ใครยังไม่ได้ฌานสนใจเชิญ

ไม่เห็นต้องแปลเลย..จริงๆ อิอิ

 

พอ พอ พอ..โกมีนัม..แค่นางใน..แถวเจ้าพระยา สับสนก็ย่ำแย่แล้ว อย่าให้สวย ละเอียดกว่านี้เลย..เดี๋ยวพาลจะไม่ไปนิพพานหรอก จะแวะฟังพิณ แถวหมู่บ้านพลัม มะพลับ ตลอดชีวิตกี่อสงไข อิอิ

 

เอ๊ะๆๆ..ยังมีเจตสิก ลอยดีดพิณ..ไปมา..หลายนางนะ จะบอกให้ สับสนเห็น อิอิ

 

แบ่งให้เด็กสับสนมั่งนะ..สับสนก็มีเด็ก อิอิ

 

แสงสว่างสีขาวแต่ไม่มีพระอาทิตย์และเหลือแต่อารมย์สุขอย่างเดียว..
บางครั้งอาจจะเจอกับอะไรบางอย่าง.
แต่เอาว่าไม่เหมาะสมในการที่จะนำมาพูดเพราะสุ่มเสี่ยงหลายๆเรื่อง.
อืม....ค่อยเป็นค่อยไปนะครับ คุณ นิว พอเข้าใจอยู่..

 

..ไม่ถึงโว๊ย..รับไม่ได้..อุทิศแบบไม่มีบุญพลัง เขามาบ่นให้ผมฟังนี่ อุทิศยังไงไม่ถึงเขา..ยางเหนียวหนึบติดอยู่แต่ตัวเอง เอาแต่ยึดเหนียวติดอยู่นั่นแหละคนเดียว ไปเฝ้าถ้ำ เฝ้ารู ดู5หมื่นให้ดี อย่าให้หายซะล่ะ ปายย อิอิ

 

อ๊ะๆ..แล้วเด็กสับสนล่ะ..เอ่ยชื่อด้วย..อ้อยตลาดพลู หนูขอนแก่น น้องแดงพัทยา น้องจ๋าชลบุรี ..อย่าผูกขาด สงสารเด็กสับสนบ้าง อิอิ
..ตั้งจิตอุทิศแบบ ..ให้ทั่วโลกธาตุ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ใครก็ได้ ที่รับรู้และรับได้ ไวไวรีบมาอนุโมทนารับแล้ว ขอเย็นใจ เลื่อนภพเลื่อนภูมิไปนะ..โชคดีนะจ๊ะ อิอิ ขนลุก..

 

ใช่ผมเก่งเพราะผมมีความเพียรที่แรงกล้าขนาดยอมตายผมจึงพบพระนิพพาน นิพพานนั้นไม่จำเป็นต้องได้ฌานอะไรมาก่อนเลย เพียงวิปัสนาให้ถึงที่สุดของทุกข์ในขณะนั้นที่ทำกิจ ก็จะได้ปฐมฌานเพียงชั่วขณะจิตเดียวก็ได้ เมื่อเสร็จแล้วอาจจะเข้าฌานไม่ได้อีกเลยก้ยังได้

 

ไม่ต้องคิดเหตุผลที่จะให้หรอกมันวนไปวนมา สับสนเอาอย่างนี้นะคุณไม่กล้าให้ก็ไม่มีใครว่าหรอกเพราะปุถุชนนั้นละความตระหนี่ได้ยาก แต่วันไหนสับสนหรือใครก็ตามคิดว่าเป็นอริยะขอย้ำ คิดว่าตนเองเป็นอริยะแล้ว หาวัดที่ตนเองคิดว่าเหมาะสมแก่ก่าให้ หรือไม่ใช่วัดก็ได้อะไรก็ได้ที่ตนเองคิดว่าอยากจะให้ทาน ขออย่างเดียวอย่าเป็นพ่อแม่พี่น้องของตนเองก็แล้วกัน สับสนหรือใครลองเอาเงินอย่างน้อย80%ของเงินที่มีเหลือบริจาคดูซิว่าทำได้หรือเปล่า ส่วนผมผมทำได้แล้ว ขอย้ำเฉพาะคนที่คิดว่าตนเองเป็นอริยะเท่านั้น คนที่ยังเป็นปุถุชนอยู่ก็ค่อยๆทำตามกำลังศรัทธานะจ๊ะ

 

ไม่ใช่แสงสว่างสีขาวไม่มีพระอาทิตย์ไม่ใช่หรอกครับ พลังแสงที่มีพลังแรงจริงเปรียบที่เขาเชื่มอ๊อกเหล็กนะครับแต่มันใหญ่มากจบจักรวาลมันเกิดในมโนทวาร(ในสมอง)ครับไม่ใช่เกิดในกระบอกตาขณะหลับตา

 

วิธีพระพุทธสอนให้แผ่เมตตาคือการทำความดีอะไรแลว ให้ทำจิตเป็นสมาธิแล้วให้แผ่เมตตาไปทั่งโลกธาตุ เปรียบเหมือนบุรุษที่เป่าสังข์ถ้าเป่าดังพลังก็จะไปไกล ส่วนใครรู้ได้ยินเสียงสังข์ก้รับเอา สับสนหูหนวกไม่ได้ยินก็อด อิอิ

 

เข้าใจว่าเป็นมโนมยิทธิ ที่คุณนิวเจอ แล้วพลังจิตพุ่งไปสัมผัสอารมณ์นิพพาน
แล้วผ่านไป(เป็นนิพพานชั่วคราว) เมื่ออารมณ์นั้นคลายออกมาก็ยังมีรสชาดคาใจอยู่
แต่พอจะไปหาอีกก็ไปไม่ได้เสียแล้วเรพราะมีตัวความอยากมาปิดกั้น

เป็นความเข้าใจส่วนตัว ไม่มีใครมารับรองครับ

 

ความอยากและความไม่อยาก
เป็นทั้งตัวปิดกั้นและตัวถ่วง
ความเจริญในการสร้างพลังจิต
(เพื่อต่อยอดไปสู่มรรค๔ ผล๔
นิพพาน๑)

ซึ่งต้องใช้อิทธิบาท ๔
ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา

ไปเนื่องกับศีลสิกขา สมาธิสิกขา ปัญญาสิกขา
ส่วน"แสงวาบ"ที่เกิดขึ้นในขณะภาวนา
หากเป็นแสงที่มาจากนิมิตรหรือฤทธิ์ของ
จิตมันก็ไม่ได้เป็นปัญญาอะไร!!!
สมาธิระดับอุปจาระ จิตก็สามารถสร้าง"แสงวาบ"
ขึ้นมาได้

แสงวาบเหล่านี้มีประโยชน์ให้เกิดความ
ปีติได้บ้างและเป็นกำลังใจให้รู้ว่าจิตเมื่อ
นิ่งสู่เอกัคตารมณ์ขั้นต้นยังมีอะไร โชว์ให้ดู
ถึงเพียงนี้ หากเพียรทำให้มากๆมันจะมีพลัง
ทะลุทะลวงเห็น"ทุกขอริยสัจจะ"
ตามที่องค์พระสัมมาฯ
ทรงตรัสไว้
ปัญญาที่เกิดจากการแทงทะลุด้วย
พลังสมาธิของจิตแต่ละขั้น
เป็นปัญญาญาณที่เกิดขึ้น
โดยที่มีสัมปชัญญะ(ไม่ใช่เคลิ้มๆ)
แต่ปราศจาก
การปรุงแต่งของความรู้ความจำเก่า
ในทางสมมุติ

ผู้ปฎิบัติเองเท่านั้น ที่สามารถ
เห็นมรรคเห็นผล ด้วยตนเอง

 

อ่าน..ของท่าน work..
..บุคคลใดที่ทำบุญหรือให้ทานด้วยจิตใจที่โสมนัสยินดี ทั้งประกอบด้วยปัญญา เชื่อกรรมและผลของ
กรรมครบทั้ง ๓ กาลแล้ว บุญของผู้นั้นย่อมมีผลมาก

เจตนาทั้ง ๓ กาลนี้ เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องดับไปเช่นเดียวกับสังขารธรรมอื่นๆ และเมื่อดับไป
แล้วสามารถจะส่งผลนำเกิดในสุคติภูมิเป็นมนุษย์และเทวดาได้ ใน พระไตรปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน
แสดงความบุพกรรม คือกรรมในชาติก่อนๆ ของผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ที่เกี่ยวกับทานไว้มากมาย ตัวอย่าง
เช่น พระอรหันต์รูปหนึ่งในอดีตชาติได้ถวายผลมะกอกผลหนึ่งแก่พระพุทธเจ้าที่ประทับอยู่ในป่าใหญ่ รูปหนึ่ง
เคยถวายดอกบุนนาค รูปหนึ่งเคยถวายขนม รูปหนึ่งเคยถวายรองเท้า เป็นต้น นับแต่นั้นมาท่านเหล่านั้นไม่
เคยเกิดในทุคติภูมิเลย เกิดอยู่แต่ในสุคติภูมิ เป็นมนุษย์และเทวดาเท่านั้น ตราบจนในชาติสุดท้ายได้สำเร็จ
เป็นพระอรหันต์..
เข้าใจรึยัง 3 กาล..ทำน้อยๆแต่ทำบ่อยๆๆ..ทำน้อยๆแต่ทำบ่อยๆ น้ำหยดลงหินให้ใจเป็นบุญทุกวันที่ทำ ไม่ใช่ทุ่มทำตามอาจารย์..ใช้กลอุบายหลอกขอ..อิอิ

 

ค่อยๆทำไปสับสน ถ้าคิดว่าตนเองเป็นอริยะเมื่อใดก็ทดสอบตนเองได้นะ ไม่หวั่นๆๆๆๆไม่หวั่นเลยจริงสับสน ปีที่แล้วมากกว่าห้าหมื่น ปีนี้เกือบแสน เหลือตังค์อยู่7000ไม่หวั่นๆๆๆๆ

 

นิพพานขี้โม้ขี้หลง นิพพานอยากอวดสิ มีวิญญาณมีตัวรู้ด้วย นิพพานอะไรหักสงสารวัฎไม่ได้ นิพพานอะไรปิดอบายภูมิไม่ได้ นิพพานอะไรไม่มีความรู้เรื่องการเกิดดับเรื่องกิเลสเลย นิพพานอะไรไม่ผ่านวิปัสสนาญาณ แหม ทำกรรมฐานนิดหน่อยแค่เฉียดฌาน โม้ไปทั่ว พอให้ศึกษาจากครูอาจารย์ผู้ผ่านมาแล้ว ก็บอกเอาพุทธวจนเท่านั้น

สังเกตุมาหลายคนพวกพุทธวจนนี่ หลงเสียหลายคน ปฎิเสธคำสอนพระอริยสาวกซะด้วย มันยังไง มรรคผลไปทางนั้น ผู้ผ่านทางก็เดินตามกันไป แต่ก็ยังปฎิเสธ ผมสงสัยว่าพวกที่อ้างคงปฎิบัิติไม่ถึงไหน ไปคนละทาง จึงไม่เคารพพระอริยเจ้า เอาพุทธจวนมาเป็นเกราะให้ตัวเองดูดี ทั้งที่จริงตัวเองสับสนทำแล้วเทียบกับครูบาอาจารย์ไม่ลง พระอริยเจ้าเคารพพระศาสดา เคารพพระอรหันต์สาวก เคารพผู้มีสัมมาทิฐินะครับ ไม่ได้แบกพุทธจวนแต่แยกไม่ออกใครเป็นคุณ ใครเป็นโทษ

 

น้อง..newamazing วันนี้ถูกหวย อิอิ

 

เพิ่งจะเห็นคุณจิน ลงดาบ ^_^

 

...ของขึ้น นะ..แต่ไม่รู้ลงทีหลังหรือเปล่า...

 

ใครจ๊ะไม่เคารพพระอริยเจ้า ผมใส่บาตรทุกวันนะครับ คนพูดดูเหมือนเคารพพระอริยเจ้าใส่บาตรบ้างป่าว