เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ดูให้ฟรีไม่เก็บตังค์ อิอิ
    คนเกิดวันจันทร์
    ระยะนี้ดวงจันทร์เลื่อนที่ตัดหน้าดาวโจรที่รังสิต ถ้าไม่ระวังของมีค่าอาจหายได้ ถ้าเดินไม่ระวังอาจหกล้มเจ็บตัวเป็นที่อับอายเสื่อมเสีย ถ้าเจอหมาบ้าไม่ควรเข้าใกล้เป็นอันขาดเพราะอาจถูกกัดได้ เมื่อหิวก็ควรหาอะไรกินเป็นการแก้เคล็ด
    ให้รีบไปทำงานแต่เช้า ถ้าไปสายจะถูกเจ้านายเขม่น ถ้าปวดหัวก็ให้นอนพักผ่อน อย่ากินแอสไพรินตอนท้องว่าง และอย่ากินกาแฟก่อนนอนเพราะจะทำให้นอนไม่หลับ

    ในเรื่องความรัก หากมีแฟนอยู่แล้วก็จะเป็นคนที่เห็นหน้ากันก่อนที่จะเป็นแฟน หากยังไม่มีแฟนก็จะเป็นเพราะยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ก็ให้แก้เคล็ดโดยการพยายามต่อไป คนที่มีแฟนอยู่อาจเลิกกันได้ คนที่ยังไม่มีแฟนอาจจะมีคนมาปิ๊งก็ได้

    ช่วงนี้ดวงอาทิตย์ยังคงร้อนอยู่ ดังนั้นไม่ควรเดินกลางแดดนานๆ เพราะจะทำให้เหงื่อออก ไม่ควรดูโทรทัศน์ใกล้ๆ เพราะจะแสบตาและบังคนข้างหลัง ขึ้นรถเมล์ระวังกระเป๋ารถเมล์จะเข้ามาเก็บตังค์ เดินทางไกลจะเจอแต่คนแปลกหน้า ในวันนี้ถ้าเจอพระตอนบ่ายสามห้ามใส่บาตรเด็ดขาด เจอเพื่อน จงทักทายดีๆ แต่ถ้าเจอเจ้าหนี้ควรหลบหนีไกลๆ

    แม่น..บ่ ++ (deejai)(deejai)(deejai)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2007
  2. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765

    ว้ากกกกกกก แม่นสุดๆเลย ง่ะพี่meadก็ เจอมุขนี้ฮาเลย (b-smile)
     
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG]

    ใครจะไปตามหาน้องมายด์ ขึ้นเครื่องครับ
    สายการบิน "น้องนกแอร์"
     
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
     
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ในหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย พอผมอ่านถึงตรงนี้
    ผมก็นึกสงสัยอยู่เหมือนกันครับ ว่า

    ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ..ก็แสดงว่าในแต่ละวัน-เวลา บนเส้นทาง
    แห่งกาลเวลาที่พวกเรารู้จัก ก็จะมี "ตัวตน - วัตถุธาตุทางกายภาพ
    และสิ่งต่างๆ" เกิดขึ้นมากมาย และนับวันก็ยิ่งมาก มาก และมากขึ้นเรื่อยๆ
    ไม่มีที่สิ้นสุด อย่างเป็นอนันต์แล้ว อนันต์อีก เช่นนั้นหรือเปล่าครับ

    แล้วบุคคล-ตัวตนที่เกิดขึ้นจากอารมณ์-จินตนาการ และความนึกคิดของ
    แต่ละคน ไม่ว่าจะไปปรากฎอยู่ในมิติใดก็ตาม เขาก็มีความคิด มีอารมณ์
    และมีจินตนาการของเขาเองด้วย และเขาเหล่านั้น ก็จะสร้างตัวตน-บุคคล
    และสิ่งต่างๆขึ้นมาอีกมากมาย อีก เป็นทอดๆไป ไม่มีวันจบสิ้น

    คำถามคือ..

    1. ถ้าบุคคล-ตัวตน เกิดขึ้นในมิติทางกายภาพ มิติใดมิติหนึ่ง
    อย่างมากมายแบบนั้น จะไปอยู่ที่ไหนกันหละครับ ไม่ล้นโลกเหรอครับ

    2. แล้วบุคคล-ตัวตน ที่พวกเราสร้างกันขึ้นมานั้น จัดเป็นจิตวิญญาณ
    ที่มีความสัมพันธ์กับเราแบบไหนครับ ใน 3 แบบ
    ใช่ จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์หรือเปล่า ??

    ส่วนอันนี้..ไม่รู้จะเกี่ยวข้องกับประเด็นนี้มากน้อยเพียงใดนะครับ
    คือ เกี่ยวกับสวรรค์ชั้นต่างๆ ที่เวลาคนเราทำบุญทำความดีบางอย่างแล้ว
    เช่น ถวายวิหารทาน บุญที่เกิด ก็จะไปปรากฎเป็นปราสาท-วิมานรอเราอยู่
    บนสวรรค์ชั้นที่เหมาะสม พร้อมทั้งบริวารของเรา จะมากน้อยขึ้นอยู่กับ
    กำลังบุญ

    ตรงบริวารที่เกิดขึ้นนี่แหละครับที่ผมเห็นว่าจะเกี่ยวข้องกับประเด็นนี้หรือไม่
    เพราะเหมือนพวกเขาเกิดขึ้นจากเราเช่นเดียวกัน ผมเคยสงสัยว่า
    แล้วพอเราหมดบุญลงมาแล้ว พวดเขาเหล่านั้นจะไปไหน
    จะหายไปด้วยหรือไม่ แต่บางข้อมูลที่รู้มาก็เหมือนไม่เป็นเช่นนั้น
    พวกเขายังรอเราอยู่ อะไรแบบนั้น หรือเปล่า หรือพวกเขาจะแยกย้ายกัน
    ไปทำอย่างอื่นตามแต่ความต้องการของตนเอง
    และผมก็เคยสงสัยอีกว่า ถ้าเช่นนั้น ดวงจิต หรือจิตวิญญาณทั้งหลาย
    ก็มีเกิดขึ้นใหม่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่มีวันจบสิ้นหนะสิครับ

    มันเป็นเช่นนั้นหรือไม่หนอ...
     
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ยินดีครับ

    (deejai)
     
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เกี่ยวกับประเด็นนี้แหละครับ ที่ผมคิดว่าผมได้ความรู้ใหม่ๆจากการ
    อ่านหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยมากที่สุดเรื่องหนึ่ง
    เพราะ..มันเป็นคำอธิบายที่ดูดีมากๆๆ ดูสมเหตุสมผลมากๆ
    และก็ดูกระจ่างแจ้งมากๆด้วยครับ..

    ผมก็อ่านผ่านมาแล้วเช่นกันครับ แต่ไม่รู้ว่าอ่านเล่มไหนไป
    มีประทับใจอยู่หลายตอน เช่น

    1.ที่กล่าวว่าจักรวาลของเรา ไม่ได้อุบัติขึ้นจากอะตอมที่ไร้สติแต่อย่างใด
    2.ในระดับเซลแล้ว มีการสื่อสารกันอย่างอึกทึกครึกโครมอยู่ตลอดเวลา
    เพื่อที่จะตอบสนองอารมณ์-ความคิด และจินตนาการของเรา

    ดังนั้น
    เราจึงสมควรที่จะสื่อสารกับพวกเขาด้วยความรักด้วย
    (ตรงกับของอาจารย์ปริญญาอีกแล้ว อาจารย์ปริญญาบอกว่า
    เวลาเราเจ็บป่วย อย่าไปนึกโกรธอวัยวะที่เจ็บป่วยนั้นๆ
    ต้องมอบความรักให้แก่เขา ต้องสื่อสารกับเขาว่า
    พวกเราเซลอื่นๆทุกๆเซล จะคอยดูแลรักษา เยียวยาเขา ให้เขาหายดีเอง
    อย่าเป็นกังวลเลย อะไรแบบนั้นครับ)

    ซึ่งพอผมอ่านถึงประเด็นนี้ และทำอารมณ์คล้อยตามไปด้วยแล้ว
    รู้สึกได้ทันทีเลยว่าขนลุกซู่ๆ และมีกระแสตอบรับจากเซลต่างๆ
    ในร่างกายเป็นอย่างดี รู้สึกปลื้มปิติอย่างไรบอกไม่ถูก
    เหมือนพวกเขาจะรับรู้แล้วว่า ผมเริ่มเข้าใจพวกเขาแล้ว
    และจากนี้ไป พวกเราทุกๆเซลจะอยู่ร่วมกัน พึ่งพาอาศัยกัน
    และพากันเดินทางไปสู่การเรียนรู้ร่วมกัน..

    ...ด้วยความรัก...

    (b-love2u)
     
  8. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,086
    (tm-love) เฮ้อ...จะไปรอดไหมเนี่ย..สงสัยกินอาหารเจ ของน้องนกมากไป
    เลยบินม่ายหวาย
    (deejai)
     
  9. Fahfang

    Fahfang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +53
    แนะนำตัวครับ เพิ่งสมัครเข้ามาเป็นสมาชิก เริ่มเข้ากระทู้นี้แล้วออกไม่ได้
    กำลังพยายามตามเพื่อน ๆ ให้ทัน ตั้งแต่เมื่อวานไล่ตามมาหน้า 25 จาก109แล้ว ถ้าทันเมื่อไร จะเข้ามาแจม(tm-love)
     
  10. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,086
    ยินดีต้อนรับคุณ Fahfang<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_742326", true); </SCRIPT> ครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. Fahfang

    Fahfang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +53
    นึกอยู่นานว่าคุ้นชื่ออาจารย์อนาลัยจากไหน
    เคยมีประสบการณ์ อยากได้ของขวัญให้ผู้ใหญ่ที่เคารพท่านหนึ่งชึ่งท่านเชื่อเรื่องการทำงานของจิต ไม่ทราบจะซื้ออะไร และยุ่งมากไม่มีเวลา
    เลยหยุดยืนหน้าซีเอ็ด ตั้งจิตขอให้ได้หนังสือที่ต้องการ เล่มแรกที่เข้าไปหยุดยืนและซื้อไปให้ท่านโดยไม่ได้เปิดอ่านเลยคือ อิสรภาพแห่งแรงปรารถนา
    ของโนวา อนาลัย กังวลใจอยู่นานว่าจะตรงกับความต้องการท่านหรือไม่
    วันนี้ได้คำตอบจากห้องนี้แล้วอิ่มใจมากว่า เราได้มอบความรู้ล้ำค่ามากให้ท่าน เป็นปิติมาก และขอขอบคุณพี่นักเขียนและอาจารย์อนาลัย
     
  12. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    (f) ขอต้อนรับคุณ Fahfang สู่ห้องวิทย์ฯ ค่ะ ตามกระทู้แล้วขอเชิญชวนให้อ่าน โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ เป็นเล่มแรกนะคะ และจากนั้นจะอ่านเล่มใดก็ได้ ในชุด 10 เล่ม

    พี่นักเขียนมาทำหน้าที่ล่ามและเลขาของท่านอาจารย์อนาลัย หรือองค์ความรู้หมวด เส้นทางใหม่สูการเป็นอิสระจากความปรารถนา เพื่อตอบคำถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และขยายความจากหนังสือชุดนี้

    เชิญนั่งแถวหน้าเลยค่ะ
    (bb-flower (rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01cover.jpg
      01cover.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.9 KB
      เปิดดู:
      50
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441


    บินไม่ขึ้นคร๊าบ..กัปตันเม้าส์
    ใครทานเยอะบอกมาซะดีๆ???
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2007
  14. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    น้องนกขา.. นั่นมือรึว่าใบลานคะ อ้อ..มือแฮะเพราะว่ามีแหวนด้วย.. อิอิ..
    ระวังนะ.. ช่วงนี้ชาว Aliens เค้ากำลังทดลองประกอบหุ่นยนต์กันอยู่..
    เดี๋ยวหามือหุ่นยนต์ไม่เจอแล้วมาคว้ามือน้องนกไป เดี๋ยวมันจะยุ่งงงงง...
    (b-smile)
     
  15. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    สุดยอดอัจฉริยะ.. จิงจิงค๊า..
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ดีเลยครับ ประตูทางออกถูกปิดไปแล้ว
    จนกว่าจะจบหลักสูตร อิอิ
    ยินดีต้อนรับคุณ Fahfang คับผม! (deejai)
     
  17. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    วันนี้มีเรื่องแปลกประหลาดจะเล่าให้ฟังค่ะ คือเมื่อวานตั้งคำถามกับพี่นักเขียนในเรื่องอัตตาหรือการยึดติดกับตัวตน เมื่อวานได้สมุดมาเล่มนึงว่าจะจดข้อความที่เราประทับใจตามที่คุณ Mead เธอแนะนำมา ตอนกลางคืนก็เลยไปนั่งอยู่มุมหนังสือธรรมะเพราะเก็บข้อความต่าง ๆ ไว้ตรงนั้น แล้วสายตาเราก็กวาดไปเรื่อย ๆ แล้วยังไงไม่ทราบไปคว้าหนังสือของ อ.ปริญญา มาเล่มนึงชื่อว่ามหาสติ แล้วก็ลองพลิกเปิดดูปรากฏว่าหน้าที่เราพลิกไปเจอเป็นเรื่อง การติดยึดกับการมีตัวเขาตัวเรา ก็เลยฮ้า.. แปลกใจมากนี่แสดงว่าที่เราอ่านไปแล้วนี่ เราลืมไปแล้ว สงสัยจะต้องเอามาอ่านใหม่ซะแล้ว.. แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ก็จะขออนุญาตินำมาให้พวกเราที่ยังไม่เคยอ่านหนังสือของ อ.ปริญญา ลองอ่านดูบ้างนะคะ..

    แต่ยังไงก็ยังอยากฟังความคิดเห็นของพี่นักเขียนอยู่นะคะ..

    จิตมนุษย์ทุกคนล้วนติดยึดกับการมีตัวเขาตัวเราอยู่ด้วยกันทั้งนั้น โดยจิตมันจะแยกออกอย่างชัดเจนเป็น 2 ข้าง คือ นั่นตัวเขา นี่ตัวเรา

    เหตุเพราะว่ามันหลงติดยึดอยู่กับความมีตัวตนของตนกับความมีตัวเขาของเขานั้นเอง ทั้ง ๆ ที่เคยกล่าวไว้ในตอนก่อน ๆ ว่า ตัวตนล้วนเป็นมายา ตัวตนที่แท้จริงคือแก่นแท้ของสิ่งนั้นต่างหาก การยึดติดตัวตนจึงไม่ต่างอะไรกับการที่จิตหลงเงาของแก่นแท้ว่ามันคือตัวตนนั่นเอง

    เมื่อกล่าวถึงเรื่องตัวตนแล้วมนุษย์เรียกความมีตัวตนว่ามีอัตตา เรียกความไม่มีตัวตนจากสิ่งที่ตนมองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้และเชื่อว่าไม่มีว่ามันคืออนัตตา แล้วนำข้อปัญหานี้มาถกเถียงกันไม่รู้จบ โดยต่างก็ไม่ได้เกิดการรู้แจ้งในประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่นั้นเลย

    เหตุเพราะต่างก็งมงายด้วยกันทั้งคู่ เพราะฝ่ายหนึ่งเชื่อในสิ่งที่ตนรู้ และไม่เชื่อที่อีกฝ่ายหนึ่งรู้ ทั้ง ๆ ที่ ต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ในสิ่งที่ตนเชื่อเลยสักนิดเดียว

    มนุษย์ต้องรู้ว่าทุกสรรพสิ่งที่แลเห็นด้วยตาในมิติของกายภายว่า มันล้วนเป็นสรรพสิ่งหนึ่งที่มีมวลหยาบ ๆ มีตัวตนอยู่นั้น เป็นการหลงมิติของจิตมนุษย์เพราะสิ่งที่แลเห็นนั้นมันเป็นมายา อันเกิดจากผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงทางพลังงานของแก่นแท้ที่เร้นอยู่ภายในมวลหยาบ ๆ นั้นต่างหาก ถ้าการเปลี่ยนแปลงภายในแก่นแท้นั้นมันสิ้นสุดลงเมื่อใด มนุษย์จะไม่มีวันได้เห็นตัวตนนั้นอีก เพราะมันจะสลายตัวหายไปพร้อมกับการสิ้นสุดกระบวนการนั้นด้วย

    ตัวตนที่เห็นนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริงอย่างที่เห็น เพราะมันดำรงอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งองค์ศาสดาของมนุษย์เองชี้ว่าทุกสิ่งที่แลเห็นล้วนไม่เที่ยงแท้ก็เพราะกฏสากลจักรวาลด้านกายภาพมันเป็นของมันเช่นนี้จริง ๆ

    การที่มนุษย์เข้าใจว่ามันมีอยู่จริง เพราะมันเป็นมวลหยาบ ๆ มีรูปธรรมเฉพาะตัวชัดเจน เนื่องจากไปหลงติดยึดรูปธรรมของมันเข้าให้ และเห็นมันดำรงอยู่อย่างมั่นคงอย่างยาวนาน ก็เลยหลงเข้าใจไปว่ามันเป็นจริงมีจริงดังที่เห็น จึงเข้าใจว่ามันคืน " อัตตา "

    มนุษย์ต้องรู้อีกว่าตัวตนที่เป็นมายาเหล่านั้นมีมากมายที่มันตั้งมั่นอยู่ได้อย่างยาวนาน เพราะกระบวนการทางพลังงานของแก่นแท้ที่มันสะเทือนอยู่นั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และใช้เวลามากมายในมิติโลก กว่ากระบวนการกระทำของมันจะสิ้นสุดลง

    ดาวเคราะห์โลกที่ปัจจุบันเป็นดาวเคราะห์แข็ง เมื่อแรกเริ่มอุบัติขึ้นใหม่ ๆ จะอยู่ในสภาวะของก๊าซเหลว ไอน้ำและอากาศธาตุ มิได้เป็นของแข็งดังเช่นปัจจุบันนี้เลย กว่าที่กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางพลังงานของแก่นแท้จะก้าวหน้ามาสู่กระบวนการเพื่อการดำรงอยู่เช่นทุกวันนี้ได้ ดาวเคราะห์โลกที่เป็นของเหลวและก๊าซเปลี่ยนมาเป็นดาวเคราะห์แข็งต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 270 พันล้านปีขึ้นไป จนทุกวันนี้กระบวนการทางพลังงานของดาวเคราะห์โลกก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุด ดาวเคราะห์โลกจึงยังคงดำรงอยู่ได้ทั้ง ๆ ที่มวลหยาบ ๆ ของดาวเคราะห์มันก็คือสรรพสิ่งหนึ่งในจักรวาลนี้ที่เป็นมายาไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงแต่อย่างใด

    ถ้าในจักรวาลมีการเปลี่ยนแปลงทางพลังงานเกิดขึ้น ณ ที่ใดก็ตาม ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงเพื่อการสร้างใหม่หรือการดำรงอยู่ ผลของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นนั้น มันจะปรากฏเป็นมายาหรือปรากฏการณ์ให้มนุษย์มองเห็นหรืออาจมองไม่เห็นขึ้นเสมอ

    ถ้ากระบวนการนั้นเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ มันจะเกิดเป็นปรากฏการเกิดกระบวนการขึ้นเพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ถ้าต่อเนื่องยาวนาน มันจะค่อย ๆ แสดงตัวตนหรือมายาให้ปรากฏได้ยาวนานเช่นกัน

    ทั้งตัวตนที่ตั้งอยู่และปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ จึงล้วนเป็นมายาเช่นเดียวกัน ตัวอย่างที่มนุษย์เรียกกันว่าปรากฏการณ์จากกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางพลังงาน เช่น แสงวาบเพียงชั่วครู่ของฟ้าแลบ มันก็เกิดจากการเคลื่อนที่ถ่ายเทพลังงานไฟฟ้าสถิตย์จากก้อนเมฆก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่งเพียงชั่วขณะนั่นเอง

    ศาสดาจึงสอนมนุษย์ให้รู้ความจริงเหล่านี้ว่าทุกสรรพสิ่งที่มนุษย์แลเห็นล้วนเป็นอนัตตาไม่ใช่อัตตาอย่างที่คิดเลย คำว่า " อนัตตา " จึงหมายถึงความไร้ตัวตนแท้จริงเพราะมันดำรงอยู่ไม่นานตลอดกาลของสรรพสิ่งที่แลเห็น ส่วนอัตตาหรือตัวตนแท้จริงของมันนั้นย่อมมีอยู่ แต่มันเร้นอยู่ภายในมันเป็นพลังงานไม่ใช่มวลหยาบ ๆ ซึ่งมนุษย์ไม่อาจมองเห็นมันได้ มนุษย์เลยเข้าใจว่าไม่มีจึงถือว่าเป็น " อนัตตา " ไป จึงคิดเข้าใจสวนทางกันกับความเป็นจริงที่ว่านี้

    ข้อมูลจากหนังสือมหาสติ โดย อ.ปริญญา ตันสกุล หน้า 218 - 211
    (tm-love)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2007
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    (tm-love)

    พิมพ์จนหอบเลยนะครับ เรื่อง"ความมีที่เหมือนไม่มี"นี่อาจารย์มักพูดบ่อยๆ
    ในความว่างที่มนุษย์มักคิดว่าไม่มี ซึ่งจริงๆแล้วมีอยู่และเป็น"แก่นแท้"ของสรรพสิ่งจริงๆ..ผมเองก็ตามฟังมาตั้งแต่ครั้งที่ 4 แล้ว ตอนนี้คงเกือบ 200 แล้วนะครับ เนื้อหาเยอะพอสมควร ใหม่ๆก็อ่านยาก แตตอนนี้สมองชินไปแล้ว
    พอมาเจอของอาจารย์อนาลัยรู้สึกจะอ่านยากกว่า..ละเอียดและลุ่มลึกไปอีกแบบครับ
     
  19. Fahfang

    Fahfang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +53
    ขอบคุณคุณmead และคุณmountain ครับสำหรับการต้อนรับครับ
    ขอบคุณพี่นักเขียนครับที่ให้นั่งแถวหน้า เพราะฝ้าฟาง(fahfang)อยู่
    ทั้งกายและจิต นั่งหลังคงมองไม่เห็น อิอิ
    ถือเป็นโชคดีที่ได้เข้ามาเจอกระทู้ในวันแรกของการปลีกวิเวก 7 วัน
    ยังคงมีความสับสนเรื่องชาติภพอยู่มากสำหรับความรู้ใหม่กับความเข้าใจเดิม
    เลยทดลองใช้ความฝันตามที่ได้อ่านในกระทู้ เพราะไม่ได้ออกไปหาหนังสืออ่าน ผลก็คือเห็นตัวเอง พายเรือแคนูอยู่ในน้ำเชี่ยวซึ่งต้องพยายามประคองเรืออย่างหนักหันไปมองทางซ้ายมือเห็นเป็นภาพตัวเองในลักษณะเดียวกันคล้ายสะท้อนกระจก ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้จบ มีคำอธิบายเกิดขึ้นสั้น ๆ ว่า
    เป็นมิติแห่งเวลา สิ่งที่เราทำกระทบเขา สิ่งที่เขาทำกระทบเรา ต่างมิติเวลา

    เล่าสู่กันฟัง อย่าถือสานะครับ อาจเกิดจากอุปาทานจากจิตจดจ่อ
    ผมถือเป็นคำถามที่ผมจะได้รับคำตอบแน่นอน จากการอ่านหนังสือ

    เดิมที่ผ่านมา เคยได้ใช้จิตทำงานตอนกลางคืนบ้าง เช่นเวลามีปัญหา
    คิดไม่ตก จะเจอเหตุการณ์ที่แก้ไขไม่ได้ จะใช้วิธีการสั่งจิต ก่อนนอน
    ขอให้จิตทำงานให้เวลาที่เรานอนเพื่อหาคำตอบหรือแนวทางแก้ไข ส่วนใหญ่จะได้คำตอบหรือวิธีการแก้ไขเสมอ
    น่าจะเป็นเรื่องใกล้เคียงกันนะครับ เพียงแต่เมื่อก่อน ทำแบบ
    งูงูปลาปลา ถ้าได้ศึกษาอาจทำได้มีประสิทธิผลมากขึ้น
     
  20. punnapa

    punnapa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +121
    สวัสดีค่ะ...
    เป็นนักเรียนหลังห้องตั้งแต่เริ่มกระทู้ค่ะ....อยากบอกว่าสิ่งที่ได้รับจากห้องวิทย์และอ่านหนังสือ..
    ของอาจารย์โนวา อนาลัย...ทำให้มุมมองชีวิตเปลี่ยนไปมาก....สุขใจ...สบายใจ...
    ชีวิตมีความสุขมากๆ มากจริงๆ...ขอบคุณพี่นักเขียนมากค่ะ...มีความรู้สึกเป็นเพื่อนกับทุกคน
    ในห้องนี้...
     

แชร์หน้านี้

Loading...