เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ

ความคิด และ ความเชื่อ เกี่ยวกับ
ความดี และ ความชั่ว ของเธอทั้งหลายยัง บิดเบือนอยู่มาก
มันเปรียบเสมือน เงามืด ที่ บดบัง ความรู้ ความเข้าใจ
เกี่ยวกับ ธรรมชาติความเป็นจริง โดยสิ้นเชิง

 

..."ฉันเขียนหนังสือชุดนี้เพราะจิตวิญญานของเธอ
ได้สัญญากับจิตวิญญานของฉันไว้ว่า..
เมื่อเธอเลือกมาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง
และจดจ่อกับภาวะทางกายภาพ
จนกระทั่งจิตวิญญานของเธอลืมเลือนพลังอำนาจ
ของต้นกำเนิดไป..
..ฉันจะกลับมาช่วยรื้อฟื้นความทรงจำให้เธอ
เพื่อนำพลังอำนาจของเธอกลับคืนมา
ณ.วินาทีนี้ ที่เธอถือหนังสือเล่มนี้อยู่ในมือ
ฉันได้ทำตามสัญญาของฉัน
และเธอได้ทำตามสัญญาของเธอแล้ว"...

อ่านตรงนี้แล้วจุกเลยครับ มันเหมือนจะร้องไห้ไงไม่รู้..
นี่เราเหลวไหล มากขนาดนั้นจริงๆเหรอ ?

ไม่มีคำพูดอะไรจะพูดต่อครับ...มันอึ้ง..!!!
.......................................

 

"สัญญาเก่า" ก่อนลงมาจุติไง เริ่ม "ระลึก" ได้แล้วใช่มะละ หึๆๆ

 

พอระลึกถึง "พระนาม" ของท่านได้ไหมละครับ
ภาวนาสวดพระนามของท่าน เสมอๆ นะครับ


ขอให้โชคดี ฟื้นคืนของเก่าเร็ววัน...

 

พี่นักเขียนเขาไปพักร้อนจริงๆๆ หรอครับว่า

 

ตอบไปแล้วค่ะ-อยู่หน้า 52 # 512

ได้ตอบไปแล้วที่ หน้า52 #512 กระทู้ไปเร็วอาจจะหาไม่พบค่ะ รบกวนกลับไป check ดู หากยังได้คำตอบไม่พอใจ ถามต่อก็ได้ไม่ว่ากัน ถ้าตอบได้จะพยายามตอบอีก ถ้าตอบไม่ได้จะขอระดมพลมนุษย์ต่างดาวมาช่วยกันตอบ(*) (*) (*)

 

ขอบคุณพี่นักเขียนมากๆเลยค่ะ ที่ช่วยแนะนำและตอบสิ่งที่สงสัย
ตอนนี้คงจะเข้ามาเว็บนี้บอร์ดนี้ทุกวันแล้วล่ะค่ะ
เหมือนเราได้กระตุ้นสติกระตุ้นปัญญาจากเรื่องราวที่ได้อ่าน
อีกอย่างนึง ทุกครั้งทีได้อ่านข้อความของพี่นักเขียนรู้สึกถึงความโอบอ้อมอารีอย่างมากมายเลย เลยทำให้นึกจินตนาการไปถึงหน้าพี่นะ ว่าคงจะเป็นผู้หญิงที่หน้าตาอิ่มเอิบแล้วยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา
คืนนี้จะรออ่านข้อความของพี่นะคะ

 

Quote จากหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย vs ความคิดเห็นส่วนตัว

(*) (*) (*) (*) (*) (*) (*) คุณ Stefa ขา เนื่องจากเราได้โหวตกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า เราจะร่วมกันใช้ตัวอักษรสีน้ำตาลแดง (ช่องที่สองนับจากสีดำลงมาหนึ่งช่อง) เพื่อแสดงข้อความทั้งหมดที่เรา Quote มาจากหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย เนื่องจากเป็นสีที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับในหนังสือ และใช้สีแดงสดเพื่อเน้นข้อความสำคัญ

พี่นักเขียยนรบกวนช่วยเปลี่ยนสึตัวอักษรที่ใช้ให้เป็นไปตามโหวตของส่วนรวม เพราะเมื่อผู้อ่านส่วนใหญ่ที่รับรู้เกี่ยวกับสีของตัวอักษรแล้ว ต่างก็มองหาเป็นตาเดียวกันว่า Quote คือสีน้ันๆอยู่ตรงไหน และรับเอาโดยปริยายว่า สีอื่นๆที่นอกเหนือคือความคิดเห็นส่วนบุคคล เมื่อเป็นเช่นนั้น แม้แต่บุคคลที่ "ยอมรับ" ความเป็นจริงของสิ่งที่พวกเขาอ่านจากหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยแล้ว ก็กลับเป็นไม่ยอมรับหรือปฏิเสธข้อความเหล่านี้ เพียงเพราะสีทำให้ขาดการเชื่อมโยงกับสาระจากหนังสือต้นฉบับ

สาระจากหนังสือชุดนี้ อาจเข้าใจได้ยากหรือทำให้เข้าใจผิดหากผู้อ่านไม่ได้ข้อมูลทั้งหมดในภาพรวม การใช้สีช่วยให้เราเชื่อมโยงข้อมูลสั้นๆที่ปรากฏจากการ Quote ของคุณ Stefa กับข้อมูลรวมในหนังสือ แต่เมื่อสีเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ข้อความที่ปรากฏก็เสมือนสิ่งใหม่ที่มาจากแหล่งอื่น ขาดภาพรวมอันชัดเจน ทำให้ความคิดของเราขาดความเชื่อมโยงกับสาระรวมที่เคยรู้เห็น และความหมายที่เคยรู้ เคยเข้าใจก็ขาดหายไปด้วย

อย่าไรก็ตามพี่นักเขียนต้องขอบคุณ คุณ Stefa มากๆที่สละเวลาใช้สีมากมายเพื่อช่วยให้เราได้สะดุดตากับคำสอนของท่านอาจารย์อนาลัย แต่ถ้าหากเราช่วยกันรักษา Pattern เดียวกันเป็นระบบ ความเข้าใจผิดจะได้ไม่เกิดขึ้นต่อไปค่ะ

ตัวอย่างนะคะ:
ความคิดและความเชื่อ เกี่ยวกับความดีและความชั่ว ของเธอทั้งหลายยังบิดเบือนอยู่มาก มันเปรียบเสมือนเงามืดที่บดบังความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง
จากหนังสือ โนวา อนาลัย ขยายความ-ธรรมชาติของชาติภพ

หากท่านที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อความของคุณ Stefa และทราบดีว่าเป็นข้อความที่คุณ Stefa Quote มาจากหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย และไม่เห็นด้วยจริงๆ พี่นักเขียนก็รับความคิดเห็นไปตามนั้นค่ะ - ไม่ว่ากัน เพราะทุกคนมีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นทัดเทียมกันหมดในห้องวิทย์แห่งนี้ เพียงแต่ต้องการให้เคลียร์ว่า ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากความเข้าใจผิดอันเนื่องจากสีของตัวอักษรเท่านั้น(*) (*) (*) (*) (*) (*) (*)

 

นำกลุ่มเพื่อนๆไปนั่งสมาธิค่ะและถือโอกาสไปพักร้อนด้วย เชิญน้องๆไปด้วยนะ-ในความฝัน

 

ว่าจะไปจัดกระเป๋าเตรียมหนีพวกเราไปเที่ยวแล้วเชียว! คุณน้อง leogirl มาดักคอ เลยต้องกลับมาทำการบ้านต่อ เวลานึกถึงหน้าพี่นักเขียนเอาภาพวาดของคุณ Mead ไปตัดผม แล้วบวกน้ำหนักกับอายุให้เข้มหน่อยแล้วกันนะคะ คุณ Mountain เพิ่งมาเติมให้อีกหลายโล

 

ขอให้สนุกกับการเดินทางนะคะ
เห็นรูปวาดแล้วยิ้มแก้มปริเลย ดูไปดูมา นกว่าคล้ายๆนิโคลนะ (b-smile)

 

ทำได้แล้วต้องเชื่อมั่น

ทำได้แล้วต้องเชื่อมั่นค่ะ คุณน้อง leogirl ทำได้จริงๆค่ะ แต่รูปกายที่ลุกไปเปิดไฟ ไม่ได้อยู่ในสภาวะที่มีมวลหนาแน่นเหมือนรูปกายยามตื่น มันจึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้ายวัตถุธาตุ หรือขยับ switch ไฟได้ แต่ถ้าหากรูปกายนี้ดำเนินไปด้วยความมุ่งมั่นว่าจะเคลื่อนย้ายบางสิ่งบางอย่าง-อย่างจดจ่อ และทำด้วยเจตนาที่มีสติสัมปชัญญะคมชัด มวลของมันก็จะมีความหนาแน่นมากขึ้นจนสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุได้เสมือนรูปกายยามตื่นไม่มากก็น้อย

จิตวิญญาณจดจ่อกับภาวะใด จิตวิิญญาณมีชีวตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปในภาวะนั้นๆ
ด้วยรูปกายตัวตนที่คล้องจองกับภาวะนั้น
(จากหนังสือ ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ บทที่ 6 ประสาทสัมผัสภายใน หน้า 63)

ที่พี่นักเขียนกล้ายืนยันว่าทำได้จริง เพราะพี่นักเขียนได้ทดลองกับตนเอง และใหันักเรียนสมาธิหลายรุ่นทดลองกัน ทำกันได้แทบทุกคน ยกเว้นคนที่บอกว่ากลัว ไม่กล้าทำ หรือเชื่อว่าตนเองทำไม่ได้

ต่อไปเมื่อเห็นรูปกายที่นอนอยู่ในเตียงอย่ารีบนอนทับ-กลับร่าง ให้ตั้งสติดีๆแล้วพิจารณารูปกายที่นอนหลับอยู่ เห็นครั้งแรกอย่างเต็มตาเรามักจะตกใจ เพราะดูเหมือนคนแปลกหน้าทั้งที่รู้ว่าเป็นเรา และแทบจะดูเหมือนว่าเราไม่มีชีวิต เพราะสติสัมปชัญญะ-อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดมันมารวมอยู่ที่ตัวตนที่เป็นผู้สังเกตการณ์ แต่ถ้าตั้งสติให้ดี ความกลัวจะหายไป เหลือแต่ความรู้สึกที่ว่า เราได้รู้ได้เห็น-ได้เข้าใจในการเป็นตัวตนของเราได้อย่างลึกซึ้งที่สุดที่เราไม่อาจเรียนรู้ได้ด้วยภาวะอื่นใด แม้เราจะไม่มีคำพูดเลยก็ตาม

ควรฝึกเดินไปมาอยู่ภายในห้องนอนก่อน อย่าเพิ่งซนไปไหนไกลๆนะคะ ต่อไปมีความคมชัดและเข้าใจตัวตนของเราได้ดีขึ้น จะไปไหนก็ไป-โดยใช้จิตจดจ่อ แต่ควรตั้งเจตนาขอไปเรียนรู้ธรรมชาติความเป็นจริงของตัวตนของเรา ขอให้มีครูบาอาจารย์มาแนะนำช่วยเหลือ และขอจดจำได้เมื่อตื่นขึ้น จะได้ไม่ไปแบบไม่มีจุดหมายและไม่มี guide หรือผู้แนะนำ

พี่นักเขียนภูมิใจในน้องใหม่แต่จิตวิญญาณเก่าแก่คนนี้มากค่ะ มาเล่าประสบการณ์ให้พวกเราฟังอีกนะคะ จะได้เป็น living proof และกำลังใจให้กันว่า เราทุกคนทำได้(f)

 

ความฝัน (อีกแล้ว) ของพี่นักเขียน

คุณ oakpr ประชาสัมพันธ์ของท่านอาจารย์อนาลัย ขอให้ช่วยเล่าประสบการณ์ความฝันของพี่นักเขียนให้พวกเราฟัง เพราะพี่ได้เคยเล่าให้คุณ oakpr ฟังตั้งแต่เดือนมีนาคม 2007 ที่ผ่านมา 3 ครั้ง เนื่องจากว่าฝันซ้ำ 3 ครั้ง แล้วในที่สุดเราก็กำลังเผชิญกับประสบการณ์นี้ร่วมกัน ณ วันนี้

ตอนนั้นพี่นักเขียนเพิ่งส่งต้นฉบับไปให้คุณ oakpr ช่วยดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือให้ทางเมืองไทย พี่นักเขียนฝันว่าได้ import สิ่งที่สำคัญและมีค่ามากไปเมืองไทย แล้วก็ตามไปดูตามหน้าที่ สิ่งที่ส่งไปนั้นเป็นปลาเนื้อสีขาวบริสุทธิ์ จำเป็นต้องนำไปบรรจุห่อที่เมืองไทย เหตุที่ส่งไปเมื่องไทยเพราะท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า คนไทยมีความชำนาญเป็นพิเศษที่จะเก็บรักษาปลานั้นให้คงสภาพได้ยาวนานเป็นพิเศษกว่าประเทศอื่นใดในโลก ปลานั้นเป็นของหายาก แทบจะเรียกว่าหาไม่ได้อีกแล้วในโลก การนำเข้าครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย

พี่นักเขียนเดินไปตามถนน แลเห็นชาวบ้านเอาปลาเนื้อขาวนั้นมาตากแดด โดยแผ่ไว้บนภาชนะจักรสานสองข้างทางเท้า แต่แดดไม่มี ตากอย่างไรก็จะไม่แห้งดี แล้วชาวบ้านก็รีบเอาปลาเหล่านั้นไปบรรจุห่อ พี่นักเขียนเห็นว่าชาวบ้านเขาทำอย่างดีที่สุดตามความสามารถของเขา และพวกเขาก็ไม่เบียดเบียนกัน บางบ้านยอมให้บ้านข้างเคียงตากปลาหน้าบ้านเขาจนไม่มีที่จะเดิน มองเห็นแล้วก็รู้สึกชืิ่นชมในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และสามัคคีของพวกเขา แม้ว่ากระบวนการบรรจุห่อของเขาจะไม่มีคุณภาพหรือได้มาตรฐานแต่ก็ชื่นชมพวกเขา

จากนั้นพี่นักเขียนตามไปดูที่หน้าร้านซึ่งเขาจัดจำหน่ายปลานั้น พบว่าห่อที่บรรจุปลานั้นมีวัสดุเสมือนร่างแหเป็นเส้นๆปกคลุมห่อจนมองไม่เห็นเนื้อปลา แหวกดูก็เห็นเนื้อปลายังขาวสะอาดเหมือนเดิมทุกประการ ก็วางใจว่าห่อนั้นไม่ได้ทำให้เนื้อปลาเสียหาย

พอคิดดังนั้นก็ได้ยินท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวขึ้นด้วยเสียงที่ดังเหมือนฟ้าผ่าว่า กระบวนการ(บรรจุห่อ)เหล่านี้ไม่สำคัญ สาระสำคัญอยู่ที่เนื้อใน-ได้แก่ปลาเนื้อขาวบริสุทธิ์ และอยู่ที่ความสามารถในการเก็บรักษาปลา (ของคนไทย) เหล่านั้น ซึ่งดูเสมือนเป็นกลุ่มหรือหมู่บ้านชาวประมง

พี่นักเขียนฝันซ้ำเช่นนี้ถึง 3 ครั้งในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ช่วงนั้นไม่มีเหตุการณ์ใดๆที่จะปรากฏให้เข้าใจความฝันนี้ได้

จนกระทั่งวันที่คุณโบ๊ต ได้ blog เข้ามาบอกว่าหนังสือเป็นรอยก็ยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เพราะคุณ oakpr ส่งตัวอย่างมาให้หนังสือช้ำไปบ้างเพียงเพราะส่งมาไกล แต่เมื่อคุณ Mead scan ภาพปกแล้ว post ให้ดูก็ฉุกคิดถึงความฝันขึ้นมาทันที แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นจริงเหมือนฝันว่าอย่างไร เพราะอยู่ทางนี้ไม่มีโอกาสเห็นของ พี่นักเขียน Skype ไปเล่าให้คุณ oakpr ฟัง แกก็นึกว่ามันคงจะเป็นเพียงไม่กี่เล่ม และขอให้ผู้อ่านเอาหนังสือไปเปลี่ยนได้ แกจะดูแลให้

แต่ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ได้มีโอกาส Skype กับคุณ oakpr อีก แกส่งข่าวมาว่า หนังสือทั้งหมดเป็นรอยอย่างที่คุณโบ๊ตกับคุณ Mead บอก และเหตุเกิดจากการที่บริษัทที่รับเคลือบปก ใช้ความร้อนไม่พอที่จะเคลือบ ทำให้ฟิมพ์เคลือบร่อนเป็นรอยดังที่เห็นหมดทั้ง lot คุณ oakpr กำลังไล่เก็บหนังสือในท้องตลาดไปส่งให้เขาทำปกให้ใหม่หมด ก็ต้องขอบตุณ คุณ oakpr ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

คุณ oakpr แกจำความฝันของพี่นักเขียนได้ แกจึงบอกว่าให้พี่นักเขียนช่วยเล่าให้พวกเราฟังหน่อย จะได้อธิบายแถมพกให้ฟังว่า ทำไมจึงฝันซ้ำๆ และทำไมจึงเป็นจริง?

พี่นักเขียนเชื่อว่าการฝันซ้ำๆนั้นเป็นการเห็นภาพประสบการณ์ที่ปรากฏบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ ซึ่งความฝันของพี่นักเขียนอย่างน้อยก็เห็นความเป็นไปได้ 3 เส้นทางด้วยกัน ทำให้ความเป็นไปได้นั้นสูงขึ้น จนในทึ่สุดก็กลายมาเป็นความเป็นจริง ความกังวลในระดับจิตใต้สำนึกของตนเองย่อมมีส่วนสร้างโลกแห่งความเป็นจริงและประสบการณ์ชีวิตของเรา พี่นักเขียนมักฝันซ้ำแบบนี้บ่อยๆ บางครังก็เป็นไปด้วยการจดจ่อ-เจตนาและปรารถนาให้บางสิ่งบางอย่างเป็นจริง เมื่อเห็นมันปรากฎในความฝันได้ถึง 3 ครั้งอย่างคมชัดทีไร มักจะเชื่อขนมกินได้เลยว่า มันจะเป็นจริง

แต่ถ้าหากสิ่งที่ไม่ปรารถนาปรากฏในความฝัน เราก็ควรจะรู้ตัวด้วยว่า เราควรเปลี่ยนวิถีการจดจ่อ ในความฝันดังกล่าวนี้ ตนเองจดจ่อกับปลาเนื้อขาวที่ยังคงคุณภาพอยู่ตามเดิม และพอใจกับความสามัคคีของชาวประมง เลยมองข้ามข้อบกพร่องไปหมด แม้มาวันนี้ก็ไมได้กังวล และคุณ oakpr ก็เลยต้องเหนื่อยอยู่คนเดียวเป็นธุระให้!

อย่างไรก็ตามก็ต้องขอโทษผู้อ่านทุกท่านด้วยค่ะ ที่ไม่ได้แก้ไขข้อบกพร่องในความฝันให้ดีซะก่อนที่จะมาเผชิญกับความเป็นจริงยามตื่น !

ยังมีอีกหลายเรื่องที่ฝันแล้วก็มักจะจดและหา "พยานยามตื่น"ให้รับทราบไว้ด้วย พอเป็นจริงขึ้นมา มีคนช่วยตรวจสอบและรับรู้ด้วยว่าฝันเป็นจริง ทำให้มีความเชื่อมั่นมากขึ้นเรื่อยๆว่า เราจดจ่อกับสิ่งใด เราจะเผชิญกับมันในความฝัน ในโลกแห่งความเป็นจริงบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้มากมายหลายเส้น ในที่สุดมันก็กลายเป็นจริงได้ (rose) (rose) (rose)

 

ผมเห็นว่าหลายๆท่าน เริ่มสัมผัสในเรื่องสติสัมปชัญญะในฝันมากขึ้น นับแต่อาจารย์นักเขียนเข้ามาสนทนาด้วย..ผมก็เริ่มจับทาง+ตีความในฝันเก่งขึ้น..(แถมนอนเร็วขึ้น) จากที่เคยคิดว่าความฝันไม่สำคัญไปกว่าชิวิตจริงมานาน เทคนิคที่นักเขียนถ่ายทอดมาให้ เมื่อลองไปฝึกดูได้ผลเป็นที่น่าพอใจครับ แม้จะได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะสติไม่เต็ม100..แต่เปลี่ยนไปในทางบวกมากขึ้นครับ

แล้วจะหาโอกาสตามไปเที่ยวในฝันด้วยนะครับ ช่วงนี้พายุเฮอริเคน(ดีน)ระดับ5 กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งทะเลแคริบเบียน มายันริเวียรา+แม็คซิโก ที่พี่นักเขียนจะไปพอดีเลย..ระมัดระวังด้วยนะครับ

 

เรื่องปกหนังสือในฝัน ยังไง"ปลาเนื้อสีขาวบริสุทธิ์"ก็ยังบริสุทธิ์อยู่ครับ

"ร่างแหเป็นเส้นๆปกคลุมห่อ จนมองไม่เห็นเนื้อปลา"
คนที่หยิบหนังสือมาอ่าน เรียกว่าไม่บังเอิญครับ ต้องมองผ่านเข้าไปในเนื้อหาข้างใน
ฝันถึง 3 ครั้ง เหมือนย้ำว่าจะเกิดขึ้นจริงๆเปลื่ยนแปลงได้ยากครับ อันนี้ไม่เป็นไรครับ
คุณโอ๊คเลยต้องเหนื่อยตามแก้ไขอีก ขอบคุณจริงๆครับที่ทำเพื่อนักอ่าน

คนไทยมีความชำนาญเป็นพิเศษที่จะเก็บรักษาปลานั้นให้คงสภาพได้ยาวนานเป็นพิเศษกว่าประเทศอื่นใดในโลก
การนำเข้าครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย

อันนี้คนไทยก็โชคดีอีกแล้ว..
ประเทศไทยคงถูกเลือกให้เป็นแหล่งรวมรวมสรรพศาสตร์ทั้งหลายให้เป็นหนึ่งเดียวกันแน่แท้ครับ

 

พี่นักเขียนครับ

เมื่อคืนฝันว่า ผมอยู่ในห้องมืดๆ แล้วก็มีแสงสว่างจ้าแต่ไม่แสบตา รอดออกมาของอีกฝั่งหนึ่ง คล้ายๆ กับเราอยู่ในห้องมืดแล้ว มีประตูที่กั้นระหว่างห้องได้แง้มออกมานิดหน่อย ทำให้มีแสงรอดออกมาตรงช่องที่แง้มไว้ ขณะที่เขียนอยู่นี้ก็ยังนึกเห็นภาพแสงนั้นอยู่ แปลกดีครับ

แล้วผมจะฝันต่อว่า ให้เปิดประตูนี้ เพื่อออกไปจากห้องที่มืดได้อย่างไร พี่นักเขียน ช่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

เมื่อจิตวิญญาณไม่ยึดเกาะติดประสาทสัมผัสทั้งห้า
อาการทางกายมีความรู้สึกเบาๆสบายๆ อย่างแปลกๆ
เหมือนที่เคยฝันว่า ตัวล่องลอยไปช่วยคนโน้นคนนี้
มันเบาแบบคล้ายๆจะลอยได้เหมือนในฝัน

เอ...หรือฝันผมใกล้จะเป็นจริงแล้ว??????

 

ก้าวหน้ามากเลยครับพี่เม้าส์ เหมือนฝึกวิชาตัวเบา
อีกหน่อยลอยได้เหมือน เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์..
แล้วอย่าลืมเหาะมาหาผมคนแรกนะคร๊าบ : bat:

 

สะเทือนใจทีเดียวนะครับคุณชยุต
เหมือนเดินสะดุดขาล้มตึงเหมือนกัน
คงเคยมีพันธะสัญญาก่อนที่จะมาเกิดอีกนะครับ
อ่านแล้วขนลุกดี!

ตอนนี้ไม่ได้สงสัยเลยว่าท่านคือใคร เหมือนรู้อยู่ลึกๆแล้ว
ท่านเป็นดวงจิตของคุรุที่เรียกว่า Higher Self ของเราอีกที..
ไม่ว่าท่านจะเคยผ่านการเป็นมนุษย์หรือไม่ แต่ท่านรู้เห็นความเป็นมนุษย์ได้ทุกมุมมอง
เลือกเอาสิ่งดีๆที่ท่านเมตตาสอนผ่านนักเขียนมาให้ครับ
นักเขียนมารำพึงนิดหน่อยกับผม ขออนุญาติเล่าให้ฟังนะครับ:-

"พี่เคยห่วงเหมือนกันว่า หนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย-นอกคัมภีร์ แลัวไหงเราต้องมาเป็นเลขาฯ แต่ตั้งแต่คุณ Mead เปิดมิตินึ้ขึ้นมาก็หายห่วงแล้วละค่ะ e-mail ที่เข้ามาตึมทำให้รู้ว่า โลกสมัยใหม่พร้อมแล้วสำหรับข้อมูลใหม่ๆอย่างที่คุณ Mead ว่า "

ยุคนี้ยุคจรวจแล้วไงครับ เหมือนจะนอกกรอบคัมภีร์แต่ก็เรื่องเดียวกันหมด
การทดสอบต้องมีบ้างครับเพราะเป็นของใหม่นอกกรอบความรู้เดิม
ที่แน่นอนผมเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องลัทธิประหลาดเอาความรู้มาหลอกขายกันเล่นๆครับ
เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติของตัวตนของเราเอง น่าเรียนรู้มาก จะบอกว่าพี่ไม่ได้เป็นคนเดียวครับ ที่รับข้อมูลแนวใหม่ มีหลายท่าน (มีเพื่อนครับ) บางท่านก็ไม่เผยตัวมากเพราะคนส่วนมากไม่เข้าใจ โดนทดสอบเยอะครับ อาจารย์ปริญญาท่านก็โดนมาก่อน..แต่ท่านก็รอดมาจนทุกวันนี้ คนเริ่มเข้าใจมากขึ้น..ความรู้ใหม่ๆต้องมา Update ครับไม่งั้นคนส่วนใหญ่จะห่างจากธรรมไปหมด เพราะอาจเห็นว่าไม่ทันสมัย..ธรรมะเป็นอมตะครับ เหมาะกับสติปัญญาของคนสมัยนั้นๆ พระศาสดาที่เรารู้จักกันในสมัยก่อน ก็มาชี้นำทางสว่างให้มาตั้งแต่ 2000-2500 ปีแล้วครับ แล้วทุกวันนี้โลกก้าวไปข้างหน้ายุคจรวจแล้ว..ความสงสัยในธรรมก็มีมากขึ้นไปด้วย..ข้อพิสูจน์ของอาจารย์อนาลัยก็เริ่มปรากฎครับ..ว่าเข้ากันได้กับสังคมยุคนี้ครับ..ถึงต้องมีคุรุเกิดขึ้นเรื่อยๆเพื่อมาสานต่อ"ความจริงที่จริงแท้"ต่อไปครับ

 

กำลังนึกชื่อ นายเดวิด อยู่ พอดี
มาดูอีกที มีคำเฉย แล้ว สุดยอดจริงๆ คุณ mead
แล้วผมจะตามทันไหมเนี่ย(b-smile)