ถามเกี่ยวกับกฎแห่งกรรม

ไม่ต้องนึกถึงกรรมในชาติไหนเลย ชาตินี้ตั้งแต่เกิดมาทำกรรมไว้มากน้อยแค่ไหนแล้ว จำกรรมในชาตินี้ได้และชดใช้กรรมในชาตินี้ให้ครบหมดแล้วหรือครับ

 

แค่ชาตินี้ก็จำไม่หวาดไม่ไหวแล้วครับ

 

===========

จิตวิญญาณแม้ว่าเมื่อเปลี่ยนภพภูมิหรือเปลี่ยนอัตภาพใหม่ จะลืมสิ้น อดีตชาติ ก่อนเก่า แต่ด้วยธรรมชาติของจิต คือธาตุรู้นั้น หากท่านรู้วิธีการฝึกจิต อาศัยสมาธิอันสงบนิ่งระงับอารมณ์ทั้งหลาย นำจิตเข้าสู่สมาธิระดับฌาณ หรืออุปจารณสมาธิได้ แน่วแน่วดิ่งลึกลงไป จนเกิดสภาวะจิตรวมเป็นหนึ่งเดียวเอกคตารมณ์ตัดละเวทนาและเครื่องปรุงแต่งทั้งหลาย เป็นจิตว่างชั่วขณะหนึ่ง จิตย่อมสามารถแสดงภาพหรือความรู้ในอดีตชาติเก่าก่อนได้ ตามสภาวะของจิตที่เป็นสมาธิว่างในขณะนั้นๆครับ

การฝึกจิต ย่อมทำให้รู้ธรรมชาติของจิตและรู้ความเป็นไปของจิต รู้อาการของจิต ฝ่ายนามทั้งหมด ได้ สิ่งที่มองไม่เห็นได้ด้วยตา แต่สามารถเห็นและรู้ได้ด้วยจิต ที่ฝึกฝนนั่นเองครับ สาธุ

 

พูดตามตรง ดิฉันในชาตินี้ แทบจะไม่ได้ก่อกรรมหนักใดๆ คะ ศีลห้าครบทุกข้อ แต่ ค่อนข้างจะ ตกกรรมบท สิบ.......ยังพยามหาวิธีแก้อยู่ เรื่องการเปลี่ยนทัศนคตินี้มันยาก นัก คนหลายคนดิฉันก็เกลียดมากและไม่สามารถหยุดเกลียดได้ เพียงเพราะ ไม่ชอบ พฤติกรรมของพวกเขา และค่อนข้างมองโลกละเอียดในแง่ร้าย แม้แต่พวกดารา พวกหนังภาพยนตร์ ดิฉันก็ไม่ชอบคะ........ คิดว่าคนเหล่านั้นำพฤติกรรมน่ารังเกียจ ไร้ยางอาย

 

อ๋อ เหรอคะ จิงเหรอคะ

 

กรรมแม้เพียงเล็กน้อยไม่ว่ากรรมดีหรือกรรมไม่ดี ต้องได้รับผลอย่างแน่นอน รักษาศีลห้าครบต้องสอบผ่านกรรมบทสิบด้วยครับ ความโกรธ ความเกลียดทำให้เผลอทำผิดศีล เมื่อมีใครตำหนิเรา เราไปโกรธตอบไปด่าเขาเราผิดมากกว่าคนที่ตำหนิเรา การมองโลกในแง่ดีก็ดีในแง่ร้ายก็ดีต้องมองเป็นโลกธรรมแปด อย่าปล่อยใจให้ไปเดือดเนื้อร้อนใจไปตามโลก เราต้องทำใจให้หมุนทวนกระแสโลกครับ

 

ก็จะไปเปลี่ยนมันทำไมล่ะ ที่คิดเห็นมันก็ไม่ผิดนี่ .. แต่การที่ไปเกลียดคนอื่นนี่ถามหน่อยว่า มันได้ประโยชน์อะไร มีแต่จะทำให้ใจเศร้าหมองเปล่าๆ ไอ้ที่นักแสดงแต่งโป้ๆหรือแสดงไปตามบทตามอาชีพนั้น หรือแม้แต่เห็นคนอื่นทำในสิ่งที่คิดว่าเราทำไม่ได้ เราจะเอาใจไปข้องแวะกับเขาทำไม งั้นโลกทั้งใบนี้ก็หนักมากเลยสิสำหรับเรา ก็ในเมื่อโลกเขาเป็นแบบนั้น มันมีอยู่อย่างนั้น เราจะเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ ...
Duchess เป็นคนฉลาด แต่ทำไมไม่ใช้สิ่งนั้นให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง ก็ไหนว่ามีพร้อมหมดในสิ่งที่หลายๆคนไม่มี แล้วมันขาดอะไรล่ะ ..?
ก็แค่ความคิดของตัวเองที่มันทำให้เราทุกข์ แล้วจะไปคิดทำไม.?

มีความเมตตาต่อสัตว์ ก็เอามาใช้กับคนด้วยสิ คนอื่นๆเขาเป็นแบบนั้น เขาทำอย่างนั้น ไม่ใช่เรื่องผิด-ถูก มันเป็นเรื่องของกรรม อย่าไปรังเกียจ หรือเกลียดเขา แค่มีความรักเสมอตัวเองเราก็ไม่ต้องอึดอัดไปกับใครคนใดแล้ว

โลกนี้ไม่ใช่ของเราคนเดียว โลกนี้มันกว้างมากเลยนะ เพียงแต่เราไปตีกรอบกว้างสิบเมตร ยาวสิบเมตรให้ตัวเองเดิน มันก็เลยมีที่ให้เราเดินอยู่แค่นั้น ...

ความสุขมันอยูแค่ตรงหน้า เพียงแค่เส้นผมที่มันบังตาไส้ก็เท่านั้นเอง

วันเวลามันผ่านไปเร็วมากนะ จะอยู่แค่นี้ ตรงนี้ จริงๆเหรอ ..? เดี๋ยวก็แก่แล้ว เดี๋ยวก็ตายแล้ว .. จะเอาแค่นี้ จริงๆเหรอ

ขอให้เจอความสุขไวๆนะ

 

ถ้าผมอยากจะบอกว่าเมื่อก่อนเราจำได้ละเชื่อไหมครับ แต่มีผู้ไม่หวังดีนำเอาอวิชชามาใว้ในใจเราเพื่อเราจะได้ไม่รู้ไม่เห็นความจริง ขบวนการนี้มีมาเป็นล้านๆๆๆอสงไขย์แล้ว แล้วถ้าเมื่อก่อนเราไม่ได้เป็นแบบนี้ เรามีวิชชา3วิชชา8อภิญญา6ปฎิสัมภิถาญาณ4ละ ตอนเกิดก้อไม่ต้องทรมาร เกิดง่ายสบายแบบถ่ายอุจาระ ยิ่งโตยิ่งสวยงาม ไม่มีความแก่ความเจ็บความตาย ยิ่งอายุยืนยิ่งสวยยิ่งมีรัศมีเปล่งยาวไกล จนกระทั้งเข้านิพพาน โอ้ฟังดูแล้วโม้ชัดๆ แล้วท่านทั้งหลายไม่คิดดูเหรอครับ คนเราเกิมมาก้อเหมือนอยู่คุก แต่เป็นคุกที่กว้างใหญ่มหาศาล แถมติดแล้วไม่ให้รู้อีกว่าทำผิดอะไรก่อนเข้ามา กฏของคุกมีไว้ว่าอย่างไร ทำดีแบบไหนได้รับโทษเบา ทำร้ายแบบไหนโดนลงโทษหนัง แล้วที่ร้ายใหญ่คือทำให้เราไม่รู้ว่ากำลังอยู่ในคุก อ้าวแล้วไม่มีใครคิดจะประท้วงเขาเหรอทำแบบนี้มันไม่เป็นธรรมเลย มีครับแต่ก้อเหมือนนักโทษชายต่อต้าน เผด็จการ พัสดียังไงยังงั้น โลกเราก้อเหมือนคุก(ไม่เหมือนเหรอคุกนั้นเหละ) แถมไม่ใช่มีแค่โลกเราด้วย เปรียบเม็ดทรายในมหาสมุทรทั้งสี่ เพราะมีจักรวาลอนันตจักรวาล ล้วนอยู่คุกนี้ทั้งสิ้น กฎของคุกคือกฏแห่งกรรม ทำดีเป็นนักโทษชั้นดีสวรรค์ ทำชั่วลงโทษหนักนรก แถมทำชั่วโทษหนักกว่าทำดีหลายเท่า แนะไม่ยุติธรรมอีกละ จิตเราเปรียบเป็นนักโทษ ถึงจะเป็นนักโทษชั้นดีขั้นอรูปพรหม ยังไงก้อติดคุกอยู่ไปไหนไม่ได้ แล้วใครละคือผู้นำต่อต้าน เผด็จการก้อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไงละครับ ที่ท่านบอกท่านสอนให้เราว่าอวิชชาบังจิตใจ ให้มืดบอดไม่ให้รู้ไม่ให้เห็นว่าอะไรคือความจริง ให้เกิดมาโง่อยู่ในคุกโดยที่ไม่รู้อะไรชักอย่าง โดยบอกวิธีออกจากคุกโดยมีผู้นำสืบทอดกันมา หลายล้านๆๆอสงไขย์พระองค์แล้วนำพาผู้ที่รู้ตามไปเป็นจำนวนมาก แต่คุกก้อยังแน่นเหมือนเดิม โห้มันเป็นแบบนี้จริงเหรอโม้แน่เลย ก้อเหมือนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกไงละครับ ที่รู้นะแค่1กำมือ แต่ที่ไม่รู้นะเต็มป่าทั้งประเทศ ความจริงท่านอยากจะบอกครับว่าอะไรคืออะไรใครจับเราให้มาอยู่ในคุก แต่บอกไม่ได้ครับ เพราะติดสัญญากับพัสดีอยู่ ให้บอกแค่ว่าเจ้าตัวโง่เองทำเองถึงเป็นแบบนี้ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ มีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะครับ ที่เขาบังเราไว้ไม่ให้รู้ไม่ให้เห็น แล้วผมรู้ได้ยังไง พอดีมีภิษุสงฆ์รูปหนึ่ง อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริษ ท่านไปรู้ไปเห็นแล้วจึงนำมาบอกต่อ ไม่ได้ขอให้เชื่อครับ เพราะเรื่องนี้นายใหญ่พัสดีเขาไม่ให้รู้อยู่แล้วบิดบังกันสุดๆ แถมผู้คุมก้อเยอะด้วย เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้อะไรคืออะไรความจริงของชีวิตคืออะไร ลองไปศึกษาดู ปล ผิดพลาดประการใดบอกกล่าวด้วย ผมผู้น้อยพูดตามที่ได้เรียนได้ฟังมา ขอบคุณครับ

 

ขอตอบคำเดียวว่าใช่เลย ครับท่าน

 

เห็นด้วยกับท่านชีวอน10000000000000000 เปอร์เซนต์ครับ คุกมีหลายระดับตามความสะดวกสบาย วิธีที่ดีที่สุดคือรีบออกจากคุกครับ ผมเชื่อว่าผู้คุมคงเห็นการกระทำของพวกเราและบทสนทนาต่างๆที่ผ่านมาทั้งหมดและคอยดูว่าเราจะสามารถออกจากคุกได้ไหม

 

พรหมวิหาร 4 ช่วยได้ค่ะ ทำให้ใจเบาลงมาก

 

สงสัยคงต้องเลิกเล่นบอร์ดนี้เพราะที่นี้มีแต่นางฟ้า..........


แต่ก่อนดิฉันก็เป็นคนดีกว่านี้เยอะดีจนเซ่อ ทุกวันนี้ก็ยังคิดว่ดีเกินไป ใครทำอะไรไม่ดีไว้ ด่าเขาไปแล้วยังเสียใจกลับไปขอโทษ ไม่เคยอาฆาตใคร แต่สิ่งที่ได้คือ อะไร มีแต่ความเจ็บปวด ถ้าเราเลวได้มากกว่านี้ก็คงมีความสุขเหมือนคนอื่นๆ

 

ความคิดของเรามักทำร้ายเราที่สุดค่ะ มองข้อไม่ดีของตัวเราเพื่อพัฒนาตัวเราดีกว่าค่ะ ได้ประโยชน์มากกว่า ใครทำไม่ดี หมายถึง เขาสร้างเหตุแห่งความทุกข์ของเขา สัตว์โลกย่อมไปเป็นไปกรรม

 

วันก่อนได้ดูยูทูปของดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ได้พูดคำหนึ่งที่ผมฟังแล้วชอบมากคือ เป็นบุญของคนที่ไม่เห็นแต่เชื่อ นั้นคือความศรัทธานั่นเอง ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เห็นนรกสวรรค์แต่ผมเชื่อนะ ว่ามีจริงและคิดว่าหลายคนก็เชื่อว่ามีจริงแต่แค่อยากรู้ว่ามีสภาพอย่างไรลำบากหรือน่ากลัวแค่ไหน เพราะไม่ได้เห็นด้วยตาเนื้อ แต่วันนี้ก็ได้แต่ทำบุญทำทานรักษาศีลภาวนาให้ดีที่สุด เพื่อความไม่ประมาท เผื่อว่าจะผ่อนหนักเป็นเบา

 

ความจริงทุกภพอยู่ตรงหน้าเรานี่เองนะ

แต่เรามนุษย์คอยแต่วิ่งหนีความจริง

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ค้นพบทุกข์

แล้วบอกเราว่านี่นะทุกข์ นี่นะวิธีพ้นทุกข์

ก็ไม่ยอมทำกัน คอยแต่ตั้งคำถาม ร่ำไป

ถามแล้ว บอกแล้วก็ไม่ทำอีก (เพลียนะเนี่ย)

แล้วเขาก็ไม่ได้ให้ลืมนะชาติก่อนนะ ชาติหน้าด้วย

เขาให้ระลึก ด้วยสติปัฏฐาน ๔ กาย เวทนา จิต ธรรม

แล้วถ้าระลึกง่ายๆ อ่ะ ไม่มีแล้วคนชั่ววันนี้ เชื่อสิ(คุณทำได้ถ้าทำจริง)

ลองทำสติปัฏฐาน ๔ แล้วศึกษาตามพระธรรมของ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้านะ รู้แจ้ง เห็นจริง แจ่มชัด

พระอริยะสงฆ์ท่านเมตตาเรียกเราไปปฏิบัติ มีอาหารให้พร้อม

แค่หลับตาและสอบอารมณ์ ท่านพร้อมจะชี้แนะ เฮ้อๆๆ TT__TT