^___^ แท้สวยดีถูกคุ้ม มีอนาคต ห้องพระไอซ์แมน พระเครื่องคุณภาพ

ได้โอนเงิน ๑๘๐๐ บาท เมี่อ ๒๒ ตค. เวลาประมาณ๑๐.๓๒ น. เป็นค่าพระ ๑.เหรียญ ครูบาผัด รุ่นแรก ที่อยู่ ดูในpmครับ

 

รับทราบ ครับ พิมพ์ มีหู ใช่ไหมครับ

 

จองค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

จองค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ปิดตากนก ข้างอันเกรียงไกร ที่ผู้ใช้แล้ว ดีขึ้น เจริญขึ้นเหมือน ลายกนก ที่ปลายต้องชี้ฟ้าตลอด และประสพการณ์ มากเหลือเกิน ยิ่งการค้าขาย และ ความก้าวหน้าทาง กรรมฐาน ท่านเก่งมากๆ และ ได้รับขนานนามว่า นักเทศน์จากดาวดึงส์ ครับ

ถ้าเอ่ย ถึงหลวงปู่เหรียญ ใครไม่รู้จักก็เชยแล้ว ท่านเป็นพระครบเครื่อง ดีทุกด้าน ไม่ว่ากรรมฐาน เทศ อภินิหาร สมาบัติ ของๆ ท่านจึงค่อยๆ แพงตามเป็นเงา เพราะว่า ระดับคนใหญ่ในบ้านเมืองขึ้นกันมาก ๆ ปิดตากนกข้างท่านนั้น เริ่มแพงเรื่อยๆ เพราะมีผู้ไปใช้ดี เล่นหากันพันกว่าบาทแล้ว ใบลานการกเพชรเด่นโชคลาภ นั้นดังมานานแล้ว กล่องนี้ หน้ากล่องบอกชื่อเลยว่า สำนักสง จิตลดา พระนามนี้ คงไม่ต้องบรรยายมากว่า ตั้งซี้ซั้วไม่ได้แน่นอน เพราะว่า หลวงปู่เหรียญนั้น เปิดตั้งขึ้น เพื่อเผยแพร่ ศาสนา ท่านออก ของมารุ่นนี้ เพื่อเฉลิมฉลองครองราช สร้างน้อยครับ ขายองค์ละ 500 ได้สบายๆ มีคนซื้อแน่นอนครับ แต่ ไม่ขาย ขายทั้งกล่อง 900 ครับอย่าช้า หายากจริงๆ ใครเป็นสายตรงลูกศิษย์ หรือนับถือการเทศของท่านอย่าพลาด ครับ หมดแล้ว 3 ชุด

 

ขอจองครับ

 

เช้าๆ ฝนตกแบบนี้ หาของสวยดี ถูกคุ้มมาฝากครับ!

 

โอนแล้วนะค่ะ สำหรับพระ- หลวงปู่ดู่ พิมพ์หลวงพ่อโต 1,200
- หลวงปู่ภู ทั้ง 2 พิมพ์ 2 องค์ 1,000
ยอดโอน 2,280 ATM scb bank hua hin date 23/10 time 10.50

ขอบคุณมากค่ะ

 

ไม่ทราบว่ามีรุ่นนี้แบบนี้อีกหรือเปล่าค่ะ ถ้ามีช่วยเก็บไว้ให้ด้วยนะค่ะ สอง ชุดค่ะ(ปีทันนะค่ะ)

 

รับทราบครับ

 

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2455 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ ฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี ครอบครัวมีอาชีพทำนา ทำสวนและเลี้ยงสัตว์ มีพี่น้องด้วยกัน 7 คนแต่ได้เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็กทุกคน เมื่อหลวงปู่ท่านมีอายุได้ 10 ปี มารดาของท่านได้ถึงแก่กรรมลง คุณพ่อก็มีภรรยาใหม่ คุณยายจึงทำหน้าที่รับเลี้ยงดูอุปถัมภ์ท่านแทน และเมื่อเรียนหนังสือจบ ท่านได้กลับไปช่วยพี่น้องที่เป็นลูกของมารดาใหม่ อย่างขยันขันแข็ง ต่อมาเมื่อท่านมีอายุครบ 20 ปี ท่านมีปรารถนาที่จะบวช เพราะท่านได้คิดว่า สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่บนโลก ล้วนไม่จีรังยั่งยืน ล้วนแต่จะต้องดับสูญทั้งหมดทั้งสิ้น ร่างกายนี้เมื่อจิตละไปแล้ว ก็ต้องแตกสลายออกจากกัน ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เมือพิจารณาดังนี้แล้ว ท่านจึงไปขออนุญาตบิดาและมารดาเพื่อขอลาบวช เมื่อบิดาท่านได้อนุญาตแล้ว [1]
อุปสมบทและธุดงควัตร[แก้]

ท่านก็อุปสมบทเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2475 ณ อุโบสถวัดบ้านหงษ์ทอง มีท่านพระครูวาปีดิฐวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอาจารย์พรหม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านก็ได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดโพธิ์ชัย บ้านหม้อ โดยท่านอาจารย์วัดโพธิ์ สอนให้ท่านภาวนาอนุสติ 10 ท่านก็ได้ท่องเอา แล้วบริกรรมไปเรื่อยๆ ตั้งแต่พุทธานุสติ ธรรมานุสติ ไปจนถึงอุปสมานุสติแล้วจึงตั้งใหม่ ในต่อมา บิดามารดาท่านได้นพหนังสือของ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม มาถวายให้ท่าน ท่านอ่านแล้วรู้สึก สนใจในเรื่องกายานุปัสสนา ซึ่งในหนังสือได้แนะนำให้พิจารณากายแยกย่อยไปเป็นส่วนต่างๆ ให้สติได้รู้ว่า ร่างกายนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นของตนสักอย่างเดียว เมื่อท่านพิจารณาได้ดังนี้จึงมีดำริจะออกไปอยู่ในป่า ในตลอดสายธรรมยุติ ท่านได้เรียนศึกษาวิชาความรู้เพิ่มเติมกับพระคณาจารย์ตาง ๆ โดยในพรรษาที่ท่านบวชโดยจะยกตัวอย่างพรรษาที่ท่านได้ธุดงควัตร [2]
พรรษาแรกหลวงปู่ได้พบกับท่านอาจารย์บุญมา ฐิตเปโต ท่านอาจารย์บุญมาได้พาท่านไปบวชเป็นธรรมยุติที่วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี ในพรรษาแรก ท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสาระวารี จ.อุดรธานี หลังจากออกพรรษา ท่านก็วิเวกไปอยู่ที่จังหวัดเลย
พรรษาที่ 2 ท่านจึงได้กลับลงมาจำพรรษาที่วัดอรัญวาสี จ.หนองคาย ท่านได้คิดตัดสินใจว่า ในพรรษานี้ จะไม่นอนกลางวัน จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนมากขึ้น
พรรษาที่ 6 ท่านได้พบกับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และพระอาจารย์เนียม ท่านได้เดินธุดงค์ไปกับพระอาจารย์ทั้ง 2 รูป และพระสงฆ์อีก 6 รูป หลังจากท่านได้พบกับพระอาจารย์มั่น ท่านก็มีความเลื่อมใสมาก ท่านจึงตัดสินใจอยู่ภาคเหนือต่อก่อน
พรรษาที่ 7 - 12 ท่านได้มาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ โดยในขณะนั้น หลวงปู่ชอบ หลวงปู่ขาว ได้วิเวก แต่หลวงปู่ขาวท่านไม่สบาย แต่หลวงปู่ชอบก็ชวนท่านขึ้นไป ในภายหลังจากที่ท่านได้เดินทางกลับประเทศไทย ท่านก็ได้มาจำพรรษาอยู่ที่ สำนักสงฆ์ ตามเขาและถ้ำ อีกครั้งหนึ่ง ท่านจึงได้ตั้งสติทำสมาธิโดยต่อมาหลวงปู่ชอบ เห็นนิมิตของเสือ หลวงปู่เหรียญก็เห็นรอยเท้าเสือ จึงได้แผ่เมตตาให้เสือขณะออกบิณฑบาตอยู่ หลังจากนั้น เสือก็ไม่มีมารบกวนอีกเลย]][1]
พรรษาที่ 16 และท่านก็ได้เดินธุดงควัตรไปยังประเทศลาว ท่านก็เห็นนิมิตในอนาคตของประเทศว่า ประเทศลาวในอนาคตข้างหน้า จะหาความสงบได้ยาก[2] ท่านจึงเดินทางกลับประเทศไทย และหลังจากเดินทางกลับประเทศไทย ท่านก็ไปจำพรรษาอยู่ที่ วัดสำนักสงฆ์ ต.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 2 พรรษา จากนั้นพอออกพรรษา ท่านก็เดินเที่ยวไปที่จังหวัดพังงา รั้นเมื่อใกล้จะเข้าพรรษาก็ได้มีผู้นิมนต์ให้จำพรรษาที่เมืองพังงา ขณะที่ท่านได้ไปบำเพ็ญอยู่ที่ถ้ำหลักเมือง หน้าถ้ำมีศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตั้งอยู่ มีการขอบัตร ขอเบอร์ ทรงเจ้า ฆ่าสัตว์สังเวยทุกปี ท่านได้อยู่บำเพ็ญสมณกิจที่สำนักสงฆ์นั้นมาจนขออนุญาตสร้างวัดได้สำเร็จ ตั้งชื่อว่า วัดประชาสันติ อยู่วัดนี้ได้ 6 ปี จึงย้ายมาอยู่วัดสันติวราราม อีก 2 ปี จึงย้ายกลับไปอยู่วัดอรัญญบรรพต ตั้งแต่ปี 2502 - 2548 จนกระทั่งมรณภาพเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน รวมสิริอายุได้ 93 ปี 73 พรรษา
อ้างอิง


พระสร้างปี 39 ทันยิ่งกว่าทันครับ ท่านสร้างแจก ข้าราชบริพาน คนในวังครับ ไม่ใช่ว่าใครจะมีกันง่ายๆ ครับ จัดให้ได้ หนึ่งชุดครับ คุณลุกนายพล อยากได้อะไรที่มาจากสวนจิตลดาครับเลย ขอไปชุดหนึ่งครับ พศ ทันยิ่งกว่าทันครับ ปิดตากนก ข้างนั้นได้รับความนิยมมากๆ ราคา ต่อองค์ ก็ พันกว่าบาทแล้วครับ และ เป็นของหายาก เพราะว่า เป็นสำนักสงฆ์ในสวนจิตรฯ ที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนครับ ท่านเป็นพระดี ที่ แม้แต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินยังให้ความนับถือครับ ชุดนี้ ขายให้เพราะเห็นว่า ได้มาจากคนไม่รู้ขายถูกๆ ให้ครับ เฉลี่ยต่ององค์ แค่องค์ละ 100 เองครับ ถูกมากๆครับ และ พลังกรรมฐานด้านในองค์พระ นั้น เลยระดับอภิญญาแล้ว ครับท่านสำเร็จแบบเงียบๆๆ ไม่มีใครรู้ความเคลื่อนไหว พระ สามแผ่นดินครับ

 

ยีห้อ ครูบาผัด อาจารย์ ครูบาน้อยการันตีมาช้านานแล้ว แต่คนทำมองข้ามๆ กันไป แต่หลังจาก เผาไม่ไหม้ ต่อหน้าธารกำนัลแล้ว พลิกกลับมาเล่น และหากันจ้าหล่ะหวั่น ศิษย์สายกรุงเทพ บ้างก็สู้ราคากันแบบ มีที่ท่าว่าจะมาแรง แซงทุกสำนัก ในภาคเหนือตอนนี้ ก็เพราะว่า จีวร วันงานยังเผาไม่ไหม้เลย เป็นที่ประจักษ์ ใน กิติยาคม และพระเวทย์ ว่า ขลัง ของๆ ท่านนับวัน ไม่มี ในวงการ คนต่างค่อยๆ ย่องๆตามเก็บกลัวราคาแพง ตอนนี้ ไม่มีให้เห็นตามสนามพระแล้วสักองค์ อันนี้ เป็นผงลบ ปถมังของท่าน ๆต้องเขียน คาถาต่างๆ แล้วลบๆๆ กว่าจะได้กะป๋องนมแล้วมา ทำพระ ๆของท่านจึงทรงภารานุภาพ แบบว่า คนห้อยแล้ว มั่นใจ 1800 ครับ ผงรุ่นแรก หายากหาไม่มี และไม่มีของหน้าวัดขายกัน 5500 ตรวจสอบได้ครับ แบ่งให้ คนที่มองการไกล แบบเล่นพระเป็นครับ .............

 

ครุบาน้อย รุ่นเจริญทรัพย์ เป็นการออกนิโรท ล่าสุดของท่านครับ พระลองเข้านิโรทได้ ขนาดนี้ ไม่ต้องบรรยาย มีคนบอกว่า วันนึงจะเหมือนหลวงพ่อเกษม ครับไม่เก็บตอนนี้ จะเก็บตอนไหน ยิ่งท่านมีดวงจิต อุปคุต ที่ใช้แล้วเห็นผลโชคลาภ ของท่านแรงจริงๆ 900 ครับองค์นี้ หายากแล้ว

 

ครูบาน้อยรุ่นแรก นวะ โค๊ตขวา 2500 หายากแล้วไม่มีหลุดแบบ ขนมเด็กแล้ว ทุกคนต่างเก็บและ ขึ้นคอกัน เพราะ เก็งๆ กันว่า อนาคต ทะลุหมื่นในเร็ววันนี้ครับ สวยงดงาม ตามแบบ ล้านนา

 

จะหา ของเสน่แรงๆ องค์นี้ ขุนแผน ครูบาน้อย ทำการวัสดุอาถรรย์ด้านเมตามหานิยม เรียกว่า หมาแมว ไม่มีกัดกัน มีคนทดสอบขูดผงไปให้แมวกินแล้ว ผลคือ หมาไม่เห่า ไม่กัด ไม่กวด เลยไม่มีให้เห็นยิ่งเป็นรุ่นแรก แบบนี้ ไม่เก็บ แพงแล้วจะตามยากครับ 700 เมตตา โคตรๆ

 

องค์ปฐม วัดท่าซุง ลงกากเพชรรุ่นแรก หายาก ไม่มีให้เห็นทั่วๆไป นานเจอที แต่ให้ดูที่กากเพชรและสีที่ลงว่า ต้องเก่าด้วยนะครับ 1200 นานเจอสักองค์ครับ เลี่ยมกรอบเดิม ๆจากวัดในสมัยนี้ ของได้มาจากโยมอุปถากหลวงพ่อในสมัยนั้น มั่นใจได้ว่า แท้ทันถึงครับ

 

นักเลงสมัยก่อน ถึงมีกลอนโคลงฉันว่า สมเด็จองค์ พระขรรค์เล่ม ตะกุดดอก ไปไหนไม่มีตาย และพระขรรค์ที่ขึ้นชื่อลือชาที่สุด คือ หลวงพ่อโศกวัดปากคลองบางครก เพชรบุรี นักเลงเพชร เลยมี กันทุกคน แต่ ที่ จะโชว์ต่อไปนี้ มันเก่ากว่านั้นอีก ไม่อยากตี เป็นหลวงพ่อโศก จะ แพงเรือนหมื่น แต่ เนื้องานั้น ไม่หนีหลวงพ่อเดิมแน่นอน ครับ ขายเป็นพระขรรย์เก่าแล้วกัน(ส่วนตัวนะ ดูแล้วไม่หนีหลวงพ่อเดิมครับ ) ครับมีห้าเล่ม หายากสุด ๆ พระขรรค์ เป็นศาตราของจอมเทพย่อมมีอานุภาพร้ายแรง ที่ที่ยำเกรงของคน ผี เทวัญ และ สิ่งไม่ดี มีแล้วไม่ต้องกลัวคุณไสย์เสนียดจัญไรครับ และมีอำนาจ ของแบบนี้ ไม่มี ขายกันง่าย จะขายแพงก็ กะไร ครับ 1500ต่อเล่มครับ หาอีกสามชาติก็ไม่เจอ งาเก่าขนาดนีแล้วแกะ เป็นพระขรรค์อันทรงพลังแบบนี้ ครับ

 

สีแท้ๆ จะอมฟ้าๆ ไม่ขาวจั๊วรับรองว่า หายากและไม่มีเดินชนกับใครครับ เจ้าของรับมากับมือ ฟันธง! ลูกแก้วจักรพรรดิ์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นลูกแก้วหลังจากที่ลูกแก้ว กลีบมะเฟือง หมดไปแล้ว (ลูกแก้ว ดีดลุกหินสมัยก่อน) ไม่มี การทำออกมาแต่พอหลวงพ่อท่านไปเมืองนอก แล้ว จากคำบอกเล่าของคุณยายท่านนี้ บอกว่า เป็นลูกแก้วจากเมืองนอก สวยมาก ผมพยายามถ่ายให้เห็นสีที่แท้จริงแล้วสวยมากๆ แตกต่างจาก ลูกแก้วมณีนพรัตน์ ตรงที่ว่า ไม่มี กะเช้า กับห่วง เป็นลูกเพียวๆ เป็นลูกแก้วที่องค์ปฐมใช้อยู่ และ หลวงปู่ทวดใช้อยู่ หายากมากครับตัวจริง แบ่งให้สองลูกครับ 2200 ไม่มีอีกแล้ว ส่วน มณีนพรัตน์ รุ่นแรก 1800 ครับหายาก ให้ดูที่กะไหล่ทองของ กะเข้าจะเก่าตาม ครับไม่ใช่ของทำออกมาใหม่ แน่นอน หายาก สรรพคุณหาอ่านเอาเอง ครับรับรองว่าอ่านจบแล้ว ต้องจอง ................งแน่นอน

 

ครูบาผัด รุ่นแรก หายห่วง 1800

 

ลูกแก้วผงจักพรรดิ หลวงปู่ดู่ หายากลงรักเก่ามาดูง่าย ๆ 1800