!!!แร่ธาตุกายสิทธิ์+เหล็กไหล วัตถุศักดิ์สิทธิ์ อิทธิคุณธรรมชาติ ที่มีฤทธิ์มีอำนาจในตัว!!!

รับทราบแจ้งโอนครับ
ขอบคุณมากครับ

 

รับทราบแจ้งจองแจ้งโอนครับ
ขอบคุณมากครับ

 

รับทราบแจ้งจองล็อกเก็ตปู่นาคา
ขอบคุณครับ

 

ศิลา "พราย" สมุทร ทรงไข่
หินนวลจันทร์ หรือ ศิลา “พราย” สมุทร สามารถเรืองแสงได้ในที่มืด เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ในการทำสมาธิ ปฏิบัติกรรมฐาน การนำหินนวลจันทร์ไว้ในห้องพระหรือห้องกรรมฐาน
- จะทำให้เข้าสมาธิง่ายเพราะจะดูดซับพลังส่วนเกินจากครูบาอาจารย์หรือองค์มหาเทพให้พอเหมาะในตน และจะค่อยๆปรับให้สมดุลประสานเป็นหนึ่งเดียวกับท่านผู้นำหินศิลา “พราย” สมุทรร่วมในการเจริญสมาธิภาวนา
การนำหินนวลจันทร์ ศิลา “พราย” สมุทร ไว้ที่โต๊ะทำงาน ห้าง หรือร้านค้า
- จะช่วยลดแรงตึงเครียดที่เกิดจากงาน เพราะหินนวลจันทร์ ศิลา “พราย” สมุทรจะดูดซับพลังความเครียดที่แผ่ออกมามากเกินไป
การนำหินนวลจันทร์ ศิลา “พราย” สมุทร ไว้บนหัวเตียงนอนของสามีภรรยา
- จะช่วยปรับสมดุลธาตุของทั้งสองคน ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น อารมณ์เย็นลง ทั้งคู่มีสติมากขึ้น ลดปัญหาในครอบครัวฉับพลัน
การนำหินนวลจันทร์ ศิลา “พราย” สมุทร ไว้ในที่เก็บเงิน ห้องทำงานของฝ่ายบัญชี
- จะทำให้สถานะการเงินของคนในบ้าน หรือของบริษัทห้างร้าน มีเสถียรภาพมากขึ้น เพื่อความสมดุล ควรวางไว้หน้าผิ่วเซี๊ยะ
ลูกแก้วหินนวลจันทร์ หรือหินศิลา “พราย” สมุทรนี้ จะเรืองแสงในที่มืดมิด ช่วยกำจัดความชั่วร้ายทั้งหมด จะเพิ่มความสงบสุขและสุขภาพของคนในครอบครัว
ลักษณะลูกหินทรงกลม มีอิทธคุณตามศาสตร์ ที่สามารถกระจายพลังงานได้รอบทิศอย่างสม่ำเสมอ และดึงดูดอำนาจลึกลับทางร้ายทั่วรอบทิศทาง เป็นหินที่สร้างความสามัคคีกลมเกลียว ช่วยปกป้องคุ้มครองเจ้าของให้พ้นภัย และสรรพคุณการบำบัดโดยการกำไว้ที่มือ
ลูกแก้วหินนวลจันทร์ หรือเรียกอีกชื่อว่า "มุขราตรี" นี้ มีสีเขียวนิออน สามารถเรืองแสงได้ในที่มืด การกำเนิดคือการดันตัวของภูเขาไฟใต้ทะเล จึงเหมาะที่จะเรียกว่า ศิลา “พราย” สมุทร
หินชนิดนี้เป็นหินธรรมชาติที่เชื่อว่าเกิดมาจากการดันตัวของภูเขาไฟใต้ทะเล ทำไห้เกิดก้อนหินที่มีสารเรืองแสงธรรมชาติอยู่ในหิน เป็นสารชนิดเดียวกันกับที่ปลาเรืองแสงใช้ หินชนิดนี้มีลักษณะแปลกประหลาดที่สามารถดูดพลังงานไฟหรือแสงอาทิตย์ต่างๆได้ และเมื่อเก็บพลังส่วนนี้ไว้แล้วเมื่ออยู่ในที่มืดสามารถเรืองแสงเป็นสีเขียวได้ในสว่างในที่มืดได้นาน และเมื่อแสงหมดก็ต้องการรับพลังงานแล้วสามารถที่จะเรืองแสงได้ใหม่อีก หินเรื่องแสงชนิดนี้คาดว่าเป็นหินธรรมชาติที่เกิดจากการดันตัวของธรรมชาติทำไห้มีสารเรื่องแสงนี้เกิดขึ้น ในสมัยสงครามโลก เคยใช้หินชนิดนี้เป็นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ หินชนิดนี้สามารถเรืองแสงสีเขียวได้สวยงามมากในที่มืดโดยอาศัยพลังงานแสงที่ได้รับและเก็บไว้ และจะเรืองแสงเมื่ออยู่ในที่มืด เหมาะสำหรับแกะเป็นพระบูชาเมื่อตอนกลางวันเปิดห้องเพื่อให้แสงเข้ามาโดนองค์พระ เมื่อตกกลางคืนหินที่แกะเป็นพระเรื่องแสงนี้สามารถเรื่องแสงได้เองสวยงามราวกับมีพลังงานทั่วห้องพระ หรือเหมาะสำหรับการนั่งสมาธิใช้หินนี้เพื่อดูดพลังงานแสงมาฝึกการนั่งสมาธิได้ดีนับว่าเป็นหินที่แปลกหายาก
หมายเหตุ หินนี้สามารถเรืองแสงได้เมื่ออยู่ในที่มืดและเรืองแสงได้ทั่วทั้งห้องที่มืดสนิท สามารถเก็บพลังงานได้ มีพลังงานสูงเหมาะในสร้างพระ หรือลูกแก้วบูชา ยิ่งเจียรนัยเปิดผิวจะสามารถเรืองแสงได้สว่างมากขึ้นเท่าตัว ถ้าตั้งบูชาเป็นดวงแก้ว จะมีความร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญในหน้าที่การงาน และมีโชคลาภ เรื่องการค้าขาย

XXXปิดรายการXXX​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 091 2355479
ธาตุที่เหนือธาตุ ความเพ้อฝันสู่ความเป็นจริง : Suspended Domain
​

 

ดวงแก้วนาคา (เพชรพญานาค) วรรณะสีน้ำเงินพิเศษ
สัตตะนาคา นาคะราเช อะหังนาคา วิกรึงคะเร อะงะสะ อะหังนุกา ฯลฯ
อะงะสะ ประสิทธิลาโภฯลฯ
ภูเขาควาย สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นแหล่งนัดพบและเรียนวิชาของเหล่าผู้ทรงอภิญญาและวิทยาคมทั้งหลาย เฉกเช่นเดียวกับสำนักตักศิลา ชมพูทวีปในอดีต หรือประเทศอินเดียในปัจจุบัน ในปัจจุบันภูเขาควาย เป็นสถานที่ปรารถนาของนักปฏิบัติหลายๆ ท่านได้มีโอกาสไปฝึกที่แห่งนี้ นอกจากนี้มีผู้อัญเชิญเพชรพญานาคกล่าวว่า ภูเขาควายเป็นแหล่งที่พบเพชรพญานาคแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ภูเขาควายเป็นเทือกเขาใหญ่ ที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำโขงในประเทศลาวห่างจากตัวนครเวียงจันทร์ราว 7 กม.ตรงข้ามกับจังหวัดหนองคายของไทย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีถ้ำคูหาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนไปมาอย่างลึกลับ เงียบสงบและเป็นสถานที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่ต้องการบำเพ็ญเพียรฝึกจิตฝึกฤทธิ์ของเหล่าบรรดาพระธุดงค์ ตาปะขาว เหล่าฤาษี พระมุนี ชีไพรทั้งหลาย เพชรพญานาคจึงเป็นกายสิทธิ์จากสองดินแดนโดยมิต้องสงสัย ภูเขาควายเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของบรรดาจอมขมังเวทย์ทั้งหลายที่ต้องการเดินทาง เพื่อไปศึกษาคาถาวิชาอาคมเวทย์มนต์ต่างๆ เช่น หลวงปู่พรหมา วัดสวนหินผานางคอย หลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดม เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เคยธุดงค์ไปแสวงหาความรู้เล่าเรียนวิชาที่เทือกเขาแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก กลุ่มผู้แสวงหาวิชาไสยศาสตร์มักจะเรียกกันว่าครูฤาษีซึ่งฤาษีในที่นี้บางทีก็ไม่ใช่มนุษย์เดินดินเหมือนเช่นที่เราคิดหากแต่เป็นนิมิตอันเกิดจากจิตสมาธิของผู้ที่จะเรียนจะฝึกฝนจนสามารถเข้าไปสัมผัสจิตติดต่อกันผ่านทางการนั่งสมาธิผู้ที่ผ่านการร่ำเรียนการฝึกจิตบวกกับอำนาจวาสนาบารมี แต่หนหลังหรือจะเรียกว่าแล้วแต่บุญญาบารมีของใครจะมากจะน้อยกว่ากันใครที่ฝึกฝนสมาธิจิตเข้มข้นจนมีพลังจิตสูงก็จะได้เรียนวิชาผ่านครูฤาษีสำเร็จจนได้วิชามาช่วยเหลือผู้คนในด้านต่างๆ ได้มาก
การถ่ายทอดสรรพวิชาวิทยาคมของครูฤาษีจะมาปรากฏในรูปของจิตสมาธิปรากฏเป็นอักขระบนฝาผนังถ้ำ เพื่อให้ได้เรียนและจดจำตำราที่ปรากฏออกมาดังนั้นผู้ที่ฝึกจิตจนเข้มแข็งแล้วจะเข้าไปสู่เทือกเขาด้านในซึ่งจะมีถ้ำอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อไปบำเพ็ญเพียรฝึกสมาธิจิตฝึกฤทธิ์อยู่ในนั้น
ครูบาคำเขื่อนแก้วได้บอกไว้ถึงการเข้าไปศึกษาอาคมในภูเขาควาย อ้างอิงถึง ฤาษีเณรคำหนึ่งในอาจารย์สำนักฤาษีบังบดว่าได้เคยพบ และศึกษาวิชาจากฤาษีเณรคำในภูเขาควายนี้เอง ยังมีการกล่าวถึงว่ามีการพบซากพญานาคในถ้ำลึกของภูเขาควายและได้นำมาเก็บไว้บางส่วนในถ้ำคูหาสวรรค์สำนักของหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี และที่แห่งนี้ยังถือว่าเป็นจุดเริ่มเกิดปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค ที่ปรากฎขึ้นในทุกวันออกพรรษาอีกด้วย ภูเขาควายที่คนไทยรู้จักส่วนใหญ่จะรู้จักจากคำบอกเล่าจากพระธุดงธ์ที่จะเดินทางเข้าไปภูเขาควายเพื่อทดสอบกำลังใจและเพื่อการฝึกจิต ให้มีกำลังเข้มแข็งแก่กล้ามากยิ่งขึ้น พระธุดงธ์ที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดีก็คือหลวงปู่มั่น ซึ่งในสมัยท่านแล้วการเดินทางไปสถานที่แห่งนี้ลำบากเป็นอย่างยิ่ง และก็เป็นสถานที่เร้นลับที่น้อยคนนักจะเข้าไปถึงได้ ไม่ว่าภัยจากธรรมชาติ จากคน จากภูตผี วิญญาณ อสุรกาย ต่างๆ สถานที่นี้มีครบ มีให้ลองทุกอย่าง หลวงปู่มั่นท่านมาพักที่แห่งนี้ โดยพักที่ถ้ำพระ และโปรดวิญญาณต่างๆ ให้เป็นสัมมาทิฐิ
ตำนานการก่อเกิดเพชรนาคา (มณีใต้น้ำ)
ในสมัยพุทธกาลแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโป ซึ่งได้ลงมาตรัสรู้พระโพธิญาณเพื่อรื้อขนสัตว์ข้ามห้วงวัฏฏะสงสารในมหาภัทรกัปนี้ (ที่มีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้ 5 พระองค์ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ 4) ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนกึกก้องไปทั่วหมื่นโลกธาตุอนันตจักรวาล ด้วยพระบารมีแห่งพระโพธิญาณองค์มหาโพธิสัตว์ เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์บังเกิด “ฝนโบกพัท” ตกลงมา ใครใคร่ให้เปียกก็เปียก ใครใคร่ไม่เปียกก็จะไม่เปียก ด้วยพระบุญญาธิการแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโปนั่นเอง เมื่อได้ตกลงมาสู่พื้นพสุธา บางส่วนได้ประมวลตัวธาตุดึงดูดธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ จนบังเกิดก่อกำเนิดเป็น “เพชรเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง” ธาตุกายสิทธิ์ที่เหนือธาตุขึ้นมา มีรัศมีสว่างไสวเปล่งประกายรัศมีถึง 7 สี ส่องแสงสว่างครอบคลุมทั้งกลางวันและกลางคืนนับเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน รัศมีแห่งเพชรเจ็ดสี มณีเจ็ดแสงนี้ส่องสว่างจนถึงนครใต้บาดาล ดลบันดาลทำให้เกิดแสงสว่างเป็นรัศมี 7 ประการกลบรัศมีแสงสว่าง อัญมณีพลอย อันมีค่าต่างๆ ที่อยู่ในนครบาดาลทั้งหมด จนเกิดความแตกตื่นโกลาหลไปทั่วทั้งนครบาดาล จนเหล่านาคีนาคาผู้ที่มีฤทธิ์ ต่างหาสาเหตุต่างๆ นาๆ ถึงเหตุการณ์อันอัศจรรย์ใจนี้ จนทำให้กษัตริย์ผู้ครองเมืองนครบาดาลทั้ง 7 เมือง นามว่า “พญานาคราชสุนันโท” กษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ผู้ครองเมืองนครบาดาล ที่มีเหล่าบริวารนาคีนาคาผู้มีฤทธิ์อำนาจกำลังแห่งตนมากมายนับไม่ถ้วน ได้ใช้กำลังบุญฤทธิ์ของตนอธิษฐานขอให้รู้ถึงสาเหตุของปรากฏการณ์อันอัศจรรย์ใจในครั้งนี้ ด้วยเหตุของกำลังบุญฤทธิ์ที่ได้สร้างสะสมมานานในสมัยอดีดที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนา และได้บวชเรียนเป็นพระภิกษุสาวกแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตกาล ซึ่งได้ตั้งจิตอธิษฐาน “จะขอทะนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนา” ก่อนที่จะละสังขารตายลง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้รู้ล่วงหน้าถึงการก่อกำเนิดแห่ง เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง ด้วยอำนาจผลบุญบารมีแห่ง พระโพธิญาณขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และรู้หน้าที่ของตนเองที่ได้อธิษฐานเอาไว้ พญานาคราชสุนันโทผู้เป็นใหญ่ ได้แสดงฤิทธิ์อำนาจแทรกแผ่นดินขึ้นมาพร้อมกับเหล่าบริวารทั้งหลาย ขึ้นมาสู่พื้นปฐพี ดูต้นเหตุอัศจรรย์อันทำให้เกิดความอัศจรรย์ไปทั่วพี้นพิภพ-ใต้บาดาล ท่านพญานาคราชสุนันโทได้มีคำสั่งให้เหล่าบริวารทั้งหลายต่างแสดงฤทธิ์อานุภาพอัญเชิญไปเก็บตามถ้ำตามภูเขาหมวดหมู่ที่พวกตนได้สิงสถิตย์พักอาศัยอยู่ ส่วนหนึ่งก็ได้นำดินสีต่างๆมาพอกหุ้มเพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงเอาไว้ เพื่อให้รอดพ้นจากสายตาหรือน้ำมือจากพวกมนุษย์ใจคิดคดไม่อยู่ในศีลในธรรมหรือจากเหล่าเทพพรหมที่เป็นมิจฉาทิฐิ ให้เห็นเป็นเพียงก้อนดินก้อนหินธรรมดาเท่านั้น อีกกลุ่มหนึ่งได้นำไปไว้ในถ้ำลึกลับที่ยากจะเข้าไปได้ อัญเชิญประดิษฐ์สถานเอาไปไว้แอ่งน้ำต่างๆ ภายในแต่ละถ้ำที่เห็นสมควรพร้อมกับทั้งอธิษฐานบดบังรัศมีแห่งแก้วนี้เสีย จนรอเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไป
1. น้ำหนักของเพชรพญานาคนั้น จะมีน้ำหนักกว่า แก้ว หรือ พลาสติก หรือ แม้แต่ พลอยก็ตามที่มีขนาดเดียวกัน มีพลอยรัสเซียอยู่ตัวหนึ่ง ที่ค่อนข้างใกล้เคียงแต่ยังขาดองค์ประกอบนั่นคือ ความสว่างตรงกลางดวงแก้ว
2. เพชรพญานาคนั้น บริเวณตรงกลาง จะมีเหมือนดวงตาใสๆ อยู่ตรงกลาง หากวางบนฝ่ามือจะเห็น และมองทะลุ แต่พอยกขึ้นส่องกับไฟ กลับไม่สามารถมองทะลุผ่านไปได้ ก็เป็นเรื่องแปลกและอัศจจรย์ บางเม็ดมองเข้าไปโดยยกส่องกับไฟ ข้างในอาจจะเป็นเกล็ดๆ (เป็นอำนาจบารมีดวงธรรมของเหล่าพญานาค)
3. เพชรพญานาค จะมีความแข็ง สามารถกรีดกระจกเข้า โดยไม่เป็นอะไร เคยมีการลองโดยพยายามใช่เครื่องเจียรตัด เพชรพญานาคที่มีลูกเท่าไข่ห่าน ก็ไม่เข้า มีการใช้เครื่อง com เอาไว้ตรวจดูการหักเหของแสง มีหลายรายเห็นตรงกันว่า เป็นหินธรรมชาติจริง แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเป็นหินชนิดไหน
4. การสวดมนต์หมั่นภาวนา ผู้ที่มีธาตุกายสิทธิ์ชนิดนี้ไว้ในครอบครอง ให้จิตมีความเป็นกุศล และแผ่เมตตา ให้กับตัวเองและธาตุกายสิทธิ์
ผู้รู้ด้วยจิตกล่าวว่า เพชรแห่งพญานาคท่านสร้างขึ้นด้วยฤทธิ์หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเป็นเกล็ด หรือเลือดของท่าน เพชรพญานาคจะเป็นอะไรก็ได้ เพียงแต่มีการอัญเชิญให้พลังญาณบารมีพญานาคมาประสิทธิอยู่ในวัตถุธาตุนั้นๆ เป็นของทนสิทธิ์ มีฤทธิ์ในตัวเหมือน คด งากำจัดกำจาย กะลาตาเดียว หรือหินที่มีพลังงานในธรรมชาติสูงส่ง
สีน้ำเงิน เป็นสีเพชรพญานาค ที่มีอำนาจวาสนาบารมีสูงมีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์บารมี เป็นผู้นำผู้ปกครองมีทั้งเดชตบะบารมีและเป็นที่เคารพน่าเกรงขามมีขุมทรัพย์มหาศาลที่ซ้อนเร้นอยู่ ดังร่มโพธิ์ร่มไทรที่แผ่กิ่งก้านร่มเย็นเป็นที่พักพิงแก่สรรพสัตว์ มีพลังที่ป้องกันศัตรู ภัยอันตรายต่างๆทั้งแปดทิศ เนื่องจากเป็นดวงแก้วกลมกระจายได้รอบทิศทาง มีเทพพรหมเทวดาดูแลปกปักรักษาตลอดเวลา และยังเสริมสร้างบารมียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ปฏิบัติธรรม
ผู้ที่ได้ครอบครอง มักเป็นผู้มีบุญวาสนาบารมีมาในอดีตชาติที่สร้างสมมานาน เป็นผู้ที่มีคุณธรรมประจำใจ มักมีความเกี่ยวเนื่องในอดีตและภพชาติ เมื่อสัมผัสดวงแก้วนาคาสีน้ำเงิน จงทำจิตให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด คือการปล่อยวางจากกิเลสตัณหาอุปทาน

XXXบูชาแล้วXXX
​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 091 2355479
ธาตุที่เหนือธาตุ ความเพ้อฝันสู่ความเป็นจริง : www.arjariyatat.com​

 

เหล็กไหลมณีนาคราช (รังเพชรพญานาคธรรมชาติ) ต้นธาตุแท้
ด้วยธรรมชาติของรังแก้วแห่งนาคราช ที่มีดวงเจตสิกฝ่ายพญานาคดูแลและปกปักรักษา มีพลังงานสุดประมาณ เป็นพลังงานในธรรมชาติที่สร้างสรรค์ก่อกำเนิดธาตุที่เหนือธาตุ ไม่มีฝีมือมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงมีอิทธิคุณ-พลังงาน สะสมในตัวเองอยู่มากมาย ความบริสุทธิ์ในธาตุ เจตสิกดวงธรรม และความหลากหลายของแร่ธาตุลงตัว ที่สะสมมานานหลายร้อยปี และการหลบลี้ซ่อนตัวของกายสิทธิ์ประเภทแก้ว ที่มีอานุภาพในตัวมาก จากหินเป็นแก้วชั้นสูง ซ่อนไม่เปิดเผยตัวและปกปิดภายนอกให้ดูเป็นเพียงหินธรรมดา การที่จะสัมผัส และเข้าถึงต้องอาศัยจิตและความเข้าใจ การสื่อสาร เพราะหินประเภทนี้ เป็นธาตุที่เหนือธาตุ
รังเหล็กไหลมณีนาคราช ต้นกำเนิด แก้ว 7 สี มณี 7 แสง ที่บังบดเหล่าพญานาคเก็บรักษาเอาไว้ ต้องเคลื่อนย้ายหายตัวได้ งอกได้ ราวดั่งมีชีวิต เนื้ออ่อนของแก้วจะคล้ายตัวอ่อนประเภทเหล็กไหล แน่นอนที่สุด ยิ่งตัวอ่อนเท่าไร ยิ่งมีฤทธิ์มีอำนาจมากเท่านั้น เพราะภูมิธรรมที่มี ยังไม่ได้ถูกขัดเกลาหรือเก็บสะสม ย่อมแสดงฤทธิ์ทำลายปกป้องตัวเองจนถึงที่สุด ถ้าเนื้อในรังอ่อนเป็นสีแดงสดหรือเลือด ก็จะถูกเรียกเป็นรังเหล็กไหลเพลิงธรรมชาติ ซึ่งเหล็กไหลเพลิงแก้วมีอานุภาพสูงกว่า ภูมิธรรมสูงกว่า ประเภทเหล็ก
ตำนานการก่อเกิดเพชรนาคา (มณีใต้น้ำ)
ในสมัยพุทธกาลแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโป ซึ่งได้ลงมาตรัสรู้พระโพธิญาณเพื่อรื้อขนสัตว์ข้ามห้วงวัฏฏะสงสารในมหาภัทรกัปนี้ (ที่มีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้ 5 พระองค์ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ 4) ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนกึกก้องไปทั่วหมื่นโลกธาตุอนันตจักรวาล ด้วยพระบารมีแห่งพระโพธิญาณองค์มหาโพธิสัตว์ เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์บังเกิด “ฝนโบกพัท” ตกลงมา ใครใคร่ให้เปียกก็เปียก ใครใคร่ไม่เปียกก็จะไม่เปียก ด้วยพระบุญญาธิการแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโปนั่นเอง เมื่อได้ตกลงมาสู่พื้นพสุธา บางส่วนได้ประมวลตัวธาตุดึงดูดธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ จนบังเกิดก่อกำเนิดเป็น “เพชรเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง” ธาตุกายสิทธิ์ที่เหนือธาตุขึ้นมา มีรัศมีสว่างไสวเปล่งประกายรัศมีถึง 7 สี ส่องแสงสว่างครอบคลุมทั้งกลางวันและกลางคืนนับเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน รัศมีแห่งเพชรเจ็ดสี มณีเจ็ดแสงนี้ส่องสว่างจนถึงนครใต้บาดาล ดลบันดาลทำให้เกิดแสงสว่างเป็นรัศมี 7 ประการกลบรัศมีแสงสว่าง อัญมณีพลอย อันมีค่าต่างๆ ที่อยู่ในนครบาดาลทั้งหมด จนเกิดความแตกตื่นโกลาหลไปทั่วทั้งนครบาดาล จนเหล่านาคีนาคาผู้ที่มีฤทธิ์ ต่างหาสาเหตุต่างๆ นาๆ ถึงเหตุการณ์อันอัศจรรย์ใจนี้ จนทำให้กษัตริย์ผู้ครองเมืองนครบาดาลทั้ง 7 เมือง นามว่า “พญานาคราชสุนันโท” กษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ผู้ครองเมืองนครบาดาล ที่มีเหล่าบริวารนาคีนาคาผู้มีฤทธิ์อำนาจกำลังแห่งตนมากมายนับไม่ถ้วน ได้ใช้กำลังบุญฤทธิ์ของตนอธิษฐานขอให้รู้ถึงสาเหตุของปรากฏการณ์อันอัศจรรย์ใจในครั้งนี้ ด้วยเหตุของกำลังบุญฤทธิ์ที่ได้สร้างสะสมมานานในสมัยอดีดที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนา และได้บวชเรียนเป็นพระภิกษุสาวกแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตกาล ซึ่งได้ตั้งจิตอธิษฐาน “จะขอทะนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนา” ก่อนที่จะละสังขารตายลง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้รู้ล่วงหน้าถึงการก่อกำเนิดแห่ง เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง ด้วยอำนาจผลบุญบารมีแห่ง พระโพธิญาณขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และรู้หน้าที่ของตนเองที่ได้อธิษฐานเอาไว้ พญานาคราชสุนันโทผู้เป็นใหญ่ ได้แสดงฤิทธิ์อำนาจแทรกแผ่นดินขึ้นมาพร้อมกับเหล่าบริวารทั้งหลาย ขึ้นมาสู่พื้นปฐพี ดูต้นเหตุอัศจรรย์อันทำให้เกิดความอัศจรรย์ไปทั่วพี้นพิภพ-ใต้บาดาล ท่านพญานาคราชสุนันโทได้มีคำสั่งให้เหล่าบริวารทั้งหลายต่างแสดงฤทธิ์อานุภาพอัญเชิญไปเก็บตามถ้ำตามภูเขาหมวดหมู่ที่พวกตนได้สิงสถิตย์พักอาศัยอยู่ ส่วนหนึ่งก็ได้นำดินสีต่างๆมาพอกหุ้มเพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงเอาไว้ เพื่อให้รอดพ้นจากสายตาหรือน้ำมือจากพวกมนุษย์ใจคิดคดไม่อยู่ในศีลในธรรมหรือจากเหล่าเทพพรหมที่เป็นมิจฉาทิฐิ ให้เห็นเป็นเพียงก้อนดินก้อนหินธรรมดาเท่านั้น อีกกลุ่มหนึ่งได้นำไปไว้ในถ้ำลึกลับที่ยากจะเข้าไปได้ อัญเชิญประดิษฐ์สถานเอาไปไว้แอ่งน้ำต่างๆ ภายในแต่ละถ้ำที่เห็นสมควรพร้อมกับทั้งอธิษฐานบดบังรัศมีแห่งแก้วนี้เสีย จนรอเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไป
สีชา (สีพิเศษ) เป็นสีที่มีพลังอานุภาพสามารถที่จะยับยั้งอารมณ์ความคิดที่ใช้แต่อารมณ์ ทำให้สติปัญญาความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ถูกที่ควรที่ตามไม่ทัน จนกระทำพลาดพลั้งผิดพลาดไปจนเกิดความเสียหาย เหมาะกับผู้ที่ขาดแหล่งพึ่งพิงทางจิตใจหรือผู้ที่มีจิตใจเลื่อนลอยเศร้าเสียใจผิดหวังท้อแท้ และมีความพิเศษก็คือจะมีอานุภาพทางมีโชคมีลาภอย่างที่คาดไม่ถึง ( เป็นสีที่หาพบได้ยาก ) โดยเฉพาะรังเหล็กไหลมณีนาคราชต้นธาตุเพชรพญานาค บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล ชิ้นธาตุครู ของเพชรพญานาค

(((สุดยอดธาตุที่เหนือธาตุ แห่งแก้ว หายากที่สุด)))

XXXบูชาแล้วXXX​

​

 

ขอจอง ดวงแก้วนาคา (เพชรพญานาค) วรรณะสีน้ำเงินพิเศษ #4739
ขอบคุณครับ

 

วันที่ 5/8/57 เวลา 11:23 น.โอนเงินเข้า ธ.ไทยพาณิชย์เป็นจำนวนเงิน 1,200 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ที่อยู่จัดส่งแจ้งทาง PM

ขอบคุณครับ

 

รับทราบแจ้งจองและโอนเรียบร้อย
ขอบคุณมากครับ(k)

 

ล็อกเก็ตพ่อปู่นาคราชศรีสุทโธวิสุทธิเทวา อุดมวลสารบาดาล
หลวงปู่คะนน พระเกจิเขมรแท้ แต่ท่านสืบสายวิชาจากหลวงปู่สำเร็จลุน จากประเทศลาวชนิดเต็มสูตร ท่านเป็นสหธรรมมิกเคยปลุกเสกกุมารทองทุกรุ่นกับหลวงปู่คง และหลวงปู่มนูญ พระเกจิเขมรทั้ง 3 ท่าน มีเจตนาบริสุทธิ์ในการจัดสร้างวัตถุมงคล - เครื่องรางของขลัง ตำรับเขมร และมีอุดมการณ์ที่เด็ดเดี่ยวในการสร้างวัตถุมงคล เพื่อทิ้งวิชาไม่ให้หายสาปสูญ เช่นเดียวกัน ไม่เคยหวังเกี่ยวข้องในเรื่องของพุทธพาณิชย์ จึงเป็นพระเครื่องที่น่าเก็บบูชา สร้างจำนาวนน้อย เน้นพุทธคุณ และมากด้วยพุทธศิลป์และเนื้อหามวลสาร ที่หายาก ทำเอง รู้จริง มีพุทธคุณเป็นที่ประจักษ์มากสำหรับลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธาทั้งในและต่างประเทศ
ล็อกเก็ตปู่นาคราชศรีสุทโธวิสุทธิเทวา บรรจุมณีนาคโชติ หรือมณีใต้น้ำ (เพชรพญานาค) อัญเชิญ เพิ่มอิทธิบารมีธาตุกายสิทธิ์ วรรณะสีแดงเข้ม สีแห่งฤทธิ์อำนาจของเหล่าพญานาคราช กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ความคิดฉับไว เฉียบคม และดุดัน เป็นที่เคารพน่าเกรงขาม บรรจุแหวนนาคบาศเนื้อโลหะชนวนศักดิ์สิทธิ์ 108 ยันต์ อานุภาพกินครบรอบครอบจักรวาล ชนะทุกทิศ อุดผงมวลสารเมืองบาดาล เช่น ผงมณีนพรัตน์ใต้บาดาล,ผงแก้วเกล็ดนาคาในถ้ำ,ผงเหล็กไหลนาคราช ,ผงหงอนพญานาคแม่น้ำโขง,ผงหินพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า,ผงหินใต้แม่น้ำโขง,ผงปัฐวีธาตุแม่น้ำโขง,ผงเหล็กไหลบาดาล (อกธรณี),ผงดินโบสถ์-ผงดินไคลเสมาทั้ง 9,ผงศิลาธิคุณ,ดินใต้แม่น้ำโขง,ผงแร่ทรายเงิน-ทรายทอง ฯลฯ
พุทธคุณเด่นด้าน เมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ ค้าขาย อำนาจวิเศษลี้ลับบันดาล

XXXปิดรายการXXX
​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 091 2355479
ธาตุที่เหนือธาตุ ความเพ้อฝันสู่ความเป็นจริง : www.arjariyatat.com​

 

เขี้ยวหนุมาน (เขี้ยวแก้วหนุมาน) วรรณะใสบริสุทธิ์
“เขี้ยวหนุมาน”เป็นหินตระกูลเดียวกันกับเพชร แต่มีความแข็งน้อยกว่าเพชร มีผู้เชื่อว่าเขี้ยวหนุมาณนี้ ถ้าทิ้งไว้ตามสภาพเดิมนานต่อไปอีกประมาณ 1,000 ปี จะกลาย เป็นเพชรจริง ๆ ได้
หินเขี้ยวหนุมาน เป็นรัตนชาติที่มีพลังอานุภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์อยู่ในตัวเอง เป็นพลังที่สั่งสมมาเป็นเวลาช้านาน และเป็นพลังที่ดี มีพุทธคุณในตัวเองทั้งที่ยังไม่ได้ปลุกเสก เป็นหินแห่งโชคลาภ เมตตามหานิยมและช่วยคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ ทำให้เกิดความแคล้วคลาด มหาอุด ป้องกันคุณไสย คุณผี คุณคน ป้องกันภยันตราย ป้องกันสิ่งชั่วร้ายอัปมงคล ช่วยเสริมส่งวาสนาบารมี นำโชคลาภมาสู่ผู้ครอบครอง คนสมัยก่อนนิยมนำหินเขี้ยวหนุมานพกติดตัวไว้ เพื่อกันคุณไสย เขี้ยวงาต่างๆ สามารถป้องกันปัญหา และขจัดปัดเป่าสิ่งเลวร้ายให้ออกจากร่างกาย อาคารบ้านเรือน และสถานที่ทำงานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถปรับสมดุลตามธรรมชาติของร่างกายได้ พลังที่เปล่งออกมาเป็นพลังที่มีแต่ความเยือกเย็น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าจากธรรมชาติอย่างแท้จริง รวมทั้งสามารถรับและดักเก็บพลังได้มาก เมื่อเทียบกับวัตถุอื่นๆ เช่น ทองคำ ตะกั่ว เป็นต้น นอกจากนี้ยังเชื่อกันอีกว่า ใครมีหินเขี้ยวหนุมานจะเป็นการเพิ่มพูนบารมีอำนาจวาสนา ให้กับตัวเอง และหากจะนำมาใช้ในทางปฏิบัติธรรม ก็จะช่วยทำให้จิตเป็นสมาธิได้เร็วขึ้น

(((วรรณะสีใส ไร้มลทิน หายาก)))

XXXปิดรายการXXX
​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 091 2355479​

 

ดวงแก้วนาคา (เพชรพญานาค) วรรณะสีดำพิเศษ
สัตตะนาคา นาคะราเช อะหังนาคา วิกรึงคะเร อะงะสะ อะหังนุกา ฯลฯ
อะงะสะ ประสิทธิลาโภฯลฯ
ภูเขาควาย สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นแหล่งนัดพบและเรียนวิชาของเหล่าผู้ทรงอภิญญาและวิทยาคมทั้งหลาย เฉกเช่นเดียวกับสำนักตักศิลา ชมพูทวีปในอดีต หรือประเทศอินเดียในปัจจุบัน ในปัจจุบันภูเขาควาย เป็นสถานที่ปรารถนาของนักปฏิบัติหลายๆ ท่านได้มีโอกาสไปฝึกที่แห่งนี้ นอกจากนี้มีผู้อัญเชิญเพชรพญานาคกล่าวว่า ภูเขาควายเป็นแหล่งที่พบเพชรพญานาคแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ภูเขาควายเป็นเทือกเขาใหญ่ ที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำโขงในประเทศลาวห่างจากตัวนครเวียงจันทร์ราว 7 กม.ตรงข้ามกับจังหวัดหนองคายของไทย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีถ้ำคูหาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนไปมาอย่างลึกลับ เงียบสงบและเป็นสถานที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่ต้องการบำเพ็ญเพียรฝึกจิตฝึกฤทธิ์ของเหล่าบรรดาพระธุดงค์ ตาปะขาว เหล่าฤาษี พระมุนี ชีไพรทั้งหลาย เพชรพญานาคจึงเป็นกายสิทธิ์จากสองดินแดนโดยมิต้องสงสัย ภูเขาควายเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของบรรดาจอมขมังเวทย์ทั้งหลายที่ต้องการเดินทาง เพื่อไปศึกษาคาถาวิชาอาคมเวทย์มนต์ต่างๆ เช่น หลวงปู่พรหมา วัดสวนหินผานางคอย หลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดม เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เคยธุดงค์ไปแสวงหาความรู้เล่าเรียนวิชาที่เทือกเขาแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก กลุ่มผู้แสวงหาวิชาไสยศาสตร์มักจะเรียกกันว่าครูฤาษีซึ่งฤาษีในที่นี้บางทีก็ไม่ใช่มนุษย์เดินดินเหมือนเช่นที่เราคิดหากแต่เป็นนิมิตอันเกิดจากจิตสมาธิของผู้ที่จะเรียนจะฝึกฝนจนสามารถเข้าไปสัมผัสจิตติดต่อกันผ่านทางการนั่งสมาธิผู้ที่ผ่านการร่ำเรียนการฝึกจิตบวกกับอำนาจวาสนาบารมี แต่หนหลังหรือจะเรียกว่าแล้วแต่บุญญาบารมีของใครจะมากจะน้อยกว่ากันใครที่ฝึกฝนสมาธิจิตเข้มข้นจนมีพลังจิตสูงก็จะได้เรียนวิชาผ่านครูฤาษีสำเร็จจนได้วิชามาช่วยเหลือผู้คนในด้านต่างๆ ได้มาก
การถ่ายทอดสรรพวิชาวิทยาคมของครูฤาษีจะมาปรากฏในรูปของจิตสมาธิปรากฏเป็นอักขระบนฝาผนังถ้ำ เพื่อให้ได้เรียนและจดจำตำราที่ปรากฏออกมาดังนั้นผู้ที่ฝึกจิตจนเข้มแข็งแล้วจะเข้าไปสู่เทือกเขาด้านในซึ่งจะมีถ้ำอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อไปบำเพ็ญเพียรฝึกสมาธิจิตฝึกฤทธิ์อยู่ในนั้น
ครูบาคำเขื่อนแก้วได้บอกไว้ถึงการเข้าไปศึกษาอาคมในภูเขาควาย อ้างอิงถึง ฤาษีเณรคำหนึ่งในอาจารย์สำนักฤาษีบังบดว่าได้เคยพบ และศึกษาวิชาจากฤาษีเณรคำในภูเขาควายนี้เอง ยังมีการกล่าวถึงว่ามีการพบซากพญานาคในถ้ำลึกของภูเขาควายและได้นำมาเก็บไว้บางส่วนในถ้ำคูหาสวรรค์สำนักของหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี และที่แห่งนี้ยังถือว่าเป็นจุดเริ่มเกิดปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค ที่ปรากฎขึ้นในทุกวันออกพรรษาอีกด้วย ภูเขาควายที่คนไทยรู้จักส่วนใหญ่จะรู้จักจากคำบอกเล่าจากพระธุดงธ์ที่จะเดินทางเข้าไปภูเขาควายเพื่อทดสอบกำลังใจและเพื่อการฝึกจิต ให้มีกำลังเข้มแข็งแก่กล้ามากยิ่งขึ้น พระธุดงธ์ที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดีก็คือหลวงปู่มั่น ซึ่งในสมัยท่านแล้วการเดินทางไปสถานที่แห่งนี้ลำบากเป็นอย่างยิ่ง และก็เป็นสถานที่เร้นลับที่น้อยคนนักจะเข้าไปถึงได้ ไม่ว่าภัยจากธรรมชาติ จากคน จากภูตผี วิญญาณ อสุรกาย ต่างๆ สถานที่นี้มีครบ มีให้ลองทุกอย่าง หลวงปู่มั่นท่านมาพักที่แห่งนี้ โดยพักที่ถ้ำพระ และโปรดวิญญาณต่างๆ ให้เป็นสัมมาทิฐิ
ตำนานการก่อเกิดเพชรนาคา (มณีใต้น้ำ)
ในสมัยพุทธกาลแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโป ซึ่งได้ลงมาตรัสรู้พระโพธิญาณเพื่อรื้อขนสัตว์ข้ามห้วงวัฏฏะสงสารในมหาภัทรกัปนี้ (ที่มีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้ 5 พระองค์ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ 4) ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนกึกก้องไปทั่วหมื่นโลกธาตุอนันตจักรวาล ด้วยพระบารมีแห่งพระโพธิญาณองค์มหาโพธิสัตว์ เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์บังเกิด “ฝนโบกพัท” ตกลงมา ใครใคร่ให้เปียกก็เปียก ใครใคร่ไม่เปียกก็จะไม่เปียก ด้วยพระบุญญาธิการแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโปนั่นเอง เมื่อได้ตกลงมาสู่พื้นพสุธา บางส่วนได้ประมวลตัวธาตุดึงดูดธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ จนบังเกิดก่อกำเนิดเป็น “เพชรเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง” ธาตุกายสิทธิ์ที่เหนือธาตุขึ้นมา มีรัศมีสว่างไสวเปล่งประกายรัศมีถึง 7 สี ส่องแสงสว่างครอบคลุมทั้งกลางวันและกลางคืนนับเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน รัศมีแห่งเพชรเจ็ดสี มณีเจ็ดแสงนี้ส่องสว่างจนถึงนครใต้บาดาล ดลบันดาลทำให้เกิดแสงสว่างเป็นรัศมี 7 ประการกลบรัศมีแสงสว่าง อัญมณีพลอย อันมีค่าต่างๆ ที่อยู่ในนครบาดาลทั้งหมด จนเกิดความแตกตื่นโกลาหลไปทั่วทั้งนครบาดาล จนเหล่านาคีนาคาผู้ที่มีฤทธิ์ ต่างหาสาเหตุต่างๆ นาๆ ถึงเหตุการณ์อันอัศจรรย์ใจนี้ จนทำให้กษัตริย์ผู้ครองเมืองนครบาดาลทั้ง 7 เมือง นามว่า “พญานาคราชสุนันโท” กษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ผู้ครองเมืองนครบาดาล ที่มีเหล่าบริวารนาคีนาคาผู้มีฤทธิ์อำนาจกำลังแห่งตนมากมายนับไม่ถ้วน ได้ใช้กำลังบุญฤทธิ์ของตนอธิษฐานขอให้รู้ถึงสาเหตุของปรากฏการณ์อันอัศจรรย์ใจในครั้งนี้ ด้วยเหตุของกำลังบุญฤทธิ์ที่ได้สร้างสะสมมานานในสมัยอดีดที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนา และได้บวชเรียนเป็นพระภิกษุสาวกแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตกาล ซึ่งได้ตั้งจิตอธิษฐาน “จะขอทะนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนา” ก่อนที่จะละสังขารตายลง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้รู้ล่วงหน้าถึงการก่อกำเนิดแห่ง เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง ด้วยอำนาจผลบุญบารมีแห่ง พระโพธิญาณขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และรู้หน้าที่ของตนเองที่ได้อธิษฐานเอาไว้ พญานาคราชสุนันโทผู้เป็นใหญ่ ได้แสดงฤิทธิ์อำนาจแทรกแผ่นดินขึ้นมาพร้อมกับเหล่าบริวารทั้งหลาย ขึ้นมาสู่พื้นปฐพี ดูต้นเหตุอัศจรรย์อันทำให้เกิดความอัศจรรย์ไปทั่วพี้นพิภพ-ใต้บาดาล ท่านพญานาคราชสุนันโทได้มีคำสั่งให้เหล่าบริวารทั้งหลายต่างแสดงฤทธิ์อานุภาพอัญเชิญไปเก็บตามถ้ำตามภูเขาหมวดหมู่ที่พวกตนได้สิงสถิตย์พักอาศัยอยู่ ส่วนหนึ่งก็ได้นำดินสีต่างๆมาพอกหุ้มเพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงเอาไว้ เพื่อให้รอดพ้นจากสายตาหรือน้ำมือจากพวกมนุษย์ใจคิดคดไม่อยู่ในศีลในธรรมหรือจากเหล่าเทพพรหมที่เป็นมิจฉาทิฐิ ให้เห็นเป็นเพียงก้อนดินก้อนหินธรรมดาเท่านั้น อีกกลุ่มหนึ่งได้นำไปไว้ในถ้ำลึกลับที่ยากจะเข้าไปได้ อัญเชิญประดิษฐ์สถานเอาไปไว้แอ่งน้ำต่างๆ ภายในแต่ละถ้ำที่เห็นสมควรพร้อมกับทั้งอธิษฐานบดบังรัศมีแห่งแก้วนี้เสีย จนรอเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไป
การสวดมนต์หมั่นภาวนา ผู้ที่มีธาตุกายสิทธิ์ชนิดนี้ไว้ในครอบครอง ให้จิตมีความเป็นกุศล และแผ่เมตตา ให้กับตัวเองและธาตุกายสิทธิ์
ผู้รู้ด้วยจิตกล่าวว่า เพชรแห่งพญานาคท่านสร้างขึ้นด้วยฤทธิ์หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเป็นเกล็ด หรือเลือดของท่าน เพชรพญานาคจะเป็นอะไรก็ได้ เพียงแต่มีการอัญเชิญให้พลังญาณบารมีพญานาคมาประสิทธิอยู่ในวัตถุธาตุนั้นๆ เป็นของทนสิทธิ์ มีฤทธิ์ในตัวเหมือน คด งากำจัดกำจาย กะลาตาเดียว หรือหินที่มีพลังงานในธรรมชาติสูงส่ง
สีดำ จัดอยู่ในสีพิเศษ หายาก เช่นเดียวกับสีชา เป็น สีที่มีพลังอานุภาพในด้านจิต มีพลังงานทั้งบวกและลบ ลึกลับ แก้วชนิดนี้เหมาะกับบุคคลที่ชอบสมาธิ และการอยากรู้อยากเห็น สื่อสาร กับบังบดลับแล เป็นสีขจัดคุณไสย ร้ายกลับดี ดึงดูดพลังงานทั้งลบและบวก คือดูดพลังงานดีเข้ามา และดันพลังงานลบออกไปรวมทั้งดวงชะตาของผู้บูชาด้วย เนื่องจากหินแก้วสีดำจะมีละอองเหล็กไหลผสมอยู่มาก อานุภาพจึงเด่นในหลายๆด้าน รวมทั้งโชคลาภ

XXXบูชาแล้วXXX​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 091 2355479
ธาตุที่เหนือธาตุ ความเพ้อฝันสู่ความเป็นจริง : www.arjariyatat.com​

 

ขอจองรายการนี้ครับ ^^

 

รับทราบแจ้งจองครับ
ขอบคุณครับ

 

แจ้งการจัดส่งพัสดุ EMS วันที่ 07/08/14 เวลา 10:20 น.

คุณ สร้างบารมี EL 0662 3501 5 TH

คุณ คนชานเมือง EL 0662 3506 3 TH

คุณ s3057780 EL 0662 3502 9 TH

คุณ eiab234 EL 0662 3509 4 TH

คุณ เพชร2545 EL 0662 3500 1 TH

คุณ น้ำเกลี้ยง RR 0192 0959 0 TH

ขอบคุณครับ

 

ศิลา "พราย" สมุทร ทรงกลมจัมโบ้ ขนาด 2.5 นิ้ว
หินนวลจันทร์ หรือ ศิลา “พราย” สมุทร สามารถเรืองแสงได้ในที่มืด เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ในการทำสมาธิ ปฏิบัติกรรมฐาน การนำหินนวลจันทร์ไว้ในห้องพระหรือห้องกรรมฐาน
- จะทำให้เข้าสมาธิง่ายเพราะจะดูดซับพลังส่วนเกินจากครูบาอาจารย์หรือองค์มหาเทพให้พอเหมาะในตน และจะค่อยๆปรับให้สมดุลประสานเป็นหนึ่งเดียวกับท่านผู้นำหินศิลา “พราย” สมุทรร่วมในการเจริญสมาธิภาวนา
การนำหินนวลจันทร์ ศิลา “พราย” สมุทร ไว้ที่โต๊ะทำงาน ห้าง หรือร้านค้า
- จะช่วยลดแรงตึงเครียดที่เกิดจากงาน เพราะหินนวลจันทร์ ศิลา “พราย” สมุทรจะดูดซับพลังความเครียดที่แผ่ออกมามากเกินไป
การนำหินนวลจันทร์ ศิลา “พราย” สมุทร ไว้บนหัวเตียงนอนของสามีภรรยา
- จะช่วยปรับสมดุลธาตุของทั้งสองคน ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น อารมณ์เย็นลง ทั้งคู่มีสติมากขึ้น ลดปัญหาในครอบครัวฉับพลัน
การนำหินนวลจันทร์ ศิลา “พราย” สมุทร ไว้ในที่เก็บเงิน ห้องทำงานของฝ่ายบัญชี
- จะทำให้สถานะการเงินของคนในบ้าน หรือของบริษัทห้างร้าน มีเสถียรภาพมากขึ้น เพื่อความสมดุล ควรวางไว้หน้าผิ่วเซี๊ยะ
ลูกแก้วหินนวลจันทร์ หรือหินศิลา “พราย” สมุทรนี้ จะเรืองแสงในที่มืดมิด ช่วยกำจัดความชั่วร้ายทั้งหมด จะเพิ่มความสงบสุขและสุขภาพของคนในครอบครัว
ลักษณะลูกหินทรงกลม มีอิทธคุณตามศาสตร์ ที่สามารถกระจายพลังงานได้รอบทิศอย่างสม่ำเสมอ และดึงดูดอำนาจลึกลับทางร้ายทั่วรอบทิศทาง เป็นหินที่สร้างความสามัคคีกลมเกลียว ช่วยปกป้องคุ้มครองเจ้าของให้พ้นภัย และสรรพคุณการบำบัดโดยการกำไว้ที่มือ
ลูกแก้วหินนวลจันทร์ หรือเรียกอีกชื่อว่า "มุขราตรี" นี้ มีสีเขียวนิออน สามารถเรืองแสงได้ในที่มืด การกำเนิดคือการดันตัวของภูเขาไฟใต้ทะเล จึงเหมาะที่จะเรียกว่า ศิลา “พราย” สมุทร
หินชนิดนี้เป็นหินธรรมชาติที่เชื่อว่าเกิดมาจากการดันตัวของภูเขาไฟใต้ทะเล ทำไห้เกิดก้อนหินที่มีสารเรืองแสงธรรมชาติอยู่ในหิน เป็นสารชนิดเดียวกันกับที่ปลาเรืองแสงใช้ หินชนิดนี้มีลักษณะแปลกประหลาดที่สามารถดูดพลังงานไฟหรือแสงอาทิตย์ต่างๆได้ และเมื่อเก็บพลังส่วนนี้ไว้แล้วเมื่ออยู่ในที่มืดสามารถเรืองแสงเป็นสีเขียวได้ในสว่างในที่มืดได้นาน และเมื่อแสงหมดก็ต้องการรับพลังงานแล้วสามารถที่จะเรืองแสงได้ใหม่อีก หินเรื่องแสงชนิดนี้คาดว่าเป็นหินธรรมชาติที่เกิดจากการดันตัวของธรรมชาติทำไห้มีสารเรื่องแสงนี้เกิดขึ้น ในสมัยสงครามโลก เคยใช้หินชนิดนี้เป็นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ หินชนิดนี้สามารถเรืองแสงสีเขียวได้สวยงามมากในที่มืดโดยอาศัยพลังงานแสงที่ได้รับและเก็บไว้ และจะเรืองแสงเมื่ออยู่ในที่มืด เหมาะสำหรับแกะเป็นพระบูชาเมื่อตอนกลางวันเปิดห้องเพื่อให้แสงเข้ามาโดนองค์พระ เมื่อตกกลางคืนหินที่แกะเป็นพระเรื่องแสงนี้สามารถเรื่องแสงได้เองสวยงามราวกับมีพลังงานทั่วห้องพระ หรือเหมาะสำหรับการนั่งสมาธิใช้หินนี้เพื่อดูดพลังงานแสงมาฝึกการนั่งสมาธิได้ดีนับว่าเป็นหินที่แปลกหายาก
หมายเหตุ หินนี้สามารถเรืองแสงได้เมื่ออยู่ในที่มืดและเรืองแสงได้ทั่วทั้งห้องที่มืดสนิท สามารถเก็บพลังงานได้ มีพลังงานสูงเหมาะในสร้างพระ หรือลูกแก้วบูชา ยิ่งเจียรนัยเปิดผิวจะสามารถเรืองแสงได้สว่างมากขึ้นเท่าตัว ถ้าตั้งบูชาเป็นดวงแก้ว จะมีความร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญในหน้าที่การงาน และมีโชคลาภ เรื่องการค้าขาย

XXXบูชาแล้วXXX​

โอนบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
สาขาเทสโก้โลตัสจันทบุรี
หมายเลขบัญชี 403-454907-0
ชื่อบัญชี นายอุกกฤษฏ์ แก้วอำนวย
โทร : 091 2355479
ธาตุที่เหนือธาตุ ความเพ้อฝันสู่ความเป็นจริง : www.arjariyatat.com​

 

ศิลา "พราย" สมุทร ทรงกลมจัมโบ้ ขนาด 2.5 นิ้ว
จองครับ
ขอยอดด้วย

 

รับทราบแจ้งจอง
ขอบคุณครับ

 

โอนค่าบูชาเรียบร้อยแล้วครับ ^^
รายละเอียดตาม PM นะคร้บ

 

รับทราบแจ้งโอน
ขอบคุณมากครับ(k)