ถึงเวลาที่สยบข่าวภัยพิบัติ  ทางสายเอก

ขอบคุณครับ  พระพุทธศาสนาไม่ต้องการสอนให้เอาภัยพิบัติมาอ้างเพื่อให้คนทำบุญ หรือหันเข้ามาปฏิบัติด้วยความที่กลัวภัย ถึงแม้นจะกล่าวว่าบุญแต่จะเป็นบุญที่เจือบาป  แต่พระพุทธเจ้าเราทรงสอนเรื่องศรัทธา ในพระพุทธศาสนา
และจะต้องเข้ากับหลักธรรมซึ่งจะต้องเป็นการไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกันครับ

 

โมทนากับข้อความนี้ เห็นด้วย เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนให้ปอกเปลือกความอยากได้ อยากมี อยากเป็น (กิเลส) ออก ท่านไม่ได้สอนให้เอาเข้าไปเพิ่ม

ส่วนเรื่องมรณกรรม มันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอด้วยตัวเองอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาของแต่ะละคน ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องหนีไปไหน ถ้าลองยังไม่หมดอายุขัย ก็เห็นบางคน ถึงจะโดนลูกตะกั่วฝังเข้ากระโหลก เขายังรอด

แต่บางคน หมดอายุขัย กินขนมอยู่ดีๆ สำลักตายก็มี

 

เมื่อไม่ถึง   ที่ตายวาย  ชีวาวาด
ใครพิฆาต   เข่นฆ่า   ไม่อาสัญ
หากถึงที่    ตายวาย   ชีวาวัน
ไม้จิ้มฟัน    แทงเหงือก    เลือกที่ตาย

 

ผีปิรามิดภาคสองต่อ

เมื่อผ่านวัน ฝันผวา ท่าจะจุก
เหมือนหมากรุก เข้ามุม รุมขุนผา
เก็บเบี้ยเกลี้ยง เลี่ยงกระทู้ ดูบางตา
รวมทั้งม้า และเรือ เมื่อหายไป

เหลือแต่ขุน หมุนไป ยังไขว่คว้า
ดิ่งพสุธา พาเรื่อล่ม มาจมหาย
ภัยพิบัติ แบบนี้หนี ผีลาตาย
หาวลีใหม่ นำมาใช้ ให้เขียนลง

คนรู้ทัน ดักคอรอ ใว้ก่อน
เหมือนละคร ดูบทหนัก พักรอใว้
หมดเรื่องเล่น มีให้เห็น เช่นนี้ไป
เรียกว่าภัย ปิรามิด ติดตาจน

 

ภัยพิบัติ ผ่านพ้น ชนมีสุข
แสนสนุก ปรีดิ์เปรม เกษมศานต์
จัดตระเตรียม รับปีใหม่ แสนสำราญ
ทำการงาน ให้ดี มีมงคล

หมั่นสวดมนต์ ไหว้พระ ละความชั่ว
ไม่เมามัว มั่วอบาย ใฝ่่กุศล
ชีวิตนี้ มีพระธรรม นำจิตตน
ชีวิตพ้น ภัยพาล ชั่วกาลเทอญ

 

คุณติงแต่งกลอนไพเราะดีครับ

 

    
                          เตือนภัยที่ใกล้ตัวก่อน
                                 หรือจะรอ
เราจะเข้าวัดด้วยความศรัทธาเองหรือจะรอให้คนอื่นหามเราเข้าไป
เราจะสวดมนต์ภาวนาเองหรือจะรอให้พระมาสวดอภิธรรมให้เมื่อเราฟังไม่ได้แล้ว
เราจะเจริญสติหาทางไปของเราเองหรือจะรอให้คนอื่นบอกทางให้ไปสู่ที่ชอบ

 

ท่านอาจารย์เตือนได้ชอบแล้วค่ะ

ขอนำตน เข้าวัด ดัดนิสัย
ศรัทธาใน พระธรรม คำสั่งสอน
จักสวดมนต์ ไหว้พระเจ้า ก่อนเข้านอน
คำท่านสอน เจริญจิต ศิษย์ฟังคำ

 

จะเข้าวัด ก็ควรรีบเข้าตั้งแต่เรี่ยวแรงยังดี

หลายวันก่อน ดูรายการเมืองใจดี ช่องไทยพีบีเอส เป็นตอนที่ทีมสถาปนิก กับทีมช่าง มีภารกิจปรับปรุงวัดแห่งหนึ่ง แถวปทุมธานี รึรังสิต จำไม่ได้แล้ว

ที่ต้องปรับปรุงคือ ในส่วนทางเดิน ให้เป็นทางลาด สำหรับคนขาไม่ดี คนแก่ แล้วก็ปรับปรุงห้องน้ำ ให้มีราวติดผนัง เพื่อให้ผู้ใช้ ยึดเกาะได้ ไม่ลื่นล้ม

ที่ประทับใจคือ คำพูดของกรรมการคนหนึ่ง เขาเป็นคนพิจารณาโครงการ ว่าที่เสนอว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ จะใช้งบเท่าไรดี คนพูดเป็นผู้หญิงวัยเลยกลางคนแล้ว เขาพูดทำนองว่า

" คนแก่ เป็นศูนย์รวมของความพิการทั้งมวล ทั้งตาหูไม่ไดี แขนขาอ่อนแรง แล้วส่วนใหญ่ คนจะชอบเข้าวัดตอนแก่ ตอนหนุ่มๆ สาวๆ ไม่ค่อยเข้ากัน เพราะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น "

คำพูดนี้ค่อนข้างตรงกับความเป็นจริง ของสังคมโลก

 

ขอบคุณครับที่โพสต์มา สมัยนี้ผิดกันกับแต่ก่อน แต่ก่อนนั้นเมื่อเกิดมาพอโตขึ้นมาหน่อยพอจะรู้เรื่อง แค่พอใช้ไปหยิบของมาได้ พ่อแม่หรือตายายก็จะรีบพาเด็กเอาไปฝากวัดกันแล้วครับ เพื่อจะได้เรียนและศึกษาหาความรู้กับหลวงตาที่วัดครับ  เรียกว่าเป็นเด็กอยู่ก้นกุฏิวัดครับ  ศรัทธาจึงได้ซึมซับแนบแน่นในบวรพระพุทธศาสนาเมื่อหลวงตาท่านว่างก็จะใช้ให้เทกระโถนน้ำหมากบ้าง  ให้บีบนวดท่านบ้างและเมื่อท่านได้โอกาสท่านก็จะอบรมจริยธรรม สอนเด็กตลอดทั้งได้สอนถึงวิชาอาคมต่างฯที่ท่านได้เรียนมา  เมื่อตกถึงเวลาเย็นแล้ว
ท่านก็ให้กลับบ้านไปช่วยพ่อแม่ทำงาน เรียกว่าโตมากับวัดโดยตรง
ไม่ต้องรอจนแก่  ครับ คนสมัยก่อนเขามองการไกลและมีภูมิปัญญาที่สูงกว่าคนสมัยนี้มากครับ

 

ส่ง ท้าย ปี เก่า ต้อน รับ ปี ใหม่
ท้าย ให้เกิด ความดี ในปีใหม่
ปี ใหม่นี้ สุขสันต์ ทุกวันไป
เก่า จำใว้ สิ่งที่ดี ปีผ่านมา

ต้อน ความดี ความรัก พักกิเลส
รับ ที่เหตุ บุญมี ที่สร้างใว้
ปี ใหม่มา สุขหนา พาสมใจ
ใหม่ สดใส สิ้นภัยทุกข์ สุขมาแทน

 

โมทนา มาอ่านกลอน อวยพรให้
รับด้วยใจ ไมตรี มีความหวัง
เริ่มต้นใหม่ กอปรกรรมดี มีสุขจัง
เพิ่มพลัง อิ่มแรงบุญ ที่หนุนนำ

พระอาจารย์ เมตตา หวังมาช่วย
ชาวพุทธด้วย ช่วยกันได้ ไม่ถลำ
เจริญจิต เจริญใจ มุ่งใฝ่ธรรม
ท่านช่วยนำ แสงสว่าง ส่องทางเดิน

สิ่งน่ากลัว ใช่ภัยร้าย หมายชีวิต
กลัวกิเลส อีกสักนิด โลกสรรเสริญ
หากมัวเมา เขลาวิชา มาหลงเพลิน
อาจก้าวเดิน ทางผิด ติดอบาย

สมาธิ สายปัญญา มาที่หนึ่ง
อีกอย่างพึง ศีลรักษา อย่าห่างหาย
หาโอกาส ให้ทาน ไม่บานปลาย
นิพพานหมาย ตั้งตรง ไม่หลงทาง.

 

ดัน..............

 

นึกถึงความตาย สบายนัก

มันหักรัก หักหลง ในสงสาร

บรรเทามืด โมหันต์ อันธกาล

ทำให้หาญ หายสะดุ้ง ไม่ยุ่งใจ

(สุนทรภู่)



กลอนกินใจของสุนทรภู่บทนี้ คนทั่วไปฟังแล้ว ไม่ค่อยเข้าใจ หรือเข้าใจ แต่ทำใจให้คล้อยตามได้ยาก เพราะส่วนใหญ่ เมื่อนึกถึงความตาย ก็มักไม่สบายใจกันอย่างยิ่ง เพราะดูเหมือน ความตายจะเป็นวาระที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต ใครสบายใจสบายคอได้ลง ก็คงแปลก

คำว่า ‘สงสาร’ ในกลอนของสุนทรภู่ ไม่ใช่น่าสงสารหรือน่าเห็นอกเห็นใจ แต่หมายถึง ‘วัฏสงสาร’ ซึ่งทางพุทธเราหมายถึง การเวียนว่ายตายเกิดแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เกิดอย่างไม่รู้ว่ามาจากไหน ตายอย่างไม่รู้ว่า จะต้องไปไหนต่อ

รู้แต่ว่า ตอนอยู่นั้น อยากทำอะไรก็ทำ มันจะมีผลข้ามภพข้ามชาติหรือเปล่า ไม่สน ไม่เชื่อ

ให้พูดตรงไปตรงมา นาทีนี้รู้สึกว่า โลกแตกเป็นเรื่องไกลตัว ส่วนกายแตก ใจแตกนี้ ใกล้ตัวกว่า เป็นไปได้จริงมากกว่า


เพราะผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาหลายหน คือ อยู่ดีๆ ร่างกายก็จะทำตัวเป็นเครื่องประหารตนเองบ้าง หรือเหตุการณ์บนท้องถนน กลายเป็นวินาทีระทึกบ้าง

ผมมองว่าช่วงนี้เกิด ‘ความหวาดกลัวที่สูญเปล่า’ เป็นวงกว้าง

คือกลัวแบบไม่ได้ประโยชน์อะไรเพิ่มเติม ไม่มีการระวังตัว ไม่มีการเตรียมใจ มีแต่หวาดกลัว มีแต่จิตหม่นมืด หาความสบายใจไม่พบ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะคนเราขี้เกียจหาข้อมูลข้อเท็จจริง แล้วก็ไม่อยากนึกถึงความตายกัน

ชาวไทยเป็นพุทธ แต่เป็นพุทธในแบบที่ไม่รู้ว่า พุทธชวนรู้เรื่องอะไร พุทธเรานี่ชวนคุยกันเรื่องเตรียมตัวตายกันถี่ที่สุด สมัยพุทธกาลท่านเตรียมตายกันแทบทุกลมหายใจเข้าออก หรือเดี๋ยวนี้ ไปดูพระแถวธิเบตท่านอบรมกันก็ได้

พุทธในท้องถิ่น ที่ไม่อบรมกันเรื่องเตรียมตัวตาย ได้ชื่อว่าห่างพระธรรมเดิม พากันเห็นการพูดคุยเกี่ยวกับความตาย กลายเป็นเรื่องอัปมงคลกัน พอถึงเวลาขึ้นมาถึงค่อยรู้ตัวว่า ไม่เตรียมตัวนั่นแหละ เรื่องอัปมงคลเป็นที่สุด

อยากฝากไว้ว่า นี่เป็นโอกาสอันดี ที่พวกเราชาวพุทธ จะถึงเวลาสำรวจใจตัวเองกันดู ถ้า ‘สมมุติ’ ว่าอะไรๆ จะเกิดขึ้นจริง เรามีความเตรียมพร้อมทางนามธรรม กันมากน้อยเพียงใด

ผมเคยเขียนหนังสือประกอบเสียงอ่านไว้ อ่านและฟังฟรี คือ ๗ วิธีตายอย่างสบายใจ

http://dungtrin.com/7ways

ข้อความต่างๆ ตั้งแต่บรรทัดแรกถึงบรรทัดสุดท้าย น่าจะเหนี่ยวนำให้เข้ามาดูใจ สำรวจความพร้อมกันได้ครับ โลกข้างนอกแตกไม่รู้จะเตรียมอะไรได้ มันสายเกินไปแน่ๆ แต่โลกข้างในแตกนี่ เตรียมแบบพุทธได้สารพัด


มาเตรียมตัวเตรียมใจ เรื่องโลกข้างในที่ไม่แน่นอน กันดีกว่า แล้วจะรู้ว่า มีวิธีตายอย่างสบายใจอยู่จริง ไม่ใช่เรื่องหลอก ไม่ใช่เรื่องทำนายทึกทักกันไปเองเลย

ดังตฤณ

ดังตฤณมัลติมีเดีย

 

ขอพรเทพบนสวรรค์ทุกชั้นฟ้า
ประทานมาซึ่งพรเลิศประเสริฐสรรค์
ขอให้ท่านชื่นสุขทุกข์หายพลัน
นึกสิ่งใดได้สิ่งนั้นทุกวันไป
ติงติง.

 

ว่านจั๊กจั่น
วางขายที่ตลาดนัดสามแยกเลิงนกทา
คู่ละ ๓๙๙ บาท

ไปตลาด (นัด)วันนี้ มีของแปลก
ครูติงแหวก แทรกไปดู อู้ฮู...นั่น!
เป็นแมลง หรืออะไร ใคร่รู้กัน
ว่านจั๊กจั่น ขายเป็นคู่ ดูเข้าที

แม่ค้าบอก ว่านนี้ มีดีนัก
คนจักรัก เมตตา มีราศี
หากเอาไป บูชาไหว้ คงได้ดี
คู่หนึ่งนี้ สี่ร้อยให้ ไม่แพงเลย

ครูติงถอย คอยสังเกต เหตุใดหนอ
ชาวพุทธรอ กราบไหว้เห็น เช่นเปิดเผย
สิ่งแปลกปลอม ยอมบูชา พาละเลย
คุณความดี มิเคย มีในตน.


ว่านจั๊กจั่น ที่มีขาย ในตลาด
สี่ร้อยบาท ขายไม่ผิด ปิรามิดผี
แสวงบุญนอก ศาสนา บรรดามี
สิ่งเหล่านี้ ที่เป็นผี มาหลอนคน

อ้างสรรพคุณ เมตตา มีราศรี
พรมวิหารสี่ นั้นมี ไม่ต้องซื้อ
ไม่ต้องปลูก ต้องแขวน แขนสองมือ
ที่ไปซื้อ เสียเงินฟรี ผีมาแทน

 

เหลือแต่ขุน หมุนไป ยังไขว่คว้า
ดิ่งพสุธา พาเรื่อล่ม มาจมหาย
ภัยพิบัติ แบบนี้หนี ผีลาตาย
หาวลีใหม่ นำมาใช้ ให้เขียนลง

คนรู้ทัน ดักคอรอ ใว้ก่อน
เหมือนละคร ดูบทหนัก พักรอใว้
หมดเรื่องเล่น มีให้เห็น เช่นนี้ไป
เรียกว่าภัย ปิรามิด ติดตาจน

ออกมาสารภาพบาปให้เห็นแล้วครับ   ข้อความจาก ทีมงานปิรามิด
อ้างอิง.. จากเวปอิงธรรม

จากเดิมที่พระอาจารย์รัตน์ได้แจ้งว่า วันที่ 3 ม.ค. 2556 ตั้งแต่เวลา17.00 น.เป็นต้นไป จะมี (อาการ) แรงกดทับถึงกับต้องคลานไปจนถึงวันที่ 14 ก.พ. 2556 รวมเป็นระยะเวลา 42 วันนั้น ณ ปัจจุบันท่านได้พบว่า (อาการ) แรงกดทับไม่ได้รุนแรงจนถึงกับต้องคลาน

สมุนไพรพลังพีระมิดพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ ขอคืนได้ภายใน 31 มกราคม 2556 เท่านั้นค่ะ..
วัน วันพุธ เวลา 19:48 น.
สมุนไพรพลังพีระมิดพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ
วันพุธ
ประกาศด่วน...จาก พระอาจารย์รัตน์ ฯ ลูกศิษย์ท่านแจ้งข่าวมาว่าในวันพรุ่งนี้ จะไม่เกิดเหตุการณ์ใดๆแล้วค่ะ ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ (ไชโยๆๆ) ส่วนสาเหตุนั้นพรุ่งนี้จะได้แจ้งให้ทราบอีกครั้งนึง เพราะตอนนี้ก็ไม่ทราบเช่นเดียวกันค่ะ แต่พอทราบข่าวดีมาก็รีบโพสแจ้งเพื่อนๆ ก่อนเลย

ส่วนพิระมิดที่ได้ซื้อไปจากทางวัด(จากที่นี่) หากท่านใดต้องการเงินคืนให้แจ้งผ่านกระทู้ไว้เลย

นับว่าเป็นข่าวดีมากๆค่ะ .. ถึงอย...ดูเพิ่มเติม
สมุนไพรพลังพีระมิดพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ
26 ธันวาคม 2012
สรุปข่าววงในมาจากศิษย์ใกล้ชิด พอจ.นะคะ.. สรุปว่ายังงัยก็ไม่เลื่อนแน่นอน เป็นวันที่ 3 มค. 56 แน่นอนค่ะ.. แต่ว่าเนื่องจากมีคนที่ยังไม่เชื่อเรื่องนี้เยอะมากๆ ท่านจึงพูดว่า อาจจะทำให้เหตุการณ์มันเกิดก่อนวันจริง อันนี้ไม่รู้ว่าท่านพูดจริง พูดเล่นนะคะ.. ติดตามเหตุการณ์กันต่อไป บรื้อส์ส์....^^
"สมุนไพรพลังพีระมิดพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ พอจ.ท่านพูดนะคะว่าถ้าครั้งนี้หากเหตุการณ์ไม่เกิดขึ้น ท่านก็จะไม่ลงมาจากดอยอีกเลยค่ะ.
แต่ท่านก็กำชับว่าให้เตรียมตัวให้ดีๆ วันที่ 3-4 มกราคมนี้ค่ะ ^^"

คมสันต์ ยูเอสเอ จากนี้ไปท่านก็คงลงมาจากดอยยากสักหน่อยเท่านั้นเอง วันที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๖ แล้วครับคุณ
 อาจจะต้องไปให้การที่สถานีตำรวจแทนโทษฐานหลอกลวงประชาชน ตามประมวลกฏหมาย  มาตรา  ๓๔๑   ๓๔๒   ๓๔๓    และ  ๓๔๘  

 

การกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา ข้อหาฉ้อโกง ตามมาตรา ๓๔๑ สรุปสาระสำคัญได้ว่าผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวง ทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ