เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ขอถามพี่นักเขียนบ้างค่ะ.. ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ บทที่ 10 การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยการเข้าภวังค์และความฝัน

หน้า 151 การเปลี่ยนแปลงวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในร่างกายเนื้อหนังของเธอ หากร่างกายทางกายภาพปราศจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมี จิตวิญญาณจะยังคงมีสติสัมปะชัญญะจดจ่อต่อสภาวะทางกายภาพด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าต่อไป ในระหว่างที่เธอฝันร่างกายเนื้อหนังของเธอปล่อยสารเคมีที่สั่งสมมาจากเวลาที่เธอตื่น สารเคมีเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะถูกปล่อยออกมาในเวลาที่เธอฝัน แต่มันยังก่อให้เกิดการกระทำซึ่งปล่อยพลังงานให้ไหลไปในทิศทางตรงกันข้าม สารเคมีในร่างกายของเธอเป็นปัจจัยที่ทำให้ร่างกายเนื้อหนังของเธอให้พลังงานและสร้างโลกทางกายภาพของเธอขึ้น พลังงานส่วนเกินที่สั่งสมไว้จะก่อให้เกิดพลังขับเคลื่อนอันเป็นจินตภาพ

อยากทราบว่าการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในร่างกายเนื้อหนังที่ปล่อยออกมาในยามที่เราฝันนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมีชนิดใด,มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และเราจะสั่งสมพลังงานส่วนเกินในยามตื่นได้โดยวิธีใดคะพี่นักเขียน?
(smile)

 

คุณวิสู้ๆ ณ.เป็นกำลังใจให้ สู้ๆนะ ...จิตเราทำ จิตเราได้ และยังส่งผลถึงกายด้วย เรื่องทางจิตตนเองเท่านั้นถึงจะรู้ ถ้าคนไม่สนใจ ไม่พยายามจะเข้าใจ เขาก็คิดเป็นเรื่องไร้สาระ ณ.คิดว่าการบ้านของพี่นักเขียนคือการฝึกสมาธิรูปแบบหนึ่ง และยังเป็นการฝึกสังเกตอารมณ์ไปด้วย ทำให้เราได้เรียนรู้ ได้เข้าใจในอารมณ์ของตัวเอง...งั้นลองเอาวิธีที่พี่นักเขียนบอกไว้มาใช้ดู ...คิดให้คนใกล้ตัวคุณวิ เป็นนักเรียนในชั้นวาดเขียนของพี่นักเขียนไปด้วยเลย...อิอิ...ต้องมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นแน่ๆ...^-^

 

ขออีกคำถามนึงค่ะ ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ บทที่ 10 การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยการเข้าภวังค์และการฝัน

หน้า 160 ความว่างเปล่าอันปราศจากเครื่องพรางจะทำให้เธองงงวย เธออาจมีความรู้สึกที่ต้องการจะสร้างภาพลักษณ์ต่าง ๆ ขึ้น แต่ความว่างเปล่าจะไม่รับภาพเหล่านั้น ภาพลักษณ์อันเกิดแต่ความรู้สึกนึกคิดของเธอจะปรากฏขึ้นและดับไปอย่างฉับพลัน ความว่างเปล่าเป็นพื้นที่ที่เงียบสงัด ความรู้สึกนึกคิดทั้งหลายจะปราศจากการถ่ายทอดรู้เห็น เพราะสัญญลักษณ์ต่าง ๆ อันเกิดจากความรู้สึกนึกคิดในห้วงแห่งความว่างเปล่านี้จะเป็นสิ่งที่เข้าใจไม่ได้

พี่นักเขียนช่วยขยายความเกี่ยวกับความว่างเปล่าในความหมายของท่านอาจารย์อนาลัยให้เข้าใจอีกนิดนึงได้มั้ยค่ะ เท่าที่เคยศึกษามาเกี่ยวกับความว่างเปล่านี่จริง ๆ แล้วไม่มี เช่น ถึงแม้ในภาชนะที่เป็นสูญญากาศที่เราคิดว่าไม่มีอะไรอยู่ในนั้น แต่จริง ๆ แล้วในสูญญากาศดังกล่าวก็ยังมีพลังงานและคลื่นความถี่ต่าง ๆ อยู่ในนั้นอีกมากมาย.. พูดเองก็งงเองซะงั้นค่ะ?
(sing)

 

ช่วงนี้แปลกๆนะ มีคนใกล้ตัวฝันถึงพร้อมกันเลย คุณแม่ก็ฝันถึง+น้องสาวก็ฝันถึง
ฝันเหมือนกันว่าเห็นผมนอนอยู่ ท่าทางเหมือนคนไม่มีแรง แต่ยังขยับตัวได้..
ส่วนน้องสาวก็เห็นผมวิ่งๆอยู่แล้วดูเหมื่อนเหนี่อยมากอะไรแบบนี้
เค้าก็ถามว่าช่วงนี้เป็นอะไรรึเปล่า?..สองวันก่อนฝันเห็น

จริงๆช่วงอาทิตย์นั้นกำลังเร่งมือทำงานและส่งแบบพอดี
และยังต้องเดินทางขับรถไปกรุงเทพบ่อยๆหลายรอบ อดนอนอยู่ 2-3 คืน
เพิ่งจะเสร็จ พอเจอหน้ากันเค้าก็รีบถามขึ้นมาก่อนด้วยความเป็นห่วงครับ

สังเกตได้เลยครับว่า คนที่อยู่ในระบบเครือข่ายจิตวิญญาณต่างร่าง-ร่วมมิติของเรา นี่รับรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเราได้คมและชัดเจนที่สุด เรื่องนี้พิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ..เพราะแม่กับน้องฝันพร้อมกันวันเดียวกันและเรื่องเดียวกันอีก..หนังสือเรื่อง "ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ"นี่ผมว่าหลายๆท่านควรหามาอ่านครับ..ผมคงต้องกลับไปอ่านให้จบครับน่าจะได้คำตอบจากหนังสือมาตอบตัวเองให้ครบ

 

ขอเอารูปแต่ละตนมาทำเป็น Gallery งานศิลปะเลยนะครับ
ผมว่างานชิ้นที่สองนี้เห็นการพัฒนาฝีมือและความสามารถขึ้นไปมากทุกคน
ขนาดไม่ได้ร่ำเรียนกันมายังได้ขนาดนี้..
ใช้สมองซีกขวากันได้ดีที่เดียวนะครับ ศิลปินเห็นก็คงหนาว อิอิ









ใครเป็นใครบ้าง จำกันได้มั๊ย? เรียงตามอายุไม่รู้ถูกหรือผิด อิอิ

 

ไม่เป็นไรนะครับ คนเราส่วนมากคิดไม่เหมือนกัน ชอบคิดแทนคนอื่นว่าเป็นอย่างงั้นอย่างงี้
ทั้งที่ยังไม่ได้เข้ามาศึกษาดูก่อน แต่ชอบตัดสินให้ผู้อื่น
ถ้าเราเชื่อมั่นในสิ่งที่เราคิด ถึงไม่ได้ส่งมาก็ไม่เป็นไรครับคุณ wiszard111
เก็บรูปเอาไว้ตอบเองก็เหมือนกันนะคับ


(smile)(smile)(smile)

อย่างกระทู้ของเรานี่ก็เหมือนกัน ผมมั่นใจว่าเป็นความรู้ที่"มนุษย์ยุคใหม่"ควรรู้
ใครผ่านไปผ่านมามองผ่านๆก็อาจจะงงและไม่เข้าใจว่าเราเล่นหรือทำอะไรกันอยู่?
แต่วันนึงจะเห็นผลที่เกิดขึ้นมาชัดมาก ที่นี่ฟุ้งเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่น มีเหตุมีผล
เต็มไปด้วยความรู้ + ความเข้าใจในตัวตนของเราเองและผู้อื่นยิ่งขึ้น
แม้แต่การสูญเสียทั้งหลาย ทั้งฝนตก-หิมะตก น้ำแข็งละลายลงมายังเป็นรอยยิ้มได้อยู่เสมอๆ
รอยยิ้มซึ่งที่อื่นๆทั่วไปแทบจะหาได้ยากแล้วในช่วงปลายของรอยต่อยุคสมัยเช่นนี้...
แต่ผมว่านี่ล่ะคือตัวอย่างความคิด ที่คนเราสามารถแปรเปลี่ยนโลกใบนี้ให้มีแต่รอยยิ้มแห่งความเข้าใจ
สร้างพลังงานด้านบวกให้เกิดขึ้นห่อหุ้มโลกทั้งใบเอาไว้ไปในทิศทางที่สมดุลย์ครับ

Something Good+

 

ขอบคุณคุณณ.มากเลยนะคะ จะลองคิดและจินตนาการตามที่คุณณ.แนะนำค่ะแต่คงต้องใช้เวลานานแน่ๆเพราะคนรอบข้างเราสนใจแต่โลกทางกายภาพและมีความเชื่อแต่ที่นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้เท่านั้น

 

ขอขอบคุณคุณmeadมากค่ะ ที่เข้าใจและให้กำลังใจนะคะ

 

"...สิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้เท่านั้น..." ขออนุญาตนะคะ ณ.คิดว่าถ้ารอให้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ทุกเรื่อง พร้อมจดลิขสิทธิ์เรียบร้อย เราก็เป็นเพียงแค่ผู้ตามหลังวิทยาศาสตร์เท่านั้นเอง...ตามหลัง ตามหลัง และก็ตามหลังต่อๆไป เมื่อไหร่เราจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บ้างน๊อ...อิอิ...^-^ ณ.เชื่อว่าเราทุกคนในห้องนี้และอีกหลายคน คงอยากเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หมายถึงอยากจะเข้าใจ รู้ถึงจิตวิญญาณให้ได้ถึงที่สุด กว้างไกลที่สุด และณ.ก็เชื่ออีกว่าทุกคนทำได้แน่นอน(y) คุณวิก็อย่าท้อนะคะ...อย่างน้อยจดลิขสิทธิ์จิตวิญญาณของตัวเองก่อน...:boo: สิ่งมหัศจรรย์ในอดีตหลายสิ่ง ในปัจจุบันวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ แล้วเราจะรอให้ปัจจุบันของเราผ่านไป เพื่อให้วิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ย้อนหลังเหรอ... เรามาวิ่งนำวิทยาศาสตร์กันดีกว่าค่ะ^-^

 

เห็นด้วยกับพี่meadทุกอย่างค่ะ บางคนอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราศึกษาร่วมกัน
แต่ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร พวกเราทุกคนก็มาร่วมตัวแลกเปลี่ยนทุกข์สุขกันอย่างลงตัว แบ่งปันซึ่งกันและกัน
ให้กำลังใจพี่วินะคะ คนรอบข้างนกก็ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่นกทำหรือคิดเหมือนกัน
แต่เราก็ไม่พยายามเปลี่ยนให้เค้ามายอมรับในสิ่งที่เราเป็น เพราะเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนว่าคิดยังไง
แค่วันนี้เราเป็นในแบบที่เราเป็นให้มีความสุขก็พอ คนไม่เข้าใจก็มีช่างเค้า คนที่เข้าใจเราก็มีนะคะ พวกเราห้องวิทย์ยืนอยู่ข้างกันเสมอค่ะ (ping)

 

ว้า! เดาผิดถนัด คิดว่าเป็นหญ้าหนวดแมว หรือหญ้าเทวดา ที่เค้าใช้บำรุงร่างกาย
และปัจจุบันได้นำมาบรรจุเป็นแคบซูลขายแล้ว
พี่เหลยเป็นแด๊กคิวล่า(เจ) ไม่ถูกกับกระเทียมเสียด้วย
เลยไม่ได้พี่เหลยเป็นลูกค้าเลยนะเนี่ย

 

พูดถึงเรื่องวิทยาศาสตร์ zip ก็สนใจในเรื่องวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ ชอบอ่านเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เพราะว่าได้รู้อะไรใหม่ๆ เยอะดี เวปพันทิปก็ชอบเข้าไปอ่านบอร์ดหว้ากอที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์(แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่วิทย์เท่าไหร่แล้วล่ะ)

จนมาบัดนี้ ก็เริ่มมีมุมมองว่า บางทีก็เหมือนว่าคนที่สนใจในวิทยาศาสตร์นั้น เหมือนว่า "เชื่อ" มากกว่าที่จะ "คิด" อย่างวิทยาศาสตร์ เชื่อในทุกเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์พูด แต่มันก็ดูน่าเชื่อดีแหล่ะ เพราะว่ามีหลักฐานมารองรับ แต่คนที่ "เชื่อ" จะปฏิเสธทุกเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้พูดถึง แต่ถ้าเป็นคนที่ "คิด" อย่างวิทยาศาสตร์จะต้องลองทดลอง ลองทำ เพื่อหาคำตอบให้กับสิ่งนั้นๆ

อย่างในห้องหว้ากอ ก็ดูเหมือนมีคุณสมภพนี่แหล่ะ ที่ดูจะ คิด อย่างเป็นวิทยาศาสตร์หน่อย คือสงสัยเรื่องพลังปิรามิด ก็ทดลองดูเลยว่าเป็นจริงมั๊ย ไม่ใช่ว่าได้แต่นึกเอาว่าไม่เคยได้ยินนักวิทยาศาสตร์พูดเรื่องนี้แล้วก็บอกว่าไม่เชื่อว่าเป็นได้จริง

และบางครั้งเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ ก็เป็นไปได้ว่า มันไม่มีอยู่จริงๆ/ไม่ใช่จริงๆ หรือไม่ก็เพราะว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่ไม่สามารถที่จะพิสูจน์ได้ (ต้องให้ก้าวหน้ากว่านี้ ว่างั้น)

 

รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณ Mead ขับรถช่วงที่เราพักผ่อนไม่เต็มที่นี่อันตรายอยู่เหมือนกันค่ะ..

เรื่องการฝันพร้อมกันนี่ขจรวรรณก็เคยมีประสบการณ์อยู่เหมือนกันค่ะ ตอนนั้นยังเรียนปริญญาตรีอยู่ คุณป้าที่กรุงเทพฯ ก็ขอให้ไปช่วยเฝ้าบ้านให้ด้วยเพราะต้องไปธุระที่ต่างจังหวัดทั้งครอบครัว ก็พอดีช่วงนั้นน้องชายลูกของคุณอาก็เข้ามาสอบป่าไม้จึงเข้ามาพักที่บ้านคุณป้าด้วย ทีนี้เราก็มานอนกลางวันกันค่ะ น้องชายขึ้นไปนอนข้างบนบ้าน ขจรวรรณก็นอนห้องรับรองแขกข้างล่าง ตัวขจรวรรณก็ฝันว่าคุณย่าซึ่งเสียชีวิตแล้วมาหาที่บ้านคุณป้าในกรุงเทพฯ นี่ล่ะค่ะ ทั้ง ๆ ที่คุณย่าก็ไม่เคยมาเที่ยวที่บ้านนี้มาก่อนเลย พอตื่นขึ้นมาเราก็มาคุยกันแล้วเล่าให้ฟังว่าไม่รู้ยังงัยฝันว่าคุณย่ามาหา น้องชายก็ตกใจและเล่าให้ฟังว่าเมื่อกี้เค้าก็ฝันว่าเปิดประตูห้องจะออกมาก็เจอคุณย่ามาหาเหมือนกัน เค้าก็เลยรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้าง ก็เล่นฝันถึงคนที่เสียชีวิตไปแล้วนี่จะไม่กลัวได้งัย จริงมั้ยคะ.. บรื๊อ..:boo:

 

มีอาสาสมัครขี่ม้าขาวมาช่วย


อ้างอิง: สวัสดีค่ะหัวหน้าห้อง
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ fidgi
นานๆ จะได้มีโอกาสเข้ามาสักที วันนี้เข้ามาแอบอ่านอีกตามเคยค่ะ พอดีเห็นข้อความที่คุณ mead post เอาไว้เรื่องรวบรวมคำถามคำตอบของท่านอาจารย์น่ะค่ะ ก็เลยคิดว่าอยากจะอาสาลองทำให้น่ะค่ะ จะได้ (หรือจะดี) มั๊ยคะ...แค่อยากลองทำให้นะคะ เพราะไม่ทราบว่าต้องการอย่างไร และจะทำได้หรือเปล่าน่ะค่ะ...

ความจริงก็รออ่านอยู่เหมือนกันค่ะ จะอ่านบนเน็ตนานๆ สายตาก็ชักจะแย่ๆ แล้วค่ะ ชอบอ่านเป็นหนังสือมากกว่า...ถ้าคุณ mead ไม่รังเกียจก็ยินดีจะลองทำให้ดูค่ะ แต่คุณ mead คงต้องเป็นผู้รวบรวมข้อมูลให้นะคะ เพราะบางช่วงไม่ค่อยได้เข้ามาน่ะค่ะ...

คุณ mead มีความเห็นว่าอย่างไรก็แจ้งกลับมาได้นะคะ...

ขอบคุณค่ะ




</TD></TR></TBODY></TABLE>


สวัสดีครับคุณ fidgi อ่านว่าฟิดจี้ถูกมั๊ยครับ
ยอดเลยครับเพื่อนๆในห้องกำลังสนใจกันมากเรื่องนี้
จัดรวบรวมไว้ทุกๆหน้าที่พี่นักเขียนโพสไว้ ช่วยๆกันทำก็ยิ่งดีครับ
คิดว่าจะจัดเป็นชุดๆสัก 3-4 ตอนก็ได้
เข่น หน้า 1 ถึง50
หน้า 51-100
หน้า 101-150...ไปเรื่อยๆ
แบ่งกันทำดีมั๊ยครับจะได้เสร็จไวหน่อย

เอาเป็นว่าเลือกเอาที่เป็นสาระของพี่นักเขียน +คำถามของสมาชิกที่เกี่ยวเนื่องกับคำตอบด้วยก็ดี
Copy ข้อความลงในโปรแกรม word รวมทั้งรูปภาพด้วย
วางให้อ่านง่ายๆ สบายตา ไม่ต้องอัดใส่หน้าจนแน่น
Head หัวเรื่องตัวใหญ่ๆหน่อย..น่าจะทำเป็นสีได้
สมมุติว่าหน้านึง เราก็ลงเรื่องนึงก่อน..ถ้าล้นก็ลงหน้าสองไป
ที่ว่างๆข้างล่างถ้าเหลือก็ปล่อยไว้..ดีมั๊ยครับลองดู

 

ขอเป็นกำลังใจให้คุณ Wizard ผ่านพ้นวิกฤตช่วงนี้ไปให้ได้ค่ะ ขจรวรรณเชื่อว่าหลายคนที่กำลังสนใจศึกษาความรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณ มักจะมีประสบการณ์คล้ายกับคุณ Wizard นี่แหละค่ะ คือคนรอบข้างไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับ อย่างถ้าเราเอ่ยถึงจิตวิญญาณเค้าก็จะคิดว่าเป็นสิ่งลี้ลับและไม่มีจริง ซึ่งเค้าก็คงไม่รู้ตัวว่าจริง ๆ แล้วเค้าก็กำลังใช้จิตวิญญาณปฏิเสธจิตวิญญาณอยู่ บางคนปฏิเสธว่าจิตวิญญาณไม่มีจริง แต่กลับทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลไปให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว แปลกดีนะคะ

รึอย่างขจรวรรณที่เรียนวิชาพลังจักรวาล พอเอ่ยถึงพลังจักรวาล เค้าก็จะคิดถึงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ที่เกินความเป็นจริง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิดกันเลย แต่ขจรวรรณก็โชคดีอยู่อย่างว่า ครอบครัวเข้าใจไม่ต่อต้านกับภาคภูมิใจในตัวเราด้วยซ้ำไปที่สนใจศึกษาความรู้ด้านนี้ นี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งกระมังคะที่ทำให้จิตวิญญาณของเราเลือกที่จะมาเกิดกับครอบครัวนี้ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากความเจริญทางวัตถุ และได้สัมผัสกับชีวิตที่เป็นธรรมชาติแบบนี้

พูดถึงความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ คุณ Wizard เชื่อมั้ยคะว่าปัจจุบันนี้ผู้ที่สนใจศึกษาความรู้ด้านจิตวิญญาณ ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ทั้งนั้น เพราะเหตุว่าพวกเค้ากำลังเจอกับทางตันที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ อย่างชาวพลังจักรวาลซึ่งศึกษาเกี่ยวกับความสามารถไร้รูปของจิตวิญญาณก็มีหลากหลายอาชีพ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์, เป็นนักดาราศาสตร์, เป็นนักวิทยาศาสตร์, เป็นนักอิเล็คทรอนิคส์ ฯลฯ อย่างภรรยาอาจารย์ด๋างท่านก็เป็นอาจารย์สอนนักเรียนแพทย์ที่ Melburne และท่านก็ยอมรับว่าเคยรู้สึกท้อแท้เมื่อพบว่าไม่สามารถรักษาผู้ป่วยบางโรคให้หายได้ จนกระทั่งได้มาศึกษาและเรียนรู้วิชานี้ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างที่ท่านไม่เข้าใจก็ได้รับความกระจ่างขึ้น

ถ้าย้อนกลับไปศึกษาประวัติของนักวิทยาศาสตร์หลาย ๆ ท่าน ก่อนที่ท่านเหล่านี้จะคิดทฤษฏีหรือกฏทางวิทยาศาสตร์ขึ้นมาได้ ส่วนใหญ่แล้วก็ได้คำตอบมาด้วยความบังเอิญ หรือบางคนก็ชอบคิดอะไรแปลก ๆ ที่ไม่เหมือนใครและคนทั่วไปก็ไม่ยอมรับสิ่งที่เค้าคิดขึ้นมา แต่ผลสุดท้ายก็ได้รับการยอมรับเมื่อเสียชีวิตไปแล้วก็มี แล้วเค้าเหล่านี้คิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้อย่างไร ก็เป็นเรื่องน่าคิด ถ้าผู้ที่ศึกษาด้านจิตวิญญาณก็คงจะตอบว่าพวกเค้าคิดด้วยจิตวิญญาณรึปล่าว เพราะสมองทางกายภายของเราที่หนักเพียงไม่กี่กิโลกรัมไม่น่าจะคิดได้ถึงเพียงนี้ หรืออย่างคนที่คิดสร้างเครื่องบินลำโต ๆ เค้าจะคิดออกมาได้อย่างไรว่าน๊อตตัวนั้น รึอุปกรณ์ตัวนี้น่าจะอยู่ตรงนี้ถึงจะทำให้เครื่องลำโต ๆ บินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ โอ้ย.. พูดไปสิบวันคงไม่จบแน่ ๆ เลยค่ะ.. คุณ Wizard จบดีก่า.. อิอิ..

คุณ Wizard ลองอธิษฐานจิตขอให้คนใกล้ตัวที่ว่านี้เข้าใจในสิ่งที่เรากำลังศึกษาดูค่ะเผื่อจะช่วยได้ ตรงกับคำสอนของท่านอาจารย์อนาลัยที่ว่าอิสระแห่งปรารถนาเลยค่ะ เพราะขจรวรรณก็เคยใช้วิธีนี้เมื่อครั้งที่ศึกษาการฝึกสมาธิในแนววิปัสสนา ขณะนั้นจิตของเราสัมผัสกับความสงบและมีความรักความเมตตาเพราะสัมผัสกับอารมณ์เวทนา เมื่อแผ่เมตตาก็รับรู้ถึงพลังที่แผ่ออกมาและทุกครั้งก็อธิษฐานจิตขอให้ครอบครัวสนใจศึกษาธรรมะ ก็รู้สึกว่าได้ผลดีนะคะ เพราะแม้แต่น้องชายที่ว่าเกเรนี่ก็ยังมีบางครั้งที่เค้ายอมไปทำบุญที่วัดด้วย ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ยอมรับแต่เค้าก็ไม่ได้ต่อต้านซะเลยทีเดียว..

จบจิงจิงแล้วค๊า.. วันนี้เขียนยาวไปนิดนึง.. พิมพ์เพลินไปหน่อยค่ะ.. อิอิ..(sing)

 

ขออนุโมทนากับคุณ Mead และคุณ fidgi ด้วยค่ะ..(deejai) (deejai) (deejai)

 

นี่ก็ว่าปีหน้าถ้างานน้อยลง ก็อยากจะไปเรียนแพทย์แผนไทยที่กระทรวงสาธารณสุขเปิดสอนเหมือนกันค่ะ ส่วนการปลูกระเทียมนั้น ดีค่ะ เพราะนอกจากเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารแล้ว ยังใช้ทำยาได้ (นิยมทำแค้ปซูล) แก้หลอดเลือดหัวใจตีบตัน และเพิ่มความดันโลหิตชะงัดเชียวค่ะ
ส่วนพลังจักรวาลถ้าเรียนถึงระดับ 5.1 ขึ้นไปสามารถเพิ่มผลผลิตได้อย่างน่าอัศจรรย์เชียวค่ะ จินตวดีใช้อยู่เวลารดน้ำต้นมะม่วงที่บ้าน ปีนี้ออกดอกเพียบเลยค่ะ(deejai)

 

เห็นด้วยกับคุณณ.ที่ว่าเรามาวิ่งนำวิทยาศาสตร์กันดีกว่า และขอบคุณมากนะคะที่ให้กำลังใจ

 

ขอบคุณน้องนกมากนะคะที่ให้กำลังใจ เพราะสิ่งที่เราสนใจและร่วมกันศึกษาก็มีแต่ในห้องวิทย์นี้ที่สามารถร่วมกันแลกเปลี่ยน แบ่งปันซึ่งกันและกันค่ะ

 

คิดตรงกันเลยนะครับ
ผมเคยมีความคิดว่าจะรวบรวมส่วนที่เป็นคำถามของสมาชิกและคำตอบโดยพี่นักเขียน ทำได้ไปหน่อยนึงแล้วครับ แต่ไม่ได้ทำต่อ