อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    พระภาคเหนือ
    ครูบาสร้อย ขันติสาโร วัดมงคลคีรีเขต ท่าสองยาง ตาก ออกที่บุรีรัมย์


    [​IMG]
    [​IMG]
     
  2. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    [​IMG]

    ครูบาสร้อย ครูบาศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านมะตะวอ
     
  3. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    จะเลิกงานหรือยังครับคุณเอ๊ะ
     
  4. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***สวัสดีครับ ทุกๆท่าน
    เว็ป ดีแล้วเข้าได้แล้ว เอิ๊กเอิ๊ก***
     
  5. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]
    พระพิมพ์ขุนแผน
    พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงพิมพ์นี้ออกที่วัดหาดทรายแดง ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

    สร้างโดยพระอาจารย์ไพรวัลย์ ชยทตฺโต
    อธิฐานจิตปลุกเสกโดยพระอาจารย์ไพรวัลย์นานหลายเดือน อธิฐานจิตปลุกเสกโดยหลวงพ่อนิยม วัดตะเคียนเตี้ย พระเกจิดังแห่งเมือง ชลบุรี 2 ชม.เต็ม ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2549

    และเข้าพิธีพุทธาภิเษกเต็มรูปแบบที่วัดหาดทรายแดง ในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ 2549 พระเถระผู้อธิฐานจิตมี
    หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ระยอง
    หลวงพ่อดำ วัดเขาพูลทอง จันทบุรี และ
    พระอาจารย์ไพรวัลย์ ชยทตฺโต
    เป็นพระเครื่องที่เปรียบได้ดั่งช้างเผือก เพราะสร้างด้วยเจตนาที่ดี คือเพื่อแจกจ่ายแก่พุทธศาสนิกชนที่เข้าไปทำบุญที่วัด

    นับจากวันเริ่มสร้างมาจนบัดนี้ ลูกศิษย์ที่ห้อยคอบูชาอยู่ต่างพบเจอประสบการณ์ต่างๆที่ดีมากมาย ครบเครื่องทั้งมหานิยม เมตตา ทำมา

    ค้าขายดี เจ้านายรักชอบ แคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ

    [​IMG]


    มวลสารที่ใช้สร้างองค์พระต้องถือว่า ในภาคตะวันออกสุดยอดไม่แพ้ใครเพราะประกอบไปด้วย
    1.ผงจินดารูปทอง มีคุณด้านเมตตา มหานิยม
    2.ผงปัถมัง
    3.ผงสิบสองนักษัตร
    4.ผงมหาระงับ
    5.ผงพุทธคุณ ที่รวบรวมมาจากครูบาอาจารย์ทั่วทุกภาคของเมืองไทย
    6.ผงกาฝาก ผงไม้มะรุม ผงไม้มะยม ผงไม้กาหลง
    7.ผงสุริยันต์จันทรา ที่ใช้ปั๊มองค์จตุคามรุ่นแรกปี 30
    8.ผงปัฐวีฐาตุ หลวงปู่คำพันธ์
    9.มวลสารของพระเครื่องจากหลวงปู่ครูบาอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน
    10.ผงวิเศษแห่งภาคตะวันออก คือผงพรายกุมาร ของหลวงปู่ทิม อิสรโก เป็นผงพรายกุมารแท้ๆล้านเปอร์เซ็นต์ ผสมลงไปจำนวนมากๆๆ
    ฯลฯ
    คัดลอกมาจากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ของพระอาจารย์ท่านหนึ่ง
     
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,071
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG] [​IMG]

    หลวงปู่ทวด พ.ศ 2508 สร้างโดยพระครูวิสัยโสภณ (ทิม ธัมมธโร) แห่งวัดช้างให้(วัดราษฎร์บูรณะ) ตำบลบ้านไร่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โดยมีพระครูวิสัยโสภณเจ้าอาวาสวัดช้างให้เป็นประธานในพิธีบริกรรม ได้อาราธนาอัญเชิญดวงวิญญาณหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดมาให้ท่านประสิทธิ์ ประสาทความขลัง แก่พระเครื่อง เสร็จแล้วจึงได้แจกจ่ายให้ชาวบ้านนำไปสักการะบูชา

    รุ่นนี้ได้ชื่อว่า “รุ่นทะเลซุง” เนื่องจากปีนั้น (พายุเกย์) เข้าทำให้เกิด อุทกภัยภาคใต้ เกิดดินถล่มทำให้ท่อนซุงไม้ได้ไหลมาตามดิน ทำให้มีผู้เสียชีวิตเยอะมาก แต่มีผู้ที่รอดชีวิตได้ใช้พระรุ่นนี้ จึงเป็นที่เชื่อกันว่าเพราะบารมีของหลวงพ่อทวด จึงเรียกรุ่นนี้ว่า รุ่นทะเลซุง ครับ
     
  7. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    น้อมกราบครูบาสร้อย ด้วยเศียรเกล้า..
     
  8. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ยินดีกับคุณปูด้วยครับ..เขาเล่ากันว่า ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สุข ธมมโชโต วัดโพธิ์ทรายทอง อ.ละหารทราย จ.บุรีรัมย์
     
  9. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    มิน่าคุ้นๆว่าพี่เอ๊ะ เคยบอกว่าศิษย์หลวงปู่สุข เขาเก็บพระครูบาสร้อยกัน พระครูบาสร้อยนี่โชคดีได้ไปเช่ามาจากวัดพร้อมได้เข้ากราบครูบาด้วยมีโอกาสได้ไปครั้งเดียว รอบๆวัดมีหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงที่สร้างบ้านอยู่ตามไหล่เขาเหมือนที่ในหนังไปถ่ายมา

    รู้สึกว่าท่านจะเป็นญาติกับหลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรีด้วยนะคร๊าบบ
     
  10. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    หลวงพ่อเงินกับสอนเสือผาด ทับสายทอง


    ขึ้นชื่อว่า เสือผาด ทับสายทอง แล้ว คนในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ระหว่าง พ.ศ.2484 ถึง พ.ศ.2490 ย่อมจะรู้จักกันดี เป็นตำนานกล่าวขานมาจนทุกวันนี้

    บางคนเรียกชื่อเขาว่า "ขุนโจร 7 จังหวัด" เพราะเขามีชื่ออยู่แถวจังหวัด นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และจังหวัดธนบุรี ทั้ง 7 จังหวัดนี้ เป็นแดนปล้น เป็นแดนอิทธิพลของเขาโดยตลอด อย่างน้อยเสือเล็ก เสือน้อย ที่เรียกว่าเสือปลา ไม่ใช่เสือโคร่งลายพาดกลอน ก็อ้างชื่อเสียงของเขาออกหากินด้วย

    ส่วนใหญ่ จะไม่กล้าออกชื่อเขา มักจะออกชื่อกันว่า "คุณพระ" คำว่า "คุณพระ" เป็นชื่อที่ชาวนครปฐมทั่วไปเรียกชื่อเขาลับหลัง เป็นที่รู้กันว่า หมายถึง เสือผาด ทับสายทอง คนกลัวเขาขนาดไม่เรียกออกชื่อเขาทีเดียว เพราะไม่รู้ว่าจะถึงหูเสือผาดเข้าเมื่อไร และจะถูกฆ่าตายเมื่อไรก็ไม่รู้ตัว พูดกันถึงขนาดที่ว่า ข้าราชการ ตำรวจ ก็กลัวเสือผาด เป็นลูกน้อง หรือเป็นสายเสือผาดเกือบทุกคน

    เสือผาดทำนา เสือผาดเกี่ยวข้าว เพียงแต่บอกกันว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกี่ยวข้าวเสือผาด คนก็จะเดินทางไปช่วยเกี่ยวข้าวกันหัวดำเต็มท้องนา ไม่ต้องไหว้วานกันเลย ทุกคนถือเคียวไปช่วยกันเกี่ยวข้าว นวดข้าวให้เสือผาด

    เสือผาดจะมีนาหรือไม่ ไม่สำคัญ เพียงแต่บอกว่านาทุ่งนี้เป็นของเสือผาดเท่านั้นคนก็จะไปช่วยไถ ช่วยเกี่ยวข้าว ช่วยนวดให้จนจบสิ้น โดยไม่มีใครกล้าไปสอบถามอะไรกันอีก ว่าเสือผาดอยู่ที่ไหน เพราะว่าไม่มีใครเคยเห็นตัวเสือผาด ได้ยินแต่ชื่อก็กลัวเสียแล้ว

    ขณะนั้น ผู้เขียนรับราชการอยู่ที่อำเภอกำแพงแสน อันเป็นแดนอิทธิพล หรือพื้นที่สีดำของเสือผาด ผู้เขียนรู้เรื่องราวของเสือผาดมากจนกลัวเสือผาดเหมือนกัน

    วันหนึ่ง ขี่จักรยานไปอำเภอกับ นายพิณ กันตะเพ็ง ศึกษาธิการอำเภอกำแพงแสน พบคนถูกยิงตายนอนอยู่ระหว่างทาง เป็นชายหนุ่มอายุสัก 19-20 ปี คนก็กระซิบบอกว่า เมื่อคืนนี้เสือผาดพาลูกน้องเดินทางไปปล้น แต่สงสัยความไม่ซื่อสัตย์ของลูกน้อง จึงยิงทิ้งเสียก่อนเข้าปล้น

    วันหนึ่งตอนเช้าตรู่ มีคนรายงานกับนายอำเภอ ร.ต.ต.สุขศรีเพ็ญ ว่า ส.ต.ท.จำเนียร ภักดีเจริญ ถูกยิงตาย ที่ตำบลห้วยขวาง นายอำเภอไปชันสูตรพลิกศพ ข้าพเจ้าก็ไปด้วย พบ ส.ต.ท. จำเนียร นอนตายอยู่ มีปืนพกตกอยู่ข้างตัว เป็นปืนที่ ส.ต.ท. จำเนียร ยิงต่อสู้จนตัวตายในสภาพนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว เพราะไปนอนอยู่บ้านเมียน้อย เขาเล่าว่าผู้ร้ายที่เข้ามายิง ส.ต.ท.จำเนียร ได้เข้าเหยียบหน้าอก ส.ต.ท.จำเนียรแล้วร้องว่า

    "อ้ายเนียร มึงรู้จักกูไหม ?"

    เขาพูดว่าผู้ร้องถามนั่นคือเสือผาด

    แล้วเขาก็ยิง ส.ต.ท. จำเนียร ตายกลิ้งอยู่ในบ้านเมียน้อย ไม่ทำอันตรายใคร ไม่แตะต้องทรัพย์สินอะไรเลย

    มูลเหตุของเรื่องก็คือ ฆ่าล้างแค้นของเสือผาด ฆ่าแม้แต่ตำรวจ

    เรื่องมีอยู่ว่า นายจำรูญ น้องชาย ส.ต.ท. จำเนียร ลูกชายขุนภักดี ห้วยพระ คหบดีมั่งคั่งในตำบลสามง่าม ถูกโจรปล้น จับตัวไปยิงทิ้งที่ทุ่งนา นายจำรูญตายในลักษณะนุ่งกางเกงในตัวเดียว ส.ต.ท.จำเนียร เห็นน้องชาย ถูกฆ่าตายในลักษณะน่าทุเรศเช่นนั้นก็ประกาศว่า จะต้องตามฆ่าโจรก๊กนี้ให้จงได้ ส.ต.ท.จำเนียร สืบทราบว่าก่อนปล้นโจรคณะนี้ได้มากินเหล้าวางแผนกันที่บ้านคน ๆ หนึ่งในตอนหัวค่ำ ส.ต.ท.จำเนียร จึงให้ระบบแก้แค้น โดยใช้กฎหมายเถื่อน จับชายเจ้าของบ้านไปยิงทิ้งตรงที่ ๆ ที่นายจำรูญ น้องชายนอนตายอยู่ เป็นการล้างแค้น

    ต่อมาไม่กี่วัน ส.ต.ท.จำเนียร ก็ถูกฆ่าตายไป ผู้ยิงอก ส.ต.ท.จำเนียร ขึ้นเหยียบอก แล้วร้องถามว่า

    "อ้ายเนียร มึงรู้จักกูไหม ?"

    ท่านขุนภักดีห้วยพระ (กิ้ว ภักดีเจริญ) เห็นว่าขืนต่อสู้กันต่อไปก็จะตายไปไม่สิ้นสุด เสียลูกชายไป 2 คนแล้ว คนต่อไปไม่รู้ว่าใคร จึงได้ตกลงหย่าศึก พิธีหย่าศึกทำขึ้นที่บ้าน นายนนท์ ตำบลห้วยขวาง ขุนภักดีห้วยพระ นัดพบเสือผาด ทับสายทอง ที่บ้านนายนนท์ซึ่งเป็นคนของเสือผาด กินเหล้าสาบานกันว่าจะเลิกแล้วต่อกัน เรื่องจึงสงบลงได้

    นายนนท์ คนนี้ ข้าพเจ้ารู้จัก บิดามารดาของข้าพเจ้าก็รู้จัก คุ้นเคยกันดี รูปร่างอ้วนใหญ่ ดำ ตาเข หน้าตาเป็นนักเลงน่าเกรงขาม แม่ของข้าพเจ้าเล่าว่า นายนนท์ ดำใหญ่คนนี้เป็นลูกชายของ นายนนท์ขาว ชาวตำบลตาก้อง ทำแม่นายนนท์ท้อง แล้วไม่รับเป็นลูก แม่นายนนท์โกรธแค้นมาก เมื่อลูกชายเกิดมาจึงตั้งชื่อว่า นายนนท์ เหมือนชื่อพ่อ ได้ชื่อว่าเป็นคนดุเป็นนักเลงอิทธิพลคนหนึ่ง แต่เป็นคนของเสือผาด

    เมื่อเสือผาด ทับสายทอง พาพรรคพวกไปปล้นที่ตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และเป็นการปล้นครั้งสุดท้ายถูก พล.ต.ท.ประชา บูรณธนิต วางแผนพิชิตได้ นายนนท์ คนนี้แหละที่ได้เอารถยนต์บรรทุก 10 ล้อของ นายศิลปชัย คนตำบลพะเนียงแตก เดินทางไปรับพวกปล้นของเสือผาด นายนนท์ นั่งคุมรถไปให้ นายศิลปชัย เป็นคนขับ เมื่อถึงตำบลหนองดินแดง ถูกตำรวจดักจับตามทาง จึงได้ยิงนายนนท์ กับนายศิลปชัย ทิ้งเสียข้างทางเอาน้ำมันราดแล้วเผาเสียเรียบร้อยในคืนนั้น

    นายเท่ง คนไว เป็นนายตรวจรถยนต์ อยู่ที่ตำบลตาก้อง วันหนึ่งนั่งเก้าอี้อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ก็มีคนเดินเข้ามาหาสองคน ส่งจ.ม.ให้นายเท่ง นายเท่งกำลังอ่าน จ.ม.อยู่ ก็ถูกชายคนนั้นยิงหัวนั่งตายคาเก้าอี้ คนร้ายเดินออกไปอย่างลอยนวล เขาว่าเสือผาด ส่งลูกน้องมายิงทิ้งเสียด้วยเหตุที่นายเท่งไปยิงคนของเสือผาดตายไปก่อน ชื่อนายสงวน ถูกยิงศีรษะนั่งตาย น่าประหลาดที่นายเท่ง คนไว ก็นั่งตายคาเก้าอี้ที่บ้านนายหลง ชาวไร่เงิน

    แต่ผู้เขียนก็รู้จักวงศ์สกุลของเสือผาดอยู่บ้าง พ่อของผู้เขียนรู้จักนายจรูญ ทับสายทอง บ้านคันลำอยู่แถวหลังองค์พระปฐมเจดีย์ เมื่อเป็นเด็กวัดห้วยจระเข้ พ่อก็เอาข้าพเจ้าไปฝากไว้กับหลวงตาปาน ทับสายทอง อาชายของเสือผาดคนหนึ่ง หลวงตาปานองค์นี้เคยเป็นทหารมียศเป็นสิบโท แล้วมาบวช บวชแล้วก็ยังชกมวย ซ้อมชกมวยอยู่เสมอ วันหนึ่งพระองค์หนึ่งมานั่งปัสสาวะอยู่บนชานกุฏิ หลวงพ่อปานเห็นเข้าก็โกรธ โดดเข้าเตะพระองค์นั้นศีรษะคะมำตกกุฏิไป หลวงตาปาน ทับสายทอง รูปร่างกำยำ แข็งแรง ตกค่ำท่านจะตีกลองยาว รำกลองยาวให้ดู แล้วก็รำมวยให้ดูด้วย

    นายแสวง บุญทองดี อนามัยอำเภอเมืองสมุทรสงครามก็เป็นลูกหลานของท่าน แต่เปลี่ยนนามสกุลไปใช้อย่างอื่นภายหลัง

    ข้าพเจ้ามีเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อประชาไม่อยากใช้นามสกุล ทับสายทอง ขอให้เปลี่ยนนามสกุลให้ ข้าพเจ้าถามว่า พ่อคุณชื่อไร เขาบอกว่าชื่อมิ่ง ข้าพเจ้าก็เลยตั้งนามสกุลให้ว่า "ครูประชา มิ่งมนตรี" เขาเป็นครูอยู่อำเภอกำแพงแสนสมัยนั้น

    นายผาด ทับสายทอง มีน้องชายคนหนึ่ง ชื่อ พุ่ม ทับสายทอง เป็นนักเลง ชอบดื่มเหล้า ใครอยากจะให้ตีหัวใครก็ขอเหล้าขวดเดียว แล้วเขาก็จะตีหัวให้ หรือชกหน้าให้ตามต้องการ

    คราวหนึ่ง เขาฝากชื่อไว้ในแผ่นดินสยาม โดยเขาถือปืนเข้าไปดักยิงจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่สนามหลวง แต่ยิงพลาด ไม่ถูกที่สำคัญ แต่ก็ยิงถูก และถูกตัดสินจำคุก

    เล่าเรื่องเสือผาดประกอบ ก็เพื่อจะบอกว่า เสือผาด ทับสายทอง ก็เป็นศิษย์นอกครู ลูกนอกคอก ของหลวงพ่อเงิน

    เสือผาด เริ่มมีชื่อมาตั้งแต่ปล้นฆ่า ร.ต.ต.เจี่ย แสงโชติ บิดาของ พล.ต.ต.จุมพล แสงโชติ (นายพลตำรวจตรีคนนี้ เป็นเพื่อนนักเรียนชั้นเดียวกับผู้เขียน และนายชื่น ทักษิณานุกูล เมื่อเรียนอยู่ที่โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย)

    เสือผาด ถูกจับได้ ติดคุกอยู่หลายปี พอออกจากคุกก็ปล้นอีก เสือฮุย เสือเภา เพื่อนเสือด้วยกัน ถูกตำรวจยิงตาย เสือผาดหลบหนีรอดไปได้

    คราวหนึ่ง นายจรูญ ผาสุกวณิชย์ นายอำเภอเมืองนครปฐมพร้อมด้วยนายศักดิ์ เศรษฐบุตร ปลัดอำเภอ และตำรวจ เข้าล้อมจับที่ตำบลหนองขาหยั่ง เสือผาดแอบอยู่ในห้องเจ้าหน้าที่ค้นจนทั่วไม่เห็นเขา

    อีกครั้งหนึ่งเสือผาด กำลังอยู่ในวงการพนัน เล่นโปกัน ที่บ้านวังน้ำขาว ส.ต.ท.ทัพ เนาวรัตน์ นำตำรวจ 20 คน เข้าล้อมจับเสือผาดนั่งอยู่ ตำรวจหลายคนไม่เห็นเขา

    อีกครั้งหนึ่ง เดินสวนกับ ร.ต.ต.ประสิทธิ์ วทานนท์ และพลตำรวจไสวที่สนามบินต้นสำโรง ตำรวจยิงด้วยปืนยิงเร็วในระยะเผาขน จนฝุ่นกลบตัวแต่ไม่ถูกเสือผาด เสือผาดหายตัวไปข้าง ๆ เนินดินในเวลากลางวันแสก ๆ

    ครั้งสุดท้ายที่เขาปล้นที่ตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่ง พ.ต.ท.ประชา บูรณะธนิต ได้อำนวยการสืบสวนและวางแผนซ้อนกลส่งคนเข้าเป็นพวกปล้นด้วย ได้เกิดยิงต่อสู้กันกับตำรวจที่ส่งกำลังไปล้อม จนนายตำรวจชั้นร้อยตำรวจโท ตายไปคนหนึ่ง แต่เสือผาดหนีไปได้ไม่บาดเจ็บ เมื่อถูกล้อมจับจนมุมในทุ่งนา เสือผาดก็ถอดเอาพระเครื่องออกโยนทิ้ง แล้วระเบิดสมองตัวเองตายไป ไม่ใช่ตำรวจยิงตายแต่อย่างใด เสือผาดได้ออกปล้นมานับสิบ ๆ ครั้ง ถูกตำรวจยิงหลายครั้ง แต่หนีรอดไปได้ทุกครั้ง จนเป็นที่เลื่องลือกันแม้ในหมู่ตำรวจว่า เสือผาดมีของดี

    ครั้งหนึ่ง พล.ต.ต.เนื่อง อาขุบุตร และ พ.ต.อ.สะอาด รัชตะประกร ได้ติดต่อขอให้เสือผาดเข้ามอบตัว เสือผาดก็เข้าพบสนทนาด้วย

    ครั้งหนึ่ง พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจติดต่อขอพบ เขาก็เข้าพบที่พระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่ข้างสนามหลวง ได้พบและสนทนากันแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็รักษาวาจาสัตย์ ไม่ทำร้ายกัน แล้วต่างคนก็ต่างแยกกันกลับไป

    คราวที่นัดพบกับนายตำรวจใหญ่นั้น ตำรวจใช้หลวงพ่อเงินเป็นสื่อนัดพบ คณะที่ไปพบเสือผาดมี พล.ต.ต.เนื่อง อาขุบุตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 7 นครปฐม พ.ต.อ.สะอาด รัชตะประกร ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นายทองสุก สุวัตถี นายอำเภอเมืองนครปฐม นายหล่อ สีละชาติ ศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม และ นายชื่น ทักษิณานุกูล ลูกศิษย์และลูกบุญธรรมของหลวงพ่อเงิน โดยนายชื่น ทักษิณานุกูล ได้ล่วงหน้าไปก่อน ได้ไปพบกับนายจันทร์ ชาวบ้านตำบลดอนยายหอม และได้พบกับเสือผาดที่นั่น แล้วจึงพาเสือผาดมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่หน้าโบสถ์วัดดอนยายหอม โดยมีหลวงพ่อเงิน เป็นประธานอยู่ด้วย

    เมื่อเสือผาดได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับผู้บังคับการ ตำรวจภูธรเขต ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัด เขาก็ยิ้มอย่างใจเย็น แล้วสารภาพว่าเขาได้ปล้นฆ่าที่ไหนมาบ้าง แล้วเสือผาดก็คุยกับหลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเงินจึงถือโอกาสพูดเทศนาสั่งสอน โดยไม่ต้องติดกัณฑ์เทศน์ว่า

    "เสือผาดนี้ก็เหมือนคนที่ขุดบ่อ ยิ่งขุดก็ยิ่งลงลึกลงไปทุกที ตัวก็จงลงไปทุกที หนักเข้าก็ลึกจนขึ้นไม่ได้ ได้แก่คนที่ทำบาปกรรมไว้ เป็นที่เกลียดกลัวของมหาชน และเป็นที่ต้องการของเจ้าหน้าที่ ทางที่ดีควรจะหยุดขุดบ่อฝังตัวเอง นานเข้าความชั่วที่ทำไว้ก็จะลืมเลือนไป จากความเกลียดกลัวของประชาชน ก็จะกลายเป็นคนดีได้อย่างสนิทเหมือนบ่อที่ขุดไว้ นานปี ธรรมชาติก็ช่วยกลบเกลื่อนให้หลุมตื้นขึ้นเป็นชั้นเสมอกับพื้นดินเดิม"

    "เสือผาดก็เป็นคนไทย นับถือพระพุทธศาสนา ตัวเสือผาดเองก็มีคุณพระแขวนคอ คุ้มตัว จนคนทั่วไปเรียกชื่อว่า "คุณพระ" ขึ้นชื่อว่าเบียดเบียนชีวิตและทรัพย์สินของคนอื่นเป็นบาป จงสลัดบาปออกเสีย หันมาทำดี ก็จะเป็นโอกาสอันดี เจ้าหน้าที่เขาก็จะผ่อนผันโทษหนักให้เป็นเบาได้"


    เสือผาดก็รับคำว่า จะขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ แต่เขายังมีภาระรุงรังอยู่ขอไปจัดการให้เรียบร้อยเสียก่อน

    เมื่อคุยกันถึงเรื่องธุระเสร็จแล้ว พล.ต.ต.เนื่อง อาขุบุตร ซึ่งเป็นผู้สนใจทางพระเครื่องอยู่ ก็คุยถึงเรื่องพระเครื่อง ต่างคนต่างนำออกอวดกัน เสือผาดก็ควักออกมาอวดบ้าง

    "พระเครื่องของผมก็ศักดิ์สิทธิ์นักเคยเข้าตาจนมาแล้วหลายครั้ง อาราธนาพระองค์นี้ช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัยมาทุกครั้ง พระองค์นี้ไม่ใช่อยู่ยงคงกะพันอย่างเดียว ยังใช้ในทางแคล้วคลาด และกำบังตัวได้ด้วย เวลาทิ้งพระองค์นี้ลงไปในน้ำที่ขุ่น น้ำตรงนั้นจะเกิดช่องว่างใสเป็นทางลงไป จนถึงดินที่พระองค์นั้นนอนอยู่ทีเดียว"

    เสือผาดย้ำว่า

    "จะทดลองเดี๋ยวนี้ก็ได้"

    พระเครื่องดินเผาองค์นั้น เป็นพระเครื่องของหลวงพ่อรุ่งอาจารย์ของหลวงพ่อเงิน ซึ่งหลวงพ่อเงินก็มีติดตัวอยู่องค์หนึ่ง คราวเดินธุดงค์ก็นำติดตัวไป

    หลวงพ่อรุ่งองค์นี้ บวชอยู่วัดดอนยายหอม มีชื่อว่าเป็นพระอาจารย์ขลัง ไม่ได้เป็นสมภารเจ้าวัดอะไร ชอบทางวิทยาคม มีคนยกย่องว่าเก่งทางคาถาอาคม ชอบไปทางเวทย์มนต์คาถา มีเครื่องมือในการทำเครื่องรางของขลังพร้อม เหล็กสัก เหล็กจาร หลอดไม้รวก สำหรับลงตะกรุด ลูกอม สักให้แล้วก็ทดลองใช้มีดดาบฟันทันที หลวงพ่อรุ่งเก่งอีกทางหนึ่งคือให้หวย เมื่อหลวงพ่อเงินบวชใหม่ ๆ เคยให้หลวงพ่อเงินไปช่วยนั่งบริกรรมปลุกเสกพระ และเครื่องรางในโบสถ์

    ในชีวิตของหลวงพ่อรุ่ง ได้ทำพระดินเผาไว้ประมาณ 10 องค์ เป็นดินเผาสีแดง ที่เสือผาดใช้เป็นพระเครื่องรางคุ้มตัวอยู่นั้นองค์หนึ่ง และมีที่หลวงพ่อเงินอีกองค์หนึ่ง เสือผาดมีอาจารย์เดียวกับหลวงพ่อเงิน จึงมาเคารพนับถือหลวงพ่อเงินเป็นครูอาจารย์อีกองค์หนึ่ง

    แต่ดูเหมือนเสือผาดจะเสียสัตย์ที่ได้ลั่นวาจาไว้ต่อหน้าหลวงพ่อเงินว่าจะมอบตัว แต่ไม่ยอมมอบตัว จึงได้จบชีวิตลงที่ตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่งในเวลาต่อมา โดยยิงตัวเองตายในที่ทุ่งนา แล้วตำรวจก็ตัดหัวมาเสียบประจานไว้ข้างองค์พระปฐมเจดีย์ วันนั้นข้าพเจ้าได้ข่าวจึงรีบเดินทางไปดู ได้เห็นหัวเสือผาดถูกตัดแค่คอเสียบไว้ เหมือนหัวโขน หรือหัวละคร หลังโรงหนัง โรงละคร

    ถึงแม้ว่าชีวิตของเสือผาด จะไม่ได้ทำคุณงามความดีไว้ให้แก่ใคร นอกจากให้ความคุ้มครองป้องกันพรรคพวกของตัวไว้ไม่ให้ใครข่มเหงรังแก เสือผาดก็ฆ่าแก้แค้นให้ทันทีทันควัน ก็ดูเหมือนว่ามีคุณงามความดีอยู่แค่นั้น

    แต่สิ่งหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครนึกถึงเลย ก็คือ เสือผาดได้สร้างคุณงามความดีให้แก่ตำรวจทางอ้อม หลังจากเสือผาดตายแล้ว ตำรวจที่ไปล้อมจับคราวนั้น ที่เคยปากสั่น ขาสั่น มิ่งขวัญหายเพราะกลัวตายก็กลายเป็นผู้กล้าหาญไปทั่วหน้า พบหน้าใครก็คุยเขื่องเรื่องปราบโจรปล้นคุ้งพยอมล้อมจับเสือผาด บ้างก็คุยว่าเสือผาดตายเพราะลูกปืนจากปากกระบอกของตน หลายคนได้เลื่อนยศกันคราวนั้น แม้แต่ พ.ต.ท.ประชา บูรณะธนิต ก็ได้เลื่อนยศขึ้นเป็น พันตำรวจเอก ในคราวนั้นด้วย คงจะพอกล่าวได้ว่า เสือผาดสร้างคุณงามความดีไว้ให้แก่ตำรวจทางอ้อม

    และเรื่องเสือผาด ทับสายทอง มีชื่อหลวงพ่อเงินเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ด้วยโดยทางตำรวจขอร้องให้ท่านเป็นสื่อ เป็นประธานในการนัดพบพูดจากันกับเสือร้าย 7 จังหวัด ชื่อ ผาด ทับสายทอง หรือที่มีสมญานามด้วยความเกรงกลัวว่า "คุณพระ"

    สมัยเสือผาด ทับสายทอง มีชีวิตอยู่ ไม่มีใครกล้าออกชื่อเสือผาดเรียกกันว่า "คุณพระ"

    ส่วนข้าพเจ้าไม่ค่อยกลัวเสือผาด ทับสายทอง เพราะข้าพเจ้าเป็นลูกศิษย์ของของหลวงตาปาน ทับสายทอง วัดห้วยจระเข้ ซึ่งเป็นอาของเสือผาด ทับสายทอง แล้วยังมีเพื่อนอีกคนหนึ่งเขาไม่อยากใช้นามสกุลทับสายทอง ข้าพเจ้าจึงตั้งนามสกุลให้ว่า "มิ่งมนตรี" เพราะพ่อเขาชื่อ มิ่ง ทับสายทอง


    ที่มา: ตั้มศรีวิชัย
     
  11. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    [​IMG]

    เหรียญเสมา หลวงปู่เอี่ยม วัดโคนอน ปี15

    ในปี พ.ศ.2515 ทางวัดโคนอนได้ดำเนินการจัดสร้างอุโบสถหลังใหม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ จึงได้จัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตขึ้น และได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อเป็นที่ระลึกและสมนาคุณแก่ผู้ร่วม บริจาคตั้งกองทุนบำรุงรักษาอุโบสถ และกองทุนถวายภัตตาหารพระภิกษุ สามเณร หนึ่งในวัตถุมงคลที่จัดสร้างในครั้งนั้นมีเหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงปู่เอี่ยม อดีตเจ้าอาวาสวัดโคนอน และอดีตเจ้าอาวาสวัดหนัง รุ่นปี พ.ศ.2515 ด้านหลังได้ใส่อักขระเลขยันต์ตามแบบที่หลวงปู่เอี่ยมได้ใส่ไว้ในเหรียญปั๊ม รูปเหมือน หลังยันต์ห้า ปี พ.ศ.2469 ซึ่งออกที่วัดหนัง ชนวนมวลสารอันสำคัญ คือ แผ่นทองจารอักขระของพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณในสมัยนั้น อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว กรุงเทพฯ หลวงพ่อมิ่ง วัดกก กรุงเทพฯ หลวงพ่อกรับ วัดโกรกกราก สมุทรสาคร หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา นครปฐม หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ หลวงพ่อโด่ วัดนาตูม ชลบุรี หลวงพ่อพัฒน์ วัดบ้านบึง ชลบุรี หลวงพ่อหอม วัดชานหมาก ระยอง หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ เป็นต้น

    [​IMG]

    ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกและชัยมงคลภิเษก ณ อุโบสถวัดโคนอนในงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต โดยหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธาน
    หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช พระนครศรีอยุธยา
    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา สมุทรสาคร
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
    หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว กรุงเทพฯ
    หลวงพ่อมิ่ง วัดกก กรุงเทพฯ
    หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
    หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
    หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
    หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม ชลบุรี
    หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
    หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
    หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธินิมิตร กรุงเทพฯ
    หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
    หลวงพ่อแจ๋ วัดคลอง 20 ฉะเชิงเทรา
    หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี
    หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน พิจิตร
    หลวงพ่อผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิฯ กรุงเทพฯ
    หลวงพ่อหอม วัดชานหมาก ระยอง
    พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปัตตานี
    หลวงพ่อมุม วัดนาสัก ชุมพร
    หลวงพ่อมุม วัดปราสาท ศรีสะเกษ
    พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา พัทลุง
    พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช
    หลวงพ่อเพิ่ม วัดจักรวรรดิฯ กรุงเทพฯ
    หลวงพ่อช้วน วัดหนัง กรุงเทพฯ
    หลวงพ่อเล็ก วัดหนองดินแดง นครปฐม ฯลฯ


    ที่มา: เชียงรายโฟกัส



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2014
  12. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    สวัสดียามเช้าครับพี่วรรณ พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่รุ่ง คุณบอย นอร์ น้องโอ๊ต น้องเอ็ม น้องเขี้ยว น้องนิก คุณตั้น คุณหมอ คุณhmoomoo คุณsellcat คุณEYEOFVENUS และพี่ๆน้องทุกท่าน ขอบคุณทุกภาพสวยๆและเรื่องราวดีๆจากทุกท่านครับ
     
  13. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดียามเช้า คุณปู คุณโญ คุณนอร์ คุณเอ็ม คุณรุ่ง ตุณบอยและทุกๆท่าน
    ยามเช้าอากาศหนาวอีกแล้วครับ
     
  14. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    อรุณสรัสดิ์ครับพี่ปู พี่ตี๋ใหญ่เลยชาวอัลบั้มทุกๆท่าน ^_^
     
  15. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ;aa44 อรุณสวัสดิ์ยามเช้าครับพี่ตี๋ พี่ปู นอร์ และทุก ๆ ท่าน...
     
  16. oatlovetong

    oatlovetong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    472
    ค่าพลัง:
    +17,292
    สวัสดีครับทุกท่าน ^^
     
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,071
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG]

    สวัสดีทุกๆท่านด้วยครับผม
     
  18. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    เล่าเรื่องหลวงปู่อ่อนสา โดยครูนก
    โพสต์ที่ 700 หน้าที่ 70








    [​IMG]


    นโม วิมุตฺตานํ

    ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ท่านผู้พ้นแล้วทั้งหลาย

    นโม วิมุตฺติยา

    ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่วิมุตติธรรมความหลุดพ้นของท่านเหล่านั้น


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2014
  19. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    หลวงพ่อสุพีร์ สุสญญโม วัดถ้ำซับมืด
    หลวงพ่อสุพีร์ สุสญญโมเกิดในตระกูล ขันติวงศ์ วันศุกร์ที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๔๗๖ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีระกา ที่บ้านหนองขาม ม.๑๐ ต.เสียว อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เป็นบุตรของ นายเบ้า นางต่อม ขันติวงศ์ มีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน ๘ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๕
    เมื่อตอนเด็ก ท่านช่วยพ่อแม่ทำนา เลี้ยงควาย เมื่อทำจบชั้นประถมต้น ก็ไม่ได้ศึกษาต่อ ช่วยพ่อแม่ทำนาและงานบ้านโดยตลอด มีอยู่วันหนึ่งท่านได้ต้อนฝูงควายไปเลี้ยงตามทุ่งบังเอิญฝนตกหนัก ท่านนั่งอยูบนหลังควาย รู้สึกหนาวและเจ็บเพราะถูกลิ้นกัด อีกทั้งยังหิวอีกต่างหาก ขณะนั้นได้ยินเสียงกลองเพลดังมาแต่ไกลทำให้ท่านคิดว่า"เป็นพระนี่ บ่ต้องเฮ็ดหยั่ง(ไม่ต้องทำอะไร) ก็ได้กิน" พอคิดดังนี้ก็อยากบวช วันนั้นท่านเลี้ยงควายเพลินจนค่ำ จำทางกลับบ้านไม่ได้ แต่ควายก็ยังเดินหน้าไม่หยุด ท่านคิดว่าผิดทางพยายามจะต้อนควายให้ไปทางที่ท่านคิดว่าทางไปบ้าน มัก็ไม่ยอมตาม จนที่สุดมันก็เดินทะลุป่าพากลับเข้าบ้าน ทำให้ท่านนึกในใจว่า"เรากลัวผีแทบตาย กลัวหลงทาง แต่ควายมันไม่เห็นกลัวยังพากลับบ้านถูก เรานี่โง่ยิ่งกว่าควายเสียอีก" ต่อมาคอกควายถูกงัด แต่ขโมยมันเอาควายของท่านไปไม่ได้ แต่ควายเพื่อนบ้านหายไปชาวบ้านจึงรวมตัวกันออกตามหา และได้พบกองเลือด จึงได้สันนิผษฐานว่า ควายคงถูกฆ่าจึงพากันกลับ ท่านบอกว่าได้ธรรมะจากควายมากพอสมควร
    พออายุ๑๕ปี พ่อได้เสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ท่านจึงคิดว่าจะบวชเณรเพื่อหนีงาน พออายุ๑๙จีงได้ขอบวช บวชได้ ๑ พรรษานึกว่าจะสบายกลับมีแต่ความยากลำบากกว่าเป็นฆราวาส จึงลาบวชออกมาช่วยแม่ทำนา ต่อมาได้ย้ายที่ทำกินใหม่บริเวณใกล้ๆกับวัดป่าไผ่ ทำการเพาะปลูกพริก ยาสูบ ทำไร่ทำนาตามสมัยของปู่ย่าตายาย
    เมื่อถึงเวลาไปคัดเลือกทหาร ปีนั้นมีคนสมัครเป็นทหารมาก จึงไม่ต้องจับใบดำใบแดง ต่อมาท่านได้แต่งงานมีครอบครัวอยูได้๑ปีภรรยาของท่านได้เสียชีวิตจากการคลอดบุตรสาว และอีก๒เดือนต่อมาบุตรสาวของท่านก็มาเสียชีวิตอีก ทำให้ทุกใจมากจึงหลบออกจากบ้านไปอญุ่ภาคใต้ความทุกข์ก็ยังไม่คลายประกอบกับเป็นไข้ป่า จึงกลับมารักษาตัวที่บ้าน ทางญาติจะให้ท่านแต่งงานใหม่ ท่านจึงปฏิเสธเพราะเห็นทุกข์
    ปี๒๕๐๐ ท่านได้อุปสมบทที่วัดวิสุทธิโสภณ ต.เป๊าะ อ.อุทุมพรพิสัย (ปัจจุบันแยกมาเป็นอ.บึงบูรณ์อีกอำเภอหนึ่ง)จ.ศรีสะเกษเมื่ออายุ๒๕ปี พระครูวิจารย์พุทธรรม เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการเกลี้ยง เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอธิการศรี เป็นอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายา "สุสญญโฒ"แปลว่า ผู้มีความสำรวมดี
    เมื่อบวชท่านได้จำพรรษากับ พระอาจารย์ทองสุข (ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่มี ญาณมุนี)และเป็นผู้สอนกรรมฐานให้แก่ท่านเป็นรูปแรก จากนั้นหลวงพ่อทองสุขได้ส่งท่านไปอยู่กับหลวงปู่มี ที่วัดป่าสูงเนิน เพื่อศึกษาและปฏิบัติธรรม อยู่ได้ ๒เดือน ท่านได้ย้ายไปอยู่วัดสระเพลงอยู่กับหลวงปู่ทา จารุธมโม และเดินทางกลับวัดป่าสูงเนินเมื่อใกล้พรรษา ท่านมักจะแอบฟังคำเทศนาใต้ถุนกุุฏิเวลาที่หลวงปู่มี ท่านเทศนาให้ญาติโยมที่มาจากกรุงเทพฯ ท่านประทับใจคำเทศนาเหล่านั้นมากแล้วเอาไปพิจารณาจึงเห็นจริง
    ขอพักก่อนครับ

    [​IMG]
     
  20. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    มีแต่ครูบาอาจารย์เก่งๆทั้งนั้น เหรียญก็สวยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...