เพื่อการกุศล หน้า49 กระทู้#980 - เชิญร่วมบุญกฐิน หลวงปู่จันทร์ สมเด็จเกศา พระปิดตาไพรดำ และเศียรบายศรี

สวัสดีปีใหม่ไทยครับ ช่วงเทศกาลนี้ คงมีพี่ๆน้องเดินทางกลับบ้านกลับถิ่นฐานเดิมกันมาก การเดินทางเเออัด ถนนหนทางคงมีผู้ร่วมทางกันมากขึ้น เนื่องในวันสงกรานต์นี้ผมขอให้พี่ๆน้องๆทุกๆท่านที่ร่วมบุญก็ดี ผู้ที่เเวะเวียนมาเยี่ยมเยียนก็ดี ขอให้เดินทางปลอดภัย ไปและกลับถึงที่มั่นโดยสวัสดิภาพครับ ด้วยความเป็นห่วงขอให้เดินทางด้วยความไม่ประมาทกันทุกๆคนนะครับ


เชื่อว่างานเทศกาลสงกรานต์นี้มีงานบุญกันในหลายๆท้องที่ หรือเเม้เเต่ผู้ที่ไม่ได้เดินทางก็คงจะใส่บาตรเป็นอย่างน้อย เพื่อบุญกุศลที่ได้เต็มที่นั้นผมขอนำ ธรรมะของหลวงปู่มั่นมาให้อ่านกันเป็นวิทยาทานก่อนทำบุญช่วงสงกรานต์นี้ครับ

คำสรรเสริญจากหลวงปู่มั่น

ที่มาของข้อมูล
www.luangpumun.org


การสั่งสอนญาติโยมชาวบ้านหนองผือของท่านพระอาจารย์มั่นในสมัยนั้น ส่วนมากท่านจะเน้นให้ญาติโยมสมาทานศีลห้าเป็นหลัก ส่วนศีลแปดหรือศีลอุโบสถ ท่านไม่ค่อยจะเน้นหนักเท่าไหร่ท่านกล่าวว่า ศีลห้าเหมาะสมที่สุดสำหรับฆราวาสญาติโยมผู้ครองเรือน ถ้างดเว้น ตลอดไปไม่ได้ก็ขอให้งดเว้นให้ได้ในวันพระวันศีล สำหรับการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนั้นท่านบอกว่า " สัตว์ที่มีบุญคุณนั้นห้ามเด็ดขาด " นอกจากนั้นท่านกล่าวว่า " จะงดเว้นไม่ได้ดอกหรือ เพียงวันสองวันเท่านั้น การกินในวันรักษาศีลจะกินอะไรก็คงได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น สัตว์ที่ฆ่าเอง แค่นี้ทำไม่ได้หรือ ไม่ตายดอก... "

สำหรับการขอศีลนั้น ท่านไม่นิยมนิยมให้ขอ และท่านก็ไม่เคยให้ศีล ( ตอนอยู่หนองผือ ) ท่านให้ใช้วิธีรัติงดเว้นเอาเลย ไม่ต้อง ไปขอจากพระซ้ำ ๆ ซาก ๆ ผู้ใดมีเจตนาจะรักษาศีลจะเป็นศีลห้า ศีลแปดก็ตาม ให้ตั้งอกตั้งใจเอาเลย แค่นั้นก็เป็นศีลได้แล้ว และการ ถวายทานในงานบุญต่าง ๆ ท่านก็ไม่นิยมให้กล่าวคำถวายเช่นกัน ท่านอธิบายว่า " บุญนั้นผู้ถวายได้ถวายได้แล้วสำเร็จแล้วตั้งแต่ตั้งใจ หรือเจตนาในครั้งแรก ตลอดจนนำมาถวายสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรอีก เพียงแต่ตั้งเจตนาดีเป็นกุศลหวังผลคือความสุข การพ้นจากทุกข์ทั้งปวงเท่านี้ก็พอแล้วนั่นมันเป็นพิธีการหรือกฏเกณฑ์อย่างหนึ่งของเขา ไม่ต้องเอาอะไรทุกขั้นทุกตอนดอก " ครั้งนั้นมีศรัทธาญาติโยมจากสกลนคร เขาเป็นคนเชื้อสายจีน มีชื่อว่า เจ๊กไฮ แซ่อะไรนั้นเขาไม่ได้บอกไว้ เขามีความลื่อมใส ศรัทธาในองค์ท่านพระอาจารย์มั่นมาก ขอเป็นเจ้าภาพกฐินในปีนั้น เมื่อถึงเวลากำหนดกรานกฐินแล้ว จึงได้ตระเตรียมเดินทางมาพัก นอนค้างคืนที่บ้านหนองผือหนึ่งคืน โดยพักบ้านของทายกวัดคนหนึ่ง เพื่อจะได้จัดเตรียมอาหารคาวหวานสำหรับไปจังหันตอนเช้าด้วย พอเช้าขึ้นพวกเขาจึงพากันนำเครื่องกฐินพร้อมกับเครื่องไทยทานอาหารต่างๆ เหล่านั้นไปที่วัดเมื่อถึงวัดล้างเท้าที่หัวบันไดแล้วพากัน ขึ้นบนศาลาวางเครื่องของ คุกเข่ากราบพระประธานแล้วจึงรวบรวมสิ่งของ เครื่องผ้ากฐิน พร้อมทั้งของอันเป็นบริวารต่างๆ วางไว้ที่หน้าพระประธานในศาลา ส่วนเจ๊กไฮ ผู้เป็นหัวหน้านำผ้ากฐินมานั้น

เมื่อวางจัดผ้ากฐินพร้อมทั้งของอันเป็นบริวารต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว นั่งสักครู่ เห็นว่ายังไม่มีอะไร จึงพากันกราบพระประธาน ( เจ๊กไฮ ก็กราบเหมือนกัน ท่าทางเหมือนคนจีนทั่วไปเขากราบนั่นแหละ ) แล้วเขาก็ลง จากศาลาไปเดินเลาะเลียบชมวัดวาอารามเฉยอย่างสบายอารมณ์ จนกระทั่งพระเณรกลับจากบิณฑบาตรแล้ว ขึ้นบนศาลาเตรียมจัด แจงอาหารลงบาตรจนเสร็จสรรพเรียบร้อยทุกองค์ ท่านพระอาจารย์มั่นจึงให้เรียกเจ๊กไฮมาเพื่อจะได้อนุโมทนารับพรต่อไป แต่เจ๊กไฮ ก็ไม่มารับพรด้วย มีคนถามเขาว่า " ทำไมไม่รับพรด้วย " เขาบอกว่า " อั๊วได้บุญแล้ว ไม่ต้องรับพรก็ได้ การกล่าวคำถวายก็ไม่ต้องว่า เพราะอั๊วได้บุญตั้งแต่อั๊วตั้งใจจะทำบุญทีแรกแล้ว ฉะนั้นอั๊วจึงไม่ต้องรับพรและคำกล่าวถวายใดๆ เลย "ภายหลังฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านพระอาจารย์มั่นได้พลิกวิธีคำว่าผ้ากฐินมาเป็นผ้าบังสุกุลแทน ท่านจึพิจารณากองผ้ากฐิน เป็นผ้าบังสุกุล เสร็จแล้วท่านได้เทศน์ฉลองยกย่องผ้าบังสุกุลของเจ๊กไฮเป็นการใหญ่เลย ท่านกล่าวถึงผ้ากฐินนั้นได้รับอานิสงส์น้อยเพียง แค่ ๔ เดือนเท่านั้นไม่เหมือนกับผ้าบังสุกุลซึ่งได้อานิสงส์ตลอดไป คือ ผู้ใช้สามารถใช้ได้ตลอดไม่มีกำหนดเขตใช้จนขาดหรือใช้ไม่ได้จึงจะทำอย่างอื่นต่อไป และสุดท้ายท่านกล่าวอีกว่า " ใครทำบุญก็ไม่เหมือนเจ๊กไฮทำบุญ เจ๊กไฮทำบุญได้บุญมากที่สุด พรเขาก็ไม่ต้องรับ คำถวายก็ไม่ต้องว่าเขาได้บุญตั้งแต่เขาออกจากบ้านมา บุญเขาเต็มอยู่แล้ว ไม่ตกหล่นสูญหายไปไหน บุญเป็นนามธรรมอยู่ที่ใจ อย่างนี้จึงเรียกว่า ทำบุญได้บุญแท้.. "

ทุกคนที่ไปกฐินในครั้งนี้ต่างก็มีความปลาบปลื้มปีติในธรรมะ ที่ท่านกล่าวออกมาซึ่งล้วนแต่มีเหตุผลที่แปลกใหม่ ยังไม่เคย ได้ยินได้ฟังมาจากที่อื่นเลย โดยเฉพาะกับเจ๊กไฮผู้เป็นเจ้าภาพยิ่งมีความปลื้มปีติมากกว่าเพื่อน เพราะสิ่งที่เขาได้ทำไปแล้วนั้นเป็นสิ่งที่ ถูกต้องเป็นที่พออกพอใจของครูบาอาจารย์ที่เขาเคารพเลื่อมใส จึงเป็นที่ตรึงตราใจของเขาไปจนตลอดสิ้นชีวิตและได้เป็นเรื่องเล่าขาน กันมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

<O</O
ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพครับ<O</O

 

สวัสดีครับ ขอร่วมบุญกับหลวงปู่ ร่วมบุญบูชา พระะสมเด็จหลวงปู่จันทร์ 1 องค์ครับ

 

สุดยอดประคำ

สายวัดป่าส่วนใหญ่ท่านจะไม่เล่าอะไรให้ฟังมาก เชื่อก็เอาไป ศรัทธาก็เอาไปห้อยไปแขวน เป็นที่พึ่งทางใจ อธิษฐานแก้ไขข้อขัดข้อง หลวงปู่จันทร์ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ผาง คำไม่จริงหลวงปู่ท่านคงไม่พูดไม่กล่าว เหลือแต่เราท่านทั้งหลาย มีศรัทธาไหม อยากร่วมบุญ อยากช่วยหลวงปู่กันหรือเปล่า ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งกุศลและได้วัตถุมงคลดีๆติดตัวติดบ้าน..........คุ้มสุดๆ

 

ร่วมบุญบูชา
พระะสมเด็จหลวงปู่ 3 องค์ครับ
ประคำคอ 1เส้นครับ

 

รับทราบครับ ขออนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ

รับทราบครับ ขออนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ

 

ขอบคุณครับเป็นไปตามที่คุณอาณัติได้กล่าวไว้ ที่จริงเเล้วหลวงปู่ท่านไม่ค่อยได้เล่าอะไรให้ฟังเท่าไร แต่ติดตรงที่ผมกับเอกชอบถาม พอถามท่านก็ตอบ ผมเลยมีโอกาสนำความรู้นี้มาเผยเเพร่ต่อ ซึ่งที่จริงได้ขออนุญาตหลวงปู่เเล้วเหมือนกันเเต่ท่านก็ห้ามไม่ให้นำมาเผยเเพร่ แต่ผมเห็นว่าผู้ที่มีความศรัทธาต่อองค์หลวงปู่น่าจะได้รับรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของครูบาอาจารย์ในเรื่องพวกนี้บ้างเลยนำมาเล่าสู่กันฟังครับ (ยังมีเรื่องอีกหลายเรื่องที่หลวงปู่ท่านเมตตาเล่าให้ฟังเเต่ก็ยังไม่มีเวลานำมาเขียนให้ฟังอีกหลายเรื่องครับ)

ในส่วนใดที่เห็นว่าผมนำมาเล่าดูเเล้วไม่น่าจะเหมาะสมกรุณาเตือนผมด้วยนะครับจะได้นำไปปรับปรุงเเละเพื่อความละเะอียดถี่ถ้วนให้มากขึ้น เพราะคนอ่านจะพิจารณาได้ถี่ถ้วนมากกว่าคนเขียน(เล่า)ครับ

 

แจ้งโอนเงินลำดับที่ 51ครับ
ตะกรุดนพเก้าเมตตามหาอุด(อุดมวลสาร) ขนาด 4 นิ้ว 1 ดอก
เวลาที่เข้าสู่ระบบครั้งล่าสุด : 14-04-2014 12:34:54 (GMT+07:00)
จำนวนเงิน 5060 บาท
ที่อยู่จัดส่งตาม PM.ครับ

 

ได้รับแล้วครับ ขออนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ

 

กรุณาเล่าสู่กันฟังเถิดครับ สมาชิกบางท่าน โดยเฉพาะอย่างผมนี่กิเลสหนา หูตาฝ้ามัว มองไม่เห็นมากกว่าตาเนื้อ จะได้มีโอกาสร่วมบุญได้ถูกเนื้อนาบุญ อันไหนโม้โอ้อวด เชียร์ขาย เหม็นขี้ฟัน ก็ให้เป็นวิจารณญาณของแต่ละท่านสมาชิกในการเลือกเชื่อไป ผมเห็นกระทู้นี้ตั้งแต่วันแรกแต่กบน้อยในกะลาอย่างผมไม่รู้จักครับ ผมก็รอสืบอ่าน หาข้อมูล รวมทั้งแอบดูรายชื่อผู้ร่วมบุญเห็นบางท่านที่ผมคุ้นเคยจึงวางใจว่าใช่แน่แล้ว เมื่อนั้นบางรายการเช่นประคำมือก็หมดลงไปแล้วอย่างน่าเสียดาย.. เล่าต่อเถิดครับ

 

ลำดับที่ 62 วันนี้ผมโอนเงินจำนวน 1060.99 บาท ให้แล้วนะครับ สำหรับที่อยู่จัดส่งแจ้งทาง PM ครับ ขอบคุณครับ

 

ได้รับเเล้วครับ ขออนุโมทนาบุญนี้ด้วยนะครับ

 

15/4/2557 นำบุญมาฝากครับ ร่วมอนุโมทนาบุญนี้กันด้วยนะครับ (เป็นบรรยากาศคร่าวๆในงานวัดวันนี้)

วันนี้ไปช่วยงานวัดป่าแดงทั้งวันตั้งเเต่ 11.00 น. ถึง 20.30 น.

เริ่มด้วยการจัดหาอาสนะ บาตรน้ำมนต์ เชิงเทียน ต่างๆที่เป็นสิ่งจำเป็นในการใช้งานงานพิธีในวันที่ 16 เมษา โดยมีลูกชายคนเล็กของพี่นิ่มและเพื่อนน้องเขามาช่วยเช็ดบาตรน้ำมนต์



ลูกชายคนเล็กของพี่นิ่มครับ พ่อให้มานั่งฟังเทศน์มหาชาติเเต่เจ้าตัวอยากมาช่วยเลยแอบมาช่วยทำความสะอาดพื้นรวมถึงช่วยขนโต๊ะมาเพื่อตั้งวัตถุมงคล


หลังจากตั้งโต๊ะเสร็จก็ปูผ้าขาวเเล้วนำลังวัตถุมงคลต่างๆเตรียมเข้าพิธี


ภาพเสาอาคารของวิหารและที่พักของสามเณรครับหลังจากจบงานวันที่ 16 นี้ทางวัดคงมีรายได้จำนวนหนึ่งมาร่วมสร้างวิหารกันต่อ



เจ้าภาพใหญ่ในการจัดงานนี้ครับ พี่นิ่มเเละพี่นิดแฟนพี่นิ่ม ซึ่งเช้าวันนี้ได้นำปัจจัยเป็นจำนวน 130,000 บาท แด่เจ้าอาวาสวัดถวายวัดป่าเเดง (พระอาจารย์วุ่น) และที่เห็นนี้กำลังนั่งฟังเทศน์มหาชาติ และเป็นบรรยากาศในงานฟังเทศน์ครับ







บรรยากาศตอนกลางคืนที่มองเห็นงานมหรสพครับ




ขอให้ทุกๆท่านอนุโมทนาบุญจากการฟังเทศน์มหาชาติและการทำกิจกรรมให้วัดป่าแดงในวันนี้ด้วยครับ

 

16/4/2557
งานวางศิลาฤกษ์วิหารสามเณรและพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลวัดป่าเเดง ได้สำเร็จลุร่วงไปได้ด้วยดีครับ พี่นิ่ม ฝากขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ที่ให้ความความช่วยเหลือเเละกรุณาทางวัดมาโดยตลอด ผมนั่งสนทนากับพระอาจารย์วุ่นอยู่พักหนึ่งหลังจากที่ได้นำกุญแจโบสถ์ไปคืนท่าน ท่านอาจารย์วุ่นขอบคุณและอนุโมทนามายังทุกๆท่านครับที่ได้สละเวลาสละทรัพย์มาช่วยงาน

ทางผมเเละเอกก็ต้องขอบคุณมายังพี่ๆน้องๆ เพื่อนๆ สมาชิกทุกๆท่านที่ได้ให้ความช่วยเหลือและมีความศรัทธาต่อวัดป่าเเดง เมื่อวานใครที่ได้ไปร่วมงานวัดหรือท่านที่ไม่ได้ไป ผมเเละคุณเอกก็ต้องขอเป็นตัวเเทนพี่นิ่มขอบคุณ พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่ได้มาร่วมงานและให้การสนับสนุนวัด และผมกับคุณเอกก็ต้องขอบคุณด้วยกับคำทักทายที่มีให้กันแม้เราจะเพิ่งเคยเห็นหน้ากันครั้งเเรกเมื่อวานนี้ สุดท้ายต้องขออภัยพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ อีกเช่นกันที่ไม่ได้มีโอกาสอยู่ต้อนรับเเละพูดคุยด้วย อันเนื่องจากติดภาระกิจต้องนิมนต์และช่วยทางวัดกับพี่นิ่มดูเเลในหลายๆเรื่อง

ขอบคุณ คุณKaanและครอบครัว ที่คอยช่วยผ่อนเเรงและดูเเลหลวงปู่จันทร์อีกแรงหนึ่งครับขอบคุณพี่จู๋ (ภัทร จึงประเสริฐ)ที่คอยเเนะนำและให้ความช่วยเหลือครับ


คุณKaanและครอบครัว เข้ากราบหลวงปู่ครับหลังจากที่คุณเอกได้นิมนต์รับหลวงปู่จันทร์กลับวัดป่าแดง (ช่วงเช้ามีโยมนิมนต์หลวงปู่ไปฉันที่บ้าน) (ครอบครัวนี้น่ารักครับและอยู่ช่วยงานวัดโดยไม่กลัวร้อนกลัวเหนื่อยเลย เห็นยิ้มเเย้มแจ่มใสทั้งวัน)









พี่จู๋เเละคุณเอกครับยืนสนทนากันตามประสาพี่ๆน้องๆ

พี่จู๋เเละลูกชายฝาเเฝดอีกสองคน ขอบารมีหลวงปู่ท่านเป่าหัวให้





เดี๋ยวจะนำภาพในโบสถ์มาให้อนุโมทนาบุญกันครับ

 

น้องปุณคนนี้ตอนเจอครั้งแรกน้องเขาก็ยกมือไหว้ผมและทุกๆคนที่คุณกานต์(พ่อ)ได้แนะนำให้น้องเขาได้รู้จัก มืออ่อนนอบน้อม น่าเอ็นดู น่ารักมาก ผมเห็นตอนหลวงปู่เป่าและลูบศรีษะให้เสร็จ น้องปุณก็เดินไปหาคุณแม่และบอกคุณแม่ว่าอยากทำบุญกับหลวงปู่ ผมได้ยินแล้วยังรู้สึกปลื้มแทนผู้ที่เป็นพ่อแม่ น้องเขามีอายุเพียงสี่ขวบแต่จิตใจไม่แพ้ผู้ใหญ่เลย เห็นในมือน้องปุณถือเหรียญอยู่เหรียญหนึ่งมาทราบภายหลังจากคุณพ่อกานต์ว่าเป็นเหรียญห้าบาทที่เป็นเงินเก็บสะสมจากญาติๆที่ได้ให้ไว้ (คุณพ่อเล่าว่าเขาจะสะสมเงินที่ได้เพื่อที่จะไปเล่นของเล่นที่เซ็นทรัล( คิดว่าคงไปกันประจำ)) เด็กสี่ขวบกับเงินห้าบาท ประทับใจน้องปุณครับ จิตอันเป็นกุศล ขอเพียงแค่มีจิตที่ศรัทธา ต่อให้ไม่ต้องมีเงิน มีเพียงแค่จิตที่ตั้งมั่นในกุศลนั้นๆ กุศลนั้นก็จะก่อเกิดกับตัวทันที น้องปุณยังเล็กจึงได้เปรียบมากกว่าผู้ใหญ่ตรงที่ พอจิตนึกอยากทำบุญ เพียงเท่านี้ก็คิดว่าน้องเขาคงได้บุญไปร้อยเปอร์เซ็นต์ เด็กจะมีจิตใจที่ขาวสะอาดดั่งผ้าขาว หากพ่อแม่ ปลูกฝังไว้ดีโตขึ้นก็จะมีโอกาสเปรอะเปื้อนน้อย เด็กยิ่งโตก็ยิ่งได้รับรู้สรรพสิ่งในวงเวียนแวดล้อมมากขึ้น ความทรงจำต่างๆที่บริสุทธิคงจะถูกหล่อหลอมกลมกลืนเข้ากับกาลเวลาที่นับวันเริ่มเสื่อมลงในทุกๆวัน มากขึ้น แต่หากสถาบันครอบครัวที่ดีมีตัวอย่างให้เขาได้เห็นได้รับรู้เหมือนดั่งครอบครัวของน้องปุณนี้เชื่อว่า เขาจะโตได้อย่างมีคุณภาพและเป็นเยาวชนที่ดีของชาติเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง แม่น้องปุณบอกว่าเดินไปถวายหลวงปู่เลยลูก เรามีเท่านี้ก็ทำได้ เห็นน้องปุณมองหน้าคุณแม่นิดหนึ่งแล้วอมยิ้ม เสียดายที่ผมไม่ได้ถ่ายรูปน้องเขาไว้ อยากให้เห็นใบหน้าที่รู้สึกว่าน้องเขาอิ่มบุญและมีใจที่เป็นสุขในช่วงนั้น น้องปุณเดินไปหาหลวงปู่(ช่วงนี้ผมไม่ทันเห็นเพราะหันไปคุยกับพี่จู๋และคุณเอกเลยพลาดความประทับใจนี้ไปอย่างน่าเสียดาย) มาเห็นอีกทีตอนที่น้องเขาเดินออกจากหลวงปู่แล้ว คุณพ่อกานต์ได้เล่าให้ฟังพร้อมความประทับใจในจิตอันเป็นกุศลต่อองค์หลวงปู่ที่น้องปุณได้มีให้ ทั้งคุณพ่อและคุณแม่น้องปุณปลื้มกับจิตใจอันเป็นกุศลนี้ของน้องปุณรวมถึงองค์หลวงปู่จันทร์ที่ท่านมีเมตตา โดยเฉพาะประโยคหนึ่งของหลวงปู่ที่คุณพ่อกานต์ได้เล่าให้ฟังถึงความประทับใจพร้อมบอกว่าไม่เคยได้ยินพระรูปไหนที่ไหนท่านเอ่ยวาจาที่น่าประทับใจให้ได้ยินแบบนี้เลย ใจความที่หลวงปู่ท่านได้ว่าไว้ตอนที่คุณกานต์พาน้องปุณเดินเข้าไปขอบารมีหลวงปู่ให้เป่าศรีษะ “เราขอบิณฑบาตเด็กคนนี้จากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายนะ ” ผู้ที่เป็นพ่อ แม่ คงปลื้มและดีใจครับขนาดผมเองได้ฟังยังปลื้มแทนเขาเลย ลองพิจารณาวาจาที่หลวงปู่จันทร์ท่านเอ่ยกับเจ้ากรรมนายเวรสิครับ ว่าหลายๆท่านจะคิดเหมือนผมไหม นี่แหละครับคือสิ่งดีๆที่ผู้ที่มีจิตอันเป็นกุศลพึงได้ ไม่เว้นแม้แต่เด็กหรือใครๆก็ตามหาก คิดดี ทำดี พูดดี กุศลนั้นคงตกถึงผู้นั้นทันทีครับ ผมขออนุโมทนาบุญกับน้องปุณและคุณพ่อคุณแม่ที่หล่อหลอมให้จิตใจของน้องเขาใสสว่างขาวสะอาดและมีจิตอันเป็นกุศลในครั้งนี้ด้วยครับ สาธุ

 

อนุโมทนาบุญกุศลกับทุกท่านด้วยครับ สาธุ

 

มีข่าวดีมาแจ้งครับ หลังจากที่พี่จู๋ได้ให้หลวงปู่ท่านเป่าหัวทั้งตัวเองและลูกชายอีกสองคนเสร็จ พี่จู๋ศรัทธาในองค์หลวงปู่มากจึงได้บอกผมมาว่า ถ้าใครอยากได้พระรุ่นแรกๆของพี่นิ่มก็ขอให้แจ้งเข้ามา แกมีทุกรุ่นจะออกให้ทำบุญสร้างโรงครัว สร้างห้องน้ำ ถวายหลวงปู่จันทร์ ทุกบาททุกสตางค์ครับ ก็ขอเชิญทุกท่านที่ได้ร่วมทำบุญและท่านที่แวะเวียนผ่านเข้ามาได้ร่วมอนุโมทนาบุญนี้กับพี่จู๋ด้วยครับ สาธุ

 

16/4/2557




เช้ามืดวันงานหลวงปู่ลี วัดป่าหัวตลุก ท่านได้มาถึงวัดเเต่เช้ามืดและได้เมตตามาอฐิษฐานจิตให้ ผมมาไม่ทันคนที่มาทันท่านก็คือพี่นำและพระอาจารย์ ช่วยเปิดประตูโบสถ์ให้ท่านเข้านั่งอฐิษฐานจิต เห็นพี่นำบอกว่าท่านอฐิษฐานจิตเสร็จ ท่านก็ลุกเดินประพรหมน้ำมนต์ให้เเล้วท่านก็กลับ ท่านว่าพระชุดที่พี่นิ่มสร้างนั้นดีมาก (ข้อมูลที่ท่านกล่าวไว้มีมากกว่านี้เเต่ผมมาไม่ทันไม่ได้รับฟัง คนที่มาทันมีเพียงพี่นำและพระอาจารย์ จึงไม่อยากมุสา ก็ขอเล่าพอให้ได้ทราบเเละได้ร่วมอนุโมทนาบุญกันพอได้เห็นภาพครับ)



หลวงพ่อผ่าน วัดป่าโพธิ์แก้ว ปราจีนบุรี ท่านมาถึงวัดประมาณ 9 โมงเช้ามาถึงท่านก็เดินเข้าโบสถ์และได้เมตตานั่งอฐิษฐานจิตให้ก่อนเพราะ ช่วงบ่ายท่านติดกิจนิมนที่ไหนสักเเห่งผมจำไม่ได้ ต้องขออภัยครับ หลังจากที่ท่านอฐิษฐานจิตให้เสร็จเเล้วท่านก็พูดให้ฟังว่า ดีมากชุดนี้ ทั้งพระอินทร์ พระพรหม พระยมพระกาฬ เเละท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านก็มาอนุโมทนาให้ด้วย พี่นิ่มได้ฟังก็ชอบใจ เห็นพี่เขายิ้มเเล้วก็รู้สึกดีเพราะพี่เขาตั้งใจสร้างพระมาเพื่องานบุญ ก่อนกลับได้ถวายพระที่ได้จัดชุดไว้ให้ท่านจำนวนหนึ่งเป็นพระ "ปิดตามหาบูรพา"


หลวงพ่อผ่านท่านประพรหมน้ำมนต์และเจิมพระเจิมลัง พระปิดตามหาบูรพาให้ครับ
พี่นิ่มสั่งให้ผมเฝ้าลังนี้ไว้เพราะตัดลวดเปิดลังเเล้วกลัวคนจะมาเเอบหยิบ(จะทำให้พี่นิ่มเสียคำสัจก่อนถวายพระและเเจกทหารจึงต้องเน้นกันมาก) และให้คอยเปิดฝาลังทุกครั้งที่ พระท่านเมตตาประพรหมน้ำมนต์ พระปิดตามหาบูรพานี้พี่นิ่มหวงมากเพราะเจตนาทำมาเพื่อเเจกทหารและส่วนหนึ่งถวายวัดยากจน เรื่องนี้เป็นเจตนาของพี่นิ่มจริงๆและอีกจำนวนหนึ่งก็ถวายพระอาจารย์วุ่น เจ้าอาวาสซึ่งท่านก็ได้เมตตาเเจกผู้ที่มาร่วมงานเช่นกัน

 

คุณวิเศษของพระ "ปิดตามหาบูรพา"

ด้านหน้าที่ท่านเซียนซื้อได้เขียนไว้


ด้านหลังครับ


รูปด้านบนนี้เป็นเอกสารที่พี่นิ่มได้นำพระปิดตามหาบูรพา ไปให้ท่านเซียนซือ ท่านตรวจสอบให้ผลก็ปรากฏดังที่ที่เขียนมาตามเอกสารเเผ่นนี้ทั้งด้านหน้าเอกสารเเละด้านหลังเอกสารที่บอกถึงคุณภาพเเละคุณวิเศษของ "พระปิดตามหาบูรพา"
(ผมเเปลไม่ออกครับว่าท่านเซียนซือเขียนมาว่าอย่างไรแต่พี่นิ่มบอกตามคำที่เซียนซือเล่าให้ฟังว่า พระปิดตามหาบูรพา นี้มีดีอยู่ 5 ประการ คือ

1. ปืนไฟไม่ได้กิน

2.เเคล้วคลาดรัศมีคุ้มครองคนได้ 7 คน

3.เมตตาเเละเด่นด้านโภคทรัพย์

4.กันผี (น่าจะรวมถึงสิ่งไม่ดีต่างๆ อันนี้ผมคิดเองนครับ)

5. มีติดไว้บูชาที่บ้านจะคุ้มครองคนทั้งบ้านได้ )


ส่วนเนื้อหาที่ถูกต้องเเท้จริงนั้นต้องนำเอกสารเเผ่นนี้ไปให้ท่านผู้ที่มีความรู้นั้นๆช่วยเเปลให้จะได้ความหมายที่ชัดเจนเเละถูกต้องมากยิ่งขึ้นครับ

 

ลำดับที่1 วันนี้โอนทำบุญแล้วครับ 5,060บาท
โมทนาครับ

 

ลำดับที่ 49 แจ้งโอนเงินค่ะ
พระผงปิดตาเศียรบายศรี 1 องค์ 500
ประคำข้อมือ 1 เส้น 250.-
สร้อยประคำคอ 1 เส้น 1,000.-
งาช้างดำ 20,000.-
ค่าส่ง 60.-
ยอดโอน 22,000.-
โอนทาง ATM เข้าบัญชี กรุงศรีอยุธยา <O></O>
เลขที่ 434-1-09677-6