ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

น้ำตาล ไม่มีเรื่องอะไรเล่า คั่นเวลาบ้างหรือครับ

 

มีค่ะ แต่พิมพ์ไม่ถนัดเลย พรุ่งนี้งานสุมหัวอีกเพราะใกล้ปิดบัญชีประจำปี เอาเป็นว่า รอท่านอื่นมาเล่าดีกว่าค่ะ ของตาลติดไว้ก่อนนะ ส่วนพี่น้ำใสฟื้นคืนชีพยังคะ อิอิ หนูถึงบ้านโดยสวัสดิภาพแล้วนะคะ เหนื่อยจังกระเป๋าตังค์ก็แบน

 

ใครมีประสบการณ์เกี่ยวกับมโนมยิทธิเต็มกำลัง มาเล่าให้ฟังแหน่เด้อ

 

เรื่องนางแก้วสายปราบมาร หาอ่านได้ที่ไหนเหรอครับคุณธรรมวิวัฒน์

 

อันนี้ผมตามไปในอ่านห้องพุทธภูมิ นะครับ

เป็นโพสที่พี่น้ำใส ได้กล่าวถึง เรื่องนางแก้วสายปราบมาร

เดี๋ยว ผมเอามาโพสให้อ่านครับ รอสักครู่ ส่วนรายละเอียดต้องให้พี่น้ำใสมาอธิบายครับ

 

ขอเล่าที่มาก่อนนะครับ

มีคนไปโพส หัวข้อถามว่า

"ผู้ปรารถนานางแก้วคู่บารมีจะต้องบำเพ็ญอะไรบ้าง?" นะครับ ในห้องพุทธภูมิ

อันนี้ ตาล เขาไปโพสตอบตามคำถามข้างต้น

 

อันนี้ พี่น้ำใส ไปตอบคำถามข้างต้นนะครับ

ผมก็เลย มาถามเรื่องนางแก้วสายปราบมาร กับพี่น้ำใส ครับ คุณ mooom ที่มาเป็นอย่างนี้ครับ

 

ขอขอบคุณ คุณธรรมวิวัฒน์มากๆเลยนะครับ

 

นางแก้ววิริยธิกะ ประเภทนี้ต้องสร้างบารมีพอ ๆ กันกับพระโพธิสัตว์ รวมทั้งการเคยเป็นแม่เมือง ปกครองเมืองโดยไม่มีพระโพธิสัตว์คอยอยู่เคียงข้าง ต้องเหน็ดเหนื่อยมากกว่าจะสำเร็จ แถมสุดท้ายต้องโดนทิ้งให้อยู่คนเดียว ต้องออกบวชนับเป็นหมื่นชาติแสนชาติ
น่าสงสารจังเลย

 

กองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร (แก้วบรมจักรพรรดิ)​

เรียนเชิญ....กัลยานมิตรทุกท่าน ไปร่วมถวายปัจจัย ซ่อมแซม องค์พระที่ชำรุด ให้กลับมาสวยงามดังเดิม​

ณ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) จังหวัดสระบุรี เวลา 14.00 น ในวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2556

ปัจจัยที่มีผู้ร่วมบุญมา ณ ปัจจุบัน 49,884.16 บาท
​

ยังมีเวลาเปิดรับเงินทำบุญอีกสองวันค่ะ คาดว่า จะได้ไม่ต่ำกว่า ห้าหมื่นห้าพันบาทแน่นอน
ซึ่งเราจะถวายปัจจัยพร้อมอุณาโลม... เพรชพญานาครูปหยดน้ำสีแดงล้อมด้วยเพชรรัสเซีย ซึ่งมีขนาดพอเหมาะกับองค์พระ

อนุโมทนาบุญ กับผู้ร่วมบุญทุกๆ ท่าน ... แล้วพบกันที่วัดนะคะ​

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ความจริงพี่เพียงแค่ไปปราม ๆ ผู้ที่ไม่รู้แล้วเขียนไปเรื่อย โดยไม่รู้ว่า วิบากกรรมจะเกิดขึ้นกับตัว บางคนหลงคิดว่า ตัวเองปรารถนพุทธภูมิแล้วไปจาบจ้วงล่วงเกินแก่ผู้อื่น บางครั้งดูหมิ่นสตรี มันดูไม่งาม

สำหรับคำถามที่น้องอยากทราบนั้น พี่ต้องขออนุญาตถามครูบาอาจารย์ก่อนค่ะว่า ควรเปิดเรื่องนี้หรือเปล่า เนื่องจากเป็นเรื่องที่ไม่มีเขียนในตำรา ถ้าท่านอนุญาตจะเรียนให้ทราบอีกครั้งค่ะ

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

Numsai

 

ขอบคุณมากนะครับ พี่น้ำใส คงต้องแล้วครูบาอาจารย์ท่านเมตตาสงเคราะห์นะครับ

 

ขออนุโมทนาบุญในคำถามอีกครั้งค่ะ เดี๋ยวพี่จะลงเรื่องของนางแก้วสายปราบมารให้อ่านนะคะ

ความจริงแล้วก่อนหน้าที่เคยพบท่านผู้หนึ่ง ท่านเคยสงเคราะห์พี่มาก่อนเมื่อปี ๒๕๕๕

แต่ความรู้ที่ได้นั้น บังเอิญไปเกี่ยวเนื่องกับสายมหายาน ซึ่งพี่ได้ปฏิเสธความรู้เรื่องนั้น ๆ และไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องเรียนรู้

วันนี้โดนดุซะ อิอิ.. เพิ่งทราบความจริงวันนี้ว่า ทำไมวิมานบนชั้น ๖ จึงแตกต่างจากชั้นอื่น ๆ เพราะไม่ได้เกี่ยวเนื่องเฉพาะพระพุทธศาสนา แบบเถรวาทเพียงสายเดียว

แต่มีความเชื่อมโยมในความเชื่ออื่น ๆ ที่มีความเชื่อคล้ายกัน แม้ไม่ได้อยู่ในพุทธศาสนาก็ตาม

ขออนุโมทนาบุญในคำถามค่ะ

Numsai

 

..เรื่องของนางแก้วสายปราบมาร..

ความรู้นี้เป็นปัจจัตตัง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
____________________________________

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ ตรงกับวันขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑ ปีมะเส็ง เวลา ๑๐.๓๙ น.

หลังจากที่น้องธรรมวิวัฒน์ได้ตั้งคำถามเรื่องนางแก้วสายปราบมาร เมื่อหลายวันก่อน ด้วยยังมีความรู้น้อยในเรื่องนี้ จึงได้ขึ้นไปกราบเรียนถามสมเด็จองค์ปัจจุบัน

สมเด็จองค์ปัจจุบัน ตรัสให้ไปกราบเรียนถามสมเด็จองค์ปฐม ที่วิมานของพระองค์ เมื่อไปถึงวิมานของสมเด็จองค์ปฐม พบพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง มีร่างกายใหญ่โตมาก ในปางพระวิสุทธิเทพ สมเด็จองค์ปฐมทรงตรัสว่า..

“นี่แหละ พระพุทธเจ้าต้นธาตุสายปราบมาร รู้ในนามพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๓ “(มีอีกพระนามหนึ่งไม่สามารถเขียนในที่สาธารณะได้)


ได้เห็นพระพุทธเจ้าจำนวนมากนับไม่ถ้วนอยู่ด้านหลังพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๓ จึงตั้งจิตอธิษฐานแยกกายเท่ากับจำนวนพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พร้อมกราบขอขมา เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ได้ทำสืบกันมา

จากนั้น ภาพสมเด็จองค์ปฐมก็หายไป ปรากฏภาพพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๓ เป็นกายเนื้อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปรากฏแทน และทรงตรัสว่า .. “ตามเรามา”


จากนั้นก็เห็นวิมานเป็นแก้วรัตนะ ๙ ประการ และแก้ว ๗ ประการอยู่ไกลลิบ ๆ เห็นตนเองลอยอยู่กลางอากาศ การเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยพุทธานุภาพ ปรากฏสถานที่โล่ง ๆ ใกล้วิมานหลังหนึ่ง มีเทพธิดามากมาย ยืนตั้งแถวรออยู่..

ได้ยินเสียงของเทพธิดาเหล่านั้น กล่าวด้วยความปิติยินดีว่า..

“พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมา ๆ พวกเรามาเร็ว”

สักพักก็เห็นเทพธิดาจำนวนมาก ลักษณะการแต่งกายแตกต่างกัน หน้าตาสวยงามกว่าชั้นอื่น ๆ และมีแสงสว่างมาก เมื่อเห็นดังนั้น นึกขึ้นได้ว่า สมเด็จพระผุ้มีพระภาคเจ้า ทรงเสด็จลอยอยู่กลางอากาศ

จึงได้ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้แท่นบุษราคัม ประกอบด้วยรัตนะ ๗ ปรากฏขึ้นกลางอากาศ เพื่อเป็นที่ประทับของพระพุทธองค์

เมื่ออธิษฐานจบก็ปรากฏขึ้นทันที่ สมเด็จพระภควันต์ ทรงประทับนั่ง เสียงของเหล่าเทพธิดาทั้งหลาย ได้กล่าวว่า..

“พระผู้มีพระภาคเจ้า วันนี้เป็นบุญเหลือเกินที่พระองค์เสด็จมาโปรดพวกหม่อมฉัน พวกเรารอพระองค์มาโปรดตั้งนาน”

เทพธิดานางหนึ่งได้กล่าวว่า “พระพี่นาง พวกเรายินดีได้พบท่านอีกครั้ง ไม่พบท่านตั้งนาน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”

ยังไม่ทันได้ตอบ พระพุทธสิกขีทศพลที่ ๓ ทรงตรัสว่า..

“ดูกร ภคินีทั้งหลาย มาบัดนี้ เหล่ามารทั้งหลายปรากฏไปทั่วโลกมนุษย์ พวกเธอคงเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย”

เทพธิดาองค์หนึ่งได้กล่าวว่า “พวกเราไม่เหนื่อยหรอกพระพุทธเจ้าข้าฯ แต่ต้องเก็บกำลังกันพอสมควร ตอนนี้เปลี่ยนชุดไปช่วยข้างล่าง พวกเรามาพักก่อน แล้วค่อยลงไปใหม่พระพุทธเจ้าข้าฯ”

พระพุทธองค์ตรัสถามว่า “ พวกเธอเห็นอะไรในเบื้องล่างนั้น”

เทพธิดาอีกองค์กล่าวว่า “พวกเราเห็นความประมาทของมนุษย์ทั้งหลาย เห็นแล้วรู้สึกสลดใจ หากเกินกรรมเราคงช่วยไม่ไหว เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ยังคงประมาทอยู่ ไม่เห็นความสำคัญของการสร้างบุญ ทำความดี หม่อมฉันรู้สึกสะเทือนใจ

มีเพียงชาวพุทธส่วนน้อยที่ทำถูกครรลองคลองธรรม สนใจในการฝึกวิปัสสนากรรมฐาน แม้บางพวกจะสนใจในธรรม แต่กลับยึดติดในฤทธิ์เดชมากกว่า”

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า “เธอจะแนะนำพวกเขาอย่างไร”
เทพธิดาที่มีความงามอีกองค์หนึ่งปรากฏกาย ทรงชุดสีขาว รัศมีเจิดจ้า มีความสงบ และสง่างาม (พระนางตารา) กล่าวว่า..

“ข้าฯแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า หม่อมฉันเห็นว่า มนุษย์ควรหมั่นฝึกให้ทรงอภิญญาสมาบัติให้ได้ตั้งแต่ที่ยังดำรงขันธ์ได้อยู่ หากผู้นั้นยังปรารถนาจะเกิดอีก
ส่วนมนุษย์ผู้ใดที่ปรารถนาจะเข้าพระนิพพานก็ต้องตั้งใจในการพิจารณาทุกข์ในการเกิด ทุกข์ในการดำรงชีวิต และพิจารณาทุกข์ในการมีขันธ์ ๕ ให้ยิ่งยวด ส่งผลให้เกิดความเบื่อหน่ายในร่างกาย เพื่อตัดใจเข้าพระนิพพานได้ง่ายพระพุทธเจ้าข้าฯ”

สมเด็จพระภควันต์ทรงตรัสว่า “ สาธุ สาธุ เธอทั้งหลายกล่าวดีแล้ว เจริญแล้ว..”


จากนั้นจึงได้ขอประทานอนุญาตจากพระผู้มีพระภาคเจ้าในการขอขมากรรมต่อเหล่าเทพธิดาทั้งหลาย พระพุทธองค์ทรงอนุญาต จากนั้นทรงตรัสว่า..

“ตามที่เธอทั้งหลายได้ทราบ เธอผู้นี้ยังมีขันธ์ ๕ อยู่ ปรารถนาจะให้พวกเธอได้ให้ธรรมทานเรื่องผู้ปรารถนาเป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์สายปราบมาร ใครจะอาสาให้ธรรมทานได้บ้าง”


เมื่อสิ้นพระสุรเสียง ปรากฏเทพธิดาองค์หนึ่ง กล่าวว่า”หม่อมฉันเองเพคะ”

สมเด็จพระภควันต์ตรัสถามว่า “เธอเป็นใคร มีนามว่าอย่างไร”

เทพธิดาตอบว่า “หม่อมฉันมีนามว่า พระนางวิสุทธิตารามหาเทวี หรือในโลกมนุษย์ทั้งหลาย รู้จักในนามของหม่อมฉันว่า “พระแม่ตารา”

เรื่องของคู่บารมีพระโพธิสัตว์สายปราบมารนั้น ไม่มีหลักกฏเกณฑ์แน่นอน สิ่งที่แน่นอน คือการบำเพ็ญบารมีตามแบบของพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น ๆ

หากพระองค์ปรารถนาอธิษฐานพิเศษในเรื่องใด คู่บารมีจะต้องบำเพ็ญรอยตามพระโพธิสัตว์องค์นั้น ๆ แม้แต่เรื่องของทวีปที่จะไปตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ

บางพระองค์ปรารถนาจะสำเร็จในโลกธาตุที่มี ๔ ทวีป มี ชมพูทวีป เป็นต้น บางพระองค์ปรารถนาโลกธาตุอื่น ๆ อย่างคู่บารมีของหม่อมฉัน คือ สมเด็จพระอวโลกิเตศวร พระองค์มิได้ปรารถนาจะสำเร็จในชมพูทวีป ปรารถนาจะสำเร็จในแดนสุขาวดี

แต่ระหว่างบำเพ็ญบารมีนั้น พระองค์ยินดีในบำเพ็ญร่วมกับพระโพธิสัตว์อื่น ๆ ในแดนตะวันออก(ชมพูทวีป) เนื่องจากแดนนี้มีมนุษย์ที่ยังประมาทอยู่มากที่สุด

เมื่อประมาทอยู่ย่อมมีความพร่องอยู่มาก การบำเพ็ญบารมีย่อมเป็นไปด้วยความยากลำบาก ไม่ง่ายดาย ดังนั้นเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย จึงมักมาเกิดในแดนนี้ เพื่อบำเพ็ญบารมีจนครบทั้ง ๓๐ ทัศน์
หม่อมฉันเองคอยช่วยเหลือพระองค์ แม้ยามที่พระองค์เสวยพระชาติเป็นหญิง บางครั้งในการที่พระโพธิสัตว์ลงมาจุติในบางชาติ ไม่ได้มีคุณวิเศษสัมผัสโลกทิพย์ได้ ความทุกข์ยากที่ผ่านไปได้ ล้วนแต่เป็นนางแก้วที่มีกายละเอียดคอยช่วยเหลือทั้งสิ้น แต่ไม่มีบันทึกไว้ในตำรา

ปัจจุบันหม่อมฉันเป็นดำรงตำแหน่งในการให้พรแก่ผู้ที่มีความศรัทธา รักและเคารพในพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และมีความศรัทธาในองค์พระโพธิสัตว์ ผู้ใดปรารถนาสิ่งใด

หากไม่เกินกรรมหนัก หรือมีกรรมเพียงเล็กน้อย จะช่วยขจัดปัดเป่าให้พ้นทุกข์ได้ ทำให้คำอธิษฐานนั้นสำเร็จโดยอัศจรรย์พระพุทธเจ้าข้าฯ”

สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๓ ตรัสว่า...

“สาธุ สาธุ สาธุ..วิสุทธิตารา ขอเธอจงสำเร็จตามความปรารถนาเถิด”

จากนั้นภาพพระพุทธสิกขิทศพลที่ ๓ หายไป

จึงได้น้อมถวายบุญแก่พระนางวิสุทธิตาราเทวี และเทพธิดาชั้น ๖ ทุก ๆ องค์ เสียงตอบมา “สาธุ สาธุ สาธุ”

และถอนออกจากสมาธิ

****************



ทุกสิ่งที่กล่าวมาแล้ว อาจจะเป็นประโยชน์แก่น้องธรรมวิวัฒน์ และทุก ๆ ท่านไม่มากก็น้อยค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์ด้วยค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญธรรมทานกับคุณน้ำใสด้วยครับ

ได้อ่านนางแก้วสายปราบมารแล้ว พอจะเข้าใจ
ส่วนพระโพธิสัตว์สายปราบมารนั้นมีวิธีอธิษฐานและบำเพ็ญกันอย่างไรบ้าง
ใช้เวลานานเท่าไหร่? นับตั้งแต่เริ่มต้นอธิฐานเป็นพระโพธิสัตว์สายปราบมาร​

 

ขอขอบพระคุณในธรรมทานของพี่น้ำใสและโมทนาในคำถามของท่านวิทยาด้วยนะเจ้าค่ะ
ตาลมีคำถามเหมือนกัน...อยากถามว่า...


๑. หากพระโพธิสัตว์ไม่อธิษฐานมาในทางสายปราบมาร แต่นางแก้วอธิษฐานปราบมารเอง...อย่างนี้มีไหมคะ?


๒. พระโพธิสัตว์ที่อยู่ดุสิต (ชั้น ๔) สามารถปราบมาร (ชั้น ๖) ได้ไหมคะ?
อันนี้สงสัยเพราะ....ท่านสีหบดินทร์หัวหน้ากายสิทธิ์ในดวงแก้วอนันตกาลของท่านวิทยา
ท่านเป็นเทวดาที่หนูเข้าใจว่ามาทางสายปราบมาร ตอนนี้ท่านย้ายลงมาอยู่ชั้น ๔
เสียดายความสามารถในการปราบมารอันน่าทึ่งของท่านค่ะ เลยถามดู...


หากเป็นการละลาบละล้วงต่อท่าน หนูก็ขอกราบอภัยนะเจ้าคะท่าน... แหะ ๆ

 

..มหาเมตตาบารมีแห่งพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์..

ขออนุโมทนาบุญกับท่าน widya ด้วยเจ้าค่ะ เรื่องของพระโพธิสัตว์สายปราบมารนั้น

พระท่านบอกว่า ในสายเถรวาท จะเป็นผู้ศึกษาในสายวิชชาธรรมกายเท่านั้น ที่จะกล่าวละเอียดในเรื่องนี้เจ้าค่ะ บางท่านศึกษามา ๓๐-๔๐ ปียังไม่สุดสายวิชา

อีกสายหนึ่งคือ ผู้บำเพ็ญพระโพธิสัตว์ในสายมหายานเจ้าค่ะ หากจะทราบรายละเอียดต้องศึกษาในสายมหายาน จะมีกล่าวเรื่องนี้เช่นกัน

ความรู้ส่วนใหญ่ในครูบาอาจารย์ที่ท่านสำเร็จแล้วในประเทศไทยของเรา ไม่ว่าสายใด จะเป็นความรู้ เพื่อผู้ที่ปรารถนาจะเข้าพระนิพพานเป็นส่วนใหญ่ มักจะไม่มีกล่าวในเรื่องของการบำเพ็ญพระสัมมาสัมโพธิญาณมากนัก

ส่วนจะบำเพ็ญระยะเวลาเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับการตั้งจิตอธิษฐานพิเศษของพระโพธิสัตว์แต่ละพระองค์ เวลาไม่แน่นอน แต่เกินกว่า ๑๕๔ อสงไขยขึ้นไปเจ้าค่ะ นับเฉพาะปรมัตถบารมีเจ้าค่ะ

อย่างพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์นั้น พระองค์มีมโนปณิธานว่า ..

"ตราบใดที่สรรพสัตว์ทั้งหลายยังร่ำไห้อยู่ เราจะไม่สำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณ"


นี้คือ ๑ ในพระโพธิสัตว์เป็นปรมัตถบารมีปลาย แม้จะสามารถสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณได้ แต่พระองค์ยังไม่ปรารถนาจะสำเร็จ ทรงได้รับพุทธพยากรณ์มาแล้ว

เรื่องนี้ น้ำใสเองก็เคยได้รับการสงเคราะห์จากพระอวโลกิเตศวรมาแล้ว เมื่อเกิดวิกฤตในชีวิตด้วยวิบากกรรม ไปขอพรจากท่านท้าวสักกเทวราช ท่านประกาศกลางเทวสภาว่า..

"ใครจะช่วยเหลือเธอผู้นี้ได้บ้าง"

ปรากฏเงียบกันทั้งเทวสภา อิอิ..

**************************
​

พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ มีลักษณะใกล้เคียงกับภาพนี้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพระพักตร์
หรือเครื่องประดับพระองค์ ไม่ได้ทรงเครื่องแนบเนื้อเช่น พระโพธิสัตว์ทั่วไป ​

และแล้วในที่สุดก็ปรากฏมีเทพบุตรรูปงาม รูปร่างสมส่วน เดินมาด้วยท่วงท่า สง่างามมาก ได้กล่าวว่า..

"กระผมเองขอรับ ด้วยเห็นแก่นางเคยมีบุญคุณกับกระผมชาติหนึ่ง ในสมัยที่ลงไปจุติเป็นเจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน เธอเคยเป็นพี่เลี้ยง คอยดูแลเจ้าหญิง ก่อนจะถูกให้ออกจากวัง
เพียงแต่ขอสิ่งตอบแทนที่เธอต้องทำคือ เธอต้องงดเว้นเนื้อสัตว์ เป็นเวลา ๑๐ วัน"

จากนั้นท้าวสักกเทวราช หันมาถามว่า "ลูกจะงดเนื้อสัตว์ได้มั๊ย ๑๐ วัน"

จึงกราบเรียนท่านว่า "ได้เจ้าค่ะ"

เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ปัญหาต่าง ๆ คลี่คลายไปในที่สุด เพียงแค่ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างดี แต่ไม่คิดว่า ผลของการทำดีในชาตินั้น กลับส่งผลข้ามชาติ มาช่วยปัดอุปสรรคต่าง ๆ ให้ในชาตินี้

นี้เป็นตัวอย่างแห่งมหาเมตตาบารมีของพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่งเจ้าค่ะ

สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ ท่านบอกว่า มีบางท่านเข้ามาอ่านกระทู้ และตั้งใจที่จะจับผิด จึงเขียนได้เพียงเท่านี้เจ้าค่ะ ต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับท่าน widya และทุก ๆ ท่านด้วยเจ้าค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาลด้วยค่ะ ขอตอบเลยนะคะ

๑. ไม่มีค่ะ เพราะการอธิษฐานของนางแก้วแต่ละองค์นั้น จะเป็นไปตามพระโพธิสัตว์คู่บารมีที่เข้มข้นที่สุด หรือคู่บารมีอันดับ ๑ นั่นเอง

๒. พระโพธิสัตว์ที่อยู่ชั้นดุสิต สามารถปราบมารได้มั๊ย...


ตอบ ได้ เฉพาะบางพระองค์ที่อธิษฐานมาทำหน้าที่ปราบมารค่ะ แต่ไม่ใช่ทุกพระองค์ เพราะผู้มาในสายปราบมารนั้น จะสร้างบารมีเฉพาะ และเรียนรู้วิชาเฉพาะ เบื้องบนพระโพธิสัตว์จะถูกแบ่งออกเป็น ๒ พวก คือ

๑. ภาคโปรด คือสายพระโพธิสัตว์ที่พวกเราค้นเคยกันดี แบ่งออกเป็น ๓ ประเภทคือ ปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ และวิริยธิกะ

และวิริยธิกะพิเศษที่บำเพ็ญตามพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๑

๒. ภาคปราบ หรือเรียกว่า สายปราบมาร ต้นธาตุต้นธรรมคือ สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๓ ซึ่งเป็นพระโอรสของพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๑ หรือสมเด็จองค์ปฐม

เกิดเนื่องจากในระหว่างที่พระพุทธองค์บำเพ็ญบารมีนั้น จิตของมนุษย์เริ่มจิตใจเสื่อมลงกว่า สมัยสมเด็จองค์ปฐม ปัญญาความรู้น้อยกว่า เป็นช่วงที่ฝ่ายดำมีอำนาจมาก พระองค์จึงอธิษฐาน เป็นพระพุทธเจ้าเพื่อปราบมาร

จึงมีการคิดค้นหาวิธีการให้ปลอดภัย รวมทั้งค้นวิชาอธิษฐานธาตุกายสิทธิ์ขึ้นมา เพื่อป้องกัน ในยุคนั้นไม่มีการสร้างพระพุทธรูป หรือพระเครื่องดังเช่นปัจจุบัน

ด้วยมนุษย์ยุคนั้น เห็นว่า ภาพตัวแทนของพระพุทธเจ้าเป็นของสูง เกรงจะประดิษฐานไว้ในที่ที่ไม่เหมาะสม และจะมีภัยเรื่องการปรามาสพระขึ้น




ส่วนเรื่องของท่านสีหบดินทร์นั้น เป็นเรื่องเฉพาะว่า ท่านลาการอธิษฐานพิเศษเรื่องการปราบมาร แต่ยังคงปรารถนาพระสัมมาสัมโพธิญาณดังเดิม อยู่ในวิริยะธิกะพิเศษเหมือนเดิม

สำหรับท่านที่ปรารถนาพระโพธิญาณ ภาคปราบ ระดับปรมัตถบารมี คือ เคยได้รับพยากรณ์ในชั้นต้น สามารถลาเรื่องอธิษฐานพิเศษนั้นได้ เมื่อลาแล้ว จะได้รับการพุทธพยากรณ์ใหม่ในยุคของพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไป

แต่ท่านผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ ภาคโปรด จะไปอธิษฐานในสายปราบมาร จะต้องเริ่มต้นบำเพ็ญบารมีกันใหม่

ไม่สามารถนับแต้มรวมกันได้ เพราะเรียนกันมาคนละวิชา ส่วนใหญ่ไม่มีใครทำ เพราะการบำเพ็ญบารมีจะหนักกว่า ๓๐ เท่า ต้องไปเกิดเป็นมารเองนับอสงไขยไม่ถ้วน

ขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาลด้วยค่ะ

Numsai

 

/\กราบอนุโมทนาสาธุ สำหรับทุกเรื่องราวที่พี่น้ำใสได้นำมาบอกกล่าวเป็นธรรมทานครับ/\

ยังมีอีกหลายที่ปัญญาแห่งมนุษย์มิอาจทราบได้ รวมถึงยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ยังไม่สามารถบอกกล่าวได้เมื่อยังไม่ถึงกาล ยังมีหลายเรื่องที่เราอยากรู้ แต่ไม่รู้ ไม่กล้าถาม และถามไปก็อาจโดนตำหนิโดยที่ไม่ได้รับคำตอบ อย่างที่เคยได้ยินกันว่า ถามทำไม อยากรู้ทำไม รู้แล้วได้อะไร...หลายครั้งผมเองอยากจะตอบว่า ถ้ารู้ก็คงจะไม่ถาม และถ้ารู้อีกว่าถามไปแล้วจะเจอลักษณะแบบนี้ ก็คงจะไม่ถามและไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีก...ผมขอขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ถามคำถามและผู้ที่ตอบคำถามทุกๆท่านครับ โดยเฉพาะพี่น้ำใสที่เปรียบดั่งนางแก้วโพธิสัตว์ของพวกเรา ที่ได้เมตตาเสียสละหาคำตอบมาให้กับทุกๆคนในทุกๆเรื่อง ทำให้ทุกคนได้รับความกระจ่าง ความสว่างในใจ และเข้าถึงความรู้แจ้งในจิต /\ /\ /\
ปล.พระภควันต์ คือพระนามแห่งองค์สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่3ใช่ไหมครับ^^'

 

ขอบพระคุณในคำตอบของพี่น้ำใสเจ้าค่ะ
เรื่องปราบมารคงต้องปล่อยให้ท่าน ๆ ที่มีหน้าที่ทำไป.... อิอิ
ส่วนตัวหนูนั้น...มารภายในใจยังสู้ไม่ได้...ถ้าให้ไปปราบมารภายนอกคงซี้แหงตายแน่ค่ะ...


ขอโมทนากับธรรมทานนะเจ้าคะ