ใครยังไม่ได้ฌานสนใจเชิญ

น้านิว ใส่บาตรทุกวันนี่เกี่ยวอะไรกันกับเคารพพระอริยเจ้าน้า.........5555

ผมพูดตรงๆๆ นะน้า ผมว่าพวกชอบอ้างปฏิบัตินี่มีปมด้อย กลัวพวกที่เขาเอาพุทธวจนะมาใช้ เพราะว่า เวลามันขัดกันแล้วตัวเองไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดไง
ก็จะอ้างคนที่เอาพุทธวจนะ มาอ้างว่าไม่เคยปฏิบัติ อย่างงั้นอย่างงี้จะรู้แบบตัวเองได้ไง....จริงๆๆมันเป็นเรื่องของปมด้วย ....

แล้วอ้างพระอ้างเจ้ามั่วไปหมด แต่ไหนแต่ไรมาเขามีแต่ใช้พุทธวจนะนำการปฏิบัติ ตรอบสอบการปฏิบัติ ประดุจแผนที่นำทาง และที่ปรึกษา เขามีแต่ใช้พระธรรมวินัยตรวจสอบครู ไม่ใช่ใช้คำครู ตรวจสอบพุทธวจนะ

ปฏิบัติกับปริยัติมันควรจะเดินไปด้วยกันมันถึงจะถูก จริงการอ่านการศึกษาพุทธวจนะแล้วน้อมนำมาซึ่งโยนิโสมนสิการในใจอย่างแยบคาย ก็เป็นการปฏิบัติรูปแบบหนึ่ง เป็นเรื่องของการเจริญปัญญาที่ช่วยสร้างสัมมาทิฏฐิ

 

ผมนะศิษย์วัดนาป่าพงด้วยนะครับ พุทธวจนล้วนๆเลย

 

ผมว่าน้านิวไม่พุทธวจนะกะเขาหรอก สังเกตมาหลายทีและ น้านิวออกแนวแต่งทฤษฏีเองเสียด้วย....ซ้ำ
และบางทีก็เอาศัพท์หรูมาใช้ไม่ดูความหมายด้วยเห็นบ่อย55555

 

ถามพระสกิทาคามีครับ ที่ว่าพระอริยเจ้าเบื้องต่ำปิดอบายภูมิได้ คืออย่างไร เป็นผลมาจากอะไรครับ

ถ้าใช้อย่างที่ว่าก็ดีครับ ไม่เกิดปัญหา น่าอนุโมทนา เพราะน้อมนำคำสอนพระพุทธมาปฎิบัิติ แต่ในเว็บผมเห็นมาแล้วหลายคนใช้เพื่อให้ตัวเองเลิศกว่าคนอื่น ใช้เพื่อเอาชนะกัน

พระศาสดาสอนเรื่องการดับทุกข์ คนใกล้สัมมาทิฐิ หากพอจะเห็นทุกข์บ้าง การที่เรามีโอกาสได้เจอ ได้รับรู้ เรื่องของผู้ที่พ้นทุกข์ ผู้ดับทุกข์ สาวกที่เดินตามพระศาสดาไปแล้ว เพราะท่านเหล่านั้นปฎิบัิติตามพระศาสดาอย่างแท้จริง พิสูจน์แล้วเสียด้วย ควรเคารพบูชา ควรค่าแก่การกราบไหว้ เราควรน้อมนำคำสอนท่านเหล่านั้นมาเป็นตัวอย่าง

แต่เท่าที่เห็นหลายคนปฎิเสธถึงขั้นดูถูกซะด้วย ผมกล่าวถึงในส่วนนี้ครับ

 

เฮ้ย เดี๋ยวก่อนๆ ที่พูดนี่ ให้คิด ไม่ใช่เยินยอให้หลง

newamazing บอกว่า ฌาน 1 ตนเองก็ยังไม่ได้ แล้วจะได้นิพพาน
แต่ newamazing กลับบอกว่า สิ่งที่ตนปฏิบัติมา ได้ ปีติ ได้สุข ผ่านเวทนานุปัสสนา เอาอารมณ์ปีติ สุข ขององค์ฌาน มาวิปัสสนา
newamazing ยังบอกอีกว่า ถ้าปฏิบัติตามแนวทางที่ตนเองทำ มันต้องได้ ถ้ายังไม่ได้ ถือว่ายังเป็นแค่ผู้ฝึก แต่ไม่ใช่ผู้ทำ อานาปานสติ

สรุป มันขัดกันเองมั่วหมดเลย

นี่เพราะไม่มีสติ มันเลยอ่านแล้ว เอาความดีเข้าตัวหมด

 

สมัยที่เจอสภาวะนั้นยังไม่ได้ฌาน แต่มาฝึกที่หลังแล้วได้ฌานมันแปลกเหรอ

 

งั้นขออนุญาติต่ออีกนิดนะครับ.ประเด็นนี้ถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ
ไม่มีผิดไม่มีถูกแล้วกัน..ขอถามว่า
๑.ตอนนั้นดวงจิตคุณยังอยู่ที่กาย หรือ ว่าดวงจิตคุณอยู่ข้างนอกกายครับ
๒.สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไรและถามอีกครั้งว่าแสงสีอะไร
๓.คุณมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ใช่ไหม.และคุณเจออะไรบ้าง
(ประเด็นสุดท้ายนี้ไม่จำเป็น..ต้องตอบก็ได้ครับ)

.เพราะถ้าพูดจริงๆ ตรงๆนะครับ..สภาวะอย่างที่ คุณนิว
กำลังเข้าใจคงยังไม่ใช่สภาวะนิพพานแน่นอนครับ.สภาวะแบบคุณ
ชั้นดุสิตที่มีพระโพธิสัตว์ก็เป็นคล้ายๆคุณได้แต่ยังคงมีสภาพแวดล้อมอยู่
.ถึงแม้จะเป็นสภาวะลักษณะอย่างคุณบอก..ผมดูแล้วขอพูดตรงๆ
ไม่ใช่อย่างที่คุณเข้าใจแน่นอนครับ..ลักษณะแบบพลังที่คุณว่า
ยังเป็นได้ถ้าเป็นระดับชั้นพรหมสูงๆขึ้นไปแวะมาหาคุณ.
ก็สามารถเกิดได้ครับแต่หลังจากที่ท่านเหล่านั้นกลับไปแล้ว
และอาการแบบนี้ก็ยังเป็นกรณีที่เราเรียกว่าจิตในจิตได้ครับ.
เพราะมันยังเป็นการรู้อยู่ครับ...
ผมถามคุณนิดหนึ่งนะครับ..สภาวะนิพพานเนี่ยมันรับรู้ทางมโน
ทวารได้ด้วยหรือครับ..นี่ถามแบบซื่อๆ.เพราะมันยังเป็นการรู้
อารมย์ต่างๆอยู่.ประเด็นนี้ยังสงสัยครับ..

ถ้าไม่ใช่แบบที่บอก..และคุณไม่ได้เจออะไรเลยยิ่งเป็นไปได้ยากครับ
คุณเข้าสภาวะนั้น.พูดในฐานนะที่เราเป็นนักปฏิบัตินะครับแม้แต่จะชั่วคราว
.ต้องมีอะไรๆมากกว่านั้นอยู่ครับ.และที่สำคัญคือ สุขตอนอยู่ในสภาวะนั้น
ต้องมีแน่นอน.และไม่มีความรู้สึกร้อน
ความรู้สึกเย็น หรือความรู้สึกเฉยๆนะครับ..
คุณลองเทียบหรือดูระดับกิเลสในตัวเองตอนนี้ดูก็ได้ครับ.ว่าใน ๓
ข้อนี้ โลภ โกรธ หลง ตัวไหนคุณคิดว่าคุณผ่าน..คุณแน่ใจหรือยังครับ.
ว่าคุณ.ตัดร่างกายคุณได้ไหม.ให้สังเกตุดูว่า.คุณยอมรับฟังความคิด
เห็นของคนอื่นที่เห็นต่างจากคุณได้ไหมเป็นตัวชี้วัด.ประมาณนี้ก่อนนะครับ
ยังไงก็ลองทบทวนสิ่งที่เจอพบในสมาธิด้วยนะครับ..
ที่สำคัญนะครับเรามีความไว้วางใจคนอื่นๆที่มาสนทนาด้วยดีพอ
ที่เราจะไม่ใช้ความคิดเหย่อหยิ่ง

ของเราตัดสินผู้อื่นหรือยังครับ.สิ่งนี้หละครับที่เราต้องคิดแล้วคิดอีก.เพราะ
หลายๆอย่างที่เรารู้ไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็น.และเราเข้าใจ
และเราตอบตัวเองได้หรือยังครับ
ว่าเรามองโลกในแง่ดีพอหรือยัง..และสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้เรากำลังแบ่งปัน
อะไรให้กับคนอื่นๆอยู่ครับ.....เราคิดว่าเรากำลังทำความดีอยู่.แต่คนอื่นๆ
ที่เค้ามาอ่านได้อะไรกับเราครับ..เราทำดีอยู่แต่มีเห็นต่างๆเรายอมรับได้ไหม
..หรือ.ว่าตอนนี้เรากำลังอวดดีอยู่ครับ..
เรามาคุยกันว่าจะเอาอะไรเป็นเครื่องมือไปนิพพานดีกว่าไหมครับ..
หรือว่าจะมาคุยว่าตนเคยเข้าสภาวะนิพพานแบบที่ตนเองเข้าใจครับ
แบบไหนยังประโยชน์กว่า.ลองคิดดูนะครับ...
ผิดถูกขอขมามา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ.​

 

อ่อ ครับ วัดนาป่าพง นะครับ

ที่คณะของหลวงพ่อชา ขับออกจากการเป็นสาขา นะครับ

หลวงพ่อชา ที่เป็นพระธาตุแล้ว นะครับ

ชัดเจนครับผม

 

newamazing ยังไม่รู้จักเลยว่าฌานเป็นยังไง ไม่ใช่เหรอ?

 

ใช่ครับ บางคนนะครับ

เขาอ้างพุทธวจนะแบบไม่ดูความหมายเลย เข้าใจผิดด้วย พุทธวจนะพูดอย่างเขาตีความอย่างแล้วเอามาเถียงมาฟาดฟันคนอื่น....อันตรายมาก คนที่เขาเข้าใจจริงๆๆเขาก็น้องปฏิบัติด้วยแหละครับพระพุทธวจนะส่วนใหญ่จะเน้นว่าต้องปฏิบัติประกอบไปด้วยงั้นไม่มีความหมาย

มันก็เกิดปัญหา เหมือนบางคนเขาปฏิบัติ แต่เขาไม่เคยตรวจดูเลยว่าตัวเองปฏิบัติอะไร ที่ทำถูกเปล่าตามพุทธวจนะ แล้วก็อ้างว่ารู้เอาจากการปฏิบัติ แถมชอบเอาพระเจ้าท่านมาอ้าง บางทีท่านว่าอย่างคนอ้างเอามาตีความเองเสร็จสรรพเลย

แล้วก็บอกตัวเองเคารพก็สงสัยว่าเคารพตรงไหน กลายเป็นทำร้ายครูอ.ท่าน

 

อนุโมทนาครับ

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระรัตนตรัย น้อมเป็นที่พึ่ง น้อมเป็นตัวอย่าง และน้อมนำมาปฎิบัิติตาม เป็นประโยชน์แก่ตนเป็นที่สุดครับ

 

สมัยก่อนหรือเดี๋ยวนี้ ถ้าเดื๋ยวนี้ผมได้แล้วมีไรเหรอครับ

 

สภาวะก็เล่าไปหมดแล้ว ส่วนชีวิตจริงไม่มีโทษกับใคร ส่วนการสนทนาในนี้แล้วแต่จะคิดเพราะมันมีหลายมุมในความคิด แต่ไม่คิดมีอคติกับใครเพราะมาสอน ต้องมีลวดลายถึงจะสนุกเข้าถึงใจคนอ่าน เป็นทั้งกระจกและตำราที่อาจจะเหมือนหรือมีความต่างก็เพราะความหลากหลายแลกเปลี่ยน รักทุกคน

 

ฌานที่บอกว่าได้แล้ว เวลาจะเข้าฌาน นี่ยังต้องนั่งกลั้นลมหายใจอยู่ใช่ไหมครับ

 

บอกแล้วไงว่าผมยังไม่วสีบางครั้งก็หายใจเดียว บ้างครั้งก็สักห้านาทีก็เข้าได้

 

ผู้ที่มีอาการแบบนี้ คือผู้ที่ยังถูกขันธ์หลอกใช้อยู่ ไม่ใช่ผู้ใช้ขันธ์

 

จะว่าไงก็ว่าไป ตกลงปีติรู้ยังว่าเป็นหมวดไหน

 

ครับผม..ส่วนตัวกระทู้นี้คงไม่มีอะไรสนทนาแล้่วนะครับ..ยังไงมีถ้ามีอะไรล่วงเกินต้องของอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ..ขอบคุณครับ
​

 

จะไม่เล่าประสบการ์ให้ฟังบ้างเหรอครับว่านิพพานนั้นเ็ป็นอย่างไรเพื่อเป็นธรรมทานนะครับ

 

การเข้าถึงนิพพานจะต้องผ่านวิปัสสนาญาณ คุณนิวยังไม่รู้จักสภาวะของวิปัสสนาญาณเลย
(จึงได้มีคำถามในข้อ2และ3 ความเห็น #129)
เรื่องนิพพานจึงตัดออกไป

ส่วนฌานสี่ สามารถเกิดขึ้นได้ในตอนที่คุณนิวนั่งสมาธิในครั้งนั้น
ฌานต่างๆเกิดขึ้นได้ และเมื่อผ่านด่านเวทนาชนิดยอมตายไปได้นั้น ตรงนี้เกิดฌานสี่แล้ว
ก่อนหน้านั้นคุณนิวจะไม่เคยได้ฌาน1เลย ก็ไม่ใช่ปัญหา มันมาได้ในตอนที่คุณนั่งในครั้งนั้น

จากประสบการณ์ส่วนตัวก็คล้ายกับคุณนิวเลยค่ะ คือ ตอนนั้นยังไม่เคยได้ฌานอะไรมาก่อนเลย
สมัยเรียน ม.ต้น ตอนเช้ามืดจะลุกขึ้นมาอ่านหนังสือทุกวัน มีอยู่ช่วงหนึ่งมันง่วงมากเหมือนกินยานอนหลับ
ตามันจะปิด ล้างหน้าก็แล้ว เอายาหม่องทาก็แล้ว กินมะยมจิ้มเกลือก็แล้ว หัวโขกกับพื้นทรมานมาก
และต้องอ่านหนังสือให้จบทันตามแพลนที่ทำไว้ในแต่ละปี พอผ่านด่านนี้ไปได้ จิตมันตื่น ไม่ง่วงอีกเลย
จะนอนดึกและตื่นเช้าขนาดไหนก็ไม่ง่วงเลย ทำอะไรๆได้นานทั้งอึดทั้งทนไม่มีเหนื่อย
แล้วเช้าวันหนึ่งก็ลุกขึ้นมากอ่านตามปกติ อ่านไปอ่านมาแขนขามันหาย ตัวหาย เสียงจักจั่นเรไรดับจนไม่ได้ยิน
ทุกอย่างดับหมดเหลือแต่ตัวรู้ แล้วมีแสงสว่างหาที่สุดไม่ได้ หาต้นต้นกำเนิดแสงไม่มี มีอะไรๆอีกมากที่บรรยายไม่ถูก แล้วก็เข้าสู่สภาวะปกติ
ความรู้สึกมันเข้าถึงทุกอณูของกายใจ ไม่ลืม ฝังแน่น จนกระทั่งปัจจุบันยังไม่ลืม
ซึ่งสภาวะนี้มันคล้ายกับวิปัสสนาญาณมากๆแต่ไม่ใช่ ที่รู้เช่นนั้นเป็นเพราะ
ต่อมาอีกนานหลายปี ได้เกิดวิปัสสนาญาณขึ้นหลายครั้ง จึงรู้ถึงความแตกต่างของสองสภาวะนี้

เมื่อเหตุปัจจัยถึงพร้อม เกิดวิปัสสนาญาณ คุณนิวก็จะเห็นความแตกต่างได้ด้วยตัวเองไม่ต้องถามใคร
เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ

...

ปอลอลิง. คอมเสียค่ะ ใครส่งพลังจิตมาไม่รู้นะเนี่ย
งัดเครื่องโบราณที่เกือบจะทิ้งแล้วมาสำรองใช้ ช้ามากๆ บ๋ายบาย