เชิญร่วมบูชาพระขรรค์มหาวชิระพรหม มวลสารดาบฟ้าฟื้นเหล็กสัตตะวชิระโลหะเพื่อ ๖ งานบุญ

ร่วมบูชาพระขรรค์มหาวชิระพรหม เพื่อ ๖ งานบุญ

๑. พระขรรค์มหาวชิระพรหม ขนาด ๕ เซนติเมตร
-ด้ามเนื้อสัมฤทธิเดช สร้างจำนวน ๕,๕๕๕ เล่ม ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ **๑,๕๕๕ บาท
-ด้ามเนื้อเงิน สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๒,๕๕๕ บาท
-ด้ามเนื้อนวโลหะ สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๓,๕๕๕ บาท
-ด้ามเนื้อนาก สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๑๕,๕๕๕ บาท
-ด้ามเนื้อทองคำ สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๒๕,๕๕๕ บาท
๒. ดาบมหาวชิระพรหม เล่มยาว สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๒๕,๐๐๐ บาท
๓. พระขรรค์มหาวชิระพรหม เล่มยาว สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๓๐,๐๐๐ บาท
๔. พระขรรค์มหาวชิระพรหม ขนาดใบ ๔ นิ้ว สร้างจำนวน ๓๓๓ เล่ม ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๕,๙๙๙ บาท
๕. มหาวชิรพรหมาวุธ แบบมีแฉกทั้ง ๒ ด้าน สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๒๕,๐๐๐ บาท
๖. มหาวชิรพรหมาวุธ แบบมีแฉกเพียงด้านเดียว สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๒๐,๐๐๐ บาท
๗. ลูกอมปัจเจกพุทธวชิรปารมี เนื้อมวลสารล้วน ร่วมบูชาลูกละ ๑๐๐ บาท
๘. ลูกอมปัจเจกพุทธวชิรปารมี เนื้อมวลสารล้วน ฝังตระกรุดเงิน ร่วมบูชาลูกละ ๓๐๐ บาท
๙. ลูกอมปัจเจกพุทธวชิรปารมี เนื้อมวลสารล้วน ฝังตระกรุดทองคำ ร่วมบูชาลูกละ ๕๐๐ บาท
๑๐. พระควัมปติ ( พระปิดตา) เนื้อมวลสารล้วน ร่วมบูชาองค์ละ ๒๐๐ บาท
๑๑. พระควัมปติ (พระปิดตา) เนื้อมวลสารล้วน ฝังตระกรุดเงิน ร่วมบูชาองค์ละ ๔๐๐ บาท
๑๒. พระควัมปติ (พระปิดตา) เนื้อมวลสารล้วน ฝังตระกรุดทองคำ ร่วมบูชาองค์ละ ๖๐๐ บาท

รายชื่อผู้จองเป็นเจ้าภาพพระขรรค์มหาวชิระพรหม

หมายเลขพระขรรค์มหาวชิระพรหม สัมฤทธิเดช ๕ เซนติเมตร​

หมายเลขพระขรรค์มหาวชิระพรหม ขนาด ๔ นิ้ว​

ติดตามได้ที่ www.facebook.com/vachiraphrom​

การจัดสร้าง พระขรรค์มหาวชิระพรหม ในครั้งนี้ พระอาจารย์ยุคลธรณ์ ดำริสร้างขึ้นเพื่อจัดหาปัจจัยสบทบโครงการก่อสร้างเสนาสนะ ภายในสำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ และงานบุญเนื่องด้วยสมเด็จองค์ปฐม ดังนี้

๑. ปลดหนี้ค่าที่ดินวัด
๒. มหาอุโบสถขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ ๒ ไร่
๓. สร้างสมเด็จองค์ปฐมเนื้อสัมฤทธิ์หน้าตัก ๖ เมตร ประดิษฐานเป็นพระประธานในมหาอุโบสถ
๔. โรงทาน, หอฉันทาวิสุทธิ์ เพื่อรองรับผู้มาปฏิบัติธรรม
๕. โครงการสร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๔ ศอก จำนวน ๑๐๘ องค์
๖. สร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๘ ศอก ณ วัดวังโพธิการาม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

และถือเป็นโอกาสอันดี สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสยังไม่ได้บูชาดาบวชิระพรหมในรุ่นก่อน จะได้ร่วมเป็นเจ้าภาพพระขรรค์มหาวชิระพรหม ในครั้งนี้ สำหรับสำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ (วัดป่าเขาดิน) เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาใหม่ใช้ระยะเวลาประมาณ ๓ ปี จากพื้นที่รกร้างว่างเปล่า สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับประพฤติปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เป็นเหตุให้ทางวัดต้องขยายพื้นที่ให้เพียงพอกับจำนวนผู้ที่จะเข้ามาประพฤติปฏิบัติธรรมในอนาคต พระอาจารย์ท่านจึงดำริซื้อที่ดินบริเวณรอบวัด และยังขาดปัจจัยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการสร้างพระขรรค์ "มหาวชิระพรหม" ในครั้งนี้ปัจจัยที่ได้จะนำไปใช้เพื่อปลดหนี้ค่าที่ดินวัด สมทบทุนสร้างสมเด็จองค์ปฐมทองสัมฤทธิ์ หน้าตัก ๖ เมตร สมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๘ ศอก พร้อมด้วยเสนาสนะต่างๆ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ

พระขรรค์มหาวชิระพรหม ใบทำจากเหล็กสัตตะวชิระโลหะซึ่งนำมวลสารของ ดาบวชิระพรหม มาหลอมรวมกับสุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่หาได้ยากอีกหลายชิ้น ท่านสามารถร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพบูชาพระขรรค์มหาวชิระพรหมได้ที่

บัญชีพระครูวินัยธรยุคลธรณ์ ธัมมปุตโต
ธนาคารกสิกรไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 697-2-07515-7

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ วรชัย 081-190-1125

ร่วมเป็นเจ้าภาพได้ตั้งแต่วันนี้ โดยแจ้งชื่อไว้ในกระทู้ หรือส่ง E-mail มาได้ที่ worachaiku58@gmail.com

ร่วมจองเป็นเจ้าภาพได้แล้วตั้งแต่วันนี้

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@​

พระขรรค์ "มหาวชิระพรหม"

เป็นชื่อเรียกขานพระขรรค์รุ่นใหม่ของพระอาจารย์ยุคลธรณ์ ผู้สร้าง"ดาบวชิระพรหม"ดาบที่กลายเป็นตำนานมีผู้เล่าขานถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิกันปากต่อปาก ซึ่งเกิดจากการรวบรวมมวลสารเหล็กสัตตะโลหะ เข้ากับมวลสารวชิระโลหะ อาทิ

เหล็กยอดพระธาตุดอยตุง
เพราะเป็นเวลานานกว่าร้อยปีที่จะมีการบรูณะซ่อมแซมพระธาตุดอยตุง เหล็กชิ้นนี้เป็นเหล็กส่วนยอดขององค์พระธาตุจึงเป็นมวลสารที่หาได้ยาก

เหล็กยอดพระธาตุจอมกิตติ
เนื่องจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศพม่าเมื่อต้นปี ๒๕๕๖ เป็นเหตุให้พระธาตุจอมกิตติทรุดตัวและบิดงอ จึงได้มีการบูรณะซ่อมแซมองค์พระธาตุขึ้น เหล็กชิ้นนี้จึงเป็นมวลสารที่หายากและทรงคุณค่า

เหล็กยอดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม
เนื่องด้วยตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ ถึงปี ๒๕๕๕ มีการบูรณะซ่อมแซมองค์พระปฐมเจดีย์ครั้งใหญ่ ในรอบ ๑๖๐ ปี จึงจะได้เหล็กชิ้นนี้ จึงนับว่าเป็นเหล็กที่หาได้ยากเช่นกัน

เหล็กพระธาตุพนม จ.นครพนม
เป็นเหล็กจากองค์พระธาตุ เมื่อครั้งพระธาตุล้มลงมาจากเหตุพายุ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘

เหล็กยอดเจดีย์สร้อยทอง วัดสร้อยทองพระอารามหลวง จ.นนทบุรี

เหล็กยอดปราสาท, ยอดเจดีย์โลหะสัมฤทธิ์โบราณ

เหล็กจากขวานฟ้าผ่า
เหล็กชนิดนี้นับว่าหายากมาก เพราะเป็นเหล็กที่เกิดขึ้นจากการที่มีฟ้าผ่าลงมาที่ผืนดิน ตามคำบอกเล่าจากท่านผู้รู้หลายๆ ท่านได้เคยกล่าวไว้ว่าทุกครั้งที่มีฟ้าผ่าลงมาที่พื้นดินจะมีขวานฟ้าผ่าฝังอยู่ ณ จุดนั้น แต่มีข้อแม้อยู่ว่าเมื่อเกิดฟ้าผ่าลงที่พื้นดินแล้วต้องรีบไปขุดหาขวานทันทีมิเช่นนั้นแล้วจะมีเทวดามาเก็บขวานไป
และเจ้าของเหล็กชิ้นนี้ก็เชื่อตามคำบอกเล่านั้น เมื่อมีโอกาสเจอฟ้าผ่าลงมาที่พื้นดินตนจึงรีบไปยังที่ตรงนั้นแล้วก็พบกับขวานฟ้าผ่าเข้าจริงๆ และได้เก็บรักษามาจนถึงทุกวันนี้ การที่พระอาจารย์ท่านได้เหล็กชิ้นนี้มาก็นับว่าเป็นความบังเอิญอย่างมากเพราะท่านได้มาตอนที่ท่านเล่าให้ลูกศิษย์หลายๆ คนฟังเกี่ยวกับที่ท่านอยากจะรวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะนำไปทำเหรียญและมีดหมอในอนาคต ในช่วงระยะเวลาที่ท่านกำลังรวบรวมมวลสารอยู่นั้น มีทหารคนหนึ่งที่มาช่วยงานที่วัดได้บอกกับพระอาจารย์ว่าลุงของตนมีขวานฟ้าผ่าเก็บไว้นานมากแล้วเขาจะนำมาให้ จึงเป็นที่มาของเหล็กขวานฟ้าผ่าที่นำมาหลอมในครั้งนี้

มีดหมอ และดาบ ครูบาอาจารย์ต่างๆ

-ดาบฟ้าฟื้นหลวงพ่อฤาษีลิงดำ รุ่น ภ.ป.ร. ส.ก. จำนวน ๖ เล่ม
-ดาบฟ้าฟื้นที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านตีขึ้นมาเองกับมือ ตีในถ้ำเขต จ.กาญจนบุรี เป็นที่เดียวกับที่ขุนแผนตีดาบฟ้าฟื้นกล่าวกันว่าสร้างขึ้นมาเพียง ๔ เล่มเท่านั้น ขนาด ๒ นิ้วครึ่ง ไม่มีการตอกลายอะไรทั้งสิ้น พระอาจารย์ท่านนำมาหลอมทั้งเล่ม
-มีดหมอด้ามฤาษี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
-พระขรรค์โสฬตเก่า หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
-มีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ จำนวนกว่า ๔๕ เล่ม
-มีดหมอหลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี
-มีดหมอหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองศรีนวล จำนวน ๑ เล่ม ดาบ ๑ เล่ม
-มีดหมอหลวงปู่หมุน ขนาด ๕ นิ้ว จำนวน ๒ เล่ม ขนาด ๒ นิ้วครึ่ง จำนวน ๒ เล่ม รวม ๔ เล่ม
-ดาบฟ้าฟื้นหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ทำมาจากเหล็กน้ำพี้ พิธีเสาร์ ๕ เมื่อท่านมีอายุ ๑๐๖ ปี
-มีดหมอหลวงพ่อทบ วัดชนแดน
-มีดหมอครูบานันตา
-ขวานหลวงปู่เจี๊ยะ มอบให้หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อประสิทธิ์ท่านได้อธิษฐานจิตให้อีกครั้ง
-มีดหมอเทพศาสตราอาจารย์ชุมไชยคีรี จำนวน ๓ เล่ม
-มีดหมออาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง เจ้าของวิชาโลหิตประสาท
-มีดดาบฟ้าฟื้น (ดาบขุนแผน) พระครูโสภณวีรนุวัตร วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี
-ดาบฟ้าฟื้น แม่นิภา คงสุข
-มีดโลหะ ๑๐๐ ปี สร้างจากตะปูวิหารศักดิ์สิทธิ์ วัดโตนดเตี้ย อ.อุทัย จ.อยุธยา
-วัชระโลหะจากประเทศธิเบต อาวุธแห่งองค์เทพ
-วัชระเงินแท้ทำจากประเทศญี่ปุ่น
-ดาบสะหรี่ศรีกันชัย
-มีดหมอทิเบต
ฯลฯ

ตะกรุดครูบาอาจารย์ต่างๆ และแผ่นยันต์ที่นำมาหลอมลงไปในเหล็กสัตตะวชิระโลหะ

-ตะกรุดเม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
-ตะกรุดยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
-ตะกรุดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา
-ตะกรุดจักรพรรดิหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา
-ตะกรุดหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
-ตะกรุดหลวงตาพวง สุขินทริโย จารมือ
-ตะกรุดครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน
-ตะกรุดครูบาชุ่ม วัดวังมุ่ย จ.ลำพูน
-ตะกรุดยันต์เกราะเพชร และยันต์ นะ มหากลับ พระอาจารย์ยุคลธรณ์
-ตะกรุดสมเด็จพระพุฒาจารย์เกี่ยว วัดสระเกศ
-ตระกรุดเงินหลวงปู่โต๊ะ
-แผ่นยันต์หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ. นครราชสีมา
-แผ่นเงินไส้ตะเกียงรัตนมหาประทีป วิชาของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
-ตะกรุดสำริดโบราณ สมัยอยุธยา
-ตะกรุดหนีบสังวานร ตะกรุดนี้มีแต่เฉพาะแม่ทัพ
-ตะกรุดเดินป่า
-แผ่นเงิน ทอง นาก จารยันต์ต่างๆ
ฯลฯ


มวลสารศักดิ์สิทธิ์

กระพรวนช้างศึกทัพหน้าของช้างพระที่นั่งทรงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
พระอาจารย์ท่านได้มาโดยมีโยมนำมาถวาย โยมท่านนี้พบกระพรวนนี้ที่บริเวณ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ที่พบก็เพราะฝันว่ามีคนมาบอกให้ไปงมของที่อยู่ในน้ำ ตนก็ไปตามที่ฝัน พองมแล้วก็เจอกระพรวนช้าง จึงได้นำมามอบให้กับพระอาจารย์

เหล็กไหล
เหล็กไหลชิ้นนี้พระอาจารย์ท่านได้มาเมื่อครั้งเป็นสามเณรติดตามอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ท่านหนึ่งเข้าไปในถ้ำเพื่อตัดเหล็กไหล

แท่งเงินจากเหล็กจารของพระอาจารย์ยุคลธรณ์
เหล็กจารเล่มนี้พระอาจารย์ท่านเคยเล่าไว้ว่าท่านได้มาเมื่อครั้งเป็นสามเณรแล้วออกธุดงค์เข้าไปในป่า จนได้พบกับพระธุดงค์รูปหนึ่ง ชื่อว่าพระภิกษุหยอด ท่านเป็นพระผู้ทรงอิทธิบาทธรรมดำรงขันธ์มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

-กลั่นมีดดาบวชิระพรหม
-มวลสารเหล็กสัตตะวชิระโลหะที่หลอมสร้างดาบวชิระพรหม
-กระดิ่งลมวัดพระธาตุดอยตุง
-เหล็กยึดช่อฟ้าใบระกาอุโบสถวัดพระธาตุดอยตุง
-ตะกั่ววัดพระแท่นดงรังวรวิหาร จ.กาญจนบุรี
-ปรอทกรอ
-เหล็กจาร ด้ามเทพเพชรพญาธร
-ครกบดยาหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
-บล็อกยันต์เกราะเพชร เข้าพิธีเสาร์๕ วัดท่าซุง ปี ๒๕๕๓
-ยอดเจดีย์สำริด ประเทศพม่า
-ยอดซุ้มพระอัฏฐารส
-มีดตัดหวายลูกนิมิต วัดห้วยพัฒนา อ.เขาสมิง จ.ตราด
-มีดตัดหวายลูกนิมิต วัดซ้องสาธุการ จ.กาญจนบุรี
ฯลฯ

ห่วงจากเหรียญครูบาอาจารย์ต่างๆ

๑. เหรียญท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ปี ๒๕๑๖ วัดท่าซุง
๒. เหรียญเอกราช (๑๐๐ ปีหลวงพ่อปาน) ปี ๒๕๑๘ วัดท่าซุง
๓. เหรียญเงินรุ่นสุขใจ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
๔. เหรียญกรมหลวงชุมพร หลวงปู่แก่น วัดเขื่อนท่าทุ่งนาประชาสรรค์
๕. เหรียญหลวงปู่ดี วัดเหนือ(วัดเทวสังฆาราม) ปี ๒๕๑๖
๖. เหรียญหลวงปู่เหรียญ วัดอรัญบรรพต จ. หนองคาย
๗. เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ. นครราชสีมา
๘. เหรียญหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ. ชลบุรี
๙. เหรียญหลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ. ชัยนาท
๑๐. เหรียญปู่หลักคำ วัดกลางเมืองเก่า จ. ชัยภูมิ
๑๑. เหรียญสมเด็จพระสังฆราช (อาสน)
๑๒. เหรียญหลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า จ. กาญจนบรี
๑๓. เหรียญหลวงพ่อโสธร วัดโสธร จ. ฉะเชิงเทรา
๑๔. เหรียญหลวงพ่อจันทร์ จน.โท วัดอาวุธอิกสิตาราม จ. กรุงเทพฯ
๑๕. เหรียญพระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ. ลำพูน
๑๖. เหรียญธรรมจักรพระอาจารย์ยุคลธรณ์ ธัมมปุตโต สำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ จ. กาญจนบุรี
๑๗. เหรียญหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จ. เชียงใหม่
๑๘. เหรียญครูบาศรีวิชัย วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ. เชียงใหม่
๑๙. เหรียญหลวงพ่อช้อย วัดนนทรี จ. อยุธยา
๒๐. เหรียญหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ. ระยอง
๒๑. เหรียญหลวงพ่อนิสิต วัดซับน้อยธรรมรังสี
๒๒. เหรียญหลวงพ่อถนอม วัดโรงธรรม
๒๓. เหรียญหลวงพ่ออ่อน วัดน้อย (วัดมัชฌันติการาม)
๒๔. เหรียญหลวงพ่อหล่อ วัดคลองยาง จ. นครราชสีมา
๒๕. เหรียญครูบาคันธวงค์ วัดทุ่งแคว จ. แพร่
๒๖. เหรียญหลวงพ่อศรีโคตรบูร วัดกกต้อง จ. นครพนม


อาวุธโบราณ

-พระขรรค์เก่าขุดพบที่พระปรางค์ ๓ ยอด จ. ลพบุรี
-มีดหมอโบราณทางภาคเหนือ
-มีดเหน็บโบราณทางภาคเหนือ
-หอกใบข้าวโบราณ
-ใบหอกสัมฤทธิ์โบราณ
-หอกปลายปืนสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒
-ดาบฮาราคีรี สำหรับคว้านท้องฆ่าตัวตาย ของทหารญี่ปุ่น สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒
-พระขรรค์สัมฤทธิ์โบราณ
-ขวานสัมฤทธิ์โบราณ
-เหล็กปลายหอก
-เหล็กปลายดาบ
-กระบี่ด้ามหัวช้างสมัยรัชกาลที่ ๕
-ขวานปลายมีดโบราณ
-กระบี่โปรตุเกส งมได้จากแม่น้ำเจ้าพระยา
-กริดโบราณ
ฯลฯ

เหล็กโบราณ

-เงินพดด้วง สมัยพระเจ้าทรงธรรม กรุงศรีอยุธยา
-ตะปูสังขวานร
-เหล็กตะปูหัวเห็ด
-ลูกปืนเหล็กสมัยโบราณ
-กำไรสัมฤทธิ์โบราณ
-แหวนสัมฤทธิ์โบราณ
-เหรียญเงินสมัยอาณาจักรฟูนัน
-ตะบันหมากสัมฤทธิ์โบราณ
-เงินโบราณ (สตางค์รู)
-เหล็กตรึงโบสถ์
ฯลฯ

เหล็กอาถรรพ์

-เหล็กขนันผีตายพรายตายท้องกลม
-เหล็กสารพัดบิ่น ๑๐๘ เช่น มีด จอบ เสียม ที่ผ่านการใช้แล้วเกิดการบิ่น หัก แตก
ฯลฯ

พระขรรค์มหาวชิระพรหมเพียงเล่มเดียว ทรงไว้ซึ่งอานุภาพแห่งมหาพุทธบารมี
และมหาบารมีของพระโพธิสัตว์จึงทำให้พระขรรค์มหาวชิระพรหมมีอานุภาพมากมายมหาศาล
​

______________________________________________________________________________________________________________

**พระขรรค์สัมฤทธิเดช ขนาด ๕ เซนติเมตร
หมายเลขพิเศษ เลขคู่ 2 หลัก : 11, 22, 33, 44, 55, 66, 77, 88, 99
หมายเลขพิเศษ เลขตอง : 111, 222, 333, 444, 555, 666, 777, 888, 999
เปิดจองเล่มละ 2,555 บาท
หมายเลขพิเศษ : 1111, 2222, 3333, 4444, 5555
เปิดจองเล่มละ 3,555 บาท

ตัวเลขจะอยู่ที่ใบรับรองที่มอบให้พร้อมพระขรรค์มหาวชิระพรหม ไม่ได้ตอกหรือเลเซอร์ที่พระขรรค์ฯ นะครับ

 

สัตตะวิชา รวมที่สุดแห่ง ๗ วิชา สร้างพระขรรค์มหาวชิระพรหม

๑ วิชาสัตตะโลหะ ตำราพระร่วงเจ้า แห่งกรุงสุโขทัย ว่าด้วยเรื่องโฉลกสัดส่วนของศาสตรา และการหลอมรวมโลหะอาถรรพ์ ซึ่งเป็นวิชาที่ขุนแผนใช้ตีดาบฟ้าฟื้น

๒ วิชาวชิระธาตุ วชิระโลหะ ตำรับวิชาของธิเบต เพื่อสร้างอาวุธเทพเจ้า โดยจะนำยอดของสิ่งที่ถูกฟ้าผ่า ๗ อย่าง มาหลอมรวมกัน

๓ วิชาสายวัดประดู่โรงธรรม สมัยอยุธยา ปรมาจารย์ต้นวิชา คือ สมเด็จพระสังฆราช พนรัตน์ วัดป่าแก้ว พระอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาถวายสมเด็จพระนเรศวร ส่วนผู้ที่ทำให้สายดาบวิชานี้โด่งดัง คือ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์

๔ วิชาพระขรรค์โสฬส ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นวิชาที่แตกแขนกมาจากตำราวิชาสัตตะโลหะ ของพระร่วงเจ้า โดยการนำบารมี ๓๐ ทัศ ของพระพุทธเจ้า ประจุ อีกทั้ง ใส่วัตถุอาถรรพ์ต่างๆ ผสมเพิ่มเข้าไป

๕ วิชาของหลวงตาดำ พระบรมครูธรรมเทพโลกอุดร โดยมีการประจุเลขยันต์ลงในด้าม ได้แก่ ๑ ยันต์ นะมหากลับ นะมหาสะท้อน ใช้สะท้อนคุณไสย อวิชชา ๒ ยันต์ โล่เกราะเพชร ใช้กันสิ่งชั่วร้ายภยันตรายต่างๆ และจะมีการประจุวัตถุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงในด้ามด้วย

๖ วิชายันต์ตระกรุดกำแพงแก้ว ๗ ชั้น ๑ ดอก ป้องกัน ๒ ดอก เป็นอาวุธ ซึ่งเป็นวิชาที่พระอาจารย์ยุคลธรณ์ ได้รับถ่ายทอดมาจาก อาจารย์แปลก ร้อยกลางบาง ลูกศิษย์ หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง โดยจะนำตระกรุดนี้ประจุลงในด้ามด้วย

๗ วิชายันต์ตระกรุดหัวใจโลกธาตุ หลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหลวงปู่ได้รับถ่ายทอดมาจาก ฤาษีพรหมอัตถะ วิชานี้พระอาจารย์ยุคลธรณ์ได้รับมาในนิมิต โดยหลวงปู่เฒ่ายิ้มมามอบไว้ให้

=====================================================​

>>>ขั้นตอนพิธี<<<

๑.พิธีบรมโพธิศาสตราภิเษก ในวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๗

๒.ทำพิธีเสก ๗ เสาร์ ๗ อังคาร ในระยะนี้จะนำพระขรรค์, ดาบ ให้ครูบาอาจารย์หลายสาย หลายรูป อธิษฐานจิต เพื่อให้ทรงอิทธิคุณ

๓.พิธีบรมโพธิศาสตราภิเษก ครั้งสุดท้าย อีกทั้ง เสาร์ที่ ๗ นั้นตรงกับวัน เสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๖(เสาร์ ๕) ตรงกับ วันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ โดยจะทำพิธีในเวลาเที่ยงตรง ราชสีห์ฤกษ์

 

กรรมวิธีการตี การลงอัขระเลขยันต์

"เมื่อได้ฤกษ์วันดีคือวันเสาร์ข้างขึ้นราวขึ้น ๑๕ ค่ำ นั้นแหละหนา
จึงบูชาครูอาจารย์ เทพยดา ทั่วโลกามาสถิต ณ พิธี
และจึงเริ่มตีดาบขึ้นในทันใด เอาสูบทั่งตั้งไว้ในพิธี
เอาถ่านที่ต้องย่างวางในนี้ เป็นอันเริ่มพิธีสร้างศาสตรา
หาช่างเหล็กมีฝีมือลือทั่วกรุง ผ้าขาวนุ่งผ้าขาวห่มดูคมสัน
วงสายสิญจน์เสกลงเลขยันต์ คนสําคัญคอยดูซึ่งฤกษ์ดี
ครั้นได้พิชัยฤกษ์ราชฤทธิ์ พระอาทิตย์เที่ยงฤกษ์ราชสีห์
สูบเหล็กให้แดงดี นายช่างตีเหล็กร้อนแรงแดงดุจไฟ"

ให้ลงยันต์สำหรับลงเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในพิธีกรรมไม่ว่ายันต์เพดานหน้า เพดานหลัง ยันต์ลงฟืน ลงคีม ลงทั่ง ลงมีด ลงกระโหมดจมูกวัว ยันต์ลงแปดทิศ ยันต์โสฬสลงหน้าหิน หน้าลูกไก่

"เผาชุบสามแดงแทงตะไบ บัดเดี๋ยวใจเกลี้ยงพลันเป็นมันยับ"

​

แล้วลงกั่นดาบข้างแบน ด้วยคาถาบารมีพระพุทธเจ้า คือ
“อายันตุโภนโต อิธะ ทานะ สีละ เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจา อธิษฐานะ เมตตา อุเปกขา ยุทธายะโว คัณหะถะ อาวุธานีติ”

ลงกั่นดาบด้านสัน ด้วยพระคาถาหัวใจพระยาสมาส ดังนี้
“นานามุสะระ หะระ บัพพะตะคะรุ กะลิงคะระ สะระธนู คะทาสิโต มาระหัตถา มาระคะนา”

ลงถมทองแดงที่ใช้สําหรับห่อหุ้มกั่นดาบด้วยพระคาถา ดังต่อไปนี้
พระคาถา นวหรคุณ ๑๐๘ ครั้ง
“อะสังวิสุโลปุสะพุภะ”
พระคาถาพุทธนิมิตร ลงถม ๙ ครั้ง
“พุทธัสสะ อิธิพุทธัสสะ พุทธะนิมิตตัง ปฏิมานะพุทโธ ธาตุพุทโธ นิมิตตะพุทโธ กายะพุทโธ สูญญะพุทโธ เอคะตานัง กายะรูปะสูญยัง พุทธะนิมิตตัง อิทธิฤทธิ์พุทธะนิมิตตัง”
คาถาพระเจ้าห้ามอาวุธ ลงถม ๙ ครั้ง
“อะสิสัตติ ธนูเจวะ สัพเพเตอาวุทธานิจะ ภัคคะภัคคา วิจุณณานิ โลมังมาเมนะผุสสันติ”
คาถาพรหมสี่หน้า ลงถม ๙ ครั้ง
“สหัสสะสีเส ปิเจโปโส สีเสสีเส สะตังมุกขา มุกเข มุกเข สะตังชิวหา ชีวะกัปโป มหิทธิโก นะสักโกติ จะวัณเณตุง”
คาถาบารมี ๓๐ ทัศ ลงถม ๙ ครั้ง
“อิติปารมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม”
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ลงถม ๙ ครั้ง
“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิอิโสตังพุทธะปิติอิ”
คาถายันต์เกราะเพชร หรือ คาถาอรหันต์ ๘ ทิศ ๙ ครั้ง
“อิระชาคะตะระสา ติหังจะโตโรถินัง ปิสัมระโลปุสัตพุท โสมาณะกะริถาโธ ภะสัมสัมวิสะเทภะ คะพุทปันทูทัมวะคะ วาโธโนอะมะมะวา อะวิสุนุสานุติ”
แล้วตามด้วย
“พุทธังกันตัง ธัมมังกันตัง สังฆังกันตัง พุทธังสิทธิ ธัมมังสิทธิ สังฆังสิทธิ” ๙ ครั้ง
แล้วลงถมตามด้วยคาถา
“นะผุด ผัดผิด ปฏิเสวามิ” ๙ ครั้ง
แล้วจึงลงประทับด้วยคาถานี้อีกครั้งหนึ่งว่า
“สัตถาธะนุง อากัตถิตุง ทัตวา วิสัชเชตุง นาทาสิ”(บทนี้เมื่อลงให้ผ่อนลมหายใจออกลงจบเดียว)
“กัณหะเนหะ” หายใจเข้า “พุทธังปัจจุขาด ธัมมังปัจจุขาด สังฆังปัจจุขาด”(หายใจเข้าออก สลับกันไปทีละบท )

สําหรับแผ่นทองแดงด้านหลังนั้นลงถมประทับด้วยพระคาถา ดังต่อไปนี้
“อะระหัง สุคะโต ภะคะวา” ๙ ครั้ง
แล้วตามด้วย
“นะโมพุทธายะ อิติปาระมิตาติงสา โนวะปะตานุภาเวนะ มาระเสนา อะติกกันตา มาระนิทรา ทัสสะปาระมิตา ทะมาระนิทรา ปาระชังฆานิทรา ทัสสะปาระมิตา โลหะกันตา นามะเตนะโม มาตาปิตุพุทธะคุณัง สัพพะสัตรูวิธังเสนตุ อะเสสะโต เอวังทัสสะวัณโณ ปฏิฐิตัง จักรวาฬะ สัพพะสัตตานุภาเวนะ มาราโมระอะติกกันตา ทัสสะพรหมมานุภาเวนะ สัพพะสัตรูวินาสสันติ”

เมื่อลงทองแดงห่อกั่นดาบแล้วก็มาถึงเรื่องการปรุงยาที่จะปะจุด้ามพระขรรค์, ดาบ มีดังนี้
จึงเอาเกสร ๑๐๘ และ ยามุกใหญ่ (ยามุกใหญ่คือยาสารพัดอย่าง ) มาบดให้ละเอียด เพื่อบรรจุในด้าม
ดีแร้ง ดีนกยูง ดีกาด ดีนกกฎ ดีปลากฎ ดีเสือ ตาเสือ รังแมงใหญ่จับตาพระทั้งเก้า ลูกสวาท คราบงูเหลือม เมล็ดในมะกลำดำ ไคลเสมาเก้าวัด ใบไม้รู้นอนทั้งเก้า ใบหิงหายเกสรร้อยแปด ว่านทั้งเก้า ตะใคร่เสาตะลุงช้าง ตะใคร่ประตูพระนครแปดทิศ ผงดินสอทั้งเก้า ผงดินสอกำบังใบตาเสือเก้าใบ ง่วนผึ้ง กฤษณา กะลำพัก ขอนดอก จันทั้งสอง ชะมด พิมเสน ยาทั้งหมดนี้เมื่อจะบดให้บดลงที่หน้าหินลูกหินตามอุปเท่ห์

หินซึ่งใช้บดยานั้นลงด้วยพระคาถาดังต่อไปนี้
พระคาถามหาโสฬสมงคล ลงถม ๙ ครั้ง ตามด้วย
คาถาหัวใจพระธรรมเจ็ดคัมภีร์ ๙ ครั้ง
คาถาพรหมสี่หน้า ๙ ครั้ง
คาถาพุทธนิมิต ๙ ครั้ง
คาถาพระเจ้า ๑๖ พระองค์ ๙ ครั้ง
คาถาอรหันต์ ๘ ทิศ ๙ ครั้ง
คาถาบารมี ๓๐ ทัศ ๙ ครั้ง
คาถาหัวใจสนธิ “งะญะนะมะ” ๙ครั้ง
คาถาพระกรณีย์ “จะภะกะสะ” ๙ ครั้ง

ขณะบดยาให้ภาวนาพระคาถานี้จนกว่าจะบดยาเสร็จ
“งะญะนะมะ จะภะกะสะ อะระหังสุคะโตภะคะวา นะมะพะทะ อิกะวิติ อิสวาสุ นะโมพุทธายะ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ปะติลิยะติ พุทธังสิทธิธัมมังสิทธิ สังฆังสิทธิ”

ส่วนด้ามพระขรรค์, ดาบ นั้น ให้หาไม้ราชพฤษ์, ชัยพฤษ์ หรือ โลหะสำริด มาแกะหรือปั้น เป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ และปฐมฤาษีฯ เขียนคาถาเป็นตัวเลข ลงที่องค์ท่าน ดังนี้
ลงเลข ๓ ตรีนิสิงเห ที่ปากท้าวเวสสุวรรณ ว่าด้วยสูตรคือ “มะอะอุตรีนิสิงเห”
ลงเลข ๗ ที่ตาทั้งสองของท่าน ว่าสูตร “สะธะวิปิปะสะอุสัตตะนาเค”
ลงเลข ๕ ที่อกของท่านว่า “อาปามะจุปะปัญจะเพชรฉลูกัญเจวะ”
ลงเลข ๔ ที่หัวไหล่ทั้งสองของท่านว่า “นะมะพะทะจัตตุเทวา”
ลงเลข ๖ ที่ขาทั้งสองของท่านว่า “อิสวาสุฉอวัชชะราชา”
ลงเลข ๕ ที่ด้านหลังท่านว่า “ทีมะสังอังขุปัญจะ อินทรานะเมวะจะ
ลงเลข ๑ ที่ตาตุ่มทั้งสองข้างว่า “มิเอกะยักขา”
ลงเลข ๙ ที่ศีรษะท่านว่า “อะสังวิสุโลปุสะพุภะนวะเทวา”
ลงเลข ๕ ที่แขนซ้ายว่า “สหะชะตะตรีปัญจะพรหมาสะหะบดี”
ลงเลข ๕ ที่แขนขวาว่า “นะโมพุทธายะ ปัญจะพุทธานะมามิหัง”
ลงเลข ๒ ที่ศอกทั้งสองข้างว่า “พุทโธทะเวราชา”
ลงเลข ๘ ที่สะโพกทั้งสองข้างว่า “เสพุเสวะเสตะอะเส อัฏฐะอะระหันตา”

ใช้พระคาถาท้าวเวสสุวรรณลงด้ามมีดให้ทั่ว และลงกระบองท้าวเวสสุวรรณด้วย ว่าดังนี้
“เวสสุวรรโณมหาราชา สัพเพเทวาเสเจวะ อาฬะวะกาทะโย ปิจะขัคคัง ตาละปัตตัง ทิสวา สัพเพยักขา ปะลายันติ เวสสุวรรโณมหาราชา จัตตุโลกะปาลายัสสะสิโน อิติภูตา มหาภูตา สัพเพยักขาปะลายันติ”


นี้เป็นส่วนหนึ่งของคาถา และพิธีกรรม ของการสร้างพระขรรค์ และ ดาบ มหาวชิระพรหม
ยังไม่จบ และหมดเท่านี้นะครับ ยังมีตอนต่อไป จะเอามาลงให้อ่านอีกเรื่อยๆ ครับ
พระขรรค์ และดาบ เล่มนี้ พระอาจารย์ท่านจะสร้างออกมาให้เช่าบูชา เป็นครั้งสุดท้าย เรียกว่าทิ้งทวนเลยทีเดียว
หากท่านใดสนใจจองเป็นเจ้าภาพ ติดต่อได้ที่ วรชัย 081-1901125
หรือจะแจ้งชื่อไว้ในกระทู้ หรือส่งเมล์มาได้ที่ worachaiku58@gmail.com

 

วัชระ, วชิระ หรือ วชิราวุธ

​

วัชระ, วชิระ หรือ วชิราวุธ นั้นมีหลายแบบ เป็นอาวุธประจำองค์บรมโพธิสัตว์แต่ละองค์ “นะโมพุทธายะ สิทธิการิยะ” ผู้ใดได้มีวาสนามีศาสตราวุธเล่มนี้แล้ว จะประเสริฐทุกประการ ปราบปรามศัตรูและภูติผีปิศาจได้ทุกชนิด แม้เข้าผจญสงครามก็ได้ชัยชนะต่อข้าศึก ใช้สะกดคนเป็นมหาจังงังอย่างแท้จริง ติดตัวไว้สารพัดคงกะพันชาตรีจากอาวุธทั้งปวง เรียกได้ว่าเป็นพระขรรค์, ดาบมหาปราบ อนึ่งยาที่เหลือจากการบรรจุด้ามนั้น เอามาผสมกับรักปั้นเป็นองค์พระภควัมบดี(พระปิดตา) ไว้ติดตัวเป็นมงคลอย่างประเสริฐ อนึ่งตํารานี้เป็นของจริง ผู้ที่จะสร้างต้องเป็นสาธุชนคนดี จึงจะมีความเจริญ ถ้าเป็นมิจฉาชนคนชั่วช้าแล้วก็จักไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น โบราณจารย์ผู้เป็นเจ้าของตํารานี้ ได้สาปแช่งไว้อย่างรุนแรงถ้าผู้มีมีดนี้นำไปทำชั่ว

คาถากำเนิดพระขรรค์มหาวชิรพรหม
“โอมนะโมข้าพเจ้าจะขอนมัสการ คุณพระศรีรัตนตรัยทั้งสามประการ ข้าพเจ้าขออาราธนาพระพุทธเจ้าจงมาอยู่เหนือเศียรเหนือเกล้า พระธรรมจงมาอยู่เบื้องหน้า พระสงฆ์จงมาอยู่เบื้องหลัง พระพุทธคีเนตจงมาอยู่ตาซ้าย พระพุทธคีนายจงมาอยู่เบื้องตาขวา พระวิษณุกรรมจงมาเป็นน้ำลาย พระนารายณ์จงมาเป็นชิวหา พระอิศวรจงมาเป็นปากแห่งข้า ฝูงเทพยุดาจงมานั่งล้อมเป็นยศศักดิ์บริวาร พระกาฬเธอเสด็จลงมาให้ข้าพเจ้ากระทำการใดให้ประเสริฐแก่ข้าพเจ้า ณ กาลบัดนี้เถิด”

แล้วว่าต่อด้วยคาถาปลุกศาสตราวุธของพ่อขุนแผน
“อมมะเหสะรา อะระเมต อันวิเศษ เลิศโลกตรีภพจักรวาล พระธรณีดาลก็กลับหงาย เมฆหมอกกกระจายอยู่เกลื่อนกลาด ดินฟ้าอากาศก็กลับกรอกร้องก้องครึกครื้น โกตระหันเหตุ ฝูงเทพก็มาข้ามเขตอยู่ทั่วหล้า กูจะปลุกพระคงคาก็มาแดงด้วยแสงเพลิง โอมสะระชะเติง สะระชะตาง กะเปิงกะปาง กูจะปลุกสาระพางทั่วสกลชมพู ใครๆ จะสู้พระครูกูก็บ่มิได้ พระครูกูเธอจึงให้เล่าพระคาถา พระพุทธังสุสุ พระธัมมังสุสุ พระสังฆังสุสุ กะระมะถะกิริมิถิ กุรุมุถุ เกเรเมเถ มุทุนุสุ โกโรโมโถ อาวุธโธเตชะวันโต มหานุภาโว อมปลุกๆ ลุกๆ ตัวกูแข็ง คือหินผาศิลาแลง หัวกูแข็งคือเหล็กกำแพงเพชร อมปลุกๆ ลุกๆ กูจะปลุกอาวุธ ตรีล้วนเหล็กกล้า แสนฟ้าฟื้นได้แต่ละหมื่นละแสนอันคมกล้า ล้วนเหล็กหล่อเกิดในบ่อต่างภาษา แขกวิลันดา อังกฤษมาแต่เมืองมุงิด ขอมแขก เทศจีนจาม พราหมณ์ละว้า เมืองพม่า แมงมอญมัตตะเลิง ลาวกระเหรี่ยงทุกภาษา สัพเพเตประจุทรา อาวุธทั้งหลายนั้น ครั้นได้ยินกูร้องเรียกด้วยพระคาถาว่า พระพุทธังปัจจุขาด พระธัมมังปัจจุขาด พระสังฆังปัจจุขาด อาวุธก็องอาจระหันหก กระทบทั่งดังเสียงฉาดฉาน ฉวัดเฉวียนก้องกังวาน พระกาฬเธอเสด็จลงมาอยู่ปลาย พระนารายณ์เธอเสด็จลงมาอยู่คม พระพุทธสยมภูเธอจึงเสด็จลงมาอยู่ด้ามสำแดงวิชา พระอาทิตย์เธอเสด็จลงมาประจำอาวุธกูอยู่ทุกราตรี ถึงจะคงกระพันชาตรี กูจะประหารก็บ่มิแคลง ถึงจะคงแก่เรียนได้แลแสน กูจะประหารก็บ่มิยาก ถึงจะคงแก่ขวานได้แลหมื่นมิอาจจะยืนอาวุธแห่งกูได้ ก็หลบหลีกออกไปยังนอกฟ้าแสนโกฏิจักรวาล ครูอาจารย์ กัมมะสิทธิสวาหะ ฯ”

คาถาจับพระขรรค์ และ ดาบมหาวชิระพรหม ตามแต่ท่านจะเรียก ว่าดังนี้
“นะจักขุ โกจักขุ พุทโธนะโกจักขุ จักขุตานาเลนาจะ ปาณินัง พุทโธพลาหัง พุทธังบังจักขุ ปติลิยะติหัง อันธะกาเร นะโอนะทา นะโจงงง โมจังงัง พุทละลวย ทาละลาย ยะฆ่ามิตาย ยะสูนหายบัดนี้ พุทโธ ธัมโม ชิโตสีเส ธัมโมหัชชังคิโกสังโฆ ปัดชิมิกายา ญายะนะรายะอิสสโร อินทาพรหมมา จะปูระโต สัพพะเทวา ปัจชิมิกายา สัพพะกัมมะประสิทธิเม”


ครั้งต่อไปจะรวบรวมเอารายละเอียดของมวลสารเหล็ก มวลสารด้ามมีด และมวลสารอาถรรพ์ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของมวลสาร เพราะบางอย่างมีเพียงหนึ่งเดียว สำหรับบางคน หรือหลายๆคน อาจจะบอกได้ว่าเกิดมาทั้งชีวิตยังหาไม่ได้จากที่ไหนเลย

สำหรับท่านที่อ่านแล้ว สนใจอยากมีไว้ครอบครอง สามารถลงชื่อจองเป็นเจ้าภาพได้ครับ เพื่อ ๖ งานบุญใหญ่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ วรชัย 081-1901125
ร่วมเป็นเจ้าภาพได้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยการแจ้งชื่อไว้ในกระทู้ หรือส่งเมล์มาได้ที่ worachaiku58@gmail.com

 

ตำราโฉลกดาบ และวิธีการวัด

ส่วนเรื่องโฉลกดาบและพระขรรค์ที่จะให้วัดพระอาจารย์ท่านเลือกตามตำรานี้ครับ
โฉลกดาบ
๑. ชนะภัย
๒. ภัยหิรัญ (ไม่ดี)
๓. พ้นพินาศ
๔. ราชทัณฑ์ (ไม่ดี)
๕. สุวรรณลาภ
๖. ปราบพระนคร
๗. บวรประสิทธ์
๘. ฤทธิเดช
๙. เศวตฉัตร
๑๐. สมบัติธิบดี

วิธีการวัด

คือ การใช้นิ้วหัวแม่มือวัดความยาว

๑. วางนิ้วหัวแม่มือในลักษณะแบบแปะโป้ง โดยเริ่มตั้งแต่โคนดาบ หรือพระขรรค์เป็นต้นไป จะวางนิ้วหัวแม่มือซ้ายหรือขวาก่อนก็ได้ จากนั้นให้วางสลับต่อกันไปมาจนสุดปลายดาบ หรือปลายพระขรรค์



๒. วางนิ้วแรกก็ให้นับ ๑ เมื่อวางนิ้วข้างต่อไปก็ให้นับ ๒ และ ๓ ตามลำดับ จบครบ ๑๐ เมื่อครบ ๑๐ แล้ว ให้เริ่มนับ ๑ ใหม่ จนกว่าจะวางนิ้วจนสุดปลายดาบ หรือปลายพระขรรค์ หรือตามความยาวที่ท่านต้องการ เมื่อวางนิ้วจนสุดแล้วก็ให้ดูว่าตกเลขไหน ตั้งแต่ ๑ - ๑๐ ตัวเลขนั้นก็คือโฉลกดาบนั้นเอง




๓. ต้องวางนิ้วหัวแม่มือจนมิดปลายดาบนะครับให้เหลือปลายแหลมพ้นนิ้วหัวแม่มือไม่ได้ ต้องนับรวมปลายแหลมที่ไม่เต็มนิ้วนั้นด้วย




ตัวอย่าง

ทดลองนับโฉลกดาบที่ความยาว ๒๔ นิ้ว หากว่าผู้ทดลองได้เป็นเจ้าของดาบเล่มนี้จะตกตำแหน่งใดตามโฉลกดาบ แล้วจะเป็นมงคลให้คุณหรือให้โทษกับการได้เป็นเจ้าของดาบเล่มนี้



วางนิ้วหัวแม่มือบนดาบหรือพระขรรค์ความยาว ๒๔ นิ้ว จากนั้นวางนิ้วแล้วนับไปได้ ๑๐ นิ้ว วางนิ้วต่อเนื่องแล้วเริ่มนับเลขใหม่รอบที่ ๒ ได้อีก ๑๐ นิ้วพอดีสุดปลายดาบเท่ากับว่าผู้ทดลองหากได้เป็นเจ้าของดาบเล่มนี้จะต้องโฉลกตามตำราตำแหน่งที่ ๑๐. สมบัติธิบดี ถือว่าเป็นมงคลต่อเจ้าของดาบ

 

มวลสารพระขรรค์มหาวชิระพรหม

เหล็กสัตตะวชิระโลหะที่นำมาทำเป็นพระขรรค์นั้นได้นำมวลสารเกิดจากการนำมวลสารเหล็กสัตตะวชิระโลหะเดิมที่เก็บไว้จากการหลอมครั้งก่อน ผสมกับมวลสารศักดิ์ใหม่ที่รวบรวมมาเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง ซึ่งแต่ละอย่างไม่ใช่ของที่จะหามาได้ง่ายๆ เช่น เหล็กยอดเจดีย์องค์พระธาตุดอยตุงองค์เดิมก่อนที่จะทำการบูรณะ เหล็กแทรกอยู่กับปูนก้อนเดิมที่อยู่บนยอดเจดีย์องค์พระธาตุฯ



เมื่อทุบปูนออกมาจึงจะพบเหล็กอยู่ด้านในครับ



เหล็กยึดใบระกาอุโบสถวัดพระธาตุดอยตุง




ระฆังลมที่ติดอยู่กับใบระกา



นานมากว่า ๔๐ ปี จึงมีการบูรณะอุโบสถของวัดฯ ทำให้มีโอกาสได้รับเหล็กชิ้นนี้มาครับ

เหล็กขวานฟ้าผ่า



เหล็กยอดเจดีย์องค์พระปฐมเจดีย์ จ. นครปฐม
ชิ้นนี้ก็หายากยิ่งเช่นเดียวกัน ที่ได้มาเพราะองค์พระปฐมเจดีย์ได้ทำการบรูณะครั้งใหญ่เริ่มมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ แล้วเสร็จในปี ๒๕๕๕ เป็นการบรูณะครั้งใหญ่ในรอบ ๑๖๐ ปี


เหล็กยอดพระธาตุจอมกิตติ
เนื่องจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศพม่าเมื่อต้นปี ๒๕๕๖ เป็นเหตุให้พระธาตุจอมกิตติทรุดตัวและบิดงอ จึงได้มีการบูรณะซ่อมแซมองค์พระธาตุขึ้น เหล็กชิ้นนี้จึงเป็นมวลสารที่หายากและทรงคุณค่า


เหล็กพระธาตุพนม จ.นครพนม
เป็นเหล็กจากองค์พระธาตุ เมื่อครั้งพระธาตุล้มลงมาจากเหตุพายุ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘


เหล็กยอดเจดีย์สร้อยทอง วัดสร้อยทอง พิธียกฉัตรยอดเจดีย์ที่วัดสร้อยทอง จ. นนทบุรี
การได้เหล็กชิ้นนี้มาก็เหมือนกับความบังเอิญที่น้อยครั้งจะเกิดขึ้นได้ คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งพระอาจารย์ท่านได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธียกฉัตรยอดเจดีย์ที่วัดสร้อยทอง จ. นนทบุรี ในวันที่ 13 พ.ค. 53 และบังเอิญมีอยู่เจดีย์หนึ่งซึ่งเป็นเจดีย์สุดท้ายที่จะยกฉัตรขึ้นไปตั้ง แต่เหล็กที่จะสวมไม่พอดีกันต้องตัดออกผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในพิธีด้วยเมื่อเห็นว่าช่างเริ่มใช้หินเจียรตัดเหล็กยอดเจดีย์ ผมก็นึกขึ้นมาได้เลยว่าในมวลสารที่พระอาจารย์ท่านต้องการนำไปทำเหล็กตีดาบนั้นต้องมีเหล็กยอดเจดีย์รวมอยู่ด้วย ผมจึงตั้งใจมองอย่างใจจดใจจ่อว่าเหล็กที่เขาตัดมาแล้วนั้นจะตกลงไปที่ใด เมื่อช่างเขาตัดเหล็กเสร็จเหล็กชิ้นนี้ก็ร่วงลงสู่พื้นด้านล่างผมก็รีบวิ่งลงไปเก็บโดยทันที ที่รีบก็เพราะกลัวว่าจะมีคนอื่นที่เขาต้องการมวลสารชิ้นนี้เหมือนกันกับผม เมื่อได้เหล็กชิ้นนี้มาก็ทำการผาติกรรมเพื่อไม่ให้เป็นหนี้สงฆ์ จึงทำให้ได้เหล็กชิ้นนี้มา

 

มีดหมอ ดาบ ของครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่นำมาหลอมเป็นเหล็กสัตตะโลหะ


สองเล่มด้านบนคือ มีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองบัว
ส่วนสามเล่มด้านล่าง คือ ดาบฟ้าฟื้น รุ่น ภปร. สก. ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง


มีดหมอหลวงพ่อเดิม ยุคต้น


พระขรรค์หลวงพ่อเดิม


ดาบฟ้าฟื้น รุ่น ภปร. สก. ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง


มีดหมอด้ามฤๅษี หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ


มีดหมอหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน


ดาบฟ้าฟื้นหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน


มีดหมอเทพศาสตรา อ.ชุม ไชยคีรี


มีดหมอ อ.ทองเฒ่า สำนักเขาอ้อ


มีดหมอหลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว


ดาบหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล


มีดหมอหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล


ดาบสะหรีศรีกัญไชย


ขวานหลวงปู่เจี๊ยะ หลวงพ่อประสิทธิ์อธิษฐานจิต


มีดอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง เจ้าตำรับวิชาโลหิตประสาท


มีดหมอหลวงพ่อทบ วัดชนแดน


มีดหมอหลวงพ่อมี วัดเขาสมอคลอน


มีดหมอหลวงพ่อผินะ




มีดหมอครูบาอาจารย์ต่างๆ


สารพัดเหล็ก สารพัดมวลสาร

ที่นำมาให้ชมนี้เหลือแต่รูปแล้วครับ เพราะหลอมไปหมดแล้วครับ

 

ไม่ทราบจะเสร็จเมื่อไร และมีหมายเลขไหมครับ

 

ร่วมบุญบูชาสัมฤทธิเดช 1 เล่มครับ

 

ตระกรุดครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่นำมาหลอมเข้าเป็นมวลสารเหล้กสัตตะวชิระโลหะ



ตะกรุดยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


ตะกรุดหลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม


ตะกรุดหลวงตาพวง สุขิทริโย


ตะกรุดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก


ตะกรุดหนีบโบราณ


ตะกรุดครูบาชุ่ม วัดวังมุย


ตะกรุดเงินหลวงปู่โต๊ะ


ตะกรุดสมเด็จพระพุฒาจารย์เกี่ยว วัดสระเกศ


แผ่นทองคำจารมือพร้อมทั้งอธิษฐานจิตโดยหลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ. เลย


ตระกรุดหัวใจโลกธาตุ หลวงปู่เฒ่ายิ้ม วันหนองบัว(หลอมทำด้ามพระขรรค์)


ตะกรุดยันต์เกราะเพชร พระอาจารย์ยุคลธรณ์






แผ่นทองแดงและแผ่นเงินจารยันต์ต่างๆ โดยพระอาจารย์ยุคลธร เมื่อครั้งสร้างเหรียญมั่นในธรรม


แผ่นจาร เงิน ทองคำ นาก พระอาจารย์ยุคลธรณ์
ปรอทกรอ เงินพดด้วง


ตะกรุดต่างๆ ที่นำมาหลอม




ห่วงเหรียญครูบาอาจารย์ต่างๆ

 

เหล็กน้ำพี้


ครกบดยา หลวงพ่ออี๋


เหล็กไหล


กระพรวนช้างศึกสมเด็จพระนเรศวร


เหล็กตะปูสังขวานร


อาวุธโบราณ


เหล็กขนันผีตายพรายตายทั้งกลม

หลอมทั้งหมดเช่นกัน

 

น่าสนใจมากครับรอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับดาบเล่มยาว

 

จองหมายเลขได้เลยไหมครับ สำหรับเนื้อสัมฤทธิเดช

 

ร่วมบุญบูชาสัมฤทธิเดช 1 เล่มครับ

 

ร่วมบูชาพระขรรค์มหาวชิระพรหม เพื่อ ๖ งานบุญ

๑. พระขรรค์มหาวชิระพรหม ขนาด ๕ เซนติเมตร
-ด้ามเนื้อสัมฤทธิเดช สร้างจำนวน ๕,๕๕๕ เล่ม ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ **๑,๕๕๕ บาท
-ด้ามเนื้อเงิน สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๒,๕๕๕ บาท
-ด้ามเนื้อนวโลหะ สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๓,๕๕๕ บาท
-ด้ามเนื้อนาก สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๑๕,๕๕๕ บาท
-ด้ามเนื้อทองคำ สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๒๕,๕๕๕ บาท
๒. ดาบมหาวชิระพรหม เล่มยาว สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๑๗,๗๗๗ บาท
๓. พระขรรค์มหาวชิระพรหม เล่มยาว สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๑๙,๙๙๙ บาท
๔. พระขรรค์มหาวชิระพรหม ขนาดใบ ๔ นิ้ว สร้างจำนวน ๓๓๓ เล่ม ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๕,๕๕๕ บาท
๕. มหาวชิรพรหมาวุธ แบบมีแฉกทั้ง ๒ ด้าน สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๒๕,๐๐๐ บาท
๖. มหาวชิรพรหมาวุธ แบบมีแฉกเพียงด้านเดียว สร้างตามจำนวนจอง ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๒๐,๐๐๐ บาท
๗. ลูกอมปัจเจกพุทธวชิรปารมี ร่วมบูชาลูกละ ๒๕๕ บาท
๘. ลูกอมปัจเจกพุทธวชิรปารมี ฝังตระกรุดทองคำจารยันต์หัวใจโลกธาตุ ร่วมบูชาลูกละ ๕๕๕ บาท


การจัดสร้าง พระขรรค์มหาวชิระพรหม ในครั้งนี้ พระอาจารย์ยุคลธรณ์ ดำริสร้างขึ้นเพื่อจัดหาปัจจัยสบทบโครงการก่อสร้างเสนาสนะ ภายในสำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ และงานบุญเนื่องด้วยสมเด็จองค์ปฐม ดังนี้

๑. ปลดหนี้ค่าที่ดินวัด
๒. มหาอุโบสถขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ ๒ ไร่
๓. สร้างสมเด็จองค์ปฐมเนื้อสัมฤทธิ์หน้าตัก ๖ เมตร ประดิษฐานเป็นพระประธานในมหาอุโบสถ
๔. โรงทาน, หอฉันทาวิสุทธิ์ เพื่อรองรับผู้มาปฏิบัติธรรม
๕. โครงการสร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๔ ศอก จำนวน ๑๐๘ องค์
๖. สร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๘ ศอก ณ วัดวังโพธิการาม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

และถือเป็นโอกาสอันดี สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสยังไม่ได้บูชาดาบวชิระพรหมในรุ่นก่อน จะได้ร่วมเป็นเจ้าภาพพระขรรค์มหาวชิระพรหม ในครั้งนี้ สำหรับสำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ (วัดป่าเขาดิน) เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาใหม่ใช้ระยะเวลาประมาณ ๓ ปี จากพื้นที่รกร้างว่างเปล่า สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับประพฤติปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เป็นเหตุให้ทางวัดต้องขยายพื้นที่ให้เพียงพอกับจำนวนผู้ที่จะเข้ามาประพฤติปฏิบัติธรรมในอนาคต พระอาจารย์ท่านจึงดำริซื้อที่ดินบริเวณรอบวัด และยังขาดปัจจัยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการสร้างพระขรรค์ "มหาวชิระพรหม" ในครั้งนี้ปัจจัยที่ได้จะนำไปใช้เพื่อปลดหนี้ค่าที่ดินวัด สมทบทุนสร้างสมเด็จองค์ปฐมทองสัมฤทธิ์ หน้าตัก ๖ เมตร สมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๘ ศอก พร้อมด้วยเสนาสนะต่างๆ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ

พระขรรค์มหาวชิระพรหม ใบทำจากเหล็กสัตตะวชิระโลหะซึ่งนำมวลสารของ ดาบวชิระพรหม มาหลอมรวมกับสุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่หาได้ยากอีกหลายชิ้น ท่านสามารถร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพบูชาพระขรรค์มหาวชิระพรหมได้ที่

บัญชีพระครูวินัยธรยุคลธรณ์ ธัมมปุตโต
ธนาคารกสิกรไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 697-2-07515-7

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ วรชัย 081-190-1125

ร่วมเป็นเจ้าภาพได้ตั้งแต่วันนี้ โดยแจ้งชื่อไว้ในกระทู้ หรือส่ง E-mail มาได้ที่ worachaiku58@gmail.com

 

อ่านเรื่องเล่าและประสบการณ์จากปากต่อปาก ของดาบวชิรพรหม ในรุ่นก่อนหน้านี้

เรื่องที่ ๑ ผีปอบที่ชัยภูมิ

เรื่องที่ ๒ ผีอำแค่นึกถึงดาบผีกระเจิง

เรื่องที่ ๓ ช่วยคนไข้ห้อง ICU

เรื่องที่ ๔ กลองสะบัดชัย

เรื่องที่ ๕ ช่วยคนโดนของ

เรื่องที่ ๖ ทำลายอาถรรพ์

เรื่องที่ ๗ เตือนภัยปกป้องคุ้มครอง ๑

เรื่องที่ ๘ เตือนภัยปกป้องคุ้มครอง ๒

เรื่องที่ ๙ ผีกระที่น่าน

เรื่องที่ ๑๐ ทำลายคุณไสยสาวหน้าบวม

เรื่องที่ ๑๑ ช่วยคนป่วยโรคไต

เรื่องที่ ๑๒ รักษาฝี

เรื่องที่ ๑๓ เรื่องเล่าจากหลวงพี่ จ.สุพรรณบุรี

เรื่องที่ ๑๔ เตือนภัย

เรื่องที่ ๑๕ ขับไล่สิ่งชั่วร้าย



หลายท่านอาจจะยังสงสัยว่าจะขอเช่าดาบวชิรพรหม อย่างในรูปนี้ จะหาเช่าได้ที่ไหน ต้องบอกเลยครับว่า "หมดแล้ว" ด้วยเหตุผลนี้พระอาจารย์จึงดำริ ที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เช่าบูชากันอีกครั้ง และจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะทำออกมาให้เช่าบูชาแบบนี้ จึงได้มีการคิดออกแบบในลักษณะใหม่ขึ้น เพื่อให้สะดวกต่อการพกพา ทั้งยังเพิ่มเติมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ อีกมากมาย เพื่อให้ออกมาดีที่สุด จึงกลายมาเป็น "พระขรรค์มหาวชิระพรหม"



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ วรชัย 081-190-1125

 

จอง สัมฤทธิเดช 1เล่ม ขอเลข 9 ครับ

 

ลูกอมปัจเจกวชิระพุทธปารมี

ให้บูชาตามรายละเอียดดังนี้

ฝังกระกรุดทองคำ จารยันต์หัวใจโลกธาตุ ยันต์กำแพงแก้วเจ็ดชั้น ยันต์พระปัจเจกโพธิสัตว์มหาลาภ บูชาลูกละ ๕๐๐ บาท

ฝังกระกรุดเงิน จารยันต์หัวใจโลกธาตุ ยันต์กำแพงแก้วเจ็ดชั้น ยันต์พระปัจเจกโพธิสัตว์มหาลาภ บูชาลูกละ ๓๐๐ บาท

เนื้อมวลสารล้วน บูชาลูกละ ๑๐๐ บาท



พระควัมปติ
สร้างตามตำรับวิชาของหลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว และหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง

ให้บูชาตามรายละเอียดดังนี้

ฝังกระกรุดทองคำ จารยันต์หัวใจโลกธาตุ ยันต์กำแพงแก้วเจ็ดชั้น ยันต์พระปัจเจกโพธิสัตว์มหาลาภ บูชาองค์ละ ๖๐๐ บาท

ฝังกระกรุดเงิน จารยันต์หัวใจโลกธาตุ ยันต์กำแพงแก้วเจ็ดชั้น ยันต์พระปัจเจกโพธิสัตว์มหาลาภ บูชาองค์ละ ๔๐๐ บาท

เนื้อมวลสารล้วน บูชาองค์ละ ๒๐๐ บาท

 

จองร่วมบุญเนื้อสัมฤทธิเดช หมายเลข 1 จำนวน 1 เล่มครับ