ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ประวัติดวงแก้วอนันตกาลสุริยจักร ตอน ๑๑ กำเนิดดวงแก้วอนันตกาลสุริยจักร

กล่าวถึงเจ้าชายสันติราช พระโอรสองค์โต หลังจากได้ออกจากเมืองไปเป็นเวลาหลายปี ต่อมาทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงพรรณระวีเทวี จนมีพระโอรส ๑ พระองค์พระนามว่า เจ้าชายสิทธิสัตตะ เมื่อมีพระโอรสแล้ว ต่อมาพระเจ้าสุวรรณจักรทรงสละราชบัลลังก์ให้ขึ้นครองราชย์ต่อมา

ต่อมาพระเจ้าวสุธรรมราชา ทรงทราบข่าวการสละราชสมบัติของพระเจ้าสุริยจักร จึงคิดว่า ควรนำทรัพย์ส่วนหนึ่ง เพื่อมอบให้เสนาอำมาตย์ได้ดูแลเมือง กาลต่อมาทรงสละบัลลังก์มอบให้แก่เจ้าชายสุทธิธรรมครองราชย์ต่อไป

ส่วนพระนางสิริรัศมีนั้น เกรงว่าพระเชษฐาจะเป็นห่วงพระมารดา จึงส่งพระราชสาส์นลับไปยังเมืองของพระเชษฐาว่า พระนางวสุมิตตาเทวีได้พักอยู่ในนาคพิภพ ขออย่าได้เป็นห่วง

กล่าวถึงเจ้าชายสรรพญาณรังสี หลังจากได้ทางเดินกลับมาพร้อมพระสหายที่เป็นพ่อค้าแล้ว ระหว่างทางได้พบกับพระฤาษีตนหนึ่ง นามว่า พระสุมงคลฤาษี จากนั้นทรงได้อยู่อุปัฏฐากพระฤาษี จนวันหนึ่งพระฤาษีผู้เป็นอาจารย์ได้ผนวชให้เป็นพระฤาษี นามว่า สรรพญาณฤาษี

ทรงศึกษาวิชาต่าง ๆ จนสำเร็จอภิญญาสมาบัติ จากนั้นได้ตรวจดูด้วยญาณทัสสนะจนทราบเรื่องราวต่าง ๆ และทราบว่าพระสุริยจักรดาบสเข้าสมาบัติอยู่ที่ใด ทรงขอลาพระอาจารย์เหาะมายังป่าที่พระสุริยจักรดาบสเข้าสมาบัติ จากนั้นได้หาผลไม้ และน้ำดื่มมารอถวาย

เมื่อพระสุริยจักรดาบสออกจากสมาบัติแล้ว พบว่าพระโอรสของพระองค์ออกผนวชเป็นพระฤาษี และถวายผลไม้และน้ำฉันน้ำดื่มแก่พระองค์ จากนั้นได้สนทนาธรรมกันตามสมควร จากนั้นก็พระสรรพญาณฤาษีได้ปลีกวิเวกอยู่บริเวณไม่ไกลนัก เพื่อบำเพ็ญตนต่อไป

พระสุริยจักรดาบสทรงเข้าสมาบัติ ๑๐,๐๐๐ ปี จากนั้นทรงเนรมิตกายที่คล้ายพระองค์ขึ้นมาอีก ๑ กาย กายนี้จะปฏิบัติตามพระองค์ทุกอย่างไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ก็บำเพ็ญตามพระองค์ทุกประการ
กาลต่อมามีชาวเมืองปัญจานาคได้ผ่านมา ทราบว่า พระดาบสผู้นี้เป็นอดีตพระราชาแห่งเมืองสุริยนคร จึงได้นำผลไม้มาถวายแก่พระองค์ พร้อมได้เล่าถึงความลำบากของพระโอรสของพระองค์ให้ทรงสดับ

พระสุริยจักรดาบสได้ทราบ รู้สึกสลดพระทัย ด้วยพระโอรสองค์ที่ ๗ ยังทรงพระเยาว์นัก จึงคิดหาทางช่วยเหลือ จึงได้นำกายอธิษฐานของพระองค์นั้นได้ขึ้นไปกราบเรียนถามท้าวสักกเทวราชว่า ..

”สิ่งที่เป็นบันดาลความสำเร็จคืออะไร หรือสิ่งที่สามารถดึงดูดทรัพย์ได้คือสิ่งใด”

ท้าวสักกเทวราชได้กล่าวถึงดวงแก้วมณี พร้อมบอกวิธีอธิษฐานดวงแก้วมณี จากนี้กายอธิษฐานของพระสุริยจักรได้กลับซ้อนกายพระองค์อีกครั้ง จากนั้นได้เข้าสมาบัติไปเป็นเวลา ๓๐๐๐๐ ปี เมื่อออกจากสมาบัติจึงอธิษฐานดวงแก้วขึ้นมา ๑ ดวงให้นามว่า “อนันตกาลสุริยจักร"

___________________________​

จากนั้นพระองค์ได้เหาะไปยังเมืองปัญจานาค เพื่อพบปริจาคพราหมณ์ และได้นำดวงแก้วมณีไปมอบให้ โดยหวังว่า ดวงแก้วมณีจะทำให้ปริจาคพราหมณ์มีฐานะดีขึ้น ทำให้พระโอรสของพระองค์ไม่ลำบากเช่นเดิม เมื่อไปถึงได้กล่าวแก่ปริจาคพราหมณ์ว่า

“ท่านพราหมณ์เรานำดวงแก้วมณีนี้มามอบให้ท่าน ในอดีตกาลดวงแก้วนี้เป็นของคู่บุญกับพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้ใดมีครอบครองจะมีแต่ความคล่องตัวในทรัพย์ เป็นที่มานอนแห่งทรัพย์ ปรารถนาสิ่งใดก็จะสำเร็จ แต่ท่านจะต้องทำการบูชาดวงแก้วให้เหมาะสมโดยงดจากการดื่มสุรานับแต่นี้ไป”

จากนั้น พระสุริยจักรดาบสได้วางดวงแก้วประดิษฐานในที่ที่เหมาะสม จากนั้นก็เหาะกลับยังที่บำเพ็ญเพียรเช่นเดิม ปริจาคพราหมณ์เมื่อฟังดังนั้น ก็เกิดความปิติใจ คิดว่า ต่อไปเราเป็นดังพระเจ้าจักรพรรดิ เมื่อคิดดังนั้นยิ่งเกิดความกระหยิ่มยิ้มย่องดีใจ

เทวดาที่รักษาดวงแก้วนั้นต้องการแสดงเทวานุภาพเปล่งแสงออกมา ทำให้ปริจาคพราหมณ์เมื่อเห็นแสงก็เกิดตกใจ ด้วยความชราทำให้เกิดหัวใจวายฉับพลันสิ้นใจตายทันที
เจ้าชายสัตตบวรได้ยินเสียงดังครืน จึงวิ่งขึ้นไปดูบนเรือนพบว่า มีดวงแก้วมณีเปล่งแสงสว่าง พร้อมเห็นร่างของปริจาคพราหมณ์ก็ตกใจ ร้องเรียกนางสุมิตตา เพื่อนบ้าน ผู้คอยให้ความช่วยเหลือพระองค์ให้มาดู

นางสุมิตตานั้นทราบว่า ปริจาคพราหมณ์สิ้นชีวิต จึงทำพิธีเผาศพให้เรียบร้อย จากนั้นคิดว่า ควรพาเจ้าชายสัตตบวรกลับเมืองสุริยนคร โดยนางได้เดินทางพร้อมคนรับใช้อีก ๒ คน เป็นเพื่อนเดินทางใช้เวลา ๑ เดือนจึงถึงเมืองสุริยนคร

จากนั้นได้พาเจ้าชายสัตตบวรไปพบสันติสนธิอำมาตย์ เมื่อเหล่าอำมาตย์ได้เห็นเจ้าชายสัตตบวร ถึงกับร่ำไห้ ไม่คิดว่าพระองค์จะต้องลำบากเช่นนั้น จึงได้แต่งตั้งให้เจ้าชายสัตตบวรเป็นพระราชาครองเมืองต่อไป

และได้แต่งตั้งนางสุมิตตา ให้เป็นพระมารดาเลี้ยงของเจ้าชายสัตตบวร ส่วนสันติสนธิอำมาตย์เป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ต่อไป พระองค์ได้นำดวงแก้วมณีประดิษฐานในที่ที่ชาวเมืองสามารถมาขอพรได้ ทำให้เมืองสุริยนครกลับมามีความสุข และมีความเจริญรุ่งเรืองต่อมา

 

..ประวัติดวงแก้วอนันตกาลสุริยจักร ตอน ๑๒..

กำเนิดดวงแก้ววสันตรัตนญาณ และแก้วสรรพญาณรัตนบวร​

เมื่อดวงแก้วปรากฏขึ้นมา มีแผ่นดินสั่นสะเทือน ทำให้พระสรรพญาณฤาษีได้ออกจากสมาบัติ ตรวจดูด้วยญาณทัสสนะทราบว่า พระบิดาของพระองค์อธิษฐานดวงแก้วมณี จึงปรารถนาจะเรียนรู้วิธีการอธิษฐานดวงแก้วนั้น

พระสุริยจักรดาบสจึงได้ถ่ายทอดวิชาให้ ด้วยทรงทราบด้วยญาณทัสสนะว่า อีกไม่นานจะเกิดภัยแล้งกับเมืองวรรณจักรนคร อันพระเจ้าสันติราช ซึ่งเป็นพระโอรสองค์โตทรงปกครองอยู่

________________________________________________________

พระองค์จึงดำริว่า แม้เรื่องนี้จะเกิดจากชะตากำหนด เราจะเนรมิตดวงแก้วให้แก่พระเจ้าสันติราช เพื่อจะบรรเทาภัยพิบัติอันจะเกิดในอนาคตต่อไป จากนั้นจึงได้ใช้อีกกายแจ้งแก่พระสรรพญาณฤาษีว่า..

“สรรพญาณ ในอนาคตเมืองวรรณจักรจะมีภัยใหญ่ เราจะอธิษฐานดวงแก้วอีกดวงหนึ่ง เพื่อบรรเทาภัยเหล่านั้น แม้ทุกอย่างมีชะตากำหนด แต่อย่างน้อยดวงแก้วนี้ จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา เรามาอธิษฐานร่วมกันเถิด”

พระสรรพญาณฤาษีนั้น จึงได้เหาะมายังใกล้ธารน้ำตกที่พระสุริยจักรดาบสนั่งภาวนาอยู่ เมื่อมาถึงแล้วได้ก้มกราบพระสุริยจักรดาบส พระสุริยจักรดาบสกล่าวว่า..

“อีก ๓ วันข้างหน้าจะตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ เราจะเข้าสมาบัติพร้อมกัน จงกำหนดรวมคุณความดีแต่อดีตของเจ้า เพื่อให้มีผลต่อการอธิษฐานดวงแก้วนี้ อีก ๓๐๐๐๐ ปีข้างหน้าในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ เราจะออกจากสมาบัติพร้อมกัน เพื่ออธิษฐานดวงแก้วมณีด้วยกัน”

พระสรรพญาณฤาษีจึงก้มกราบพระสุริยจักรดาบสด้วยความเคารพนอบน้อม และกล่าวว่า ..

”ก่อนจะเข้าสมาบัติ ๓ วันนี้ ลูกขออุปัฏฐากท่าน เพื่อเป็นการตอบแทนคุณด้วยเถิด”

พระสุริยจักรนั้นได้สงบนิ่ง จากนั้นพระสรรพญานฤาษีได้ใช้ไม่ไผ่สาน ยาด้วยยางไม้ นำไปตักน้ำใช้ และต้มน้ำดื่ม ตลอดทั้งหาผลไม้มีรสหวานอ่อนนุ่ม เพื่อให้พระสุริยจักรดาบสเสวย

และยังนำดอกไม้ป่าที่มีกลิ่นหอมมาจัดสถานที่พักของพระสุริยจักรดาบส ทำให้มีกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ ทรงเปลี่ยนดอกไม้หอมทุก ๆ วันทำอย่างนี้จนครบ ๓ วัน จากนั้นทรงเวียนทักษิณา ๓ รอบ และเปล่าคำอธิษฐานว่า...


“คุณความดีใดที่ท่านผู้เป็นพระบิดา และพระอาจารย์ได้อธิษฐานก็ดี เป็นความปรารถนาก็ดี ข้าฯขอติดตาม และเจริญรอยตามท่านนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะสำเร็จมโนปณิธานนั้น”

เมื่อคำอธิษฐานสิ้นสุด เทวดา และอมนุษย์ทั้งหลายต่างโมทนาสาธุการ พลันเกิดแผ่นดินไหวไปทั่ว การโมทนาของเทวดาทั้งหลายนี้ ทราบไปถึงท้าวสักกเทวราช จึงเสด็จมายังสถานที่เข้าสมาบัติของนักบวชทั้งสองท่าน ปรากฏองค์เฉพาะหน้า เมื่อตรวจด้วยญาณทัสสนะทราบว่า..
มีพระดาบส และพระฤาษีได้เข้าสมาบัตินับเป็นเวลา ๓๐๐๐๐ ปี พระองค์ปรารถนาจะได้กุศลครั้งนี้ จึงอธิษฐานวิมานแก้วครอบพระดาบส และพระฤาษีทั้งสอง เพื่อป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง ทรงให้อากาศเทวา และภุมิเทวาที่อยู่บริเวณนั้นคอยดูแล จากนั้นเสด็จกลับยังกัณฏวิมานบนดาวดึงสเทวโลกต่อไป

กล่าวถึงเมืองวรรณจักรเวลาผ่านไป ๒๐๐๐๐ กว่าปีเกิดภัยพิบัติน้ำท่วม เกิดโรคระบาด และภัยแล้งติดต่อกันเป็นเวลา ๕๕๐๐ ปี พระเจ้าสันติราชทรงกลุ้มพระทัย ไม่สามารถป้องกันภัยได้ ประชาชนเสียชีวิตไป ๒ ใน ๓ ส่วนทรงอธิษฐานว่า..

“ชะตาฟ้ากำหนดให้เกิด ข้าพเจ้าขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ขอถืออุโบสถศีลนับแต่นี้ไป เพื่อรองรับความทุกข์ของราษฎรทั้งปวง ขอให้การรักษาคุณความดีนี้ ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ขอให้ราษฎรของข้าพเจ้าอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขดังเดิมด้วยเถิด”

นับแต่วันนั้นทรงตั้งใจปล่อยสัตว์ปล่อยปลา งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ทรงเสวยเพียงแป้งและผัก เพื่อไถ่บาปกรรม ทำให้ภัยแล้งต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น จนเป็นเวลาครบ ๔๕๐๐ ปี
กล่าวถึงพระสุริยจักร และพระสรรพญาณฤาษีได้เข้าสมาบัติและออกจากสมาบัติ เป็นเวลา ๓๐๐๐๐ ปีพอดีจากนั้นต่างก็อธิษฐานดวงแก้วมณีขึ้นมา คนละดวง

การออกจากสมาบัติครั้งนี้ทราบถึงท้าวสักกเทวราชองค์ใหม่ ก็ปรากฏแสงสว่างต่อหน้าพระดาบสและพระฤาษีทั้งสอง พร้อมทั้งนำแสงแก้วมณีจักรวาลส่องลงในดวงแก้วทั้งสอง เกิดแสงสว่างไปทั่วทั้งป่า เทวาอารักข์ทั้งหสายต่างโมทนาสาธุการ

ท้าวสักกเทวราชองค์ใหม่กล่าวว่า..

“ข้าฯแต่พระคุณเจ้าทั้งสอง ดวงแก้วทั้งสองนี้เปรียบเสมือนมณีจักรวาลของโลก ดวงแรกควรให้นามว่า..

“วสันตรัตนญาณ” อันทำให้เกิดฝนตกต้องตามฤดูกาล บรรเทาภัยพิบัติทั้งหลาย เรียกทรัพย์เก่าคืนมา อริราชศัตรูจะถอยไป คนพาลจะห่างหาย เหลือไว้แต่ผู้มีบุญ
ผู้บูชาดวงแก้วนี้จะส่งผลให้เป็นผู้ที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง มีความสุขกายสุขใจ และยังเป็นที่มานอนแห่งทรัพย์ทั้งหลาย ทั้งโภคทรัพย์ และอริยทรัพย์อีกด้วย”


เมื่อกล่าวจบ พระสุริยจักรดาบส ทรงโมทนาสาธุการ ท้าวสักกเทวราชองค์ใหม่กล่าวต่อไปว่า ..

“ส่วนดวงแก้วที่ ๒ นี้ขอให้นามว่า “สรรพญาณรัตนบวร” เป็นดวงแก้วคู่บุญของพระสรรพญาณฤาษี ที่ท่านอธิษฐานให้เป็นดวงแก้วที่เรียกทรัพย์ได้ และป้องกันทรัพย์สูญหาย ทั้งยังดึงดูดทรัพย์กลับมา อีกทั้งยังมีค่าในการป้องกันภัยพิบัติทั้งหลาย

ก่อนพระสรรพญาณฤาษีจะอธิษฐานดวงแก้วนี้ ท่านได้ทำความสักการะต่อผู้มีพระคุณด้วยความเคารพนอบน้อม และทำด้วยความประณีต ส่งผลดวงแก้วนี้จะมีผลในด้านการศึกษาสรรพวิชาต่าง ๆ มีความแตกฉาน และเจริญรุ่งเรืองด้วยโภคทรัพย์ และอริยทรัพย์เป็นต้น

ขอกล่าวถึงดวงแก้วอนันตกาลสักเล็กน้อย ดวงแก้วอนันตกาลนั้น หากจะให้มีอานุภาพมากขึ้น ขอให้พระเจ้าสัตตบวรนั้น เป็นผู้ทำความดีและนำมาบูชาต่อเทวดาทั้งปวง เราจะส่องแสงมณีแห่งจักรวาล เพื่อเพิ่มอานุภาพให้”
เมื่อท้าวสักกเทวราชกล่าวจบ ก็เสด็จกลับยังวรรณกีรติวิมานต่อไป


กาลนั้นมีพญาลิงเผือกตัวหนึ่ง ได้รู้เห็นเหตุการณ์โดยตลอด จึงปรารถนาจะเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาติต่อไป ให้สั่งให้วานรบริวาร นำผลไม้ที่มีรสหวาน และอ่อนนุ่มมาถวายแด่พระดาบส และพระฤาษีทั้งสอง พร้อมนำน้ำดื่มน้ำใช้มาถวาย

พระสุริยจักรดาบสนั้น ทราบด้วยวารจิตว่า พญาวานรนั้นปรารถนาจะเป็นมนุษย์จึงกล่าวว่า..


“พญาวานรเอ๋ย ขอบใจที่นำผลไม้ และน้ำมาให้เราและสรรพญาณ กุศลใดที่เราทำได้ขอจงมีแก่เจ้า และบริวารทั้งหลายเถิด”พญาวานรได้ยินเช่นนั้นเกิดความปิติใจอย่างยิ่ง จนหัวใจวายสิ้นใจตาย จากนั้นได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นเทพบุตรที่มีวิมานเป็นรูปผลไม้ป่า สว่างไสวไปทั่ว มีสวนผลไม้ทิพย์มากมาย พร้อมมีสระโบกขรณีที่มีกลิ่นหอมไปทั่ว

ฝ่ายวานรทั้งหลายต่างเสียใจในการจากไปขอพญาวานร จึงได้นำร่างของพญาวานรทั้งไปฝัง และนำดอกไม้ป่ามาบูชา พระสุริยจักรดาบสได้เห็นดังนั้น ตรวจดูด้วยญาณทัสสนะก็ทราบว่า พญาวานรเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงได้บอกแก่วานรทั้งหลาย และให้เลือกพญาวานรตัวใหม่ จากนั้นเหล่าวานรทั้งหลายได้ทำการเวียนทักษิณา ๓ รอบ และจากไป


พระสุริยจักรดาบสเห็นดังนั้น ก็กล่าวแก่สรรพญาณฤาษีว่า

“สรรพญาณเอ๋ย เราจะไปเมืองวรรณจักร เพื่อนำดวงแก้วมอบแด่พี่ของเจ้า ส่วนเจ้าให้นำดวงแก้วที่อธิษฐานไปยังเมืองสุธรรมรัตน์ เพื่อให้สุทธิธรรมราชา ประดิษฐานดวงแก้วนั้นกลางเมือง เพื่อให้ชาวเมืองได้สักการบูชาเป็น ๕๐๐๐ ปี จากนั้นให้นำไปยังเมืองโมตยมาตย์ เพื่อให้ชาวเมืองสักการบูชา ๕๐๐๐ ปี จากนั้นเจ้าจงนำกลับไปเก็บรักษายังที่ปลอดภัยต่อไป”

กล่าวจบพระองค์ก็เหาะไปยังเมืองวรรณจักร มอบดวงแก้ววสันตรัตนญาณแก่พระเจ้าสันติราช ซึ่งขณะนั้นทรงถืออุโบสถศีล เมื่อเห็นอดีตพระบิดาทำดวงแก้วมณีมาให้ ได้ขอเชิญพระดาบสพำนักในเมืองนี้ ๗ วัน เพื่อตนจะได้อุปัฏฐาก เมื่อใกล้ชิดพระดาบสมากขึ้น จึงเกิดความศรัทธาจะออกผนวชตามพระบิดา จึงประกาศสละราชบัลลังก์ให้แก่เจ้าชายสิทธิสัตตะ พระโอรสให้ครองราชย์ต่อไป

จากนั้นได้เกาะชายผ้าของพระสุริยจักรเหาะกลับยังที่พำนัก และศึกษาวิชาต่าง ๆ จนสำเร็จ จากนั้นผ่านไป ๕๘๐๐ ปีพระสุริยจักรทรงสวรรคต ด้วยสิริมายุได้ ๒๐๐๐๐๐ ปี จากนั้นไปจุติบนชั้นดุสิตเทวโลก

ส่วนพระสันติราชดาบสนั้น ต่อมาไม่นานก็ได้พบกับพระสรรพญาณฤาษี ทรงบำเพ็ญเพียรด้วยกันจนจนสิ้นอายุขัย ก่อนสิ้นอายุขัยนั้น ได้ดูแบบอย่างพระบิดา และขอเกิดได้พบพระบิดาพระมารดา ตลอดทั้งพระญาติในชาติต่อไป

ขอจบเรื่องดวงแก้วอนันตกาลสุริยจักร ดวงแก้ววสันตรัตนญาณ และดวงแก้วสรรพญาณรัตนบวรเพียงเท่านี้

กรรมใดที่เคยล่วงเกินท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมทั้งปวง และท่านใดที่เคยล่วงเกินข้าพเจ้ามา ขอตั้งเป็นอภัยทานถวายแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วด้วยเถิด สาธุ..

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

๓ ตค. นี้ ๑๑.๒๐ น. ประมูลจักรแก้ว ๔ องค์ อุณาโลมแดง และพลอยพญานาค ๕ สี..

ขอเชิญร่วมประมูลจักรแก้ว ๔ องค์ อัญเชิญจากถ้ำในเทือกเขาภูพาน



ชุดแรกมีดังนี้

๑.จักรแก้วสัตตรัตน์บงกช(ชมพู) ๒.ทศพิธมหิศร(ขาว)

๓. อินทรบวรราช(ขาว) ๔. สินีนาถกมลรัตน์(ชมพู)​

เริ่มประมูลองค์ละ ๓,๙๙๙ บาท​

ชุดที่๒. อุณาโลมสีแดง ๑ องค์ ขนาดใหญ่ เดิมเป็นสมบัติของพญามุจลินทร์นาคราช อัญเชิญถ้ำแห่งหนึ่งในเทือกเขาภูพาน

เริ่มประมูลที่องค์ละ ๔,๕๙๙ บาท

​

ชุดที่ ๓.พลอยพญานาค ๕ สี(ใหญ่) ๑ ชุด มีสีแดง ขาว ชมพู เหลือง และเขียวขี้ม้า

เริ่มประมูลชุดละ๒,๙๙๙ บาท

​

​

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

..กติกาในการประมูล..

๑. เริ่มวันที่ ๑-๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ ภายใน ๑๑.๒๐ น. ตามราชาฤกษ์ ตรงกับวันแรม ๑๐ ค่ำเดือน ๑๐ ปีมะเส็ง

๒. รายการประมูลจะมอบแด่ท่านที่ประมูลราคาสูงสุดภายในเวลาที่กำหนด (ตามเวลาเว็บพลังจิต.org)

๓. หากที่มีผู้ประมูลราคาสูงสุด และเวลาเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยผู้ที่ทำการโพสต์ก่อนเป็นอันดับแรก

๔. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วันหลังจากโอนปัจจัยแล้ว หากเลย ๒ วันจะมอบสิทธิ์แก่ผู้ที่ประมูลรายต่อไป

๕. หลังจากโอนปัจจัย กรุณาแจ้งชื่อ-ที่อยู่ใน PM-Numsai แล้วจะทำการส่งมอบดวงแก้วให้แก่ผู้เป็นเจ้าของต่อไปค่ะ

กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
เลขที่ 080-252647-2
ธนาคาร ไทยพาณิชย์
สาขา ถนนศรีนครินทร์ (กรุงเทพ – กรีฑา)
ประเภท ออมทรัพย์-แบบสะสมทรัพย์

ปัจจัยหลังหักค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปร่วมบุญดังนี้


๑. ๑๐ % เข้ากองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร เพื่อกฐิน ๙ วัด
๒. ๑๐% ร่วมบุญสังฆทาน เครื่องเหล็ก และไมโครเวฟ เพื่อเป็นบริวารกฐิน

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

ร่วมประมูลจักรแก้ว ๔ องค์ๆละ 4,500 บาท
ร่วมประมูลอุณาโลมสีแดง 5,000 บาท
ร่วมประมูลพลอยพญานาค 1ชุด (๕ สี) 3,100 บาท

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณวาสุเทพในการเปิดประมูลทุก ๆรายการค่ะ สำหรับชุดที่ ๓ นั้นประมูลเป็นชุดค่ะ ( ๕ สี) เริ่มที่ชุดละ ๒๙๙๙ บาทค่ะ

ต้องขออภัยที่ไม่ได้ระบุให้ละเอียดในช่วงแรกค่ะ

ขอให้สมความปรารถนาค่ะ
Numsai

 

๑.จักรแก้วสัตตรัตน์บงกช(ชมพู) ๒.ทศพิธมหิศร(ขาว)
ร่วมประมูลจักรละ 4,600 บาท

 

ยินดีต้อนรับคุณ youkaiด้วยค่ะ

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
Numsai

 

๓. อินทรบวรราช(ขาว)
ร่วมประมูล 4,900 บาท

 

ขอร่วมประมูลจักรสินีนาถกมลรัตน์(ชมพู) 4600บาทครับ

 

ขอร่วมประมูลจักรทศพิธมหิศร(ขาว)ที่ 4848บาทครับ

 

ขอร่วมประมูลจักร อินทรบวรราช(ขาว)ที่5548ครับ

 

จักรแก้วสัตตรัตน์บงกช(ชมพู) 4,609 บาท

 

ร่วมบุญประมูล
จักรแก้วสัตตรัตน์บงกช(ชมพู) 4650 บาท
จักรทศพิธมหิศร(ขาว) 4850 บาท

 

ร่วมประมูลจักร สัตตรัตน์บงกช 4999.-

 

ขอร่วมประมูลจักร อินทรบวรราช(ขาว)ที่5600

 

เอ้า จำเวลาผิดปิด 11:40 ง่ะ คิดว่า

 

มากราบอนุโมทนาบุญกับคุณหม่อนเป็นคนแรกค่ะ _/|\_

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ ผมขออนุญาติช่วยupdate การประมูลนะครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ร่วมประมูล และขอแสดงความยินดีกับคุณ phuya คุณ Sun 2555 คุณ moom ด้วยนะครับ