ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ปัจจุบันดวงแก้วสหัสดินทร์ไตรภพ นั้นอยู่ ประดิษฐาน ณ.เมืองสัตตรัตนนครแห่งนาคพิภพ ส่วนดวงแก้วเทพอมรภาคิน อยู่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ผุ้เฝ้ารักษาเป็น ๑ ในอดีตพระโอรสของพระเจ้าสัตยารัตน์ เพื่อให้เทพบุตร-เทพธิดาได้เคารพสักการะ

สำหรับผู้เกี่ยวข้องในตอนที่ผ่านมาคือ..

๑. พระเจ้าสัตยารัตน์ - ท่าน widya

๒. เจ้าชายสีหราช - คุณ sun2555

๓. เจ้าของผ้ากำพลแดงที่ได้ถวายพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑๐๐๐ องค์ คือ เจ้าของดวงแก้วอัครมหิศรในปัจจุบันค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

ดวงแก้วภูวดลธรรมรัตน์ สวยมากครับ

อนุโมทนาบุญ ทั้งหมด ทั้งมวล

 

อนุโมทนาบุญครับ สาธุ สาธุ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขนะครับ

 

สาธุๆ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

ดวงแก้วสวยม๊ากๆ

จันทรกาล

 

ขอโมทนาสาธุกับคุณ mooom ค่ะที่ร่วมประมูลลูกแก้ว
ดวงแก้วสวยจริงจังมาก ๆ... ขอให้ได้ให้โดนนะคะ อิอิ


ส่วนดวงแก้วอัครมหิศรนั้นเคยเห็นที่บ้านพี่น้ำใสเมื่อนานมาแล้ว
ในตอนนั้นมีสีแดงสดสวยมาก แต่เมื่อไปเห็นครั้งล่าสุด สีแดงดูจางลงเกือบจะกลายเป็นสีชมพูค่ะ
รู้สึกแปลกใจระคนปลื้มใจแทนพี่น้ำใส เพราะฉะนั้นขอโมทนากับพี่น้ำใสด้วยนะคะ

 

เชิญร่วมโมทนาบุญกับคุณพีระชัย ค่ะ

เมื่อวันที่ 9/11/2555 ได้โอนเงิน จำนวน 300.30 ร่วมบุญถวายดวงแก้วมณี ค่ะ

ขอให้อานิสงส์แห่งการถวายดวงแก้วมณี...จงเป็นผลสำเร็จโดยพลันๆๆๆ
๑. ทำให้หายจากโรคตามีดวงตาที่สดใส
๒. มีทิพยจักขุญาณแจ่มใส
๓. มีญาณหยั่งรู้ได้โดยรอบ
๔. เป็นที่เคารพยกย่องแก่วิญญูชน
๕. เดินทางไปที่ใด มีผู้คนให้การต้อนรับ
๖. ทรัพย์ที่มีอยู่ไม่เสื่อมสลาย และมีทรัพย์ใหม่เข้ามา
๗. เมื่อละโลกแล้ว ก่อให้เกิดทิพยสมบัติที่ประกอบไปด้วยรัตนะทั้ง ๗ โดยมีดวงแก้วมณี เป็นต้น
๘. เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะเป็นผู้มีทิพยจักขุญาณแจ่มใสตั้งแต่เยาว์วัย และเป็นผู้มีปัญญามาก



ขออนุโมทนาบุญกับคุณพีระชัยด้วยค่ะ

จันทรกาล

 

ผมเห็นดวงแก้วลักษณะเดียวกันกับดวงแก้วอัครมหิศรที่วัดปทุมฯ ไม่ทราบว่ามีที่มาต่างกันไม๊ครับ

 

เท่าที่ได้พบ ลักษณะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันค่ะ เนื่องจากเนื้อดวงแก้วอัครมหิศรนั้น มีเนื้อละเอียดกว่า หากสังเกตุจะคล้ายดวงแก้วบรมจักรพรรดิทั่วไป เพียงแต่มีวัตถุคล้ายไยผ้าอยู่ภายใน

แต่ดวงแก้วที่วัดปทุมวนารามลักษณะคล้ายหินนำมาเจียระไนเป็นดวงแก้วค่ะ เนื่องจากภายในมีความขุ่นมากกว่าค่ะ

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

Numsai

 

ขอร่วมบุญกับท่านปู่เกษรีฤาษี 18,116 บาท

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ ที่ร่วมเชียร ร่วมประมูล ร่วมอนุโมทนา

และขออนุโมทนาบุญกับท่านที่เป็นเจ้าของดวงแก้วล่วงหน้าด้วยครับ​

 

ร่วมประมูล 17200บาทครับ

 

ขอประมูลที่18200ครับ

 

ขอแสดงความยินดีและขออนุโมทนาบุญกับท่านวิทยาด้วยครับ ดวงแก้วนี้ชื่อมีความหมายดีมากเลยครับ

 

วันนี้ 09:00 PM
mooom ขอประมูลที่18200ครับ
วันนี้ 08:59 PM มีนัม ร่วมประมูล 17200บาทครับ

วันนี้ 08:58 PM widya ขอร่วมบุญกับท่านปู่เกษรีฤาษี 18,116 บาท

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ ที่ร่วมเชียร ร่วมประมูล ร่วมอนุโมทนา

และขออนุโมทนาบุญกับท่านที่เป็นเจ้าของดวงแก้วล่วงหน้าด้วยครับ

___________________________________________

ขอแสดงความยินดีกับ ท่าน widya ด้วยค่ะ ที่ได้ดวงแก้วภูวดลธรรมรัตน์ไปดูแลค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ mooom และคุณมีนัมที่ร่วมประมูลในครั้งนี้ด้วยค่ะ

Numsai

 

อนุโมทนาบุญกับ ท่านวิทยา ด้วยนะครับ
ผมรู้สึกทึ้งในทานบารมีของท่านมากครับ สมแล้วที่เป็นวิริยะธิกะพิเศษนะครับ
สาธุ สาธุครับ _/\_

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับน้องธรรมวิวัฒน์ค่ะ พี่เองก็ทึ่งไม่ต่างกันกับน้องค่ะ เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปจะเป็นเรื่องของท่าน widya ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้องด้วยคะ

Numsai

 

เรื่องของพระเกษรีฤาษี ตอนที่ ๑๕ พระเจ้าสัตยารัตน์ ทรงจุติเป็นพญานาค..


กล่าวถึงเมืองสัตตรัตนนคร หลังจากเจ้าชายอัคคีตาปะนาคราชได้นำดวงแก้วมณีมาถึง ทำให้เกิดวิมานแก้วประกอบด้วยรัตนะทั้ง ๗ หลังใหญ่เป็นที่รองรับการประดิษฐานของดวงแก้วสหัสดินทร์ไตรภพ วิมานแก้วแห่งนี้ พญาโภคนาคราชได้เป็นที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง บางครั้งเป็นที่ประชุมของกษัตริย์แห่งภพบาดาลทั้งหลาย

เจ้าชายอัคคีตาปะนาคราช ได้แจ้งข่าวของพระธิดารักขมาณวิกาว่า “ก่อนพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้าได้ตรัสว่า อีกไม่นานนางจะมาจุติเป็นมนุษย์ ให้ตนออกติดตามหานาง เพื่อได้สร้างบุญใหญ่ในยุคของพระพุทธเจ้าที่จะอุบัติขึ้นมาใหม่”

ข่าวนี้ได้แพร่สะพัด สร้างความยินดีแก่เหล่านาคีนาคาทั้งหลาย จะได้สร้างบุญใหญ่อีกทั้งได้พบผู้ที่เคยรักษาเมืองนี้ไว้ จึงเฝ้ารอคอยข่าวดี ชาวสัตตรัตนนครทั้งหลายต่างอยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นสุขเรื่อยมาผ่านไปนานอีกหลายหมื่นปีมนุษย์

ด้วยบุพกรรมที่เคยเกี่ยวเนื่องกันมา กาลนั้นก่อนสมัยสมเด็จพระพุทธวิปัสสี พระเจ้าสัตยารัตน์ อดีตกษัตริย์แห่งเมืองไชยเมตตนคร ได้จุติจากพรหมโลกไปยังนาคพิภพนามว่า “พญาปิณฑวนาคราช” แห่งเมืองวนสัตตนคร เกิดในตระกูลสีทอง กาลต่อมา “พระนางสุทธิมาตา” ซึ่งเคยเป็นพระมเหสีในอดีตนั่นเอง ได้จุติจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีพระสิริโฉมงดงามมาก วาจาไพเราะอ่อนหวาน มีความเมตตาสูง

การจุติคราวนั้น เสมือนการเกิดเมืองใหม่ขึ้นมาด้วยบุญญฤทธิ์ หลังจากพญาปิณฑวนาคราชได้จุติในนาคพิภพ ชาวเมืองไชยเมตตนครก็ได้จุติจากภพต่าง ๆ ขึ้นในเมืองนั้น โดยมีสภาพตามบุญบารมีของตน

เมื่อพญาโภคนาคราชได้ทราบด้วยญาณทัสสนะว่า มีเมืองใหม่เกิดขึ้นมาห่างจากเมืองของพระองค์ประมาณ ๑๐๐ โยชน์ ทราบว่าเป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด และเป็นอดีตกษัตริย์เมืองไชยเมตตนคร จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ได้ให้คนจัดเครื่องบรรณาการแสดงความต้อนรับ เป็นเมืองพันธมิตรต่อกัน

พญาปิณฑวนาคราชนั้น ก็ได้มีความยินดีที่ได้พบสหายเก่า แม้เคยพบกันเพียงไม่นานในช่วงพิธีบูชาพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้าก็ทราบว่า พญาโภคนาคราชนั้นมีความจริงใจต่อกัน จึงได้มอบเครื่องบรรณาการตอบรับการผูกมิตรไมตรีต่อกัน และสัญญาจะเป็นพันธมิตรต่อกันในเบื้องหน้า

ส่วนพระโอรสทั้ง ๔ นั้นได้จุติเพียงพระองค์เดียว คือ เจ้าชายสีหราช ได้มาจุติจากนั้นไม่นานนัก โดยมีพระนามว่า “เจ้าชายปิณฑวราช” และ“เจ้าชายปิณฑวมังคล”ซึ่งจุติมาจากพรหมโลกตามวาระ
พญาปิณฑวนาคราชนั้นได้ทราบเรื่องของการอุบ้ติของพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลจากพญาโภคนาคราช จึงได้ให้พระมเหสี พระโอรส และชาวเมืองวนสัตตนครนั้น ได้รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ตลอดทั้งในวันขึ้น ๑๕ ค่ำได้เข้าฌานสมาบัติ และงดใช้ฤทธิ์กัน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา พระองค์ทรงได้ครองเมืองนี้ด้วยความสงบสุขเรื่อยมา

โปรดติดตามตอนต่อไปคะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญกับ ท่านวิทยา เจ้าของด้วงแก้วนี้ ด้วยเจ้าค่ะ

และคุณmoom ที่ร่วมประมูลในครั้งนี้ค่ะ
และพี่น้ำใส ในธรรมทาน ให้อ่านอย่างจุใจ และได้ข้อคิดดี ในการทำดีค่ะ
และทุกๆที่ร่วมเชียร์ค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

จันทรกาล

 

ยินดีกับท่านวิทยาด้วยค่ะ ^^
สาธุ ขอโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลนะคะ....
และรอฟังเรื่องเล่าในอดีตของท่านวิทยาต่อ อิอิ จะหนุกหนานไหมหนอ
ชะเง้อรอคอยเผื่อพี่น้ำใสใจดีจะกลับมาเล่าให้ฟังวันนี้

 

ขอคั่นรายการด้วยเรื่องเล่าของตาลเกี่ยวกับการได้พบพระเกษรีฤาษีนะคะ
เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย...(เข้ากับเรื่องพอดี อิอิ)


เช้าตรู่วันพฤหัสที่ผ่านมา ตาลนั่งสมาธิปกติธรรมดาไปเรื่อย ๆ ตามความเคยชิน...
ปกติตาลจะจับภาพสมเด็จองค์ปัจจุบันในพระวรกายพระสงฆ์
นั่งสมาธิเบื้องหน้าท่านไปเรื่อย ๆ บางครั้งหากพระองค์ท่านมีข้อคิด
คือธรรมะใด ก็จะกล่าวให้ฟังเป็นการพิจารณาวิปัสนาญาณ


ในวันนั้นขณะที่จับภาพพระอยู่ดี ๆ ภาพพระพุทธเจ้าก็เปลี่ยนไป
ตาลเห็นตัวเองดิ่งลง ๆ และเห็นน้ำเต็มไปหมดรอบกาย
น้ำนั้นเย็นและมืด มองเห็นหลุมสีดำขนาดใหญ่คล้ายรูอะไรซักอย่าง
ไม่กี่อึดใจตาลก็ลอดผ่านรูนั้นจนเห็นถ้ำหินปูนสีน้ำตาลขนาดใหญ่แต่แคบ ลื่นและเปียกชื้น
มองไปรอบ ๆ ก็เห็นพระฤาษีองค์หนึ่งนั่งหลับตานิ่งสงบอยู่บนแท่นเล็ก ๆ


ได้ยินเสียงพระท่านบอกให้กราบพระฤาษี ตาลจึงก้มกราบท่าน
และได้ยินพระท่านกล่าวต่อไปว่า ...
นับจากนี้ไปให้นับถือพระฤาษีเป็นครูบาอาจารย์ที่เป็นมนุษย์องค์แรกของลูกนะ
ตาลจ้องมองท่านด้วยความฉงนค่ะ
ผิวกายท่านเป็นสีชมพูอ่อน คิ้ว หนวดและผมสีขาวโพลน ยาวเฟื้อย แต่ผมถูกรวบเป็นมวยไว้
ท่าทางของท่านเหมือนยังหนุ่มค่ะ เป็นคนหนุ่มที่อายุไม่น่าจะเกินสามสิบห้าปี
รูปร่างสูงใหญ่ สง่าผ่าเผย อกผายไหล่ผึ่ง หน้าตาดี


จึงได้เรียนสอบถามท่านว่าท่านเป็นใคร ท่านไม่ใช่พระอัศดงฤาษีใช่ไหมเจ้าคะ? (ตาลเคยพบท่านแล้วจึงคิดว่าไม่ใช่)
แต่ท่านก็ไม่ตอบ...
จึงได้กราบเรียนถามปัญหาเรื่องต่าง ๆ หลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการฝึกสมาธิ
ที่ ณ ตอนนั้นตาลกำลังฟุ้งซ่านอย่างหนัก
ท่านตอบว่า...ให้ปิดอายตนะทั้ง ๖ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสภายนอก
ให้ดวงจิตตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียว แล้วจะพบกับความสงบระงับภายใน
จากนั้นท่านก็ได้ให้โอวาทหลายประการค่ะ เมื่อถึงแก่เวลาจึงกราบลาท่านออกมา


เมื่อออกมาแล้วรู้สึกประทับใจท่านมาก
และอยากทราบว่าท่านเป็นใครจึงได้ถามพี่สาว
พี่สาวตอบว่าท่านคือพระเกษรีฤา๊ษีค่ะ...
ซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์ของพระอัศดงฤาษีและพระอัศรินทร์ฤาษี


ตาลคิดว่าท่านคงดึงจิตตาลลงไปพบค่ะ เพราะตอนนั้นตาลกำลังฟุ้งซ่านจิตไม่น่าจะมีกำลังไปเองได้
จึงรู้สึกประทับใจท่านมากที่ท่านได้ช่วยเหลือและให้ข้อคิดดี ๆ หลายเรื่อง
แถมการไปครั้งนั้นก็เหมือนจริงมากค่ะ รู้สึกได้เลยว่าถ้ำนั้นมืดและชื้นมาก
คิดเล่น ๆ ว่าหากเราอยู่คนเดียวคงทำไม่ได้เพราะถ้ำแลน่ากลัวมากค่ะ


บุญกุศลใดพึงบังเกิดขอน้อมถวายพระฤาษีผู้เป็นพระอาจารย์ทุกประการเจ้าค่ะ

 

ขอนุโมทนาบุญกับน้องตาล ด้วยนะค่ะ

จันทรกาล