การจัดแสงมาตราฐานในการพิจารณา"พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์นิยม"

การกดทับกันตอนที่อยู่ในกรุ ทำให้องค์พระเกิดการ"โค้งงอ"ไปด้านหน้า ทำให้ด้านหลังเกิดการเสียดสี กินเนื้อพระจนสามารถ มองเห็น"เนื้อใน"ได้อย่างชัดเจนครับ
"เนื้อใน พระสมเด็จ"

 

ด้วยเหตุ และผลที่ได้นำเสนอไปแล้วข้างต้น ข้าพเจ้าจึงได้สรุปโดยใช้ การวิเคราะห์ส่วนตัวว่า เข่าข่ายความเป็น"พระสมเด็จสองคลอง"(เนื้อผงน้ำมัน ฝากกรุบางขุนพรหม)และถูกนำออกจากกรุ ก่อนปี 2485 ซึ่งเป็นปี"น้ำท่วมใหญ่"ก็ขอให้เพื่อนสมาชิกลองพิจารณา เชิงวิเคราะห์ กันดูว่าเห็นสมควรอย่างไร ตามความรู้+ความเข้าใจ ของแต่ละท่าน
"พระสมเด็จสองคลอง"

 

พระสมเด็จบางขุนพรหม สร้างในปี พ.ศ. 2413 โดยเสมียนตราด้วง ต้นตระกูลธนโกเศศ โยมผู้ใกล้ชิดและศรัทธาในท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)เป็นอย่างมาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานศาสนาตามแนวทางของสมเด็จท่าน ทั้ง้นี้ได้มีการขอสูตรส่วนผสม,มวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ และ แม่พิมพ์ที่เหมือนกับพระสมเด็จวัดระฆัง จำนวน 4 แบบ มาจากวัดระฆังเพื่อใช้ในการสร้างพระในครั้งนี้ดว้ย คือ
1. พิมพ์ใหญ่
2. พิมพ์เจดีย์
3. พิมพ์เกศบัวตูม
4. พิมพ์ฐานแซม
เนื่องจากแม่พิมพ์ที่นำมาจากวัดระฆัง เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการสร้างจำนวนมากเช่นนี้ ดังนั้นจึงให้ช่างแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่อึกจำนวน 10 แบบที่มีเอกลักษณ์แม่พิมพ์ที่แตกต่างไม่เหมือนแม่พิมพ์ที่นำมาจาดวัดระฆัง เช่น
1. พิมพ์ใหญ่
2. พิมพ์เจดีย์
3. พิมพ์เกศบัวตูม
4. พิมพ์ฐานแซม
5. พิมพ์เส้นด้าย
6. พิมพ์สังฆาฎิ
7. พิมพ์อกครุฑเศียรบาตร
8. พิมพ์ฐานคู่
9. พิมพ์ปรกโพธิ์
10. พิมพ์ไสยาสน์ นอกจากนี้ยังได้อาราธนาสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆษิตาราม มาเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกและได้บรรจุพระสมเด็จทั้งหมดลงกรุพระเจดีย์ใหญ่ที่อยู่หน้าพระอุโบสถ วัดบางขุนพรหมใน(วัดใหม่อมตรสในปัจจุบัน)จำนวน 84,000 องค์เท่ากับพระธรรมขันธ์ สันนิษฐานว่าพระสมเด็จบางขุนพรหมทุกองค์จะได้รับอิทธิปาฎิหารย์อันเป็นสิริมงคล จากมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ และ จากพระคาถาชินบัญชรที่แผ่เมตตามาจากอภิญญาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)โดยตรง ภายหลังทางวัดได้เปิดกรุพระเจดีย์ใหญ่อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.2500 ปรากฎว่าเหลือพระสมเด็จบางขุนพรหมที่สมบูรณ์เพียง สองพันกว่าองค์เท่านั้น
ที่นี้จะกล่าวถึงพระสมเด็จบางขุนพรหม (สองคลอง) ซึ่งหมายถึง พระสมเด็จที่มีเอกลักษณ์ผสมระหว่างพระสมเด็จวัดระฆัง(ฝั่งคลอง(แม่น้ำ)ด้านธนบุรี) และ พระสมเด็จบางขุนพรหม(ฝั่งคลอง(แม่น้ำ)ด้านกรุงเทพ) ในองค์เดียวกัน ซึงแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
ประเภทที่ 1. พระสมเด็จวัดระฆัง ที่ถูกนำมาจากวัดระฆังและถูกบรรจุลงกรุพระเจดีย์ใหญ่ เรียกว่า ฝากกรุพร้อมกันกันพระที่สร้างในครั้งนั้นที่วัดใหม่อมตรส ในปี พ.ศ. 2413 จึงปรากฎคราบกรุให้เห็นเหมือนพระสมเด็จบางขุนพรหม พระสมเด็จบางขุนพรหม(สองคลอง)ประเภทที่ 1 จึงมีจำนวนน้อยมาก
ประเภทที่ 2. พระสมเด็จบางขุนพรหม แต่ใช้แม่พิมพ์เดียวกันกับ พระสมเด็จวัดระฆัง ที่นำแม่พิมพ์มาจากวัดระฆัง ทั้ง 4 แบบ ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ดังนั้น พิมพ์ทรงจึงเหมือนกันกับพระสมเด็จวัดระฆัง แต่เนื้อหาแก่ปูนเหมือนพระสมเด็จบางขุนพรหม พระสมเด็จบางขุนพรหม(สองคลอง)ประเภทที่ 2 มีจำนวนน้อยมากเช่นกัน
พระสมเด็จบางขุนพรหม(สองคลอง) ไม่ว่าจะเป็นประเภทที่ 1 หรือ ประเภทที่ 2 เป็นพระที่มีจำนวนน้อย และพบหาของแท้ได้ยากมาก การเช่าหาจึงควรระมัดระวังและควรศึกษาอย่างถ่องแท้เสียก่อน.นะครับ เนื้อหามวลสารจะไม่เหมือนวัดระฆัง ก่อนหน้าจะเปิดกรุเป็นทางการ มีการลักลอบเปิดกรุถึงสามครั้ง ช่วยศึกษากันนะครับ

 

เดี๋ยว note 2 ซ่อมเสร็จแล้ว จะถ่ายรูปพระมาร่วมศึกษานะครับ พระสมเด็จที่ผมสะสมส่วนใหญ่น่าจะเป็น กรมท่า สองคลอง บางขุพรหม วัดระฆังไม่น่าใช่เนื้อหาไม่ไปทางนั้น ครับ ส่วนใหญ่ทุกคนมองเห็นสมเด็จจะนึกถึงสมเด็จวัดระฆังถ้าไม่ใช่ก็จะไม่สนใจกันครับ หลวงปู่โต ท่านสร้างไว้มากมาย และหลายสถานที่ ต้องศึกษาหาข้อสรุปกันต่อไปครับ ส่วนที่เช่าบูชากันแพงๆนั้น ส่วนตัวผมคิดว่าอยู่ที่ความพอใจกันมากกว่าครับ

 

รบกวนช่วยพิจรณาหน่อยครับ

รบกวนช่วยพิจรณาหน่อยครับ

 

องค์นี้ของน้องชาย เขาล้างคราบกรุแล้วเป็นแบบนี้ครับ (นัำร้อนๆ) ของผมไม่กล้าล้างครับ

 

เรียนท่านสมาชิก ข้าพเจ้าได้พิจารณาภาพถ่าย"พระสมเด็จ"ของท่านแล้ว ถ้าดูที่พิมพ์ก็เป็น"พิมพ์ใหญ่"พิจารณาต่อที่เนื้อหาเป็นการทำให้ดูเก่า ไม่ใช่เป็นความเก่าที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เอกลักษณ์เฉพาะของความเป็น"พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่แท้"ที่ด้านหลัง"ไม่ปรากฏ"การตัดข้างก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากการ"ตอกตัด"สรุปภาพรวมยังไม่ใช่"พระแท้"ครับท่าน.

 

องค์ของคุณ sarawutsung ฟอร์มสวยนะขอรับ
แต่เท่าที่ผมดู เป็นพระเลียนพิมพ์ฝีมือค่อนข้างดีขอรับ

 

เรียนท่านสมาชิก tin09 เท่าที่ข้าพเจ้าสังเกตุดูภาพถ่าย"พระสมเด็จ"ของท่านมีลักษณะเนื้อหา ไปในทางเดียวกันทุกองค์ ข้าพเจ้าพิจารณาดูแล้ว มีเนื้อหาคล้ายกระเบื้อง ท่านไม่ลองสะสมเนื้อหาแบบนิยมบ้าง เวลาส่องดูจะมีความลึกซึ้งสวยงามมาก แต่ก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละท่าน ตามประวัติศาสตร์ก็ระบุว่ามี"เนื้อกระเบื้อง"เป็น 1 ใน 12 เนื้อพื้น แต่ข้าพเจ้าไม่มีความถนัดในเนื้อแบบนี้จริงๆท่าน

 

ขอบพระคุณมากนะครับ ว่างๆผมจะเอามาให้ตรวจสอบอีกองค์ครับ

 

ขอบคุณครับที่ช่วยพิจรณาให้

 

ในใจตัวเองก็ดูไม่ดีครับ แต่เพื่อความปลอดภัยจึงนำมาสอบถามท่าน Pathommatash ก่อนจะดีกว่า เผื่อพลาดของดีไป ขอรบกวนท่านพิจารณาให้อีกองค์ครับ พอมีโอกาสหรือไม่ ขอบพระคุณท่านอย่างยิ่งครับ

 

ท่าน Pathommatash ความจริงแล้วผมก็ดูพระไม่ค่อยเป็นหรอกครับ พระที่สะสมมีหลายท่านให้มา ของมรดกบ้าง มีความรู้นิดหน่อยยังต้องศึกษาอีกเยอะครับ ส่วนพิมพ์นิยมที่เซียนแสวงหากัน เห็นคนดังๆมีชื่อเสียง ยังถูกเซียนดังๆหรอกให้บูชาเลยครับ พิมพ์นิยมแท้ ผมว่าเซียนและคนดังๆเก็บกันหมดแล้วกระมังครับ
รบกวนท่าน Pathommatash ช่วยดูองค์ให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

เรียนท่านสมาชิก เนื้อหาลักษณะแบบนี้ ถ้าตีเป็น"พระสมเด็จเกศไชโย"พิมพ์นิยม 6 ชั้น(อกตลอด)ก็ยัง"ไม่ผ่าน"แต่ถ้าเก็บไว้ศึกษาลักษณะเนื้อหา ก็ยังมีประโยชน์อยู่ครับท่าน

 

;41

ขอสอบถามเพิ่มเติมนะครับ ผิดทั้งเนื้อทั้งพิมพ์ใช่หรือไม่ครับ

 

โอ้โหท่าน tin09 นี่ท่านไปหามาจากใหน นี่เป็น"พระสนามหลวง"ยุคเก่า สมัยผมยังหัดดู"พระสมเด็จ"ใหม่ๆเลยนะท่าน เขาเรียกสั้นๆว่า"พระสนาม"เป็นองค์ครูในยุคแรกๆของผมเลย เซียนสมัยนี้เขาเรียก"เก๊เก่า"ครับท่าน

 

ใช่ครับ แต่เป็นเนื้อลักษณะแก่ผง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า"เนื้อจัด"
แต่คำว่า"เนื้อจัด"สำหรับการพิจารณา"พระสมเด็จเกศไชโย"ต้องแก่น้ำมัน"ตังอ๊ิว"เนื้อจะออก สีเหลืองๆครับ

 

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ สำหรับความรู้ที่ท่านถ่ายทอดให้

 

ผมเถียงกับเซียนแถวบ้านครับ เขาบอกพระของผมไม่ใช่แล้วเขารูปพระของเขาให้ดูว่าเป็นแบบนี้ พิมพ์แบบนี้ครับ ผมก็เลยเอารูปลงคอม เก็บไว้ แล้วนำมาลงให้ท่านดูครับ

รูปของเซียนแถวบ้าน




พระของผมครับ

 

คุณ ครูชายแดนครับ เนื้อหาแบบนี้น่าจะเป็น พระสมเด็จ กรุวัดดักคะนน จังหวัด ชัยนาท นะครับ ลองค้นหาใน google ดูนะครับ