่ก็ว่าได้มั้งครับ

    โดยเฉพาะตอนนี้มีคนที่กำลังช่วยเรื่องนี้กันอยู่อย่างจริงจัง <<< ได้ยินประโยคนี้แล้วนึกถึงที่นี่เลยล่ะครับ แหะๆ

    ขอบขอบคุณและอนุโมทนาทุกๆท่านที่กำลังทำงานหนักเพื่อต่อต้านภัยพิบัตินี้อยู่นะครับ ขอบคุณจริงๆครับ
    ผมซึ่งอาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากก็ขอเอาใจช่วยและขอทำดีช่วยด้วยอีกแรงนะขอรับ

    หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอให้ความผิดตกอยู่ที่ข้าพเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

    ขอให้เจริญธรรม

    ปล.1 ส่วนเรื่องสงครามนิวเคลียร์และประเด็นอื่นๆผมไม่กล้าถามน่ะครับ แต่ไม่เกิดเลยย่อมดีกว่า

    ปล2. บนสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำชี(เขากิ่ว) ไม่มีทีวี... แล้วท่านรู้ข่าวต่างๆได้ยังไงล่ะเนี่ย =[]=
    <!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย madastro : วันนี้ เมื่อ 06:05 PM. เหตุผล: แก้คำผิดครับ
    <!-- / edit note --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...