สิ่งที่เป็นของโลก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 11 สิงหาคม 2012.

  1. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    น่าเบื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...
     
  2. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ถ้าคุณทราบว่าจิตคืออะไรคุณคงไม่มานั่งทุกข์อยู่อย่างนี้หรอก เพราะถ้าทราบจิตก็รู้อัตตาจากอนัตตา ผัสสะนั่นแหละตัวทำเกิดสมุทัย อายตนะคุณไม่สำรวมจึงเป็นที่โมหะ...
     
  3. ariyaidea

    ariyaidea Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +42
    ขอบคุณ คุณpaetrix มากครับที่ยก โพชฌงค์ 7 มาให้อ่าน อนุโมธนาสาธุครับ
     
  4. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    รู้ตัวด้วยหรือครับ

    สาธุครับ
     
  5. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ก่อนจะสอนผู้อื่น กรุณาทำตัวของคุณเองให้ปกติเสียก่อนเถอะครับ

    สาธุครับ
     
  6. ariyaidea

    ariyaidea Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +42
    ใจร่มๆกันนะครับ อาจจะมีสมาชิกเวบหลายคนเหมือนผมที่เข้ามาอ่านกระทู้ ผมเชื่อว่าหลายๆท่านนั้นเลือกรับหรือไม่รับ หลายท่านไม่ได้ใส่อารมณ์เข้าไปในข้อความ เวลาแสดงความเห็น ข้อความเหล่านั้นย่อมเป็นกลางๆ ที่ไม่เฉพาะบุคคล เจาะจงไปยังบุคคลได้ ทุกคนรับรู้ถึงข้อความนั้นๆได้
    การตำหนิผู้อื่น มีแต่จะทำใจตัวผู้ตำหนิเป็นทุกข์ พิจารณามองหลายๆมุม ข้อความท่านอื่นๆอาจจะเป็นตัวเราในอีกด้านที่เราเองก็มองไม่เห็นรึมองข้ามอยู่

    ผมชอบเวบนี้ครับ ^_________^"
     
  7. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ไม่ได้อยู่ในการนึกคิดเลย ว่า กระทู้นี้จะยาวขนาดนี้ จากเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย

    สิ่งที่เป็นประโยชน์ เริ่มจะแสดงโทษออกมาอย่างเด่นชัดเสียแล้ว กลายเป็นการถกเถียงที่ไร้สาระ

    ไม่เอื้อประโยชน์ใดๆอีกแล้ว ผู้ที่เข้ามานำประโยชน์มา ดั่งเช่นคุณแพททิก ผมขออนุโมทนาครับ

    สาธุครับ
     
  8. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    อนุโมทนาในความคิดเห็นครับ

    สาธุครับ
     
  9. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    การแสดงธรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ โดยนำความรู้ ความเข้าใจของตนเองมาแสดง

    โดยไม่ได้มุ่งหวังที่จะถูกมากกว่า รู้มากกว่า ผู้อื่นผู้ใด เป็นการเอื้อประโยชน์แก่ส่วนรวม

    ไม่มีใครผิดหลอกครับ แต่จะรู้มาไม่เหมือนกัน นำมาแบ่งปันกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ที่มี

    จะเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมมากกว่า ที่จะมาคอยจับผิด ว่าคนนั้นผิด คนนี้ผิด ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด

    สิ่งที่จะได้คือ การถกเถียงที่ไม่รู้จักจบ จักสิ้น การเตือนก็เตือนเพียงครั้งสองครั้ง ก็เพียงพอแล้ว

    เพราะไม่มีใครที่จะสามารถไปเปลี่ยนแปลงการนึกคิดของผู้อื่นได้ ยกเว้นเปลี่ยนแปลงแนวการนึกคิดของตนเอง

    สาธุครับ
     
  10. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    รู้มากกว่าแล้วหลุดพ้นไหม?

    เรียนมามากกว่าแล้วหลุดพ้นไหม?

    ปฎิบัติด้วยการตั้งใจจริง หลุดพ้นไหม?

    คำตอบเหล่านี้คงบ่งบอกได้ชัดเจนนะครับ ตอบเองจะได้ไม่มีการถกเถียง

    สาธุครับ
     
  11. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    หลบโดยการประกาศไปทั่ว???
     
  12. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผลจากการมุสา ส่งผลให้ผู้ที่ได้พานพบไม่เชื่อถือ ซ้ำยังทำให้ตนเองไม่เชื่อถือผู้อื่นเช่นกัน

    ด้วยนึกคิดว่าผู้อื่นก็ต้องมุสาเช่นเดียวกันกับตน ทำให้พลาดโอกาศที่จะได้ล่วงรู้ความเป็นจริงที่มีเกิดขึ้น

    จะกลายเป็นผู้ที่ไม่ไว้วางใจผู้ใด และ ชื่นชอบในเรื่องมุสา จึงเป็นเหตุนำพาให้ไปสู่ความต่ำในที่สุด

    ศีลข้อที่ ๔ นี้ มีผลสะท้อนมากมาย ซ้ำยังเป็นที่รังเกลียดในหมู่มนุษย์ ไม่เป็นที่สรรเสริญ

    สาธุครับ
     
  13. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ข้อตั้งเป็นข้อๆ เพื่อสะดวกแก่การสนทนา
    - ธิเดช ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนว่าผู้หญิง(อ่านตรงสีแดง)ในสมัยพุทธกาลมีไหมผู้หญิงที่สนใจ เช่น พระภิกษุณีในพุทธกาล?
    - การเจริญสติปัฏฐาน ๔ มันแตกต่างกับการปฏิบัติตรงไหน ที่ว่ายังไม่ถูกทาง ? ว่ามา
    - การฝึกจิตให้สงบคอยป้องกันสิ่งยั่วยุ แล้วสิ่งยั่วยุใครจะมายั่วยุ ? อธิบาย
    - ตรงไหนคุณคิดว่าถามลองภูมิเอาให้ดูหน่อย? อย่ามั่ว
    - อย่างไรล่ะ มองตรงไหนที่ว่าเห็นแก่ตัวในการปฏิบัติ ? สงสัย
    - เคยหยิบพระไตรปิฎกมาอ่านบ้างไหมจึงอ้างพระไตรปิฎก ? (ก็ว่าไม่เคยเอาตามตำรา) ฝึกเอาเองรู้เอาเองที่บ้าน
    - การถกธรรมเป็นการหาเรื่องถกเถียง คิดได้อย่างไร ? งั้นถ้าใครถามก็เป็นการหาเรื่องทั้งหมดหรือ?
    - การเตือนคนอื่นว่าไม่ดีน่ะตนเองดีแล้วหรือยัง ? เคยสอนไว้ไม่ใช่หรือว่าให้มองตนเองไม่ให้มองคนอื่น(ลืมไปแล้วหรือ)
    - การที่เข้ามาถามนั้นก็เพื่อความกระจ่างในธรรมว่ารู้มาจริงแค่ไหนจะได้เชื่อถือ ไม่ใช่แต่จะมาถกเถียง ก็ธิเดชเป็นผู้รู้เราก็ต้องเป็นผู้ถาม จริงไหม?
    - เหตุทีทำให้พระศาสนาเสื่อมที่ผมยกมานั้น ผมเข้าข่ายข้อไหน ? ว่ามา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 สิงหาคม 2012
  14. JitJailove

    JitJailove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +741

    การตอบโพสท์อย่างนี้ ก็ไม่ต่างจากคนทะเลาะกัน
    เลิกยกตัวเองอยู่เหนือคนอื่นได้แล้ว
    การตอบคุณคีบอร์ดแบบนี้ เค้าเรียกว่า กวนโอ้ย

    เลิกยกตัวไว้เหนือ...ปัญญาคนทะเลาะได้แล้ว สะอิดสะเอียนเต็มทนแล้ว
    แล้วตัวเองก็ทำตัวเป็นคนคอยจับผิดอื่น...เพื่อให้คนเห็นว่าตนเองดีไม่ทะเลาะ
    แท้ที่จริง....นี่แหล่ะที่โพสท์ตอบคนอยู่นี่แหล่ะ เค้าก็เรียกว่าทะเลาะ

    เลิกเป็นคนปากว่า ตาขยิบซะที
    เห็นแล้ว อายแทนเลยค่ะ
     
  15. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    รู้มากกว่าแล้วหลุดพ้นไหม?
    - คนรู้มามากแล้วไม่นำไปปฏิบัติมีไหม? นั่นมันคือคนโง่


    เรียนมามากกว่าแล้วหลุดพ้นไหม?
    - คนที่ปฏิบัติ ไม่ได้ศึกษามาเลย จะเอาความรู้ที่ไหนมาปฏิบัติให้ถูกต้องจริงไหม?

    ปฎิบัติด้วยการตั้งใจจริง หลุดพ้นไหม?
    - การปฏิบัติโดยตั้งใจจริง แต่ขาดความรู้จริง จะหลุดพ้นไหม ? ทำแบบโง่ๆซิ


    คำตอบเหล่านี้คงบ่งบอกได้ชัดเจนนะครับ ตอบเองจะได้ไม่มีการถกเถียง
    - ชัดเจนตรงไหน บอกด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 สิงหาคม 2012
  16. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ขอต่อเรื่อง วิชชา วิมุติ บริบูรณ์ เพราะโพชฌงค์บริบูรณ์..พระวจนะ"ภิกษุทั้งหลาย โพชฌงค์ทั้งเจ็ด อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร ทำให้มากแล้วอย่างไร จึงทำวิชชาและวิมุติให้บริบูรณ์ได้?..........ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวกวิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ(ความสละลง)............ย่อมเจริญธัมวิจัยสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก วิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ.........................ย่อมเจริญ วิริยสัมโพชฌงค์ อันอาศัย วิเวก วิราคะ อันอาศัย นิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ.....................ย่อมเจริญปิติ สัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อันอาศัยวิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ.................ย่อมเจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวกวิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ.................ย่อมเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์อันอาศัยวิเวก อันอาศัยวิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ.......................ย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อันอาศัย วิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ................ภิกษุทั้งหลาย โพชฌงค์ทั้งเจ็ด อันบุคคลเจริญแล้วอย่างนี้ ทำให้มากแล้วอย่างนี้แล ชื่อว่าทำ วิชชาและ วิมุติให้บริบูรณืได้ ดังนี้...............(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาส):cool:
     
  17. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...........ฟองไข่ออกเป็นตัว มิใช่โดยเจตนาของแม่ไก่(อาสวะสิ้นเองเมื่อ ปฎิบัติชอบ)......พระวจนะ"...ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุตามประกอบการเจริญภาวนาอยู่ โดยแน่นอน เธอไม่ต้องปรารถนา ว่า โอหนอ จิตของเราพึงหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่มีอุปาทาน เถิด...ดังนี้ จิตของเธอนั้นย่อมหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่มีอุปาทานได้เป็นแน่ ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า? ข้อนั้นเพราะว่า เธอมีการเจริญ สติปัฎฐานสี่ สัมมัปธานสี่ อิทธิบาทสี่ อินทรีย์ห้า พละห้า โพชฌงค์เจ็ด อริยมรรคมีองค์แปด....ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนฟองไข่8ฟอง 10ฟอง หรือ12ฟอง อันแม่ไก่กกดีแล้ว พลิกให้ทั่งดีแล้ว คือฟักดีแล้ว โดยแน่นอน แม่ไก่ไม่ต้องปรารถนาว่า โอหนอ!! ลูกไก่ของเรา จงทำลายกระเปาะฟองด้วยปลายเล็บเท้า หรือ จะงอยปาก ออกมาโดยสวัสดีเถิด ดังนี้ ลูกไก่เหล่านั้นก็สามารถทำลายกระเปาะด้วยปลายเล็บเท้า หรือ จะงอยปาก ออกมาโดยสวัสดีได้โดยแท้ ฉันใดก็ฉันนั้น................(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาส):cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2012
  18. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ............อย่าชมมากครับ...ผมแค่ก้อปปี้โชว์...ตัดแปะ เห็นมีเนื้อหา ลิ้งค์ ลิ้งค์ ลิ้งค์กัน ก็นำมาช่วยกันดู:cool:
     
  19. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    - ธิเดช ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนว่าผู้หญิง(อ่านตรงสีแดง)ในสมัยพุทธกาลมีไหมผู้หญิงที่สนใจ เช่น พระภิกษุณีในพุทธกาล?
    -ผมบอกว่าอย่างไรครับ ต่อไปผู้หญิงจะมาบำรุงศาสนาแทน บ่งบอกว่าผู้หญิงจะมากขึ้น ส่วนผู้ชายจะลดลง และ ภิกษุณีทำไมจึงต้องถือศีลมากกว่าพระสงค์ มีสาเหตุอยู่ในส่วนนี้

    - การเจริญสติปัฏฐาน ๔ มันแตกต่างกับการปฏิบัติตรงไหน ที่ว่ายังไม่ถูกทาง ? ว่ามา
    -ความสงบเมื่อไม่เกิดขึ้นย่อมไม่เห็นการเคลื่อนไหว หากไม่หยุดย่อมเคลื่อนไหว แล้วจะเห็นการเคลื่อยนไหวได้อย่างไร

    - การฝึกจิตให้สงบคอยป้องกันสิ่งยั่วยุ แล้วสิ่งยั่วยุใครจะมายั่วยุ ? อธิบาย
    สิ่งที่ยั่วยุเกิดจากการที่ตนเองได้สัมผัส ได้คุ้นเคยอยู่เสมอ เมื่อพบเจอในสิ่งที่ตนคุ้นเคยก็ยากที่จะทนไหว

    - ตรงไหนคุณคิดว่าถามลองภูมิเอาให้ดูหน่อย? อย่ามั่ว
    -คุณถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว ยังไม่เรียกว่าลองภูมิอีกหรือครับ พอมีคนทักก็ดิ้นรนหาคำมาแก้ต่าง

    - อย่างไรล่ะ มองตรงไหนที่ว่าเห็นแก่ตัวในการปฏิบัติ ? สงสัย
    -คุณศึกษาตามพระไตรปิฎก เคยไหมที่รับฟังเหตุผล เคยไหมที่เห็นว่าการกระทำของผู้อื่นไม่มีคำว่าถูก ไม่มีคำว่าผิด

    - เคยหยิบพระไตรปิฎกมาอ่านบ้างไหมจึงอ้างพระไตรปิฎก ? (ก็ว่าไม่เคยเอาตามตำรา) ฝึกเอาเองรู้เอาเองที่บ้าน
    ผมไม่เคยอ่านครับ ฝึกเอาเองที่บ้านครับ แต่มนุษย์นั้นเกิด-ตายมากี่ครั้งแล้วครับ คุณเคยย้อนไปในอดีตไหมครับ การศึกษานี้ก็ศึกษามาแล้วมากมาย แต่ทำไมยังกลับมาเกิดอยู่อีก แม้แต่ตัวผมเอง แต่เมื่อผมเห็น้หตุแห่งการเกิดแล้วจึงได้เข้าใจ และ นำมาบอกกล่าว

    - การถกธรรมเป็นการหาเรื่องถกเถียง คิดได้อย่างไร ? งั้นถ้าใครถามก็เป็นการหาเรื่องทั้งหมดหรือ?
    -การถกธรรมในสมัยหนึ่งนั้น เขาไม่มาหาเหตุถกเถียง เขาสนทนาด้วยเหตุผล แต่ที่คุณทำอยู่นี้ใช่การเอาชนะไหมครับ เคยยอมรับตนเองไหมครับ

    - การเตือนคนอื่นว่าไม่ดีน่ะตนเองดีแล้วหรือยัง ? เคยสอนไว้ไม่ใช่หรือว่าให้มองตนเองไม่ให้มองคนอื่น(ลืมไปแล้วหรือ)
    -ใช่ครับ การตักเตือนทำกันเพียงครั้งเดียว แล้วเขาไม่รับฟัง ผู้ปฎิบัติด้วยกันย่อมหยุดการตักเตือนลง ผมเข้าไปเตือนก็แค่ครั้งเดียว แต่คุณกลับเข้ามาในกระทู้ผม และ ทำการหยิบยกที่เข้าใจว่าเป็นเหตุ เป็นผล เพื่อการถกเถียง เพื่อเหตุใดครับ

    - การที่เข้ามาถามนั้นก็เพื่อความกระจ่างในธรรมว่ารู้มาจริงแค่ไหนจะได้เชื่อถือ ไม่ใช่แต่จะมาถกเถียง ก็ธิเดชเป็นผู้รู้เราก็ต้องเป็นผู้ถาม จริงไหม?
    -ผมได้บอกไปแล้วว่าถามได้ครับ แต่ถามเพื่ออะไร ได้ประโปยชน์ไหม และ ถามด้วยเหตุ-ผล

    - เหตุทีทำให้พระศาสนาเสื่อมที่ผมยกมานั้น ผมเข้าข่ายข้อไหน ? ว่ามา<!-- google_ad_section_end -->
    -คุณต้องสังเกตุตนเองแล้ว เพราะผมก็ได้อธิบายไปแล้ว ผู้ที่ตักเตือนไม่ได้ ผมก็ไม่ตักเตือนครับ เพราะชีวิตเป็นของส่วนตัว กรรมก็เป็นของส่วนตัว

    หากกล่าวด้วยเหตุ ด้วยผล ย่อมเป็นการจรรโลงพระศาสนา แต่หากนำสิ่งที่บอกกล่าวนำมาถกเถียงก็จะกลายเป็นดาบสองคม ที่คอยทำลายพระศาสนา

    สาธุครับ
     
  20. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คุณรู้อยู่แล้วว่า คุณคีย์บอร์ด ชอบกวนโอ้ย ฉนั้นการบอกกล่าวแนะนำ จึงต้องทำเช่นนั้น

    หากคุณสังเกตุนะครับ ผมไม่เข้าไปบอกว่าคุณต่อว่าผู้นั้น ว่าผู้นี้เป็นการไม่ดี เป็นการไม่สมควร

    แต่คุณได้เข้ามาบอกว่าผมต่อว่าผู้นั้น ผู้นี้เป็นการไม่ดี ไม่สมควร สิ่งไหนที่เรียกว่าจับผิดครับ

    คุณคงได้อ่านในโพสของคุณ คีย์บอร์ด อยู่บ่อยๆ ใช่ไหมครับ การเอื้อประโยชน์นั้นควรทำไหมครับ

    ครั้งที่แล้ว ผมเข้าใจว่าพูดคุยกันเข้าใจแล้วเสียอีก ว่าหากจะสนทนากันควรสนทนาด้วยเหตุ-ผล

    ถามตัวคุณเองก่อนไหมครับ ว่าทำแบบนี้ทำไม เพื่ออะไร

    สาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...