อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

เพิ่มข้อมูลครับคุณปู

เหรียญมหามงคล รัชกาลที่๕ (สามสมเด็จ) สร้างในวโรกาสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระชนมพรรษา 5 รอบ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ครอบรอบ 90 ปี (พ.ศ. 2535) เพื่อจัดหารายได้สมทบทุนสร้างตึกอุบัติเหตุให้โรงพยาบาลฯ เงินรายได้ในครั้งนั้น 22,706,405.91 (ยี่สิบสองล้านเจ็ดแสนหกพันสี่ร้อยห้าบาทเก้าสิบเอ็ดสตางค์)<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>
เหรียญ ร.๕ ที่ว่านี้จัดสร้างขึ้น 2 พิมพ์ <O></O>
พิมพ์ a “รุ่นปราบฮ่อ” ลักษณะเหรียญกลม ด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระปิยะมหาราช อีกด้านเป็นรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ครึ่งองค์ ขณะบริกรรมภาวนาบนลายกนกที่อ่อนช้อยงดงาม ขนาดของเหรียญใหญ่ 3 ซ.ม. น้ำหนักของเหรียญ <?XML:NAMESPACE PREFIX = ST1 /><ST1:METRICCONVERTER productid="17.7 กรัม" w:st="on">17.7 กรัม</ST1:METRICCONVERTER> <O></O>
พิมพ์ b “รุ่นเสด็จพระพาสยุโรป” ลักษณะเหรียญกลม ด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระปิยะมหาราช อีกด้านเป็นรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เต็มองค์ นั่งขัดสมาธิบริกรรมภาวนา ขนาดของเหรียญใหญ่ 3.2 ซ.ม. น้ำหนักของเหรียญ <ST1:METRICCONVERTER productid="20.7 กรัม" w:st="on">20.7 กรัม</ST1:METRICCONVERTER> ซึ่งมีขนาดใหญ่ว่าเหรียญรุ่นปราบฮ่อเล็กน้อย <O></O>
เดิมทีทางโรงพยาบาลจะให้โรงกษาปณ์จัดสร้าง แต่ติดปัญหาเรื่องขั้นตอนในการทำและใช้เวลานาน ทางคณะกรรมการจัดสร้างเกรงว่าจะไม่ทันเข้าพรรษาในปีนั้น จึงได้จ้างช่างฝีมือในสมัยนั้น (ช่างเชิด) แกะแม่พิมพ์ให้ ใช้เวลานานถึง 3 เดือน ถึงจะได้แบบที่ถูกใจคณะกรรมการ แม่พิมพ์ของแต่ละพิมพ์จะมีมีด้วยกัน 2 บล็อก <O></O>
มีด้วยกัน 4 เนื้อ คือ 1. เหรียญทองคำ (ตามสั่งจอง) จำนวนการสร้าง 829 เหรียญ<O></O>
2. เหรียญเงิน (พิมพ์ละ) จำนวนการสร้าง 9,000 เหรียญ<O></O>
3. เหรียญสามกษัตริย์ (พิมพ์ละ) จำนวนการสร้าง 9,000 เหรียญ<O></O>
4. เหรียญทองแดง (ทั้งสองพิมพ์) จำนวนการสร้าง 84,000 เหรียญ <O></O>
บางคนสงสัยว่าทำไมเรียกเหรียญนี้ว่าเหรียญ “สามสมเด็จ” ต่างก็พูดกันไปต่างๆนานๆแท้ที่จริงนั้นเพื่อระลึกถึง สมเด็จพระปิยะมหาราช , สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (ผู้พระราชทานกำเนิดโรงพยาบาลสมเด็จฯ) และสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี <O></O>
จัดพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดระฆังโฆสิตารามวรวิหาร ในวันปิยะมหาราช วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2535 โดยมีสมเด็จพุฒจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย และมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นมาร่วมนั่งปลุกเสกมากมาย เช่น พระธรรมปัญญาบดี (เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ) , พระราชสุวัฒนาภรณ์ (เจ้าอาวาสวัดระฆังฯ) , หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง , หลวงพ่อวีระ วัดปากน้ำ , หลวงพ่อแฟ้ม วัดป่า ชลบุรี, หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง , หลวงพ่อฤาษีลิงขาว วัดฤกษ์บุญมี , หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ , หลวงพ่อเกลี้ยง วัดเนิน ชลบุรี , หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า , หลวงพ่อทองเหนาะ วัดปราสาททอง , หลวงพ่อป่วน วัดหนองบัวทอง , หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน , พระอาจารย์<ST1ERSONNAME productid="สมชาย วัดเขาสุกิม" w:st="on">สมชาย วัดเขาสุกิม</ST1ERSONNAME> , หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว่า , <O></O>
หลวงพ่อโง่น วัดพระพุทธบาทเขารวก ฯ และหลวงพ่อช่อ วัดฤกษ์บุญมี เป็นพระเถระทำพิธีดับเทียนชัย<O></O>
หลังจากเสร็จพิธีแล้ว คณะกรรมการก็นำบล็อกแม่พิมพ์ออกมาทำลายต่อหน้าผู้ที่ไปร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก เพื่อไม่ต้องการให้มีการสร้างเสริมขึ้นในตอนหลัง และเหรียญทั้งหมดที่ผ่านการปลุกเสกแล้ว ก็นำเก็บไว้ที่โรงพยาบาลฯ แล้วให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ช่วยกันตอกโค้ดที่เตรียมไว้ทุกเหรียญ ด้านเดียวบ้างสองด้านบ้าง เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเหรียญที่มีการตอกโค้ด ได้รับการปลุกเสกและเป็นของแท้แน่นอน โดยโค้ดที่นำมาใช้ในงานนี้มีถึง 7 ตัว ซึ่งแต่ละตัวก็จะตอกลงบนเหรียญแต่ละเนื้อไม่เหมือนกัน แล้วถึงจะนำไปมอบให้กับผู้สั่งจองและให้บุคคลทั่วไปได้มีโอกาสเช่าไปบูชา<O></O>

 

ไม่เป็นไรครับ แต่วัดนี้ก็สวยงามจริงๆ ดูเหมือนพระพุทธรูปจะนำไม้มาต่อประกบกันเลยคร๊าบบ

 

งั้นผมเสียสละให้เสี่ยรักดีกว่า...

เดี๋ยวส่งเก้าพัน ไปแลกกะ แพพัน นะครับเสี่ยรัก ต่อไปก็แจกทีละพันพอนะครับ...

 

สวัสดีครับคุณเอ็ม อนุโมทนาบุญกับคุณเอ็มด้วยครับ ^__^

 

ประวัติพระธาตุดอยเวา
พระธาตุดอยเวา สร้างในพ.ศ. 296
ในรัชสมัยพระองค์เวา รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ
ผู้ครองนครโยนกนาคพันธุ์ โดยชื่อนั้นได้นำมาจากพระนามของพระองค์เวา
ต่อมาพระธาตุเจดีย์ได้พังลงตามกาลเวลา
นายบุญยืน ศรีสมุทร คฤหบดีอำเภอแม่สาย
ได้ร่วมกับ พระภิกษุดวงแสง รัตนมณี
พร้อมด้วย ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา
และ กรมศิลปากร ร่วมกันจัดสร้างขึ้นขึ้นใหม่
ในการขุดแต่งครั้งนี้ พบผอบหินสีดำ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 5 พระองค์
จึงได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานในองค์พระธาตุดังเดิม
มีการวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2494
และสร้างเสร็จพร้อมฉลองสมโภชพระธาตุ
ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498
โดยมีพุทธบริษัททั้งสองประเทศ ร่วมงานอย่างคับคั่ง​

ประเพณี
ปัจจุบันมีประเพณีนมัสการพระธาตุในทุกๆปี
โดยจะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 เหนือ
(ตรงกับเดือน 3 ใต้ คือ วันมาฆบูชา)
และมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุ ในวันสงกรานต์ ของทุกปี​

จุดชมวิวสองฝั่งสาย
ฝั่งซ้ายคือจังหวัดเชียงราย ฝั่งขวาแขวงท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน มีแม่น้ำสายคั่นกลาง​

สิ่งที่น่าสนใจ
บริเวณโดยรอบองค์พระธาตุบนยอดนั้น ยังเป็นที่ตั้งของไพชยนต์ปราสาท
ซึ่งเป็นวิหารขนาดเล็ก ประดิษฐานพระแก้วมรกตจำลอง
(หรือโดยนัยว่าเป็นพระอินทร์)

และมีรูปปั้นแมงป่องยักษ์ เพื่อรำลึกถึงพระองค์เวา
(เวา ภาษาล้านนาแปลว่า แมงป่อง)

และมีพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ให้สักการะบูชา นอกจากนี้ยังมีจุดชมทัศนียภาพสองฝั่งสายด้วย
ปัจจุบันได้มีถนนขึ้นและลงดอยแล้ว เป็นถนนคอนกรีตอย่างดี
ใช้ได้ทุกฤดูกาล แต่ทางค่อนข้างชัน​

 

อิ่มแล้วคร๊าบบ ช่วงปีใหม่นี้ทานเยอะ น้ำหนักชักจะเริ่มขึ้นล่ะเซงง

 

ใช่ครับพี่ปู เป็นไม้แกะมาต่อเป็นพระพุทธรูปและรูปเหมือน สมเด็จโต ครับ

พระมหาเจดีย์ ๙ ชั้น “พบโชคธรรมเจดีย์” รูปทรงแปลกตาไม่เหมือนเจดีย์อื่น ๆ ลักษณะเป็นทรงแหลม ศิลปะคล้ายของจีนผสมผสานศิลปะล้านนา หลังคาสีแดงมีรูปปั้นมังกรประดิษฐานโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ บันไดทางขึ้นสองฟากเป็นมังกรทอดยาว ภายในเจดีย์ชั้น ๑ มีพระโพธิสัตว์กวนอิม หรือเจ้าแม่กวนอิมจำลองแกะสลักด้วยไม้ แต่ละชั้นในเจดีย์มีพระพุทธรูปประจำชั้นประดิษฐานอยู่เรียงราย ปัจจุบันกลายเป็น “สิ่งมหัศจรรย์” และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย

 

ขอบคุณครับ.....

 

ตัดผมออก น้ำหนักลดลงได้อีกหลายโลเลยยยยย

 

ขึ้นบ้าง ลงบ้าง จะเป็นไรไป...

 

บรรจุ...ไว้ในอัลบั้ม...(^__^)





















​

 

ออกไปรับเจ้านายก่อนครับ

 

หลวงปู่ทิม กฐิน55


เมื่อวันอังคารที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ ได้มีการประกอบพิธีรวมชนวนหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ทิมขึ้น ๘ ทิศหน้ารูปหล่อหลวงปุ่ทิม พร้อมทั้งประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธชินราชเพื่อสร้าง เป็นพระประธานใน โรงเรียนพระปริยติธรรมที่กำลังสร้างขึ้น มูลนิธิหลวงปู่ทิมได้ประกอบ พิธีเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรบัวรอบและเหรียญเจริญพรบน เจริญพรล่าง
ย้อนยุดโดยหล่อแบบโบราณด้วยการนำเอาชนวนพระกริ่งชินบัญชรรุ่นแรกและรุ่นต่อ ๆมาเป็นเชื้อชนวน จำนวน ๕๕๕ ชุด และเหรียญเจริญพรบน-ล่าง จำนวน 8,000 เหรียญ ตอกลำดับเลขทุกเหรียญ โดยนิมนต์ หลวงปู่คำบุ และ หลวงพ่อก๋งเตื่อง ร่วมกันเททองต่อหน้ารูปเหมือน หลวงปู่ทิม องค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่กำลังดำเนินการสร้างอยุ่
เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันมรณภาพครบ ๓๗ ปี ได้ประกอบพิธีทักษิณานุประทาน ระลึกถึงหลวงปู่ทิม พร้อมกับทอดผ้าป่าสามัคคีและประกอบพิธีหล่อรูปเหมือนชิ้นแรกของรูปหล่อหลวงปู่ทิมโดยมี นายประชา เตรัตน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาไทย อดีตนายอำเภอบ้านค่ายและผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเป็นประธานใน
งานนี้มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ได้นำพระกริ่งชินบัญชรบัวรอบ พระปิดตาปุ้มปุ่ย เหรียญเจริญพรย้อนยุด รูปเหมือนกาโม สมเด็จพรายดำ พรายขาวเข้าพิธีปลุกเสกอีกครั้งในมลฑลพิธี หล่อรูปเหมือนชิ้นแรกโดยสุดยอดพระเกจิอาจารย์ นั่งปรกปลุกเสก ๔ ทิศ ประกอบด้วย หลวงปู่คำบุ นั่งปรกทิศเหนือ หลวงพ่อก๋งเตื่องจากเกาะกงนั่งปรกทิศตะวันออก หลวงพ่อสิน วัดละหารไร่ นั่งปรกทิศตะวันตก และหลวงปู่อาด เทพเจ้าทะเลพัทยานั่งปรกทิศใต้ วัตถุมงคลชุดพระกริ่งบัวรอบที่มูลนิธิ เป็นผู้สร้าง จะนำออกให้บูชาแจกจ่ายให้ผุ้สั่งจองหลังวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ ไปแล้ว รายได้จะนำไปสมทบทุนสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกและใช้ในกิจการมูลนิธิฯ ต่อไป



วันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ หลวงปู่แขก หรือพระมงคลสุธี สุดยอดพระเกจิอาจารย์ เมืองพิษณุโลก เดินทางมามูลนิธิหลวงปู่ทิม เพื่อปลุกเสกเดี่ยวอีกองค์หนึ่งของวัตถุมงคลชุดพระกริ่งชินบัญชรบัวรอบ เหรียญเจริญพรย้อนยุคหล่อโบราณ เพราะชื่อท่านเป็นมหามงคล “พระมงคลสุธี” หลังจากนั่งปลุกเสกเตโชธาตุเป็นหลัก นานเกือบหนึ่งชั่วโมง ท่านได้พูดกับ อ.ชินพร ว่า “มาหาเธอนี้สะดวกจริงๆ ทางเปิดโล่งหมดทั้งที่การจราจรติดขัดเพื่อต้อนรับโอบามา” หลวงปู่แขกพูดต่ออีกว่า “สถานที่ของเธอนี้ก็ศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว” เสร็จแล้วท่านได้ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ ท่านต้องเดินทางไปวัดพระแก้วต่อทันที่ได้รับโทรศัพท์จากศิษย์ใกล้ชิดว่าหลวงปู่แขก หรืออีกนามว่าพระมงคลสุธีจะเดินทางไปวัดพระแก้วท่านจะแวะมาที่มูลนิธิหลวงปู่ทิมก่อน ประธานมูลนิธิหลวงปู่ทิมจึงทำพิธีอัญเชิญหลวงปู่ทิม ครูบาอาจารย์ เทพพรหมขอให้มาร่วมพิธี ในพิธีนี้มีท่านผู้รู้ได้กล่าวว่าก่อนที่พระมงคลสุธีจะมาถึงมีเทพยดาอารักษ์มาร่วมพิธีด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขี้น
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน มณฑลพิธีได้นำชุดพระกริ่งชินบัญชรบัวรอบ เหรียญเจริญพรบน – ล่าง หล่อโบราณ รูปหล่อโบราณและพระชุดที่จะมอบให้กับผู้ทำบุญทอดกฐินสามัคคีวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ที่วัดละหารไร่มาปลุกเสกอย่างเข้มขลังอีกครั้งหนึ่ง
การเททองหล่อรูปเหมือนชิ้นแรกครั้งนี้จึงเป็นการปลุกเสกวาระที่ ๔ วัตถุมงคลชุดนี้จะปลุกเสกให้ครบ ๕ ครั้ง โดยครั้งที่ ๕ หลวงปู่บัว วัดเกาะตะเคียน สุดยอดเกจิอาจารย์ของภาคตะวันออกรับปากจะปลุกเสกเดี่ยวให้ที่วัดเกาะตะเคียน จ.ตราดในวันอันเป็นมหาชัย ซึ่งเป็นวาระสุดท้าย โดยหลวงปูบัวจะรวมธาตุตั้งธาตุทั้ง ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ และธาตุทองให้ยังเกิดเป็นรูป นามอันศักดิ์สิทธิขึ้นตามแบบฉบับหรือตำราดังเดิมของหลวงปู่ทิม ซึ่งเหมือนกับพิธีการอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่บัวเช่นกัน



เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ หลวงปู่บุญมาก็ทำพิธีปลุกเสกเดี่ยว องค์เดียวโดดๆ นานเกือบชั่วโมง ต่อหน้ารูปเหมือนหลวงปู่ทิมเท่าองค์จริงและต่อหน้าเจ้าแม่กวนอิม เมือประพรมน้ำมนต์ และโปรยข้าวตอกอกไม้ แล้ว ระหว่าง นักพักผ่อนท่านเมตตาลงนะให้บรรดาลูกศิษยหลว งปู่ทิม อยู่นานจึงเดินทางกลับชุมพร วัตถุมงคลชุดบัวรอบ จากชนวนพระกริ่งชินบัญชรจึงสำเร็จ บังเกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ตามแบบโบราณจารย์น่าจะเป็นอมตะพระเครื่องในอนาคตอีกชุดหนึ่ง หลวงปู่บุญมาท่านฉันเจอย่างเคร่งครัดมาตลอดดุจเดี่ยวกับหลวงปู่ทิม

 

สวัสดียามเย็นคุณปู คุณโญ คุณเอ็ม คุณนอร์และทุกๆท่าน
พระภาคเหนือ หลวงปูแหวน สุจิณโน

 

สวัสดีครับพี่ตี๋ ร่วมแจมหลวงปู่แหวน

 

​

 

เอามาแจม...pity_pig





​

 

อีก ๑ องค์





​

 

สวยครับ...เนื้ออะไรครับ