เรื่องเหล้าเช้านี้..กาแฟอยู่ทางขวา.สู.รา..อยูทางซ้าย..คุยได้ทุกเรื่องไม่เสียตังค์...

มาแล้วครับ องค์แรก หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วหน้า หลัง พิมพ์เล็บมือ
พระลีลา ของชัยนาท พระกรุสังบุรี
สมเด็จของอาจารย์คลี่ วัดครุนอก(ไม่ใช่ที่กรุแตกนะครับ)ด้านหลังยันต์แถว
สมเด็จของอาจารย์หล่อ วัดครุใน ถ้ามีสิงฆ์อยู่ที่ด้านหลังทันท่านครับ อย่ามององค์ข้างๆนะ
แถม...หลวงพ่อเต๋ คงทอง พิมพ์พุทธกวัก แต่ด้านหลังดันไม่มียันต์
ชมกันแล้วชอบไม่ชอบ สวยไม่สวย ติชมได้ห้ามขอ

 

ท่านชัย

ชอบมหาเสน่ห์แรง ๆ ไม่ลององค์นี้ละครับ ผมมีอยู่เหมือนกัน ได้จากหลวงพ่อศักดิ์ วัดไทร สมุทรสงคราม กรุเปิดตอนท่านบูรณะวัดครับ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าพระที่ไหน พอท่องเวปก็เจอ

พระกลีบบัว ปลัดใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์เทพวราราม กทม. ๒๔๘๒
พระเก่า ขนาดเล็กน่าบูชา เหมาะสำหรับผู้ที่ทำการค้าขายเป็นอย่างยิ่งปลัดใบฎีกาเกลี้ยงท่านเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดองค์หนึ่งของสมเด็จพระสังฆราชฯ(แพ)
พระกลีบบัว ที่ท่านสร้างนี้มีพุทธคุณด้านเมตตาค้าขายมีเรื่องเล่าว่าท่านนำไปแจกแม่ค้าที่บ้านเกิดท่านปรากฏว่าแม่ค้าคนนั้นขายของดีหมดเกลี้ยงทุกวัน สมดั่งชื่อของท่าน

พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี่ยง วัดสุทัศน์ ปี ๒๔๘๒ เป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัวประกอบเส้นรัศมีขนาดเล็ก สร้างด้วยเนื้อผงขาวหรือเนื้อตระกูลพระสมเด็จฯ นอกจากเนื้อผงขาวแล้ว มี สีแดง, เขียว และดำ เป็นอาทิ
พระผงอย่างพิมพ์นี้ในแวดวงนักนิยมสมสมพระเครื่อง เคยเล่นหากันไปต่าง ๆ นานา เช่น พระกลีบบัวหลวงปู่ภู วัดอินทร์ บางขุนพรหม กรุงเทพฯ เพราะถ้าย้ายไปเข้าวัดนี้แล้วย่อมมีศักดิ์ศรีและมีกลิ่นไอของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ หอมอบอวลขจรขจายเป็นหลักชัยหรือเป็นเครื่องการันตีอยู่ จักขายได้ราคางามกว่าจะย้ายไปเข้าวัดอื่น หรือวัดของเขาอย่างแท้จริง
ในกรณีนี้เรียกว่าพุทธพานิชย์ ย้ายท่านไปจำวัดเพราะผลประโยชน์ ฉะนั้นพระกลีบบัว หลวงปู่ภู วัดอินทร์ จึงเกิดขึ้นเพราะลมปากพุทธพานิชย์เท่านั้น ความจริงพระกลีบบัวพิมพ์นี้งดงามและเด่นชัดทางรูปแบบ อีกทั้งยังมีขนาดเล็กกระทัดรัด ในด้านมวลสารและเนื้อหาแล้ว มีความหนึกนุ่มไม่แพ้พระเครื่องตระกูลสมเด็จวัดที่เด่น ๆ อีกหลายวัดเหมือนกัน หรือจะเรียกว่าเนื้อตัน มิฉะนั้นบรรดาพุทธพานิชย์คงจะไม่ลากท่านไปขึ้นทะเบียนสัมมะโนครัวเป็น หลวงปู่ภู วัดอินทร์ บางขุนพรหม ซึ่งอบอวลไปด้วยไอแห่งพระสมเด็จได้หรอก

ใครเป็นผู้สร้างพระกลีบบัวพิมพ์นี้ เมื่อไต่ถามคุณนิรันดร์ แดงวิจิตร (ท่านพระครูหนู) แห่งสำนักวัดสุทัศน์ฯ ได้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างละเอียดและเป็นที่เชื่อถือได้อย่างสนิทใจ เพราะท่านพระครูหนูเองมีส่วนช่วยในการสร้างพระผงกลีบบัวพิมพ์นี้เป็นอย่าง มากด้วยผู้หนึ่ง
ท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า ท่านผู้สร้างพระผงกลีบบัวพิมพ์นี้ คือ ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ฐานาในสมเด็จพระวันรัตน์แดง แห่งสำนักวัดสุทัศน์ เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์ กับ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชแพ ติสสะเทวะ ปรมาจารย์ทางด้านการสร้างพระกริ่งอันลือกระฉ่อนแห่งยุครัตนโกสินทร์ ชื่อเสียงเกียรติคุณของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงโด่งดังขจรขจายในด้านวิทยายุทธพุ ทธาคมเป็นที่กล่าวขานกันมากองค์หนึ่งแห่งสำนักวัดสุทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงประทีปทำผงและการลงยันต์พุทธซ้อน ในด้านการทำผงวิเศษ ซึ่งประกอบด้วยผงปถมัง อิตเจ, มหาราช ตรีนิสิงเหฯ นั้น ผงของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงแห่งสำนักวัดสุทัศน์เจ้านี้ได้รับคำยกย่องมากที่ สุด
เล่ากันว่า ผงที่ท่านลบอยู่ในกระดานนั้น ขณะที่ท่านบริกรรมปลุกเสกจะเดินได้ประหนึ่งมดปลวกที่มีชีวิต และด้วยผงวิเศษต่าง ๆ ที่ท่านสำเร็จดังกล่าวนี้แหละได้รวบรวม แล้วนำเอามาสร้างเป็นพระพิมพ์รูปกลีบบัวดังกล่าวแล้ว
ท่านพระครูหนู กรุณาเล่าในรายละเอียดให้ฟังว่า โดยเนื้อแท้ของพระกลีบบัวพิมพ์นี้สีขาวเป็นพระผงตระกูลสมเด็จฯ คือมีส่วนผสมของปูนเปลือกหอยและน้ำมันตั้งอิ๊ว แต่ที่มีสีต่าง ๆ เช่น เหลือง ทอง เทา เขียว และดำนั้น ได้ตกแต่งสีด้วยสีฝุ่น และเมื่อมีวัดไหนจะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์หรือมีการบรรจุพระลงพระเจดีย์มาขอ ท่านจะมอบให้แห่งละเป็นจำนวนมาก ๆ อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้กระมัง พระผงกลีบบัวพิมพ์นี้ จึงมีแจกอยู่แพร่หลายและหลายสำนักด้วยกัน เช่นที่ หลวงพ่อท้วม วัดไชยนาวาส, หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ, สุพรรณบุรี วัดบางหัวเสอ วัดยอด และอีกหลาย ๆ วัด ในอำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา เป็นต้น จะอย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงกำเนิดอันแท้จริง
พระผงกลีบบัว พิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ โดย ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ผู้สำเร็จวิชาทำผงเป็นผู้สร้าง แต่ปี พ.ศ. เจ็ดสิบถึงแปดสิบกว่า และเชื่อว่าได้ร่วมเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ครั้งที่สำคัญ ๆ หลายครั้ง เช่น ในคราวสร้างรูปหล่อพระพุทธชินราชของพุทธสมาคม ในด้านคุณวิเศษนั้น ท่านพระครูหนูได้กรุณาเล่าเสริมให้ฟังว่า มีอยู่คราวหนึ่ง ขณะที่ท่านร่วมตำผงเพื่อสร้างพระกลีบบัวพิมพ์นี้อยู่
เมื่อตำผงเสร็จเรียบร้อยแล้วได้เอาน้ำที่ล้างกครกเทสาดลงไปข้างล่างโดยไม่ เจตนาให้ไปถูกใคร และก็เป็นเวลาที่สาวลูกจีนคนหนึ่งกำลังมาเดินเก็บดอกเข็มบริเวณนั้นเข้าพอดี น้ำล้างครกถ้าจะกระเด็นไปถูกเข้า ปรากฏว่าสาวจีนคนนั้นไม่ได้เดินไปไหนได้เลย คงวน ๆ เวียน ๆ เสมือนจะรอใครอยู่ตรงนั้น เสร็จจากฉันเพลแล้ว นางนั้นยังคงอยู่จวบจนเย็นจวนเวลาพลบค่ำ นางไม่สามารถจะเดินไปไหนได้เสมือนนางต้องเสน่ห์เล่ห์กล ท่านพระครูหนูเห็นเป็นที่ผิดสังเกต จึงนึกขึ้นได้ว่า ถ้านางคงจะต้องน้ำล้างครกที่เทสาดไปเมื่อเช้านี้กระมัง จึงวนเวียนอยู่ ณ ที่นั่น คิดได้เช่นนั้นแล้วจึงไปขอน้ำมนต์ถอนจาก พระครูใบฎีกาเกลี้ยง พรมจากบนกุฏิลงไป พอให้กระเซ็นต้องกายนางนั้นแหละ นางจึงเดินกลับบ้านได้เป็นเหตุมหัศจรรย์จริง ๆ
ขอปรามไว้ตรงนี้เสียก่อนนะว่า อย่าอุตรีฝนเอาผงไปให้คนอื่นกินเข้าเล่า บาปจะตกแก่ตัวเอง และถ้าคิดในมุมกลับอย่าง หลวงพ่อท้วม วัดไชยนาวาส และหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ สุพรรณบุรี เจ้าของจิ้งจก ตุ๊กแกปลุกจนร้องได้เหมือนมีชีวิตซึ่งต่างก็มีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจายเป็น หนึ่งในยุทธจักรเหมือนกัน และการที่ท่านยินยอมเอา พระผงกลีบบัว ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง แห่งสำนักวัดสุทัศน์ไปแจกแทนพระของท่านนั้น ท่านย่อมจักทราบคุณค่าว่าเหนือกว่าของท่านอย่างแน่นอน

 

เจ้าของบ้านไม่อยู่ (สงสัยหลับแล้ว)งั้นยึด เป็นเด็กแถวครุในครับ วันที่เอาพระกรุที่พบออกให้บูชา 299หยิบส่อง เลือกชมได้ (สะบายๆเดียวค่อยมาเอาวันหลัง) วันต่อมาเอารูปบางขุนพรม(ที่ผมลงไว้ด้านบนมาปิดให้ดูเปรียบเทียบที่ตู้) คนเริ่มแยะขึ้น เอาน่าเดียวคนซาค่อยมาเช่า วันต่อมารับบัตคิวยืนกันมองไม่เห็นหางแถว บ่ายมา ขึ้นเป็นองค์ละ1000 แบบเลือกไม่ได้ จ่ายตัง แล้วไปรับกับกรรมการที่อุ้มบาตอยู่หยิบให้ ส่วนข้างวัดเกิดการปั่นราคาจากคนที่เช่าตอนแรก เริ่มจาก1000จนไปหยุดที่(ที่ผมได้ยินมาไม่ได้เห็นเอง)4500 แต่ที่เห็นมาจับแบบจะๆกะตาจ่ายตังกันตรงหน้าผมนะองค์ละ2500 แต่ตอนนี้เกิดการหยุดการเคลื่อนใหวของราคา แต่ที่ได้ข่าวมาว่าท่างวัดยังมีอีกมาก แต่ขอหยุดการให้เช่าบูชาก่อน และตอนนี้วิหารที่พบพระถูกทุบทำลายหมดแล้ว ผมเองไม่มีบุญ เลยไม่ได้ไว้สักองค์555

 

(deejai)(deejai)โนตรม(deejai)(deejai)

ขอบพระคุณคร๊าบ พี่ชัย......... หลวงพ่ออะไรสร้าง เสกไว้ก็ไม่รู้ หาที่มาคงยาก และยากนักที่จะมีใครรู้ในสากลโลก เป็นแน่แท้ อิอิ

 

เข้ามานั่งกินนมร้อนเช้าๆ รอเจ้าของบ้านก่อน เผื่อตื่นแล้วยังงัวเงีย มองของเรามีเฮ งั้นถามเลยละกัน มีเฮหรือฮาครับ ขอบคุณครับ55555

 

มาแวะเวียนยามเช้าครับพี่ชัย

 

องค์นี้ไม่ใช่ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว อย่าย้ายวัดอัพเกรดเด็ดขาด

เป็นพระผงว่านยา หลวงพ่อชื่น วัดป่ามุนี อ.โพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทองครับ

 

สวยมากๆ เลยคับท่านพี่ทิพย์...

 

พี่ชัยครับ
คุณพ่อผมแจ้งว่า ชอบมหาเสน่ห์แรงๆต้องสีผึ้งหลวงพ่อคงวัดบางกะพ้อมครับ
ท่านว่าหลวงพ่อท่านเมื่อทำเสร็จ ได้ลองเอาละลายน้ำที่หน้าวัด ปรากฏสาวๆที่อาบน้ำอยู่ท้ายวัด
นุ่งกระโจมอกมาหาท่านถึงวัดเลยครับ
ท่านเลยต้องทำพิธีแก้กันใหญ่โตเลยทีเดียว

 

ก๊ากๆๆๆๆ คืองี้ล.ป เพิ่ม ทั้งสามองค์ผมได้มาจะสิบกว่าปี ได้แล้วมั้ง ผมไปได้มาจากเสี่ยกางเกงยีนส์ที่บ่อนเขมร ไม่รู้หรอกว่าเก๊/แท้ เพราะดูเหรียญไม่เป็น แต่เห็นเสี้ยนเสิ้นมันเยอะ คมชัดดี ก็เลยรับจำนำไว้ จนป่านนี้ยังไม่มาเอาคืน ไปที่บ่อนเค้าก็บอกว่าไม่มาเลย สงสัยตอนนี้ไปขับตุ๊กๆที่เยาวราชแล้วมั้ง55555+ ได้มาก็เก็บไว้ในเซพธนาคาร เมือ่วานไปเปิดเจอก็เลยเอามาถ่ายรูปให้ Namjaกับท่านชัยและเพื่อนๆที่นี้ดูเล่นๆ เก๊/แท้ ยังงัยก็บอกด้วยละกันนะคับ แต่แสงสีมันออกจะสวยกว่าของจริงไปเยอะมากเท่านั้นเอง 55555+ คิดถึงท่านวะ 55555+

 

55555+ -ขอบคุณมากท่านชัย ที่ชี้แนะ ประโยชน์มันก็อยู่กับคนที่อ่าน มีความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะ 5555+ สำหรับผมสบายมาก 555555+

 

พระหลวงพ่อชื่น นี่ หลวงพ่อ กุ่ม วัดฝาง เจ้าตำนานตะกรุดมนุษย์ยักษ์ ก็เอามาแจก เป็นถุงๆน่ะครับ

 

หวัดดีท่านเล่าปี่และจอมยุทธทุกท่านครับผม..........กินเหล้าเช้ากันรึยังครับท่าน.....

 

ไฟดับ..ซะ.ไม่รู้มันจะดับทำไมบ่อยๆแถวบางบัวทอง....อะไรวะแค่ค้างค่า..ห้องนักร้อง..มาตัดไฟ..เฉยเลย..มันเกี่ยวกันมั้ยเนี่ย..555555555555

 

เที่ยงแล้วท่าน

 

โธ่ที่มาแบบนี้..งั้นไม่ต้องคิดมากท่าน..ผมเคยไปมาสองสามครั้ง..ไม่ได้ไปเล่น..เข้าไปเที่ยวดูบรรยากาศมันเฉยๆ..พอผ่านด่านมัน..ก็โดนปล้นแล้วหละครับท่าน..เด็กเป็นสิบๆล้อมหน้าล้อมหลัง...เหมือนเราเป็นหมาพวกมันเป็นเห็บเลยท่าน55555ต้องระวังกระเป๋าตังค์ของมีค่าไว้ดีๆ....รถยึดที่มาจำนำไว้เพียบทั้งฝั่งมันและฝั่งไทย...จอดกันฝุ่นหนาๆ..ไม่รู้เดี๋ยวนี้.ยังมีให้เห็นอกมั้ย..คนไทยไปจับของรับจำนำของเดินกันเพียบมีร้านรวงอยู่ที่นั่้นมากมาย...เมื่อก่อนไปกับพวกนักร้องนักดนตรีที่ไปหากินฝั่งเขมร...รายได้ดี..มากๆ..แต่ถ้าใจไม่แข็งพอ..อยู่กี่ปี..ก็หมดตูด..กลับบ้านทุกคนก็มันเล่นกันอยู่ในบ่อน..ข้างหน้ามันก็ซอยไพ่กันเต็มไปหมด...เล่นดนตรีประดับฉากกันว่างั้นเถอะ..คนจิตแข็งก็เหลือกลับบ้าน.เยอะ..เซียนพระดารานักการเมืองโจรแม่ค้าพ่อค้า..มีทุกอาชีพที่เข้าไป...ผมชอบไปดูของที่โรงเกลือสมัยนั้น..เสื้อผ้า..รองเท้าบูท..เยอะแยะ...เล่ามาตั้งไกล..เอาว่า..เข้าใจท่าน.เปเล่ละ...ว่าได้พระมาเยี่ยงไร..ผมว่ายากนะ..เพราะเซียนพระมันขึ้นไปหาของกันมากมาย..ก็ตาดีได้ตาร้ายเจ๊งหละครับท่าน.......

 

5555งั้นกินเหล้าเที่ยงกันรึยังท่าน...ขอบคุณที่เตือนครับ..5555555555555

 

ขอบคุณท่านหมอ..ที่แนะนำ..พระมหาเสน่ห์..อีกองค์..ผมก็ไม่ได้ใช้ทางนี้เท่าไหร่หรอกครับ..ก็ศึกษาว่าองค์ไหน..เด่นทางไหน..เพราะจริงๆแล้ว..ทุกคนก็มีเสน่ห์ในตัวอยู่แล้วมากหรือน้อยเท่านั้นเองครับท่าน..จะว่าไป..ผู้หญิง..ทำกับข้าวเก่งๆผัวรักผมหลง..ยิ้มเก่งพูดเก่งเอา.ใส่.เก่ง..โทษทีครับตกคำว่า..ใจ..ไป.555555.ก็มีเสน่ห์..มากมาย..ถึงเรียกว่าเสน่ห์ปลาย...จะหวัก...สะกดผิดรึเปล่าก็ไม่รู้..ผู้ชายก็ไปไหนไม่รอด.ไอ้เสน่ห์ปลาย.จวัก..นี่อะนะ..ไอผม.ไม่ต้องใช้อาไรมากแค่มี.เสน่ห์.ปลายจรวด...ผมก็.รับไม่หวาดไม่ไหวแล้วครับท่าน5555555555555555555....ขอบพระทัยท่านหมอมาอีกครั้งครับผ๊ม.......
..

 

แนวๆนี้เท่าที่เคยผ่านยาย..สงสัยท่านจะต้อง..ฮา..อีกหละครับท่าน.....หลวงปู่จันทร์..ท่านก็มีเฮ..อยู่นะถ้าจำไม่ผิด...ชีวิตมันก็ครบแล้วท่าน..ก็ฮาเฮ..กันต่อไปครับ.......:cool:

 

555555555555.....ท่านต้องแก้บนอีกแล้วหละท่าน..บวชแก้บน.ท่าน..ศนิวาร.บัญชามาแบบนี้...55555555