ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

..เรื่องของพระเกษรีฤาษี ตอนที่ ๘..เรื่องราวในอดีตของปุญญมาณวิกา..

กล่าวถึงปุญญมาณวิกา เมื่อได้รับภักษภูษามาแล้ว พญาโภคนาคราชได้กล่าวว่า...

“พระคุณเจ้าได้บอกว่า พระสมณผู้มีรัศมีกายสว่างไสว ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่าน มอบให้ลูก อีกไม่นานพระสมณะทั้ง ๑๐๐๐ รูปจะมาที่นี่ หากลูกต้องการรู้รายละเอียดให้เข้าสมาธิ สัมผัสอาภรณ์นี้จะรู้ได้ด้วยตนเอง”

เมื่อนางทราบเช่นนั้นจึงได้กราบลาพญาโภคนาคราช และพระมเหสี กลับยังวิมานของตน โดยมีตติมาณวิกา (พระธิดาองค์ที่ ๓) ขอตามไปด้วยความอยากรู้เรื่องราวดังกล่าว

ครั้นถึงวิมานแก้ว ปุญญมาณวิกาได้ให้พระพี่นาง นั่งบนแท่นแก้ว ส่วนนางได้ตั้งจิตอธิษฐานของทราบเรื่องราว โดยนำภักษภูษาวางบนมือแล้วเข้าสมาบัติ ได้เห็นภาพต่าง ๆ ปรากฏขึ้นมา..

“ย้อนหลังไปนับอสงไขยไม่ถ้วน นางได้เกิดในตระกูลพราหมณ์มีนามว่า “สิริมายาพราหมณี” นางได้สมรสกับบุตรเศรษฐี นามว่า “ธัญญเศรษฐี” นางได้ทอผ้าชนิดพิเศษที่ดูคล้ายไยแก้ว ผ้านี้สามารถเปลี่ยนสีได้ บางครั้งก็เห็นเป็นผ้าแก้ว บางครั้งก็เห็นเป็นสีชมพู นางตั้งใจทำเก็บไว้ เป็นตัวแทนแห่งความรักที่มีแด่ธัญญพราหมณ์ ผู้เป็นสามี

เมื่อทอสำเร็จแล้ว นางได้นำผ้านี้มาอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ผ้านี้มีผู้ปกปักษาช่วยคุ้มครองสามีของนางให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง โดยการงดเนื้อสัตว์ทั้งปวง และได้แต่สวดมนต์อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ผ้านี้มีอานุภาพ
นางสวดมนต์ และถือศีล เป็นแรมเดือน ทำให้ท้าวสักกเทวราชได้เห็นใจ จึงส่งเทวดามาดูแลรักษาผ้าผืนนี้ถึง ๔ องค์

นอกจากอธิษฐานแล้ว นางได้ทำพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่ออุทิศบุญให้แก่เทวดาผู้รักษาผ้าผืนนี้ เมื่อธัญญเศรษฐีไปค้าขายที่ใด ก็จะได้กำไรมากมายกว่าพ่อค้าอื่น ๆ และไม่เคยโดนจี้ปล้นจากโจรผู้ร้าย


ในสมัยนั้นไม่ได้มีวัตถุมงคลใด ๆ การปฏิบัติของนางเป็นที่ชื่นชมของชาวเมืองนั้น เป็นอย่างยิ่ง ธัญญเศรษฐีนั้น มีน้องชาย นามว่า “ธนเศรษฐี” เป็นผู้ที่มีใจโอบอ้อมอารีย์ ได้เห็นการกระทำของพี่สะใภ้ที่มีต่อพี่ชายของตน จึงมีความชื่นชมนางอย่างมาก อีกทั้งนางมีอายุน้อยกว่าตน จึงเกิดหลงรักพี่สะใภ้ เขาจึงไม่สนใจหญิงงามใด ทั้ง ๆ ที่เป็นหนุ่มรูปงาม และมีผู้หมายปองจำนวนมาก

สิริมายาพราหมณีนั้น ไม่ได้ทราบเรื่องนี้ นางก็ได้ปรนนิบัติดูแลสามี และญาติของสามีดุจดูแลญาติของตนเอง ยิ่งทำให้ธนเศรษฐียิ่งหลงรักพี่สะไภ้มากขึ้น ได้เพียงแต่เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ เพราะคิดว่า ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถแย่งความรักจากพี่ชายของตนได้ อีกทั้งนางสิริมายานั้น มีความรักและซื่อสัตย์ต่อสามีมาก
เมื่อไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ใด ก็ได้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า....

“ชาตินี้แม้ข้าพเจ้าไม่ได้สมหวังในการครองรักกับสิริมายา ขอให้ชาติต่อ ๆ ไป ขอให้ได้ครองคู่กับนางด้วยเถิด ขอให้นางจดจำข้าพเจ้าได้ด้วยเถิด”

ส่วนธัญญเศรษฐี และสิริมายานั้น ก็มิได้ทราบเรื่องนี้แต่อย่างใด ทั้งสองครองรักกันด้วยความสุขแต่มิได้มีบุตรด้วยกัน เนื่องจากภายหลังทั้งสองได้ประพฤติพรหมจรรย์ อยู่กันเหมือนเพื่อนมากกว่า

ต่อมาธัญญเศรษฐีเกิดความเบื่อหน่ายที่จะค้าขาย จึงได้มอบทรัพย์สมบัติให้แก่ธนเศรษฐี ให้ดูแลกิจการต่อ ส่วนตนได้ถือพรตแบบพราหมณ์ ตามนางสิริมายาพราหมณี โดยธนเศรษฐีได้แบ่งกำไรจากการค้าขายต่าง ๆ เพื่อดูแลพราหมณ์ทั้งสองเป็นอย่างดี

ภายหลังธัญญพราหมณ์เห็นว่า น้องชายถึงวัยสมควรที่จะครองเรือน เพื่อมีผู้สืบสกุล จึงได้สู่ขอหญิงงามจากตระกูลเศรษฐีอีกตระกูลหนึ่งมาให้แต่งงานกับธนเศรษฐี ซึ่งเขาเองก็มิได้ปฏิเสธ เนื่องจากมีความเคารพต่อพี่ชายดุจบิดา แต่หาได้มึความรักต่อภรรยาไม่ เพียงแต่เก็บความรู้สึกที่มีต่อพี่สะใภ้อยู่ลึก ๆ ในใจ ภายหลังก็ได้มีบุตรชาย ๓ คน เป็นสืบสกุลต่อมา

เขาได้ให้บุตรทั้ง ๓ คอยดูแลพี่ชายและพี่สะใภ้มิได้ขาด และสอนบุตรชายทั้งสามว่า ลุงและป้าสะใภ้ เป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่ เป็นผู้มีบุญคุณจะต้องทดแทนต่อไป ด้วยความกตัญญูนี้ ทำให้ตระกูลของเขามีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก
ส่วนธัญญพราหมณ์ และภรรยานั้น ก็อยู่ด้วยกันจนแก่ชรา เมื่ออายุได้ ๗๐ ปี ได้ข่าวการเสด็จมาของพระพุทธเจ้า พระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพล”

จะได้เกิดความปิติเลื่อมใส จึงกล่าวแก่ภรรยาว่า..


“น้องหญิง ภักษภูษานี้ น้องหญิงทำให้พี่ด้วยความรัก และความตั้งใจ พี่ถือว่า ของสิ่งนี้มีค่ามากต่อพี่ แต่พี่ปรารถนาบุญอันยิ่งใหญ่ พี่ขอนำภูษานี้ถวายแด่พระพุทธเจ้า น้องจะว่าอย่างไร”

สิริมายาพราหมณี ได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกปิติยินดีอย่างยิ่ง จึงอนุโมทนากับสามีของตน นางได้ตั้งจิตอธิษฐาน ขอเกิดมาเป็นคู่ครองกับธัญญพราหมณ์ไปทุกภพทุกชาติ นางจึงได้นำดอกบัวสีชมพู ๕ ดอกติดมือไปด้วย

จากนั้นทั้งสองได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พร้อมพระสาวกถึง ๒๐๐,๐๐๐ องค์ ธัญญพราหมณ์นั้น เห็นฉพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าก็เกิดความศรัทธาเลื่อมใส ได้ถวายแด่พระพุทธองค์ พร้อมตั้งใจปรารถนาโพธิญาณ ขอสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล

ส่วนนางสิริมายานั้น ได้ถวายดอกบัว ๕ ดอก พร้อมปรารถนาเป็นคู่บารมีของธัญญพราหมณ์ โดยทั้งสองไม่ได้ทราบความปรารกนาของกันและกันเลย

เมื่อภาพนั้นสิ้นสุดแล้ว ปุญญมาณวิกา จึงได้ทราบว่า สมณะผู้นี้ แท้จริงเคยเป็นคู่บารมีของตนมาก่อน จึงรู้สึกเสียใจ หลังออกสมาธิแล้ว ก็ได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้แก่ตติมาณวิกาฟัง จากนั้นบริวารได้มาแจ้งแก่นางทั้งสองว่า
“บัดนี้สมณะผู้มีรัศมีกายรุ่งเรืองดุจพระอาทิตย์ได้เสด็จมาแล้ว ขอท่านทั้งสองไปร่วมถวายภัตตาหารแก่ท่านเหล่านั้นเถิด” (ยังมีต่อ...)

 

..เรื่องของพระเกษรีฤาษี ตอนที่ ๙ ...

ครั้นเมื่อพบพระมังคละปัจเจกพุทธเจ้า นางถึงกับร้องไห้จนสลบไป สร้างความประหลาดใจแก่ทุกท่านในที่นั้น มีเพียงตติมาณวิกาที่ทราบเรื่องเท่านั้น
พระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า ทรงตรัสว่า..

“ดูกร..ท่านทั้งหลาย วันนี้เรามาเพื่อสงเคราะห์ปุญญมาณวิกา นางเคยเป็นคู่บารมีในอดีตของเรา หากนางกล่าวเช่นไร อย่าได้ขัด เพราะเป็นครั้งสุดท้ายที่นางจะได้กล่าวแก่เรา เพราะชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเราแล้ว”

เมื่อปุญญมาณวิกาฟื้นขึ้นมา ก็ได้ร้องไห้พรรณนาว่า...

“ท่านช่างใจร้ายแก่หม่อมฉันมาก หากท่านไม่ปรารถนาจะเดินทางต่อไป เหตุใดไม่รอให้หม่อมฉันมาจุติ เพื่อลาความปรารถนานั้นด้วยกันเพคะ ไยท่านตัดช่องน้อยแต่พอตัว ท่านมิสงสารหม่อมฉันที่เฝ้าคอยติดตามท่านนับอสงไขยไม่ถ้วน ไยให้หม่อมฉันต้องทนทุกข์แต่เพียงผู้เดียว”

นางได้แต่ร่ำไห้จนใจแทบขาด พระมังคลปัจเจกพุทธเจ้านั้น ได้ตรัสด้วยพระสุรเสียงอันเยือกเย็น และเปี่ยมด้วยเมตตาว่า ...


“ดูกร..น้องหญิง เราต้องขออโหสิแก่น้องหญิงที่ทำให้ต้องเสียใจ ภพชาติอันอีกยาวไกล เรามีปัญญารู้แจ้ง จึงเกิดความเบื่อหน่ายการเกิด ได้ขอลามาบำเพ็ญเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า มาบัดนี้ ความปรารถนาของเราสำเร็จแล้ว ขอน้องหญิงจงอโหสิกรรมให้แก่เราเถิด..”

ปุญญมาณวิกา เมื่อรู้ว่า พระมังคลปัจเจกพุทธเจ้าได้บรรลุธรรม เพื่อมิได้เป็นโทษต่อกัน จากนั้นนางได้ก้มกราบขอขมาแก่พระองค์ และขออโหสิกรรมแก่พระองค์ และได้อโหสิกรรมต่อพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า ทรงตรัสว่า..

“หากมิมีผู้ปรารถนาจะครองคู่กับน้องหญิงมาในกาลก่อน เราจะได้ทำตามที่น้องหญิงได้ปรารถนา คือการตัดเข้าพระนิพพานตั้งแต่ยุคของสมเด็จพระโลกุตตรพุทธเจ้า แต่เหตุด้วยมีผู้ปรารถนาจะครองคู่กับนาง เป็นเหตุให้นับแต่นี้เป็นต้นไป จะต้องช่วยเหลือการบำเพ็ญพระสัมมาสัมโพธิญาณกับพระโพธิสัตว์ ผู้เป็นอดีตน้องชายของเรา ขอให้น้องหญิงจงสงบใจเถิด ความปรารถนาที่จะช่วยเติมบารมีพระโพธิสัตว์ให้เต็มของน้องหญิงแก่กล้านัก ยากที่จะละความปรารถนานั้นได้
ในอนาคตกาลอีกไม่นาน จะมีพระพุทธเจ้ามาบังเกิด นามว่า “สมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า” กาลนั้น ผู้ปรารถนาน้องหญิงเพื่อเป็นคู่บารมีจะมาจุติ และจะทราบว่าเป็นใคร”


เมื่อพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้ากล่าวจบ ชาวนาคพิภพทั้งหลายต่างโมทนาสาธุการ จากนั้น พญาโภคนาคราชได้ กล่าวอาราธนาให้รับภัตตาหารต่ออีกจนครบ ๗ วัน จากนั้นพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้าได้ให้เทศนาเรื่องทาน และศีลแก่พญานาคราชทั้งหลาย โดยครั้งนั้น พญาโภคนาคราชได้เชิญกษัตริย์จากหลายเมืองมากด้วย กาลนั้นพญาภุชงค์นาคราช ยังมิได้มาจุติแต่อย่างใด
เมื่อรับภัตตาหารครบ ๗ วันแล้ว พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑๐๐๐ องค์ และท่านเกษรีฤาษี ได้เหาะขึ้นกลางไปทางอากาศ และหายไปในที่สุด


ฝ่ายพญาโภคนาคราช และพระมเหสีนั้น ได้ทราบเรื่องราวของธิดาองค์เล็กก็รู้สึกห่วงใยมาก จึงไดมอบหมายให้เจ้าชายอัคคีตาปะ และเจ้าหญิงตติมาณวิกาเป็นผู้คอยดูแลธิดาองค์เล็กต่อไป

โปรดติดตามตอนต่อไป วันพรุ่งนี้ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

สำหรับพระขรรค์ และกริซ ทั้ง ๕ สีนั้น พระเกษรีฤาษีได้อธิษฐานจิต เพื่อเป็นเครื่องบูชาครู คือพระฤาษีทั้ง ๕ ซึ่งพระฤาษีทั้ง ๕ นั้น ภายหลังได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในภัทรกัปป์มาแล้ว ๔ พระองค์ และจะตรัสรู้ในอนาคตกาลอีก ๑ พระองค์ค่ะ

โดย กริชสีชา ท่านตั้งใจถวายแด่หัวหน้าพระฤาษี คือ สมเด็จพระกกุสันโธ
พระขรรค์สีม่วงเข้ม เพื่อถวายแก่พระฤาษี หรือพระโกนาคมพุทธเจ้า

พระขรรค์ม่วงอ่อน หรือน้ำทะเล ถวายแด่พระฤาษี หรือ พระพุทธกัสสปพุทธเจ้าพระขรรค์สีขาวใส ถวายแด่พระฤาษี หรือพระพุทธสมณโคดม
และพระขรรค์สีแดง ถวายแด่พระฤาษี หรือพระพุทธศรีอารียเมตไตรย


ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

เมื่อวานนี้ 10:43 PM
mooom ขอเริ่มประเดิมกริซสีแชมเปญ 3550 พระขรรค์สีขาว 2550 ครับ


**********************

ขณะนี้มีผู้ประมูลเพียงท่านเดียว ขออนุโมทนาบุญกับคุณ mooom อีกครั้งค่ะ

Numsai

 

สีม่วงอ่อน 2550 บาทค่ะ

 

พระขรรค์สีแดง3550 ครับ ใกล้เวลาแล้วนะครับ

 

กริช 3600 พระขรรค์สีแดง 3550 พระขรรค์สีม่วงเข้ม 2550 พระขรรค์สีม่วงอ่อน 2550

 

กริช 3700 ครับ

 

เอิ๊ก ๆ มาไม่ทันเลย ปิดประมูลไปซะแล้ว
ลืมมมมมมมมมมมมมมมมมม

 

..ขอแสดงความยินดีกับคุณ sun 2555 และคุณmooom ด้วยค่ะ ..

วันนี้ 09:00 PM
mooom กริช 3700 ครับ

วันนี้ 08:59 PM
sun2555 กริช 3600 พระขรรค์สีแดง 3550 พระขรรค์สีม่วงเข้ม 2550 พระขรรค์สีม่วงอ่อน 2550

วันนี้ 08:58 PM
mooom พระขรรค์สีแดง3550 ครับ ใกล้เวลาแล้วนะครับ

เมื่อวานนี้ 10:43 PM
mooom ขอเริ่มประเดิมกริซสีแชมเปญ 3550 พระขรรค์สีขาว 2550 ครับ

*************************************

ขอแสดงความยินดี และอนุโมทนาบุญกับคุณ sun2555 และคุณ mooom ด้วยค่ะ

ขอให้สำเร็จตามความปรารถนาทุกประการค่ะ

และขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ร่วมประมูล และช่วยเชียร์ด้วยค่ะ

Numsai

 

เนื่องจากประวัติของพระเกษรีฤาษีค่อนข้างยาว ทั้งนี้จะมีความเกี่ยวเนื่องกับประวัติพระขรรค์ที่เคยนำเสนอมาแล้วค่ะ จึงขอนำเสนอตอนต่อไปในวันจันทร์ค่ะ

ซึ่งวันพรุ่งนี้ (๔ พย.๕๕) จะเดินทางไปร่วมบุญกฐิน วัดเขาวง(ถ้ำนารายณ์) จ.สระบุรี ตั้งแต่เช้าค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ร่วมประมูล และติดตามกระทู้นี้ด้วยค่ะ

Numsai

 

ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนากับคุณsun 2555และคุณmoomด้วยนะครับ

 

ยินดีกับคุณmooomและ คุณsun 2555 อนุโมทนาบุญด้วยค่ะพระขรรค์และกริชสวยมากๆค่ะ

 

ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนากับคุณsun 2555

และคุณmoomด้วยนะครับ

ที่ได้เป็นเจ้าของกริชและพระขรรค์​

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun และคุณ moom ด้วยนะคะ
ที่ได้เป็นเจ้าของกริชและพระขรรค์ และยังได้ร่วมบุญใหญ่ด้วย สาธุ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun และคุณ moom ด้วยนะคะ
ขอให้สำเร็จตามความปรารถนาทุกประการค่ะ

จันทรกาล

 

ซึ่งวันพรุ่งนี้ (๔ พย.๕๕) จะเดินทางไปร่วมบุญกฐิน วัดเขาวง(ถ้ำนารายณ์) จ.สระบุรี ตั้งแต่เช้าค่ะ



ขออนุโมทนาบุญ ทุกๆบุญกับพี่น้ำใสด้วยค่ะ


จันทรกาล

 

สำหรับท่านที่มีความประสงค์อยากจะไปร่วมงานบุญมหากฐิน ในวันที่ 17 นี้
เราได้จัดรถตู้ไป จำนวน 5 คันค่ะ

ณ ขณะนี้ มีที่นั่งว่างเหลืออีก 5 ที่นั่งแล้วค่ะเป็นรถตู้ VIP 10 ที่นั่ง
เดินทางไปตอนเย็นวันที่ 16 พย.2555 กลับวันที่ 18 พย.2555 นี้ค่ะ

สนใจ สอบถามรายละเอียดได้เพิ่มเติมเชิญหลังไมค์ กับเอ๋ได้ค่ะ 089 921-3969

จันทรกาล

 

วันนี้ วันที่ 6/11/55 คุณสมยง บัวทอง และกลัยาณมิตร (บ้านกระโดน จ.บุรีรัมย์)
คุณตระกูล โสรักนิตย์ และคุณยายเปือย ,คุณยุพดี โสรักนิตย์
ร่วมบุญถวายดวงแก้วมณี จำนวน 700 บาท

ขอให้อานิสงส์แห่งการถวายดวงแก้วมณี...จงเป็นผลสำเร็จโดยพลัน
๑. ทำให้หายจากโรคตามีดวงตาที่สดใส
๒. มีทิพยจักขุญาณแจ่มใส
๓. มีญาณหยั่งรู้ได้โดยรอบ
๔. เป็นที่เคารพยกย่องแก่วิญญูชน
๕. เดินทางไปที่ใด มีผู้คนให้การต้อนรับ
๖. ทรัพย์ที่มีอยู่ไม่เสื่อมสลาย และมีทรัพย์ใหม่เข้ามา
๗. เมื่อละโลกแล้ว ก่อให้เกิดทิพยสมบัติที่ประกอบไปด้วยรัตนะทั้ง ๗ โดยมีดวงแก้วมณี เป็นต้น
๘. เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะเป็นผู้มีทิพยจักขุญาณแจ่มใสตั้งแต่เยาว์วัย และเป็นผู้มีปัญญามาก


ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะค่ะ
จันทรกาล

 

วันนี้ วันที่ 6/11/55 โอนเงินร่วมเป็นเจ้าภาพงานบุญกฐินบรมจักรพรรดิ์ จำนวน 4,300.-
โดย
คุณสมยง บัวทอง และกลัยาณมิตร (บ้านกระโดน จ.บุรีรัมย์)
คุณตระกูล โสรักนิตย์ และคุณยายเปือย ,คุณยุพดี โสรักนิตย์

ขออนนิสงส์แห่งบุญนี้ ให้ครอบครัวมีความสุข ความเจริญ ร่ำรวย มีโชคลาภ ทั้งแก้วแหวนเงินทองกินใช้ไม่หมด และขอให้เจริญทั้งทางโลก และทางธรรม

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยค่ะ

จันทรกาล